Wednesday, 7 May 2025
NewsFeed

‘ประชาธิปัตย์’ เลื่อนโหวตหัวหน้าพรรค!! หลังองค์ประชุมมาไม่ครบ 250 คน

(9 ก.ค. 66) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ได้เริ่มต้นอีกครั้งในวาระการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค โดยสมาชิกได้ทยอยเดินเข้าห้องประชุม แต่ที่นั่งยังคงบางตา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการทำให้องค์ประชุมครั้งล่มไป

จนเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ในฐานะ กกต. พรรค ได้ประกาศว่า ขณะนี้มีจำนวนสมาชิก 221 คนแล้ว ถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว แต่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ หนึ่งใน กกต. พรรคแย้งว่า ตามข้อบังคับพรรคต้องมีองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 250 ท่าน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในห้องประชุมเริ่มมีความตึงเครียด เนื่องจากยังไม่มีสมาชิกทยอยเข้ามาเพิ่ม ขณะที่นางสาวผ่องศรี ธาราภูมิ กล่าวว่า ขอให้ผู้มีสิทธิ์ทุกคนชูบัตรขึ้นเพื่อยืนตัวตนของผู้ที่มีสิทธิ์โหวต ปรากฎว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะได้แค่ 221 ท่าน

อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกบางส่วนได้เสนอให้รอองค์ประชุมที่กำลังเดินทางมา เหมือนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ยังให้โอกาส ส.ส. เข้าร่วมประชุม แต่คุณหญิงกัลยา ยืนยันว่า ขณะนี้เวลาเลยนัดหมายไปแล้ว 20 นาที เมื่อสมาชิกใช้เวลารับประทานอาหารและทำธุระแล้วก็ควรเข้ามาร่วมประชุมตามที่นัดหมาย 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนได้สอบถาม ทราบว่าสมาชิกหลายคนเดินทางกลับไปโรงแรมกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านและกำลังเดินทางมา ขอให้เลื่อนไปประชุมอีกครั้งเวลา 15.00 น. เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับสมาชิกที่เสียสละเวลามาประชุมในวันนี้ เพราะหลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด หากทุกคนรักพรรคจริง ต้องดำเนินตามครรลองของพรรคด้วย พร้อมกำชับให้สมาชิกอยู่ในห้องประชุม ห้ามออกไปไหน แต่ก็ยังมีหลายคนเดินเข้าออกห้องประชุม และมีบางส่วนนั่งอยู่นอกห้องประชุม ไม่เข้าร่วมประชุม 

จากนั้นเวลา 15.00 น. กลับมาประชุมอีกครั้ง โดยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ประชาธิปัตย์ ในฐานะกกต. พรรค กล่าวว่า ขอให้องค์ประชุมมานั่งที่เก้าอี้ตัวเอง หากองค์ประชุมไม่ถึง 250 เสียงจะเดินต่อไปไม่ได้ และจะได้นัดประชุมครั้งใหม่ต่อไป

ภายหลังเจ้าหน้าที่นับองค์ประชุม คุณหญิงกัลยา แจ้งว่า ขณะนี้ตรวจสอบองค์ประชุมอีกครั้ง โดยขณะนี้มีองค์ประชุมเพียง 201 คน ดังนั้น กกต.พรรค จึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ และขอเชิญหัวหน้าพรรคมารับหน้าที่ดำเนินการต่อ 

ต่อมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ประชุมไม่ได้ หลังจากนี้ตนและเลขาธิการพรรคจะได้หารือต่อไป เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง และขอยุติการประชุมในเวลา 15.09 น.

‘ศรีริต้า’ อวดลุคจั๊มสูทสีขาว ปาดไหล่จับจีบ เฉิดฉายกลางปารีส แถมพ่วงสามีสุดหล่อ ‘คุณกรณ์’ นั่งเคียงข้างไม่ห่างกาย

(9 ก.ค. 66) สวยสะกดดั่งนางพญา เมื่อนางฟ้าคนสวย ‘ริต้า’ หรือ ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ปรากฏตัวในโททัลลุคจั๊มสูทสีขาว ปาดไหล่เดี่ยวจับจีบ จากแบรนด์ Elie Saab Collection 2023 เครื่องประดับจาก Schiaparelli เพิ่มความเก๋ด้วยกระเป๋า Hermes Kelly Cut Rose Tyrien คอมพลีตลุคดีงามเวอร์ พร้อมควงสามีหล่อเนี้ยบ กรณ์ ณรงค์เดช นั่ง Front Row ร่วมชมโชว์ The ELIE SAAB Haute Couture Autumn-Winter 2023-24 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะแขกคนพิเศษของแบรนด์ฯ

