Wednesday, 7 May 2025
NewsFeed

ก.แรงงาน ยกทัพความอร่อยปักหมุดเมืองอุบลฯ เปิดงานสตรีทฟู้ดไทย สร้างผู้ประกอบการ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชน

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 17.00 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางโสภา เกียรตินิรชา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงาน “IT Tastes Good อร่อยปักหมุด สตรีทฟู้ดไทย จังหวัดอุบลราชธานี” ภายใต้โครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด (Street Food) กระทรวงแรงงาน โดยมี นางทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้ประกอบการร้านค้าสตรีทฟู้ด และประชาชนที่มาร่วมงาน ร่วมให้การต้อนรับ นายบวร ดรุณสนธยา แรงงานจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ณ ลานร้อยพันธุ์บัว หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 

นางโสภา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน ได้จัดทำโครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด (Street Food) กระทรวงแรงงาน โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การเปิดตัวโครงการ การจัดฝึกอบรมผู้สนใจประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดรายใหม่ และผู้ประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดรายเดิม จำนวนกว่า 30,000 ราย รวมทั้ง การจัดกิจกรรมแสดงร้านค้าสตรีทฟู้ดในวันนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพสตรีทฟู้ด สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เป็นการประชาสัมพันธ์อาหารในท้องถิ่นและร้านอาหารต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการยกระดับผู้ประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดของจังหวัด ให้มีโอกาสนำเสนอรูปแบบการขายใหม่ เช่น รูปแบบฟู้ดทรัค (Food Truck) ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเริ่มต้นธุรกิจสตรีทฟู้ดในรูปแบบต่าง ๆ 

นางโสภา กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณจังหวัดอุบลราชธานีที่ให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาส่งเสริมอาชีพผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ด (Street Food) โดยคัดเลือกร้านค้าสตรีทฟู้ดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกว่า 60 ร้านมาร่วมกิจกรรมแสดงร้านค้าสตรีทฟู้ดในครั้งนี้ และขอเชิญชวนผู้ที่ประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดอยู่เดิม ประชาชนผู้สนใจที่จะประกอบอาชีพสตรีทฟู้ด ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง มาเที่ยวชมงาน “It Tastes Good อร่อยปักหมุด สตรีทฟู้ดไทย จังหวัดอุบลราชธานี” ณ ลานร้อยพันธุ์บัว หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 7 - 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่งกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การออกบูธจําหน่ายอาหารจากผู้ประกอบการร้านสตรีทฟู้ดจํานวนกว่า 60 ร้านค้า กิจกรรม Workshop พัฒนาอาชีพ กิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพร้านค้าอาหาร และกิจกรรมความสนุกความบันเทิง อาทิ พบกับการแสดงของนักร้องศิลปิน เฉลิมพล มาลาคำ ซึ่งนอกจากจะได้รับทั้งความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพสตรีทฟู้ดแล้วยังได้เลือกชิมเลือกซื้ออาหารสตรีทฟู้ดที่มีคุณภาพของจังหวัดอุบลราชธานีจากงานนี้ด้วย

73 ปี มทบ.44 จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 44

วันที่ 7 ก.ค. 66 เวลา 07.00 น.  พล.ต.เสนีย์ ศรีหิรัญ ผบ.มทบ.44  ร่วมกับแม่บ้าน ทบ.สาขา มทบ.44, ร.25 พัน.1 , ป.5 พัน.25 และ กำลังพลค่ายเขตอุดมศักดิ์ ได้จัดงานวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 44 ครบรอบปีที่ 73  ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม  สักการะอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ พระอนุสาวรีย์ฯ กิจกรรมการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการ ณ.บก.มทบ.44 พิธีมอบประกาศเกียรติคุณให้กำลังพลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และมอบรางวัลการประกวดสื่อสร้างสรรค์

เวลา 10.00 น  พล.ต.เสนีย์ ศรีหิรัญ ผบ.มทบ.44 เป็นประธาน วันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 44 ครบรอบปีที่ 73 ณ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยหน่วยได้จัดให้มีการประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่หน่วยกำลังพลและครอบครัว และเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับกำลังพลผู้เสียชีวิต

