Thursday, 25 April 2024
NEWS FEED

1 ก.พ. นี้ เตรียม "เป๋าตัง" ให้พร้อม! 28 ล้านสิทธิเดิมกด “ยืนยัน” ใช้คนละครึ่งเฟส 4 ได้ทันทีทั่วประเทศ “นายกฯ” กำชับคลังเตรียมระบบให้พร้อมรองรับการใช้งาน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งการเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากต่อเนื่อง ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชน จำนวนสิทธิรวม 29 ล้านสิทธิ โดยสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน ล่าสุดกระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้เร็วขึ้น เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 (กลุ่มเดิม) มีจำนวน 27.98 ล้านสิทธิ กลุ่มนี้สามารถกดยืนยันสิทธิในแอพเป๋าตังค์ได้เลย ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิโดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมา พิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้หากยืนยันสิทธิและใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนด สามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และกลุ่ม 2 ) ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มให้อีก 1 ล้านกว่าสิทธิ เพื่อให้ครบ 29 ล้านสิทธิ  โดยกลุ่มใหม่นี้สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์  2565 และสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2565 ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังมีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ที่ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 (ยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566) ที่ใช้ได้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยประชาชนที่ใช้โครงการช้อปดีมีคืนก็สามารถใช้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้ด้วย 

'บิ๊กตู่' ปลื้ม เว็บไซต์ระดับโลก จัดให้ ‘กระบี่’  เป็นเมืองต้อนรับผู้เดินทางได้ดีที่สุด ชี้! สัญญาณดีหนุนท่องเที่ยวไทย ยัน! พร้อมเปิด Test and Go 1 ก.พ.นี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความยินดีกับจังหวัดกระบี่ ที่ได้รับรางวัล Traveller Review Awards 2022 ถูกจัดอันดับจากเว็บไซต์ Booking.com ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเดินทางระดับโลก ให้เป็นจังหวัดที่ให้การต้อนรับผู้เดินทางได้ดีที่สุดในประเทศไทย ผ่านการรวบรวมข้อมูลกว่าหลายล้านรีวิวของลูกค้า โดยสำหรับเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากจังหวัดกระบี่แล้ว ยังมีจังหวัดตราด เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา ด้วยตามลำดับ ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนถูกจัดอันดับด้านการต้อนรับผู้เดินทางได้ดีด้วยเช่นกัน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการจัดอันดับดังกล่าว สอดรับกับแนวทางการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวของไทย และเชื่อว่าจะส่งเสริมงานด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติให้ความสนใจ และนับตั้งแต่เปิดแคมเปญ Krabi Even More Amazing“เที่ยวกระบี่ ดีกว่าเดิม” ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนกระบี่อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหลายจังหวัด ที่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาตามมาตรการเปิดรับ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของไทย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการ และประชาชน ที่ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้พัฒนางานด้านการท่องเที่ยวและบริการต่อไป เชื่อว่าอัตลักษณ์ความเป็นมิตรที่ดีของคนไทย จะสามารถความประทับใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

'ปศุสัตว์' กำชับทั่วประเทศตรวจสินค้าเข้ม! หลังพบรายงานเจอไส้กรอกอันตราย

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังปศุสัตว์เขตและจังหวัดทั่วประเทศให้เข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์ ให้มีความปลอดภัยอาหาร รักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังพบรายงานทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับไส้กรอกที่ไม่มีแหล่งที่มาแน่ชัดกำลังระบาด คือ ไส้กรอกไม่มียี่ห้อ ทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายเนื่องจากมีสารตกค้างพวกไนไตรท์และไนเตรทเกินปริมาณที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เมื่อบริโภคเข้าไปทำให้ป่วยและมีความเสี่ยงเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ ได้กำกับดูแลระบบการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดทั้งกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP โรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมาย โรงงานแปรรูปได้มาตรฐาน มีกระบวนการผลิตที่ถูกสุขอนามัย สินค้าที่ได้มีคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบและกำกับดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต ไม่มีสารอันตรายตกค้าง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน 

'กองทัพเรือ' แจง 'ภาพเก่าปี 56' คราบน้ำมันดำมืดน่ากลัว ยัน! ปัจจุบันเป็นคราบแผนฟิล์มบางๆ ย้ำ!เดินหน้าเตรียมจัดทีมลุยเก็บคราบน้ำมัน เผยกลุ่มคราบน้ำมันก้อนใหญ่เริ่มเข้าใกล้ฝั่ง มั่นใจควบคุมได้

