Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

‘เมียนมา’ ประกาศใช้กฎอัยการศึก 8 เมือง หลังสถานการณ์สู้รบในรัฐฉานดุเดือด

(13 พ.ย.66) สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา (SAC) ประกาศใช้กฎอัยการศึกใน 8 เมืองของรัฐฉาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมียนมา หลังสถานการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพกับกองทัพเมียนมายังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดในบางพื้นที่

ทั้งนี้ SAC เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) ว่า เมืองทั้ง 8 แห่งที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก จะประกอบด้วย กุนโหลง (Kunlong), โก้ดขาย (Kutkai), หมู่เจ้ (Muse), ล่าเสี้ยว (Lashio), แสนหวี (Theinni), เล้าก์ก่าย (Laukkaing) และกอนเกียน (Konkyan)

และแถลงการณ์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคง หลักนิติธรรม และเสถียรภาพของภูมิภาค

รู้จัก พ.ร.บ. 2546 กฎหมายของเด็ก ที่ไม่ใช่เรื่องเด็กๆ หากยังไม่เกิน 18 ต้องระแวดระวังและเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม

ในปี พ.ศ. 2566 มีจำนวนสถิติเด็กนักเรียนในประเทศประมาณ 6.5 ล้านคน 

ในกระแสแห่งโลกดิจิทัล เด็กสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างง่ายดาย ทั้งสะดวก และมีราคาถูก ซึ่งมีทั้งด้านดีและด้านมืด การสอดส่อง ดูแล คอยให้คำปรึกษาของพ่อแม่ ผู้ปกครอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เด็กไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี และทำให้เด็กสามารถเจริญเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในภายหน้า 

พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เป็นกฎหมายที่ส่งเสริม คุ้มครอง และป้องกัน การปฏิบัติต่อเด็ก เพื่อเป็นหลักประกันว่าเด็กจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และมีพัฒนาการที่เหมาะสม

โดยกำหนดให้ เด็ก หมายถึง บุคคลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กในระดับชาติและในระดับจังหวัด การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ มีข้อกำหนดการให้ความช่วยเหลือ วิธีการสงเคราะห์เด็ก เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูต่อไป

เด็กที่ได้รับการทารุณกรรม ต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก มีการแยกตัวเด็กจากผู้กระทำ และต้องได้รับเยียวยาทั้งทางร่างกายและจิตใจเด็กอย่างเร่งด่วน

มีข้อกำหนดห้ามมิให้กระทำการใด ๆ กับเด็ก ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เช่น การทารุณกรรมเด็ก การละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีพ การบังคับขู่เข็ญให้เด็กไปเป็นขอทาน การแสวงหาประโยชน์ทางการค้าจากเด็ก การยินยอมให้เด็กเล่นการพนัน เข้าไปในสถานที่ต้องห้าม หรือการขายสุราหรือบุหรี่ให้แก่เด็ก หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มีข้อกำหนดสำหรับผู้ปกครอง เช่น ห้ามทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงโดยมีเจตนาทิ้งเด็ก ต้องดูและให้สิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ห้ามปฏิบัติต่อเด็กที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโต

โลกในอนาคตข้างหน้า เป็นโลกของเด็กในยุคนี้ หากเด็กได้รับการดูแล อบรม ให้การศึกษา ปลูกฝังการรู้จักหน้าที่และเคารพในสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อให้เด็กได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมของโลกยุคหน้าย่อมเป็นสังคมที่ดี ผู้คนจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแน่นอน

'แม่บุญล้ำ' หนุน 500,000 บาท ก่อสร้างโรงพยาบาลพระจอมเกล้า   สานต่อภารกิจบริษัทฯ 'ดูแลสังคม-ส่งเสริมมาตรฐานชีวิตผู้คน' ให้ดียิ่งขึ้น  

