Sunday, 24 September 2023
NEWS FEED

แท็กซี่จอดต่อแถวเรียงราย บริเวณถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า รอรับของจากผู้ใจบุญ มาแจกให้คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เพจ “FM91 Trafficpro” เผยภาพแท็กซี่จำนวนมากจอดต่อแถวเรียงราย บริเวณถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า ก่อนถึงแยกไฟฉาย หลังมีผู้นำของมาแจกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะของใกล้จะหมดแล้ว พร้อมระบุข้อความว่า “ถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขาเข้า ก่อนถึงแยกไฟฉาย มีผู้ขับขี่แท็กซี่ต่อแถวรอรับของช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีผู้นำมาช่วยเหลือจำนวนมาก ทำให้รถชะลอตัว มีจราจร สน.บางขุนนนท์ คอยอำนวยการจราจร”


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000012209

https://www.facebook.com/172059279471277/posts/4210454625631702/v

‘อลงกรณ์’ ชี้เลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 3 พิสูจน์ 3 ศรัทธา ย้ำประชาธิปัตย์ ยึดกติกาประชาธิปไตยสุจริต ชูผลงานยุคทำได้ไวทำได้จริง มั่นใจรัฐบาลรักษาเสียงส.ส. ได้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราช เขต 3 จะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชน คือ ศรัทธาต่อรัฐบาล ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังสามารถรักษาเสียงส.ส.ได้เช่นเดิม เมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในช่วงวิกฤตการณ์โควิด19 และวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้งส.ส.ของนครศรีธรรมราช เขต 3 ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.คือนายเทพไท เสนพงศ์

สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ จะยึดกติกาการเลือกตั้งบนแนวทางสุจริตยุติธรรม มุ่งนำเสนอวิสัยทัศน์นโยบายและผลงานทั้งระดับชาติและจังหวัด ในยุคทำได้ไวทำได้จริง ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค

ทั้งนี้ ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.นี้เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.ครั้งนี้ โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ และผลงานพรรคจากอดีต ปัจจุบันและอนาคต เช่น

1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเช่นโครงข่ายถนนสี่เลน, รถไฟ 4 รางทางคู่ทั่วประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค การพัฒนาสนามบินและท่าเรือในภูมิภาค การขยายโครงข่ายไอซีที โครงการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดสู่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(Southern Economic Corridor)และระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล

2. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายโอกาส ลดเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการมหาวิทยาลัยในภูมิภาคโครงการนมโรงเรียน, โครงการอาหารกลางวันนักเรียน, กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ, โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ,เริ่มต้นค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 600 บาท, ยกฐานะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) การพัฒนาฝีมือแรงงานและคุณวุฒิวิชาชีพ การส่งเสริมการออม การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ (LGBT)

3. การพัฒนาทัองถิ่นชนบทและพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากโดยนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลและเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาขิกสภาโดยตรงจากประชาชน

4. การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจบนฐานพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการเอทานอล

5. การลดความเหลื่อมล้ำโดยกระจายการถือครองที่ดินให้เกษตรกรและชุมชนโดยมาตรการโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร

6. การปฏิรูปภาคเกษตรด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกร การจัดตั้งและขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด เพื่ออัพเกรดภาคเกษตรด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี โครงการประมงชุมชนและชลประทานชุมชนและการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรายย่อยโดยกลไกกองทุนกฟก.

“สำหรับวิสัยทัศน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช คือนครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมีศักยภาพพร้อมทุกด้านที่จะต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคใต้ตอนกลางทั้งด้านการศึกษาการค้าการท่องเที่ยวโลจิสติกส์และเกษตรอุตสาหกรรม(Agroindustry) เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง(Rubber Valley) โครงการศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเกษตรอาหารและผลไม้โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมที่ทีบทบาทสำคัญยิ่ง อนาคตของนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งเดียวกับอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอดและเป็นอีกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขอโอกาสในการทำงาน เพื่อสร้างอนาคตร่วมกันกับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชด้วยวิสัยทัศน์และการทำงานแนวใหม่โดยคนรุ่นใหม่คือนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

กระบี่-ปลุกพนักงานโรงแรมดัง สู้ ไวรัสโควิด - 19 นำเมนูอาหารก้นครัว เปิดตลาดนัดขายในราคาต้นทุน สร้างรายได้ช่วงนักท่องเที่ยวหดหาย

