Friday, 13 December 2024
NEWS FEED

ตำรวจ ปส. ทลายเครือข่ายชาติพันธุ์ ลอบขนยาเสพติด ส่งลงพื้นที่ภาคกลางยึดยาบ้ากว่า 6 ล้านเม็ด, ไอซ์เกือบ 1 ตัน

สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย การขับเคลื่อนงานของตำรวจ

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.รรท.รอง ผบ.ตร/ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี  ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. บช.ปส. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จตร.รรท.ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ              

ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย

วันนี้ บช.ปส.ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และ ป.ป.ส. โดย พล.ท.ภัณห์ สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, นายบัณฑิต ลีลาพตะ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ร่วมจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. โดยมีการจับกุม ดังนี้
บก.ปส.3

คดีที่ 1 เครือข่ายนักบินข้ามถิ่น ยาบ้า 5,000,000 เม็ด (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.2 บก.ปส.3) จากการสืบสวนของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบว่า มีเครือข่ายค้ายาเสพติดจะลำเสียงยาเสพติด                  

จากพื้นที่ชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย วันที่ 23 พ.ย.67 พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายใช้รถกระบะลำเลียงสิ่งของต้องสงสัยจำนวนมาก จากพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา ในเขตพื้นที่บ้านนะ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ก่อนจะมาเก็บซุกซ่อนไว้ในพื้นที่เพื่อลำเลียงส่งต่อให้กับเครือข่าย ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย                   

อีกทอดหนึ่ง จนเวลาประมาณ 00.30 น. ของ วันที่ 24 พ.ย.67 รถกระบะต้องสงสัยออกจากพื้นที่ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง โดยมีเครือข่ายขับขี่จักรยานยนต์ นำทางและสำรวจเส้นทาง กระทั่ง เวลา 04.00 น. พบรถกระบะ คันดังกล่าว ขับมุ่งหน้าไปยังตัว อ.เมืองเชียงราย ชุดจับกุมจึงวางกำลังเพื่อสกัดจับ แต่เครือข่ายพยายายามขับรถหลบหนีเข้าไปบริเวณสวนสับปะรด พื้นที่หมู่บ้านแคววัวดำ หมู่ 12 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ก่อนจะทิ้งรถหลบหนีไป จากการตรวจค้นรถกระบะ พบสิ่งของจำนวนมากถูกผ้าใบสีดำคลุมมิดชิด บริเวณท้ายกระบะ ตรวจสอบเป็นยาบ้า จำนวน 3,000,000 เม็ด และพบยาบ้าซุกซ่อนในห้องโดยสารอีกจำนวน 2,000,000 เม็ด รวมจำนวน 5,000,000 เม็ด

คดีที่ 2 เครือข่ายนักวิ่งชายแดนยาบ้า ไอซ์ 299 กิโลกรัม (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.2 บก.ปส.3) จากการสืบสวนของตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ลีซอ มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนทางด้าน อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะและรถสิบล้อ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 26 พ.ย.67 พบชายต้องสงสัย 2 ราย ขับรถกระบะบรรทุกลังบรรจุส้มมาวางไว้บริเวณพื้นที่ว่างตรงข้ามรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ ก่อนจะมีคนขับรถสิบล้อจอดรถแล้วลงมายกลังบรรจุส้มทั้งหมดขึ้นรถ และขับออกไปโดยมีรถกระบะขับนำหน้า เข้าไปในพื้นที่บ้านห้วยจะค่าน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ และจอดบริเวณสวนท้ายหมู่บ้าน กระทั่งประมาณ 20.00 น. รถสิบล้อได้ขับออกมาจากบริเวณดังกล่าว โดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-พร้าว มุ่งหน้าพื้นที่ภาคกลาง จนมาถึงบริเวณ อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเข้าจอดที่ปั๊มน้ำมัน บริเวณถนนสายเอเชีย-บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.67 เวลาประมาณ 13.00 น. มีรถกระบะตู้ทึบขับเข้ามาจอดบริเวณปั๊มน้ำมัน และขับออกไปพร้อมกับรถสิบล้อ ก่อนเข้าไปจอดยังบริเวณโกดัง 11/7 ม.7 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 299 กิโลกรัม