โดยมีเหล่าดาราเซเลบริตี้คนดังร่วมงาน อาทิ เจ้าหญิงฟัดซีลลาห์ ลูบาบุล โบลเกียห์ (Fadzilah Lubabul Bolkiah) แห่ง บรูไน ซึ่งงานนี้ ศรีริต้า ก็ได้มีโอกาสถ่ายภาพร่วมเฟรมเก็บโมเมนต์สุดประทับใจในการชมโชว์ฯ

ปิดท้ายกับการไปร่วมงานวันเกิด เอลี ซาบ (Elie Saab) ดีไซเนอร์ชาวเลบานอนเจ้าของแบรนด์ Elie Saab ที่โรงแรม Four Seasons Hotel George V, Paris อีกด้วย

อดีต ผจก.โรงงานน้ำปลาร้า เผยข้อมูลอีกด้าน 'พิมรี่พาย' ชี้!! 'ได้เงินตลอด-ไม่โดนเบี้ยว' แต่คุณภาพไม่ได้ ไม่ให้ผ่าน

(9 ก.ค. 66) ฟังอีกมุม อดีตผจก.โรงงานน้ำปลาร้า ลั่นอย่าโบ้ยความผิดให้ ‘พิมรี่พาย’ เผยได้เงินตลอด-ไม่โดนเบี้ยว ชี้หากสินค้าไม่มีคุณภาพ เขาจะขายออกสู่ตลาดได้อย่างไร

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งออกมาแชร์ประสบการณ์ในการผลิตและขายน้ำปลาร้า พร้อมระบุข้อความว่า “ผมก็โดนพิมรี่พายเทน้ำปลาร้าเหมือนกัน #ปลาร้าพิมรี่พาย”

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.66 นายเต้ย อายุ 24 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว และอดีตผจก.โรงงานน้ำปลาร้า เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ว่า ตนเคยเป็นผู้จัดการโรงงานผลิตน้ำปลาร้าแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นทางโรงงานเหลือกำลังในการผลิต จึงเสนอขายน้ำปลาร้าให้แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง นั่นคือ ‘พิมรี่พาย’ โดยติดต่อพูดคุยกับแม่ค้าออนไลน์คนดังกล่าวและทีมงานโดยตรง เพื่อร่วมชิมรสชาติน้ำปลาร้า ก่อนตัดสินใจว่าได้หรือไม่ได้ ซึ่งมีการเสนอขายกันอยู่หลายครั้ง จนสามารถจบออร์เดอร์ได้ 26 ล้าน แล้วบริษัทก็ผลิตน้ำปลาร้าและจัดส่งให้แม่ค้าออนไลน์คนดังกล่าวเรื่อยมา ซึ่งพิมรี่พายจะสุ่มเช็กคุณภาพของน้ำปลาร้าตลอด จนช่วงหลังๆ พิมรี่พายเริ่มรู้สึกว่ารสชาติน้ำปลาร้าไม่เหมือนเดิม จึงสั่งเบรกการผลิตไว้ก่อน และเรียกตนไปพบ มีทีมงานของพิมรี่พายกว่า 10 คนที่จะมาเช็กคุณภาพและได้ปรับสูตรใหม่อยู่ 7 วัน ซึ่งพิมรี่พายย้ำว่า “ต้องคงสูตรนี้ไว้ให้ได้ตลอด” และการผลิตก็ดำเนินต่อไป ซึ่งยอมรับว่ากว่าจะได้ออเดอร์ของพิมรี่พายนั้น ไม่ง่ายเลย

นายเต้ย กล่าวว่า ส่วนเรื่องมาตรฐานน้ำปลาร้านั้น พิมรี่พายจะให้โจทย์มาแล้วให้เราผลิตตามความต้องการ เพราะมาตรฐานน้ำปลาร้าของเขาสูงมาก เนื่องจากพิมรี่พายอยากได้ปริมาณเนื้อเยอะๆ แต่ในตอนนั้นเครื่องจักรที่โรงงานมีอยู่ เพื่อเอาไว้กรองเศษทางกายภาพออกให้หมด เนื่องจากจะต้องส่งออกไปยัง EU และอเมริกา จึงอาจจะไม่สามารถทำได้ตรงตามที่พิมรี่พายขอเป๊ะๆ แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ เนื่องจากหากต้องปรับเครื่องจักร หรือลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เลยก็เป็นมูลค่าหลายสิบล้าน

