Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

เหตุผลที่เสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ไม่มียี่ห้อดัง

เมื่อไม่นานมานี้ ช่องยูทูบของ sanook.com ได้โพสต์วิดีโอสัมภาษณ์นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ถึงเหตุผลที่เสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ไม่มีโลโก้ยี่ห้อดัง

โดยในวิดีโอดังกล่าวนายเนวินระบุว่า "เหตุผลที่ไม่ใช้ เพราะว่าถ้าผมใช้ NIKE, FBT, Grand Sport, Adidas หรือ Umbro มันจะทำให้แฟนบอลของผมจ่ายแพงขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อตัว"

'ดีอีเอส' ประสาน 'Play Store-App Store' จัดการแอปอันตราย แนะ ปชช. ไม่โหลดแอปแปลกปลอม ป้องกันมิจฉาชีพดูดเงิน

ดีอีเอส เปิดรายชื่อแอปอันตรายมีมากกว่า 200 แอปเตือน ประชาชน อย่าหลงเชื่อ อย่าโหลด อาจสูญเงินและข้อมูลส่วนตัวได้

เมื่อไม่นานมานี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ สกมช. แจงกรณีแอปดูดเงินอันตราย หลังพบประชาชนได้รับผลกระทบจากการติดตั้งแอปพลิเคชันอันตรายลงในโทรศัพท์มือถือ แล้วทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาดูดเงินออกไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง

นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตราย ที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ซึ่งดีอีเอส และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้มีการตรวจสอบมาโดยตลอด โดยพบปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถขโมยข้อมูล หรือควบคุมเครื่องโทรศัพท์ได้ โดยในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชันอันตรายเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่า 200 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android ตามที่ปรากฎใน Facebook ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ Facebook ของ สกมช. (NCSA THAILAND) จึงขอให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัปเดตระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

'สาวชัยภูมิ' ผันตัวเปิดฟาร์มเลี้ยงควายไทยสวยงาม ปัจจุบันมีควาย 35 ตัว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ดีเจสาวชาว จ.ชัยภูมิ ผันตัวเปิดฟาร์มเลี้ยงควายไทยสวยงาม ลูกค้าขอซื้อจำนวนมาก จนราคาพุ่งสูงถึงตัวละ 15 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีควายรวมกว่า 35 ตัว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

เมื่อไม่นานมานี้ ที่ 'ฟาร์มกุ้งนาง ควายงาม' เมืองพระยาแล อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ทีมผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสาววิรัญญา ผาแดง อายุ 45 ปี ดีเจดังเมืองชัยภูมิ เจ้าของฟาร์ม กล่าวว่า เดิมทีมีอาชีพ ทำนา แต่รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่ประมาณ 7 ปี พอมีเงินเก็บได้พอประมาณจึงกลับมาอยู่บ้านเกิด ทำธุรกิจของตัวเอง โดยได้เริ่มต้นจากการไปรับงานเย็บปักเสื้อผ้าจากโรงงานในกรุงเทพฯ เพื่อมาเย็บที่จังหวัดชัยภูมิ แล้วส่งให้โรงงานโดยในช่วงแรกก็ทำเพียงคนเดียว 

ต่อมาเริ่มหาเครือข่ายมาช่วยเย็บอยู่ที่บ้าน จนธุรกิจตัวนี้เริ่มโตขึ้นมาเรื่อย ๆ ต่อมาคิดว่าถ้าจะให้ธุรกิจดีขึ้น ต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจมีคนรู้จักกว้างขึ้น จึงได้เกิดความคิดขึ้นโดยได้ตั้งสถานีวิทยุชุมชนขึ้น และขายโฆษณาให้กับลูกค้าทั่ว ๆ ไป ต่อมาได้มีความคิดว่าอยากจะมีสินค้าของตัวเอง เพื่อมาโฆษณาขายเอง จึงได้ติดต่อโรงงานเพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายเอง ผลออกมายอดขายสินค้าดี เกินความคาดหมาย

'บี พุทธิพงษ์' อวยพรตรุษจีนพี่น้องไทย-จีน ขอให้สุขสมหวัง - แข็งแรง - มั่งคั่งร่ำรวย

เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์อินสตาแกมอวยพรพี่น้องชาวไทยและชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยระบุว่า...

พบ 'โลมาอิรวดี' ตายเกยตื้นที่บางขุนเทียน ด้าน จนท. เข้าตรวจสอบ แต่ระบุสาเหตุการตายไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ 'กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการพบซากโลมาอิรวดีตายเกยตื้น บริเวณคลองสะพานรักษ์ทะเล บางขุนเทียน แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้เนื่องจากสภาพเน่ามาก โดยระบุว่า...