(14 พ.ย.66) จิรวัฒน์ เดชาเสถียร ที่ปรึกษาธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย การตลาด และการจัดการค้าปลีกค้าส่งในภูมิภาคอาเซียน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

วันนี้ผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของคณะผู้บริหาร เพื่อนพนักงาน และลูกค้า บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำปลาร้าตราแม่บุญล้ำ เพื่อส่งมอบเงินจำนวน 500,000 บาท ในการก่อสร้างโรงพยาบาลพระจอมเกล้า  

ผมเองในฐานะลูกพระจอมคนหนึ่ง ขอขอบพระคุณท่าน ศ.ดร สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งโครงการ และท่านศาสตราจารย์นายแพทย์อนันต์ ศรีเกียรติขจร ท่านคณบดี คณะแพทยศาสตร์ รวมถึงท่าน รศ.นายแพทย์ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และเทคโนโลยีสุขภาพ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง

ถามว่าทำไมเราเลือกที่นี่ คำตอบคือ รพ.แห่งนี้ จะเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคตที่จะสามารถผลิตเครื่องมือแพทย์ด้วยนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์ที่ลาดกระบังไม่เป็นรองที่ไหนในฟ้าเมืองไทย     

ในขณะที่เราเองยังเดินหน้าช่วยพี่น้องในต่างจังหวัดซึ่งจะทยอยส่งมอบเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่อยู่ห่างไกลต่อไปอีกสามโรงพยาบาลในปีนี้     

ทั้งนี้เป็นไปตามวิถีในการดำเนินธุรกิจของแม่บุญล้ำ ที่มุ่งมั่นที่จะดูแลสังคมและบุคคลรอบข้างให้มีมาตรฐานชีวิตที่ดีขึ้นตามลำดับ     

อยู่กับองค์กรที่มีจริยธรรม อารมณ์ในการทำงานมันก็จะดีตามเช่นนี้นี่เองหละครับ มาช่วย ๆ กันนะครับ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นิธิธร จิตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ตรวจการจราจรพื้นที่ใจกลางเมือง และให้กำลังใจตำรวจจราจรในพื้นที่

วันอังคารที่ 14 พ.ย.66 เวลา 07.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค) รับผิดชอบงานจราจร พร้อมด้วย พล.ต.ท.นิธิธร จิตกานนท์ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. ร่วมกันลงตรวจสภาพการจราจรในพื้นที่ใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร ใน ถ.อโศกมนตรี , ถ.เพชรบุรี, ซ.นานา และ ถ.สุขุมวิท โดยมี พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบงานจราจร, พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.นิมิตร โนพูนทอง ผกก.สน.ลุมพินี และ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมตรวจสภาพการจราจร เพื่อให้เห็นสภาพความเป็นจริง บริเวณหน้าโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ซึ่งมีผู้ปกครองมา รับ-ส่ง บุตรหลานเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลต่อสภาพการจราจรบน ถ.อโศกมนตรี ต่อเนื่องแยกอโศกมนตรี และ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่เป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้เดินทางเป็นจำนวนมาก แต่ก็พบว่าทาง สน.ลุมพินี , สน.ทองหล่อ ได้ร่วมกับสำนักงานเขตในพื้นที่ และ สมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลบุตรหลานและประชาชนบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ไม่มีปัญหารถสะสมบริเวณหน้าโรงเรียนแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ไปตรวจสภาพการจราจรบริเวณ ถ.สุขุมวิท บริเวณแยกอโศกมนตรี พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ มอบกาแฟกระป๋อง ไว้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร.(มค) เปิดเผยว่า ท่าน ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้รับผิดชอบดูงานจราจรภาพรวมทั้งประเทศ ก่อนหน้านี้ก็ได้รับรายงานถึงปัญหาการจราจรต่าง ๆ มาแล้ว วันนี้จึงตัดสินใจมาตรวจสภาพการจราจรในพื้นที่เพื่อให้เห็นด้วยสายตาตัวเอง และต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน พ่อแม่ ครู ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ได้ลงมาตรวจสอบสภาพการจราจรด้วยตนเอง ปัจจุบันปัญหาการจราจรเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของประเทศ ที่ตำรวจต้องบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยกันแก้ไขปัญหา จะทำเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ โดยเร่มด้วยการสั่งให้สำรวจสภาพปัญหาทางกายภาพ ปัญหาภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อการจราจร ทำให้การจราจรติดขัด ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น พื้นผิวการจราจรที่ขรุขระ เป็นหลุม เป็นบ่อ แล้วประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เอง จะลงมาช่วยเสริมเติมเต็มในการช่วยประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียงด้วย