บก.สกส.
คดีที่ 3 เครือข่ายนักบินพบพระ ไอซ์ 500 กก. (ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ งามลาภ ผกก.1 บก.สกส.)
ตำรวจ กก.1 บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส., สภ.ด่านช้าง, ป.ป.ส.ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมนายจิรชีพ และ นายนู่ ชาติพันธุ์ม้ง หลังชุดจับกุมพบว่ามีกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ จว.ตาก จะลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดน จว.แม่ฮ่องสอน มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ปริมณฑล กระทั่งวันที่ 24 พ.ย.67 พบกลุ่มรถยนต์ของเครือข่าย ขับขี่ในลักษณะนำ และตาม ห่างกันประมาณ 2-3 กิโลเมตร จากพื้นที่ จว.แม่ฮ่องสอน ใช้เส้นทางผ่าน เชียงใหม่ - แพร่ - สุโขทัย ผ่าน จว.อุทัย - ชัยนาท มุ่งหน้า จว.สุพรรณบุรี จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จนเวลา 14.50 น. รถยนต์ทั้ง 3 คืน คือ รถโตโยต้า Fortuner สีดำ หมายเลขทะเบียน 7กฬ 31xx กทม., รถยนต์ หมายเลขทะเบียน บ5 99xx ตาก และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 3ฒฮ 50xxx กทม. ขับเข้าไปจอดริมถนน หลังโรงพยาบาลหันคา ต.หันคา อ.หันคา จว.ชัยนาท ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นรถทั้ง 3 คัน พบด้านหลังของรถโตโยต้า Fortuner สีดำ มีกระสอบต้องสงสัย 25 กระสอบ ถูกปิดด้วยผ้าบังอำพรางไว้ ตรวจสอบภายในมีไอซ์บรรจุรวม 500 กก. เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา"ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือ เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ"
บก.ปส.1

คดีที่ 4 เครือข่ายนักบินสมุทรปราการ ยาบ้า 998,000 เม็ด (ผู้นำเสนอ พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยกรอง รอง ผกก.2 บก.ปส.1) สืบเนื่องช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้จับกุม น.ส.คณาปพัฒน์ กับพวก พร้อมยาบ้า1.2 ล้านเม็ด จากนั้นได้สืบสวนขยายผล พบว่า กลุ่มของเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติด จากภาคเหนือ จึงเฝ้าติดตาม กระทั่งวันที่ 22 พ.ย.67 รถเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่มีความเคลื่อนไหว ในเส้นทาง จว.เชียงใหม่ ต่อเนื่องลงมาใน จว.เชียงราย-ลำปาง-สุโขทัย-พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์ ตำรวจจึงจัดชุดติดตาม และสกัดจับกุมได้ทั้งหมด 3 คัน ในพื้นพื้นที่ จว.สิงห์บุรี ต่อเนื่อง จว.อยุธยา คือ 1. รถยนต์โตโยต้า แคมรี่หมายเลขทะเบียน ชห 18xx กทม. มีนายฐานทัพ เป็นผู้ขับขี่ โดยสารมากับ น.ส.เพชรรัตน์ (แฟนสาว) ทำหน้าที่ขับนำขบวน, 2. รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 7กส 33xx กทม. มี นายวัชรพล เป็นผู้ขับขี่ และ 3. รถยนต์ฟอร์ด เอฟเวอเรส ฆง 5xx กทม. ซึ่งมีนายสำไรมาณ เป็นผู้ขับขี่โดยสารมากับ น.ส.ศศิประภา (แฟนสาว) จากการตรวจสอบพบยาบ้ารวมจำนวน 998,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ 5 กล่อง วางอยู่ในห้องโดยสารของรถยนต์ฟอร์ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการเพื่อการค้า แพร่กระจายสู่ประชาชนฯ" ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - 28 พ.ย.67 สามารถจับกุมขบวนการค้า ยาเสพติดทุกคดีได้ 166 คดี ผู้ต้องหา 175 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 43,842,893 เม็ด, ไอซ์ 2,757 กก. เฮโรอีน 28 กก. และ คีตามึน 190 กก. ยึดอายัดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด 410,461,353 ล้านบาท