พนักงาน รร.โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมตัวกันนำสินค้าชนิดต่าง ๆ ทั้งอาหาร คาวหวาน เปิดตลาดนัด ริมชายหาดเกาะกวาง ม.3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชน ที่ผ่านไปมา โดยอาหารที่ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยว เป็นร้านจำหน่ายอาหาร ของโรงแรมโซฟิเทล ที่ได้นำขนม ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของโรงแรม มาจำหน่ายราคาต้นทุน โดยมีนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมตลาดนัดและให้กำลังใจ

นายสมศักดิ์ เตบบุตร ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองทะเล กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ กระทบกับการท่องเที่ยวอย่างหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่ มีจำนวนน้อยมาก ส่งผลให้โรงแรมที่พักหลายแห่งในจังหวัดกระบี่และในพื้นที่ชายหาดเกาะกวาง ต้องปิดกิจการ หรือต้องเลิกจ้างพนักงาน และบางแห่งก็มีการลดเงินเดือนพนักงานเพื่อความอยู่รอดของสถานประกอบการ จึงทำให้พนักงานหลายคนต้องประสบกับความเดือดร้อนเงินเดือนไม่พอกับค่าครองชีพในแต่ละเดือน จึงได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรมโซฟิเทลฯ เพื่อเปิดพื้นที่ให้พนักงานโรงแรมและชาวบ้าน ได้มีรายได้เพิ่ม จึงได้ขออนุญาต จากทางหลวงชนบท ใช้ฟุตบาทถนนริมชายหาด เปิดเป็นตลาดนัด ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00 น. เปิดมาได้ 2 ครั้ง ได้รับความสนใจจากพนักงานโรงแรมและชาวบ้าน นำสินค้ามาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก

นายจักรภัทร พิมลเกตุ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล รร.โซฟิเทลฯ กล่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะให้พนักงานเปิดตลาดนัดภายในโรงแรม โดยนำเมนูอาหารของโรงแรมมาจำหน่ายซึ่งรายได้ก็จะแบ่งกับให้พนักงานแต่หลังจากที่มีการพูดคุยกับผู้นำในพื้นที่ก็ได้ข้อตกลงกันว่าเปิดในพื้นที่สาธารณะดีกว่าเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาจับจ่ายสินค้าได้อย่างสะดวก จึงได้ทำการขออนุญาตเปิดริมฟุตบาตของชายหาดที่อยู่หน้าโรงแรม แจ้งเบื้องต้นก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมาเลือกซื้ออาหารและสินค้าที่จำหน่ายกันอย่างคึกคัก

สำหรับเมนูอาหารที่ทางพนักงานของโรงแรมนำมาจำหน่าย จะเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของโรงแรมโดยจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อให้ทุกคนสามารถจับต้องได้บาท ซึ่งเงินที่ได้ทางโรงแรมก็จะจัดสรรปันส่วนแบ่งให้กับพนักงานเพื่อเป็นรายได้ต่อไป


กระบี่ /// ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุระทึกขวัญที่ผู้คนทั้งประเทศต่างติดตามกันตลอดทั้งวัน เมื่อสถานีข่าวแทบทุกสำนัก รายงานข่าวว่า มีชายผู้หนึ่งนำอาวุธชนิดร้ายแรง ไล่กราดยิงผู้คนจนถึงแก่ความตายเป็นว่าเล่น

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา เป็นทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เจ้าตัวเกิดบันดาลโทสะ ยิงหัวหน้าสังกัดของตัวเองตาย ก่อนจะบุกเข้าไปขโมยอาวุธร้ายแรงในค่ายเพิ่มเติม แล้วออกเที่ยวไล่ยิงผู้คนที่ผ่านไปมา

ต่อมาเขาเดินทางไปยังห้างเทอมินอล 21 โคราช แล้วนำอาวุธกราดยิงผู้คน พร้อมกับใช้เฟซบุ๊กในการจับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ภายนอก และจับตัวประกันเอาไว้ 16 คน

เมื่อเวลาผ่านไปกว่าค่อนคืน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันในห้าง พร้อมยิงปะทะกับคนร้าย สุดท้ายคนร้ายถูกวิสามัญได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก่อนฟ้าสางของวันใหม่

