Friday, 29 March 2024
NEWS FEED

สุโขทัย-อสม. "สุโขทัยชวนวิ่ง" ครั้งที่ 1

สมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย จัดกิจกรรม อสม. สุโขทัยชวนวิ่ง  2021 ครั้งที่ 1 ในเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ณ.เกาะกลางรูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) ตำบลบ้านกล้วย เมืองสุโขทัย ซึ่งมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ทั้ง 9 อำเภอ เข้าร่วมกิจกรรมการ  การแข่งขันในครั้งนี้  แบ่งออกเป็น  2 ประเภท คือ   มินิฟันรัน  3  กิโลเมตร   ฟันรัน 6 กิโลเมตร  พร้อมมาตรการจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมงาน ลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น”ไทยชนะ” มี ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย เขต 1 ร่วมกิจกรรมนำวิ่ง พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน โดยมีนายจรัญ จันดี รองแพทย์ สสจ.สุโขทัย นางผ่องนภา เนียมน่วม นายกสมาคม อสม.จ.สุโขทัย อสม.ทุกอำเภอ  นายสมคิด เดชชุษณะนาถ ชมรมวิ่ง 2.5 สุโขทัย พร้อมคณะร่วมจัดกิจกรรม

'น้าแอ๊ด' แนะ!! อย่าเชื่อฝรั่งเข้ามาแบ่งแยกคนไทย อ้างประชาธิปไตยมาใช้ยึดประเทศ

“น้าแอ๊ด” อบรมสามนิ้ว! อย่าเชื่อพวกฝรั่งเข้ามาแบ่งแยกคนไทย ซัดอ้างปชต. แต่แอบยึดประเทศ!

จากกรณีของสถานการณ์ในประเทศไทย เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งมีเป้าหมายไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกล่าวอ้างว่า เป็นเพียงการปฏิรูป และภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนนั้น เป็นการล้มล้างการปกครอง ทั้งยังมีขบวนการต่างชาติ เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย ด้วยเจตนาที่จะก่อให้เกิดเหตุความวุ่นวาย และใช้เด็กเป็นเหยื่อทำให้สังคมไทยแตกแยกนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในความสงสัย เป็นที่เฝ้าจับตามองของคนไทยมาโดยตลอด

รวมถึงข้อสงสัยว่าใครบ้างอยู่เบื้องหลังชักใยเด็กเหล่านี้ นับแต่เกิดการชุมนุมของ “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” หรือในนาม “กลุ่มคณะราษฎร 2563”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ในรายการ คุยให้เด็กมันฟัง ที่มีน้าเน็ก ป๋อง กพล และเสนาหอย เข้ามาร่วมพูดคุย โดยแขกรับเชิญก็คือ ยืนยง โอภากุล หรือน้าแอ๊ด คาราบาว ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตระดับตำนานของเมืองไทย ได้เล่าถึงเหตุการณ์และจุดเริ่มต้นของการแต่งเพลงเพื่อชีวิต และได้พูดในรายการมีเนื้อหาที่น่าสนใจว่า

“อยากจะเตือนคนไทยด้วยกันว่า ถ้าเรารักกันต้องสามัคคีกัน อย่าไปเชื่อไอ้พวกฝรั่งที่เข้ามาแบ่งแยกเราแล้วปกครอง เวียดนามโดนฝรั่งเศส ทำให้เกิดการลุกขึ้นมาต่อสู้ ปลดปล่อยจากฝรั่งเศสแล้ว ไอ้ญี่ปุ่นกับไอ้กัน ก็มันเข้ามาอีก ในที่สุดไอ้กันก็เข้ามาเสือก ดูซิว่ามันสูญเสียงบประมาณเท่าไหร่ ในอินโดจีน ไม่ว่าจะเวียดนาม ลาว เขมร มันเสียเท่าไหร่ คุ้มไหมกับที่มันลงทุน มันมีความหวังอะไรกับเรา เพราะมันต้องการจะมายึดแผ่นดินของพวกเรา ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้ มันจะยึดของพวกเราด้วยอะไร เมื่อก่อนมันจะยึด ด้วยอาวุธกองทัพ แต่ตอนนี้มันจะยึดด้วยประชาธิปไตย ผมพูดแค่นี้จบ”

