Wednesday, 7 May 2025
NewsFeed

‘ใบเฟิร์น พัสกร’ ซัด!! อายุ 33 แล้ว มีวุฒิภาวะพอที่จะเลือกคบเพื่อน  ลั่น!! หากยังพาดพิงให้เสียหาย ขอรวมหลักฐานดำเนินคดีตาม กม.

(9 ก.ค. 66) เป็นอีก 1 ดาราสาวที่มีดรามาบ่อยไม่น้อย สำหรับสาวอารมณ์ดี ‘ใบเฟิร์น พัสกร’ ลูกสาวคนสวยของตลกดัง ‘จตุรงค์ มกจ๊ก’ ล่าสุดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังเธอโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมสตอรี่ ในทำนองว่าถูกพาดพิง จะรู้จักกับใครก็เป็นสิทธิของตนเอง ใครที่กล่าวหาเสียหาย จะรวบรวมหลักฐาน ดำเนินการทางกฎหมาย โดยโพสต์ระบุว่า…

"เรียน .. FC ที่น่ารัก และไม่น่ารัก ของศิลปินบางท่านนะครับ ตอนนี้เริ่มมีการกล่าวพาดพิงถึงผมบ้างแล้ว 

คือไม่ว่าผมจะไปเจอกับใคร จะรู้จักกับใคร มันก็เป็นสิทธิของผมนะครับผม ผมอายุ 33 แล้ว มีวุฒิภาวะพอที่จะเลือกคบเพื่อน ไม่ว่าคนใดก็ตาม หากยังมีการจับผิด หรือกล่าวถึงผมในทางที่จะนำพาความเสื่อมเสียมาหาผมไม่ว่าทางใดก็ตาม ผมจะขออนุญาตไว้ ณ ตรงนี้ ในการรวบรวมหลักฐาน และว่ากันในทางกฎหมายนะครับผม ไม่ว่าจะเป็นแอคปั่น ไม่ปั่น แตงโมปั่น มะพร้าวปั่น อะไรก็ตาม จึงเรียนมาเพื่อทราบ จะไม่ทราบก็ตามใจครับ! ขอบคุณคับ คัมซาฮัมนีดา ลงชื่อ พัดกอนจ้ะ"

สำหรับ ‘ใบเฟิร์น พัสกร’ ก่อนหน้านี้เพิ่งไปออกรายการ ดีทอล์ค EP.7 ซึ่งเจ้าตัวพูดในรายการบางช่วงบางตอนว่า ตอนนี้มีคนมาจีบเยอะมาก "ช่วยออกไปบ้าง กูเหนื่อย ถ้าใครรู้ตัวตอนนี้คุยน้อย นานๆตอบ แล้วมาตอบ ค่ะ จ้ะ อ่ะ มึxหายไปเลยจากชีวิต…ได้เลย มีคนเข้าวินก็มี แต่มันยากไปหมดเลย" ก่อนที่จะเผยอีกว่า "มีคนหนึ่งที่แบบ เจ้าของแก้วนี้ อุ๊ย ไม่เอาดีกว่า ไม่พูดดีกว่า มันแบบโอเคเลย" 

"มันเป็นแก้วที่ประทับใจ แก้วสตาร์บัคธรรมดา ไปเที่ยวด้วยกัน ลืมแก้วไว้ที่รีสอร์ต ขับรถกลับกลางทางแล้ว เอ้าลืมแก้ว อยากได้คืน ขับไปเจอสตาร์บัค เขาก็ไปซื้อกาแฟให้ มาพร้อมแก้วสตาร์บัค 2 ใบ มาให้ แค่รู้สึกมันเป็นความโรแมนติก ไม่ต้องมาเปย์อะไรมากมาย แต่ชอบโมเมนต์แบบนั้น เพิ่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวาน" 

‘เอ้ ชุติมา’ เตรียมฟ้อง ‘ฟร้อง ศุภกิจ’ กลับ ลั่น!! “ตอนทำไม่คิด ต้องเจอบทเรียน”

