Wednesday, 7 May 2025
NewsFeed

หนึ่งถ้อยคำสัมภาษณ์ที่ชี้ให้เห็นถึงชนวนเหตุให้ 'เจ' ธนาธิป สรงกระสินธ์ โบกมือลา 'คาวาซากิ ฟรอนตาเล่'

มีแมตช์หนึ่ง ในลูวานคัพ ผมแบกกระเป๋ามา ใส่เสื้อผ้าของทีมมา ไปซ้อม คิดในใจ วันนี้ กูต้องได้เล่น เพราะเป็นบอลถ้วย ส่วนใหญ่ชุดสำรองต้องได้เล่น ประกาศชื่อออกมา ผมไม่มีแม้ชื่อสำรอง

ผมก็รู้สึกว่า ผมไม่ทนแล้ว ผมว่า ผมก็ทนมาพอสมควรแล้ว แล้วก็ผมไม่เคยขาดซ้อม และงอแงกับโค้ช ผมมืออาชีพทั้งหมด ผู้ใหญ่ก็เรียกไปคุยว่าทุกอย่างมันเป็นยังไงทำไมถึงอยากย้ายออก ทุกคนที่นี้ก็รักชนา เราก็คุยด้วยเหตุผล

ผมบอกว่าอายุผมเริ่มเยอะขึ้น ผมอยากเล่น เขาบอกทนอีกนิดได้ไหม เหมือนไม่สามารถทำให้ชนาเป็นชนาได้ ด้วยระบบทีม ความเกรงใจของชนา

ผมกับโค้ชไม่มีปัญหา คุยกันด้วยเหตุผล ผมบอกโค้ช ผมไม่ได้เกลียดโค้ช วันนี้ที่ผมต้องออก แต่ถามว่าโกรธโค้ชไหม ในการเป็นนักบอลคนหนึ่งมันโกรธอยู่แล้ว ผมพูดตรงๆ 

แต่ด้วยเหตุผล บอกโค้ชครับ ทีมชนะ ผมยินดีกับทีมเสมอ แต่ทีมแพ้ ผมพร้อมแล้วนะ อยากเล่นแล้วนะ แต่ผมไม่ได้โอกาส

โค้ชบอกขอโทษที่คิดเยอะไป ขอโทษชนา ที่ไม่สามารถทำให้ลงเล่นสม่ำเสมอ เขาบอกเสียดาย ในทีมนี้ ชนาเป็น 1 ใน 3 ที่เทคนิคดีที่สุด อากิฮิโระ อิเอนากะ, เรียวตะ โอชิมะ แล้วก็ผม ผมคิดในใจ ถ้าผมดีขนาดนั้น ทำไมไม่ให้ผมเล่น

'ชนาธิป สรงกระสินธ์' นักฟุตบอลชาวไทย ปัจจุบันเล่นให้กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ดในไทยลีก และทีมชาติไทย เผยฟางเส้นสุดท้ายก่อนกลับมาค้าแข้งในเมืองไทย

ที่มา: คนดูบอล By.PP

‘โอลีฟ’ วิ่งขึ้นเวทีประกวด Mister Smart ห้ามหนุ่มถอดเสื้อ  ฟาก ‘อ้วน รีเทิร์น-ป้อม วินิจ’ ปรี๊ดแรง!! บอก “ไม่มีมารยาท”

(10 ก.ค. 66) กลายเป็นประเด็นดรามาทันที ในการไลฟ์สดบรรยากาศรอบออดิชั่น Mister Smart Thailand ซึ่งช่วงหนึ่ง ผู้เข้าประกวดหนุ่มหล่อหมายเลข 19 ที่มีความสามารถในด้านการว่ายน้ำ แต่ที่นี้ไม่มีสระ เลยจะโชว์เป็นชุดว่ายน้ำแทน แต่จู่ๆ ‘โอลีฟ โตเกียวเนยกรอบ’ ก็วิ่งขึ้นเวทีไปถึงตัวผู้เขาประกวด โดยบอกว่า “อย่าถอดมันโป๊”