นายเต้ย เล่าว่า โดยปกติสินค้าเวลามีปัญหา เราต้องเอากลับมาจัดการแก้ไขเอง เพราะมาตรฐานเราไม่ตรงตามมาตรฐานของเขา เนื่องจากสินค้าน้ำปลาร้ามาตรฐานต้องแน่น ทั้งนี้ทางโรงงานก็ประเมินว่าหากลูกค้ามีมาตรฐานแบบนี้ แล้วทางโรงงานไม่สามารถทำให้ได้จริงๆ ทางโรงงานจะไม่ตะบี้ตะบันเอาออเดอร์และไม่เดินไปต่อ

นายเต้ย กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตนเขียนข้อความในคลิปว่า “โดนพิมรี่พายเทน้ำปลาร้าเหมือนกัน” นั้น จริงๆ ตนแค่เขียนเพื่อให้คนเข้ามาฟังเหตุผลให้จบ และยืนยันว่าไม่ได้ถูกเท แต่เป็นการถูก reject เนื่องจากสินค้าไม่ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ และเมื่อตนไปตรวจสอบก็พบว่ามีเนื้อปลาร้าน้อยจริงๆ ซึ่งในส่วนนี้ทางโรงงานก็ยอมรับได้ อีกทั้งตลอดการทำการค้าขายกับพิมรี่พายเองก็ได้เงินตลอด ไม่มีการขาดทุนจากพิมรี่พาย ขณะที่อีกโรงงานหนึ่งตนเชื่อว่าเติบโตจนมีโรงงานขนาด 30-40 ล้าน เพราะออเดอร์จากพิมรี่พายด้วยซ้ำ

สำหรับเคสเรื่องเงินที่เป็นประเด็นร้อนว่ามีการติดกันจริงไหม โดยปกติที่ทำธุรกิจกับพิมรี่พายนั้น ทางเขาจะจ่ายเงินเป็นงวด และบริษัทจะไม่มีการปล่อยเครดิตเกิน ถ้าเขาไม่จ่ายก็จะติดต่อในส่วนของฝ่ายบัญชี ยอมรับว่าทางเขามีการจ่ายเงินช้าบ้าง โดยชี้แจงเป็นเหตุผลต่างๆ ซึ่งถ้าจ่ายเงินช้า ทางบริษัทจะแก้ปัญหาด้วยการบริหารจัดการของบริษัท

นายเต้ย กล่าวอีกว่า ยืนยันไม่ได้เข้าข้างใคร แต่พูดในมุมมองที่ได้เจอมา อยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่าก่อนจะตัดสินใคร ให้รอฟังให้รอบด้านก่อน ตนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหตุใดพิมรี่พายไม่ออกมาพูดหรือชี้แจง แต่พี่กบออกมาพูดแล้ว ตนเองรู้ด้วยว่าสุดท้ายแล้วคดีจะชนะด้วยเหตุผลอะไร แต่ตนพูดไม่ได้ เพราะเป็นคนนอก แต่ในฐานะคนที่เคยทำงานอยู่ตรงนั้นแบบเต็มตัว มองในมุมการค้าขาย สุดท้ายแล้วลูกค้าต้องอยากได้สินค้าที่มีคุณภาพไปขาย ถ้าหากได้สินค้าไม่มีคุณภาพ เขาจะขายออกสู่ตลาดได้อย่างไร แล้วหากเราผลิตสินค้าไม่คุณภาพจะไปต่อกับเขาได้อย่างไร ตนจึงไม่อยากให้โบ้ยไปทางพิมรี่พาย และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าไว้ใจคู่ค้ามากเกินไป เพราะสุดท้ายคนเสียหายคือเราเอง

‘โบว์ ณัฏฐา’ แจงเหตุผล 'ก้าวไกล' ชนะที่ 1 แต่ไม่ได้เป็น ‘นายกฯ’ ทันที ชี้!! เพราะต้องเลือกผ่านสภาฯ แม้ไร้ ส.ว. ก็ต้องรวมเสียงให้เกินครึ่ง

(9 ก.ค. 66)  ‘โบว์’ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ‘@NuttaaBow’ โดยระบุว่า…

