Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

‘อรวรรณ ฉิมแป้น’ ฝืนเจ็บกัดฟันเข้าเส้นชัย คว้าเหรียญทองที่ 3 จากกีฬาคนพิการฝากชาวไทย

อำพล ทองเมืองหลวง ช่างภาพกีฬาชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องราวสุดประทับใจ ในการแข่งขัน อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 เมืองโซโล อินโดนีเซีย โดยระบุว่า ...

เป็นภาพชุดนึงที่ชอบของวันนี้... 

ภาพที่บอกอะไรหลาย ๆ อย่าง ให้ความหมายอะไรหลาย ๆ อย่าง 

อรวรรณ ฉิมแป้น นักวิ่งผู้พิการทางสมอง วันนี้เธอวิ่งคว้าเหรียญทอง 400 เมตรหญิงคลาส T37 ด้วยเวลา 1.18.30 นาที และนี่เป็นเหรียญทองที่สามของเธอ หลังจากเมื่อวาน ได้เหรียญทองทั้ง 100 เมตร กับ 200 เมตร

ถึงเส้นชัยเธอลงไปนอนกองกับพื้น แล้วร้องด้วยความเจ็บปวด ถ่ายรูปไป ผมก็สงสัยเธอเป็นอะไร...

"ลุกไหวมั๊ย ลุกไหวค่อย ๆ ลุกเดินออกมานะ"

เสียงโค้ชตะโกนสวนผ่านหูใกล้ ๆ ก่อนน้องจะโบกมือไม่ไหว แล้วลงไปนอน ก่อนจะมีเปลมาหามออกไปด้านหลัง แล้วน้องก็ร้องห่ม ร้องไห้ใหญ่ ด้วยความเจ็บปวด

ทุกคนช่วยปลอบ รวมถึงความน่ารักของนักกีฬาข้าง ๆ ที่นอนบนเปลข้าง ๆ หันมายกนิ้วยินดีให้กับชัยชนะของเธอ

สักพักเธอยิ้มได้ แล้วทีมงานบอกยกนิ้วให้กล้องหน่อยดั่งภาพที่เห็น

หลังจากนั้นผมเดินไปถามโค้ชว่าน้องเขาเป็นอะไรหรอครับ ร้องไห้ทำไม?

ศิลปินออสซี่เอา ‘แตงกวา’ แปะติดเพดาน ตั้งราคาขาย 2 แสนบาท

แตงกวา 1 ชิ้นที่ใส่มาในเบอร์เกอร์และถูกเอาไปแปะติดบนเพดาน กลายเป็นผลงานศิลปะที่ถูกตั้งราคาขายสูงถึง 10,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือประมาณ 2.2 แสนบาท ท่ามกลางความงุนงงของชาวเน็ตแดนกีวี

งานศิลปะที่ชื่อว่า ‘Pickle’ นี้เป็นผลงานของ แมทธิว กริฟฟิน ศิลปินชาวออสเตรเลีย และถูกนำไปจัดแสดงที่หอศิลป์ Michael Lett Gallery ในนครออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ 

มันไม่มีอะไรซับซ้อน มีเพียงแตงกวาเปื้อนซอสมะเขือเทศ 1 ชิ้นที่ถูกดึงมาจากชีสเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ และถูกแปะเอาไว้บนเพดานของหอศิลป์เท่านั้น

หอศิลป์แห่งนี้อธิบายว่า นี่คืองานศิลปะที่มีเจตนา 'ปลุกเร้า' คนดูให้ฉุกคิดว่าอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่า ขณะที่ ไรอัน มัวร์ ผู้อำนวยการหอศิลป์ Fine Arts Sydney ซึ่งเป็นตัวแทนของ กริฟฟิน ระบุว่า การที่สิ่งๆ หนึ่งจะมีคุณค่าและความหมายคู่ควรกับคำว่าศิลปะหรือไม่นั้น อยู่ที่คนจะมอง

ฝีดาษลิงรายที่ 4 พบผู้ป่วยฝีดาษวานรรายที่ 4 ในไทย เป็นผู้หญิงใกล้ชิดต่างชาติเที่ยวกทม.

กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร รายที่ 4 ของประเทศไทย เป็นหญิงไทย มีประวัติเสี่ยงใกล้ชิดกับชายชาวต่างชาติ ที่สถานบันเทิง เบื้องต้นคาดว่าติดเชื้อจากการที่มีสัมผัสใกล้ชิด กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาติดตามกลุ่มเสี่ยงต่อไป

(5 ส.ค. 65) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร รายที่ 4 ของประเทศไทย เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี มีประวัติเสี่ยงไปเที่ยวสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย่านที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยว เป็นประจำประมาณสัปดาห์ละครั้ง และมีการสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวต่างชาติ โดยผู้ป่วยเริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 แต่ยังไปเที่ยวสถานบันเทิงพร้อมเพื่อนชาวไทย และชาวต่างชาติ วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 เริ่มมีตุ่มขึ้นที่แขนขา แล้วลามไปทั่วร่างกาย ร่วมถึงอวัยะเพศ วันที่ 3 สิงหาคม 2565 จึงเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และห้องปฏิบัติการที่ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก TRC-EIDCC โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันพบเชื้อฝีดาษวานร (Monkeypox virus) วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ก่อนส่งตัวผู้ป่วยมารับการดูแลรักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค นับเป็นผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรเป็นรายที่ 4 และเป็นเพศหญิงรายแรกในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายชาวไนจีเรียที่ภูเก็ต รายที่ 2 ชายชาวไทย ในกรุงเทพมหานคร และรายที่ 3 ชายชาวเยอรมันที่ภูเก็ต

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เร่งติดตาม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ผู้สัมผัสคนอื่น ๆ และเร่งติดตามตัวชายชาวต่างชาติแล้ว และเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย ๆ ซึ่งจะติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดมาก ๆ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเพิ่มความระมัดระวังและงดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานร

ดีอีเอส เผยปชช.แจ้งความคดีออนไลน์แตะ 6 หมื่นเรื่อง พบคดีหลอกลวงด้านการเงินมาเป็นอันดับ 1

ดีอีเอส เปิดตัวเลขเหยื่อไซเบอร์ ใช้บริการแจ้งความคดีออนไลน์ 59,846 เรื่อง ในระยะเวลา 4 เดือนหลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com อายัดเงินไปแล้วกว่า 121 ล้านบาท พบคดีหลอกลวงด้านการเงินมาเป็นอันดับ 1

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส)  กล่าวว่าจากแนวโน้มปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในยุคดิจิทัล ดังนั้นกระทรวงดีอีเอส และหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงได้เร่งยกระดับบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อเข้าถึงการช่วยเหลือ และติดตามผู้กระทำผิดกฎหมายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยจากข้อมูลของศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com สรุปสถิติการใช้บริการของประชาชนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา(ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 31 ก.ค.2565 พบว่า มีผู้เสียหายแจ้งความคดีออนไลน์ 59,846 เรื่อง โดยสามารถดำเนินการอายัดบัญชีได้แล้วกว่า 121 ล้านบาท 

ในส่วนของคดีออนไลน์ พบมากที่สุดคือ คดีหลอกลวงด้านการเงิน 31,047 เรื่อง โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ หลอกให้ทำงานออนไลน์ หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน และหลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ขณะที่ จำนวนคดีลำดับรอง ๆ ลงมา ได้แก่ หลอกลวงจำหน่ายสินค้า 24,643 เรื่อง การพนันออนไลน์ 462 เรื่อง ข่าวปลอม 239 เรื่อง และล่วงละเมิดทางเพศ 136 เรื่อง

ระบบรับแจ้งความออนไลน์ เป็นช่องทางที่ช่วยให้ประชาชนสามารถแจ้งความได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยสามารถแจ้งความทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com โดยลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลทางคดี ตามขั้นตอนจนเสร็จ ผู้แจ้งจะได้รับ “เลขรับแจ้งความออนไลน์ หรือ Case ID” จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่การรับแจ้ง (Admin) ติดต่อกลับโดยจากสถิติปัจจุบันสามารถโทรหาผู้แจ้งได้ทั้งหมดภายใน 3 ชั่วโมง

‘บิ๊กตู่’ ย้ำเป้าหมาย Net zero ภายในปี พ.ศ. 2608 วอนคนไทยร่วมรับมือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