'เด็กไทยรักสถาบันฯ' แสดงจุดยืนต่อ 'เพลงสรรเสริญฯ' ลั่น!! "ทัวร์ลง ก็แค่เสียงลม คิดดีทำดี จะกลัวทำไม"

ไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘cancan0823’ ได้โพสต์คลิปแชร์เรื่องราวของ ‘น้องออมสิน วิชญาพร’ เด็กรุ่นใหม่ที่ได้ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับประเด็น ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯ หรือเคารพธงชาติ แล้วโดนกล่าวหาว่าเป็นสลิ่ม ซึ่ง ‘น้องออมสิน’ ได้เปิดเผยความรู้สึกเหล่านี้ว่า…

“เราทำดีอยู่แล้ว เราจะไปกลัวทัวร์ลงทำไม? หนูไปดูหนังในโรง แล้วเขาก็หาว่าหนูเป็นสลิ่ม ตอนนั้นหนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หนูก็ได้ถามกับตัวเอง ที่หนูยืนคือหนูโง่เหรอ? หนูก็แค่แสดงจุดยืนของหนู”

น้องออมสินได้เล่าต่อว่า “มีอยู่วันนึงหนูได้ไปอ่านโพสต์ของพี่เอเกี่ยวกับเรื่อง ‘เพลงสรรเสริญฯ’ และได้ไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ว่า “หนูก็ยืน คือมีเพลงสรรเสริญเมื่อไหร่ จะยืนแล้วหยุด” ไม่ใช่แค่เพลงสรรเสริญฯ แต่รวมถึงเพลงชาติ หรือเพลงสวดมนต์ของโรงเรียนอะไรอย่างนี้ก็ต้องยืนแล้วหยุด เป็นการแสดงความเคารพให้กับเพลง หนูยืนตลอด เคยมีเหตุการณ์ที่เข้าไปยืนกับเพื่อน 2 คน แล้วโดนหาว่าเป็นสลิ่ม ก็ไม่ได้ทำยังไงต่อ เพราะพวกหนูยืนของหนูกันอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีคนอื่นเขาหันหน้ามาคุยกันบ้าง อะไรบ้าง แต่หนูก็ไม่ได้สนใจ เราทำหน้าที่ของเรา เราเป็นนักเรียน เราก็ทำหน้าที่ของเราไป เพราะเด็กนักเรียนควรเคารพในเพลงสรรเสริญฯ เพลงชาติ หนูขอถามหน่อยว่า ทำไมโรงเรียนถึงต้องให้เด็กนักเรียนเคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้า นั่นเป็นเพราะว่า ‘เราเป็นคนไทย’ มันเป็น ‘เพลงชาติไทย’ ของเรา”

นอกจากนี้ น้องออมสินยังได้เล่าถึงที่บ้านของตน ว่าภายในบ้านจะมีภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในหลวงรัชกาลที่ 5 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ติดไว้ในบ้านด้วย อีกทั้งคุณแม่ของตนจะชอบเปิดข่าว ซึ่งตัวของน้องออมสินนั่นเป็นคนชอบฟังข่าวในพระราชสำนักอยู่แล้วด้วย เนื่องจากจะมีภาพฉายให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกปรุงแต่งขึ้นมา และตนเชื่อตามสิ่งที่ตนเห็น 

น้องออมสินยังกล่าวถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมตนนั้นไม่เชื่อสื่อที่ให้ร้ายต่อสถาบันฯ ด้วยว่า “เราต้องถามค่ะ อย่างเวลาเห็นอะไรมาหนูจะถามคุณแม่ ว่ามันเป็นแบบนี้จริงเหรอ? ส่วนเพื่อน ๆ นั้นก็จะมีส่งมาให้ดูบ้างเช่นกัน แต่หนูก็จะถามคุณแม่ ซึ่งคุณแม่จะบอกว่า มันก็จะมีพวกแอนตี้อะไรแบบนี้ มันเป็นเฟคนิวส์ ซึ่งหนูก็ไม่ได้โง่ ที่จะยอมให้ใครมาจูงจมูกได้ หนูจะคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ เขามีเจตนาอะไร คือจะรู้อยู่แล้วว่าเขาให้ร้าย หนูเลยเลือกที่จะไม่เชื่อ”