คำอธิบายว่าทำไมได้ที่หนึ่งแล้วไม่ได้เป็นนายกฯ โดยอัตโนมัติ มีคนบ่นมากว่า 1.ถ้าพรรคที่ชนะ ที่ 1 ไม่ได้เป็นนายกจะเลือกตั้งไปทำไม 2.ทำไมเลือกตั้งเสร็จแล้วไม่ได้นายกเลย ทำไมยังไม่จบง่าย

ตอบดังนี้ 1.พูดให้ง่ายเข้า ประเทศประชาธิปไตย บนโลกนี้ มีวิธีเลือก ผู้นำ สองแบบ คือ 1.1 ประชาชนเลือกผู้นำโดยตรง เช่น อเมริกา (ความจริงมีตัวแทนเลือกอีกที เรียกว่า electoral college แต่ช่างมันข้ามก่อน) และ 1.2 ผู้นำที่ถูกเลือกจากสภา (ที่ประชาชนเลือกมาอีกที) เช่น อังกฤษ เป็นต้น ไทย (ถ้าไม่มี สว.) เป็นแบบหลัง ดังนั้น มันจึงไม่ได้จบหลังเลือกตั้ง ชนะที่ 1 จึงไม่ได้เป็นนายกออโตเมติก ไม่เหมือนระบบแรก ที่ชนะเท่าไหร่ ชนะน้อยชนะมาก ก็เป็น ประธานาธิบดีเลย

เอ๊า แล้วทำไมหลายประเทศ เขาถึงเลือกแบบที่สองกัน อันนี้เป็นเรื่องปรัชญาและการออกแบบรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งเรื่องมันยาว แต่ขอย่อสั้นๆ ดังนี้

A : เหตุผลด้านความชอบธรรมของเสียงส่วนใหญ่ ถ้าเลือกตรง คะแนนออกมาสี่คนที่ลงแข่ง 30%, 20%, 20%, 20% รวมกัน 100% จะเห็นว่า ที่ 1 ชนะเลย ทั้งที่เสียงไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ดังนั้นพูดในแง่นี้ ระบบเลือกผู้นำในสภา (ให้ได้เสียงเกินครึ่ง) จึงตอบโจทย์เสียงส่วนใหญ่กว่า ในระบบเลือกผู้นำตรง จะมีข้อเสียดังว่า เขาจึงพยายามออกแบบถ่วงดุล อำนาจ ปธน. กับ สภา ด้วยวิธีอื่น เช่น ตอนผ่านงบประมาณประจำ จะมีขั้นตอนที่ทั้งสองฝ่ายต้องดุลอำนาจกันเป็นต้น หรือในหลายประเทศใช้วิธีเลือก ปธน. หลายขั้นตอน เพื่อให้ได้เสียงเกินครึ่งจริงๆ

B : ในระบบที่ใช้สภาเลือกผู้นำ หากเกิดวิกฤตที่ทำให้ไปไม่รอด สภาเปลี่ยนผู้นำได้ โดยไม่ต้องกลับไปสู่การเลือกตั้งทุกครั้ง เช่น เมืองอังกฤษ สภาชุดนี้ก็เปลี่ยนนายกมาสามคนแล้วมั้ง ด้วยวิกฤตต่างๆ นายกคนที่แล้วท่านพลาดเรื่องแนวเศรษฐกิจมาก จนมีอายุอยู่ได้ เดือนกว่าๆ นึกภาพ ว่าต้องเลือกตั้งทุกครั้งที่นายกสิ้นสภาพ มันจะเป็นอย่างไร พูดง่ายๆว่า การเลือกผ่านสภา มันก็มีข้อดีในทางปฏิบัติด้วยและยึดโยงกับประชาชนอยู่

ถามว่ามีไหม ที่พรรคที่ 2 ได้เป็นนายก ในระบบ ปชต.

มีสิท่านๆ ลองไปเสิร์ชดู กระผมจะไปทำงานต่อไม่ว่างเสิร์ชให้แล้ว ดังนั้น ท่านต้องวางมายด์เซต ให้ถูกต้องก่อนเด้อขรั่บ ความวุ่นวายในการจับขั้ว หลังเลือกตั้งมันเป็นเรื่องปกติถูกแล้ว ที่ไม่ปกติ ก็เพราะมี สว. ที่ลากตั้งมายุ่งนี่เอง

แต่ แต่ แต่ สมมติว่าไม่มี สว. (สมมติเราเปลี่ยนผ่านไปสู่ปชตแล้ว แก้ รธน แล้ว) ก็ใช่ว่าท่านพิธา จะแบเบอร์ ท่านต้องรวมเสียงให้ได้เกินครึ่ง ครับ ถ้าไม่ได้ก็อด ก็เท่านั้นแหละครับ

