Tuesday, 8 October 2024
NEWS FEED

ผบ.ตร. ร่วมวงปาฐกถาและมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตจุฬาฯ ในโครงการ Special LawLAB

ผบ.ตร. ร่วมวงปาฐกถาและมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตจุฬาฯ ในโครงการ Special LawLAB 'การสืบสวนสอบสวนยุค 5G' หรือ โครงการนำร่องศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง(Young Lawyers – Police Engagement Pilot Project) ตามความร่วมมือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

(15 กันยายน 2565) ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น., ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นิสิตคณะนิติศาสตร์ฯ ที่ร่วมโครงการ และกลุ่มครูพี่เลี้ยงจากสถานีตำรวจนครบาล 5 สถานี ประกอบด้วย สน.พญาไท, สน.ห้วยขวาง, สน.บางเขน, สน.บางนา และ สน.พระโขนง ได้ร่วมวงปาฐกถาประสบการณ์ที่น้องๆนิสิตได้ไปดูการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการตำรวจ ร่วมถึงฝึกปฏิบัติงานจริงที่สถานีตำรวจ

โดยในช่วงแรกให้นิสิตฯ ที่ไปดูการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ และฝึกปฏิบัติงานจริง ตามสายงานต่างๆ เช่น งานสอบสวน งานป้องกันปราบปราม งานสืบสวนสอบสวน งานจราจร ได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงาน ซึ่งน้องๆ ได้กล่าวถึงปัญหาปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นจริง ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ เช่น ปัญหาด้านกำลังพลที่มีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ด้านการบังคับใช้กฎหมายต้องคำนึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่อาจไม่ตรงตามหลักทฤษฎี ประชาชนไม่ทราบเขตอำนาจสอบสวนของแต่ละ สน. รวมถึงขาดการพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งน้องๆที่เข้าร่วมโครงการกล่าวว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหา ข้อขัดข้องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยอยากให้จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง แต่อยากให้จัดในช่วงของการปิดภาคการศึกษา และเพิ่มระยะเวลาการฝึกให้มากกว่านี้ เพราะการฝึกแต่ละสายงานมีรายละเอียดค่อนข้างมาก พร้อมได้กล่าวขอบคุณคณะครูพี่เลี้ยง ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เป็นอย่างดีขณะที่ฝึกปฏิบัติงาน

เพื่อนสารภาพทำปืนลั่น ไม่ใช่คีย์บอร์ดระเบิด หลังพกปืนปากกา เข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์

จากกรณีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้ระเบิด ทำให้นักเรียนชายวัย 15 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าสาหัส บริเวณคิ้วซ้ายมีบาดแผลแตกลึก เจ้าหน้าที่เร่ง CPR แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุด วันที่ 15 ก.ย. 65 พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ที่เกิดเหตุ พบเด็กนักเรียนชายที่เสียชีวิตถูกวัตถุบางสิ่งบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ทำให้มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า 1 จุด เป็นสาเหตุทำให้เสียเลือดมากจนทำให้เสียชีวิต ซึ่งยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าวัตถุดังกล่าวเป็นสิ่งใด ต้องรอการตรวจสอบจากแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง เบื้องต้นจากการตรวจสอบในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ไม่พบวัตถุที่เป็นอาวุธปืนหรือระเบิด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเพื่อนนักเรียนไปสอบปากคำ ต่อมาได้รับสารภาพว่ามีเพื่อนนำปืนปากกาไปในห้องเรียน หลังจากนั้นได้ทำปืนลั่นเข้าตาด้านซ้าย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุการเกิดปืนลั่น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนว่าปืนดังกล่าวมาได้อย่างไร และเกิดเหตุขึ้นได้อย่างไร

'สมาคมศิษย์เก่าราชภัฏธนบุรี' จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยเกียรติยศหารายได้เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษา

สมาคมศิษย์เก่า ม.ราชภัฏธนบุรี จัดแถลงข่าวการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยเกียรติยศ เพื่อหารายได้สนับสนุนด้านการศึกษา รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของนักศึกษา ม.ราชภัฏธนบุรี โดยมีการจัดแถลงข่าวภายในห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ อาคาร 2 ชั้น 8 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี กรุงเทพฯ 

โดยมี ผศ.ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นประธานในการเปิดการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายมนตรี นาคลดา นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ประธานจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล พร้อมทั้งได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.พิรุฬห์ พิหเคนทร์  ที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่า มรธ. ดร.คณพศ นิจสิริภัช ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการของ มรธ. ดร.วิชัย ปิยวรรณวงศ์ อดีตที่ปรึกษาประธานรัฐสภา นายอุทัย พิมพ์ใจชน และผศ.ดร.ขจรพงศ์ คำดี ที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่า มรธ.ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