‘บิ๊กตู่’ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน TCAC ยืนยันเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งใช้นโยบายเศรษฐกิจ BCG เป็นกลไกหลักในการสร้างความสมดุลแห่งการพัฒนา เดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 สิงหาคม ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดและกล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference: TCAC) จัดโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด“อนาคตไทย อนาคตโลก: โอกาสและความรับผิดชอบ (Our Future: Our Responsibility, Our Opportunity)” โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ เป็นการยืนยันเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลักดันไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2608 ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบทวีความรุนแรงมากขึ้นต่อทุกภูมิภาคทั่วโลก ตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นประมาณ 1.1 องศาเซลเซียส 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาคมโลกต้องเร่งยกระดับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ซึ่งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจะส่งผลให้นานาประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตการผลิตสินค้าอาจส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นที่ประชากรทั่วโลกจะประสบกับภาวะขาดแคลนอาหาร และภัยธรรมชาติรูปแบบต่าง ๆ จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น World Economic Forum : WEF จึงได้กำหนดให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามระยะยาวของโลกที่มีแนวโน้มจะส่งผลต่อการดำเนินเศรษฐกิจระดับมหภาค ที่ผ่านมา ประชาคมโลกได้พยายามยกระดับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุ่งบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีสจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส  และพยายามควบคุมให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเท่ากับต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกลงร้อยละ 45 ภายในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิต้องเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 พร้อมทั้งสร้างขีดความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น ควบคู่กันไปอย่างสมดุล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและกระทันหัน เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ซึ่งล้วนแต่กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ในปี 2564 ไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงสุด เป็นลำดับที่ 9 ของโลก ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา มีมูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมแล้วนับแสนล้านบาท ในวันนี้ ประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวรับผลกระทบที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ อย่างจริงจัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า นโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้กำหนดทิศทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในทุกมิติร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บทต่าง ๆ ที่มุ่งสู่การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ ครอบคลุม 3 องค์ประกอบที่สำคัญ การลดก๊าซเรือนกระจกระยะยาวที่สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ,การปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ สนับสนุนการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐและเอกชน รวมถึงการพัฒนามาตรการทางเศรษฐศาสตร์ การเงิน และการคลัง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องปรับตัวสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่แสดงเจตนารมณ์ต่อ United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC 

ตร. ตีแผ่ “หนี ซ่อน สู้” หลักสากลในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง (Active Shooter)

วันที่ (5 ส.ค. 2565) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า เหตุกราดยิง หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า Active Shooter นั้น ไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เช่น เหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ (23 พ.ค. 2550) และเหตุกราดยิง ที่ ห้าง Terminal 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ (8 ก.พ. 2563) เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่าง ๆ อีกด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

“หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้
- เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย
- เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี
- ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
- ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้

Grand Opening Advanced wound care Center หยุดแผลเรื้อรังแบบไม่ลุกลาม ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์

เนื่องจากปัจจุบันการรักษาทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งเน้นในการรักษาคนไข้ให้กลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วยิ่งขึ้นทาง โรงพยาบาลพญาไท3 จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของการดูแลคนไข้และไม่เคยหยุดพัฒนาเทคโนโลยีการรักษารูปแบบใหม่อยู่เสมอ และอีกหนึ่งการดูแลรักษาที่สำคัญที่หลายท่านอาจมองข้ามไปนั่นคือการดูแลบาดแผล ซึ่งหลายท่านอาจเคยคิดว่าการล้างแผล ทำแผล อาจเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ต้องใช้เทคนิคในการดูแล แต่ความจริงแล้วการเกิดบาดแผลเพียงเล็กน้อยหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพแล้วอาจเกิดการติดเชื้อและลุกลามและอาจส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นได้

ด้วยเหตุนี้ นายแพทย์สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท3 จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาให้ เปิดศูนย์ Advanced Wound Care Center  หยุดแผลเรื้อรังแบบไม่ลุกลาม ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ถือเป็นอีกหนึ่งการยกระดับการดูแลบาดแผลด้วยแพทย์เฉพาะทางและมีการใช้เทคโนโลยีและวัสดุการดูแลการปิดแผลที่ทันสมัย การใช้เทคโนโลยีการตัดเนื้อตายด้วยพลังน้ำ Hydrosurgery ช่วยส่งเสริมการหายของบาดแผลไม่รบกวนคุณภาพชีวิต เพื่อดูแลคนไข้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  

ด้านมุมมองทางการแพทย์โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการดูแลบาดแผล  ศูนย์ Advanced wound care Center นำทีมโดย

พญ.นรสรา วิทยาพิพัฒน์  ศัลยแพทย์ศูนย์ศัลยกรรมเทคโนโลยชั้นสูง โรงพยาบาลพญาไท3 
พญ.เบญจพร นันทสันติ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการส่องกล้อง โรงพยาบาลพญาไท3
ผศ.พญ.กุสุมา ชินอรุณชัย ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านอุบัติเหตุและบาดแผล โรงพยาบาลพญาไท3
นพ.พงษ์ตะวัน กัลยพฤกษ์ ศัลยแพทย์ทั่วไป ศัลยแพทย์หลอดเลือดแผลจากหลอดเลือดโรงพยาบาลพญาไท3

มท.1 สั่งสอบ ‘ไฟไหม้ผับสัตหีบ’ ด่วน พบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต - อยู่นอกโซนนิ่ง