ส่วนในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายเราต้องทำเพื่อการจัดการจราจร จัดระเบียบสังคม ต้องไม่ทำเพื่อหวังเงินค่าปรับหรือเงินรางวัล และการตั้งด่านจราจรก็ทำเพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมุ้งเน้นเป้าหมายที่การลดอุบัติเหตุ และให้การกระทำความผิดลดลงและหมดไป  ทั้งนี้เรายังต้องตั้งด่านตามปกติ ซึ่งผมได้สั่งการลงไปแล้วว่าจะต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ที่ด่านจราจร เพราะด่านคือตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น เห็นด่านต้องวิ่งเข้าด่าน เพราะเขามั่นใจในความปลอดภัย หากพบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ จะต้องดำเนินคดีทางอาญา และคดีทางวินัย ในเรื่องสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรต่าง ๆ ต้องลดลง และต้องลดลงอย่างมีนัยนะสำคัญ ไม่ใช่ลดลงด้วยการทำตัวเลข ต้องเอาเรื่องจริงมาพูดคุยกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็จะมาช่วยเสริมเติมเต็ม ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ก็ช่วยกันทำงานดีอยู่แล้ว และในวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยท่าน ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็ได้เตรียมการ เตรียมแผนในเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว จุดประสงค์เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย มีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจ และกลับมาทำงานด้วยความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือการสร้างองค์ความรู้ด้านกฎหมาย สร้างวินัยจราจร สิ่งใดที่เป็นควิกวินที่ต้องรีบทำ ต้องเร่งดำเนินการ เช่น การรณรงค์ให้สวมหมวกกันน็อค การรณรงค์เมาไม่ขับ เรื่องฟุตบาท ทางเท้าต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการสนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชน ประชาชนมีความเชื่อมั่น  

สุดท้ายในการตรวจเยี่ยม การลงพื้นที่ ดูการปฏิบัติหน้าที่ของเพื่อนข้าราชการตำรวจ ก็จะได้นำความห่วงใยจากท่าน ผบ.ตร. ลงไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ สร้างขวัญและกำลังใจ ช่วยเสริม เติมเต็มเป็นสำคัญ ต่อไป

‘เต๋า สมชาย’ ใจฟู!! ได้ดูบอลจตุรมิตร ครั้งที่ 30 นัดเจอพุธนี้ แมตช์ ‘เทพศิรินทร์​ vs สวนกุหลาบ​’

(14 พ.ย. 66) เพจ ‘ครอบครัว เข็มกลัด’ ของ ‘เต๋า สมชาย เข็มกลัด’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

ความดีใจที่สุดในชีวิตของปีนี้! คือ 15 พฤศจิกายน​ ละครคืนคิว สมชายกระโดดแบบสุดตัว สมชายได้ไปดูบอลจตุรมิตร ครั้งที่ 30 เทพศิรินทร์​💚💛 สวนกุหลาบ​🩷💙 วันพุธนี้ พบกันนะครับ ลูกแม่​รำเพย​💚💛