(9 ก.ค. 66) ยังคงเป็นประเด็น สำหรับกรณีที่ ‘ฟร้อง ศุภกิจ’ อดีตแฟนหนุ่มของ ‘เอ้ ชุติมา’ ออกมาร้องเรียนว่า เอ้เอารถไปซ่อน ไม่จ่ายค่างวดทั้งบ้านและรถ ทำให้ไฟแนนซ์จ่อฟ้อง ส่วนบ้านที่เป็นชื่อตนก็ปล่อยให้ธนาคารยึดไป ซึ่งทั้งสองอย่างซื้อในชื่อของฟร้อง กระทั่งทั้งคู่ไปออกรายการโหนกระแสเพื่อเคลียร์ปัญหา ก่อนจะจบที่ ‘ทนายรัชพล’ ซึ่งเป็นทนายของฝั่งทางฟร้อง โพสต์โชว์ใบถอนแจ้งความในคดีดังกล่าว เพื่อเป็นการยืนยันว่า ‘ฟร้อง’ ได้ถอนแจ้งความ ‘เอ้’ แล้ว ส่วนภาระหนี้สินอื่นๆ ฟร้องและครอบครัวยินยอมรับผิดชอบเอง พร้อมทั้งวอนขอไม่ให้เอ้ ฟ้องกลับ เพื่อจบทุกอย่างด้วยดี

ล่าสุด ‘เอ้ ชุติมา’ ได้ออกมาเปิดใจ ผ่านรายการ ‘แฉ’ โดยมีช่วงหนึ่ง ได้ตอบคำถามที่ทุกคนอยากรู้ ว่าเธอเตรียมจะฟ้องกลับอดีตแฟนหนุ่มหรือไม่ ซึ่ง ‘เอ้ ชุติมา’ ก็ได้พยักหน้าพร้อมตอบกลับว่า “ฟ้อง เพราะตอนเขาทำอะไรเขาไม่คิดไง เพื่อให้เป็นบทเรียน”

และยังบอกอีกว่า “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ว่าเอ้เองอาจจะเป็นคนที่รักใครแล้วเต็มร้อยเกินไป ต่อไปก็จะกลับมารักตัวเองเยอะๆ แล้วก็เป็นอุทาหรณ์ว่า จะไม่เก็บเงินไว้ที่ใครแล้วนะคะ จะเก็บไว้ที่ตัวเอง”

‘เศรษฐา’ เตือน ศก.ไทยอยู่บนปากเหว ‘ส่งออกติดลบ-หนี้ครัวเรือนพุ่ง’ พร้อมแนะ!! ภาคธุรกิจ ‘รักษากระแสเงินสด’ และบริหารองค์กรให้ดีที่สุด

(9 ก.ค. 66)เศรษฐา ทวีสิน อดีตประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย บรรยายเรื่อง “Thailand’s Tomorrow & What Needs to be Done!” ในงานสัมมนาของข่าวหุ้นธุรกิจ 

เศรษฐาได้ให้ความเห็นว่า ตอนนี้เศรษฐกิจประเทศไทยอยู่ปากเหว เนื่องจากตัวเลขส่งออกติดลบ อีกทั้งสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งทะลุกว่า 90% ของ GDP ทะยานแตะ 16 ล้านล้านบาท การลงทุนจากต่างประเทศก็ชะงัก เพราะไม่แน่ใจในทิศทางของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นต่างๆ 

ขณะเดียวกัน อีกสามเดือนจะเข้าช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ปัญหาต่างๆก็ยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีน, โลจิสติกส์ภายในประเทศ, สายการบิน และเรื่องของการบริหารจัดการสนามบินภายในประเทศที่ยังคงเป็นปัญหา ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่จะต้องดูแลอย่างเร่งด่วน

และจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ทำให้ตลาดทุนไม่เชื่อมั่นมองว่า ตลาดทุนเป็นตัวชี้นำอย่างหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกได้ถึง Sentiment ของนักลงทุน หากมีปัญหาในการโหวตนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า งบประมาณปี 2567 ไม่ได้ 

ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น การแข่งขันจบลง และภาคประชาชนได้ทำการเลือกแล้ว เขามองจึงอยากให้การโหวตนายกฯ เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองไม่แตกแถว และยินดีสนับสนุนคุณพิธา เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย

ส่วนของความคาดหวังภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังจากการจัดรัฐบาลสำเร็จ เศรษฐา ประเมินว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเรื่องดีๆอีกเยอะ เพียงแต่ว่าต้องการผู้นำที่เป็น ‘ผู้นำ’ จริงๆ ต้องการรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย และคำนึงถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้นเชื่อว่าหากจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว เศรษฐกิจไทยจะขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี และตลาดหุ้นก็จะไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน

เมื่อมีคำถามว่า วิกฤตการเงินตอนนี้กับวิกฤตเศรษฐกิจอะไรหนักหนากว่ากัน เศรษฐามองว่า วิกฤตเศรษฐกิจนั้นมีอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องกำลังซื้อ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ไม่เหมือนกับเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือสมัยก่อนต้มยำกุ้งก็คงต่อสู้กันไปได้ แต่วิกฤตการเมืองของประเทศไทยตอนนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ 

จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่าประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะ แต่เรื่องของจัดตั้งประธานสภาฯ ที่แม้จะมีปัญหา หรือเรื่องตัวนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่เป็นที่ตกลงกันได้ แม้การเลือกตั้งจะจบลงไปแล้วกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ช้าเรื่องของการทำเรื่องงบประมาณปี 2567 ก็จะล่าช้าไปด้วย แต่หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคม งบประมาณปี 2567 จะถูกใช้ได้อย่างเร็วสุดคือ 15 มีนาคม 2567 

และทราบว่างบประมาณแผ่นดินของไทย หรืองบประมาณรายจ่ายประจำปีของประเทศไทย ในแต่ละปีงบประมาณ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีจึงนับเป็นปัญหาใหญ่ 

ดังนั้นในฐานะของคนทำธุรกิจท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้ควรจะต้องมีส่วนช่วยในการสนับสนุนให้มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ หากไม่ได้ ณ วันนั้นก็จะต้องทำให้เกิดขึ้นได้เร็วที่สุด 

ในส่วนของเรื่องเศรษฐกิจแม้จะมีปัญหาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหนี้ครัวเรือนที่สูงมากถึง 90% ปัญหาเรื่องการส่งออกที่ตกต่ำมาโดยตลอด และหลายๆ เรื่องน่าเป็นห่วง ก็อยากให้มองว่าแม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤต แต่ก็ยังคงมีโอกาส ซึ่งประเทศไทยมีดีในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว ความมั่นคงทางด้านอาหาร ก็เป็นเรื่องที่เราควรให้ความสนใจ และจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ในปัจจุบันมีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น แต่เรื่องของวีซ่ายังคงเป็นปัญหา ซึ่งหลายๆ เรื่องต้องได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นเมื่อไปถึงช่วงไฮซีซั่นตอนเดือนตุลาคมก็จะเกิดปัญหาได้ 

ฉะนั้นหากทำทุกอย่างได้เร็วตามที่วางไว้ จากวิกฤตทั้งหมดก็อาจจะบริหารจัดการยากขึ้น และท้าทายมากขึ้น ฉะนั้น ‘ล็อกทางการเมือง’ ก็นับว่าทำให้เกิดการ ‘ติดล็อกทางเศรษฐกิจ’ ด้วยอย่างมีนัยสำคัญ 

ขณะเดียวกันทางด้านนักลงทุนอยากให้ความชัดเจนของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีให้ถูกต้อง หากดูตัวเลขเสถียรภาพทางเศรษฐกิจก็ไม่มีจุดใดที่ไม่มีเสถียรภาพ