วันที่ 17 มกราคม 2566 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) ได้รับการประสานจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 กรณีเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก คุณโสภิณ จินดาโฉม พบซากโลมาเกยตื้น บริเวณคลองสะพานรักษ์ทะเล บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! Insider ยก 'ไทย' เป็น 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลก สำหรับท่องเที่ยวในปี 2023

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ประเทศไทยติด 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 จากเว็บไซต์ Insider ขึ้นชื่อมีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เหมาะกับนักชิมนักช็อปทั่วโลก

(22 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 (23 of the best places to travel to around the world in 2023) จากการรายงานของ Insider ซึ่งเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันนำเสนอข่าวสารและไลฟ์สไตล์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา (ที่มา: Best Places to Travel Internationally Around the World in 2023 (insider.com)) 

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวไทยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เว็บไซต์ Insider เลือกให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 เนื่องจากมีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลดนตรีฮิปฮอประดับโลก Rolling Loud Thailand 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีโรงแรมหรูมากมายในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับนักชิมนักชอปจากทั่วโลก 

'ชูวิทย์' ถล่มซ้ำ ปมตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ชี้!! ต้องหากินแบบเทาๆ เพราะแค่เงินเดือนไม่พอให้เมีย

(22 ม.ค. 66) จากกรณี คลิปฉาวของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่โพสต์เรื่องราวบอกเล่าความประทับใจ มาเที่ยวกรุงเทพฯ กับแม่แล้วได้รับการบริการระดับ VVIP โดยจ่ายเงินค่าบริการไปถึง 7,000 บาท เพื่อแลกกับประสบการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับไปขึ้นรถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น 

.

ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วน โดยให้จเรตำรวจตรวจสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคลิป 3 นาย ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยเฉียบขาดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของกลุ่มจีนเทาและเว็บพนันออกไลน์ ซึ่งได้มีข้อความในตอนหนึ่งที่ระบุถึงเรื่องที่ กลุ่มตำรวจที่ไปรับนักท่องเที่ยวในสนามบินว่า 

พิจิตร ตรุษจีน แห่เที่ยวงานวัด นมัสการหลวงพ่อเพชร 'งานไหลเรือไฟ'

อบจ.พิจิตร ทุ่มงบ 3 ล้านบาท เพื่อเมืองชาละวันจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนผสมผสานกับงานวัดได้อย่างลงตัว 21-31 ม.ค. 66 ชาวพิจิตรรวมใจจัดงานสมโภชเมืองพิจิตร นมัสการหลวงพ่อเพชร “ไหลเรือไฟ” จัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านและคอนเสิร์ตบนเวทีกลางน้ำแม่น้ำน่าน หน้าพระอุโบสถ วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองพิจิตร ไฮไลท์ของงานจุดประทีปนาวาบูชาหลวงพ่อเพชร 'ไหลเรือไฟ'

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานในพิธีถวายพานบัวบูชาหลวงพ่อเพชร พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวพิจิตร ในการจัดงานสมโภชเมืองพิจิตร นมัสการหลวงพ่อเพชร 'ไหลเรือไฟ' ที่มีขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 ม.ค. 66 โดยเป็นการผสมผสานการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนกับงานวัดได้อย่างลงตัว 

โดยงานนี้ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้จัดสรรงบประมาณ 3 ล้านบาท โอนให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินงานการจัดงาน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวต้องใช้งบประมาณรวมแล้วกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

สำหรับบรรยากาศของการจัดงานจัดให้มีขบวนแห่รถบุปผชาติ และขบวนอัญเชิญดอกบัว ที่มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนเกือบ 3 พันคน แต่งกายด้วยชุดไทยและชุดแฟนซีต่างๆอย่างสวยสดงดงาม เดินไปรอบๆ ตลาดเมืองพิจิตร โดยมีพุทธสาวิกาที่แต่งกายด้วยชุดขาวสะอาด จำนวนกว่า 500 คน พร้อมใจกันร่ายรำเพื่อเป็นการบูชาองค์หลวงพ่อเพชรได้อย่างสวยสดงดงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาพบเห็น