กราบแม่เทพศิรินทร์​ ‘เราเทพศิรินทร์ ระบิลระบือ’ 🙏💚💛

#เทพศิรินทร์ 💚💛
#Jaturamitr30 #Jaturamitr #debsirin #debsirinfootball #dsa #ds

‘นายกฯ’ ยัน!! ไม่ได้สั่งให้ ‘ตร.จีน’ ลาดตระเวนไทย ชี้ ผู้ว่าการททท. อาจสื่อสารเรื่องนี้ผิดพลาด

เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.66) ที่ รร.เดอะริทซ์ คาร์ลตันนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ (เวลาท้องถิ่นซานฟรานซิสโก ช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ​ระบุรัฐบาลมีแนวคิดให้ตำรวจจีนลาดตระเวนเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง ว่า เรื่องนี้ถึงอย่างไรตำรวจไทยต้องเป็นคนดูแล แต่ถ้ามีความร่วมมือเกิดขึ้นในแง่ของการประสานข้อมูลกับทางตำรวจจีน เชื่อว่าจะให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่ามีตำรวจจีนมาเดินบนถนนเมืองไทย เรื่องนี้คงเป็นการสื่อสารที่มีความผิดพลาดมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางผู้ว่าฯ ททท.อ้างว่าเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่นายกฯ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีข้อสั่งการหรือพูดคุยในเรื่องนี้ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าต้องมีตำรวจจีนมาอยู่ที่เมืองไทย แต่เป็นการหารือที่ทั้งสองหน่วยงาน คือสถาบันตำรวจ ที่ต้องพูดคุยเพราะทุกคนกลัวเรื่องจีนสีเทา และเรื่องที่คนจีนมาทำอะไรผิดกฎหมายกับคนจีนในเมืองไทย จึงต้องมีการประสานเรื่องข้อมูลให้ชัดเจน อย่าให้เกิดความสับสน และหากมีอาชญากรรมเกิดขึ้น จะได้จัดการบำบัดได้ทันที

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ไม่ได้สั่งให้ประสานกับทางจีนในเรื่องนี้ ใช่หรือไม่ นายกฯ ส่ายหน้า และกล่าวว่า "ไม่ได้สั่งเลยครับ ไม่มีการสั่งครับ เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผม ใครจะไปสั่ง ผมไม่เคยพูดว่าต้องเอาตำรวจจีนมากี่คนๆ "

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องอธิปไตยของไทย ทำไมต้องเอาจีนเข้ามา นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า ไม่เคยมี ไม่เคยพูด ถามคนใกล้ชิดตนได้ว่าไม่เคยมี เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยเหมือนกันเพราะไม่ใช่

‘พี่วัน’ ภูมิใจ!! เคยได้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘บอลจตุรมิตร-แปรอักษร’ เชื่อ!! ‘นักเรียน-ศิษย์เก่า-อาจารย์-ผู้ปกครอง’ ทั้ง 4 รร. ล้วนภาคภูมิ

(14 พ.ย. 66) นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส. พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘วัน อยู่บำรุง’ ระบุว่า… 

การแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตร การแปรอักษร คือความภาคภูมิใจของนักเรียน ครูบาอาจารย์ ศิษย์เก่า และผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสี่โรงเรียน สวนกุหลาบวิทยาลัย เทพศิรินทร์ อัสสัมชัญ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

#อย่าไปเดือดร้อนแทน
#จตุรมิตรสามัคคี30
#Osk110

จับตา!! ‘ประชาธิปัตย์’ นัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 บ่ายวันนี้ เคาะวันเลือกหัวหน้าพรรค-คกก.บริหารชุดใหม่ หวังสยบความขัดแย้ง

(14 พ.ย. 66) เวลา 14.00 น.วันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดรักษาการ เพื่อกำหนดวัน-สถานที่จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนชุดของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งได้ สส.มาเพียง 25 คนเท่านั้นเอง จากในทีแรกที่ตั้งเป้าไว้ 60 คน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประสบปัญหา ‘องค์ประชุมล่ม’ ถึง 2 ครั้ง จากปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคของ 2 ขั้วกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรค เป็นแกนนำกลุ่ม มี สส.ในมือ 22 คน ชูนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค

กลุ่มผู้อาวุโสของพรรคที่มี สส. 3 เสียง ซึ่งให้การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคให้กลับมานำพรรคอีกครั้ง ซึ่งไม่มีการเจรจารอมชอมกันภายในพรรค จึงทำให้ไม่สามารถเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้และหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้

จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า ในการนัดวันประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 นี้ ปัญหาดังกล่าวจะยุติลงและได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ที่สมาชิกพรรคทั่วประเทศให้การยอมรับหรือไม่ หรือจะมีการตบเท้าลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพิ่มความขัดแย้งในพรรคเพิ่มขึ้นอีก 

การทอดเวลาในการประชุมใหญ่วิสามัญมานานถึง 2 เดือน ทราบว่า มีความพยายามในการเจรจากัน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง และเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พรรคจะได้เดินหน้าต่อไปได้

การเจรจาต่อรองน่าจะนำผลการสอบสวนเรื่องการโหวตสวนมติพรรคของกลุ่ม สส.ในสายของนายเฉลิมชัยมาพิจารณาด้วย โดยมติของคณะกรรมการสอบสวน น่าจะพบว่า สส.ที่โหวตสวนมติพรรคมีความผิด และจะเสนอบทลงโทษออกเป็น 3 แนวทาง ตามฐานความผิด คือ 1.) ลงโทษขับพ้นพรรค (บางคน) 2.) ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมกำหนดเงื่อนไข (บางคน) และ 3.) ตักเตือนด้วยวาจา พร้อมกำหนดเงื่อนไข (บางคน) โดยข้อสรุปนี้ จะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารด้วยเพื่อลงมติ

‘ผอ.เทพศิรินทร์’ เปิดใจ!! ดรามา ‘ค้านแปรอักษร’ งานจตุรมิตร ยัน!! กิจกรรมนี้คือความภาคภูมิใจของ ‘4 โรงเรียนสุภาพบุรุษ’

เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.66) ช่องยูทูบ Top News Live ได้เชิญ ผู้อำนวยการ นายวิธาน พรหมสินธุศักดิ์ หรือ ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปมดรามา 3 นิ้ว ‘ค้านแปรอักษร’ ในงานจตุรมิตร ครั้งที่ 30 ว่า…

ยืนอยู่ตลอด ก็คอยสังเกตการณ์ ซึ่งเขาก็จะมีวิธีการประชาสัมพันธ์ในลักษณะเชิญชวนน้อง ๆ ว่า ‘มีสิทธิเสรีภาพอย่าให้ใครมาบังคับน้อง ๆ อะไรต่าง ๆ ไม่ได้’ แล้วก็แจกใบค้าน ซึ่งผมจะแจกก็แจก แต่อย่าไปเอาไปขวางเด็ก ๆ เพราะเด็กเขาจะเดิน แล้วมันจะเสียจังหวะเสียแถว ซึ่งก็ได้อธิบายขยายความไป และตอนแรกเขาก็คิดว่าผมคงเป็นพ่อแม่ของเด็ก ๆ เพราะผมเรียกเด็ก ๆ ว่าลูก แต่ก็ได้บอกไปว่าไม่ใช่ ผมเป็นครูและนี่คือลูกศิษย์ทั้งนั้น ผมก็ดูแลเหมือนลูก จากนั้นก็ได้ขอทาง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เดินไปสนาม แต่ผมก็พยายามที่จะไม่คุย เพราะรู้ว่าคนกลุ่มนี้ต้องการแสง ต้องการราคา ต้องการที่จะมีที่ยืนในสื่อ ผมก็อยากจะให้พวกเขาเห็นว่าสิ่งนี้มันไม่มีอะไรที่จะมามีอิทธิพลเหนือกิจกรรมดี ๆ ที่เขาสร้างสมกันมา…