ต่อมา น้องออมสินได้เล่าถึงประเด็น ‘ทัวร์ลง เพราะปกป้องสถาบันฯ’ ว่ามีคนมาคอมเมนต์ด่าหยาบคายและแรงใส่ตน แต่น้องออมสินก็ยังยืนหยัดที่จะขอแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบฯ ต่อไป

“ถ้าหนูจะโดนหาว่าเป็นสลิ่ม ทั้งที่หนูจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ หนูก็ยอมที่จะเป็นสลิ่ม หนูรู้ว่าเรามีความคิดเห็นที่ต่างจากคนอื่น จึงโดนว่าหรือโดนทัวร์ลง แต่หนูก็ไม่กลัว เพราะมันเป็นการแสดงความคิดเห็นของหนู ทำไมหนูถึงต้องกลัว? นั่นเป็นสิ่งที่หนูคิด คนคนหนึ่งคิดเหมือนกัน คนอื่นเขาก็อาจจะมีความคิดเห็นที่ต่างจากเรา หรือคิดเหมือนเรา ซึ่งพวกเขาสามารถคิดได้ ไม่มีใครสามารถมาว่าเราว่าคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เวลาเขาแสดงความคิดเห็นของเขา หนูก็รับฟังเหมือนกัน เพราะมันคือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เขาแสดงความคิดเห็นและจุดยืนของเขา หนูก็แสดงจุดยืนให้เขาเห็นเหมือนกัน หนูรับฟังความคิดเห็นของเขาอยู่แล้ว ไม่ได้ไปเถียง ไม่ได้ไปโต้แย้งว่าความคิดเห็นของคุณไม่ถูก และเวลาหนูฟัง หนูก็จะวิเคราะห์ตามเสมอว่าสิ่งนั้นถูกหรือไม่ เราต้องคอยเสพข่าวหลายๆ ทาง หาข้อมูลจากที่อื่น ว่าเขาเขียนเหมือนกับที่เราไปเจอไหม แล้วจึงนำข้อมูลเหล่านี้ มาคิดวิเคราะห์แยกแยะอีกทีหนึ่ง ว่ามันถูกต้องหรือไม่” น้องออมสิน กล่าว

นอกจากนี้ น้องออมสินยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่คนกลุ่มหนึ่งบอกว่า ‘บุญคุณพ่อแม่ ไม่ต้องทดแทน’ ว่า ตนนั้นไม่เห็นด้วย เพราะพ่อแม่ท่านเลี้ยงลูกมา ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง ให้ความรัก หรืออะไรก็ตาม ท่านเลี้ยงลูกจนเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้ แล้วเหตุใดลูกถึงจะไม่กตัญญูต่อท่าน? ตนไม่เข้าใจคนที่คิดแบบนี้ หากสมมติว่าพ่อแม่ไม่อยากมีลูก ทำไมท่านไม่เอาเราออกตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าจะมีลูก ทำไมถึงเลือกที่จะเก็บเอาไว้ จนเป็นภาระตัวเอง

“พ่อแม่เขาสร้างเรามาเพื่อให้เราเป็นคนดีของสังคม ถ้าเราไม่กตัญญูต่อท่าน แล้วอ้างว่าเพราะเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกๆ อยู่แล้ว หนูคิดว่ามันไม่ถูกต้อง และการตอบแทนบุญคุณนั้นไม่ได้มีเพียงแค่พ่อแม่เท่านั้น เราสามารถตอบแทนบุญคุณกับคุณครู ญาติ พี่น้อง หรือคนที่คอยให้ความช่วยเหลือในยามที่เราลำบากได้อีกด้วย ใครจะมองว่าหนูหัวโบราณ ก็ช่างเขาไป”

