Friday, 4 July 2025
ECONBIZ NEWS

ต่อลมหายใจ!! ‘กบง.’ ไฟเขียว ตรึงราคา LPG-NGV ต่ออีก 3 เดือน แบ่งเบาภาระ ปชช. เริ่ม 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 66 นี้

(8 มี.ค 66) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้ม โดยคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานกำกับดูแลสถานีบริการก๊าซ LPG ไม่ให้มีการลักลอบเติมก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ลงในถังก๊าซหุงต้ม

เจ้าแรกในเอเชีย!! EA ปลื้ม!! โครงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตรถเมล์ EV ผ่านฉลุย พร้อมเดินหน้า ‘ลดก๊าซเรือนกระจก-มลพิษ’ ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ฉลุย!! โครงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตรถโดยสารประจำทาง EV ของบริษัท ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์และรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว หวังช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษต่างๆ ในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยเป็นโครงการแรกของทวีปเอเชียที่มีการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตภายใต้ความตกลงปารีส Article 6 ขณะที่ ‘Kilk Foundation’ เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินผ่านการซื้อคาร์บอนเครดิต ช่วยส่งเสริมให้โครงการมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น 

นายฉัตรพล ศรีประทุม ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า โครงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตภายใต้ความตกลงปารีส Article 6 ของรถโดยสารประจำทาง EV นี้ เป็นโครงการอันดับแรก ๆ ของโลก และเป็นโครงการแรกของทวีปเอเชียโดยทาง EA มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการส่งเสริมความร่วมมือกันระหว่างประเทศในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การเดินหน้าของโครงการเราจะเป็นการสนับสนุนให้เราก้าวเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจแบบปลอดคาร์บอน และช่วยกระตุ้นบรรยากาศที่ดีสำหรับภาคเอกชนในการพัฒนากิจกรรมที่ช่วยรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม

Mr. Michael Brennwald, Head International, Kilk Foundation กล่าวว่า โครงการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตภายใต้ความตกลงปารีส Article 6 ของรถโดยสารประจำทาง EV นี้ เป็นโครงการนำร่องเพื่อการสนับสนุนกิจกรรมการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน การแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตผ่าน Article 6 นั้นมีการร่วมกันพัฒนามาอย่างแข็งขันจากทุกภาคส่วน 

นอกจากนี้เรายังมองหาโอกาสในการร่วมมือกับภาคเอกชนในประเทศไทยและประเทศข้างเคียงเพื่อที่จะสร้างโครงการในการร่วมมือกันระหว่างประเทศกับสวิตเซอร์แลนด์ 

ค้าง่าย ขายคล่อง!! ‘รัฐบาล’ เร่งพัฒนากรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ดัน 9 ภารกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจข้ามพรมแดน

(8 มี.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 66 เห็นชอบร่างแผนพัฒนาระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570) สำหรับสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ กรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation : MLC) จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 มีสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ซึ่งตกลงร่วมส่งเสริมความร่วมมือ 6 สาขา ได้แก่

1.) สาขาความเชื่อมโยง
2.) สาขาการพัฒนาศักยภาพในการผลิต
3.) สาขาความร่วมมือทรัพยากรน้า
4.) สาขาการเกษตร
5.) สาขาการลดความยากจน
6.) สาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน สำหรับแผนพัฒนาระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570)

พลิกโฉมวงการพลังงานไทย!!  ‘ปตท.สผ. – เชฟรอน’ คว้าประมูลปิโตรเลียมอ่าวไทย ครั้งที่ 24 คนไทยได้รับอานิสงส์ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลง

(8 มี.ค.66) นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ.อีดี) และ บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ครั้งที่ 24 โดยบริษัท ปตท.สผ. อีดี ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 และ G3/65 ขนาดพื้นที่รวม 19,515.42 ตารางกิโลเมตร และอนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 ขนาดพื้นที่ 15,030.14 ตารางกิโลเมตร

"กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้พิจารณาคำขอสิทธิสำหรับแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าว โดยยึดหลักความโปร่งใสและผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ทั้งจากคุณสมบัติของผู้ขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ข้อเสนอทางด้านเทคนิคและผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เกิดการสร้างงาน การสร้างรายได้แก่ท้องถิ่น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยจะก่อให้เกิดการลงทุนสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมภายในประเทศตลอดช่วงระยะเวลาสำรวจปิโตรเลียม 6 ปี เป็นเงินไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท รวมทั้งได้รับผลประโยชน์พิเศษในรูปแบบของค่าตอบแทนการลงนาม เงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทย และอื่น ๆ เป็นเงินประมาณ 640 ล้านบาท และหากสามารถพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมได้ ในเชิงพาณิชย์ ในแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าวก็จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐในรูปแบบของค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งจากปิโตรเลียมที่เป็นกำไรด้วย" นายสราวุธ กล่าว

สำหรับการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/61) จากระบบสัมปทานสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตในวันที่ 7-8 มี.ค.66 ซึ่งดำเนินงานโดย ปตท.สผ. อีดี สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องทันทีทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ และปัญหาใด ๆ และคาดว่าจะสามารถเร่งผลิตก๊าซธรรมชาติให้มากกว่าเป้าหมายของภาครัฐที่ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อชดเชยปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ลดลงของแปลง G1/61 (แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณเดิม)

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้เตรียมความพร้อม รองรับการดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/6) โดยได้มีการตรวจติดตามสภาพความแข็งแรง ปลอดภัยของสิ่งติดตั้งและทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมของแปลง G2/61 รวมทั้งได้จัดตั้งวอร์รูม (War Room) เพื่อรองรับการบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านในลักษณะบูรณาการ ร่วมกับผู้รับสัมปทานรายเดิม ผู้รับสัญญารายใหม่ และผู้รับซื้อปิโตรเลียม โดยมีผู้บริหารของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติบัญชาการที่ห้องวอร์รูม รวมทั้งมีทีมเฉพาะกิจภาคสนาม จำนวน 3 ทีม คอยติดตาม ควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดบนแท่นผลิตในทะเลอ่าวไทย โดยประจำที่แท่นผลิตกลางบงกชใต้ แท่นผลิตกลางบงกชเหนือ และเรือกักเก็บก๊าซธรรมชาติเหลวปทุมพาหะ เพื่อตรวจสอบปริมาณการผลิตปิโตรเลียมรอบสุดท้ายในช่วงเวลาก่อนหมดอายุสัมปทาน รวมทั้งวัดปริมาณปิโตรเลียมที่คงค้างในเรือกักเก็บ ก่อนที่จะมีการส่งมอบให้กับผู้รับสัญญารายใหม่อย่างเป็นทางการ

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

‘เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5’ เปิดเพียงชั่วโมงแรก คนเข้าจองไปแล้วกว่า 6 หมื่นสิทธิ

กดสิทธิกันสนั่น! เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 แค่ชั่วโมงแรกจองไปแล้ว กว่า 6 หมื่นสิทธิ

จากกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 โดยให้สิทธิ 560,000 สิทธิ (ห้องพัก) พร้อมเปิดให้จองสิทธิ ที่พักวันแรกในวันที่ 7 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.นั้น

‘กรณ์’ โต้ ‘เพจแบงก์ชาติ’ บิดเบือนนโยบาย ชพก. ย้ำชัดขอยกเลิก "แบล็กลิสต์" ไม่เกี่ยวเลิกเครดิตบูโร

‘กรณ์’ ซัดเพจแบงก์ชาติ บิดเบือน นโยบาย ยันไม่ได้ยกเลิกเครดิตบูโร ย้ำ "ยกเลิกแบล็กลิสต์-ใช้เครดิตสกอร์" จวกแบงก์ชาติ มีหน้าที่ดูแลลดต้นทุนการเงินประชาชน ไม่ใช่มาสร้างความสับสนให้สังคม  

( 6 มี.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย ปล่อยคลิป กล่าวหานโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยขึ้นพาดหัวในคลิปลงเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทยว่า "มีเรื่องของเครดิตบูโรด้วยว่าอยากให้ลบ" ซึ่ง ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงแต่อย่างใด จนทำให้นายกรณ์ ต้องโพสต์ตอบโต้ในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ตนไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริง ว่าข้อเสนอเรื่องเครดิตบูโรของ พรรคชาติพัฒนากล้าคืออะไร แค่ประโยคแรกที่ที่พิธีกรพูดว่ามีข้อเสนอเรื่องเครดิตบูโรว่า ‘อยากให้ลบ (เครดิตบูโร)’ และมีภาพขยายประเด็นว่าลบไม่ได้เพราะอะไร ก็ทำให้มีคำถามแล้ว ซึ่งข้อเสนอเรา "ไม่มีการลบข้อมูลใดๆ" ของใคร และ "ไม่มีการยุบหรือลบเครดิตบูโร" แต่เป็นการเสนอให้แก้กฎหมาย เพื่อสามารถนำข้อมูลการใช้ชีวิตทางการเงินของผู้กู้ทั้งหมดมาประมวลรวมเป็นเครดิตสกอร์ (Credit score)  แก้ปัญหาการเกิดสภาพ ‘บัญชีดำ’ หรือ แบล็กลิสต์ นั่นเอง

‘นายกฯ’ ปลื้ม บิ๊กคอร์ปปักหมุดไทย พบ 3 ปี ลงทุน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า พุ่ง 6 แสนลบ.