มันคือการเรียนรู้นอกห้องเรียน มันเป็นการเรียนรู้วิชาชีวิต วิชาความคิดสร้างสรรค์ วิชาการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เพราะฉะนั้นแน่นอนเด็กก็คือเด็ก สามารถถูกชักจูงได้ เพราะฉะนั้นกลุ่มผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวพวกนี้จึงมักใช้เด็กเป็นฐานในการล้างสมองเปลี่ยนความคิด เพราะเด็กชอบความสบาย อย่างไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน ไม่ต้องอยู่ในระเบียบ แต่พอวันนึงเมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะรู้ว่าพวกนี้มันเป็นมารร้ายที่มาทำให้เขาไม่มีวินัย และประเทศชาติถ้าไม่มีวินัยสังคมไทยมันอยู่ไม่ได้… เพราะฉะนั้นวิธีการที่เราจะบอกเด็กคือการอธิบายว่า ถ้าเกิดไม่ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อะไรต่าง ๆ มันจะเป็นอย่างงี้นะ ซึ่งกล้ายืนยันตรงนี้ ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยมีเด็กไม่จบจากการที่ไม่ผ่านกิจกรรม เพราะไม่ได้แปรอักษรจตุรมิตร แต่ถ้ามันเป็นเพียงกระบวนอย่างไม่เข้าเรียนหนังสือ มันก็ต้องตก ฉะนั่นมันคือวิธีการเพื่อให้เขาอยู่ในกรอบในระเบียบ ดังนั้นไม่มีพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์คนไหนทำร้ายเด็กทั้งนั้น…

ประเด็นถัดมาคือเรื่อง ‘ศิษย์เก่า’ ที่โผล่ค้านแปรอักษร โดยเด็กคนนี้ ผมมองว่าเขามีประเด็นมาหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ได้มารับตำแหน่งและที่ได้ทราบจากครูอาจารย์ว่าเขาเป็นมานานแล้ว เขาเป็นกลุ่มที่มีการประท้วงอะไรกันหลายครั้ง ตั้งแต่กลุ่มนักเรียนเลว อย่างล่าสุดตอนที่ผมมาก็คือเรื่องทรงผม สมัยตอนที่คุณตรีนุช เทียนทอง สั่งให้แต่ละโรงเรียนไปบริหารจัดการเรื่องทรงผม ซึ่งเขาก็พยายามที่จะตามหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อค้านให้เห็นว่าเด็กทุกคนคุณมีสิทธิไม่ต้องไปสนใจอะไรต่าง ๆ จากนั้นเขาก็ทำหนังสือไปถึงกรมคุ้มครองสิทธิต่าง ๆ เพื่อร้องเรียนว่าโรงเรียนไปละเมิดสิทธินักเรียน ทำให้เจ้าหน้าที่ทางกรมได้เข้ามาคุย ซึ่งก็ได้ชี้แจงอธิบาย และเอานักเรียนที่เกี่ยวข้องมานำเสนอพูดคุย จากนั้นทางกรมก็เข้าใจ

เพราะฉะนั้นจึงมองว่าในสังคมนี้เป็นอย่างที่พระเจ้าอยู่หัวเคยบอกว่ามีทั้งคนดีคนเลว ซึ่งทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ก็สอน ‘น สิยา โลกวฑฺฒโน’ ความหมายคือ ‘ไม่ควรเป็นคนรกโลก’ แต่อย่างที่บอกนักเรียนเราตอนนี้เลขประจำตัว 50,000 กว่าคน ผมเชื่อว่ามันมีบางพวกที่เป็น ‘เทพศิรินทร์ปลอม’ ขออนุญาตใช้คำนี้ เป็นพวกที่ไม่ได้ได้ซึมซับความเป็นเทพศิรินทร์จริง ๆ แล้วมาอาศัยผืนแผ่นดินนี้เรียนเท่านั้น

