Wednesday, 7 May 2025
TheStatesTimes

'รมว.ปุ้ย' เยือนจีน!! ถกความร่วมมือ 'ชิ้นส่วนยานยนต์-ขนส่ง-ขับขี่อัจฉริยะ' รองรับการพัฒนา 'อุตฯ ยานยนต์' ในอนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง

รมว.อุตสาหกรรม เยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน กระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และระบบขนส่งและขับขี่อัจฉริยะ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของอนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง

เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์, นายชาลี ขันศิริ ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สถาบันยานยนต์และคณะทำงาน เข้าพบหารือ นางสาวปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และทีมประเทศไทย ภายใต้การดำเนินโครงการ 'Capacity Building for Auto Parts Suppliers with Sustainable Development toward Transportation and Smart Mobility: ADAS system, new energy vehicle, rail system, aircraft parts, electronic parts, vehicles for aging people' (การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สู่อุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ระบบการขนส่งและเคลื่อนที่อัจฉริยะ: ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADAS) ยานยนต์สมัยใหม่ ระบบราง ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์สําหรับผู้สูงวัย) สนับสนุนโดยกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง สาธารณรัฐประชาชนจีน 

ทั้งนี้ ได้มีการหารือประเด็นด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการพัฒนา ความร่วมมือสาขาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และโอกาสการเสริมสร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า การทดสอบ การพัฒนาสมรรถนะด้านบุคลากรแรงงานฝีมือ การจัดการรีไซเคิล ตลอดจนการต่อยอดด้านความมั่นคงทางอาหาร สำหรับสินค้าวัตถุดิบของไทยที่สามารถทำตลาดในจีน รวมทั้งแนวทางการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น อาทิ เครื่องดื่ม, ผลไม้ และอาหารแปรรูป 

ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะในระหว่างการเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย

10 มิถุนายน พ.ศ. 2440 วันกำเนิด ‘ภาพยนตร์’ ในประเทศไทย จัดฉายครั้งแรก ณ โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ

วันนี้ในปี พ.ศ. 2440 ได้มีการจัดฉายภาพยนตร์ในรูปแบบมหรสพเป็นครั้งแรกของไทย โดยปรากฏหลักฐานจากโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวัน ‘บางกอกไตม์’ ฉบับประจำวันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2440 ว่า ‘นายเอส. จี. มาคอฟสกี’ ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้นำภาพยนตร์มาฉายในคืนวันที่ 10, 11 และ 12 มิถุนายน ซึ่งจัดฉายในรูปแบบมหรสพที่โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ นับว่ามีชาวไทยกว่า 600 คน ทั้งชายและหญิงได้เป็นผู้ชมภาพยนตร์เป็นกลุ่มแรก

โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2440 หนังสือพิมพ์บางกอกไตม์ ได้เขียนบรรยายถึงปฏิกิริยาของคนดูไว้ว่า “การเล่นที่เรียกว่า ‘ปาริเซิน ซีเนมาโตรแครฟ’ อันได้เล่นที่โรงละครหม่อมเจ้าอลังการแปลกปลาดน่าดูจริง รูปประดาน้ำกับรูปศรีต่อยมวยทำเห็นจริงมีคนชอบมาก แล้วตัวละครที่ชำนาญในการเล่นได้ออกมาแสดงการเล่นต่างเป็นที่เห็นจริงน่าชมทุกอย่าง มีเจ้านายขุนนางแลประชาชนชายหญิงได้ไปชมประมาณ 600 กว่า…”

ซึ่ง ‘ปาริเซิน ซีเนมาโตรแครฟ’ คุณชลิต เอื้อบำรุงจิต ได้อธิบายว่า ‘ประดิษฐกรรมของพี่น้องลูมิแอร์ และหนังที่ฉายก็น่าจะเป็นชุดมีหลายเรื่อง แต่จากหลักฐานระบุชื่อของหนังได้เพียง 2 เรื่อง คือ ประดาน้ำ และ ศรีต่อยมวย ซึ่งตรงกับชื่อหนังในบัญชีของลูมิแอร์’

จึงถือได้ว่าเหตุการณ์ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2440 คือ วันกำเนิดภาพยนตร์ในสยาม

