Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

'ก้าวไกล' ร่วมมือภาคประชาสังคม ทำหมัน 'หมา-แมว' จรจัดทั่วกรุง

มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์อนาคต และสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมทำหมัน ฉีดวัคซีนให้สุนัขและแมวฟรี 100 ตัว ในวันนี้เป็นพื้นที่เขตบางขุนเทียน โดยมี ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อสัดส่วนสิ่งแวดล้อม และวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล ร่วมสังเกตการณ์ โดยณัฐชากล่าวว่าในพื้นที่บางขุนเทียนมีทั้งสุนัขและแมวจรจัด บ่อยครั้งที่ปัญหาการควบคุมการเกิดของสัตว์เหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อคนที่อาศัยในชุมชน การทำหมันหมาแมวจรจัดสามารถลดปัญหาโรคระบาดจากสัตว์สู่คนและสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดการชุมชนให้น่าอยู่

นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้ตนและคณะทำงานสิ่งแวดล้อมของพรรคก้าวไกลได้ศึกษาและเตรียมพร้อมที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้อาหารสัตว์จรจัดในชุมชนเพื่อลดภาระให้แก่ประชาชนและยุติปัญหาการให้อาหารสัตว์จรจัดไม่เป็นที่เป็นทางเพื่อให้ชุมชนมีสุขอนามัยที่ดีเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมให้แก่ทั้งคนและสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ ด้วย

ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร มีงบประมาณในการทำหมันสุนัขและแมวแต่งบประมาณไปเจาะจงที่สุนัขเลี้ยง ทำให้ปัญหาการควบคุมจำนวน สุนัขและแมวจรจัดยังไม่ถูกแก้ ไข วันนี้ทางส.ส.เขตบางขุนเทียนและมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพิทักษ์อนาคตมูลนิธิได้เข้ามาทำหมันหมาแมวจร โดยเริ่มต้นที่เขตบางขุนเทียน  และโครงการดังกล่าวจะไปยังเขตต่างๆทั่วกรุงเทพฯ เพราะปัจจุบัน สุนัขและแมวจรในกรุงเทพมามากกว่า 250,000 ตัว ดังนั้นโครงการนี้จะสามารถยุติวงจรการเกิดของสุนัขและแมวจรจัดได้

‘อนุพงษ์’ เผย นายกฯ เป็นห่วงปชช.น้ำท่วม สั่งมหาดไทย ลงพื้นที่เยียวยาเร่งด่วน

วันนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เเละนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงลงพื้นที่อำเภอแม่จัน และตลาดลมจอย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุมู่หลาน รวมถึง ตรวจการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้ง ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

เบื้องต้นทางภาครัฐได้จัดเตรียม รถประกอบอาหาร2คัน รถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ เเละเตรียมแผน ฟื้นฟูหลังน้ำลด ในการทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับประชาชน พร้อมกับ มอบถุงยังชีพ เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เเละมอบเงิน จำนวน  59,400 บาท ให้กับ มารดาของนายสมศักดิ์ มณีจันทร์สุข ผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงรายด้วย 

พล.อ. อนุพงษ์ ยังกล่าวกับผู้ประสบภัยด้วยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ฝากกำลังใจเเละความห่วงใยมาให้ทุกคน ทุกคนเป็นคนไทย ไม่ต้องตกใจ เราไม่ทอดทิ้งกัน ทั้งนี้ ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเตรียม เยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยด้วย ทั้งนี้ ได้น้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตให้เป็นปกติสุขโดยเร็ววัน

'ผู้นำโสมขาว' ขอสานความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับญี่ปุ่น วอน!! ชาวเกาหลีก้าวข้ามทุกเรื่องบาดหมางในอดีต

วันนี้ 15 สิงหาคม ตรงกับวันปลดปล่อยแห่งชาติ (Liberation Day) ของเกาหลี โดยเป็นวันที่คาบสมุทรเกาหลีได้รับการปลดปล่อยจากการยึดครองของกองทัพญี่ปุ่นจากฝ่ายกองกำลังสัมพันธมิตร หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 

ฉะนั้นเกาหลีใต้ จะถือวันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญประจำปี โดยจะมีการเฉลิมฉลองที่ได้รับอิสรภาพ และรวมถึงมักมีการย้อนรำลึกถึงความโหดร้ายของสงคราม และการกระทำของกองทัพญี่ปุ่นที่ยังคงทิ้งแผลใจให้แก่ชาวเกาหลีจนถึงทุกวันนี้ 