ดังนั้น 4 โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนจตุรมิตร คือ ‘โรงเรียนสุภาพบุรุษ’ ซึ่งชีวิตคนทุกคนไม่มีใครสุขสบายทั้งชีวิต พ่อแม่เลี้ยงลูกก็ต้องอยากให้ลูกสบาย สามารถเข้าใจได้ แต่ความลำบากต่าง ๆ ที่ลูก ๆ ผ่านมาจากอุปสรรคนั้น ความปลอดภัยก็สำคัญมาก ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของครูบาอาจารย์ที่ต้องดูแล มันจะเป็นฐานที่สำคัญเลยที่จะทำให้เขายืนขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความองอาจและมีความเข้มแข็ง แต่วันนี้…ถ้าเกิดว่าคนไม่เคยเจอความลำบากเลย แล้วไปเจอ บางทีสู้ไม่ได้ นี่คือวิชาชีวิต นี่คือวิชาของลูกผู้ชาย…ซึ่งยอมรับเลยว่า 4 สถาบันนี้มีอย่างเต็มเปี่ยม ผมตอบแทนทั้งโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้ว่าทั้ง 4 สถาบันเรามีเป้าหมายเดียวกัน เราเป็นโรงเรียนที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี เป็นโรงเรียนที่สังคมให้การยอมรับและศรัทธา…เพราะฉะนั้นผมเชื่อมั่น…

ทั้งนี้ อยากจะบอกทางน้องนักข่าวว่าถ้าจตุรมิตรไม่ดีจริง ถ้าการแปรอักษรการเชียร์มันเป็นเรื่องยากลำบาก ผมขออนุญาตเอาเหตุผลของเทพศิรินทร์เป็นตัวตั้งแล้วกัน…ทำไมนักเรียนเก่าถึงเอาลูกมาเรียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนเก่าทั้งนั้นที่เอาลูกมาเรียน ครั้งนึงผมเคยคุยกับเขา เขาบอกว่าเขาเคยอยู่บนสแตนด์เชียร์ เคยตากแดดตากฝน วันนั้นตอนที่เป็นเด็กอาจจะมีความรู้สึกเหมือนกันทำไมมันร้อน ทำไมมันลำบาก…แต่วันนี้มันกลายเป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องขี้ปะติ๋วที่คุยกัน คนที่ไม่ได้ไปเชียร์และแปรอักษรบางรุ่นบางช่วงบางเวลาเสียโอกาส…และบางคนถึงกับบอกเคยทำ 3 ครั้งเลย เพราะมีอยู่หลายช่วงเวลาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนในเครือจตุรมิตรได้รับโอกาสจากประเทศไทย เป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ โดยเขาก็จะเอาตัวแทนจาก 4 โรงเรียนไปแปรอักษรในนามของประเทศไทย ซึ่งสิ่งนี้คือโอกาส…และจตุรมิตรยังเป็นฐานของฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ การพบเห็นการเชียร์การแปรอักษรต่าง ๆ มันเกิดขึ้นจากเด็ก 4 โรงเรียนนี้ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่ดีงาม…

ซึ่งผมกำลังมองว่าการที่สอนหรือพยายามที่จะปลุกปั่นว่านี่คือการริดรอนสิทธิ ผมว่าสิทธิเสรีภาพมันต้องมากับ ‘หน้าที่’ และเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเราทำ เราคิดเสมอ ซึ่งผมและลูกของผมก็เป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ บางคนอาจจะบอกว่า ครูทำได้สิ ก็ไม่ใช่ลูกครู…ลูกผมเมื่อตอนที่เป็นนักเรียนเก่ารุ่น 125 ก็ตากแดดตากลมตากฝนอย่างนี้เหมือนกัน และ ณ วันนี้ลูกครูบาอาจารย์หลายคนก็ขึ้นสแตนด์เหมือนกัน เราภาคภูมิใจ…ที่ลูกเรามีส่วนร่วมกับกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ตอบได้เลยว่าเป็นลูกผม ผมก็ให้ทำ…

