Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. 'อย่าโอน-กดแอปฯ-ลิงก์' หลอกลวง แนะตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า ผิดด้วย!!

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. รู้ทันโซเชียล 'อย่าโอนไว-อย่าหลงเชื่อกดแอปฯ-กดลิงค์' หลอกลวง แนะ ตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า มีความผิดด้วย แย้ม!! เร่งระบบดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ อำนวยความสะดวก งานบริการ 

(21 ม.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในรายการ 'คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี' ทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยและเฟซบุ๊ก Radio Thailand Live ถึงประเด็นเรื่องบัญชีม้า อาชญากรรมออนไลน์ สมาร์ตซิตี้ และฟรี Wi-Fi ว่า...

ประเทศไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการวางโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ต วันนี้กว่า 80% สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสื่อสารออนไลน์ เช่น การใช้โมบายแบงกิ้ง พร้อมเพย์ เพื่อให้โอนเงินง่าย แต่ก็ทำให้โดนหลอกจำนวนมาก 

โดยปีที่ผ่านมาเราเปิดระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีการแจ้งเรื่องว่าแสนคดี เฉลี่ยหมื่นคดีต่อเดือน ทั้งหลอกลงทุน คอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ ซื้อขายออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขโดยมีตำรวจไซเบอร์ ดูแลประชาชนแต่ยังเป็นไปในเชิงป้องกัน ตั้งรับส่วนใหญ่ 

และแม้จะอายัดบัญชี แต่ตามเงินกลับได้ประมาณ 10% ส่วนอื่นๆ เมื่อเส้นทางไปต่างประเทศ ก็ยากที่จะติดตาม เพราะมีการหลอกให้เปิดบัญชีม้า โอนเงินหลายชั้น ไปต่างประเทศ หรือในประเทศก็ใช้เวลานานกว่าจะได้คืน และคนที่โอนง่ายคือคนไม่มีภูมิต้านทาน เห็นจากภาพในโซเชียล แล้วหลงเชื่อไปรับเปิดบัญชีม้า 

ขณะนี้เราเร่งตรวจสอบ สกัดกั้น เพื่อหยุดขบวนการหลอกลวงออนไลน์ ที่ต้องหยุดที่การรับบัญชีม้า โดยหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยกเลิกการบัญชีที่เปิดแทนกัน รวมถึงหยุดการโอนเงินที่ผิดปกติ โดยกระทรวงดีอร ได้เสนอแก้กฎหมาย ให้ธปท.สามารถระงับบัญชีได้รวดเร็ว เมื่อทำได้ดีอีจะมีเอไอตรวจสอบระบบทั้งหมด เพื่อสกัดการเดินบัญชีม้า นอกจากนั้นจะใช้กฎหมายเข้มข้นโดยเจ้าหน้าที่จะจับกุมคนเปิดบัญชีแทน เพราะเป็นการขายบัญชีเปิดทางให้มิจฉาชีพ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้และฟังไม่ขึ้น จึงเตือนประชาชนใครที่รับจ้างเปิดให้ไปยกเลิกบัญชี วันนี้ถ้าตรวจสอบพบมีชื่อจะจับทุกคน และให้ไปประกันตัวในศาล เพราะรู้อยู่แล้วการเอาชื่อไป จะต้องทำสิ่งที่ไม่ดีเพราะคนดีๆ ใครจะมาขอให้เปิดบัญชีให้ ทั้งนี้เราเข้มงวดในการตรวจสอบ โดยมีการตั้งตำรวจไซเบอร์ และวางเป้าหมาย 2,000 คน เพื่อจะหยุดบัญชีให้เร็วขึ้น แม้คนร้ายจะปรับตัวตามและเราไม่สามารถไปห้ามการโทรศัพท์หรือโซเชียลได้ เพราะเป็นเสรีภาพประชาชน ดังนั้นต้องให้ความรู้ประชาชน ให้มีภูมิต้านทาน อย่าเชื่อโซเชียลหรือกดลิงค์ในแอป ต้องตรวจสอบจากต้องทางเซ็บไซด์ ก่อนทุกครั้ง