แต่ทว่า ในปีนี้ 2022 'ยุน ซอก-ยอล' ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ในวันฉลองครบรอบ 77 ปี วันปลดปล่อยเกาหลีว่า ต้องการเริ่มต้นสานสัมพันธ์ที่ดีกับญี่ปุ่นอีกครั้ง เพราะเสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกนั้นสำคัญกว่า

โดยประธานาธิบดี 'ยุน ซอก-ยอล' กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ ญี่ปุ่นกลายเป็นพันธมิตรสำคัญในการต่อสู้กับภัยคุกคามเสรีภาพของโลก ดังนั้นก็ถึงแก่เวลาที่ชาวเกาหลีใต้ ควรก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีตไปได้แล้ว และเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่น สามารถเดินไปข้างหน้าด้วยกันบนพื้นฐานของค่านิยมสากลในด้านการส่งเสริมเสรีภาพ ก็น่าจะช่วยคลี่คลายความบาดหมางในอดีตได้ 

แต่ทั้งนี้ ความบาดหมางฝังลึกระหว่างเกาหลี และ ญี่ปุ่น มิใช่เพียงแค่การที่กองทัพญี่ปุ่นเข้ามากดขี่ ยึดครองและสังหารทหาร และประชาชนชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นของ 'Comfort Women' หญิงชาวเกาหลีที่ถูกทหารญี่ปุ่นใช้เป็นนางบำเรอในกองทัพด้วยความไม่สมัครใจเป็นจำนวนมาก

ซึ่งในปัจจุบัน สตรีชาวเกาหลีเหล่านั้นหลายคนยังมีชีวิตอยู่ และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยกองทัพญี่ปุ่น แล้วชาวเกาหลีใต้จะสามารถก้าวข้ามความบาดหมางที่ผ่านมาไปได้อย่างที่ผู้นำเกาหลีใต้ออกมากล่าวในวันปลดแอกปีนี้ได้จริงหรือ?

อย่างไรก็ตามนโยบายการขอคืนดีกับญี่ปุ่นนี้ ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยเรียกว่าเป็นการขยายความร่วมมือกันในหลายมิติ ตั้งแต่ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ที่ช่วยส่งเสริมสันติภาพ และความก้าวหน้าในระดับนานาชาติ 

โดย ยุน ซอก-ยอล ได้อ้างอิงถึง ข้อตกลงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่น ที่เคยทำร่วมกันในปี 1998 ในสมัย คิม แท-จุง ผู้นำเกาหลีใต้ และ เคโซ โอบุจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Japan–South Korea Joint Declaration ซึ่งเป็นเหมือนพิมพ์เขียวในการสานสัมพันธ์เพื่ออนาคตระหว่าง 2 ชาติชั้นนำในเอเชียกลาง ที่ต่างก็เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐอเมริกาทั้งคู่

โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ประกาศเกียรติคุณ เชิดชูความดี นร.จ่าทหารเรือ ช่วยผู้ประสบเหตุร้ายแรงบนท้องถนน

(15 ส.ค. 65) นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ ทำพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ เชิดชูความดี แด่ นักเรียนจ่าทหารเรือ ธีรวีร์ เจริญศึกษา นักเรียนจ่าทหารเรือ พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ชั้นปีที่ 2 เนื่องจากเป็นผู้มีจิตอาสาสละแรงกาย เวลาและสติปัญญา ในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนน ที่จังหวัดระยอง

นักเรียนจ่า ธีรวีร์ เจริญศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565  ตนได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดระยอง เพื่อไปหาบิดา มารดา เนื่องจากเป็นวันหยุดพักประจำสัปดาห์  ต่อมาในเวลา 20.00 น. ระหว่างที่ตนกำลังนั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่กับมารดา ก่อนเข้าบ้าน ตนได้ยินเสียงดัง "โครม" ที่บริเวณถนนใหญ่หน้าร้าน ตนได้ชะเง้อมองแต่ไม่เห็นอะไร และเพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย 

จากการปลูกฝังความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือมาอย่างดี จากคุณพ่อที่เป็น Navy SEAL ของกองทัพเรือ (นาวาตรี นพรัตน์ มีสุข) และคุณแม่นางสาว สรัลชนา เจริญศึกษา (หัวหน้าฝ่ายกองสวัสดิการ เทศบาลตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา) ตนจึงตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะอาหารไปดู จึงเห็นรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างบริเวณจุดกลับรถบนถนนใหญ่หน้าร้านที่ตนนั่งอยู่ และเห็นชายไทยวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปี นอนนิ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และไม่สนองตอบต่อการประเมินความรู้สึกตัว