ไม่อีกทีท่าน ท่านก็แก้ รธน เปลี่ยนไปสู่การเลือกนายกโดยตรง นับคะแนนดิบ แล้วเอาเลย ซึ่งในทางเทคนิคเพื่อให้สอดคล้อง ก็ต้องแก้หลายอย่างเพื่อดุลอำนาจใหม่ ระหว่าง สภา กับ นายกที่มาจากการเลือกตั้งตรง

หวังว่า ข้อมูลที่พี่เขียวนำเรียน จะคลายความหงุดหงิดของหลายท่านได้บ้าง ว่าทำไมนะ ท่านพิธาจึงไม่ได้เป็นนายกฉลุยๆ แบบนี้สักที เรื่องก็เป็นดังที่นำเรียนนี่เอง” จากมิตรสหายท่านหนึ่ง

วิเคราะห์!! สหรัฐฯ ขอกลับเข้ายูเนสโก หวั่น!! จีนสยายอิทธิพลแทนที่

(9 ก.ค. 66) รายการ ‘คุยผ่าโลก’ ได้เชิญ ‘อาจารย์สุดาทิพย์ จารุจินดา-อินทร’ มาพูดถึงนัยยะสำคัญในการกลับมาเป็นสมาชิกองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ของสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการถอนตัวออกจากยูเนสโกมาแล้วถึง 2 ครั้ง กลับมาครั้งนี้จะมีความหมายอย่างไร มาฟังกันเลย…

“เหตุผลที่ทำให้อเมริกาทนไม่ได้ เพราะจีนแผ่ขยายอำนาจ ซึ่งหากจะให้เปรียบเปรยก็เหมือนกับว่า แม้แต่สนามหญ้าหน้าสำนักงานยูเนสโก จีนก็บลัฟเป็นเจ้าภาพ ฮุบเข้าไปขยายอาณาเขตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ถือเป็นการสู้กัน เพราะยูเนสโก มีทั้งด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษาวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ และตัววิทยาศาสตร์ 

"ทั้งนี้ ในส่วนของสหรัฐฯ นั้น ได้มีการถอนตัวมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมาจากการที่ ‘ยูเนสโก’ รับ ‘ปาเลสไตน์’ เข้ามาเป็นสมาชิกในสหประชาชาติ (UN) แม้เขาจะไม่ได้เป็น Full Member แต่ในส่วนยูเนสโกรับเป็น Full Member เลย ทำให้อเมริกาเดือดมาก รวมทั้งอิสราเอลก็โกรธมากเช่นกัน จึงทำให้อิสราเอลและอเมริกาถอนตัวทั้งคู่ อันนี้คือสาเหตุของการถอนตัวครั้งแรก แต่ในที่สุดภายหลังก็ได้ผันตัวกลับเข้าไป ส่วนอีกครั้งหนึ่งในสมัย ‘ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็ได้มีคำสั่งให้ถอนออกมาจาก ‘ทีพีพี’ และอเมริกาแทบจะถอนตัวจาก NATO และถอดยูเนสโกตามมาติดๆ

"ทว่า ตอนนี้ ‘จีน’ กับ ‘อเมริกา’ กำลังขับเคี่ยวกันในเรื่องเทคโนโลยี หรือ AI ซึ่งตรงนี้จะเป็นการได้ประโยชน์จากยูเนสโกที่จะส่งผลต่อประเทศจีน ทำให้อเมริกาปล่อยให้จีนแผ่บทบาทนี้ไม่ได้ จึงทำให้ต้องยอมเข้าไป ‘ยูเนสโก’ อีกครั้งหนึ่ง และล่าสุดเพิ่งมีการลงมติไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีทั้งหมด 132 เสียง ที่เห็นชอบ แต่ก็มีอีก 10 ประเทศที่ออกเสียงคัดค้าน ซึ่ง 1 ในนั้นมี ‘อินโดนีเซีย’ อีกด้วย ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามต่อไป โดยมีเวทียูเนสโกอีกหนึ่งพื้นที่ในการสู้รบกัน"

‘เสาสะพานพระราม 3’ การก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ลดขนาดโครงสร้าง เพื่อทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง

(9 ก.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Applied Physics’ ได้แชร์เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเชิงวิศวกรรมของ 'เสาสะพานพระราม 3' โดยระบุว่า…

จุดประสงค์เพื่อการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์เชิงการศึกษาต่อนักเรียนนักศึกษาที่สนใจนะครับ