‘พีระพันธุ์’ เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงต้องใช้ออกซิเจน จ.เชียงใหม่ หลังบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ‘ห้ามตัดไฟเด็ดขาด’

เมื่อวันที่ (28 พ.ย.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ใช้โอกาสก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567  (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2567 ลงพื้นที่ไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการให้ออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมมอบอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ป่วย 

โดยก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ได้ผลักดันให้เกิดบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานที่มีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลได้รับการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าในทุกกรณี

สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567

 

สวนนงนุชพัทยาโดย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณฟรี อย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าชมเกือบ 3 หมื่นคน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1ถึง 31ธันวาคม 2567 (เฉพาะนักนักท่องเที่ยวชาวไทย)

สำหรับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน140 ซม.ที่มากับครอบครัว และผู้พิการเข้าฟรีทุกวัน ผู้สูงอายุ(มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป)เข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์ สำหรับท่านที่สนใจชมการแสดงนงนุชโชว์ และการแสดงของน้องช้างแสนรู้ มีการแสดงวันละ 4 รอบ ณ โรงละครสกาลานงนุชพัทยา

ปัจจุบันสวนนงนุชพัทยามีสวนสวยมากกว่า 60 สวน บนพื้นที่ 1,700 ไร่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพสวยๆ แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใครในโลก อาทิเช่น สวนตะบองเพชร1และ2,สวนลอยฟ้า,สวนรถ1และ2,คาเฟ่แมว,สวนกล้วยไม้ และเนิร์สเชอรี่พันธุ์ไม้ต่างๆ  และสำหรับเด็กๆพลาดไม่ได้กับหุบเขาไดโนเสาร์ที่มีมากกว่า 1,700 ตัวโดยเปิดบริการทุกวัน 08.00 น. -18.00 น. สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nongnoochpattaya.com

'พล.อ.ณัฐพล' ประสานตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมเร่งดูแลผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ (28 พ.ย.67) พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และร่วมประชุมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี 

ในที่ประชุมฯ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยสั่งการให้มาติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากการประเมิน และติดตามการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง 4 จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ที่ผ่านมานั้น ควรมีศูนย์ประสานงานในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาดำเนินการภายใต้ศูนย์การบริหารปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ส่วนกลาง และเพื่อให้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิผลมากขึ้น ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นศูนย์ประสานงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยงานแกนกลางที่บูรณาการทั้งหมดในการช่วยเหลือ และมอบหมายให้กองทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นศูนย์กลางการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆเพื่อสนับสนุนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้

"ได้รับคำสั่งให้ ศอ.บต.เป็นศูนย์บูรณาการการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่  จชต. เพื่ออำนวยการในภาพรวมหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพและให้ ทภ.4/กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นศูนย์บูรณาการทรัพยากรของ กห. และ กอ.รมน. รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ในการให้การสนับสนุนกำลังพล ยานพาหนะและเครื่องมือ ตามที่ ศอ.บต. ร้องขอ…" พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ กล่าว

สภากาชาดไทย ชวนเที่ยวงานกาชาดประจำปี2567 ภายใต้แนวคิด 'ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร' สัมผัสมนต์เสน่ห์มหรสพรื่นเริงการกุศลแห่งปี 11 – 22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี และ www.iredcross.org