‘บิ๊กป้อม’ รุดพื้นที่สระบุรี รับมือมวลน้ำตอนเหนือ หวั่น!! กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ กทม.และปริมณฑล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งคณะทำงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดสระบุรี ตรวจสอบความพร้อมกลไกต่าง ๆ และแผนรับมือการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ไม่ให้กระทบชุมชนท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑลริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก

โดยรับฟังการบรรยายสรุป ถึงสถานการณ์น้ำภาพรวม แผนด้านทรัพยากรน้ำสระบุรี ความก้าวหน้า 13 มาตรการรับมือน้ำฤดูฝน แผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสัก และแนวทางระบายน้ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง จากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.), อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ศาลากลาง จังหวัดสระบุรี

ทั้งนี้ ‘พล.อ.ประวิตร’ ได้ย้ำสั่งการ สทนช. ร่วมกับ กรมชลประทาน รวมทั้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ให้ความสำคัญทำงานร่วมกับ ศูนย์อำนวยการส่วนหน้า สทนช.ที่จัดตั้งขึ้น ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ โดยให้ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องจากมรสุมในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลพื้นที่หลายจังหวัดมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมลำน้ำสายหลักยังคงต้องเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทันกับสถานการณ์ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนทันที เน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดอบรมเสริมความรู้คดีค้ามนุษย์กับพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ

วันนี้ (15 ส.ค. 65) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ ร่วมพิธีเปิดการโครงการอบรมสัมมนา พนักงานสอบสวนและทีมงานสหวิชาชีพจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าวและป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 2 ระยะที่ 2  ณ โรงแรมเครปพันวา จ.ภูเก็ต

การอบรมสัมมนาในครั้งนี้เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย อยู่ในระดับมาตรฐานสากล หลังจากประเทศไทยได้รับการปรับระดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์  (TIP) ประจำปี 2022  เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 จากระดับ “เทียร์ 2 ที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ขึ้นมาเป็น เทียร์ 2 (Tier 2) ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาคประมงและแรงงานของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน

ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หวังเพิ่มประสิทธิภาพงานสืบสวน

วันนี้ (15 ส.ค. 65) ที่ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รุ่นที่ 6 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 

พล.ต.ท.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งหวังให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน มีความห่วงใยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนเห็นความสำคัญของการพัฒนางานสืบสวนในภาพรวม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของอาชญากรรมในปัจจุบัน จึงได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดทำโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ของ บช.น. และ ภ.1 - 9 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 10 รุ่น รุ่นละ 60 นาย รวม 600 นาย ณ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง จ.นครราชสีมา 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน ให้มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งกำกับดูแล ให้คำแนะนำ ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ในโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รุ่นที่ 6 ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ได้แก่ ภ.จว.นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ บก.สส.ภ.7 รวมจำนวน 60 นาย เพื่อเพิ่มพูนทักษะและองค์ความรู้ในงานสืบสวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน พัฒนาศักยภาพการขยายผลและเทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ และมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกพื้นที่ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคการสืบสวนตลอดจนประสานความร่วมมือบูรณาการการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น โดยในการฝึกอบรมครั้งนี้ จะมีการฝึกอบรมทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น หลักการตรวจที่เกิดเหตุ การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและการปฏิบัติในที่เกิดเหตุของนักสืบ เทคนิคงานสืบสวนสมัยใหม่ การตรวจพิสูจน์และเครื่องมือพิเศษ การสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายการค้ายาเสพติดและการดำเนินคดีฟอกเงิน ศิลปะการซักถามและการบันทึกถ้อยคำพยาน การเขียนรายงานการสืบสวน การขอหมายขังและการควบคุมตัวไว้ในที่ปลอดภัย และการทดลองปฏิบัติการสืบสวนในกรณีศึกษา (Case Study) ที่น่าสนใจ เป็นต้น

'หมอยง' ไขข้อข้องใจอาการ 'ลองโควิด' ชี้ ไม่ควรตระหนก-หวาดกลัวจนเกินเหตุ

วันที่ (15 สิงหาคม 2565) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิด-19 ลองโควิด

ขอให้รายละเอียด ที่มีการพูดถึงกันมากเกี่ยวกับ ลองโควิด (Long Covid) และไม่ควรตระหนกจนเกินเหตุ

ลองโควิด หมายถึง อาการที่หลงเหลืออยู่หลังติดเชื้อโควิด ไม่ต่างกับโรคอื่น ที่เมื่อเจ็บป่วยแล้ว อาจจะมีอาการหลงเหลืออยู่

ส่วนใหญ่เป็นอาการจากคำบอกเล่า (symptoms) มากกว่าที่ตรวจพบ (signs)

อาการหลักคือ รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย สมองล้า หัวตื้อ (brain fog) หายใจติดขัด