บางไปไหม? จะหักไหม?
มันบางจริงๆ แต่แข็งแรงนะ และแข็งแรงไม่น้อยไปกว่า สะพานที่ใช้เสาตอม่อขนาดใหญ่ 2 ต้นเพราะมีการวางเสาต่อเนื่องกัน ในการถ่ายเทน้ำหนัก แล้วยังใช้งบมากกว่าแบบหนาๆด้วย

สะพานนี้ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และเรื่องนี้ เคยมีวิศกรออกมาให้ความรู้มาก่อนแล้วว่าลักษณะเสาที่บางของสะพานนี้ เป็นการก่อสร้างโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่เรียกว่า ‘คอนกรีตอัดแรงแบบพิเศษ’ ซึ่งจะใช้เหล็กที่เป็นโครงสร้างด้านในมากกว่าโครงสร้างทั่วไป …แถมการสร้างด้วยเทคโนโลยีแบบนี้ มีมูลค่าสูงกว่าการก่อสร้างทั่วไปเสียอีก จุดประสงค์ก็เพื่อลดขนาดโครงสร้างคอนกรีตที่ใหญ่เทอะทะ จนกลายเป็นทัศนะอุจาดในเขตเมือง มองแล้วไม่สบายตา พอลดขนาดเสาลง มันก็ดูโปร่งสบายตากว่ามาก

สะพานนี้ เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ. 2542 ก่อสร้างโดย บริษัทเยอรมัน Ed.Zublin Ag.Wayss สร้างเสร็จมา 20 กว่าปีแล้ว ก็ไม่เคยมีปัญหา

โดยทั่วไปแล้ว เสาตอม่อเล็ก มีความนิยมกันมาก เพราะประหยัดพื้นที่ ให้พื้นที่ด้านล่างน้อย โดยเฉพาะในต่างประเทศ มีการใช้เป็นจำนวนมาก ( เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น)

โดยจุดดังกล่าว เป็นเชิงสะพาน ก่อนเข้าถึงตัวสะพานกลางแม่น้ำเท่านั้น แต่พอไปถึงช่วงกลางสะพาน เสาตอม่อก็มีขนาดใหญ่ เหมือนสะพานอื่นๆ

‘นายกฯ เนเธอร์แลนด์’ ประกาศยุบสภาฯ-ลาออกสายฟ้าแลบ หลังปัญหา ‘ผู้ลี้ภัย’ ล้นทะลัก ทำระบบสวัสดิการประเทศพัง

(9 ก.ค. 66) ปัญหาผู้ลี้ภัยในยุโรปพ่นพิษ ทำนายกฯ เนเธอร์แลนด์ต้องยุบสภาฯ ลาออก

ปัญหาการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยในยุโรปกำลังกัดเซาะความแข็งแกร่งของรัฐบาล ในประชาคมยุโรปไปเรื่อยๆ เหมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ แต่ที่เนเธอร์แลนด์ ดูเหมือนจะปะทุก่อนใคร จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี 3 สมัย อย่าง ‘มาร์ค รัทเทอ’ ต้องประกาศยุบสภาฯ และลาออกฟ้าผ่า

สาเหตุเกิดจากความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่คัดค้านนโยบายจำกัดผู้อพยพต่อปี เพราะปัญหาผู้ลี้ภัยล้นทะลัก ที่รอเข้าประเทศหลายล้านคน ส่วนใหญ่ลี้ภัยจากแอฟริกาเหนือและชาวยูเครน

โดย มาร์ค รัทเทอ มองว่าถ้าไม่ตั้งโควตารับผู้อพยพต่อปี เนเธอร์แลนด์อาจต้องรับผู้ลี้ภัยถึงหลักสิบล้านคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่อาจส่งผลเสียต่อระบบสวัสดิการสังคมในประเทศ

แต่เมื่อ 2 ใน 4 ของพรรคร่วมรัฐบาลคัดค้านนโยบายนี้ มาร์ค รัทเทอ จึงต้องยุบสภาฯ ขอลาออก เพื่อเลือกตั้งใหม่

และความขัดแย้งในเรื่องนโยบายผู้อพยพ กำลังเป็นปัญหาในหลายประเทศในยุโรป ที่อาจส่งผลให้เกิดการพลิกขั้วของรัฐบาล อย่างเช่นในอิตาลีมาแล้ว

‘NARIT’ ชวนดู ‘ดาวศุกร์’ ช่วง 1-3 ทุ่ม 10 ก.ค.นี้ ชี้ ส่องสว่างที่สุดในรอบปี สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

