เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ซึ่งเป็นวันที่พันเอกหลวงพิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกลอบสังหารอีกเป็น ‘ครั้งที่ 2’ โดยการใช้ปืนยิง ซึ่งในวันที่ถูกยิงเป็นช่วงเวลาหลังการยุบสภาและก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 และแม้ว่าหลวงพิบูลสงคราม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งโดยตรง เพราะตัวท่านเองไม่ได้ลงเลือกตั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านเองเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดโดยฐานสนับสนุนทางกองทัพ
ซึ่งเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นตอนค่ำของวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 ที่บ้านพักนายทหารของท่านเอง ในกรมทหารปืนใหญ่บางซื่อ ขณะที่หลวงพิบูลสงครามและภริยากำลังแต่งตัวจะไปงานเลี้ยงรับรองที่กระทรวงกลาโหม นายลี บุญตา เป็นคนสวนและคนขับรถในบ้านได้แอบเอาปืนพกของคุณหลวงพิบูลสงครามเองที่ท่านวางไว้ในรถออกมาลอบยิงท่าน
บังเอิญท่านกำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกส่องหน้าจึงได้มองเห็นก่อนที่นายลี บุญตา จะลั่นไกกระสุนนัดแรก เมื่อนัดแรกพลาด ท่านจึงวิ่งหลบออกจากห้อง โดยนายลี บุญตา พยายามวิ่งไล่และยิงซ้ำอีก แต่กระสุนก็พลาดเป้า และทหารติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายทหารคนสนิทของรัฐมนตรี คือ ร.อ.เผ่า ศรียานนท์ ได้วิ่งเข้าไปจับตัวมือปืนเอาไว้ได้
มือปืนรายนี้ถูกจับดำเนินคดีโยงเข้ากับกลุ่มกบฏพระยาทรงสุรเดช แต่จากคำให้การของ นายลี บุญตา นั้นดูจะเป็นเรื่องแปลก นายลี บอกว่า
“ได้อยู่กับหลวงพิบูลมา 7 ปีแล้ว ได้เงินเดือนครั้งแรก 6 บาทและขึ้นมาเป็นลำดับจนถึงวันเกิดเหตุได้เดือนละ 25 บาท หลวงพิบูลเป็นคนใจคอดี ไม่เคยดุด่าว่าจำเลยแต่อย่างใดเลย วันเกิดเหตุได้ยิงหลวงพิบูลสงคราม 2 นัดจริง นัดแรกยิงเมื่อหลวงพิบูลสงครามได้วิ่งเข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่งแล้วปิดประตู จำเลยได้ผลักประตูตามเข้าไปยิงอีก คนที่อยู่ในห้องนั้นตลอดจนหญิงและเด็ก ต่างร้องเสียงเกรียวกราว แล้วจึงมีนายร้อยตรี ผล มาตวัดคอ แย่งปืนไป การที่ยิงนั้นเพราะเมาและไม่ได้ตั้งใจจะยิง”
โดยจากการที่ นายลี บุญตา อ้างว่า “เมา” และ “ไม่ได้ตั้งใจยิง” นั้นมีความผิดปกติไม่น้อย จาการอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจยิงหากแต่ยิงออกไปถึง 2 นัด แต่ขณะเดียวกันก็ยิงไม่โดนทั้ง 2 นัด ซึ่งดูสมเหตุสมผลกับสิ่งที่นายลี อ้างว่าตนเองนั้นเมา แต่การเมาไปหยิบปืนของนายพันเอกหลวงพิบูลสงครามมาได้อย่างไรเหมือนรู้ และถ้าไปดูคำให้การของนายทหารติดตามรัฐมนตรีที่แย่งปืนมาได้ก็ให้การว่า นายลี บุญตา วิ่งไล่ยิงเจ้านายของตัว จนวิ่งหนีแทบไม่ทัน