'ตำรวจไซเบอร์' ขยายผลทลายเครือข่ายคดีหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ตรวจยึดของกลางกว่า 100 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการชักชวนหลอกลวงให้ลงทุนออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าเป็นภัยออนไลน์ที่ได้สร้างความเสียหายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าความเสียหายจากการถูกหลอกลวงทั้งหมด 

วันนี้ (15 ก.ย. 65) เวลา 11.00 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3, นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงาน ปปง. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการขยายผลทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก มีรายละเอียดดังนี้

ตามที่เมื่อวันที่ (5 ส.ค. 65) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงผลการทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหาที่ได้หลอกลวงชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนปลูกเห็ด กัญชา พืชกระท่อม เลี้ยงผึ้ง ฯลฯ โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ต่อมาผู้ต้องหากับพวกอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย จากนั้นพนักงานสอบสวนปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 9 ราย 

ผลการปฏิบัติสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย และสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกว่า 72 บัญชี อายัดเงิน ได้กว่า 17.5 ล้านบาท นั้น ต่อมาในระหว่างเดือน ส.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย 

กระทั่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า บริษัท พี เอ็น ดิจิทัล มาเก็ตติ้ง ออนไลน์ จำกัด มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบริษัท ไมน์นิ่งมายน์ เอ็กซ์ จำกัด และ หจก. สถานีหลักสี่ ของกลุ่มผู้ต้องหา โดยถูกว่าจ้างให้ทำการโฆษณา สร้างภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ หลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุน โดยได้รับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหากว่า 72 ครั้ง รวมเป็นเงิน 134 ล้านบาท พงส. จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรีขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 จุด คือ 
1. บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง 57 รายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับทองคำ, นาฬิกา, โฉนดที่ดิน และเงินสด จำนวน 10.6 ล้านบาท
2. บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองสามวา เขตสามวาตะวันตก กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง ตู้นิรภัยบรรจุเงินสด จำนวน 88 ล้านบาท รถยนต์ ยี่ห้อ ปอร์เช่ (Porsche) สีส้ม รุ่น Boxster PDK 1 คัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมธนารักษ์ จัดทำโครงการบ้านพักสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย

วันที่ (15 ก.ย. 65) เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบ้านพักสวัสดิการเพื่อข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรงการคลัง โดยมีนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์เป็นผู้แทนลงนามฯ ทั้งนี้ มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมธนารักษ์ร่วมในพิธีฯ

สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ตามที่ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข 
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ และลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอ และในกรณีของข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ประสบปัญหาไม่มีที่พักอาศัยเนื่องจากต้องคืนบ้านพักราชการ 

ตำรวจท่องเที่ยวร่วมตามหาคนเยอรมันหาย

วันนี้ (15 ก.ย.65) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่ได้มีข่าวแพร่กระจายใน social media หลาย platforms กรณีขอให้สังคมช่วยกันตามหาคนเยอรมันสูญหายชื่อ Mr Tim Pössel ซึ่งเดินทางมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 และติดต่อครอบครัวครั้งสุดท้ายวันที่ 20 ส.ค. 65 จากนั้นได้หายตัวไปโดยไม่สามารถติดต่อได้อีกนั้น 

ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้รับทราบกรณีดังกล่าวตามที่แพร่กระจายใน social media แล้วจากการประสานงานของ Police TV ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทาง Police TV ไว้ ณ ที่นี้ และได้ร่วมเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยตรวจสอบและตามหาบุคคลสูญหายรายนี้ด้วย 

โดยการดำเนินการนั้น ได้ประสานกับกงสุลสถานทูตเยอรมันีประจำประเทศไทยเพื่อรับทราบข้อมูลเพื่อที่จะทำงานบูรณาการไปด้วยกัน จากนั้นได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศให้เร่งสืบหาโดยด่วน รวมทั้งหาข้อมูลการเข้าออกเมืองโดยประสานงานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองด้วย นอกจากนี้ยังติดต่อไปยังเพจต้นทางที่ลงเรื่องนี้ และกำลังพยายามติดต่อกับครอบครัวของผู้สูญหายอยู่ 

โดยเมื่อเย็นวันที่ (14 ก.ย. 65) ก็ได้รับแจ้งข้อมูลว่า Mr Tim Pössel ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วเมื่อวันที่ (5 ก.ย. 65) โดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 