ผู้ว่าฯนราธิวาส พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาด จ.นราธิวาส ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก

จากเหตุพนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพังส่งผลให้น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 700 หลังคาเรือน นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส หลังจากที่เกิดกรณีพนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพัง ส่งผลให้น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลมูโนะ ได้รับความเสียหายจำนวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่บ้านมูโนะ หมู่ที่ 1 และบ้านปาดังยอ หมู่ที่ 3 ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร 700 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 1,975 คน

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากการที่พนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกพัง เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลทะลักจากแม่น้ำสุไหงโกลก เข้ามาท่วมในพื้นที่บ้านเมืองราษฎร พื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ของตำบลมูโนะ เสียหายไป 700 หลังคาเรือน ด้วยความห่วงใยพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย จึงได้มาสำรวจที่เกิดเหตุ และคาดว่าพนังกั้นน้ำน่าจะมีรอยรั่วหรือมีการกัดเซาะ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มากว่า 10 ปีแล้ว

ในครั้งนี้ตั้งใจนำเวชภัณฑ์ และหน้ากากอนามัยนำมามอบให้กับพี่น้องที่ประสบอุทกภัย พร้อมกับถุงยังชีพช่วยเหลือในเบื้องต้น  อย่างไรก็ตามในส่วนของการช่วยเหลือในเรื่องของการอพยพ ได้จัดจุดอพยพพี่น้องประชาชน ไว้ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในหมู่บ้าน ซึ่งทางส่วนท้องถิ่น โดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็ได้จัดอาหารไว้ 3 มื้อ ดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึงแล้ว

 

อยุธยา- จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ททท. แถลงข่าวจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2022 พร้อมรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ในปี 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง

นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ร่วมกับ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว เตรียมจัดงานเฉลิมฉลอง Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya เบิกนภารับขวัญปีใหม่  ในระหว่างวันที่ 27 – 31 ธันวาคม 2564 ณ วัดพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ภายในงานจะมีโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ  โซนตลาดน้ำวิถีไทยภาคกลาง เล่าเรื่องราวความผูกพันของคนทยกับสายน้ำผ่านมัลติมีเดียแสง โซนเวทีการแสดง โดยแรงบันดาลใจจาก "พระปรางค์" อันเป็นสิ่งก่อสร้างประเภทหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย โดยหยิบยกรูปทรงของพระปรางค์และนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีนทันสมัย กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรีไทยพื้นบ้านภาคกลางประยุกต์และร่วมสมัย วงดนตรีท้องถิ่น (Local Band) ตลาดวิถีไทย (Thai Street Market) มหกรรมอาหารไทย ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จาก SME ภาคกลาง นอกจากนั้น ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การตกแต่งประดับไฟสวยงาม / ขบวนพาเหรดพชุดพิเศษ "ปีใหม่สุขใจไทยระรื่น  การแสดงโขนสมมุติชุดใหญ่ 30 คน การแสดงพลุ 7 องก์

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวว่า จากมติศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ที่ได้อนุมัติจัดงาน  Amazing Thailand Countdown 2022 ในพื้นที่ 5 จังหวัดหลักของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ระยอง นครราชสีมา ภูเก็ต และพระนครศรีอยุธยา ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดนั้น   สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นพื้นที่ตัวแทนของภาคกลางภายใต้ซื่องาน Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya ผ่านธีมอู่ข่าวอู่น้ำ โดยมีคอนเซ็ปต์ The Flow of Life สะท้อนความโดดเด่นของภาคกลางที่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ   โดยร้อยโยงเป็นความผูกพันของสายน้ำกับการใช้ชีวิต พร้อมกับอำนวยอวยชัยให้ปีใหม่ชีวิตลื่นไหลไร้อุปสรรค เหมือนสายน้ำเย็นที่ไหลหล่อเลี้ยงชีวิต เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 ปล่อยแถวลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ กำชับการปฏิบัติของสถานประกอบการร้านอาหาร ตามมาตรการ "D-M-H-T-T-A"

ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศให้สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้ โดยผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัยสอดคล้องกับมาตรการทางสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด อันได้แก่ มาตรการ  D-M-H-T-T-A และยกระดับมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ครบทุกด้านตามที่กำหนด  