'รทสช.' น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 7 พระมหากษัตริย์ ผู้ริเริ่มระบอบประชาธิปไตยสู่ประเทศไทย

(30 พ.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ข้าราชการการเมือง และ สส. ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปีพุทธศักราช 2567 ณ พิพิธภัณฑ์รัฐสภา อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ถือเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย การสละพระราชอำนาจของพระองค์ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทยจวบจนปัจจุบัน

‘ฟาร์มสิริปรีชา’ ชวน ปชช.อาสาสมัคร ‘แกะไข่จระเข้’ ยัน!! น้องไม่งับ-ไม่กัด ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนจับเยลลี่

(30 พ.ค. 67) น.ส.ขวัญฤดี สิริปรีชา ผู้ดูแลจระเข้ ในฟาร์มสิริปรีชา ฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง ใน จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน และวันที่ 8-9 มิถุนายน ทางฟาร์ม ขอเชิญ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ ร่วมกิจกรรม แกะไข่จระเข้ ภายในฟาร์ม ซึ่งเป็นไข่จระเข้ ที่แม่จระเข้เพิ่งวางไข่จริง ๆ โดยเวลานี้ในฟาร์มมีไข่จระเข้ประมาณ 800-1,000 ฟอง ออกมาจากแม่พันธุ์จระเข้ประมาณ 300-400 ตัว

“ท่านใดที่อยากลองแกะไข่จระเข้สามารถสมัครเข้ามาได้ที่ฟาร์มเราเลย วิธีการก็ไม่ยาก คือ การกะเทาะเปลือกไข่ออกมา ข้างในจะมีจระเข้ตัวอ่อนอยู่ ความรู้สึกแรกลองจับลูกจระเข้ที่ออกมาจากไข่ จะเหมือนกับจับเยลลี่ คือนุ่มนิ่ม และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกัด เพราะจระเข้ที่เพิ่งออกจากไข่จะมีฟัน ไม่สามารถงับหรือกัดได้ ทั้งนี้ จระเข้จะเริ่มงับเป็น เหมือนเริ่มมีฟันตอนอายุประมาณ 7 วัน อยากเชิญให้มาลองกันดู เพราะเวลานี้ไม่มีฟาร์มไหนที่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เข้ามาแกะไข่จระเข้แบบนี้ แต่เราอยากให้เห็นขั้นตอนการเลี้ยงจระเข้ในฟาร์มเราว่าเป็นอย่างไร” น.ส.ขวัญฤดี กล่าว

ผู้ดูแลจระเข้ ในฟาร์มสิริปรีชา กล่าวว่า ทุก ๆ ปีก็จะมีนักเรียน โรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้ฟาร์ม มาดูงานและลองแกะไข่จระเข้มาบ้างแล้ว ทุกคนจะกลับไปพร้อมกับความประทับใจและประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน

เมื่อถามว่า ลูกจระเข้ที่ออกมาจากไข่แล้ว จะไปอยู่ไหน น.ส.ขวัญฤดี กล่าวว่า เอาไปไว้ในบ่ออนุบาล และเริ่มให้อาหารเป็นหมูบดละเอียดวันเว้นวัน

สนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100066792563222 

‘รปภ.’ สะบัดดินสอหนึ่งแท่งวาดรูป ‘แมวหลง’ เพื่อตามหาเจ้าของ สุดท้ายหาบ้านจนเจอ ทำชาวเน็ตอึ้ง!! ‘สีหน้า-แววตา’ เป๊ะทุกจุด

(30 พ.ค. 67) สื่อต่างประเทศ SOHU รายงานเรื่องราวสุดน่ารักเรียกรอยยิ้มจากโลกโซเชียล เมื่อ ‘รปภ.’ ประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บังเอิญพบ ‘เจ้าเหมียว’ หลุดออกมาเดินเล่น ขณะที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่

ด้วยความเป็นห่วง และคิดว่าเจ้าเหมียวอาจเป็นสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านในหมู่บ้าน เจ้าตัวเลยโชว์สกิลเทพ วาดภาพแมวด้วยตัวเอง พร้อมเขียนข้อความประกาศตามหาเจ้าของ และภารกิจพาเจ้าเหมียวกลับบ้านก็เริ่มต้นขึ้น