เมื่อวันที่ (27 พ.ย.67) กองอำนวยการจัดงานกาชาด โดย คณะกรรมการแผนกประชาสัมพันธ์งานกาชาดประจำปี 2567 จัดแถลงข่าวงานกาชาดประจำปี2567 “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ศิลปิน ดารา สื่อมวลชน  ร่วมเป็นเกียรติในงานแถลงข่าว ณ ศูนย์นันทนาการลุมพินี สวนลุมพินี

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี2567 กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษาวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 สภากาชาดไทย จึงได้จัดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อสภากาชาดไทย และพสกนิกรไทย ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี และที่แพลตฟอร์มงานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org 

นอกจากนี้งานกาชาดยังจัดขึ้นเพื่อหารายได้ไปใช้ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความทุ่มเทและความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย แม้ว่าจะมาจากหลากหลายภาคส่วน แต่ทุกฝ่ายต่างก็ให้ความร่วมมือและใช้ความเชี่ยวชาญของตนเองมาร่วมกันสนับสนุนภายใต้ความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้การจัดงานกาชาดนั้นสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์”

ด้าน นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี2567 ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานกาชาดประจำปีนี้ว่า “การจัดงานกาชาดประจำปี 2567 “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจขององค์พระบรมราชูปถัมภ์ สภากาชาดไทย องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการ สภากาชาดไทย รวมถึงเป็นการเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยให้ประชาชนได้รับรู้ ยิ่งไปกว่านั้น งานกาชาดยังเป็นกิจกรรม ที่สร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม สโมสร ผู้มีอุปการคุณ และประชาชน ตลอดจนเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย”

พร้อมกันนี้ภายในงานแถลงข่าวได้จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ “งานกาชาด เพื่อ ประชาชน” นำโดย นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวง และกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยการเสวนาดังกล่าวระบุถึงความสำคัญของการจัดงานกาชาด และรายได้จากการจัดงานกาชาดที่ถูกนำไปกระจายเป็นความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมพูดคุยถึงความร่วมมือและแนวทางบริหารจัดการต่าง ๆ ภายในงานกาชาดประจำปี 2567

ประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดรถ BMA Feeder รับส่งที่สวนลุมพินี เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัด การจัดเตรียมแสงสว่างให้เพียงพอ รวมถึงการคัดแยกขยะ และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ อีกทั้งยัง เน้นย้ำเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจและสะดวกสบายแก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน ครอบคลุมไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่สวนลุมพินี 

ทั้งในระหว่างงานและหลังจบงาน เพื่อคืนพื้นที่อย่างสมบูรณ์แก่ผู้ใช้สวนลุมพินี ตามด้วยการแสดงพิเศษขับเสภาทำนองเสนาะชุด “ยลเสน่ห์อัตลักษณ์งานกาชาด” ซึ่งร้อยเรียงและบอกเล่าถึง กิจกรรมที่น่าสนใจในงานกาชาดปีนี้ ประกอบด้วย กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติการแสดงไฟ “แสงแห่งพระบารมี” ซุ้มว่าวเฉลิมพระเกียรติ โคมถวายพระพร และการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีเฉลิมพระเกียรติที่สวยงามยิ่งใหญ่ กิจกรรมรื่นเริงเปี่ยมกุศล ทั้งการเสี่ยงโชคชิงรางวัลในรูปแบบต่าง ๆ การซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาประหยัดจากหน่วยงานที่มาร่วมออกร้านกว่า 200 หน่วยงาน แฟชั่นโชว์ผ้าไทยในสวน และเกมการละเล่นสนุกสนานอันเป็นอัตลักษณ์ของงานกาชาด 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสุดครื้นเครงในแต่ละวันอีกมากมายให้รอติดตาม กิจกรรมงานกาชาดออนไลน์ พบกับขบวนพาเหรดน้องไอจัง สุดน่ารัก กิจกรรม แข่งว่าวกาชาดที่ทุกคนรอคอย กิจกรรมบ้านผีสิงสุดหลอนร่วมกับ The Ghost Radio และเอาใจสายมูด้วย บริการทำนายดวงชะตาออนไลน์กับนักพยากรณ์ตัวจริง ตามด้วยการซื้อสลากบำรุงสภากาชาดไทยออนไลน์ และเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษจากร้านค้ามากมายได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมผุดกิจกรรมใหม่สุดเพลิดเพลินเลี้ยงน้องไอจังใน iJung wonderland 