ที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) จ.ระยอง  พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เเถลงความคืบหน้าเรื่องการเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยองว่า ขณะนี้ยังมีเรือจากบริษัท และหน่วยงานต่างๆร่วมกันดำเนินการปฏิบัติการทางทะเล เพื่อดำเนินการขจัด กักเก็บและควบคุมทิศทางคราบน้ำมัน

จากรายงานข่าวล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. เมื่อวานนี้ ทางทีมเก็บกู้คราบน้ำมัน และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ตรวจพบว่ามีคราบน้ำมันเข้าพื้นที่ชายฝั่งบริเวณหาดแม่รำพึงแล้ว มีลักษณะฟิล์มบางๆ ยังไม่มีความหนามาก ซึ่งจะขัดแย้งกับภาพที่ปรากฎตามสื่อต่างๆเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่มีภาพคราบน้ำมันจำนวนมหาศาลขึ้นสู่ฝั่ง จากการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นภาพเก่าเหตุการณ์เมื่อปี 2556  โดยคราบปัจจุบันไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่เห็น ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าความรุนแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น

ขณะที่พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะรองศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 หรือ ศคปน.ทรภ.1 กล่าวว่า การปฏิบัติช่วงที่ผ่านมายังคงมีการดำเนินการอย่างยิ่งยวดทั้งภาคทะเล โดยมีเรือบริษัท เอสพีอาร์ซี มาบตาพุด และบริษัท ไออาร์พีซี จำนวน 10 ลำ เร่งฉีดสเปรย์ และกางบูม เพื่อกักเก็บคราบน้ำมัน

อีกทั้งเมื่อวานนี้ได้มีปฏิบัติการทางอากาศบิยโปรยสารเคมีด้วย สำหรับการลาดตระเวนทางอากาศกองทัพเรือจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังและติดตามการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน โดยเรามีบูมที่กางและดักคราบน้ำมัน แต่ยอมรับว่ามีคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบางๆเล็ดรอดเข้ามาสู่ชายฝั่งบ้าง ซึ่งล่าสุดสถานการณ์การเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันจากการตรวจสอบทางอากาศว่าคราบน้ำมันกลุ่มหลักยังอยู่บริเวณที่เดิม และเริ่มเคลื่อนที่ช้าๆเข้าใกล้ฝั่ง โดยเราพยายามขจัดและดำเนินการลดจำนวนลง ส่วนบนบกเราก็มีทีมเก็บคราบน้ำมันกรณีขึ้นหาด ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมกำลังพล 200 นาย จากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เพื่อรับความพร้อม โดยทุกคนผ่านการอบรมวิธีเก็บคราบน้ำมัน และมีการแต่งกายด้วยชุดป้องกันอย่างรัดกุม ส่วนคราบน้ำมันฟิล์มบางๆบริเวณหาดแม่รำพึงนั้นมีจำนวนไม่มาก ทางทีมได้เข้าเก็บเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้มีเพียงคราบน้ำมันที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ที่เล็ดลอดนั้นก็มีที่จุดหินดำ และบริเวณสบาย สบาย รีสอร์ท ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการ 
 

ครูสาว แชร์เรื่องราวนร. สอบเข้าพยาบาล สุดซึ้ง หลังรู้ความจริงเหตุที่มือลอกดำ

ครูแชร์เรื่องราวของนักเรียนชั้น ม.6 ขณะสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนพยาบาล สุดประทับใจ เห็นมือลอก มีรอยดำ เลยถามว่ามือหนูไปทำอะไร พอรู้ความจริงถึงกับซึ้ง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจที่ใครหลายๆ คนต่างพากันแชร์ออกไปอย่างมากอยู่บนโลกออนไลน์ในขณะนี้ ภายหลัง ดร.วิราวรรณ คล้ายหิรัญ อาจารย์ประจำสาขาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wirawan Klayhiran ระบุว่า

“มือของหนูที่ครูประทับใจ ว่าด้วยเรื่องการสอบสัมภาษณ์คัดเลือกนักเรียน ม.6 ที่จะเข้าเรียนพยาบาลในปีการศึกษาใหม่นี้ รอบที่ 1 คัดเลือกจาก Portfolio นักเรียนที่มีคุณสมบัติเด่นคือเรียนดี เกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00 หนึ่งในนักเรียนที่มาสัมภาษณ์ ครูสังเกตเห็นผิวหนังที่มือลอก มีรอยดำ เลยถามว่ามือหนูไปทำอะไรมาเหรอคะ นักเรียนเล่าให้ฟังว่าไปทำงานรับจ้างที่โรงงานทำมะพร้าวทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม เพื่อหาเงินช่วยครอบครัว

