หลังจากได้ปล่อยทีเซอร์เตรียมคัมแบ็คในเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 อีกครั้งของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ไปก่อนหน้า
ล่าสุด สรยุทธ ได้โพสต์ความในใจผ่านเฟซบุ๊กโดยบอกเล่าความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำจนกระทั่งได้รับการพักโทษและมีโอกาสกลับมานั่งอ่านข่าวอีกครั้งว่า...
วันที่ผมถูกจำคุก รับโทษตามคำพิพากษา
ผมนึกถึงประโยค อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้
พูดง่าย แต่ทำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะทำใจ
ผมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยมันก็จบเสียที
วันหนึ่งผมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ในคุก ผมพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ทั้งกับเรือนจำ ทั้งกับเพื่อน ๆ ผู้ต้องขัง
แม้กระทั่งกับตัวผมเองเพื่อให้เวลามันผ่านไปได้
ในคุกไม่เคยมีความสุข
ขอแค่ทุกข์พอประมาณก็ดีถมไปแล้ว
ผมได้รับมอบหมายให้ทำ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ”
ให้ความรู้เรื่องโควิด-19 เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่เหตุวุ่นวาย
ผมเสนอทำรายการ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ”
เพราะผมอยากเห็นเพื่อน ๆ มีกำลังใจ รอวันเวลาออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก
แน่นอน ผมต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยให้อดทน
ก้มหน้ารับโทษตามคำพิพากษา
กระทั่งผมได้รับการพักการลงโทษตามกฎเกณฑ์
ได้ออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกอีกครั้ง
ผมดีใจที่แฟนข่าวไม่ลืมกัน
โลกเปลี่ยนไปมาก สังคมข่าวสารก็เปลี่ยนไปเยอะ
งานข่าวคืออย่างเดียวที่ผมทำเป็นและการทำงานคือชีวิตของผม
ผมต้องหยุดใช้ชีวิตของผมมานาน ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น
ทุกข์ที่สุดจริง ๆ ครับ
วันที่ผมได้รับการพักการลงโทษ ผมได้รู้ในสิ่งที่ผมเองคาดไม่ถึงจากช่องทางการสื่อสารในโลกยุคใหม่
ทุกคนแสดงออกได้ บอกความรู้สึกได้
ผมได้รู้ว่ามีแฟนข่าวรอคอยการกลับมา
กลับมาทำหน้าที่หน้าจออีกครั้ง
หลายคนรับผมเป็นคนในครอบครัวจริง ๆ
หลายคนบอกว่าดูผมตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเรียนจบ ทำงานทำการ มีลูกมีเต้า
คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมากมายที่ลูก ๆ หลาน ๆ ออกมาบอกว่าท่านรออยู่นะ
วันแรกที่ผมเดินเข้าคุก ผมไม่ได้ร้องไห้
แต่วันแรกที่ผมได้พักการลงโทษ ผมกลับบ้านไปร้องไห้
ผมได้อ่านข้อความต่าง ๆ เสมือนได้พบครอบครัวใหญ่ของผม
เสมือนญาติ ๆ สนิทของผม พากันมารับผมออกจากเรือนจำ
หลายคนบอกน้ำตาไหล และผมก็น้ำตาไหล
พวกเขาน่าจะอยากให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ กลับไปทำหน้าที่พูดคุยกับพวกเขาทุกเช้า
พวกเขาอยากให้ผมกลับไปทำรายการ เป็นคนมานั่งบอกเล่าข่าวให้ฟังทุก ๆ วัน
บางวันฟังแล้วเขาอาจจะชอบใจ บางวันอาจจะไม่ชอบใจ เหมือนที่เคยเป็นมา
เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลาน เป็นลุงเป็นอา ยามที่เขาทำกิจวัตรตอนเช้า
หรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุก
ไม่มีใครรู้ว่ารายการที่ผมกลับมาทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่?
โลกเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป
แต่ผมเชื่อของผมว่า ครอบครัวข่าวของผม แฟนข่าวของผม ยังอยากพบอยากเจอกัน
ความผูกพันที่เกิดขึ้นจากความจริงใจต่อกันมายาวนาน
วันนี้ ผมอยากจะกลับมาทักทาย พูดคุย เล่าเรื่อง
อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างที่เคยเป็นมา
ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ
ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3980372595383814&id=1263483477072753