จากเหตุการณ์ระทึกขวัญกว่า 17 ชั่วโมงนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 31 ราย (นับรวมทั้งเจ้าหน้าที่, ประชาชน และผู้ก่อเหตุ) และมีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 57 ราย นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่หลายฝ่ายต้องหันกลับทบทวนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนดูแลคนใกล้ตัวเรื่องปัญหาสภาพจิตใจ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุการณ์ร้ายๆ และสังคมต้องพบกับความสูญเสียเช่นนี้อีก

ธอส. เพิ่มโอกาสคนมีรายได้น้อยอยากมีบ้าน เตรียมวงเงิน 70,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่าน 3 โครงการ ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมกรอบวงเงิน 70,000 ล้านบาท จัดทำ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย (Social Solution) ซึ่งครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์การกู้หลัก อาทิ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. โครงการสินเชื่อที่อยู่ที่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ” กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชื่อเรียกอย่างอื่น และลูกจ้างประจำที่เป็นผู้มีสิทธิกู้เงินตามข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากที่หน่วยงานต้นสังกัดได้ลงนามร่วมกับ ธอส. สามารถกู้ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.65% ปีที่ 2 เท่ากับ 3% ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-2.65% อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.05% และปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2.00% หรือเท่ากับ 4.15% และปีที่ 6 จนถึงครบอายุสัญญา คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,400 บาท ต่อเดือน พิเศษค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้กู้ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองที่ดินจากสถาบันการเงินอื่น ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564

2. โครงการสินเชื่อบ้านคนละหลัง กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับ 2.75% ต่อปีปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.40% (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 6.150%) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.75% ต่อปีเท่านั้น ปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2% และปีที่ 6 จนถึงครบอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี และกรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท ต่อเดือน พิเศษฟรี ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน และค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564

3. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาท ต่อเดือน วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3% ปีที่ 2 เท่ากับ 4% ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-1.15% และปีที่ 4 จนถึงครบอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี และกรณีลูกค้าสวัสดิการ คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,800 บาท ต่อเดือน ฟรี ค่าธรรมเนียม การยื่นกู้ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยพร้อมกับการกู้ตามวัตถุประสงค์หลัก ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้ง 3 โครงการ มีส่วนสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย (Social Solution) ให้เป็นไปตามเป้าหมายในปี 2564 จำนวน 140,167 ล้านบาท จากเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่รวม 215,641 ล้านบาท

ยังไม่ทราบชะตากรรม 3 นักปีนเขา ที่ขาดการติดต่อกว่า 50 ชั่วโมง หลังพยายามพิชิตยอดเขา เคทู (K2) เทือกเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

จากกรณีที่นักปีนเขา 3 ราย ขาดการติดต่อกว่า 50 ชั่วโมง บริเวณเทือกเขา K-2 ล่าสุด Supinda Bunkoed ได้โพสต์เฟซบุ๊กอัพเดทปฏิบัติการค้นหา โดยระบุว่า

ข่าวร้ายมาหลายวัน ขอภาวนาให้ทุกท่านปลอดภัย

เฮลิคอปเตอร์สองลำของกองทัพปากีสถาน ได้เริ่มภารกิจค้นหาและกู้ภัย เพื่อค้นหานักปีนเขาสามคนที่หายไป ซึ่งประกอบด้วย Ali Sadpara, John Snorri และ Juan Pablo ที่ K-2 (จอนห์นี่ สนอรี่ เป็นเพื่อนของคุณทันเวียร์ นักปีนเขาชาวไอซ์แลนด์ด้วย)(ส่วนคุณอาลี ซัปพารา คนนี้ปลารู้จักเคยเจอกันระหว่างทางตอนออกทริป เป็นนักปีนเขาอันดับ 1 ของปากีสถาน)

นักปีนเขาทั้งสาม ขาดการติดต่อเป็นเวลากว่า 50 ชั่วโมง ในความพยายามครั้งสุดท้ายในการปีนยอด K-2 เทือกเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก

เฮลิคอปเตอร์ทำงานหนักมาก แต่ยังไม่พบนะคะ

อากาศช่วงนี้ ปลาบอกเลยว่าลมแรงและมีเมฆหนามาก

ขอเป็นกำลังใจให้หน่วยงานทหารปากีสถานหานักปีนเขาที่หายไปให้เจอ


ที่มา : FB : Supinda Bunkoed

‘บิ๊กตู่’ กำชับกรมการค้าภายใน ควบคุมราคาสินค้าช่วงตรุษจีน พร้อมสั่งตรวจตราทั้งออนไลน์ - ออฟไลน์ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ก.พ.นี้ โดยประชาชนนิยมออกไปเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบพิธีในการไหว้บรรพบุรุษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ดูแลควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ตรวจตราป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน พร้อมกำชับให้ร้านค้า ต้องปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อง่ายในการตรวจสอบราคาและความสะดวกของประชาชน นอกจากนี้ การไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ยังมีโทษตามกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ประเมินว่า ประชาชน จะเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น นายกรัฐมนตรี จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยตรวจสอบทั้งราคาและการโฆษณาเกินจริง ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค รวมถึงป้องกันมิจฉาชีพ โฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงประชาชน จึงให้ประชาชน ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนเลือกซื้อสินค้า หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) 1166

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในวันตรุษจีน วันที่ 12 ก.พ. นี้ รัฐบาลกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เชิญชวนประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการหมุดเวียนของเม็ดเงิน กระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด – 19 เพิ่มเติมอีก 2 คน ระบุเป็นผู้ที่อยู่ห้องติดกับผู้ป่วยรายแรกก่อนหน้านี้ และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกัน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ฉบับที่ 2/2564 ลงวันที่ 6 ก.พ. 64

ใจความว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ได้รับแจ้งว่ามีบุคลากรติดเชื้อโควิด-19 ดังประกาศมาตรการของคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน โควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ฉบับที่ 1/2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และขณะนี้บุคลากรคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคลากรคนดังกล่าวให้เข้ามารับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ และพบว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 2 คน ซึ่งพักอยู่ห้องติดกับผู้ป่วยรายแรกและมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกัน

คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโควิด-19 จึงกำหนดมาตรการในดำเนินการดังต่อไปนี้

1. สอบสวนโรคผู้ป่วย 2 คนใหม่โดยเร็วที่สุด

2. ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย 2 คนดังกล่าวให้เข้ามารับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ โดยทันที

3. สอบสวนวงจรการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยดังกล่าวเพื่อกำหนดให้ผู้ที่มีความเสี่ยงภายในระยะเวลา 14 วัน ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ลาหยุดเพื่อกักบริเวณดูอาการเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา และสามารถขอรับการตรวจคัดกรองที่ศูนย์บริหารสุขภาพ จุฬาฯ โดยมหาวิทยาลัยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

4. ให้สำนักบริหารระบบกายภาพฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดตามมาตรฐานทางสาธารณสุขทั่วพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกรอบหนึ่ง

โดยมหาวิทยาลัยจะได้ดำเนินการมาตรการอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในฉบับที่ 1 ต่อไปด้วย

ทั้งนี้ตามแนวทางของกรมควบคุมโรค ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและต้องไปตรวจคัดกรองโรค คือ สมาชิกในครอบครัวเดียวกันกับผู้ป่วยที่มีการใกล้ชิดกัน ผู้ที่ได้พูดคุยกับผู้ป่วย 5 นาทีขึ้นไป ผู้ที่ผู้ป่วยมีอาการไอ จาม รด และผู้ที่อยู่ในสถานที่อับอากาศกับผู้ป่วยเกิน 15 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย สำหรับพฤติการณ์อื่น ๆ เช่น การพักอยู่อาคารเดียวกันกับผู้ป่วย การใช้พื้นที่สาธารณะเดียวกันกับผู้ป่วยนั้นมิได้เป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงสูง จึงไม่ควรตระหนกแต่ควรระมัดระวัง รักษาความสะอาด ไม่ไปในที่สาธารณะ และหมั่นประเมินสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ

ทัพบก เผย ยอดผู้สมัครเป็นทหารแบบออนไลน์ ต่อเนื่อง 6 วัน 1,466 คน ระบุ บางหน่วยมีผู้ยื่นความประสงค์ ขอเข้าประจำการเต็มจำนวนยอดทหารแล้ว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ กองทัพบก เปิดรับสมัครทหารกองเกินอายุ 18- 20 ปี และอายุ 22-29ปี สมัครเป็นทหารกองประจำการเป็นกรณีพิเศษ ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเว็บไซต์ เพื่อพัฒนาการตรวจเลือกให้สู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ตามแนวทางของกระทรวงกลาโหมและเปิดโอกาสให้ต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพนั้น