‘เดอะทอยส์’ ลั่น!! เสียเงินเติมเกม 4 ล้าน เป็นความสุข!! เมินคนมองใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ปล่อยเพลง ‘อาหมวยหาย’ ออกมาต้อนรับเทศกาลตรุษจีน สำหรับนักร้องชื่อดัง ‘ทอย - ธันวา บุญสูงเนิน’ หรือ ‘เดอะทอยส์’ (THE TOYS) โดยเพลงนี้หนุ่มทอยหยิบเอาซาวนด์วินเทจ มาผสมกับจังหวะดิสโก้ และใช้เสียงสังเคราะห์ที่สร้างบรรยากาศชวนให้คิดถึงอาหมวย อาม่า อากงที่บ้าน นอกจากนี้ยังคว้าหมวยสุดฮอต ‘ต้าเหนิง กัญญาวีร์’ ร่วมเล่นมิวสิกวิดีโอด้วย 

อย่างไรก็ตาม มีอีกประเด็นที่เจ้าตัวดูจะได้รับความสนใจมากกว่า นั่นคือเรื่องของการเติมเกมกว่า 4 ล้านบาท ที่ทำเอาหลายคนฮือฮากันเป็นอย่างมาก โดยทางเจ้าตัวเปิดเผยว่า... 

ตลอด 2 ปีที่ช่วงโควิดระบาดหนัก แต่แทบจะไม่กระทบกับชีวิตเลย เพราะที่ผ่านมาทำงานและเก็บเงินไว้แล้วส่วนหนึ่ง ส่วนกิจกรรมที่ทำช่วงอยู่บ้านนอกจากการเล่นเกม คือ การออกกำลังกาย โดยเริ่มต้นจากความกลัวโควิด และเห็นหลายคนหันมาดูแลตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวเปิดคลิปสอนออกกำลังกายของสาว ‘เบเบ้ ธันย์ชนก’ ที่ถึงจะเป็นคลิปอออกกำลังกายแนวเต้น แต่หนุ่มทอยเน้นการวิดพื้นเอา ซึ่งหลังจากทำได้ประมาณ 2 ครั้ง รู้สึกว่าตัวเองมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเล่นจริงจัง แต่หากนึกภาพตัวเองมีซิกแพ็กก็คงดูดี

‘จักรภพ’ เย้ย แผนฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ แค่มกุฎราชกุมาร MBS อยากหาพันธมิตรเพิ่ม

28 ม.ค. 65 - นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัคร และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ปัจจุบันอาศัยอยู่ต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก

นาย จักรภพ ระบุว่า ข่าวลือและข่าวมโนเกิดขึ้นมากในกรณีซาอุดีอาระเบีย ที่จู่ ๆ ก็เกิดการเยือนกรุงริยาร์ดของฝ่ายไทยขึ้นมา เราควรตั้งคำถามกับตัวเอง 2 ข้อเพื่อให้นำทางเราไปสู่คำตอบ ซึ่งถึงอาจจะยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายแต่ก็ใกล้เข้าไปหน่อย คำถามนั้นคือ :

เบื้องหน้า: สาระจริง ๆ ของการรับระบอบไทยครั้งนี้คืออะไร?
เบื้องหลัง: เกิดขึ้นได้เพราะอะไร?
คำถามที่ 1

อ่านแถลงการณ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียให้ละเอียด ในนั้นได้บอกอะไรเราอย่างชัดเจนเกือบทั้งหมดแล้ว ผมจะขอว่าไปทีละข้อ และอาจจะรวบบางข้อเข้าด้วยกัน เพราะหลายข้อเป็นข้อความที่ว่างเปล่าแบบการทูตยุคโบราณเท่านั้น