โดยกองอำนวยการจัดงานกาชาด ได้เนรมิตพื้นที่ศูนย์นันทนาการลุมพินี เพื่อจำลองบรรยากาศของงานกาชาด มหรสพรื่นเริงการกุศลแห่งปีที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมหยิบยกหลากหลายกิจกรรมน่าสนใจ ทั้งออนกราวด์และออนไลน์มาจัดแสดงให้ผู้ที่มาร่วมงานแถลงข่าวได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมตกแต่งโคมถวายพระพร ว่าวเฉลิมพระเกียรติและเพลิดเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์ ผักดองจากร้านอุปนายิกา และร้านสภากาชาดไทย พร้อมชมความงดงามของ ผ้าไหมพระราชทานจากร้านสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ลุ้นรางวัลกับสอยดาวเสี่ยงโชค และลิ้มรสอาหารอร่อยจากเหล่าร้านอาหารในงานกาชาด ปิดท้ายด้วยการเล่นเกมรับของรางวัลจากน้องไอจัง (มาสคอต) ที่บูธงานกาชาดออนไลน์

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์อัตลักษณ์งานกาชาด มหรสพรื่นเริงการกุศลแห่งปี ระหว่างวันที่ 11 – 22 ธันวาคม 2567 ตลอด 12 วัน 12 คืน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. วันสุดท้ายปิดงาน เวลา 23.00 น. ณ สวนลุมพินีเข้างานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยในปีนี้ยังคงขอความร่วมมือให้ทุกท่านที่มาเที่ยวงาน เดินทางโดยรถสาธารณะเพื่อความสะดวก และใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก รวมถึงงดใช้โฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร เพื่อลดปริมาณ ขยะในงาน และร่วมสนุกแบบไร้ขีดจำกัด ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านงานกาชาดออนไลน์ ที่ www.iredcross.org

เที่ยวสนุกสุขใจ ได้กุศล เที่ยวงานวันกาชาด...ที่สวนลุมพินี และ สนุกได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.iredcross.org

มหกรรมมูเดิร์น รวบรวมสินค้าและกิจกรรมสายมู สไตล์โมเดิร์นไว้ในงานเดียว

วันนี้ ถึง วันอาทิตย์นี้ พบ อีเวนท์สำหรับคนชอบมู รวบรวมสินค้าสายมู กิจกรรมเวิร์คช็อปต่าง ๆ กลุ่มอาร์ตทอยสายมู อีกทั้งยังมีการจัดโซนสำหรับดูดวง และที่พิเศษสุด ๆ ผู้ที่เข้าร่วมงานสามารถมากราบไหว้องค์เทพภายในงานได้เลย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาเจอกัน กับ 5 โซนวันเดอร์ของเรา!🔮

Wonder Goods zone🛒✨
G1 Blessyou Jewelry
G2 MANTRA
G3 MUU
G4 BRAIN SCULPTURE
G5 qlay station
G6 PHYAJEWELRY พญาจิวเวอรี่
G7 The Mu Collection
G8 STRAY CAT TAROT
G9 อาจารย์ป็อปวิเคราะห์เบอร์
G10 กำยานธูปหอม GAJANAN
G11 Chebbear
G12 Rainbow Jewelry
G13 NORTHxAMULET
G14 Wara_stone
G15 ASTRELLA ENERGYHOUSE
G16 VALLEJO
T1 Phraphai Aroma - พระพายอโรม่า
T2 Mudernized
T3 มงคลพัฒน์ ดวงและฮวงจุ้ย
T4 Poly Holy
T5 ธยาน - Dhyana Studio
T6 VINAYAKA BANGKOK
T7 Cute Amulet
T8 FOREVERNNNS
T9 Ceremi studios
T10 Pixel craft art toy x Daliah.indilah
T11 BUU SHA
T12 MUNKKY STUDIO
T13 Punsanook64
T14 Kuma Monster Studio
T15 PUJA GANEJA