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนปัญหาพนันออนไลน์ ที่เกิดกับเยาวชน ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอว.เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ สร้างเครือข่ายเปลี่ยนจากตั้งรับให้ทำเชิงรุก ให้มีตำรวจชุมชนเข้าไปให้ความรู้เพราะไม่ใช่ชาวบ้านเท่านั้นที่ถูกหลอก แต่คนมีความรู้ หมอ ยังโดนหลอก รวมถึงกรณีส่งเอสเอ็มเอสหลอกลวง เข้าไปแฮกข้อมูล ที่มีหลายรูปแบบ มีการปลอมชื่อธนาคาร เว็บไซต์ จึงพยายามประชาสัมพันธ์องค์กรหรือหน่วยงานให้ตรวจสอบ และประชาชนอย่าเข้าไปกดลิงค์ที่ไม่รู้จัก ที่มีมัลแวร์หลอกให้กรอกข้อมูล ให้กดลิงค์ส่งพัสดุ โดยให้ดูที่แพลตฟอร์มแอปและตรวจสอบจากต้นทางก่อนทุกครั้ง

นอกจากนั้นปัญหาหลอกซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของ มีร้องเรียนเยอะที่สุด 80-90% มาจากเฟซบุ๊ก ดังนั้นการทำการค้าในโซเชียลให้ระวัง ถ้าไม่รู้จักร้านค้า ไม่เคยติดต่อกันอย่าไปยุ่ง เพราะในเฟซบุ๊กพบมิจฉาชีพแฝงตัวเยอะมาก จึงแนะนำให้ซื้อจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ซื้อของฝากระบบคนกลาง และที่สำคัญอย่าเชื่อหลอกให้กู้เงิน ขายของราคารถูก ชักชวนลงทุนได้เงินจำนวนมาก การจ้างงานต่างๆ ทั้งนี้หากประชาชนเกิดปัญหาก่อนหรือหลัง สามารถปรึกษาที่สายด่วน 1212 หรือแจ้งความออนไลน์ ย้ำว่าอย่าโอนเงินให้ใคร เพราะเงินอยู่กับเราเป็นเงินเรา อยู่กับเขาเป็นเงินเขา

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนการลักลอบใช้เน็ตข้ามประเทศ โดยคนร้ายจากบริเวณชายแดน เช่น ปอยเปต แอบซื้อเน็ตจากประเทศไทย แล้วเดินสายต่อข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไปใช้ผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อตรวจสอบแล้วจึงตัดสาย สกัดพนันออนไลน์ในระดับหนึ่ง แต่คนร้ายสามารถใช้เน็ตในประเทศของเขาใช้ทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เมื่อพบกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการจับกุม

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะที่ความคืบหน้าเน็ตประชารัฐ ให้พื้นที่ห่างไกลมีใช้ทุกหมู่บ้าน ดำเนินการไปกว่า 4 หมื่นหมู่บ้าน แต่ยังไม่พอและต้องทำเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักเรียนในชนบทที่ไม่สามารถเข้าถึงได้เท่ากับในเมือง ขาดอุปกรณ์ในการเข้าถึงจึงเกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะคนที่มีอุปกรณ์สามารถไปไกลกว่า จึงคิดโครงการมอบอุปกรณ์ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ให้เด็กที่ฐานะไม่ดี สามารถนำไปใช้ในการเรียน โดยคุยกับกระทรวงศึกษาธิการถึงการดำเนินการในเรื่องนีแล้ว นอกจากนั้นมีแนวคิดจะทำในชุมชนเมือง ให้ผู้ที่มีรายได้น้อย มีฟรีไวไฟในชุมชนมากขึ้นด้วย

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการขับเคลื่อนดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ ผ่านการแสกนใบหน้า โดยไม่ใช้บัตรประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการติดต่อธุรกรรมให้ง่ายขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ และโปรโมทให้ใช้ในเดือนก.พ.นี้ โดยลงทะเบียนกรมการปกครอง หรือทางสำนักงานเขตเพื่อเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ สามารถใช้ยืนยันตัวตนกับเรื่องต่างๆออนไลน์ รวมถึงเปิดบัญชีธนาคาร เปิดซิมมือถือ ย้ายทะเบียนบ้าน สร้างบ้าน ขึเนเครื่องบิน ที่จะต้องตรวจดูบัตรประชาชน มาเป็นระบบออนไลน์ ซึ่งเป้าหมายสูงสุดสามารถโอนที่ดินได้ 