(10 ก.ค. 66) เพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความเรื่อง ‘10 กรกฎาคมนี้ ดาวศุกร์สว่างที่สุดในรอบปี’ ช่วงหัวค่ำ ระบุว่า วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ‘ดาวศุกร์สว่างที่สุด’ ครั้งแรกของปีนี้ ปรากฏสว่างเด่นทางทิศตะวันตก ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 19:00 ถึง 21:09 น. สังเกตด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ คาดว่ามีค่าอันดับความสว่างปรากฏมากถึง -4.6 (ดวงจันทร์เต็มดวง มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ -12)

เมื่อ #สังเกตดาวศุกร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์จะปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ นอกจากนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวยังมีดาวเรกูลัสเคียงดาวอังคารปรากฏเหนือดาวศุกร์ขึ้นไปอีกด้วย หากทัศนวิสัยท้องฟ้าดีสามารถชมได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนทั่วประเทศ

#ดาวศุกร์สว่างที่สุด (The Greatest Brilliancy) คือช่วงที่ดาวศุกร์โคจรห่างจากโลกในระยะที่เหมาะสม และมีขนาดเสี้ยวค่อนข้างใหญ่ จึงปรากฏสว่างมากบนท้องฟ้า สำหรับในช่วงอื่น แม้ดาวศุกร์จะมีเสี้ยวที่หนากว่า แต่ด้วยตำแหน่งอยู่ที่ห่างจากโลก ความสว่างจึงลดลงตามไปด้วย

การที่เราเห็น #ดาวศุกร์เป็นเสี้ยวอยู่เสมอ เนื่องจากดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่ 2 ถัดจากดาวพุธ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใกล้กว่าโลก จึงไม่สามารถเห็นดาวศุกร์สว่างเต็มดวงได้ เพราะจะปรากฏสว่างเต็มดวง เมื่ออยู่หลังดวงอาทิตย์ ดังนั้น คนบนโลกจึงมองเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวอยู่เสมอ ความหนาบางของเสี้ยวแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งของวงโคจร และปรากฏอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ได้มากที่สุด 47.8 องศา เราจึงสังเกตเห็นดาวศุกร์ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ตกเท่านั้น ไม่เคยปรากฏอยู่กลางท้องฟ้าหรือในช่วงเวลาดึก

ทั้งนี้ หากเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันตกในช่วงหัวค่ำ คนไทยมักเรียกว่า ‘ดาวประจำเมือง’ หากเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันออกในช่วงเช้ามืด คนไทยมักเรียกว่า ‘ดาวประกายพรึก’ ในปี 2566 นี้ ดาวศุกร์จะปรากฏสว่างที่สุด 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ช่วงหัวค่ำ ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ปรากฏสว่างเด่น เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันตก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนถึงเวลาประมาณ 21:09 น. และ ครั้งที่ 2 ช่วงเช้ามืด ในวันที่ 18 กันยายน 2566 ปรากฏสว่างเด่น เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 03:25 น. จนดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า

‘ชูวิทย์’ แนะ ‘ก้าวไกล’ ต้องรู้จัก ‘ประนีประนอม’ หากดึงดัน ‘แก้ ม.112’ จะถูกผลักกลับไปเป็นฝ่ายค้าน

(10 ก.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ หัวข้อ ‘ทางเลือกของก้าวไกล’ ระบุว่า ก้าวไกลได้รับเสียงจากประชาชนกว่า 14 ล้านเสียง แต่ยังต้องลุ้นเสียง ส.ว. อีกว่าจะโหวตผ่านให้พิธาเป็นนายกฯ หรือแม้แต่จะให้ก้าวไกลอยู่ในสูตรจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่า ‘มีก้าวไกล ไม่มี ส.ว.’ ก้าวไกลต้องเลือก หากต้องการเป็นรัฐบาลต้องเลิกแตะ ม.112 แต่การถอย คือการฆ่าตัวตายทางการเมือง เพราะมีจุดยืนหาเสียงไว้ชัดเจน ก้าวไกลยืนกรานไม่ถอย และเดินสายขอบคุณประชาชนถี่ยิบเพื่อให้เห็นว่า ‘เข้าตามตรอก ออกตามประตู’ เดินตามกติกาประชาธิปไตย สร้างความหวังให้คนเห็น แต่อำนาจในการบริหารประเทศไม่มีใครยกให้ง่าย ๆ เหมือนอย่างที่พูด ‘มีลุง ไม่มีเรา’