Wonder Workshop zone🖌️🖼️
W1 Sstar.Wish x Airy Aura
W2 HORO NEXT GEN
W3 ดวงจีน & ฮวงจุ้ยด้วยตัวเอง
W4 Sun.daisy Flower

Wonder Fortune Tellers zone🔮
F1 เรื่องของดวง by Maemortik
F1 mimi.mooo
F2 วอวาฬกางไพ่
F3 Kevin The Oracle
F3 Tine Tarot 
F4 ดูดวงกับพี่เหนือ
F5 Maimongni
F6 ธิดาทาโรต์
F7 Friendscope

Wonder Exhibition zone🧚‍♀️
สำหรับสักการะองค์เทพ ได้แก่ พระพิฆเนศ ท้าวเวสสุวรรณ และองค์พญานาค

'สมศักดิ์' สั่งการบุคลากรทางการแพทย์และสธ.เร่งช่วยประชาชน 5 จังหวัดชายแดนใต้โดนน้ำท่วมหนัก พบผู้ประสบภัยมีภาวะความเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า 

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนและความเสียหายต่อทรัพย์สินได้รับความเสียหายอย่างมากนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วง  มีความห่วงใยอย่างมากได้สั่งการไปยังนายอภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12และผู้บริหารซึ่งรับผิดชอบทั้งส่วนกลางและในพื้นที่เร่งช่วยเหลือ แก้ไข เยียวยา ฟื้นฟูตามอำนาจหน้าที่อย่างดีที่สุด และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานภาคสนาม ล่าสุด โรงพยาบาลจิตเวชสงขลานครินทร์และศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 ได้รายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 มา ดังนี้

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสีแดง 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส มีอำเภอที่ได้รับผลกระทบรวม 18 อำเภอ โดยได้รับผลกระทบในลักษณะน้ำล้นตลิ่งและท่วมขัง. ประชากรที่ได้รับผลกระทบรวม 273,121 คน พบผู้เสียชีวิต 1 รายจากสาเหตุจมน้ำ มีศูนย์อพยพที่มีผู้เข้าพักแล้ว ได้แก่ สงขลา 7 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 482 คน, ยะลา 15 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 873  คน, ปัตตานี 9 แห่ง ยังไม่มีรายงานผู้เข้าพัก, นราธิวาส 32 แห่ง เปิดแล้ว 27 แห่ง มีผู้ประสบภัยเข้าพัก 1,095 คน

ทางดเานนายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตการเตรียมทีมเยียวยาจิตใจ MCATT ในพื้นที่  87 ทีม ออกปฏิบัติการแล้ว 44 ทีม แผนการดำเนินงาน ทีม MCATT วางแผนประเมินสุขภาพจิตและให้การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีทีม MCATT กรมสุขภาพจิตให้การสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่

น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า การเกิดวาตภัย อุทกภัยและดินโคลนถล่มใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ครั้งนี้ สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ สาธารณสุขจังหวัด หน่วยบริการปฐมภูมิ สถานบริการสาธารณสุขชุมชน (สสช.) หน่วยแพทย์แผนไทย อย่างไรก็ตามบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งรวมกลุ่มกันเป็นทีมปฏิบัติได้ให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างต่อเนื่องด้วยการไปเยี่ยมบ้าน ให้สุขศึกษา ตรวจรักษา ส่งต่อ มอบชุดดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดศูนย์พักพิง อีกทั้งให้บริการด้านสุขภาพจิต พบว่า มีภาวะความเครียดสูง 1,643 ราย เสี่ยงซึมเศร้า 405 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 86 ราย ส่งต่อจิตแพทย์ 310 ราย