ทั้งนี้หากเป็นนักลงทุนควรจะต้องรักษากระแสเงินสดให้ดี เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากกำลังซื้อเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องจับตามองและที่สำคัญตอนนี้ทุกคนคอยรัฐบาลใหม่ อย่างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะต้องพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศก็ยังคอยความชัดเจน และหนี้ครัวเรือนก็เป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับคีย์สำคัญที่จะทำให้เราได้รู้ว่าต่อไปเราจะตัดสินใจอย่างไรนั้นคือ ต้องดูเรื่องของการเมือง รักษากระแสเงินสด บริหารจัดการองค์กรของตนเองให้ดี เข้าใจลูกค้าตนเอง และพยายามเปิดตลาดใหม่ๆ เพราะปัจจุบันเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล การเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ จึงจะเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นอะไรที่นักธุรกิจหลายคนค่อนข้างทราบพอสมควร

ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความที่คุณเศรษฐาได้มีการบริหารกิจการตัวเองก็มีการปรับตัวมาโดยตลอด ดังนั้นขอบเขตการรอถึงแค่จุดจุดหนึ่งเท่านั้น ทั้งสายป่านก็ดี เงินใช้จ่ายก็ดี เงินหมุนของภาคธุรกิจก็ดี สิ่งเหล่านี้ที่สุดความสามารถในการปรับตัวถึงได้แค่จุดจุดหนึ่งหรือไม่นั้น หากย้อนไปก่อนสมัยต้มยำกุ้งบริษัทเอกชนทั้งหลายที่ประสบปัญหามามีการเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบลงทุนค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทั้งหลายได้ถูกยกระดับขึ้นมาสูงมาก จึงนับว่าภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ฉะนั้นจะเห็นอะไรหลายๆอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราทุกคนเสมือนอยู่ในสงครามแต่กระนั้นท่ามกลางวิกฤต ย่อมมีโอกาส แต่ว่าโอกาสที่จากนี้ไปที่คนไทยทั้งประเทศควรจะได้ และในสายตาเวทีโลกจะกลับมาชื่นชมประเทศไทยได้ดีขึ้นกว่าเดิมเหมือนกับหลายทศวรรษที่ผ่านมา 

เศรษฐา กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน หลายๆ เรื่องที่เราคาดไม่ถึงอย่างเช่น โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลที่เรามีอยู่ เวลานักลงทุนเข้ามาลงทุนจะมีการย้ายถิ่นพำนักเข้ามาจากประชากรจะต้องมองตรงจุดนี้ด้วย อีกทั้งเรื่องของ Internet โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหลายเป็นต่อประเทศ ดังนั้นการบริหารจัดการกระแสเงินสดจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งหนี้เสียก็สูงขึ้นจากตัวเลขที่สูงขึ้นอย่างมีนัย ดังนั้นจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะงบดุลของบริษัทเอกชนทั้งหลายแข็งแกร่งมาก 

รวมทั้งเขามองว่า 2-3 เดือนล็อกการเมืองต้องคลาย ดังนั้นหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ดี ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีตลาดทุนก็จะกลับมาคึกคัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจากการที่ได้ลงพื้นที่ไปพบว่าภัยแล้งก็ถือเป็นปัญหาสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากลงไปถึงระดับฐานราก โดยพบว่าประเทศไทยพึ่งพาภาคเกษตรกรรมเยอะมาก แม้จะเป็นเพียงแค่ 10% ของ GDP ก็ตาม แต่กลับมีคนที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมสูงถึง 40 ล้านคน 