ในส่วนของความบันเทิงก็จะมีการแสดงบนเวทีกลางน้ำ กลางแม่แม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง สนุกสนานเลือกชมเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ของกินของใช้ที่มาจากทั่วสารทิศ สุขใจ ได้บุญเสี่ยงโชคกับการตักไข่ชาละวันที่มีของรางวัลมากมาย และในวันที่ 27 ม.ค. 66 บนเวทีแคทวอลก์ชมการเดินแบบผ้าไทยจากนางแบบ นายแบบ กิติมศักดิ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมผ้าทอ ผ้าไทย ที่เป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด อันเลื่องชื่อของจังหวัดพิจิตร อิ่มบุญสุขใจกับการไหว้พระทำบุญขอพรองค์หลวงพ่อเพชรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพิจิตร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมการทำสำนวนไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพิ่มการเข้าถึงความยุติธรรมให้กับประชาชน

วันนี้ (21 ม.ค.66) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการทบทวนการทำสำนวนไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ครั้งที่ 2 ณ สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต โดยมีประธานร่วมจากประเทศมาเลเซียคือ ดอกเตอร์ มูฮัมหมัด อิควาน ตอริมัน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเคอบังซาน มาเลเซีย เพื่อผลิตผู้ไกล่เกลี่ยออกมาให้บริการกับประชาชนมากยิ่งขึ้น

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 พ.ย.62 แต่ประชาชนยังเข้าถึงการบริการไกล่เกลี่ยได้น้อยเนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบอย่างทั่วถึง อีกทั้งจำนวนศูนย์ไกล่เกลี่ยยังมีไม่เพียงพอ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จึงได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนประจำสถานีตำรวจ ซึ่งจะช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้กับประชาชนในคดีเล็กน้อยทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.65 ได้เริ่มต้นจากเขตนครบาลจำนวน 18 สถานี เช่น สน.มีนบุรี สน.ลาดกระบัง สน.บางชัน และ สน.ทองหล่อ เป็นต้น และจะขยายไปทั่วประเทศในเดือน ก.พ.66 โดยในครั้งนี้มีผู้เข้าอบรมกว่า 520 คน

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดี 'ชาวลพบุรี-นครสวรรค์' รถไฟทางคู่ช่วง 'ลพบุรี–ปากน้ำโพ' คาดเสร็จปีนี้

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดีชาวลพบุรี-นครสวรรค์ รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี–ปากน้ำโพ คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ ชูเป็นผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' พลิกโฉมการขนส่งทางรางไทย เดินทางรวดเร็ว ยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ กระตุ้นการค้าขาย ท่องเที่ยวภาคเหนือ-อีสาน

(21 ม.ค.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางและขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจ การค้า การลงทุน เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจการค้าและโลจิสติกส์ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในภูมิภาค ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาได้อย่างเต็มที่โดยได้ผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 21,467 ล้านบาท ผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง รองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และลดระยะเวลาในการเดินทางและการขนส่งสินค้า เพื่อเร่งยกระดับให้บริการโลจิสติกส์สู่พื้นที่ภาคเหนือ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขนานไปกับทางรถไฟเส้นเดิมของช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ รวมระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่อยู่ในเขตทางรถไฟและเป็นทางวิ่งระดับพื้นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร และทางช่วงเลี่ยงเมืองลพบุรีเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร ประกอบด้วยงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 

สัญญาที่ 1 ได้แก่ ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม เป็นการเป็นก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ใหม่ เพื่อเบี่ยงแนวเส้นทางเดิมช่วงที่ผ่านเข้าตัวเมืองลพบุรี ระยะทาง 29 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี สิ้นสุดบริเวณสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ประกอบด้วย ทางรถไฟยกระดับ 23 กิโลเมตร และทางรถไฟระดับพื้นดิน 6 กิโลเมตร เดือนธันวาคม 2565 ก้าวหน้าไปแล้ว 81.72%

สัญญาที่ 2 ช่วง ท่าแค – ปากน้ำโพ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทาง 116 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีท่าแค จังหวัดลพบุรี โดยก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม สิ้นสุดบริเวณสถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ เดือนธันวาคม ก้าวหน้าไปกว่า 75.60 %

ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม เดือนธันวาคม มีความก้าวหน้า 26.33% ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ รูปแบบการพัฒนาทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม ในส่วนของการออกแบบก่อสร้างสถานียังคงเอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นหลัก มีการนำสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ เพื่อให้เกิดความสวยงามและกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศ ผสมผสานกับความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ทั้งสถานีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เน้นความปลอดภัย ง่ายต่อการขนส่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเพื่อสนับสนุนการเดินทางของประชาชน และการคมนาคมขนส่งของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจ และมีการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟเดิมทุกสถานี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top