ขณะที่โรงพยาบาลปัตตานี ได้รับรายงานจากนายรุซตา สาและ ผู้อำนวยการรพ.ปัตตานี รับคนไข้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และยังใช้ยาฉีดอยู่ เข้่ามา admit มีการขยายเตียง รพ เพื่อรองรับผู้ป่วยได้อย่างน้อย 50-60 คนรพ.พร้อมเปิดโรงครัว ดูแลทุกระดับ จัดระบบ logistics มีรถ 6 ล้อ จาก วิทยาลัยกาญจนาภิเษก รับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ระดมแพทย์ ทั้งรพ มาตรวจคนไข้ให้เร็วขึ้น.ขออัตรากำลังพยาบาลจาก รพช. มาขยายที่ขยายหอผู้ป่วยเพื่อช่วยเหลือให้ทันท่วงที” นางสาวตรีชฎากล่าว

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.

พลเรือตรี พัฒนชัย เฉลิมวรรณ์ ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมด้วย นายเดชา อุปถัมชาติ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ไวท์พลาย จำกัด ร่วมลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการจัดทำระบบ Insurance Claim ระหว่าง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กับบริษัท ไวท์พลาย จำกัด ณ ห้องประชุม 20 ปี อาคารอำนวยการ รพ.ฯ โดยมีคณะ รอง ผอ.รพ.ฯ ทั้ง 4 ฝ่าย พร้อมทั้งบุคลากรสำนักงานสิทธิประโยชน์ และบุคลากรของ บริษัท ไวท์พลาย จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา

การลงนามบันทึกความตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ประจำปีงบประมาณ 2567 

ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสถานพยาบาล และผู้รับบริการ ในการประสานงานและเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล ตามกรมธรรม์ประกันภัย ต่อไป

'รองนายกฯ ประเสริฐ' ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 - ตรวจความคืบหน้าโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน รอบคูเมือง

เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.67) นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่ตรวจราชการภารกิจด้านอุตุนิยมวิทยาเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหา PM 2.5 และการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวของจังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามบินเชียงใหม่ โดยนางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวต้อนรับพร้อมรายงานสรุปภาพรวมการปฏิบัติงานในภารกิจสนับสนุนการแก้ปัญหา PM 2.5 และการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ร่วมสนับสนุนข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรม เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่นั้นเป็นพื้นที่เป้าหมายที่รัฐบาลมุ่งหวังจะยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอากาศสะอาด โดย PM 2.5 เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้น นายประเสริฐ และคณะเดินทางไปตรวจดูงานความคืบหน้า งานท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน รอบคูเมืองของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ณ จุดดูงาน แจ่งกระต๊ำ บริเวณคูเมืองรอบใน ถนนมูลเมือง ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งโครงการดังกล่าว บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ได้สร้างโครงข่าย single last mile เพื่อรองรับโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเมืองใหญ่ เพื่อที่จะได้ไม่มีสายสื่อสารรกรุงรังบนเสา โดยที่ผ่านมา บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ และ Operator ค่ายสื่อสารต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มตัดถ่ายลูกค้าที่อยู่โครงข่ายบนเสาไฟฟ้าลงสู่โครงข่ายใต้ดิน single last mile ใน Lot1 และได้ดำเนินการเริ่มทยอยรื้อสายสื่อสารลงจากเสาไฟฟ้า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพื่อความปลอดภัย เป็นระเบียบเรียบร้อย และทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองเชียงใหม่ โครงการ Lot ที่ 1 นี้ จะสามารถรื้อสายสื่อสารลงจากเสาไฟฟ้าได้หมด ภายในสิ้นปี 2567 นี้

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ 'ล้างบางปรสิต' กำจัดอาชญากรข้ามชาติ