ทั้งนี้ น้องออมสิน ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ที่หนูกตัญญูต่อสถาบันฯ เพราะว่า ในหลวงท่านทรงทำงานหนัก ทรงเหนื่อย ท่านทำเพื่อประชาชนมามากมาย หนูคิดว่าคนที่ยังจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ก็ยังมีอยู่ในคนรุ่นใหม่ ขอให้กล้าที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง ไม่ต้องไปกลัวว่าทัวร์จะลง หรือว่าจะโดนอะไร ไม่ต้องไปสนใจคนที่เขามาว่า ส่วนคนที่มาว่า เราก็คิดเสียว่าเป็นเสียงลม เสียงนก เสียงไม้ ไม่ต้องไปสนใจ มันเป็นความคิดเห็นของเรา เราทำดี คิดดีตลอด เราจะไปกลัวทำไม”

'วปอ.-พระปกเกล้า' ถกร่วม ใช้ศุภชลาศัย จัดใหญ่ฟุตบอลประเพณี 'รักเมืองไทย'

วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมย่อย 5 สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศิษย์เก่า-ปัจจุบันสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง 4 หลักสูตร (ปปร. -สสสส. -ปรม.-ปศส.) นำโดย ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานรุ่น ปปร.26 ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง ปปร.26 พร้อมด้วยผู้แทน สสสส. คุณมณฑาทิพย์ คงจรูญ ดร.สิปปภาส  สีลเตโชธาม นายสมชาย จรรยา และนายนพดล ลิปิเวชกุลกิจ พร้อมด้วยพลโท นักรบ บุญบัวทอง ผู้แทนจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เข้าพบ นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า เพื่อประชุมหารือเตรียมความพร้อมการจัดงานฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ที่จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566 ณ สนามศุภชลาศัย 

โดยที่ประชุมของทั้งสองสถาบัน ได้หารือ ถึงวัตถุประสงค์ และรูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดทำถ้วยรางวัล การเชิญประธานเปิดงาน การเชิญแขกวีไอพี การจัดทำเสื้อนักกีฬา การจัดทำเสื้อเชียร์ ทั้ง วปอ.-พระปกเกล้า การกำหนดธีมขบวนพาเหรด วางหลักเกณฑ์นักฟุตบอลของทั้งสองสถาบัน มี 2 คู่ ประกอบด้วย ทีมเล็ก อายุ 45 ปีขึ้นไป ทีมใหญ่ อายุ 55 ปีขึ้นไป รวมทั้งการถ่ายทอดสด เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชมด้วย 

พลโท นักรบ บุญบัวทอง เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ 2 สถาบันจัดกิจกรรมกีฬาประเพณีระดับชาติ ขณะนี้ได้จัดแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่ายไปดำเนินการ เพื่อให้งานครั้งนี้ลุล่วงสำเร็จ เกิดความรัก ความสามัคคี และส่งต่อให้กับรุ่นต่อไปได้สืบสานเพื่อเกิดความยั่งยืนในอนาคต จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) และสถานบันพระปกเกล้า (KPI) มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ให้มากๆ โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ 

‘ตำรวจ ดส.’ บุกทลาย!! ฟิตเนสซาวน่าย่านรัชดา พบแอบเปิดมั่วเซ็กซ์ชายรักชาย ซากถุงยางเกลื่อนพื้น

(8 ก.ค.66) ตำรวจ ดส. นำชายกว่า 36 คน ซักถามหลังจากบุกเข้าตรวจค้นสถานบริการฟิตเนสและอบซาวน่าแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา ถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกมไหสวรรค์ กรุงเทพฯ 

พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สารวัตร กก.ดส. เผยว่า ได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่า สถานบริการดังกล่าวแอบเปิดให้บริการลูกค้ากลุ่มชายรักชายเข้ามามีเพศสัมพันธ์ จึงส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปสืบทราบว่ามีการแจกจ่ายถุงยางอนามัยหลังเสียค่าบริการ 200 บาท จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวช่วงเวลา 22.00 น. พบว่าบริเวณชั้น 1 เป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับลูกค้า ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส ส่วนชั้น 3 ชั้น 4 มีลักษณะถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆ พบบางส่วนอยู่ภายในห้อง มีถุงยางอนามัยที่ผ่านการใช้ตกที่พื้นและในถังขยะ ส่วนชั้น 5 เป็นห้องอบซาวน่า พบมีผู้ใช้บริการจำนวน 31 คน พนักงาน 4 คน และ เจ้าของสถานบริการ 1 คน  

จากการซักถามส่วนใหญ่ยอมรับว่า เข้ามาใช้สถานที่เพื่อหาคู่มีเพศสัมพันธ์จริง จึงลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากไม่พบหลักฐานการค้าประเวณี พร้อมตรวจหาสารเสพติด ซึ่งทั้ง 31 คนไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนพนักงาน 4 คน เจ้าของสถานบริการ พิจารณาข้อกล่าวหาเป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติคดีพบว่า 1 ในผู้มาใช้บริการมีหมายจับของ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ในข้อหาฉ้อโกง จึงประสานให้ สภ.เมืองสมุทรสงครามมารับตัวไปดำเนินคดี 

รายงานข่าวแจ้งว่าฟิตเนสดังกล่าว เปิดให้บริการลูกค้าชายที่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน โดยเก็บค่าเข้าใช้บริการคนละ 200 บาท ซึ่งพนักงานประจำเคาน์เตอร์ จะมีกุญแจตู้ล็อกเกอร์เก็บเสื้อผ้า และมีสายรัดข้อมือให้คนละ 1 เส้น โดยเป็นที่รู้กันว่า ลูกค้ารายใดที่มีรสนิยมเป็นฝ่ายรุก ก็จะนำสายรัดข้อมือรัดไว้ที่ข้อมือข้างขวา ส่วนผู้ที่เป็นฝ่ายรับจะนำสายรัดข้อมือรัดไว้ที่ข้อมือข้างซ้าย หากลูกค้าถูกใจกันก็จะเปิดห้องพักเพื่อมีเพศสัมพันธ์

‘2 รองโฆษก’ รทสช. โต้ ‘ธนพร’ ชอบพูดไปเรื่อย ปม 'พีระพันธ์ุ' ชิงเก้าอี้นายกฯ ยัน!! ไม่เป็นความจริง

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.66) ‘เก็ต ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา’ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นที่ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ได้ให้สัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมส่ง ‘คุณพีระพันธ์ุ’ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง 

“ท่านจะรู้ดีกว่าทีมโฆษกพรรคได้อย่างไร ในเมื่อพวกเราคุยกับท่านหัวหน้าทุกวัน  ท่านหัวหน้าพีระพันธุ์และท่านเลขาเอกนัฏ ยืนยันชัดเจนว่าไม่เคยมีความคิดและไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาอย่างเด็ดขาด

ผมขออย่าให้ท่านพูดไปเรื่อย ชี้นำสังคมแทนพรรคฯ และไม่รับผิดชอบคำพูดอะไร”

ทางด้าน ‘พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ’ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน โดยระบุว่า…

“วันนี้ขอเสนอคำว่า ‘นักอวิชาการ’ ในขณะที่หลายพรรคสงวนท่าที รทสช. กล้าออกมาประกาศจุดยืนชัดเรื่องโหวตนายกฯ เคารพ ปชต. - เสียงปชช. ดันมาตรฐานใหม่การเมือง ย่อมเป็นเรื่องดี

ยังมี 'นักอวิชาการ' ที่ไม่ใช้วิชาการความรู้ แต่ใช้วิจารณญาณการเมืองเก่าๆ + อคติลบๆ มาปั่นกระแส ยัดเยียดให้คนเข้าใจผิดว่าเราจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค จัดตั้งรบ. เสียงข้างน้อยแข่ง รวมไทยสร้างชาติของจริง ขอพิสูจน์ด้วยการกระทำ.. วอนหยุดเอาวาทกรรมมาโจมตีเถอะครับ”

'หม่อมปลื้ม' แฉ!! นักวิชาการฝ่ายซ้าย ล้างสมองนักศึกษาจนคลั่งเสรีภาพ

(8 ก.ค. 66)  หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว ได้เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า...