อาจจะมีอาการอื่นประกอบ เช่น เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส ซึมเศร้าเครียด กังวล นอนไม่หลับ

ส่วนใหญ่จะเป็นอาการทางจิตใจ มากกว่า ทางร่างกาย

ผู้ที่ป่วยหนักจะพบได้มากกว่า

อายุมากยิ่งสูงอายุ พบมากกว่าอายุน้อย หรือน้อยมาก ๆ ในเด็ก

พบในหญิงมากกว่าเล็กน้อย

'ศักดิ์สยาม' ดีเดย์รถเมล์ อีวี แทนสาย 8 เดิม 20 ส.ค.นี้ พร้อมดันรถเมล์ EV ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน ภายในปี 65

‘ขนส่งฯ’เตรียม Kick Off วิ่งรถเมล์ EV สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) ‘แฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธ’ นำร่อง 20 คัน ดีเดย์ 20 ส.ค. นี้ พร้อมตั้งเป้ารถขนส่งสาธารณะใช้ระบบ EV ไม่น้อยกว่า 1,000 คันภายในปี 65 

(15 ส.ค. 2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ส.ค. 2565 เตรียม Kick Off ให้บริการเดินรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (EV) สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) แฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธในเบื้องต้น 20 คัน จากทั้งหมด 40 คัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปรถโดยสารของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ที่ในระยะแรกจะมีการทดลองนำร่องทั้งหมด 150 คัน กระจายไปในเส้นทางอื่น ๆ

ขณะเดียวกัน ยังได้มอบหมายให้ ขบ. ไปพิจารณาให้รถขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) , รถร่วมบริการ ขสมก. และรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปลี่ยนเป็นรถโดยสารระบบ EV โดยในปี 2565 ได้ตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน จากแผนทั้งหมด 3,200 คัน

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. กล่าวถึงกระแสความสับสนของประชาชน กรณีการปรับเปลี่ยนเลขสายรถเมล์แบบใหม่ว่า ขบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และรับฟังความเห็นของประชาชน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ช่วงนี้อาจจะเกิดความสับสน แต่ ขบ. ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหา อาทิ การประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าทั้งบนรถเมล์ และเว็บไซต์ว่า สายเดิมเป็นเลขหมายใด และสายใหม่เป็นเลขหมายใด เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ก่อนหน้านี้ รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์ร้อน) สาย 8 เส้นทางแฮปปี้แลนด์–สะพานพุทธ เตรียมยุติการดำเนินกิจการเนื่องจากไม่ผ่านคุณสมบัติในเส้นทางสัมปทานเดินรถ จำนวน 77 เส้นทางในแผนการปฏิรูปฯ ทั้งนี้ เส้นทางเดินรถของสาย 8 เดิม จึงมีรถโดยสารประจำทางของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้ได้รับสัมปทานมาเดินรถแทน โดยเรียกชื่อสายใหม่ว่า สาย 2-38 โดยจะใช้รถพลังงานไฟฟ้า พร้อมด้วยนำระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการควบคุมการเดินรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน

'จีน' ฮึ่ม!! สหรัฐฯ ส่งตัวแทนรัฐบาลเยือนไต้หวันรอบ 2 คาด!! ฉกฉวยโอกาสเลือกตั้งกลางเทอมมะกันช่วงพ.ย.นี้

ทางการจีนออกมาตอบโต้สหรัฐอเมริกา หลังส่งตัวแทนจากรัฐสภาชุดที่ 2 เดินทางเยือนไต้หวัน เมื่อวานนี้ ด้วยการเตือนว่า 'อย่าเล่นกับไฟ' เกี่ยวกับกรณีไต้หวันที่ถือเป็นเรื่องภายในของจีน

สำนักข่าว Xinhua ของจีน รายงานว่า ทางการจีนออกมาตอบโต้ด้วยความไม่พอใจ กรณีที่คณะตัวแทนจากรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวน 5 คน นำโดย เอ็ด มาร์กี้ วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) ซึ่งนับเป็นตัวแทนจากรัฐสภาชุดที่ 2 ที่เดินทางไปเยือนไต้หวัน ต่อจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ 

พร้อมกับส่งสารเตือนสหรัฐฯ ว่า “นักการเมืองสหรัฐฯ ควรที่จะหยุดเล่นกับไฟได้แล้ว” พร้อมกับเน้นย้ำว่า เรื่องของไต้หวันถือเป็นเรื่องภายในของจีน

นอกจากนี้ สำนักข่าว Xinhua ยังระบุด้วยว่า การเยือนไต้หวันของนักการเมืองชาวอเมริกันในครั้งนี้ ถือเป็นการฉกฉวยโอกาสเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top