อย่างที่หลายคนทราบกันว่า การวาดภาพเหมือนเป็นเรื่องที่ยากมากหากทำโดยผู้ที่ไม่มีทักษะ และการใช้มือถือถ่ายภาพคงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า แต่ไม่ใช่กับ รปภ. รายนี้ ที่มี ‘ดินสอเพียงหนึ่งแท่ง’ ก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าเหมียวได้

โดย เขาวาด เจ้าเหมียว ที่มีใบหน้ากลม ตาโต สีหน้าเบื่อหน่ายโลก เนื่องจากมีดินสอเพียงแท่งเดียว การลงสีขนจึงทำได้เพียงแรเงาให้คล้ายที่สุดเท่านั้น และมีข้อความเขียนว่า “แมวใครหาย หน้าตาประมาณนี้ สามารถติดต่อรับได้ที่ป้อม รปภ.”

อย่างไรก็ตาม เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไปทั่วโลกโซเชียล ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก หลายคอมเมนต์คิดว่า นี่เป็นเพียงมุกตลกที่ทำขึ้นมาเล่น ๆ เท่านั้น

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อมีเจ้าของมาติดต่อเพื่อขอรับน้องแมวตัวดังกล่าวกลับบ้านจริง ๆ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ติดตามมาจากภาพวาดดังกล่าว

งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตฮือฮายิ่งไปอีก เมื่อมีการเปิดเผยภาพเจ้าเหมียวตัวจริง เปรียบเทียบ กับภาพวาด เรียกได้ว่า เป๊ะทุกจุด ทั้งสีหน้า แววตา รวมไปถึงสีขน จนแห่ชื่นชมความสามารถในการวาดภาพของ รปภ. รายนี้เลยจริง ๆ

ทั้งนี้ สำหรับความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากชาวเน็ต มีดังนี้…
- นึกว่าเป็นรูปที่วาดขึ้นมาขำ ๆ เท่านั้นนะเนี่ย
- พูดจริง ๆ นะ น้องแมวเหมือนการ์ตูนเลย อ้วนกลม หน้าเบื่อโลก

อีกทั้งยังมีชาวเน็ตบางส่วน แชร์ประสบการณ์เคยพบการวาดภาพประกาศตามหาแมวด้วยเช่นกัน และกลายเป็นโมเมนต์น่ารักขำขัน อบอุ่นใจเลยทีเดียว

ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยม รร.ชุมพลทหารเรือ นรจ.แสดงศักยภาพความเป็นทหารเรือ ในภาคสาธารณะ

ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้กำลังใจนักเรียนจ่าชั้นใหม่ ก้าวแรกในรั้วทหารเรือ สู่จ่าตรี ที่ดีของกองทัพเรือ
พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง เดินทางมา โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมนักเรียนจ่าทหารเรือในภาคสาธาณะของนักเรียนชั้นใหม่ โดยมี พลเรือโท วสันต์ สาทรกิจ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พร้อมด้วย นาวาเอก ยุทธนา ชูธงชัย ผู้บังคับการโรงเรียนชุมพลทหารเรือ ให้การต้อนรับ

ผู้บัญชาการทหารรเรือ ได้ให้โอวาทแก่ นักเรียนจ่าทั้ง 2 ชั้นปี เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และดูการความเปลี่ยนแปลงของนักเรียนจ่าชั้นใหม่ ที่ต้องถูกฝึก ระยะเวลา 1 เดือน ปรับเปลี่ยนจากบุคคลพลเรือนมาเป็นชายชาติทหารเรือ  อีกทั้งยังต้องมีการฝึกหัดศึกษาหลังจากจบ ภาคสาธาณะ ตามหลักสูตร 2 ปี ตามสาขาพรรคเหล่าที่เลือก จบแล้วติดยศจ่าตรี บรรจุรับราชการในกองทัพเรือ ต่อไป

ในการนี้ ได้ตรวจเยื่ยม การสาธิตการว่ายน้ำในทะเล ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ 2 และตรวจเยี่ยมการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า  บุคคลท่าอาวุธ รวมถึงการสวนสนามด้วยการวิ่ง และ เดิน ของนักเรียนจ่า ซึ่งโดยรวมนักเรียนจ่าได้แสดงความเป็นทหารเรือที่ถูกฝึกเกือบ 1 เดือน ให้ผู้บังคับบัญชาได้เห็นถึงศักยภาพ ทั้งครูฝึกและนักเรียนที่มีความตั้งใจในการฝึกฝน จนมีความเป็นทหารเรือ ที่มีระเบียบวินัย มีความอดทน ซึ่งในอนาคตพวกเขาเหล่านนี้ จะเป็นข้าราชการที่ดีในกองทัพเรือ ต่อไป

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323

นายกฯ เซ็นตั้ง ‘วิษณุ' นั่งที่ปรึกษานายกฯ 'ด้านกฎหมาย-ระเบียบราชการ' คอยตรวจสอบกลั่นกรอง กม.ก่อนเข้าครม. - ให้คำปรึกษาทางกม.แก่นายกฯ

(30 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 204/2567 เรื่อง การแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ มีเนื้อหาสรุปว่า เพื่อให้การบริหารราชการ การขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้คำปรึกษา เสนอความเห็น และประสานความร่วมมือกับหน่วยราชการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 11(6) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สมควรแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ เพื่อให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)ในฐานะที่ปรึกษาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

โดยมีหน้าที่และอำนาจ ตรวจสอบและกลั่นกรองร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีร่วมกับ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายหรือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ร้องขอ  ให้คำปรึกษาและเสนอความเห็นทางกฎหมายแก่นายกรัฐมนตรีตามที่มอบหมาย เชิญเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหรือให้ข้อมูลรายละเอียดหรือจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานได้ตามที่เห็นสมควร ให้ข่าวสารในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนได้ตามความจำเป็น ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และ แต่งตั้งคณะทำงานหรืออนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น

โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)สนับสนุนการดำเนินการ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ถือว่านายวิษณุ มีอำนาจหน้าที่เทียบเท่ากับรองนายกรัฐมนตรี คนหนึ่ง

‘ศาลฮ่องกง’ พิพากษา นักเคลื่อนไหว 14 คน โทษ ‘จำคุกตลอดชีวิต’ ฐาน ‘ล้มล้างการปกครอง’

(30 พ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลสูงฮ่องกงนัดอ่านคำพิพากษา ‘คดีล้มล้างการปกครอง’ ในวันนี้ กรณีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนักเคลื่อนไหว ชุดแรกจำนวน 16 คน ศาลใช้เวลาไต่สวนกว่า 1 ปี นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบว่านักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 14 คน มีความผิดล้มล้างการปกครอง ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติปี 2563 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต เช่น นายลัม ชูค-ติง นางเฮเลนา หว่อง 2 อดีต สส. และนายกอร์ดอน อึ้ง นักเคลื่อนไหวที่จัดการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อสรรหาผู้สมัครจากฝ่ายค้าน สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนกรกฎาคม 2564

ส่วนนักเคลื่อนไหวอีก 2 คน ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง คือ นายลอเรนซ์ เลา นักกฎหมาย และ นายลี ยูเอะ ชุน อดีตสมาชิกสภาเขต ทำให้ทั้งสองคนพ้นมลทินจากข้อหาล้มล้างการปกครอง ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 31 คน รวมถึงนายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชื่อดังของฮ่องกง ซึ่งให้การรับสารภาพ ศาล จะนัดอ่านคำพิพากษาต่อไป

ทั้งนี้ ทางการฮ่องกงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาล เพื่อให้การอ่านคำพิพากษาของศาลดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่กลุ่มนักวิจารณ์ รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนของฮ่องกง วิจารณ์ว่า คำพิพากษาเช่นนี้อาจจะกระทบต่อการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาธิปไตยของนักการเมืองฝ่ายค้านและกระทบต่อภาพลักษณ์ของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลก และคดีที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากบรรดานักการทูต นักสิทธิมนุษยชนและกลุ่มธุรกิจในฮ่องกง

'บอนชอน' เลิกเก็บเซอร์วิสชาร์จ หลังผู้บริโภคเรียกร้องมานาน

(30 พ.ค. 67) จากเพจ 'Bonchon Chicken Thailand' ได้โพสต์ข้อความ ประกาศยกเลิกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ ผ่านกราฟิกรูปป้ายบริเวณบีทีเอสสยามที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิต (ป้าย Bangkok)

สำหรับประกาศยกเลิกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จของ ‘บอนชอน‘ ร้านไก่ทอดเกาหลีเจ้าดัง เกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าเรียกร้องให้งดเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ 10% มาโดยตลอด

เท่ากับว่า ต่อจากนี้ลูกค้าบอนชอนจะได้กินไก่เกาหลีในราคาบิลรวมที่ถูกลงนั่นเอง

'กองการบินทหารเรือ' ซ้อมแผนการปฏิบัติ 'อากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉิน' ตอกย้ำความรู้ความเข้าใจ และเพิ่มความชำนาญ ในหน่วยปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง

(30 พ.ค. 67) กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ (กบร.กร.) จัดการฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติเมื่ออากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ (Pre Accident Plan : PAP) ของสนามบินอู่ตะเภา ประจำปี งป.67 ระหว่างวันที่ 24 - 30 พ.ค. 67 โดยมีการเปิดการฝึกฯ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา

โดยในการครั้งนี้ใช้ชื่อการฝึกว่า 'การฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติเมื่ออากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ สนามบินอู่ตะเภา (U-TAPAO EMEX 2024)' เป็นการฝึกตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่กำหนดให้สนามบินที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะต้องมีการฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติเมื่ออากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ แบบเต็มรูปแบบ 2 ปี ต่อ 1 ครั้ง 

โดยมีความมุ่งหมายเพื่อให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจ และเพิ่มความชำนาญ ในแผนการปฏิบัติฯ อันจะเป็นการเสริมสร้างความพร้อม และลดความเสียหายที่เกิดขึ้น จากอากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการบินสนามบินที่มาตรฐานด้านการรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อีกทั้งยังสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นช่วงที่เกิดสภาพอากาศแปรปรวนบ่อยครั้ง โดยการฝึกจะช่วยให้ทุกหน่วยงานมีความเข้าใจ สามารถทำงานประสานสอดคล้องกัน และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานรวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการสนามบินอู่ตะเภา ด้วยการจัดการจำลองการฝึกซ้อมแผน ณ กองบังคับการ (CPX) เวลา 10.00-12.00 น. และทำการฝึกภาคสนาม (FTX) ณ ลานจอด สนบ.กบร.กร. เวลา 13.00-16.00 น.

ในการฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกแบบเต็มรูปแบบ (Full Scale) ตามที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดให้สนามบินที่มีเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ ซึ่งการฝึกครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายในกองทัพเรือ กับ หน่วยงานต่างๆ ที่อยู่โดยรอบสนามบินอู่ตะเภา ประกอบด้วย...

1.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
2.รพ.อาภากรเกียรติวงศ์
3.รพ. สัตหีบ กม.10
4.รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ระยอง
5.สภ.บ้านฉาง

6.สภ.พลูตาหลวง
7.ฝูงบินอิสระปฏิบัติราชการสนาม ฝูงบิน 106 อู่ตะเภา (กองทัพอากาศ)
8.เทศบาลเมืองสัตหีบ
9.เทศบาลเมืองบ้านฉาง
10.อบต. พลูตาหลวง

11.เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว
12.เทศบาลตำบลพลา
13.เทศบาลตำบลสำนักท้อน
14.มูลนิธิพุทธธรรม
15.มูลนิธิสยามรวมใจ

16.มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
17.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
18.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
19.บริษัท Pattaya Ground Handling จำกัด
20.บริษัท ไทยไลอ้อน เมนทารี จำกัด

21.บริษัท แบ๊กบริการภาคพื้น จำกัด
22.บริษัท พัทยาเอวิเอชั่น จำกัด
23.บริษัท เอสเอฟเอส จำกัด
24.บริษัท อู่ตะเภา แอร์ เซอร์วิส จำกัด
25.บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด

26.บริษัท HS Aviation จำกัด
27.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
28.บริษัท เดลต้า กอล์ฟ โกบัล เซอร์วิสเซส จำกัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top