สำหรับข้อมูลทั่วไปที่เปิดเผยได้นั้น Mr Tim Pössel มีชื่อเต็มว่า Timothy  Benjamin Pösel เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน มีการเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยเข้าครั้งล่าสุดในวันที่ 16 ส.ค.65  และเดินทางประเทศไทยไปล่าสุดวันที่ 5 ก.ย.65 ตามที่ได้กล่าวไป ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวขอถือโอกาสนี้แจ้งสื่อมวลชนเพื่อขอความร่วมมือแจ้งไปยัง social media ทุก platforms ต่อกรณีดังกล่าวนี้ด้วย และจะหาทางติดต่อครอบครัวของ Mr Tim Posel ให้ทราบความคืบหน้าต่อไป 

พล.ต.ต. อภิชาติฯ โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้กล่าวขอบคุณ Police TV ที่ได้แจ้งเรื่องนี้มาให้ทราบ และขอขอบคุณสื่อใน social media ทุก platforms ที่ได้ช่วยกันทำหน้าที่เจ้าภาพที่ดีในครั้งนี้ โดยเมื่อสังคมและประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาแล้ว ตำรวจก็สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น นี่คือบรรยากาศที่ทุกประเทศที่พัฒนาแล้วต้องการอย่างยิ่ง นั่นคือ ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยหากความร่วมมือในลักษณะนี้เข้มแข็งแล้ว สังคมก็จะปลอดภัย และการท่องเที่ยวก็จะมีความมั่นคง ซึ่งจะทำให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยได้อย่างดี นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า นี่คือการใช้เทคโนโลยีในทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคมโลกเป็นอย่างย่ิง ตำรวจท่องเที่ยวพร้อมเสมอที่จะรับใช้สังคมและประชาชน และดูแลความปลอดภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศทุกคนที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

จับกุมแพลตฟอร์มไดมอนด์ล็อตเตอรี่ หลอกลวงขายสลากทิพย์เกินราคา

จากกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ จนท.กองสลากฯ เปิดปฏิบัติการตรวจสอบ สืบสวน และดำเนินคดีกับบริษัทหรือผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านระบบแพลตฟอร์มของตนเองทางออนไลน์ในราคาสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติกรรมนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตนเองไม่มีอยู่จริง (สลากทิพย์) มาจำหน่ายให้กับประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมดำเนินคดีกับผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทที่มีพฤติกรรมดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายราย มีทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารานักแสดง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอแล้ว นั้น ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลุ่มบุคคลหรือแพลตฟอร์มใช้ชื่อว่า “ไดมอนด์ล็อตเตอรี่” มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายสลากเกินราคา และนำเอาภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่มีอยู่จริงมาจำหน่ายแก่ประชาชน  มีการนำโลโก้ของแพลทฟอร์มของตนเองมาปกปิดบาร์โค้ด และอัตลักษณ์ประจำของตัวสลากกินแบ่งรัฐบาล พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ฯ จึงได้สั่งการให้พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7,พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 พร้อมชุดปฏิบัติการปราบปรามฯ ร่วมกับ นายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เร่งทำการสืบสวน ตรวจสอบโดยเร่งด่วน

​จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า แพลตฟอร์ม “ไดมอนด์ล็อตเตอรี่” มีนายวิชัย กุนโรมจันทร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/4 หมู่ 8 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจ้าของแพลทฟอร์ม มีพฤติกรรมในการนำเอาภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายภายในแพลตฟอร์มของตนเอง ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น Line Official (OA) โดยจะนำโลโก้ของแพลทฟอร์มของตนเองมาปกปิดบาร์โค้ด และอัตลักษณ์ประจำของสลาก นำมาจำหน่ายในราคาฉบับละ 100 บาท และเมื่อมีผู้สั่งซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลใบที่ต้องการ ก็จะไม่มีสลากตัวจริงมอบให้กับผู้ซื้อ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจพบว่า ภาพสลากที่ถูกจำหน่ายนี้มีบางฉบับมีการเสนอจำหน่ายอยู่ในอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง โดยที่แพลตฟอร์มนั้นมีสลากกินแบ่งตัวจริงให้กับผู้ซื้อ พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายการหลอกลวงจำหน่ายสลากกินแบ่งให้กับประชาชนโดยไม่มีสลากจริง

​ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการฯ สามารถจับกุม นายวิชัยฯ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต  ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ค้าสลากในคราวนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำผิดในลักษณะที่มีการนำเอาภาพสลากกินแบ่งนำมาเสนอขายเกินราคาในแพลตฟอร์มของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นภาพสลากที่ถูกปิดบังบาร์โค้ดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ซึ่งเป็นการส่อเจตนาทุจริต และหลังจากการตรวจสอบเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ สามารถยืนยันได้ว่า เป็นสลากที่มีการเสนอขายในแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว จึงต้องสั่งการให้มีการดำเนินคดีโดยเร่งด่วน เพื่อมิให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่อและหลงเชื่อกลลวงเช่นนี้อีก และจะยังมีการตรวจสอบแพลตฟอร์มที่มีพฤติการณ์ลักษณะนี้เพื่อนำมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องต่อไป