‘Jet Delivery’ เปิดแผนรุกตลาดธุรกิจส่งอาหาร ตั้งเป้าขยายพื้นที่บริการ 100 สาขาทั่วประเทศในปี 68

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ศิริอริย จำกัด ผู้บริหาร แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น Jet Delivery เตรียมแผนรุกตลาดธุรกิจส่งอาหาร ตั้งเป้าขยายพื้นที่เปิดบริการ 100 สาขาอำเภอ ทั่วประเทศ ภายในปี 2568

 

แอปพลิเคชัน Jet Delivery แพลตฟอร์มของคนไทย เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจส่งอาหารในช่วงปลายปี 2564 จวบจนปัจจุบัน มีสาขามากกว่า 30 สาขา ทั่วประเทศ ได้เตรียมแผนธุรกิจเชิงรุก เพื่อรองรับการขยายสาขาในปี 2567 โดยตั้งเป้าหมาย มีพื้นที่เปิดบริการสาขา รวมไม่น้อยกว่า 60 สาขา และในปี 2568 ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ ครบ 100 สาขา ปัจจุบัน มีร้านค้าเข้าร่วมขายอาหารบนแพลตฟอร์ม มากกว่า 5,000 ร้านค้า 

2 ปี ที่ผ่านมา Jet Delivery กระตุ้นให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นหมุนเวียน สร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น ทั้งในส่วนของร้านค้ามีช่องทางการขายมากขึ้น มีรายได้จากการขายอาหารเพิ่มขึ้น มีอัตราการจ้างแรงงานมากขึ้น มีพนักงานส่งอาหารซึ่งเป็นคนในพื้นที่ มีรายได้โดยไม่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิด

ในการให้บริการ Jet Delivery มีนโยบายการคิดค่า GP (Gross Profit) ที่ต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ให้สามารถใช้บริการสั่งอาหารได้ประหยัด ตาม Concept ‘ส่งถูก ส่งดี ส่งฟรี ส่งไกล’

รูปแบบการดำเนินงานของ Jet Delivery จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ การเปิดสาขาบริการ ที่บริหารงานโดยบริษัทฯ เอง และ การหาพาร์ตเนอร์ลูกค้าที่มีความพร้อม ความสนใจที่ต้องการสร้างธุรกิจ ในท้องถิ่น โดยการซื้อแฟรนไชส์ ไปเปิดบริการในพื้นที่อำเภอที่ตนสนใจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี สาขาแฟรนไชส์หลายสาขา สามารถสร้างผลตอบแทน และคืนทุนได้ภายใน 4-6 เดือน

ล่าสุด ผู้บริหาร ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรม ในโครงการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ ผ่านโครงการ WE RISE Together สนับสนุนโดยรัฐบาลออสเตรเลียผ่านความร่วมมือแม่น้ำโขง-ออสเตรเลีย จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) แสดงให้เห็นถึงการให้โอกาสกับทุกเพศ อย่างเท่าเทียมในการทำงาน และการสร้างองค์กรธุรกิจด้วยความเสมอภาค

จากนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างโอกาสให้คนไทย มีธุรกิจเป็นของตนเอง ส่งเสริมการสร้างอาชีพในท้องถิ่น สามารถสร้างรายได้ ด้วยการกำหนดราคาแฟรนไชส์ราคาประหยัด เพื่อให้ผู้สนใจ สามารถเข้าถึงธุรกิจแพลตฟอร์มแอปฯ เดลิเวอรี่ได้ และมุ่งเน้นทำตลาดในพื้นที่ โดยใช้เงินทุนที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับการต้องสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจขึ้นมาใหม่ ย่อมเป็นการเริ่มต้นในการลงทุนที่ดี สำหรับผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจใหม่ ๆ และอยากทำธุรกิจที่บ้านเกิดของตนเอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top