และหากจะถามว่ามีแสงสว่างอะไรไหมภายใต้ความมืดมนนี้ ก็จะมี 11 ขุนพล ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของแต่ละสาขา แต่ประเทศไทยมีข้อดีจำนวนมาก และมีโอกาส ดังนั้นเราต้องการรัฐบาลที่แข็งแกร่ง และการจัดตั้งรัฐบาลที่เร็วที่สุด เพราะหลายๆ เรื่องไม่สามารถผลักดันได้หากไม่มีรัฐบาล อย่างเช่นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะไม่มาแน่นอนหากไม่มีรัฐบาลใหม่ จึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในขณะนี้ 

ดังนั้นภายใต้วิกฤตที่มี ‘โอกาส’ ก็มี นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องกลับมาดูตัวเอง ในบ้านตัวเองทั้งบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทขนาดใหญ่ ต้องกลับมาดูกระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญ รวมทั้งการบริหารจัดการภายในองค์กร การหาตลาดใหม่ๆ ก็สำคัญ เพราะด้วยการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกส่งผลให้ดีมานด์ต่างๆ หดหายไป ดังนั้นถ้าเราสามารถไปเปิดตลาดใหม่ๆ ได้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี และธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทยอย่างธุรกิจความมั่นคงทางด้านอาหาร หรืออาหารแห่งอนาคตเป็นเรื่องที่เราสามารถ Build on จากภาคเกษตรกรรมของเราได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือบริหารจัดการเรื่องน้ำให้ดีเป็นอันดับแรก

รองโฆษก ตร. เตือน “หลอกลงทุนระบาดหนัก” ยอดความเสียหายรวมสูงกว่าหมื่นล้านบาท ย้ำต้องมีสติ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” 

วันนี้ (9 ก.ค.66) เวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสถิติคดีอาชญากรรมออนไลน์ประเภท “หลอกให้ลงทุน” และอุบายในการหลอกลวง พร้อมเน้นย้ำ เจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ เปิดเผยสถิติคดีออนไลน์ที่ประชาชนแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com โดยคดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 1 มี.ค.65 - 30 มิ.ย.66 มีการแจ้งความจำนวนสูงถึง 23,616 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 11,550 ล้านบาท สำหรับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มียอดการแจ้งความสูงถึง 876 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 600 ล้านบาท

รองโฆษกฯ ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันโจรออนไลน์ใช้อุบายที่หลากหลายในการหลอกลวง เช่น เทรดเหรียญดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์, ลงทุนเกี่ยวกับเหรียญคริปโต, ลงทุนกับบริษัทปล่อยเงินกู้ผลตอบแทนสูง, ร่วมลงทุนประมูลสินค้าเพื่อรับผลตอบแทน, ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ, และลงทุนหุ้นในเครือบริษัทชื่อดัง นอกจากนี้ โจรออนไลน์มักปลอมโปรไฟล์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเรื่องการเงินการลงทุนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการหลอกลวง และเข้าหาผู้เสียหายผ่านการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มสังคมออนไลน์ของผู้ที่สนใจด้านการลงทุน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ ยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ผลของกฎหมายมีผลให้เจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยประชาชน จึงได้จัดทำแบบทดสอบ Cyber Vaccine เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนต้องมีสติ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ ทั้งนี้สามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ www.เตือนภัยออนไลน์.com และ เพจเฟซบุ๊ก “เตือนภัยออนไลน์” ปรึกษา-ขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-866-3000 โดยผู้เสียหายสามารถติดต่อธนาคารของตนเองเพื่อทำการระงับบัญชี โดยธนาคารจะออก Bank ID ผ่าน sms และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจที่ใดก็ได้โดยเร็ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงท้องที่เกิดเหตุภายใน 72 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

ทหารใหม่โอนเงินเดือนแรกให้แม่ 1 หมื่นบาท บอก!! รับราชการทหาร ก็สร้างความสุขได้

(9 ก.ค. 66) กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึง หลังจากชาวเน็ตพร้อมใจคอมเมนต์ พร้อมใจแชร์กระหน่ำ โพสต์จากเฟซบุ๊ก กองพันทหารช่างที่ 202 กรมทหารช่างที่ 2 หลังโพสต์ภาพพลทหารใหม่หลายนาย โอนเงินให้ครอบครัว พร้อมระบุข้อความว่า...