ส่วนที่เป็นห่วงว่าระบบดังกล่าวจะเปิดช่องทางมิจฉาชีพเขเาถึงง่ายนั้น ในทางตรงข้ามสามารถตรวจสอบตัวตนบุคคลได้จริง ต่างกับบัตรประชาชน ซึ่งตนจะหารือกับนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อนำมาดิจิทัลไอดี มาใช้ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และจะสอดคล้องกับสมาร์ตซิตี้ กระจายความเจริญ คือทำให้ทุกเมืองเป็นสมาร์ทซิตี้ ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย และปรพชาชนไม่ต้องเข้ามาอาศัยในเมือง เพราะมีระบบสาธารณูปโภค รักษาพยาบาล จ้างงาน ทำให้ทุกจังหวัดเท่าเทียมกัน จะขณะนี้มีการจัดทำระบบบัญชีกลางดิจิทัล ในจัดซื้อจัดจ้างง่ายขึ้นเพื่อดำเนินงานสมาร์ทซิตี้ในแต่ละจังหวัด โดยไม่ต้องกลัวการตรวจสอบโดนร้องตามมา ซึ่งได้เสนอเข้าครม.แล้ว

นายชัยวุฒิ ตอบคำถามถึงกรณีการเปิดซิมโทรศัพท์มือถือที่จะเปิดหลายซิม สามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตามระบบ 1 คน ต่อ 5 ซิม แต่หากจะเปิดเกินให้ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการ เพราะบางรายที่ซื้อซิมจำนวนมากไปขายต่อไป และมิจฉาชีพซื้อไปนำไปใช้ผิดกฎหมาย เราอยากยกเลิกให้หมด ดังนั้นใครมีเกิน100 ซิม ให้มาจดแจ้งกับโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ รับทราบ

เมื่อถามถึงเว็บพนันในมาเก๊า และการพนันออนไลน์ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การพนันกับคนไทยอยู่คู่กัน เล่นในประเทศเพื่อนบ้านไม่ผิดกฎหมาย แต่ในบ้านเราผิดกฎหมาย ดังนั้นตำรวจจะต้องดำเนินการ ขณะนี้ได้ปิดกั้น 7 ยูอาร์แอลที่เป็นเว็บพนัน และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนให้เข้าเว็บในประเทศไทย โดยสังเกตนามสกุล 'ดอททีเอช' และอย่าเข้าแอปฯปลอมที่มีประมาณ 200 แอปฯ ที่จะเข้ามาดูดข้อมูลมือถือ แล้วไปดูดเงินภายหลัง 

'บิ๊กตู่' อวยพรตรุษจีน “สุขสมหวัง ร่ำรวยตลอดปี” เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย

(21 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อวยพรพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนประจำปี 2566 ให้มีความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำมาค้าขายประกอบอาชีพด้วยความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ขอให้เฉลิมฉลองตรุษจีนด้วยความสุข รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีนอย่างปลอดภัย มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เพื่อให้เทศกาลตรุษจีนนี้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีความสุขอย่างแท้จริง 

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะได้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน มิตรภาพ ความผูกพัน และความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไทยและจีนจะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่าง ๆ ได้ด้วยดี พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีชื่นชมมิตรภาพความสัมพันธ์ไทยจีนเสมอมา ซึ่งเป็นความร่วมมือทวิภาคีที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกันในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเดินหน้าสู่การพัฒนาร่วมกันต่อไป

'เชียงใหม่' เกษตรชวนแอ่วงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' วันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2566

วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น.จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานแถลงข่าวการจัดงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' โดยกำหนดจัดขึ้น ณ วันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ที่ว่าการอำเภอสะเมิง ตำบลสะเมิงใต้ จังหวัดเชียงใหม่ 

นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการปลูกสตรอว์เบอร์รี มีพื้นที่ปลูกในปี 2566 ทั้งสิ้น 6,977 ไร่ มีพื้นที่มีปลูกในอำเภอสะเมิง กัลยานิวัฒนา แม่วาง แม่แจ่ม ฝาง และแม่ริม โดยพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 23.62 (1,333 ไร่) ผลผลิตรวมทั้งจังหวัด 19,049 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 21.92 (3,425 ตัน) ซึ่งอำเภอสะเมิงมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด 4,010 ไร่ เกษตรกร 660 ครัวเรือน ผลผลิต 10,025 ตัน 

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากพื้นที่การปลูกเพิ่มมากขึ้น และมีการส่งเสริมจากภาครัฐและเอกชน ในด้านการรวมกลุ่ม สนับสนุนปัจจัยการผลิตรวมถึงการอบรมให้ความรู้ต่างๆ ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมถึงหน่วยงานบูรณาการต่างๆ และเกษตรกรผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีร่วมมือในการผลิตสตรอว์เบอร์รีปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และได้มีการส่งเสริมการปลูกสตรอว์เบอร์รีในรูปแบบแปลงใหญ่ในพื้นที่ตำบล บ่อแก้ว เพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขันในระบบธุรกิจเกษตร

นายวิทยา นาระต๊ะ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอสะเมิง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการปลูกสตรอว์เบอร์รีเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก เติบโตโดยการแตกกอ ดอกสีขาว ผลมีสีแดง เป็นมัน มีเมล็ดติดอยู่ที่ผิวด้านนอกของผล มีกลิ่นหอมเมื่อผลสุก ต้องการอุณหภูมิต่ำในช่วงพัฒนาตาดอก และการติดผล ปลูกได้ในดินร่วนซุย มีการระบายน้ำดี พื้นที่ควรมีระดับความสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 800 เมตรขึ้นไป อุณหภูมิ 10-25 องศาเซลเซียส (มีอากาศเย็นตลอดปี) 

โดยเริ่มปลูกในช่วงเดือนปลายสิงหาคม – ปลายตุลาคม เริ่มเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงเดือนเมษายนของปีถัดไป มักจะเก็บเกี่ยวเมื่อผลสุกประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ โดยพิจารณาจากสีผลที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมแดง พันธุ์ที่นิยมปลูกในเชียงใหม่ คือ พันธุ์พระราชทาน 80 มีลักษณะผลเป็นรูปทรงกรวย ปลายแหลม น้ำหนักผลเฉลี่ย 30-35 กรัม มีความหวานเฉลี่ย 12.85 องศาบริกซ์ ซึ่งนิยมรับประทานผลสด ทนทานต่อโรคแอนแทรคโนส และราแป้ง ผลผิตต่อไร่ประมาณ 3,000 กก./ไร่

ด้านนายณฐกร ภัทรวนนท์ นายอำเภอสะเมิง กล่าวว่า ในปีนี้ได้ร่วมกันจัดงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' ชาวอำเภอสะเมิงขอเชิญชวนเที่ยวงานสตรอว์เบอรี และของอำเภอสะเมิงครั้งที่ 20 ปี 2566 ภายในงาน มีกิจกรรมมากมาย อาทิ การจำหน่ายสตรอว์เบอร์รีและพีชผลทางเกษตร สินค้า OTOP อำเภอสะเมิง การประกวดของดีประเภทผลผลิตทางการเกษตร การประกวดผลิตภัณฑ์แปลรูปสตรอว์เบอร์รี

ททท. ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สายการบิน flydubai เส้นทางดูไบ – อู่ตะเภา สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน

(20 ม.ค.66) เวลา 19.45 น. (ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา) - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานดูไบ ร่วมกับสายการบิน flydubai เปิดเส้นทางบินดูไบ – อู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) โดยเส้นทางบินดังกล่าวเป็นการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เปิดเส้นทางบินตรงจากเมืองดูไบสู่ภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งจะให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737 Max-8 ความจุโดยสาร 172 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน

โดยมี พลเรือเอกระพีพงษ์ โสวรรณ ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา พร้อมด้วย นางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา นางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพัทยา และตัวแทนภาคการท่องเที่ยวพัทยา ร่วมให้การต้อนรับสายการบิน flydubai เที่ยวบินที่ FZ1445 บินตรงจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมผู้โดยสารจำนวน 158 คน โดยได้ส่งมอบความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยอุโมงค์น้ำ (Water Salute) การแสดงศิลปวัฒนธรรมรำกลองยาวจากสวนนงนุช และมอบพวงมาลัยดอกไม้เป็นของที่ระลึก

พร้อมกันนี้ ททท. ยังได้จัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับ Blogger สายท่องเที่ยว จำนวน 6 รายที่เดินทางมาในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เพื่อสนับสนุนการผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์เที่ยวบินและการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 20-22 มกราคม 2566 โดย ททท. นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Family Friendly และ Luxury ที่แตกต่าง มีคุณค่า และน่าประทับใจในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรีปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางมายังประเทศไทยแล้ว 65,847 คน ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยว 1 ใน 20 อันดับประเทศที่เดินทางมาประเทศไทย เป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง และเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ 

‘นอท กองสลากพลัส’ เช็กอินบินไปอังกฤษ 8-9 วัน สวนเดือด!! หากคิดหนีจะโพสต์บอกทำไม

(20 ม.ค. 66) ‘นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์’ ซีอีโอ ‘กองสลากพลัส’ โพสต์ภาพเช็กอินการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางไปประเทศอังกฤษ พร้อมข้อความ ระบุว่า “ทำงานมาสองปีเต็มๆ เพิ่งจะได้หยุดยาวๆ ขอลางานสัก 8-9 วันนะครับ ไว้กลับมาสู้ใหม่”

ภายหลังการโพสต์ดังกล่าวมีกระแสข่าวว่านายพันธ์ธวัช หนีคดีไปต่างประเทศหรือไม่ ทำให้นายพันธ์ธวัช โพสต์ข้อความอีกว่า “ถ้ากูจะหนีออกต่างประเทศ กูจะโพสทำห่าอะไร ใช้สมองคิดกันหน่อย อ่อ!! ลืมไปพวกมึงไม่มีสมองนี่หว่า”

‘อนุทิน’ ถก สหราชอาณาจักร ชวนลงทุนอีอีซี พร้อมช่วยหนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ที่ภูเก็ต

‘อนุทิน’ นำทีมคุย รัฐมนตรีช่วยการค้าสหราชอาณาจักร เล็งเพิ่มมูลค่านำเข้า-ส่งออก 2 ประเทศ ชวนลงทุนอีอีซี 3 ด้าน การแพทย์ ดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมขอเสียงสนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket  Thailand

(20 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 ที่กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ Department for International Trade (DIT) กรุงลอนดอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้พบกับนาย Nigel Huddleston รมช.การค้าระหว่างประเทศ (Minister for International Trade) แห่งสหราชอาณาจักร เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วม อาทิ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้หารือในประเด็นการค้าที่ขณะนี้สหราชอาณาจักรถือเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ในยุโรปสำหรับประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มูลค่าทั้งการนำเข้าและส่งออกระหว่าง 2 ประเทศให้มากขึ้น ผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งระดับรัฐบาลผ่าน คณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจและการค้าไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thailand-UK Joint Economic and Trade Committee (JETCO) ตลอดจนความร่วมมือของเอกชนโดยสภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thai-UK Business Leadership Council (TUBLC)

‘น้องอุ้ม’ พยาบาล รพ.อุ้มผาง ถอดท่อที่คอแล้ว เผยอาการล่าสุด หายใจเอง – นั่งได้ – กำลังฝึกยืน

‘พยาบาลอุ้ม’ ถอดท่อที่คอได้แล้ว หายใจได้เองเป็นปกติ กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้ ขยับร่างกายด้านขวาได้ ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้ และกำลังฝึกยืน 