เหตุการณ์นี้ทำให้ ‘อ้วน รีเทิร์น’ ที่เป็นกรรมการก็ถึงกับด่า ‘โอลีฟ’ ว่า “มึงขึ้นมาเ-ือกอะไรบนเวที ลงไปเลย รู้ว่ารู้จักแต่ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวจะลงไปจัดการ แฟนเหรอ”

ด้าน ‘ป้อม วินิจ’ ที่เป็นกรรมการด่าเช่นกัน ว่า “แถวบ้านเรียก สรน. นะลูก คนดีๆเขาไม่ทำกันแบบนี้นะ ใครเชิญนางมา”

โดยผู้จัดการประกวดต้องช่วยพูดให้ใจเย็นลง โดยบอกว่าเชิญโอลีฟมาเอง น้องเขาไม่ได้ตั้งใจ ด้าน อ้วน ก็บอกว่า “ไม่ได้ตั้งใจก็ต้องรู้ เขากำลังทำงานกันอยู่วิ่งขึ้นมา”

ส่วน ป้อม ก็บอกเช่นกัน ว่า “เขาไลฟ์สดกันอยู่ ผู้ใหญ่นั่งกันอยู่บนเวที กิริยาที่ขึ้นมาน่าเกลียดมาก”

ซึ่ง ‘ป้อม วินิจ’ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกนึกว่าการแสดง นึกว่าหิวแสง แต่ถ้าเป็นการแสดงก็ไม่ควร ไม่เคยรู้จักน้องเขาด้วย และหลังจากน้องลงไปแล้ว ก็ยังดูไม่สลด ทำท่าดุ๊กดิ๊กเหมือนชอบใจ จึงมองดูว่าไร้มารยาท หรือไม่ก็หิวแสง

‘นันทิวัฒน์’ กระตุกต่อมจิตสำนึก ‘ส.ส. - ส.ว.’ หากรักชาติ-รักสถาบัน อย่าให้คนคิดไม่ดีได้มีอำนาจ

(10 ก.ค. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ ‘เรียกหาจิตสำนึก’ ระบุว่า ใกล้วันเลือกนายกฯ ในรัฐสภา เสียงจากพรรคการเมืองอ้างว่า เสียงเพียงพอ ส.ว.ให้การสนับสนุนจริงหรือไม่จริงไม่รู้ แต่มีข่าวลือมาเข้าหูว่า มีรถขนกล้วยคว่ำแถวหน้าสภา ขอให้เป็นข่าวปลอม คนแถวนั้นไม่ได้มาจากลพบุรี ไม่กินกล้วย สาธุ

มีเสียงจาก ส.ว.หลายคนชี้แจงว่า จะเลือกตามเสียงประชาชน มีคำถามว่า ส.ว.มีไว้ทำไม คำถามนี้ ต้องไปโทรถามคุณปรีดี เพราะปรีดีเป็นคนออกแบบให้รัฐสภาไทยมี ส.ว.ตั้งแต่เริ่มแรก จะให้เหมือนรัฐสภาอังกฤษที่มีสภาขุนนาง ที่มาจากการแต่งตั้งและสืบสายสกุล เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและคอยถ่วงดุล ส.ส. ให้ทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ต้องคำนึงถึงเสียง ส.ส. ที่มักอ้างเสียงประชาชน

แน่นอน ประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้ง แต่ผลเลือกตั้งไม่ได้มีหลักประกันอะไรว่าจะนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง ฮิตเลอร์ผู้นำเผด็จการและก่อสงครามโลกครั้งที่สอง ส่งผลให้คนตายหลายล้านคนก็มาจากการเลือกตั้ง สงครามยูเครน บ้านแตกสาแหรกขาด บ้านเมืองย่อยยับ คนตายคนอพยพนับล้านคน ก็มาจากการเลือกตั้ง นั่นคือ เลือกคนผิด บ้านเมืองฉิบ….