ข้อมูลการรับสมัคร 6 วันที่ผ่านมาพบว่า มีชายไทยสนใจเข้ายื่นความประสงค์อย่างต่อเนื่องกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคโดยส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบออนไลน์ด้วยตนเอง มีบางส่วนเดินทางมาประสานและขอใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จากหน่วยทหารหรือเจ้าหน้าที่สัสดีประจำอำเภอ/จังหวัด

โดยในช่วงวันที่ 1-6 ก.พ.64 มีจำนวนผู้สมัครเข้าสู่ระบบออนไลน์แล้ว 1,466 คน แยกเป็น กองทัพภาคที่ 1จำนวน 365 คน กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 405 คน กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 304 คน และกองทัพภาคที่ 4 จำนวน 392คน และผู้สมัครส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 18 - 20 ปี นอกจากนี้ มีบางหน่วยที่มีผู้ยื่นความประสงค์ขอเข้าประจำการเต็มจำนวนยอดทหาร

ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์นี้ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้มอบให้เจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอและจังหวัดลงพื้นที่ระดมประชาสัมพันธ์การรับสมัครทหารกองประจำการกรณีพิเศษแบบออนไลน์นี้ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับทหารกองเกิน และประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ผ่านเครือข่ายต่างๆในแต่ละพื้นที่ ทางสถานีวิทยุ สวท.ประจำจังหวัด วิทยุชุมชน เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล สถาบันการศึกษา การแจกเอกสาร การติดตั้งสื่อประชาสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเชิญชวนและส่งผ่านข้อมูลการรับสมัครให้เข้าถึงชายไทยที่มีคุณสมบัติได้พิจารณาอย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ สำนักงานสัสดีพื้นที่ต่างๆยังได้อำนวยความสะดวกให้คำแนะนำในการลงข้อมูลผ่านระบบออนไลน์กับผู้สมัครที่เดินทางมาติดต่อสอบถามที่สำนักงานสัสดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการรับสมัครจะยังคงมีต่อเนื่องจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านเว็บไซต์ rcm64.rta.mi.th

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะสมัคร ขอให้ได้อ่านคู่มือคำแนะนำและศึกษาเรื่องสิทธิคุณสมบัติให้ครบด้วนเป็นลำดับแรกก่อนที่จะกรอกข้อมูลสมัคร และเมื่อผู้สมัครได้กรอกข้อมูลในระบบครบถ้วนแล้วจะได้รับ “แบบตอบรับผลการรับสมัคร(แบบ กสด.64-1 )” นัดหมายไปเข้ารับการคัดเลือก ที่มณฑลทหารบก ที่เจ้าตัวสมัครไว้ในวันที่ 5 มีนาคม 2564 ต่อไป

กองทัพบกจึงขอเชิญชวน ทหารกองเกิน อายุ 18-20 ปี เกิด พ.ศ. 2644-2546 และผู้ที่มีอายุ 22-29 ปี เกิด พ.ศ.2535-2642 ที่ผ่านการตรวจเลือกแล้วแต่ไม่ได้เข้าประจำการเนื่องจากจับได้ “สลากดำ” หรือได้รับการ ”ปล่อยตัวเพราะมีผู้ร้องขอพอ”

โดยผู้ที่อยู่ในช่วงอายุข้างต้น สามารถสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ กรณีพิเศษ ทางออนไลน์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลชาติ พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และมีโอกาสต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพต่อไป “ สมัครเป็นทหาร มีงานมีความรู้ ร่วมดูแลแผ่นดิน”

‘เพื่อไทย’ เปิดตัวโครงการ ‘The Change Maker’ เฟ้นหาคนรุ่นใหม่ หาทางออก-สร้างความหวังประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของประเทศไทย

พรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการ “The Change Maker : นวัตกรรมทางการเมืองที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” (people-centric) ผ่านกิจกรรม “แฮกกาธอน” (Hackathon) หรือการสร้างนวัตกรรมแบบเร่งด่วน มาใช้ในการพัฒนาทางการเมืองจัดการเรียนรู้ผ่าน Interactive workshops หรือการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ แก้โจทย์ทางการเมือง โดยการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ 100 คน เข้าร่วมกระบวนการออกแบบนโยบายร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมลงพื้นที่จริงกับ ส.ส.ในพื้นที่ ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจริงตั้งแต่เริ่มเสนอปัญหา ไปสู่โปรเจคทดลอง (Pilot Project) เพื่อแก้ปัญหาระดับชาติได้จริงในอนาคต

นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โครงการ The Change Maker เป็นอีกก้าวหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยจะ Disrupt ตัวเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานของพรรคอีกครั้ง นับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เชื่อว่าโครงการนี้จะได้บุคคลและนโยบายใหม่ ๆ มาพัฒนาประเทศ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคยังคงแข็งแกร่ง และยังคงยึดมั่นในจุดยืนเดิมที่เป็นสมองของประเทศ ด้วยบุคลากรทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ และผู้มากประสบการณ์ ที่จะร่วมกันนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤตและพัฒนาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้

นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย และโครงการ The Change maker กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นการปลุกความหวังของคนในสังคมไทยให้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีคนรุ่นใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เข้ามาร่วมผนึกกำลังกับทางพรรคที่มี ส.ส. นักการเมืองที่มากประสบการณ์ และ Ecosystem ที่พร้อมสำหรับสถาบันทางการเมือง เพื่อสรรหานโยบายที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาของยุคสมัยได้

ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ที่ปรึกษาและ Mentor ของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเผชิญกับมหาวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวม 5 ด้านและเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ได้แก่ 1.วิกฤติการเมือง รัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งแบ่งข้างในสังคม 2.วิกฤติเศรษฐกิจที่หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเพราะกระทบทุกคนในสังคม 3.วิกฤติทางสังคม ความเหลื่อมล้ำมากขึ้นทุกที การศึกษาที่อ่อนด้อย 4.วิกฤติโรคระบาดซึ่งกระทบทั้งโลก สร้างความเสียหายยิ่งกว่าสงครามโลก และ 5.วิกฤติการดิสรัปต์ของเทคโนโลยี ทำให้เกิดภาวะชนชั้นไร้ประโยชน์ การตกงานอย่างกว้างขวาง ซึ่งมหาวิกฤติในครั้งนี้ ผู้รับผิดชอบไม่มีการเตรียมการรองรับแรงกระแทกอย่างเพียงพอและจริงจัง จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยเหลือพวกเรากันเอง ซึ่งโครงการ The Change Maker จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันคิดหาทางออกจากวิกฤติ และเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยให้แข็งแรงขึ้น มีภูมิต้านทานในการรับมือกับทุกเรื่องที่เข้ามาได้

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาด้านหลักสูตรของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า สถาบันการเมืองเปรียบเสมือนที่พึ่งที่หวังของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พรรคเพื่อไทยซึ่งมีเบ้าหลอมมาจากพรรคไทยรักไทย ถือเป็นพรรคการเมืองสามารถครองใจประชาชนมาตลอด 20 ปี โดยมี “เคล็ดลับครองใจประชาชน” 3 ชุด ได้แก่ 1.คน คิด เคลื่อน โดยพรรคไทยรักไทยสามารถรวบรวมบุคคลที่มีความสามารถ มุ่งมั่น ร่วมกันคิดเสนอนโยบาย แนวทางแก้ปัญหาที่ทำได้จริง เพราะคิดแนวทางการปฏิบัติไว้ถูกต้อง 2. ICE : โดย I (Inclusive) ระดมความเป็นเจ้าของและการมีส่วนร่วม ส่วน C (Collaborative) ร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ประสานประโยชน์อย่างเหมาะสม และ E (Empower) ทำให้ประชาชนมีอำนาจ มีสิทธิ์ มีศักดิ์ศรี ผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเท่าเทียม เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และการปรับทัศนคติว่าข้าราชการไม่ใช่ “นาย” แต่เป็น “ผู้ให้บริการ” เป็นต้น

นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า เคล็ดลับข้อที่ 3.คือ 3C ซึ่งเป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ โดย C ตัวแรกคือ Creative คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ คนรุ่นใหม่ พลังสร้างสรรค์สูงกว่า ผู้ใหญ่ต้องรับฟังและเลือกเป็น Communication เลือกสาระ เข้าใจเจตนาร่วม จึงจะบริหารประเทศ สำเร็จ และ Contest การแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้เกิดพลังที่สร้างสรรค์และท้าทาย เชื่อว่าหากนำเคล็ดลับนี้นำไปสร้างสรรค์โครงการ เพื่อระดมคน ความคิด และความร่วมมือ จะช่วยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้

โครงการ The Change Maker เปิดรับบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ช่องทาง Google Form ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดของการรับสมัครเพิ่มเติมและความคืบหน้าของโครงการได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ Telegram “THINKPHEUTHAI”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top