ข้อ 1 ชัดเจนตั้งแต่ข้อแรกนี้เลยว่า งานนี้ไทยเป็นคนไปของอนง้อกับทางซาอุดีอาระเบีย เพราะรองนายกรัฐมนตรีของซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ออกจดหมายเชิญนายกรัฐมนตรีไทย ตามประเพณีการทูตแล้ว คนในตำแหน่งเดียวกันหรือเทียบเท่ากันเท่านั้นเขาจะเชิญกัน นายกฯ ต้องเชิญนายกฯ ด้วยกัน ไม่ใช่รองนายกฯ เชิญนายกฯ ซึ่งเท่ากับบอกกลาย ๆ ว่า คนตำแหน่งต่ำกว่าของบ้านฉัน ใหญ่เท่ากับคนตำแหน่งสูงกว่าที่บ้านเธอ ส่งสัญญาณตั้งแต่แรกว่าใครง้อใคร และใครตัวซี้ตัวสั่นรีบวิ่งไปหาเขาเมื่อได้ยินเสียงเคาะกะลา เรารู้ครับว่า เจ้าชายบินซัลมานฯ หรือ MBS คือผู้มีอำนาจจริงในซาอุดีอาระเบีย ถ้าจะคุยให้ได้เรื่องก็ต้องคุยกับคนนี้เท่านั้น เรื่องนี้ใครก็เข้าใจ แต่จะต้องไม่ลืมด้วยว่าประเทศไทยไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นคนรับใช้ หรือยอมตัวเป็นชาติไก่รองบ่อนของชาติใดอย่างเป็นทางการ การแสดงความเสมอภาคและเท่าเทียมระหว่างคู่เจรจาคือเกียรติภูมิของชาติอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในขั้นต้น แต่พออ่านข้อ 1 เลยทำให้คิดว่า หรือคนไทยเราบางคนไม่รู้จักคำว่า เกียรติภูมิ หรือ เกียรติยศ

ข้อ 2 คราวนี้ ไทยเป็นฝ่ายเอ่ยปากแสดงความเสียใจเกี่ยวกับกรณีที่พวกเราเรียกกันว่า คดีเพชรซาอุฯ ขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะระบุปีเสียด้วยว่า ระหว่าง พ.ศ. 2532-2533 ทั้งที่เรื่องจริงมันยาวนานกว่านั้นมาก อาจมีเจตนาเพื่อตัดบางกรณีที่ลามต่อเนื่องออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสืบสวนและสอบสวนเพิ่มแบบขยายประเด็น แบบนี้ต้องเรียกว่าตั้งข้อหาตัวเองแบบตำรวจบางคน คือช่วยตั้งข้อหาให้มันแคบเข้าไว้ แต่สาระสำคัญกว่านั้นอยู่ที่ตรงฝ่ายไทยชิงสรุปว่า เท่าที่ผ่านมา ได้ทำคดีนั้นอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยินดีจะเปิดแฟ้มใหม่ให้กับซาอุดีฯ หากมี “หลักฐานเพิ่ม” คำถามที่เกิดขึ้นทันทีคือ หลักฐานใหม่พวกนี้มาจากไหน? มาจากฝ่ายไทยเอง หรือรอให้ฝ่ายซาอุดีฯ เขาจะส่งเป้าชี้มาให้เลยเสร็จสรรพ? เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่า ไทยจะยังไม่ได้อะไรเป็นมรรคเป็นผลอย่างที่ใครบางคนฝันกลางวันเอาไว้หรอกครับ ยกเว้นว่าอาจจะได้เอกอัครราชทูตที่ริยาร์ดส่งมาประจำที่กรุงเทพฯ สักคน และก็รอเรื่องอื่นไปจนกว่าทางซาอุดีฯ จะบอกมาอีกทีว่าฉันพอใจกับเรื่องเพชรซาอุฯ รอบใหม่แล้ว นั่นก็เท่ากับว่า การวิ่งไปคราวนี้เป็นเพียงภารกิจรักษาหน้าเท่านั้น คุยได้นิด ๆ ว่าเราจะกลับมามีความสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดีอาระเบียแล้วนะ ถ้าถามต่อว่าแล้วว่าได้อะไรเป็นรูปธรรมกลับมาบ้าง ก็คงม้วนหน้าหลบเร้นไปตามระเบียบ

เปิดตัว!! ‘สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล’ ได้ 5 สมาคมวิชาชีพสื่อหนุน “เป๊ะ บ้านเมือง” นำทัพ! ยกระดับคุณภาพชีวิตสมาชิกสื่อฯ

แกนนำ 5 สมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย มูลนิธิช่างภาพสื่อมวลชน, สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชน (ประเทศไทย) , สมาคมสมาพันธ์นักข่าว(ประเทศไทย) ,ชมรมช่างภาพสื่อมวลชนอาวุโส และชมรมช่างภาพการเมือง  จัดแถลงข่าวเปิดตัว “สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล” ภายใต้การนำของ นายทิวากร วิจิตรพงศกร หรือ “เป๊ะ บ้านเมือง” อดีตช่างภาพ นักข่าวและนักเขียนวิจารณ์สังคมชื่อดัง ที่รอบนี้กลับมารับตำแหน่งใหญ่ “นายกสมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล”  สำหรับการเปิดตัว “สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล” ในครั้งนี้ ได้จัดให้มีขึ้น ณ ร้านอาหาร-กาแฟบ้านบางอ้อ ถนนจรัญสนิทวงศ์ 84 กรุงเทพฯ