ณ  ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมืองเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้จัดพิธีพิธีปล่อยแถวประชาสัมพันธ์ กําชับการปฏิบัติของสถานประกอบการร้านอาหารตามมาตรการ D-M-H-T-T-A  พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ 40 นาย,   สภ.แม่ปิง 40 นาย, สภ.ภูพิงค์ฯ 40 นาย, สภ.ช้างเผือก 40 นาย, กลุ่มงานจราจรฯ 20 นาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก มณฑลทหารบกที่ 33 10 นาย, เทศบาลนครเชียงใหม่ 10 นาย, ปกครอง อ.เมืองเชียงใหม่ 10 นาย, สาธารณสุข จว.เชียงใหม่ 10 นาย, บก.ตม.5 10 นาย, บก.สส.ภ.5 20 นาย, กก.4 บก.ทท. 10 นาย, กอ.รมน.จ.เชียงใหม่ 10 นาย เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

สำหรับมาตรการ D-M-H-T-T-A เป็นมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขภายใต้สถานการณ์การ     แพร่ระบาดของโรคโควิด 2019  ประกอบด้วย

     D : Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น 
     M : Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 
     H : Hand washing ล้างมือบ่อยๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ 
     T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการ ที่อาจไม่สบาย 
     T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด 19 
     A : Application ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”และ“หมอชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกครั้ง

‘พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์’ นายกสมาคมไทย - จีน เปิดที่ทำการสมาคมไทย – จีนแห่งใหม่!!

ที่ทำการสมาคมไทย-จีน แห่งใหม่ ณ โรงแรมแกรนด์ ไซน่า เลขที่ 215 ถนนเยาวราช สัมพันธวงศ์กรุงเทพมหานคร โดยมี หม่อมราชวงศ์จิราคม กิติยากร, นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, พลเอก จำลอง บุญกระพือ, พลเอก สมศักดิ์ แสงจันทร์เลิศ, พลเอก สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์, พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง, พลเอก กะสิณ ทองโกมล, พลตำรวจโท มงคล กมลบุตร, นายบูรภณ กลีบบัว, นายเดชาวุฒิ บุญสนอง, นายณพวุฒิ จุลไสย กรรมการผู้จัดการ Global pact logistics, นายยรรยง ปฐมศักดิ์ เจ้าของโรงแรม แกรนด์ ไชน่า, นายสมพจน์ ปิยะอุย, นายคฑาภณ สนธิจิตร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (ประเทศไทย) ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติ

นายธวัชชัย กิตติรัตนวิวัฒน์ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม ได้นำกระเช้าดอกไม้ พร้อมด้วยกระเช้าของขวัญ และวัตถุมงคลได้เข้าแสดงความยินดีกับพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์  นายกสมาคมไทย-จีน เนื่องในโอกาสเปิดที่ทำการสมาคมไทย-จีน แห่งใหม่ ส่วนภายในงานสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีหรือเจ้าพระคุณสมเด็จธงชัย (ธงชัย ธมมธโช) ได้มาทำพิธีสงฆ์ พร้อมทั้งเจิมป้ายสมาคมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับผู้มาร่วมงาน เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงาน

 

‘ลุงตู่’ ห่วงใย! ส่ง ‘รมว.เฮ้ง’ ลงพื้นที่ปากช่อง นครราชสีมา ติดตามคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตรวจเยี่ยมติดตามคุณภาพชีวิตพร้อมให้กำลังใจผู้ประกันตนผู้ทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย ในโครงการ สปส. “มอบสุข” โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางศิริหทัย แท่นแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์สารนิเทศ พร้อมด้วยนางนพรัตน์ จันธนะสมบัติ ประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา นางสาวปราณี อินทอง หัวหน้าสาขาปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นางวาสนา รัตนเวชสิทธิ หัวหน้าสาขาโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา นางอาภรณ์ แว่วสอน ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมด้วย พร้อมนักกายภาพบำบัดจากศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ร่วมคณะลงพื้นที่แนะนำกายภาพบำบัด และการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นให้กับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย ในครั้งนี้ด้วย   

    