นักวิชาการฝ่ายซ้ายล้างสมองนักศึกษาไปซ้ายสุดโต่งจนล้นเกิน คลั่งสิทธิเสรีภาพอย่างไม่รอบด้าน คิดทุกอย่างในมิติของการถูกกดขี่จึงต้องปลุกตนเองให้ลุกขึ้นสู้ตลอดเวลา ทำอย่างนี้ในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทั้งในสหรัฐฯ เเคนาดา ยุโรป เเละในประเทศไทยของเรา

อุดมการณ์ทางสังคม จริยธรรม การเมือง เศรษฐกิจ อุดมการณ์ต่างๆ เปรียบเสมือนน้ำในตู้ปลา คุณและผมคือปลาในตู้ปลา คุณจะมีอุดมการณ์อะไรมันขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้เทน้ำนั้นเข้าไปในตู้ปลา เราคิดว่า เราได้เลือกว่าเราจะมีอุดมการณ์ชุดใด ในความเป็นจริง ไม่เป็นเช่นนั้น เเท้ที่จริงเเล้วมันอยู่ที่ว่า คุณถูกบ่มเพาะจากใคร ที่ไหน อย่างไร เเละเมื่อไรต่างหาก

บางคนได้อุดมการณ์หลักมาจากพ่อแม่ บางคนได้มาจากช่วงวัยเรียน ช่วงมัธยม ช่วงที่ถูกสั่งสอนโดยครูตั้งเเต่สมัยวัยหนุ่มสาว หรือบางครั้งก็จากการคบเพื่อนเเละพวกพ้องในสมัยวัยเรียน คบคนอย่างไรที่มีอิทธิพลต่อเราก็อาจได้การหล่อหลอมเช่นนั้นมา ประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งในการในสร้างอุดมกาณ์ด้วยเช่นกัน บางคนไม่ได้ใกล้ชิดกับใครในสมัยเรียนตอนเด็กแต่เมื่อเริ่มเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็เริ่มสนใจ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่มันสมองเริ่มเปิดกว้างเพื่อให้เกิดการซึมซับมากที่สุด

ดังนั้น คนที่มีโอกาสไปแนวซ้ายมากที่สุด อาจจะเป็นคนซึ่งอยู่ในตู้ปลาที่ขาดการเติมเต็มจากมุมมองด้านอื่นจากผู้ปกครองเเละจากโรงเรียนในสมัยวัยเด็ก เสร็จเเล้วในช่วงที่สมองเปิดรับข้อมูลเเละชุดความคิดในวัยที่เรียนระดับอุดมศึกษา เมื่อเข้าเรียนในสถาบันระดับอุดมศึกษาไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับชั้นนำในทุกทุกประเทศ นั่นนะเเหละตัวดี

เพราะองค์กรเหล่านี้ ถ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาย Liberal Arts ถ้าบังเอิญเรียนรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา หรือ เรียนประวัติศาสตร์ ก็จะเต็มไปด้วยนักวิชาการทั้งระดับอาวุโสเเละที่เพิ่งบรรจุใหม่ที่ล้วนแล้วเเต่หัวเอียงซ้าย ถึงเเม้ว่าจะไม่ทั้งหมด เชื่อในรัฐสวัสดิการเสมอ เเถมมักจะมีเสริมการสอนเรื่องการย่อยสลายวัฒนธรรมอำนาจนิยม ปั่นวาทกรรมว่าทุกคนโดนกดขี่

