สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” ของ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ผ่านทาง Facebook เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ว่า ญาติของตนเองซึ่งเป็นผู้หญิง พร้อมบุตรชายและบุตรสาว และเพื่อนอีก 2 คน รวมทั้งหมด 5 คน ถูกบังคับทำงานอยู่ในห้องพัก ภายในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดยผู้ถูกกักขังได้แอบส่งข้อความมาให้กับชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาล โดยส่งรูปภาพมีสภาพร่างกาย ถูกโกนผมสั้น และมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก ซ้ำร้ายยังให้ข้อมูลว่ามิจฉาชีพบังคับให้ตบหน้าบุตรชายและบุตรสาวของตนเอง หลายครั้ง ถ้าไม่ทำจะสาดน้ำร้อนใส่เด็กๆ หลังได้รับแจ้ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบถึงสถานที่ที่ถูกกักขัง จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายค้นห้องพัก เลขที่ ดังกล่าว ตามหมายค้น ที่ ค.273/2565 ลงวันที่ 16 ต.ค. 65 รายงานให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับทราบและได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.น.7 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธนากร จอมเกาะ สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.อภิชัย ชัชวาลปรีชา, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 16 ต.ค. 65 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. เข้าตรวจสอบ ห้องพักเลขที่ 95 ตึก A คอนโดศุภาลัยซิตี้รีสอร์ท พระราม8 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด จ.กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบ
1. น.ส.ไพริน (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี
2. น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี
3. น.ส.ไข่มุก (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี
4. ด.ญ.ยา (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน
5. ด.ช.เช่ (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน

โดยสภาพทั้ง 5 คน อยู่ด้วยกันภายในห้องอย่างแออัด และจากการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่า น.ส.ไพริน มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณไหล่ซ้าย, น.ส.ไข่มุก มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณหน้าอก, ด.ญ.ยา มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตา และ ด.ช.เช่ มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาและลูกตามีรอยแดง ซึ่งเมื่อสอบถาม น.ส.ไพริน, น.ส.พลอย และ น.ส.ไข่มุก มีอาการหวาดกลัว เสมือนคนเกิดภาวะผิดปกติทางจิต และได้ให้ข้อมูลว่าได้ถูกบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับ “นายทุน” โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม ซึ่งทั้งนายทุนและลูกน้องคนดังกล่าวพักอยู่ภายในตึกเดียวกัน ต่อเนื่องในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น ห้อง 192 ชั้น 10 ตึก A คอนโดศุภาลัยซิตี้รีสอร์ท พระราม8 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด จ.กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบ นายตรีเพชรรัตน ณพชร หรือ เพชร หรือ พีท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ซ.รามอินทรา 58 แยก 3-2 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว จ.กรุงเทพ อยู่ภายในห้องพัก โดย นายตรีเพชรรัตนฯ ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือทำร้าย น.ส.ไพริน และเป็นคนสั่งให้ น.ส.ไพริน ตบหน้า ด.ญ.ยา และ ด.ช.เช่ เป็นจำนวนหลายครั้ง เพราะ น.ส.ไพริน หาเงินให้นายทุนไม่ได้

จากสภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของ น.ส.ไพริน , น.ส.พลอย , น.ส.ไข่มุก , ด.ญ.ยา และ ด.ช.เช มีความผิดปกติ ประกอบกับเรื่องราวที่สลับซับซ้อนที่เกิดขึ้นภายในคอนโดดังกล่าว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้เดินทางมาซักถามปากคำโดยละเอียดด้วยตนเองทีละคนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และสืบสวนขยายผล ทำให้ทราบข้อเท็จจริงที่ “สุดพิสดาร” โดย น.ส.ไพริน , น.ส.พลอย และ น.ส.ไข่มุก ซึ่งเป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่กลับต้องลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับ นายทุนผู้คลั่งลัทธิคนนี้ โดยนายทุนผู้นี้จะใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 โดยแรกเริ่มจะทำทีร่วมธุรกิจด้วยกันแต่จะให้รวมเงินไว้ที่ตนเองและเมื่อเริ่มขับเคลื่อนธุรกิจ นายทุนผู้นี้จะใช้ทุนดำเนินการต่างๆโดยที่ทั้ง 3 ไม่ทราบแต่อย่างใด และจะใช้ “ความกลัว” เข้ากดขี่ เช่น หลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ , ลูกค้าเรียกเงินคืน , ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง ฯลฯ จากนั้นนายทุนผู้นี้ก็จะอุปโลกน์ “หนี้” ยัดเยียดให้กับทั้ง 3 และใช้การหลอกว่ารู้จักกับตำรวจ จะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี โดยล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง จำนวน 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทั้ง 3 ได้ถูกนายทุนผู้เสียหลอกลวงทรัพย์สิ้นไป รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท
