Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

วธ.ร่วมกับ จังหวัดน่าน ภาคีเครือข่ายวัฒนธรรมภาคเหนือ เปิดตัวตลาดบกสืบสานวัฒนธรรมไทย ณ ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน จังหวัดน่าน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดพิธีเปิดตัวตลาดบก “ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน” หนึ่งใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้น เศรษฐกิจสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชนจากการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง โดยมี นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม รับมอบหมายจากท่านปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิด โอกาสนี้  นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวรายงาน นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย ผู้บริหาร สวธ. วัฒนธรรมจังหวัดน่าน พร้อมวัฒนธรรม 23 จังหวัดภาคเหนือ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด นายกเทศมนตรีเมืองน่าน  ประธานชุมชนบ้านภูมินทร์-ท่าลี่ ผู้ขับเคลื่อนตลาด นักท่องเที่ยวและประชาชน เข้าร่วมงาน ณ ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน 

นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดี สวธ.กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีเป้าหมายและพันธกิจสำคัญในการเทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีการรักษาสืบทอด พัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งขับเคลื่อนงานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โดยปรับบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยทุนทางวัฒนธรรม การส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : การดำเนินงานพัฒนาตลาดบกสืบสานวัฒนธรรมไทย ด้วยการพัฒนาศักยภาพเส้นทางท่องเที่ยวตลาดบก สืบสานวัฒนธรรมไทย และจัดพิธีเปิดตัว 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม พร้อมสนับสนุนขยายช่องทางการตลาด ประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ ในวงกว้าง ให้ตลาดชุมชนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจชุมชนเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป

ด้าน นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินโครงการเพิ่มมูลค่าทุนทางเศรษฐกิจด้วยทุนทางวัฒนธรรม “การส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน อัตลักษณ์ไทย สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้ดำเนินการคัดเลือกตลาดบก และตลาดน้ำ ที่มีศักยภาพและมีความพร้อม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดย “ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน” ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ตลาดบก สืบสานวัฒนธรรมไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้ดำเนินโครงการด้วยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนให้พร้อมต่อการบริหารจัดการชุมชนและบริหารจัดการมรดกภูมิปัญญาที่มีอยู่ นำเสนออัตลักษณ์ของชุมชนให้สอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยว และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของการท่องเที่ยวโดยชุมชนและองค์กรเครือข่าย ในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การบริการ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการองค์กร และแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ตามความเหมาะสมของบริบทพื้นที่

ด้าน นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน  รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน  เปิดเผยว่า ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านเป็น 1 ในตลาดบก ที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน อัตลักษณ์ไทย สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม : 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ผ่านตลาดบกหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ต้องการให้จัดขึ้นในพื้นที่จังหวัดน่าน ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ภายในถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน มีการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม อาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาลองชิม โดยสามารถซื้ออาหารมานั่งรับประทานที่ลานข่วงเมืองน่าน มีเสื่อปูและขันโตกวางแทนโต๊ะให้นั่งทานอาหาร กระผมคิดว่าการเปิดตัวถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านในครั้งนี้  ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเป็นการกระตุ้นสร้างการรับรู้ให้แก่นักท่องเที่ยวได้รู้ถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรคฺ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน เมืองเก่าน่านแห่งนี้
           
“ ในโอกาสนี้ กระผมและชาวจังหวัดน่าน ขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรมโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรมที่สนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมเปิดตัวถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านเพื่อนำผลไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดน่าน” รองผู้ว่าฯจังหวัดน่าน กล่าว    

พิธีเปิดตลาดถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน เริ่มด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของชาวเหนือ  
ชื่อชุด “สาวน่านจ่ายกาดข่วงเมืองน่าน” จากนั้นประธานกล่าวเปิดงาน จบแล้วได้มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้แทนถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านและมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน ได้แก่ นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน  รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดคลิปสั้นผ่าแพลตฟอร์ม TikTok จำนวน 5  รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ นายองค์ปกรณ์ อินถา ทีมGUDJEB  รองชนะเลิศ อันดับ ๑ นายสิทธิโชค สีหราช รองชนะเลิศ อันดับ ๒ 

นายพิภพ ตั้งจิตนุสรณ์ รางวัลชมเชย นางสาวพิมพ์มาดา วงค์วิริยะ และนางสาวพิมพ์ลดา สมคำ หลังจากนั้น ประธานในพิธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ผู้แทนตลาด หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติ เดินเยี่ยมชมการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (C - POT/C CPOT) ณ ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน พร้อมรับชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชุด ฟ้อนล่องน่าน (ชุมชนภูมินทร์ - ท่าลี่) ดนตรีวงล่องน่าน (กลุ่มศิลปินพื้นบ้านร่วมสมัย) และปิดท้ายด้วยการเดินแบบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (C - POT/C CPOT) ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน  จังหวัดน่าน ถือเป็นตลาดบก ลำดับที่ 7 ต่อจาก  -ตลาดจีนโบราณชากแง้ว จังหวัดชลบุรี  -ตลาดสู้ศึกคึกคัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ -ตลาดเชียงคาน จังหวัดเลย -ตลาดคลองบางหลวง ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ  -ตลาดริมน้ำคลองแดน จังหวัดสงขลา ที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยตลาดบกที่จะจัดพิธีเปิดลำดับต่อไป ได้แก่ - ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566  -ตลาดเขมราษฎร์ธานี อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ในวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566  -ตลาดตรอกโรงยา อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 และปิดท้ายด้วย -ตลาดเก่าหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 จึงขอเชิญชวนประชาชน ไปเที่ยวชมอุดหนุนสินค้าของดี สัมผัสวิถีชุมชน กระจายรายได้ให้ท้องถิ่น

ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน หรือ ถนนคนเดินเมืองน่าน ตั้งอยู่ถนนผากองติดกับวัดภูมินทร์ ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่าน หรือกระซิบรักบันลือโลกที่โด่งดัง และซุ้มพญานาคคู่ที่เชื่อกันว่าหากคูรักใดได้มาลอดซุ้มนี้จะทำให้ความรักยั่งยืนเป็นนิรันดร์ เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม เป็นถนนคนเดินที่ไม่ยาวมาก ระยะทางประมาณ 500 เมตร จุดเริ่มต้นอยู่บริเวณสี่แยกวัดพระธาตุช้างค้ำ ผ่านวัดภูมินทร์ไปถึงสามแยกถนนจัทรประโชติ บริเวณหน้าวัดภูมินทร์มีลานข่วงเมืองน่านขนาดใหญ่ จัดเป็นที่นั่งทานอาหารปูเสื่อ พร้อมขันโตก ให้วางอาหารที่ได้ซื้อมาทานบริเวณนี้ พร้อมฟังดนตรีสดขับกล่อม ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของการเที่ยวเมืองน่าน ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถนนคนเดินแห่งนี้ที่มีเสน่ห์แบบเมืองน่านเนิบๆ ซึ่งมีอาหารพื้นเมือง เช่น ไข่ป่าม ข้าวกั๋นจิ้น น้ำพริกหนุ่ม ไสอั่วและแกงทางเหนือต่าง ๆ ให้ลองลิ้มชิมรส นอกจากนี้ยังมีจำหน่าย เสื้อผ้าพื้นเมือง  ผ้าพันคอ งานแฮนด์เมด ที่สามารถซื้อเป็นของขวัญของฝากได้ในราคาที่แสนย่อมเยา เดินเล่นชิวๆกับบรรยากาศที่เย็นสบายในช่วงปลายฝนต้นหนาว  โอกาสนี้ สวธ.ขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้มาลองสัมผัสชีวิตสโลไลฟ์ของบรรยากาศเมืองน่านดูสักครั้งแล้วจะเผลอตกหลุมรักเมืองน่านเนิบๆแบบไม่รู้ตัว

‘3BB’ ผนึกกำลัง ‘AIS’ พร้อมยกระดับเน็ตบ้านให้คนไทย หลัง กสทช.อนุญาตให้ซื้อกิจการ ย้ำ!! ลูกค้าปัจจุบันใช้งานได้ปกติ

เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.66) นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB กล่าวถึง กรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้พิจารณาอนุญาตให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB (TTTBB) และการซื้อหน่วยลงทุนบางส่วนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์ - JASIF ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าโครงข่ายอินเทอร์เน็ตแก่ 3BB เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

โดยหลังจากนี้ จะเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนการให้บริการของ 3BB ลูกค้าในปัจจุบันนั้น จะยังคงสามารถใช้บริการได้ตามปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งทั้ง AIS และ 3BB จะร่วมผนึกกำลังและนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัท มาร่วมกันส่งมอบให้ลูกค้าได้รับบริการที่ยกระดับไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีโครงข่าย การขยายพื้นที่ให้บริการ บริการหลังการขาย ดิจิทัล คอนเทนต์ นวัตกรรม ฯลฯ โดยจะทยอยส่งมอบบริการพร้อมสิทธิพิเศษที่หลากหลาย และสะดวกมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“การที่ 3BB ได้เข้าไปเป็น 1 ในกลุ่มธุรกิจของ AIS ที่เป็นผู้นำทางด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการดิจิทัล นอกจากจะเป็นผลดีแก่ลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกัน (Infrastructure Sharing) ตามนโยบาย กสทช. ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการพัฒนาอุตสาหกรรม Fix Broadband หรือ เน็ตบ้าน อาทิ ความชำนาญในการพัฒนาบริการเน็ตบ้านในพื้นที่ห่างไกลของ 3BB หรือ ความชำนาญของ AIS เกี่ยวกับบริการดิจิทัล และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะช่วยให้เติมเต็มซึ่งกันและกัน พร้อมทำให้บริการเน็ตบ้าน ก้าวสู่ความเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอัจฉริยะ ที่จะทำให้ทั้งระดับประชาชน ผู้ประกอบการในทุก ๆ อุตสาหกรรม ตลอดจนเศรษฐกิจประเทศแข็งแกร่ง พร้อมรับมือความท้าทายที่ท่ามกลางความแปรปรวนของเศรษฐกิจในระดับมหภาคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป” นายสุพจน์ กล่าว

‘สว.วีระศักดิ์’ บรรยายพิเศษ นักศึกษานิติฯ ป.โท มธ. ในหัวข้อ ‘ข้อพิพาทสิ่งแวดล้อมกับการนิติบัญญัติ’

เมื่อวานนี้ (13 พ.ย. 66) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เชิญนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปบรรยายในหัวข้อเรื่อง ‘ข้อพิพาทสิ่งแวดล้อมกับการนิติบัญญัติ’ ระหว่างเวลา 17.30 - 20.30 น. ให้กับนักศึกษาในระดับปริญญาโท ของคณะนิติศาสตร์ ซึ่งกำลังศึกษาในวิชา น.784 ปัญหาการดำเนินคดีสิ่งแวดล้อม ภาค 1 

โดยนอกจากที่ได้บรรยายถึงร่างกฎหมายอากาศสะอาด ปัญหาการเผาในที่โล่ง ไฟในป่าและในแปลงเพาะปลูกแล้ว วิทยากรยังได้อธิบายถึงปัญหาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และผลกระทบทั้งทางบก ในทะเล ที่ล้วนกำลังเคลื่อนไปสู่จุด tipping points ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้นักศึกษาสามารถเห็นความเชื่อมโยงอันซับซ้อนของระบบในธรรมชาติของโลกอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

‘วราวุธ’ เร่งประสาน 'กต.-สตช.' ช่วยคนไทยในเล่าก์ก่าย เผย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยืนยันตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบ

(14 พ.ย.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการช่วยเหลือคนไทย 162 คนในเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา นายวราวุธ กล่าวว่า ในขณะที่ทางกระทรวง พม. ได้ประสานงานทั้งกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการยืนยันจำนวนตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด และทางกระทรวง พม. เองได้มอบค่าเดินทาง และค่าเยียวยาให้กับผู้ไร้ที่พึ่งพิง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูในมิติอื่นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ และประเด็นเรื่องความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศและ สตช. จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวง พม. ในการหาแนวทางการช่วยเหลือคนไทยทั้งหมดที่อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว

เตรียมจัดเสื้อผ้า ‘สีมงคล - เสริมดวงชะตา’ ประจำปี 2567

สายมูมามุงด่วน ๆ อีกเดือนกว่า ๆ ก็จะขึ้นปีใหม่แล้ว นอกจากการเดินทางกลับบ้าน แวะเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และพักผ่อน สิ่งที่ต้องทำก่อนกลับไปทำงาน ก็คือ ‘เช็กสีมงคล’ ประจำปี 2567 เพื่อจะได้เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เสริมดวงชะตา ทั้งการงาน การเงิน ความรัก โชคลาภ ผู้ใหญ่เมตตา

ส่วนใครพร้อมแล้ว มาเช็กสีกัน…

‘ครม.’ เคาะ!! หนุนเงินช่วยชาวนา ไร่ละ 1 พันบาท ไม่เกิน 20 ไร่ พร้อมไฟเขียวขึ้นราคา ‘น้ำตาล’ 2 บาท/กก. หลังต้นทุนชาวไร่อ้อยพุ่ง

(14 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำหรับส่วนที่ตนดูและรับผิดชอบก็คือเรื่องข้าวและน้ำตาล ในเรื่องราคาข้าวนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายข้าว ได้มีการประชุมกันและได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทำการหารือกัน ซึ่งได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้หารือและนำสรุปเข้า ครม.วันนี้ ได้ข้อสรุปว่า เงินค่าช่วยบริหารจัดการ ที่จะให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ทั้งหมดจำนวนไม่เกิน 20 ไร่ เกษตรกรแต่ละครัวเรือนก็จะได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท ตรงนี้ก็ได้ประชุมเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการตั้งแต่มติ ครม.ออก ซึ่งจะรอให้ ธ.ก.ส.เคลียร์รายละเอียดประชุมเสนออีกครั้งหนึ่ง เข้าใจว่าอย่างเร็วก็จะเป็นวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน หรือวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ แต่อยู่ภายในกรอบหนึ่งเดือน ซึ่งเกษตรกรจะได้รับเงินตรงนี้ต่อเนื่องไป

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนเรื่องน้ำตาล ตนก็ได้รับฟังจากที่ประชุม ซึ่งตนได้มีการประชุมกับคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) และได้พูดคุยกับเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอธิบดีกรมเจรจาการค้าต่างประเทศ ก็ได้ประชุมหารือร่วมกันไปถึง 2 ครั้ง และได้ข้อสรุปว่าเราจะดำเนินการ ในการที่จะพิจารณาอย่างเหมาะสม ตามความเป็นจริง ประเด็นแรก คือ ดูต้นทุนของเกษตรกรชาวไร่อ้อย แล้วเห็นว่าก็สมควรให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยขึ้นราคา 2 บาท ตามที่ต้นทุนมีอยู่

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนกรณีของเรื่องอีก 2 บาท ที่ขอขึ้นเพื่อจะใช้ในกองทุนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม อันนี้เรายังไม่ให้ขึ้น ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม และกรรมการที่เกี่ยวข้องไปหารือกันว่า เรื่องนี้ไม่ควรจะให้ผู้บริโภครับผิดชอบคนเดียว ให้ไปดูว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับใครอย่างไร มีช่องทางในการดำเนินการจัดการอย่างไร ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่ยังไม่อนุมัติ และขอให้ดำเนินการตามนี้

เมื่อถามถึง ปัญหาเรื่องน้ำตาลขาด นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ได้คุยกับที่ประชุมที่เกี่ยวข้องทุกส่วนแล้ว ยืนยันว่า น้ำตาลจะไม่ขาด

เมื่อถามว่า การประชุมมีเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คิดว่าเอาเรื่องเฉพาะหน้า ที่เกษตรกรกำลังเดือดร้อน และก็จะได้คุมราคาน้ำตาลขึ้นสองบาท แล้วก็สามารถดำเนินการได้ ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ สำหรับอนาคตที่จะต้องมีการปรับอะไรต่างๆ ก็ค่อยว่ากัน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องฉุกเฉิน ที่มีปัญหาอยู่ และเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่ประชาชนกำลังรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า จะมีผลตั้งแต่วันนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ครม.ได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เกี่ยวข้องก็ไปดำเนินการต่อ จะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

‘Nvidia’ พัฒนา ‘H200’ ชิป AI รุ่นใหม่เร็วแรงกว่าเดิม เด่นด้านการประมวลผล ‘Google-Microsoft’ จ่อใช้ปีหน้า

(14 พ.ย. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ยักษ์ผู้ผลิตการ์ดจอในสหรัฐฯ ‘เอ็นวิเดีย’ (Nvidia) ได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้กับชิปรุ่นล่าสุดที่ใช้สำหรับการพัฒนา AI

ทั้งนี้ ชิปดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า ‘H200’ ซึ่งจะมีคุณสมบัติแซงหน้า ‘H100’ ที่เป็นชิปเรือธงรุ่นปัจจุบันของ Nvidia โดยส่วนที่ได้รับการอัปเกรดเป็นหลัก คือหน่วยความจำที่มีแบนด์วิธสูงขึ้น ถือเป็นหนึ่งในส่วนที่แพงที่สุดของชิป เพราะมีผลต่อความเร็วในการประมวลผลข้อมูล

ชิป H200 มีหน่วยความจำแบนด์วิธสูงถึง 141 กิกะไบต์ เพิ่มขึ้นจาก 80 กิกะไบต์ในชิป H100 รุ่นก่อน ซึ่ง Nvidia ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อซัพพลายเออร์สำหรับการพัฒนาชิปตัวใหม่ แต่รายงานข่าวจาก Micron Technology ระบุว่าบริษัทกำลังดำเนินการเพื่อเป็นซัพพลายเออร์ของ Nvidia รวมถึง Nvidia ยังซื้อหน่วยความจำจาก SK Hynix ผู้จัดจำหน่ายชิปในเกาหลีใต้ด้วย

นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุด้วยว่า ชิป H200 จะเริ่มใช้กับผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น Amazon Web Services, Google Cloud, Microsoft Azure และ Oracle Cloud เป็นรายแรก ๆ ในปีหน้า นอกเหนือจาก CoreWeave, Lambda และ Vultr ที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ AI โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม Nvidia ยังคงครองตลาดชิปสำหรับการพัฒนา AI ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ Nvidia เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนบริการของ ChatGPT และโมเดล AI อื่น ๆ โดยการเพิ่มหน่วยความจำให้มีแบนด์วิธสูงขึ้น จะช่วยให้การประมวลผลของชิปเร็วขึ้นด้วย

‘จีน’ ผุดมาตรการ ‘กระตุ้นการท่องเที่ยว’ ภายในประเทศ ชู ‘ของดีท้องถิ่น’ หลากหลาย สร้างประสบการณ์ใหม่ไม่รู้ลืม

เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ออกแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่หลากหลายยิ่งขึ้น

แผนการระบุว่า ควรมีการเปิดตัวโครงการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาและผู้สูงอายุ รวมถึงจัดการท่องเที่ยวน้ำแข็ง-หิมะ การท่องเที่ยวทางทะเล การล่องเรือ การผจญภัย การชมดาว และการเดินชมเมืองมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น แผนการข้างต้นมุ่งปรับปรุงประสบการณ์การบริโภคระหว่างการท่องเที่ยว ให้บริการสาธารณะที่ดีขึ้น จัดทัวร์พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง และเสริมสร้างข้อบังคับของตลาด

อนึ่ง จีนรายงานปริมาณการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 2.38 พันล้านครั้ง ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 (มกราคม-มิถุนายน) ซึ่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2.3 ล้านล้านหยวน (ราว 11.36 ล้านล้านบาท)