เริ่มกระบวนการในการล้างสมองเด็กเข้ามา (บ่อยครั้งทำโดยไม่รู้ตัวเพราะตนเองก็ถูกล้างสมองมาอีกทีจากครูบาอาจารย์ชื่อดังในต่างประเทศเเละในประเทศที่เป็น Leftists อีกรอบหนึ่ง) เมื่อเข้าไปเรียนในระดับอุดมศึกษา ปลาตัวน้อย ๆ โดยเฉพาะที่ไม่เคยรับน้ำก็จะขาดภูมิคุ้มกันจากการหว่านล้อมอุดมการณ์ Keynesian สุดขั้ว Social Democracy สเเกนดิเนเวียนสุดทาง หรือไม่ก็นีโอมาร์กซิสต์ตามสูตรโรงเรียนเเกรมเชี่ยนจนสติเเตก

กลุ่มเดียวที่อาจจะรอดจากการถูกล้างสมองเช่นนี้ในโปรเเกรม Liberal Arts ต่าง ๆ ก็คงจะเป็นนักศึกษาที่สามารถเจียดเวลาไปเรียนวิชาปรัชญาอย่างรอบด้านหรือไม่ก็พวกซึ่งเรียนสายเศรษฐศาสตร์ที่มีโอกาสดีพอที่จะได้ศึกษาจากอาจารย์ที่เน้นหลักการณ์ด้านกลไกตลาดเสรีในเเบบที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์สำนักสังคมนิยม ที่วัน ๆ เอาแต่คิดจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รัฐสวัสดิการ รัฐสวัสดิการ ทำอย่างไรให้ไม่รู้สึกผิดต่อคนยากคนจน ทำจนเศรษฐกิจพัง นักธุรกิจไม่ต้องเหลือเงินกัน เก็บภาษีให้เยอะ อย่างนี้เป็นต้น

ในโลกเเห่งการเเข่งกันออกนโยบายทางการเมืองเเละในโลกเเห่งการเขียนรายงานในมหาวิทยาลัยยุคปัจจุบัน วัน ๆ เอาแต่นั่งคิดเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สร้าง Living Wage ที่เป็นจริง ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการใช้เงินผู้อื่น จะเปลี่ยนประเทศเป็นรัฐสวัสดิการ ทำยังไงให้ไม่รู้สึกผิดต่อคนยากไร้ เอาแต่คิดแบบเนี้ยจนเศรษฐกิจพังไปหมด มีเเต่การสอนให้บิดเบือนกลไกตลาดตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อภาคธุรกิจเเละนายจ้างที่เดือดร้อนต้องลดส่วนเเบ่งกำไรไม่รู้จักจบ

นโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ในที่สุดก็จะนำไปสู่การลดการจ้างงานผู้ซึ่งมีทักษะเเรงงานน้อยกว่าผู้อื่นก่อนเพื่อน สังคมเราจึงเต็มไปด้วยบัณฑิตที่ควรจะรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์เเต่ดันคิดเเบบนักสังคมนิยมที่ต้องการตัดต่อพันธุกรรมระบบเศรษฐกิจที่เวิร์คดีอยู่เเล้ว

คนที่มีโอกาสไปซ้ายมากที่สุดคือคนที่อยู่ในตู้ปลาที่เป็นปลา แล้วบังเอิญในสมัยวัยเด็ก ผู้ปกครองไม่ได้เทน้ำเข้ามา หรือไม่ก็เป็นอีกประเภทหนึ่ง ที่พ่อเเม่พี่น้องปู่ย่าตายายอุตส่าห์เทน้ำเข้ามาเเต่ก็ถูกสลัดทิ้ง เป็นคนที่ไม่สามารถซึมซับข้อมูลจากผู้ปกครองได้ เสร็จแล้วพอเรียนช่วงมัธยมก็มัวแต่คิดว่าเรียนยากจัง อ่านหนังสือก็ง่วง จึงโดดเรียนไปเดินตามห้าง ไปเที่ยวเตร่ ในตู้ปลาที่ปลาว่ายน้ำกันอยู่ มันจึงขาดน้ำ