ชัดเจนว่า พรรคแกนนำประกาศนโยบายชัดเจน ต้องการแก้ไขล้มล้าง ม.112 ผลักดันการเลือกปกครองตนเองด้วยคำสวยหรู การตัดสินใจอนาคตของตนเองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ สุดท้ายจะจบอย่างไร ส.ส.และส.ว. จะยอมเสี่ยงหลับหูหลับตาเดินลงเหวทั้ง ๆ ที่มีคนตะโกนเตือนอย่างนั้นหรือ

อยากถามหาจิตสำนึกความรักชาติและรักสถาบันของ ส.ส.และส.ว.ทั้งหลายว่ามีอยู่จริงหรือไม่ อย่าทำตัวเป็นคนซื่อบริสุทธิ์ อย่าทำตัวเป็นคนไร้เดียงสาทางการเมือง จนไม่รู้ว่า อะไรดีหรืออะไรไม่ดีต่อประเทศชาติ อย่าจมน้ำตายเพราะเกาะตำราตะวันตกไม่ยอมปล่อย อย่าให้โอกาสคนที่คิดไม่ดีต่อสถาบันได้เป็นใหญ่

นราธิวาส-เลขาธิการ ศอ.บต. ชื่นชมเยาวชนชายแดนใต้ ที่เข้าอบรมศาสนา ที่ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ หวังอยากเห็นเยาวชนทุกคน เติบโตเป็นคนดีของสังคม และอยู่ใกล้ชิดหลักคำสอนของศาสนาที่ดีงาม 

เมื่อวันที่ (9 กรกฎาคม 2566) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ลงพื้นที่เยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่เยาวชนที่เข้าศึกษาศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมดูสถานที่เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมการส่งเสริมการสร้างคนดี ตามหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่มีความสำคัญอย่างมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบกับพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 กำหนดให้ส่งเสริมศาสนิกชนทุกศาสนาได้มีการศึกษาอบรมหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อีกทั้งการเรียนศาสนาสำหรับเด็กมุสลิมและเด็กที่นับถือศาสนาพุทธมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลูกฝังหลักการทางศาสนาเบื้องต้นตั้งแต่เยาว์วัย ณ วัดชลธาราวาส (วัดร่อน) ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นกิจกรรมของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดขึ้นเพื่อให้เยาวชนในพื้นที่ร่วมสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขับเคลื่อนการเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจต่อหลักการทางศาสนา ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง นำไปสู่สังคมของคนดี อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข โดยมีนางสุนิสา รามแก้ว  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) นายปัญญา น่วมประวัติ  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมพัฒนาชุมชน) ข้าราชการในสังกัด ศอ.บต.  คณาจารย์และเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 100 คน

ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เยาวชนคนที่เข้าร่วมศึกษาศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นจำนวนตัวเลขที่ไม่มาก แต่หากจำนวนดังกล่าวสามารถเป็นสะพานส่งต่อความดี เผยแพร่หลักคำสอนที่ถูกต้องของศาสนาไปยังเพื่อนฝูง และครอบครัว เชื่อว่าจะสามารถสร้างสังคมคนดีตามหลักศาสนาไปทั่วทุกมุมในชายแดนใต้ จะส่งผลให้เยาวชนพุทธบุตรเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม ผลักดันการพัฒนาทุกมิติ ทั้งการพัฒนาคน ทรัพยากรมนุษย์ สุขภาพ การศึกษา อาชีพ และเป็นคนดี คนเก่ง มีความสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในอนาคตอยากเห็นลูกๆ ทุกคน เป็นลูกหลานชาวพุทธที่มีความใกล้ชิดหลักคำสอนของศาสนา โดยมีการพัฒนาการแสดงออกทางมารยาทของชาวพุทธ ให้เป็นคนดี มีกิริยาวาจาและพฤติกรรมอันพึงประสงค์ การพัฒนาศีล เป็นการฝึกตนให้เป็นคนดี มีศีลธรรมประจำใจ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน มีการพัฒนาจิต ฝึกให้เป็นคนที่มีพลังจิตและสุขภาพจิตที่ดี และ มีการพัฒนาปัญญา ฝึกให้เป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างรู้เท่าทันโลก นำพาชีวิตสู่ความสำเร็จต่อไป

สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการจัดการศึกษาทางศาสนาสำหรับเด็กและเยาวชนหลากหลายรูปแบบ อาทิ ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่มีความสำคัญอย่างมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  อีกทั้งการเรียนศาสนาสำหรับเด็กมุสลิมและเด็กที่นับถือศาสนาพุทธมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลูกฝังหลักการทางศาสนาเบื้องต้นตั้งแต่เยาว์วัย ศอ.บต. จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมสังคมแห่งคนดี บนวิถีความหลากหลายของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจากการรับฟังข้อเสนอของผู้นำศาสนา พบว่า กระบวนการขัดเกลาทางศาสนาให้แก่เด็กและเยาวชน ในปัจจุบันกระทำได้อย่างจำกัดเนื่องจากขาดการสนับสนุนงบประมาณ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการสนับสนุนอาหารกลางวันให้เด็กได้รับอาหารรับประทานในศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.)  ซึ่งจะทำให้เกิดสมาธิศึกษาเล่าเรียนหลักการทางศาสนา เพื่อสร้างสังคมคนดีอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป 
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

สมุทรปราการ-รวมพลัง!! เทศบาลตำบลบางปู นำจิตอาสากว่า 200 คน จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ทำความสะอาดวัดในเขตพื้นที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู เป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดี ด้วยหัวใจ นำคณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มเพื่อนนายก ประชาชนจิตอาสา ตลอดจนคณะครู และนักเรียนลูกเสือจิตอาสาพระราชทานโรงเรียนหาดอัมราอักษรรักษ์วิทยา จำนวนกว่า 200 คน ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ ภายในวัดพุทธภาวนาราม ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

โดยนายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู ได้กล่าวคำน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้มีความรักความผูกพันใน 4 สถาบันหลักของชาติ คือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา

จากนั้น ได้นำกลุ่มจิตอาสา กว่า 200 คน ทำกิจกรรม เราทำความดี ด้วยหัวใจ ด้วยการทำความสะอาด กวาดพื้นถนน และการทำความสะอาดห้องสุขาสาธารณะ ภายในวัดพุทธภาวนาราม เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการรักษาดูแลทำความสะอาดภายในศาสนสถาน จุดบริการห้องน้ำสาธารณะที่ประชาชนมาใช้บริการ รวมถึงบริเวณพื้นที่ต่างๆ ภายในวัด ซึ่งถือเป็นการทำนุบำรุงศาสนสถานให้พระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจด้วยความสะดวก และพุทธศาสนิกชนที่เข้ามาทำบุญปฏิบัติธรรมหรือร่วมกิจกรรมประเพณีทางศาสนาในวัดได้อย่างสบายใจและมีสุขภาพอนามัยที่ดี 

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘เปิ้ล ไอริณ’ โพสต์ไอจีขอบคุณทุกสิ่งที่ผลักดันชีวิต บอก หากตนไม่อยู่แล้ว ขอยกรถปอร์เช่ให้สาธารณกุศล

(10 ก.ค. 66) กลับมาครองพื้นที่วงการเพลงลูกทุ่งอีกครั้ง สำหรับนักร้องลูกทุ่งดัง เจ้าของเพลงฮิตอย่าง เบนซ์สปอร์ต เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว ที่ปัจจุบันคนก็ยังร้องตามกันได้ และผลงานล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปล่อยเพลงออกมา ชื่อว่า ‘Money ฟังแล้วรวย’ ก็ดังไม่แพ้เพลงแรกเช่นกัน 

และแน่นอนว่าหากพูดถึง ‘เปิ้ล ไอริณ’ สิ่งที่มาคู่กันก็คงจะต้องเป็นรถหรูปอร์เช่นั่นเอง แต่ล่าสุดเธอได้ออกประกาศว่าจะขอยกรถปอร์เช่ที่ตนเองเพิ่งถอยมาให้เป็นสาธารณกุศล เมื่อวันหนึ่งที่เธอไม่อยู่แล้ว พร้อมเล่าเรื่องราวในอดีตว่าเธอจะมีวันนี้ได้มันไม่ง่าย ซึ่ง ‘เปิ้ล ไอริณ’ ก็ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า…