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ ท่านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ประสบอันตรายหรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เป็นผู้ทุพพลภาพ รวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมเข้าดูแลผู้ทุพพลภาพให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนถูกต้อง เข้าถึงความเดือดร้อน อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้มีความรู้สึกอบอุ่น มีความรู้สึกที่ดีต่อระบบประกันสังคม

อีกทั้งรับทราบปัญหาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามกฎหมายของผู้ทุพพลภาพ รวมทั้งติดตามอาการเจ็บป่วย เพื่อนำสู่การรักษา ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ หลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิต และคุณภาพชีวิตให้กับผู้ประกันตนที่ดีที่สุดในโอกาสนี้ ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้มีโอกาสลงพื้นที่ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมนำสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค ตลอดจนเครื่องใช้ต่าง ๆ มามอบให้กับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ ตนได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการตามนโยบาย ที่พร้อมเข้าดูแล สิทธิประโยชน์ลูกจ้าง ผู้ประกันตน อย่างใกล้ชิด

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางไปยังบ้านพักของผู้ประกันตน จำนวน 2 ราย รายแรก นายพรเทพ รักคง อายุ 48 ปี เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 บ้านพักอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เช่นกัน เป็นผู้ทุพพลภาพจากหลอดเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้แขนขาข้างขวาอ่อนแรง เดินต้องใช้ไม้เท้าพยุง ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 ปัจจุบันได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,400 บาทตลอดชีวิต ได้รับค่าพาหนะ รายเดือน 500 บาท และรับเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผลไปแล้วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 จำนวนเงิน 86,480 บาท

 

‘รมว.พิพัฒน์’ เปิด THAI FIGHT การแข่งขันชกมวยไทยโลก!! ณ เขาอ้อ พัทลุง

ที่สนามลานวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานเปิดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT” เขาอ้อ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THAI FIGHT ในปี 2020  ชิงถ้วยพระราชทานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 ถ้วยพระราชทาน และถ้วยพระราชทานใน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี จำนวน 1 ถ้วยพระราชทาน ให้แก่นักมวยผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ถือเป็นสิริมงคลสูงยิ่ง

รมว.พิพัฒน์  กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ ถึงมาตรการความพร้อมรวมถึงระบบการดูแล และอำนวยความสะดวกต่อผู้ที่จะเข้ามาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการกีฬาเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ทางรัฐบาล  พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญยิ่ง

ดังนั้นการที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT เขาอ้อ” ณ.จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นการส่งเสริม และร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงผลักดันนวัตกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาสู่ความเป็นเลิศ 

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา สามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี ตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด”

 

‘เลขาธิการ ศอ.บต.’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างถนนทางขึ้นเจดีย์ และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ ณ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

ที่ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) ตําบลกาหลง อําเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนในการสร้างถนนทางขึ้นเจดีย์และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถพร้อมทั้งทาสีอุโบสถที่ทรุดโทรมให้อยู่ในสภาพเดิม โดยมี  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.  หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากร ศอ.บต. เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนมีพุทธศาสนิกชน ในพื้นที่ร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่หนึ่ง ของจังหวัดนราธิวาส เป็นชุมชนเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนาที่จะต้องจรรโลงอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง วันนี้เป็นวันดี  เป็นวันพระ เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนมาร่วมกันทำบุญ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสนับสนุนอย่างสุดความสามารถในการส่งเสริมพุทธศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งทำนุบำรุงศาสนสถาน ตลอดจนดูแลพระภิกษุสงฆ์ ขอเป็นกำลังใจแก่พี่น้องชาวพุทธ ทุกคน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงทุกหน่วยที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนเสมอมา

‘แม่ทัพภาคที่ 4’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี วัดนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม - ส่งเสริมความรักความสามัคคีในพื้นที่

ที่ วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัด ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ตลอดจนอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ โดยมีพลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด การทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ มียอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญทั้งสิ้น จำนวน 770,000 บาท

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า " สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมา อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ากองการดูแลพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับกิจกรรมการทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดนาทวี วันนี้ ก็จะได้นำยอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญ ไปมอบให้กับวัดที่ไม่มีโอกาสได้ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า นำไปซ่อมแซม บูรณะ ถาวรวัตถุภายในวัด ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้กิจกรรมดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่"

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top