'ชัยวุฒิ' เตรียมใช้ AI พยากรณ์อากาศให้แม่นยำมากขึ้น ด้านกรมอุตุฯ พยากรณ์ 'ฝนตก' ถึงเดือนตุลาคม

ชัยวุฒิ ยืนยัน กรมอุตุฯ พยากรณ์ฝนตกถึงเดือนตุลาคม ภาคใต้ เตรียมรับมือน้ำท่วม ย้ำกทม.ไม่วิกฤตเหมือนปี 54 เตรียมนำ AI มาใช้เพื่อให้พยากรณ์อากาศแม่นยำมากขึ้น

(15 ก.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวเปิดการประชุม APEC Climate Symposium 2022 (APCS 2022) เปิดเผย ระหว่างเป็นประธาน เปิดงาน การเสริมสร้างความสามารถการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเอเปคด้วยแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ ว่า...

ภาพรวมวันนี้ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งน่าจะไปถึงสิ้นเดือนตุลาคม คาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องไปอีกหนึ่งถึงสองสัปดาห์ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข่าวการแจ้งเตือนเรื่องภัยน้ำท่วม เพราะยังมีโอกาสอยู่ที่จะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่อย่างเช่นที่เกิดในช่วงที่ผ่านมาเช่น พื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเร่งระบายน้ำเพื่อรองรับโอกาสที่จะมีฝนตกเติมเข้ามาอีก ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ อาจจะมีพายุ เข้ามาในประเทศไทยได้อีก หนึ่งถึงสองลูกในช่วงกันยายนถึงตุลาคม ทางกระทรวงดิจิทัลก็ติดตามเฝ้าระวังอยู่ และหลังจากเดือนตุลาคมร่องมรสุมก็น่าจะลงไปทางภาคใต้ ซึ่งต้องติดตามเฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมในพื้นภาคใต้อีกด้วย

ปัจจุบันรัฐบาลทํางานแบบบูรณาการมีระบบไอที ระบบคอมพิวเตอร์มาใช้เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด การพยากรณ์อากาศโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์แล้วส่งข้อมูลไปที่กทม. สำนักงานระบายน้ำกรมชลประทาน ศูนย์เตือนภัย ปภ. กระทรวงมหาดไทยจะมีข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงกัน ที่สําคัญคือ เมื่อมีการแจ้งเตือนไปแล้วจะมีการประสานงานกันเพื่อให้ทุกหน่วยงานได้มีแผนในการรับมือกับปริมาณน้ำที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องเรียนให้พี่น้องประชาชน ถึงแม้ว่าเราจะทราบล่วงหน้าว่าจะมีฝนตกหนัก แต่ด้วยระบบการระบายน้ำ หรือสภาพพื้นที่ของเรา เช่นอย่างใน กทม.ท่อระบายน้ำอาจจะเล็ก มีถนน มีชุมชนเยอะ การระบายน้ำก็เป็นไปได้ยาก

รุกติดอาวุธทางปัญญาชาว ต.วังหินลาด สร้างเครือข่าย “นักข่าวชาวบ้าน” รู้เท่าทันกลโกงสื่อออนไลน์

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า แนวโน้ม การรับรู้ และเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในปัจจุบันมีมากขึ้น ประกอบกับการเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้พื้นที่การเสนอข้อมูลข่าวสารสังคมทั่วโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับสื่อดั้งเดิม หรือนักข่าวกระแสหลัก จากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์อีกต่อไป ปรากฏการณ์ของ “นักข่าวชาวบ้าน” ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ผลิตและเผยแพร่ข่าว ทำให้เกิดปรากฏการณ์ว่า “ใครๆ ก็เป็นนักข่าวได้” ดูจะไม่ใช่คำพูดเกินจริงสำหรับยุคนี้ ด้วยความที่อุปกรณ์การสื่อสารทุกวันนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายหน้าที่ และสามารถพกพาติดตัวได้ตลอด บวกกับทิศทางของข่าวในกระแสหลัก มักจะให้น้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ข่าวของคนธรรมดา หรือเรื่องเล่าจากชุมชน จึงไม่ได้รับนำเสนอผ่านสื่อหลัก