“พาบาร์บี้ มารับลูกสาวคนใหม่ เห็น เขาว่า..ขับปอร์เช่แล้วมันฟิน ฟิน ฟิน แม้ว่า ตอนนี้ เราจะอยู่ในจุดที่มีอิสระในการใช้ชีวิตเกือบทุก ๆ ด้าน แต่ก็ไม่เคยลืมเลยว่า เราเคยมาจากไหน จากลูกคนโต พี่น้องสามคน เป็นเด็กกะโปโล ที่อายุ 16 ปี ก็โดนโลกบีบบังคับ ให้เป็นเสาหลักครอบครัวที่แตกแยก ยังจำรสชาติได้ดีถึงการต้องนั่งสองแถวไปต่อรถเมล์ แม้วันฝนตกหนัก! เพื่อไปขายของ! ไปตระเวนหางานทำ ต้องต่อสู้ดิ้นรนอะไรได้เงินก็ทำ ทำมานับสิบอาชีพ จะมีใครเข้าใจชีวิตที่ต้องกระเสือกกระสนเพื่อครอบครัว เพื่อส่งตัวเองเรียน การมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย แต่พอย้อนกลับไปดูก็หายเหนื่อย มีแต่ความภาคภูมิใจมาแทนที่!!

เราเชื่อเสมอว่าที่เรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะพลังแห่งการซาบซึ้ง กตัญญูรู้คุณ พลังแห่งการขอบคุณ ทุกเช้าและก่อนนอน ขอบคุณ กระทั่งทุกอุปสรรค ทุกปัญหา ขอบคุณทุก ๆ บทเรียน ทุก ๆ ผู้คน ที่เข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ เป็นแบบทดสอบ ขอบคุณพลังแห่งการสำนึกรู้คุณ ความซาบซึ้ง ต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต่อแผ่นดินเกิด ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์! ขอบคุณโลก ที่ได้สร้างเรามาให้รู้คุณค่าชีวิต ให้เราไม่ได้เกิดมาง่ายดายสบาย ๆ ที่ทำให้เรามายืนอยู่ในจุดนี้ได้! รถคันนี้ เราไม่อยู่แล้ว เป็นของทุก ๆ คนนะคะ อยู่ในพินัยกรรมมรดกที่ยกให้สาธารณกุศล และมูลนิธิต่าง ๆ ท้ายนี้ ที่ขาดไม่ได้ ขอขอบคุณ ทุก ๆ แรงใจ ทุกกำลังใจดีดี ที่มีให้เราเสมอมาด้วยค่ะ”

หลังจากนั้นแฟน ๆ ที่ได้อ่านข้อความนี้ ต่างก็เข้ามาชื่น เปิ้ล ไอริณ กันอย่างคับคั่ง

‘ศ.ดร.สมพงษ์’ สะท้อนปัญหาเยาวชนไทยในปัจจุบัน ชี้มีแนวโน้ม ‘เจ้าอารมณ์ - เห็นแก่ตัว - ขาดศีลธรรม’

(10 ก.ค. 66) ศาสตราจารย์สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ สะท้อนปัญหาเยาวชนไทยในปัจจุบันว่า…

เมื่อนำผลการศึกษาวิจัยในเรื่อง #เด็กไทยพันธุ์ใหม่ ยุคปี 2000 มาเป็นแกนหลักเชื่อมโยงสัมพันธ์กับผลการศึกษาวิจัยกว่า 15 ชิ้น ข้อค้นพบแต่ละด้าน ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรณีศึกษา ข้อมูลการสำรวจที่เกี่ยวข้อง ภาพชุดของเด็กไทยในอนาคต (Scenario) อันใกล้นี้ จะเห็นคุณลักษณะที่เด่นชัดดังต่อไปนี้

1. #ระดับสติปัญญา ของเด็กไทย (Intellectual Quotient) มีแนวโน้ม #ลดต่ำลงจนน่าเป็นห่วง
2. สภาพ #ร่างกายที่อ่อนแอลง ขาดภูมิต้านทานทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์
3. วุฒิภาวะทางอารมณ์ พฤติกรรม และการแสดงออกแฝงไปด้วยความ #ก้าวร้าวรุนแรง ในการดำเนินชีวิตและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