ก้าวไกลต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อจะได้โอกาสบริหารประเทศต่อไป หากยุ่งเกี่ยวกับ ม.112 ได้ไปเป็นฝ่ายค้านแน่ แต่การผลักให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน เป็นแค่การเลื่อนเวลา และกลับจะทำให้ก้าวไกลเข้มแข็งขึ้น หากก้าวไกลได้บริหารประเทศ จะได้เห็นข้อผิดพลาดมากกว่าจากมือใหม่ ที่ต้องไปเจอระบบราชการที่เขี้ยวลาก อย่าคิดว่าจะจัดการได้ทุกเรื่องในเวลาที่จำกัด และเงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย

ก้าวไกลจะถูกโดดเดี่ยว แม้ว่าได้คะแนนเสียงมาก แต่เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่ต้องต่อสู้กับระบบเก่า การเมืองคือการประนีประนอม หากไม่ประนีประนอม ก็หมายถึงสงคราม ก้าวไกลต้องเรียนรู้เพื่อก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ก้าวไปเป็นเงื่อนไขให้ถูกผลักกลับไปแบบเดิมอีก

ทุกวันนี้ประชาชนมองก้าวไกลเสมือนหนุ่มสาวที่มีไฟอุดมการณ์คุกรุ่น ในประเทศที่การเมืองอยู่ในมือของคนรุ่นเก่า เลือกมาผิดหรือถูก อนาคตตัดสินได้ เป็นบทพิสูจน์ว่าความหวังฝากไว้ที่คนรุ่นใหม่ได้หรือไม่ ไม่มีประเทศไหนฝากอนาคตไว้กับคนรุ่นเก่า มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

‘แมน การิน’ เอาใจสายมู แชร์ทริค!! ‘ดูแลรถยังไงให้รวย’  ชี้!! ‘ห้ามรก-ห้ามเหม็น-ห้ามปล่อยพัง-ห้ามวางตังค์ไปทั่ว’ 

(10 ก.ค. 66) นอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์ของตัวเลขแล้ว อย่างหนุ่ม ‘แมน การิน’ ก็มักจะมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากแฟนๆสายมูอยู่เสมอ อย่างล่าสุดได้ออกมาแชร์ทริคดีๆ ในการดูแลรถยนต์ให้ปังและรวย ในคลิปที่มีชื่อว่า “ใช้รถแบบนี้ ขับกี่ปี ก็ไม่รวย” พร้อมแคปชันว่า "ห้ามรก ห้ามเหม็น ห้ามปล่อยพัง ห้ามวางตังค์ไปทั่ว ห้ามกลัวฝนจนไม่ล้างรถ ถ้าห้ามได้ ขับยังไงก็รวย #ชอบเรื่องมูดูช่องแมน"

โดยในคลิป ‘แมน การิน’ กล่าวว่า ถ้าอยากจะขับรถแล้วรวย จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ 6 ข้อ ดังนี้

1. ห้ามรก เพราะรถที่รกจะเป็นอุปสรรคของการหาเงิน เช่น การวางรองเท้าไว้ที่พื้นรถ ไม่ควรทำ จะต้องเก็บใส่กล่องไว้ท้ายรถให้ดี
2. หลังรถก็ไม่ควรวางของรกเหมือนตู้เก็บของ จะต้องมีเพียงของที่จำเป็น และจัดให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย
3. กลิ่นของรถ สำคัญคือ ห้ามเหม็น รถทั้งคันควรจะหอมเป็นกลิ่นอโรม่า ซึ่งจะช่วยเรื่องฮวงจุ้ย ได้ ถ้าเหม็นจะทำร้ายความโชคดี
4. ห้ามปล่อยให้รถพัง ถ้ามีร่องรอยของอุบัติเหตุ ต้องดูแลรักษาและนำไปซ่อมทันที ถ้าเราผลัดผ่อน เงินก็จะไม่เข้ากระเป๋าเราสักทีเหมือนกัน รถก็เสมือนร่างกาย ดังนั้นต้องดูแลให้ดี
5. ความสะอาด ยิ่งรถขับไปหาเงินบ่อยๆ ยิ่งจะต้องล้างรถ ดูดฝุ่นบ่อยๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ
6. เศษเหรียญ ไม่ควรวางกระจัดกระจายในรถ ควรหาที่เก็บให้ดี หรือนำไปยอดกระปุก รวบรวมไปทำบุญ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top