เพจ ‘เรื่องเล่าหมอชายแดน’ โพสต์รายงานความคืบหน้าอาการ และความช่วยเหลือ ‘น้องอุ้ม’ ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง พยาบาล โรงพยาบาลอุ้มผาง ที่ประสบอุบัติเหตุ และขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี ว่า 

1 ปีที่ผ่านไปกับชีวิตใหม่ของน้องอุ้ม 

ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้ม พยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรก หลังจากที่อาการทรงตัว ได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถีที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี

ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้ว สามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้า อันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้ และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจ คิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุด อาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา

ม.นราธิวาสราชนครินทร์ แถลงข่าวการจัดงานเนื่องในโอกาสครอบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิด 'มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรม'

เดินหน้าการจัดการศึกษาที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ

วันนี้ (20 ม.ค. 66) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงานเนื่องในโอกาสครอบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิด 'มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรม' และร่วมเสวนาในหัวข้อ 'ตอบโจทย์ชายแดนใต้ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม' ที่ลานพิกุล มนร. ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีคณะผู้บริหาร มนร. หัวหน้าส่วนราชการ อาจารย์ นักศึกษา และสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ และจังหวัดยะลา ร่วมในกิจกรรม

การจัดงานเนื่องในโอกาสครอบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนา มนร. กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2566 ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรม Open House การจัดนิทรรศการ การแข่งขันทางวิชาการ การแสดงผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่น จากหน่วยงานคณะ วิทยาลัย และสถาบัน ชมผลงานนวัตกรรม ยกระดับเศรษฐกิจ BCG การแปรรูปผลิตภัณฑ์สู่การสร้างมูลค่าสินค้า กิจกรรมค้นหานักศึกษาต้นแบบ และกิจกรรมการประกวดดนตรีและอนาซีด

โรงพยาบาลพญาไท 3 ต้อนรับเทศกาล..'ตรุษจีน' เสริมสิริมงคล รุ่งเรือง โชคดีรับปีกระต่าย 2566

ตรุษจีนปีนี้ มั่งมีศรีสุข ต้อนรับปีกระต่ายทอง โรงพยาบาลพญาไท3 มอบอั่งเปาสุขภาพ พร้อมส้มมงคลต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ปี 2023 นำทีมโดยคณะท่านผู้บริหารโรงพยาบาลพญาไท3ทุกท่านลงพื้นที่ส่งมอบความเฮง ความเป็นสิริมงคลที่มาพร้อมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้ใช้บริการภายในโรงพยาบาล

ตำรวจไซเบอร์ สนองนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามภัยออนไลน์ทุกรูปแบบ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (โฆษก บช.สอท.) ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ดังต่อไปนี้

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม รวมไปถึงการวางมาตรการการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ แบ่งออกเป็นหลายมิติที่สำคัญ เช่น

ด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การรับจ้างการเปิดบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า การลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศผิดกฎหมาย และการใช้ซิมโทรศัพท์มือถืออย่างผิดกฎหมาย รวมไปถึงการตรวจยึดเครื่องตรวจยึดเครื่องส่งสัญญาณ IP-PBX, เครื่อง GSM Gateways (Simbox) ภายใต้ยุทธการซิม-สาย-เสา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตัดวงจรความเสียหายก่อนที่มิจฉาชีพจะไปก่อเหตุหลอกลวงประชาชน ส่งผลให้แนวโน้มการถูกหลอกลวงประเภทดังกล่าวลดลงกว่าร้อยละ 25 อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีคดีสำคัญอีกหลายคดี เช่น ยุทธการ Shutdown ตัดสายแก๊งคอลเซ็นเตอร์, ยุทธการเด็ดปีกมังกร, ปฏิบัติการ ล้มไม้ค้ำลิดกิ่งก้าน ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ตรวจยึดของกลางกว่า 300 ล้านบาท, ยุทธการหักซิมม้า ตรวจยึดของกลางกว่า 21,000 ซิม, ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าไทย - มาเลเซีย ตรวจยึดของกลางกว่า 80 ล้านบาท และปฏิบัติการตรวจค้น 13 จุด ทั่วประเทศ ทลายเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์รายใหญ่ SCG9 พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นต้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top