วันนี้ (5 ส.ค. 65) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมการปกครอง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ สถานบันเทิง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมาท์เทน บีผับ ที่มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมไปถึงมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ว่า การดำเนินการไม่น่าจะถูกต้อง เพราะไม่ได้รับอนุญาต ฉะนั้นจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่าใครรับผิดชอบอะไรอย่างไร เนื่องจากอยู่ในพื้นที่โซนนิ่งไม่ให้มีสถานบันเทิง รวมไปถึงสถานประกอบการดังกล่าวก็ไม่ได้มีการขออนุญาต และยังไม่นับว่า ในการขออนุญาตท้องถิ่นนั้นถูกต้อง หรือไม่ อย่างไร

Heidelberg University ตำนานมหาวิทยาลัยสยองขวัญแห่งเยอรมนี ที่ยังเปิดรับนักศึกษาทั่วโลกให้ได้ไปสัมผัส

ทุก ๆ สถานที่ล้วนมีตำนาน และตำนานก็คือเรื่องราวหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ เพียงแต่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของเยอรมนีอย่าง Heidelberg University อาจมีเรื่องราวที่ทั้งขลัง และชวนสยองขวัญกว่าสถาบันอื่น ๆ ที่ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้ไป ขนหัวลุกไปเลยทีเดียว 

ประวัติโดยสังเขปของ Heidelberg University ตั้งอยู่ในบาเดิน-เวิอร์ทเทิมแบร์ค (Baden-Württemberg) แคว้นที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน ก่อตั้งในปี ค.ศ.1386 จนถึงปีนี้มีอายุกว่า 636 ปีแล้ว นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี ที่ยังคงเปิดการเรียน การสอนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากจะมีอายุเก่าแก่แล้ว ยังคงรักษาระดับความเป็นเลิศด้านวิชาการ เป็นสถาบันการศึกษาระดับแถวหน้าของเยอรมนี ที่สร้างนักวิชาการที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 33 คน สาขาวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบันได้แก่ แพทยศาสตร์ รังสีวิทยา ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ จิตวิทยา กฎหมาย และชีววิทยาแขนงต่าง ๆ 

เมื่อเป็นสถาบันที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี ย่อมมีเรื่องราวทั้งด้านสว่าง และด้านมืด แต่ตำนานหลอนที่อยู่คู่กับสถาบันแห่งนี้กลับเพิ่งเกิดขึ้นในยุคประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ในช่วงพรรคนาซีเรืองอำนาจในเยอรมันนี่เอง 

เมื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำเยอรมันในปี 1933 เขาได้สั่งให้กวาดล้างนักวิชาการฝ่ายซ้าย หรือผู้มีแนวคิดคอมมิวนิสต์ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งช่วงเวลานั้น Heidelberg University มีการรวมกลุ่มของนักศึกษา และอาจารย์ที่มีแนวคิดคอมมิวนิสต์ และกลุ่มนักวิชาการชาวเยอรมันเชื้อสายยิวอยู่ไม่น้อย 

ทางรัฐบาลนาซีได้ออกคำสั่งให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเปลี่ยนแนวการสอนเพื่อสนับสนุนการปกครองของรัฐบาลนาซี-เยอรมนี รวมถึงเผาตำราที่ต่อต้านลัทธินาซีทั้งหมดทิ้ง ที่จัตุรัสกลางมหาวิทยาลัย ส่วนอาจารย์บางคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ และไม่ยอมเปลี่ยนแนวการสอน หรือมีเชื้อสายยิวก็จะถูกกำจัด หรือไม่ก็กวาดต้อนไปอยู่ในค่ายกักกันนาซี และไม่ได้กลับมาอีกเลย 

ช่วงยุคมืดนั้น ทำให้เกิดเรื่องราวหลอนภายใน Heidelberg University จนถึงปัจจุบัน ว่าเมื่อเดินผ่านจัตุรัสกลางมหาวิทยาลัยตอนช่วงค่ำ จะได้กลิ่นเหมือนกระดาษเก่า ๆ และปกหนังสือที่ทำด้วยหนังกำลังไหม้ไฟอยู่ ในจุดที่เคยมีการเผาตำราจำนวนมหาศาลในสมัยนาซี

‘บิ๊กตู่’ สั่งจนท. ตรวจสอบสถานบันเทิง หลังไฟไหม้ผับดังชลบุรีทำคนตายเพียบ

‘บิ๊กตู่’ ให้เจ้าหน้าที่ ประสานเจ้าของเม้าส์เทน บีผับ ช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ จี้ ส่วนราชการในพื้นที่สำรวจสถานบันเทิงให้มีความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานกรณีเหตุเพลิงไหม้ เม้าส์เทน บีผับ ( MOUNTAIN B ) ริมถนนสาย สุขุมวิท  ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่ามีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ มอบหมายให้ส่วนราชการเป็นคนกลางประสานกับเจ้าของผับเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top