4. เด็กวัยใสที่อ่อนเยาว์แต่กลับ #เรียนรู้ทางเพศ เร็วกว่าวัยที่ควรจะเป็น
5. การแสวงหาความรู้ ความสุข และการมีเพื่อนใหม่ทางอินเทอร์เน็ต
6. #วัตถุนิยม เป็นตัวตั้งในการสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ

7. การให้ความสำคัญกับตนเองมากกว่าส่วนรวม
8. เด็กจำนวนไม่น้อย #ขาดรากเหง้าทางศีลธรรม ศาสนา วัฒนธรรม สูญสิ้นความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย
9. เกิดสภาวะความเครียด การกดดันจากการแข่งขัน

10. การมองความสำเร็จในเชิงตัวบุคคลมากกว่าความเป็นหลักการและเหตุผลมีความคิดในรูปสำเร็จ(Package) การลอกเลียนแบบ (Copy) โดยขาดการไตร่ตรองรอบคอบกระบวนการคิดด้วยการใช้ปัญญา
11. การเล่นพนันบอล การมีหนี้ จนมีผลเสียต่ออนาคตของเด็กและเยาวชน
12. เด็กทำงานหนักไม่เป็น

‘เอเลียส’ โดนเตะเข้าศีรษะน็อคชั่วขณะ ล่าสุดถูกหามส่ง รพ. แล้ว 'โค้ชเตโก้' โวยกรรมการ หลังลุยลีกอินโดฯ โดนมา 2 นัดติด

เมื่อวานนี้ (9 ก.ค. 66) เอเลียส ดอเลาะห์ กองหลังทีมชาติไทย ของ บาหลี ยูไนเต็ด ในลีกอินโดนีเซีย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังถูกเตะเข้าที่ศีรษะในเกมลีกอินโดนีเซีย

การแข่งขันฟุตบอลลีกอินโดนีเซียคู่ระหว่าง บอร์เนียว เอฟซี พบ บาหลี ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา

มีรายงานว่า เอเลียส ดอเลาะห์ กองหลังทีมชาติไทย ที่เพิ่งย้ายจาก การท่าเรือ เอฟซี ไปอยู่กับทีม บาหลี ยูไนเต็ด ถูกนักเตะของทีมคู่แข่ง กระโดดเตะเข้าที่ศีรษะ จากจังหวะลุ้นทำประตูจากลูกฟรีคิกในช่วงท้ายเกม จนล้มลงไปนอนนิ่ง และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

ซึ่งเหตุการณ์นี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ เอเลียส ดอเลาะห์ ถูกเตะเข้าที่ศรีษะ หลังจากที่นัดแรกของเขาเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ถูกนักเตะทีม พีเอสเอส สเลมัน เล่นหนักใส่มาแล้ว

หลังจากที่นำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการซีทีสแกนแล้ว พบง่า อีเลียส ไม่มีอาการเลือดออกในสมอง และกระดูกไม่หัก แต่เจ้าตัวรู้สึกปวดหัว และมีอาการตาพร่ามัว

ด้าน ‘เตโก้’ สเตฟาโน่ คูกูร่า กุนซือ ทีม บาหลี ยูไนเต็ด กล่าวว่า “เอเลียส เล่นในไทยลีกมาหลายปี แต่เมื่อมาถึงที่นี่เขาก็ถูกเตะที่ศีรษะเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในเกมพบ พีเอสเอส และในวันนี้ก็ถูกผู้เล่นบอร์เนียวเตะที่ศีรษะอีกครั้ง หลังจบการแข่งขันเขาต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ให้จุดโทษแก่เรา นักเตะทีมชาติไทยต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับการแข่งขันและผู้ตัดสินที่นี่”

โดยเกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของ บอร์เนียว เอฟซี 3-1 โดยนักเตะเจ้าถิ่นโดนใบเหลืองไปถึง 5 ใบ ขณะที่ทีมเยือนได้ 1 ใบเหลือง ทำให้ผ่านไป 2 เกม บาหลี ยูไนเต็ด แพ้รวด รั้งบ๊วยของตารางคะแนนลีกอินโดนีเซีย