ตำรวจภูธรภาค 2 นำโดย พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นประธานในการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ ในพื้นที่พัทยาและโดยรอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเทศกาลงานพลุนานาชาติเมืองพัทยาประจำปี 2567

สืบเนื่องจากพื้นที่จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติ และมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยียนจำนวนมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งในปัจจุบันมีปรากฎข่าวสารต่าง ๆ ในภาพสื่อ ทั้งด้านอาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ แรงงานต่างด้าวที่แย่งอาชีพคนไทย ชาวต่างชาติ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่กระจายอยู่ในทั่วทุกพื้นที่ อีกทั้งยังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั้น พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสอดรับนโยบายสำคัญของพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นย้ำในเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เปรียบเสมือน “ปรสิต” ที่คอยกัดกินความสุข ความเป็นอยู่ที่ดี และยังคอยทำร้าย พี่น้องประชาชน มีความจำเป็นที่จะต้องทำการ “ล้างบาง” โดยเร็วที่สุด อีกทั้งพลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน จึงได้เปิดปฏิบัติการ “ล้างบางปรสิต”

ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำโดย พลตำรวจตรีธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดชลบุรี จึงได้สั่งการไปยังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และสถานีตำรวจทุกสถานีในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี สนธิกำลังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี รวมไปถึงผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานข้างเคียง อาทิเช่น เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ในการบุกปฏิบัติการจับกุมเป้าหมาย และปราบปรามอาชญากรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยผลการปฏิบัติการ "ล้างบางปรสิต" สามารถดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด โดยแยกเป็นข้อหา ดังนี้

1. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานฯ และกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการหลอกให้ลงทุน (call center) โดยจับกุมแก๊งชาวจีนปล่อยเงินกู้ ได้รวม 17 ราย รวมยอดหนี้หมุนเวียนรวมประมาณ 392,155,000 บาท
2. ร้านลักลอบผลิตและจำหน่ายสมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ร้าน จับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย โดยเป็นแรงงานต่างด้าวจำนวน 7 คน และตรวจยึดสมุนไพรแปรรูปที่แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง ที่มีวิธีการหลอกขายให้ซื้อโดยบังคับขู่เข็ญ
ทำร้ายร่างกาย จำนวน 27 รายการ
3. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ (ทำงานผิดประเภท) จำนวน 109 ราย
4. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 469 ราย
5. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (over stay) จำนวน 33 ราย

6. ความผิดเกี่ยวกับการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว ตาม ม.38 จำนวน 249 ราย
7. ความผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ ซึ่งมีไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำนวน 42 ราย โดยตรวจยึดปืนได้จำนวน 23 กระบอก 
8. ความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมตัวได้ รวมจำนวน 9 ราย โดยตรวจยึดยาบ้า จำนวน 300,037 เม็ด ไอซ์จำนวน 4.2 กรัม 
9. จัดระเบียบการรวมกลุ่มแข่งรถในทาง-ทะเลาะวิวาท ของชาวคูเวต โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 33 ราย 
ข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว 2 ราย โดยทั้งหมดได้ดำเนินคดีกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องแล้วทุกราย
10. จัดระเบียบคนไร้บ้าน เร่ร่อน 14 ราย (โดยตรวจพบเสพสารเสพติดจำนวน 7 ราย) ขอทาน 33 ราย ขายดอกไม้ 2 ราย

ปฏิบัติการดังกล่าว เป็นเพียงหนึ่งในนโยบายในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของชาวต่างชาติในพื้นที่พัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการป้องกัน แต่จะเป็นการปฏิบัติการเชิงรุก ทะลายกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ในรูปแบบต่าง ๆ และอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ของนักท่องเที่ยว โดยตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จะดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัย จนเกิดความอุ่นใจ นำไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชนและสายตาชาวโลก ดังวิสัยทัศน์ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top