โดยนายทิวากร กล่าวว่า "ตนรู้สึกดีใจอย่างมากที่บรรดาผู้บริหารองค์กรสื่ออาวุโสทั้งจาก 5 องค์กรสื่อฯ ได้ให้ความเมตตา ส่งเสริมและสนับสนุนในการจัดตั้งสมาคมฯนี้ขึ้น ส่วนตัวจะอาศัยประสบการณ์การทำงานในวงการสื่อฯมากว่า 40 ปี เพื่อประสานความร่วมมือและให้การช่วยเหลือแก่บรรดาสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล ทั้งนี้ ตนพร้อมจะประสานความร่วมมือกับ 5 องค์กรสื่อฯข้างต้น เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของบรรดาสมาชิกฯที่มีบางส่วนสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัลไปบ้างแล้ว

สมุทรปราการ-แห่ซื้อหมู !! “สส.ยงยุทธ” จับมือ “นายก อรัญญา” จัดสรรหาหมูราคาถูกขาย กก. 150 บาท เพื่อช่วยเหลือคนแพรกษา

ที่บริเวณลาน ชั้น 1 เทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวแพรกษา หลังเกิดสถานการณ์ประกาศปรับราคาเนื้อหมูแพงขึ้นจนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบและต้องซื้อเนื้อหมูในราคาที่สูงกว่าเดิม

ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้เปิดจำหน่ายเนื้อหมูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด  โดยการประสานของ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ ร่วมกับ นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ได้ดำเนินการจัดสรรหาเนื้อหมูราคาถูก นำมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 1,300 กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคเนื้อหมูในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษา  ซึ่งในวันนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้นำหมูมาจัดจำหน่าย โดยมี หมูสามชั้น,สะโพกหมูติดมัน และหมูเนื้อแดง โดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท 

ประชาชนสามารถเลือกซื้อเนื้อหมูได้ตามความต้องการ ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยจะจำกัดไม่เกินคนละ 2 กิโลกรัม เพื่อเป็นการกระจายเนื้อหมูให้กับประชาชนส่วนใหญ่ได้บริโภคอย่างทั่วถึง อีกทั้ง ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้กำชับประชาชนรวมถึงผู้ประกอบการที่เดินทางมาซื้อเนื้อหมูที่ทางเทศบาลจัดเตรียมไว้จำหน่ายให้กับประชาชน  

กาชาดชวนสร้างบุญ เสริมความปัง รับความเฮง บริจาคโลหิต รับเทศกาลตรุษจีน

เฉลิมฉลองตรุษจีนนี้ เชิญชวนประชาชนทั่วไป และชาวไทยเชื้อสายจีน สร้างบุญ เสริมเฮง บริจาคโลหิตเป็นมงคลชีวิต เนื่องในเทศกาลมงคลวันปีใหม่ของชาวจีน ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2565 (5 วัน) รับ “เสื้อยืด BLOOD HERO” เป็นที่ระลึก

รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อํานวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “วันตรุษจีน เป็นเทศกาลสําคัญที่สุดของชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ โดยร่วมปฏิบัติดีตามธรรมเนียมจีน ที่ผูกโยงสิ่งดีๆ ไว้กับทุกสิ่งทุกอย่างอันเป็นมงคลในชีวิต ไปจนถึงกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการบริจาคโลหิต เพื่อเสริมความเป็น สิริมงคลให้กับตนเอง ทําให้เกิดความเฮง ความปัง และพบแต่ความโชคดีตลอดปี”

อาจารย์ไวท์ (White Jewel) โอปป้าเปิดดวง กล่าวเพิ่มเติม “เข้าสู่ปีขาลทอง ตรุษจีนนี้ เสริมดวง ให้แข็งแกร่ง เปิดดวงรับสิ่งใหม่ๆ เพิ่มความก้าวหน้าให้กับชีวิต เชิญชวนท่านที่มีสุขภาพแข็งแรง กายพร้อม ใจพร้อม ร่วมบริจาคโลหิต สร้างบุญสร้างกุศลใหญ่ให้แก่ตัวเอง เสริมความปัง เสริมบุญไปให้สุด ด้วยการไหว้ "องค์ไท้ส่วยเอี้ย" เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา ช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมให้เบาบางลงได้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top