กระแสสอย ‘71 สส.ฉาว’ จากหลากพรรคเงียบกริบ ปล่อยนั่งชูคอกินเงินเดือนในสภาฯ ไร้การตรวจสอบ

ครบ 6 เดือนเต็มแล้วที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา จำนวน สส.เขต 400 สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมเป็น 500 คน

กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง สส.ทุกคนที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในระบบเขตเลือกตั้ง ท่ามกลางการร้องเรียนเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย จน กกต.ทำงานไม่ทัน มีเรื่องร้องเรียนทั้งซื้อเสียงเลือกตั้ง จัดเลี้ยง กล่าวหาว่าร้าย (ใส่ร้าย) คู่แข่ง แต่ กกต.ไม่มีปัญญาจับคนทำผิดกฎหมายได้เลยแม้แต่รายเดียว ทั้ง ๆ ที่ กกต.มีกลไกมากมาย ทั้งส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั้งยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นตัวช่วยอยู่อีกด้วย

ชาวบ้านทุกหย่อมหญ้ารับรู้รับทราบถึงการซื้อเสียงกันครึกโครม ตั้งแต่หัวละ 500-2,000 บาท แต่ละเขตเลือกตั้งผู้สมัครที่คาดหวังว่าจะได้ทุ่มกันเขตละ 20-30-50 ล้านบาท แต่ กกต.กลับไม่มีข้อมูล ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะไปสืบเสาะมาได้เลย ทั้ง ๆ ที่มีฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวนอยู่พร้อมสรรพ

เสร็จการเลือกตั้งจึงมีเรื่องร้องเรียนการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากมาย ผู้ร้องต้องหาหลักฐานไปส่งให้ กกต.เอง แต่จะด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ ก่อนการเลือกตั้ง กกต.ไม่มีปัญญาสอยผู้สมัครรายใดได้เลย แม้แต่รายเดียว แถมเสร็จการเลือกตั้ง กกต.กลับรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่มีคะแนนอันดับ 1 และมีเรื่องมีราวร้องเรียนอยู่ เข้าไปเดินเฉิดฉายอยู่ในสภา นั่งชูคอสะล่อนเกือบครึ่งสภา ไม่มีใบแดง ใบเหลือง หรือใบส้ม ใบดำ เลยแม้แต่ใบเดียว

แถมยังออกมานั่งชูคอแถลงข่าวคอเป็นเอ็น ‘ผลการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม’ เป็นการแถลงรับรองผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางข้อร้องเรียน และความสงสัยของชาวบ้าน

ก่อนหน้านี้เมื่อสักสองเดือนก่อน มีข้อมูลหลุดออกมาจาก กกต.ว่า เตรียมสอย สส. 71 เขต จากทั้งหมด 400 เขต จากพรรคการเมืองหลักเกือบทุกพรรค ทั้งเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ มีระบุชัดว่ามีจังหวัดไหน เขตไหน แต่แล้วข่าวนี้ก็หายไปตามกระแสลมหวน ไม่มีข่าวไม่มีคราวความคืบหน้าอะไรออกมาอีกเลยจนถึงวันนี้

6 เดือนเต็มที่ กกต.ปล่อยให้ผู้ถูกร้องเรียน และส่อว่าจะมีมูล เข้าไปนั่งอยู่ในสภาอันทรงเกียรติ กินเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทางจากภาษีประชาชน เดือนละ 2-3 แสนบาท แถมบางคนไม่ได้เป็น สส.ที่มีส่วนร่วมอยู่ในการทำความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง กลับได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งทางการเมือง เข้าไปเบ่งกล้ามอยู่ในทำเนียบบ้าง ในกระทรวงต่าง ๆ บ้าง ลูกน้องเดินตามหน้าตามหลังเบ่งอำนาจบารมีกันยิ่งกว่า ‘แมงปอ’

หรือว่า กกต. ขี้ขลาดจากประสบการณ์ที่เลินเล่อ เสนอให้ใบส้ม ‘สุรพล เกียรติ์ไชยากร’ ผู้สมัคร สส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และศาลพิพากษาให้ กกต.ต้องชดใช้เงิน 62 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย

หรือการปล่อยข่าวออกมาว่าจะสอย 71 เขตเลือกตั้ง และทอดเวลาออกไปสองเดือน เป็นการเคาะกะลา แม้จะยังมีเวลาอยู่ตามกรอบของกฎหมายสอยได้ใน 1 ปี แต่ไม่ควรลืมว่า ‘ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม’ และประชาชนเป็นผู้เสียโอกาส กกต.ควรจะเร่งมืออย่างรอบคอบ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่ทอดเวลาออกไปจนชาวบ้านชาวช่องรู้สึกได้ถึงความอ่อนด้อย และไร้ประสิทธิภาพ

‘ลิซ่า’ บริจาคเงินช่วยเหลือ ‘เด็กยากไร้ในกัมพูชา’ พร้อมเขียนจม.ส่งพลังบวกให้เด็กๆ บอก!! “อย่ายอมแพ้”

(14 พ.ย.66) เฟซบุ๊ก PSE - Pour un Sourire d’Enfant - Cambodia องค์กรช่วยเหลือเด็กยากไร้ในประเทศกัมพูชา ได้โพสต์รูปภาพ ‘มาร์โค บรูสชไวเลอร์’ เชฟดังระดับโลก คุณพ่อของ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ซูเปอร์สตาร์ สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง BLACKPINK ขณะสอนเจ้าหน้าที่ทำอาหารกลางวันให้เด็กๆ

โดยทางเพจระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเราได้มีโอกาสต้อนรับทีม Smile Children’s Switzerland จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี เชฟมาร์โค บรูสชไวเลอร์ ที่มาเยี่ยมเยียนที่ศูนย์ของเราเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้ลงมือสอน และทำอาหารมื้อกลางวันที่แสนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนในศูนย์ และจากสถาบันการท่องเที่ยวฯ ตลอดจนออกไปเยี่ยมชุมชนของเราด้วย

พวกเรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับพวกคุณอีกครั้งในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้ เพจยังได้เผยอีกว่า ‘ลิซ่า’ ยังได้แบ่งปันความรักให้กับเด็กๆ ในองค์กร โดยบริจาคเงินส่วนตัวให้กับองค์กร และยังได้แชร์ข้อความให้กับนักเรียน และแฟนๆ ของเธอในกัมพูชาด้วย ว่า

“สวัสดีค่ะ ลิซ่า จากแบล็กพิงค์นะคะ…

ฉันดีใจมากๆ ที่ได้เจอกับเพื่อนๆ ของฉัน และแฟนๆ ในกัมพูชา โดยเฉพาะกับเด็กๆ และเยาวชนในศูนย์ PSE ในพนมเปญ

ไม่ว่าเป้าหมายหรือความฝันในอนาคตของคุณคืออะไร จงยึดมั่นและอย่ายอมแพ้ ไม่ว่าระหว่างทางมันจะมีอุปสรรคหรือปัญหาเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นของชีวิต ฉันเองก็มีช่วงเวลาที่ล้มลุกคลุกคลานระหว่างที่ฝึกฝนอยู่หลายปี แต่ฉันก็ผ่านมันมาได้ด้วยความเข้มแข็งและคิดบวก

ฉันขอให้พวกคุณทุกคนโชคดีและเข้มแข็งนะคะ

กอด ลิซ่า”

องค์กรยังทิ้งท้ายด้วยว่า หวังว่าพวกเราจะได้ต้อนรับลิซ่าในสักวันหนึ่ง

ขณะที่ ‘เชฟมาร์โค บรูสชไวเลอร์’ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “คณะครูและนักเรียน ใน PSE ต่างมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อย่างมาก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีของผม ในฐานะเชฟที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ทำอาหารกลางวัน ผมเชื่อว่า PSE จะประสบความสำเร็จในเป้าหมายของพวกเขาที่จะนำพาเด็กๆ เหล่านี้ไปสู่อนาคตที่ดีต่อไป”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top