"เงินเดือน…เดือนแรกผมให้แม่นะครับ"

📌หน่วยฝึกทหารใหม่ ช.2 พัน.202 ให้น้องๆ ทหารใหม่สามารถโอนเงินเดือนที่ได้รับเป็นครั้งแรกของเดือน มิ.ย. และตกเบิก พ.ค. โอนให้กับครอบครัว 'ตามความสมัครใจ' เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ ช.2 พัน.202 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์

#เชื่อผมเถอะครับถือว่าเป็นเงินเดือนครั้งแรก...ในการเข้ามารับราชการทหารเป็นทหารกองประจำการ สามารถสร้างความสุข…กับทั้งผู้ให้และผู้รับจริงๆ

ซึ่งจากภาพต้นโพสต์เป็นภาพที่พลทหารใหม่หลายนายกำลังนั่งโอนเงินกลับไปให้ทางครอบครัวหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น

ส่วนชาวเน็ตและผู้ที่เคยมีประสบการณ์ต่างเข้ามาคอมเมนต์ เช่น ถ้าไม่หักก็เป็นเรื่องน่ายินดี, เซ็นต์ PX ไว้เท่าไหร่? และมีหลายคนเข้ามาเมนต์บอกว่า ตนเป็นแม่ของทหารใหม่ได้รับเงินเดือนจากลูกแล้ว ดีใจมาก

ปังไม่ไหว!! ‘ทีมลูกยางญี่ปุ่น’ โชว์ลุคใส่ ‘กางเกงช้าง’ ของไทย หลังสู้ศึกเนชันส์ลีก 2023 ได้ใจแฟนกีฬาไทยเต็มๆ

(9 ก.ค. 66) วอลเลย์บอลชายทีมชาติญี่ปุ่น ไม่ตกเทรน ‘ใส่กางเกงช้าง’ โชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทย ช่วงลุยศึกเนชันส์ลีก 2023 สัปดาห์ที่ 3

นอกจากวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่นจะเป็นทีมที่มีแฟนกีฬาชาวไทยเชียร์และให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขณะที่วอลเลย์บอลชายทีมชาติญี่ปุ่น ก็ได้รับความสนใจไม่ต่างกัน 

ล่าสุด เคนทาโร ทากาฮาชิ บอลเร็ววัย 28 ปี ของทีมญี่ปุ่น (เบอร์ 10) โพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพที่เจ้าตัวและเพื่อนนักตบลูกยางทีมญี่ปุ่น ‘ใส่กางเกงช้าง’ ที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมในประเทศไทย พร้อมกับข้อความระบุว่า ขอบคุณมากสำหรับการสนับสนุนและทุกคนที่สนับสนุนเราจากญี่ปุ่น #ของขวัญที่ดี

หลังจากนั้นก็มีแฟนกีฬาชาวไทย เข้าไปแสดงความคิดเห็นและอยากให้วอลเลย์บอลชายทีมชาติญี่ปุ่น มีโอกาสเดินทางมาแข่งที่ประเทศไทยบ้าง 

สำหรับทีมวอลเลย์บอลชายทีมชาติญี่ปุ่น กำลังทำการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2023 รอบแรก สัปดาห์ที่ 3 ประเทศฟิลิปปินส์ โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงอยู่อันดับ 1 ของตาราง แข่ง 11 นัด ชนะ 10 แพ้ 1 นัด มี 27 คะแนน

โคจรเจอกันครั้งแรก!! ‘เบิร์ด ธงไชย’ และ ‘อิ้งค์ วรันธร’ ผ่านบทเพลงพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ปตท.