‘อนุชา’ ลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ พร้อมกราบลา ‘บิ๊กตู่’ ไปทำหน้าที่ ส.ส. ในสภาฯ

(10 ก.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (10 ก.ค.66) ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และได้กราบลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา

ทั้งนี้ นายกฯ อวยพรให้มีกำลังกาย กำลังใจที่ดี เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ได้อย่างเต็มความสามารถ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ตนขอขอบคุณนายกฯ ที่กรุณาให้ความไว้วางใจตลอดเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาให้ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง และมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กำกับดูแลงานสำคัญ ทั้งเรื่องต่างประเทศ เรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ การประสานงานการเมือง และภารกิจของนายกฯ ในด้านต่าง ๆ รวมถึงกำกับดูแลสำนักโฆษกฯ

“ขอบคุณนายกฯ ที่ไว้วางใจให้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา และขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ทำงานมากว่า 3 ปีในสำนักนายกฯ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกันมา และขอบคุณสื่อมวลชน ที่กรุณานำเสนอข่าวเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนตลอดเวลาที่ผ่านมา ส่วนภารกิจโฆษกฯ นายกฯ ได้มอบหมายให้รองโฆษกฯ ที่เหลืออยู่สามคนทำงานไปอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอเอกสารจากสภาฯที่จะส่งไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในวันเดียวกันนี้ เพื่อเตรียมนำไปรายงานตัวต่อสภาฯในวันที่ 12 ก.ค.และจะได้ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.นี้ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมพรรค รทสช.ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ จะมีทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่ทราบวาระการประชุม ที่ผ่านมาไปตนไปร่วมในฐานะผู้ติดตามของนายกฯ จึงไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องใดบ้าง ต้องรอดูว่าในพรรคจะเสนอความเห็นอย่างไร จากนั้นโฆษกพรรคจะเป็นผู้แถลงรายละเอียดเพื่อให้ ส.ส.ทุกคนเข้าใจก่อนประชุมสภาฯ

‘บีโกหมอย’ ของอร่อยขึ้นชื่อของ ‘ภูเก็ต’ หวาน มัน เค็ม หนึบหนับ เข้มข้นถึงเครื่อง

‘บีโกหมอย’ เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน โดยคำว่า บีโก แปลว่า ข้าวเหนียวดำ และคำว่า หมอย แปลว่า ต้ม บีโกหมอยจึงแปลว่า ข้าวเหนียวดำต้ม หรือ ‘ข้าวเหนียวดำเปียก’

คนภูเก็ตนิยมทาน ‘บีโกหมอย’ หลังอาหารเที่ยง หรือเป็นของหวานทานเล่นยามบ่าย เสน่ห์ของบีโกหมอย ก็คือรสสัมผัสของข้าวเหนียวดำเปียก ที่มีทั้งความเหนียวหนึบหนับ ความหอมของกลิ่นข้าว และความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว แม้จะเติมน้ำตาลลงไปปรุงรสบ้าง ก็ยังไม่เสียเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว และเมื่อนำ กะทิสด ที่ปรุงรสชาติหวาน มัน เค็ม มาราด บนเหนียวดำและทานไปพร้อม ๆ กัน ก็จะยิ่งได้มิติของรสชาติและเนื้อสัมผัสอันหนึบหนับของบีโกหมอย ที่อร่อยกลมกล่อม

เนื้อสัมผัสของขนมบีโกหมอยนั้นจะมีความเหนียวหนึบ ทานกับส่วนผสมอื่น ๆ แล้วจะอร่อยพอดี เป็นขนมหวานที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน แต่ถ้าไปถึงเมืองภูเก็ตแล้ว ก็แนะนำว่าให้ลองไปชิมกัน รับรองติดใจแน่นอน

ที่ร้าน Torry's ice cream ซอยรมณีย์ ใจกลางย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ได้นำบีโกหมอยมาจับคู่กับไอศกรีมอัญชันสูตรโบราณ แล้วเสริฟ ลงในกระทะทองเหลือง ออกมาเป็นจานที่ความสวยงามน่ากินมาก รสชาติเข้มข้น อร่อยถึงเครื่อง กินแล้วฟินสุด ๆ ในราคาแค่ 95 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top