“นักข่าวชาวบ้าน” คือ ปรากฏการณ์ที่ประชาชนจากหลายกลุ่ม หันมาจับกล้องสวมบทบาทเป็นนักข่าว บอกเล่าเรื่องราวในท้องถิ่นของตน แนวคิดนี้กำลังอยู่ในกระแสความสนใจ โดยมีการขยายแนวคิดนี้ ให้คนธรรมดาที่สนใจได้เปลี่ยนบทบาทเป็นนักข่าวชาวบ้าน ทำให้เกิดคำถามว่า “นักข่าวชาวบ้าน” มีมโนทัศน์เกี่ยวกับจริยธรรมสื่อในการผลิตและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างไร การรายงานข่าวสาร ข้อมูล เรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ หรือความสนใจของประชาชนผ่านทางสื่อออนไลน์อย่างเป็นอิสระ โดยไม่ได้ผ่านการฝึกฝนหรืออบรมวิชาชีพสื่อสารมวลชน ผลิตเนื้อหาข่าวเผยแพร่ไปสู่สาธารณะด้วยตัวเอง การรายงาน ข้อมูลข่าวที่เน้นความรวดเร็วของนักข่าวชาวบ้านผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่มีการตรวจสอบโดยกองบรรณาธิการ ทำให้เกิดปัญหาข่าวสารที่มีลักษณะไม่รอบด้าน หรืออาจมีการเผยแพร่รูปภาพที่ไม่สมควรออกไป นำไปสู่ปัญหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การละเมิดลิขสิทธิ์ หมิ่นประมาท และโฆษณาแฝง

ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีงานเจ เยาวราช 2565 'เถลิงถวัลย์ 70 พรรษา มหามงคล'

ที่ ห้องบอลรูม ชั้น 10 โรงแรม แกรนด์ไชน่าเยาวราช เวลา 10.00  น. วันนี้( 15 ก.ย.65) : นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายพินิจ  กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร  เขตสัมพันธวงศ์  นายธีรเดช  สินธพเรืองชัย  ประธานจัดงานประเพณีงานเจ  เยาวราช และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ร่วมกันแถลงข่าวงาน “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2565”

นายธีรเดช สินธพเรืองชัย ประธานการจัดงาน “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2565” เปิดเผยว่า ประเพณีงานเจเยาวราชเป็นประเพณีสำคัญประจำปีที่เกิดจากแรงบันดาลใจ และศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีนในย่านเยาวราช และร่วมสืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย ถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งพ่อค้า ประชาชน ชุมชน ผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร และกลุ่มผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานเป็นประจำทุกปี กลายเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลงานเจกรุงเทพฯ ที่มีผู้ถือศีลกินเจทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นจำนวนมาก

สำหรับ “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2565” มีกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช ภายใต้แนวคิด “เถลิงถวัลย์ 70 พรรษา มหามงคล” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 70 พรรษา และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระพันปีหลวงที่พระองค์ทรงมีพระชนมพรรษายืนยาวถึง 90 พรรษา พร้อมร่วมดำรงไว้ซึ่งประเพณีถือศีลกินเจเยาวราชที่จัดขึ้นอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สักการะและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งเยาวราชที่อัญเชิญมาไว้ในมณฑลพิธี โดยการจัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ งานด้านพิธีกรรม และงานด้านพิธีการ

สำหรับงานด้านพิธีกรรม : มี 3 องค์ประกอบ คือ มงคลสถาน : ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ เยาวราช เป็นมณฑลพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเยาวราช ให้ความเคารพ และจัดพื้นที่ต้อนรับเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ สำหรับเทศกาลงานเจนี้ ได้ใช้พื้นที่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ เยาวราช เป็นพื้นที่มณฑลพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ 

ตำนาน 22 ศาลเจ้า : พิธีรวมผงธูปจาก 22 ศาลเจ้าในเยาวราช ซึ่งในแต่ละปีมีประชาชนจากทั่วทุกมุมโลกมากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าต่าง ๆ ทั้ง 22 ศาลเจ้าเป็นจำนวนมาก ด้วยแรงอธิษฐาน แรงศรัทธาได้ส่งผ่านธูปที่ปักไปยังเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์ คนแล้วคนเล่า ปีแล้วปีเล่า นานนับช่วงอายุคน ด้วยแรงอธิษฐานและความเชื่อมั่นในพลังแห่งศรัทธา จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และเป็นมงคลชีวิตแด่ผู้ประพฤติดีทุกคน โดย ใน 1 ปีจะมีการ รวมผงธูปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อเป็นมวลสารสำคัญในการประกอบพิธี และจะอัญเชิญผงธูปมวลสารจาก 22 ศาลเจ้ามาประดิษฐานที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ  เยาวราช ตลอดงานกินเจ 10 วัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top