(9 ก.ค. 66) เพลง ‘เธอคือพลังของฉัน’ เนื้อหาของเพลงเป็นการส่งพลังความรู้สึกดีๆ ให้ซึ่งกันและกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของ ปตท. Ignite Life Potential จุดพลังชีวิต เพื่อใช้สื่อสาร ที่พร้อมเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้กับคนไทย รวมทั้งอยู่เคียงข้างเพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด 45 ปี เพลงนี้ได้นักร้องดังขวัญใจคนไทยตลอดกาล ‘เบิร์ด ธงไชย’ ร่วมด้วยศิลปินสาว ‘อิ้งค์ วรันธร’ มาร่วมถ่ายทอดความรู้สึกดีดีผ่านเสียงร้องอันลงตัวของทั้งสองศิลปิน ที่ฟังแล้วรู้สึกได้รับพลังจากเพลงนี้

ในส่วนของมิวสิควีดีโอ นำเสนอผ่านสตอรี่ที่อบอุ่น และกินใจ ผ่านนักแสดงคู่หนึ่งที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างและผ่านพ้นไปได้ด้วยความรัก และพลังใจดีๆที่มีให้กันและกัน โดยเรื่องราวในมิวสิควิดีโอเรื่องนี้ถ่ายทอดมาจากแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ของปตท. ในส่วนที่ส่งเสริมการพัฒนาไปถึงชุมชน การให้กำลังใจ การช่วยเหลือ และเป็นการจุดพลังให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี

เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เปิดเผยว่า "ขอขอบคุณ เบิร์ดเป็นคนที่โชคดี ที่ได้ทำงานกับคนที่รักเบิร์ด และน้องอิ้งค์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ครั้งนี้เราได้มาร่วมงานด้วยกันแล้ว มาร่วมสุขกันทั้งคู่แล้ว คนที่จะได้รับและมีความสุขคือแฟนเพลงของเบิร์ดและอิ้งค์ทุกคนครับ เบิร์ดว่าในเวลาที่เราเหนื่อย เราต้องมีลูกฮึดเพื่อให้เราลุกขึ้นสู้ เบิร์ดเคยคิดว่าจะทำยังไงดี เบิร์ดใช้เพลงของตัวเองเยียวยาและจุดพลังในใจของเราให้ลุกฮือขึ้นมา สำหรับเพลงเธอคือพลังของฉัน เป็นเพลงใหม่ที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อให้กำลังใจกับทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่ายอมแพ้ อย่าหมดหวัง เบิร์ดอยากให้เพลงนี้ช่วยเติมรอยยิ้ม เติมกำลังใจและเติมพลังให้ทุกๆคนก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ให้เพลงนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นพลังให้กับคนไทยเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ครับ"

อิ้งค์ วรันธร เปานิล เปิดเผยว่า "วันนี้ได้ร่วมงานกับพี่เบิร์ดครั้งแรก รู้สึกได้รับพลังงานเยอะสุดๆ พี่เบิร์ดเป็นคนเอนเนอร์จี้เยอะมากๆ พลังงานไม่ดรอปเลย คอยส่งมาให้เราตลอด แอบถามพี่เบิร์ดด้วยว่า ตอนทำงานเคยท้อบ้างไหม หรือเคยเหนื่อยไหม พี่เบิร์ดบอกไม่เคย พี่สนุกตลอด เรารู้สึกว่าดีมากเลย เราเป็นศิลปินรุ่นน้องที่ได้รับพลังจากพี่เบิร์ดมา รู้สึกว่ามีแรงเลยค่ะ อิ้งค์ขอขอบคุณที่ให้โอกาสได้ร่วมทำงานในครั้งนี้ค่ะขอฝากเพลงเธอคือพลังของฉัน ให้เป็นกำลังใจและพลังสำคัญให้กับคนไทยได้เดินไปข้างหน้าร่วมกันค่ะ"

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในรายการอิสรภาพแห่งความคิด กับ สำราญ รอดเพชร เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66