‘นายกฯ’ ปลื้ม 3 ปี บิ๊กคอร์ปปักหมุดไทย ลงทุน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า พุ่ง 6 แสนล้านบาท ชู ผลงาน “ทีมไทยแลนด์” สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

(6 มี.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงความคืบหน้าการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพบว่าใน 3 ปีที่ผ่านมา (2563-65) ได้มีบรรษัทข้ามชาติใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า ประกอบด้วย ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ BCG และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมกัน 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท

อัปเดตโครงการ Landbridge ชุมพร-ระนอง ความหวังเชื่อมทะเลอันดามัน - อ่าวไทย ใกล้เป็นจริง

เพจโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure ได้โพสต์ข้อความอัปเดต ความคืบหน้าล่าสุด Landbridge ชุมพร-ระนอง สรุปตำแหน่งท่าเรือน้ำลึก และเส้นทาง MR8 เชื่อม 2 ฝั่งทะเล ว่า

ล่าสุดทางที่ปรึกษาได้มีการทำการเปรียบเทียบตำแหน่ง ของท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมกับเปรียบเทียบเส้นทาง เพื่อก่อสร้างถนนเชื่อมโยงท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล โดยเป็นโครงการเร่งด่วนตามแผน MR-Map เส้นทาง MR8
รายละเอียด MR8 Landbridge ชุมพร-ระนอง ก่อนหน้านี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1364108297360979&id=491766874595130

เริ่มที่ตำแหน่งท่าเรือก่อน
โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งทะเลคือ
- ฝั่งอันดามัน (ระนอง)
- ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร)

ฝั่งอันดามัน ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่
- เกาะตาวัวดำ
- เกาะสน
- แหลมอ่าวอ่าง

ฝั่งอ่าวไทย ได้มีการเปรียบเทียบในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่
- แหลมประจำเหียง
- แหลมริ่ว
- แหลมคอเขา

ซึ่งมีการเปรียบเทียบในด้านความเหมาะสมด้านการเดินเรือ, การพัฒนาท่าเรือ, มูลค่าการลงทุนทั้งด้านการเงินและเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม 

ทำให้มีการเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ
- ฝั่งอันดามัน ที่ แหลมอ่าวอ่าง
- ฝั่งอ่าวไทย ที่ แหลมริ่ว

หลังจากได้ตำแหน่งท่าเรือที่เหมาะสมแล้วก็มาลงเส้นทางถนน เพื่อเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งต่อ
โดยในเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระยอง นี้จะมีส่วนประกอบที่มากกว่าถนนธรรมดา ซึ่งรวมการขนส่งทุกรูปแบบมารวมกันได้แก่
- Motorway 
- ทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร (เชื่อมต่อรถไฟทางคู่ในประเทศ)
- ทางรถไฟขนาดราง 1.435 เมตร (เส้นทางพิเศษเพื่อเชื่อมโยงระหว่าง 2 ท่าเรือ รองรับตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น ***ในระยะยาว)
- ท่อส่งน้ำมัน และก๊าซ
- ถนนเลียบเลียบทางรถไฟ (local road)

ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องเผื่อเขตทาง 160 เมตร เพื่อรองรับในอนาคตทั้งหมด แต่ในเฟสแรกอาจจะมีแค่บางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการจริง
โดยเปรียบเทียบเป็น 3 ทางเลือก ได้แก่

โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม!! ‘พงษ์ภาณุ’ มอง ศก.ไทยจะฟื้นตัวด้วยท่องเที่ยว แนะ รบ.ดันคาสิโนถูก กม. ดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น และอดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้มุมมองถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ผ่านรายการ ‘NAVY TIME เรื่องดี ๆ ประเทศไทยยามเช้า’ ออกอากาศช่วงเช้า เวลา 07.00- 08.00 น. ทางสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือวังนันทอุทยาน (ส.ทร.วังนันทอุทยาน) FM93 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 66 ว่า เศรษฐกิจของไทยและทั่วโลก กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังจากเผชิญวิกฤตหลายด้านในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น ภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันและก๊าซแพงขึ้น ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางของหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่มาถึงปีนี้ มีข่าวดีเกิดขึ้นพอสมควร อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา ที่เคยสูงถึง 10% ปัจจุบันลดลงมาอยู่ประมาณ 6-7% ในขณะที่ดอกเบี้ย แม้จะยังปรับเพิ่ม แต่ก็ชะลอลง ขณะที่ประเทศจีน ประกาศเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ 

แน่นอนว่า จากปัจจัยบวกเหล่านี้ ทำให้เกิดความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งเริ่มมีสัญญาณที่เกิดขึ้นมาบ้างแล้วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุ ได้ย้ำเตือนว่า แม้จะมีสัญญาณที่ดี แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นภาคธุรกิจของไทย จะต้องระมัดระวังและเรียนรู้ในการบริหารความเสี่ยง เพราะเศรษฐกิจที่กลับมาดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีตลอดไป วันดีคืนดี โรคโควิดอาจจะกลับมาระบาดในจีน และจะทำให้ต้องปิดประเทศอีกก็ได้ การท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาฟื้นตัวก็อาจจะได้รับผลกระทบอีก ดังนั้นไม่ควรที่จะพึ่งพาต่างประเทศมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุ ยังเชื่อมั่นว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ภาคท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างก้าวกระโดด แม้กระทั่งนักลงทุนต่างชาติเอง ยังเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะเติบโตด้วยภาคธุรกิจท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งสัญญาณการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวประเทศไทยเห็นชัดเจนมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากตะวันตกและจีน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top