"ผมคิดว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ในความเห็นผมมันอยู่ไม่ได้หรอก แล้วมันจะมีแต่เสียนะครับ แล้วก็จะไปสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น"
 

‘แคนดี้ รากแก่น’ ประกาศช่วย ‘เจ๊กบ’ ขายน้ำปลาร้าเต็มที่!! ชี้!! จะรอดต้องขายให้ได้ 1 ล้านขวด พร้อมบอก “เคยผ่านจุดนี้มาก่อน”

(9 ก.ค. 66) จากประเด็นร้อนแรงของ ‘เจ๊กบ’ เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า ร้องสื่อบอกถูกแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ‘พิมรี่พาย’ สั่งผลิตน้ำปลาร้า ตนกู้เงินมาสร้างโรงงานเพื่อรองรับการผลิตน้ำปลาร้า แต่สุดท้ายพิมรี่พายไม่รับของจนเสียหายนับ 10 ล้านบาท ขณะที่พิมรี่พายโต้ ยกเลิกเพราะคู่กรณีผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐานเอง ซึ่งประเด็นนี้ยังคงต้องรอติดตามกันต่อไป

ล่าสุดนักร้องสาว ‘แคนดี้ รากแก่น’ โพสต์เฟซบุ๊กประกาศจุดยืนชัดเจน ช่วยเจ๊กบ โดยโพสต์บอกว่า "คนไม่เคยเจอกัน แต่ต้องมาช่วยเหลือกันยามลำบาก เรื่องราวที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร แม่ดี้ขอไม่โฟกัสนะคะ เพราะก็ไม่สามารถรู้ข้อเท็จจริงอะไรได้ แต่ที่รับรู้ได้คือป้ากบเป็นคนซื่อๆ และแกมีดีที่ปลาร้า ทำปลาร้ามา 30 ปี กับอีกเกือบ 10 แบรนด์ และตอนนี้แกเป็นหนี้ หมดตัว และแม่ดี้ก็เคยอยู่จุดนั้น และผ่านมาแล้ว และเป็นเพราะน้องชาย เฮียโอ๊ตภาดา คนจับนาค เป็นคนพามาเจอ จึงพร้อมจะช่วยเหลือกัน คนบ้านเดียวกัน ซอยกันเด้อเอื้อย ถ้าป้ากบจะรอด ต้องขายให้ได้ 1 ล้านขวด มาช่วยกัน ของดียังไงก็ขายได้ ลุยยย #ปลาร้า #ปลาร้าแม่ประกาศ #ป้ากบ"

‘สังศิต’ ประกาศจุดยืนการโหวต ‘นายกฯ’ วันที่ 13 ก.ค. นี้ ชี้!! ขอยกคำกล่าว ‘สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์’ มาเป็นแนวทาง

(9 ก.ค. 66) สังศิต พิริยะรังสรรค์ วุฒิสมาชิกและประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'สังศิต พิริยะรังสรรค์' เกี่ยวกับเรื่องการโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ระบุว่า…

สังศิต ประกาศท่าทีเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคม ศก. นี้

จุดยืนของผมในการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ณ สัปปายะสถาน อันแปลว่า “สถานที่ประกอบกรรมดี”

ผมจะน้อมนำคำกล่าวของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มาเป็นหลักในการลงคะแนนเสียง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ กล่าวไว้ว่า…

“จะใช้ท่าทีวางเฉยต่อคน เพื่อรักษาธรรม
ไม่เห็นแก่คน - แต่เห็นแก่ธรรม
วางตัวเป็นกลางต่อคน
ไม่ขวนขวายช่วยคน เชียร์คน
เพื่อที่จะได้ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงธรรม
หรือเพื่อให้เป็นไปตามธรรม”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจาร์ย (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

สวัสดีครับ… จากผมเอง
สังศิต พิริยะรังสรรค์
วุฒิสมาชิกและประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา
9 กรกฎาคม 2566


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top