กลุ่มนี้เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี โอ้โห! ก็จะมีโอกาสเจอบรรดานักวิชาการตัวพ่อที่เป็นประเภท Left-wing Liberal Democratic Socialists เทน้ำเข้ามาเต็มเปี่ยมเลย ที่นี้พอจบมา เลยล้นเลย คือเกิน คือล้นเลย มันเเปลว่าล้นวิชาการเกิน ล้นซีกซ้ายอย่างเดียวเเต่ไม่รอบด้าน ขาดประสบการณ์จริงกับเรื่องที่เรียนมา เฉกเช่นเดียวกันกับปฏิกิริยาปลาดิ้นพลิกไปพลิกมาเวลามีคนเทน้ำเข้าไปในตู้ปลานั้น ๆ อย่างเเรงเเรงเร็วเร็ว

กลุ่มนี้ก็จะมีความกระตือรือร้นที่จะชุมนุมต่อต้านทุกอย่างตามที่อุดมการณ์สั่งสมบ่มเพาะมา กลายมาเป็น Activists ที่เพิ่งโดนกดปุ่ม Activated

ผู้ซึ่งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสิ้นคิดเช่นนี้ในที่สุดถ้าได้ก็จะพยายามนำเสนอ Redistribution of Income ในรูปเเบบที่เอาเปรียบเจ้าของเงิน เมื่อปล่อยไปก็จะค่อยๆ คล้อยไปเป็นเสมือนรูปเเบบ French-Scandinavian Style Progressive Taxation ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในไทยตอนนี้ ยิ่งฐานะรายได้ดีก็จะยิ่งมีการเสนอให้ตัดฐานะรายได้นั้นเเละทำลาย Dominant Market Positioning ของทุกบริษัทชั้นนำให้มันเหี้ยน

เเนวคิดซ้ายทางเศรษฐกิจนี้คือต้องการให้คนรวยกลายเป็นคนจนลง จนไม่มีใครอยากลงทุนเหมือนในเเถบสแกนดิเนเวีย ให้คนที่ไม่ต้องทำงานสามารถมีบ้านอยู่ได้โดยที่วันๆ ไม่ต้องออกไปทำอะไรเลย ให้มี Universal Basic Income อย่างขาดวินัยการเงินการคลัง สิ่งนี้คือความฝันอันเกือบสูงสุดของฝ่ายซ้ายด้านเศรษฐกิจ

บ่อยครั้งในมหาวิทยาลัยอาจารย์จะมีโอกาสเติมเต็มมากๆ เพราะในช่วงเข้าไปศึกษาใหม่ๆ ปรากฎว่าในตู้ปลานั้น เป็นตู้ปลาซึ่งไม่เคยมีใครเคยเติมน้ำเข้าไปได้สำเร็จ หรือบางทีผู้ปกครองหรืออาจารย์แนะแนวและครูประจำชั้นในสมัยมัธยมเคยพยายามเติมน้ำ แต่เป็นพวกประเภทไม่ยอมซึมซับน้ำเลย แต่เมื่อถึงวัยมหาวิทยาลัย ได้บังเอิญพบเจอกับอาจารย์ที่เป็น Socialist-Liberal เทน้ำลงมา…โอ้โหว ล้นเต็มเปี่ยม

อุดมการณ์ที่คุณและผมมีอยู่ มันเป็นอุดมการณ์ที่ผ่านการบ่มเพาะมา คำถามที่คุณต้องถามตนเองคือ คุณเติมเต็มหรือยังเเละที่ผ่านมาใครคือผู้ซึ่งบ่มเพาะคุณเเละผู้นั้นหวังดีต่อคุณเเละสังคมจริงหรือ? หรือเป็นไปได้ไหมว่าผู้ซึ่งบ่มเพาะคุณมาทางด้านการเมืองในสถาบันการศึกษาต่างๆ ล้วนเเล้วเเต่เคยได้รับการเทน้ำมาอีกทีหนึ่งจนล้นเกินจากซ้ายอกหักจากยุคสมัยสงครามเย็นที่ในวันนี้ต้องการเอาคืน เเก้มือ หรือเเก้เเค้นอดีตที่ได้เคยพ่ายเเพ้เเละเจ็บปวดไปเมื่อ 47 ปีที่เเล้ว

‘วันเดอร์เฟรม’ เกิดอุบัติเหตุ ‘ข้อเท้าแตก’ ขณะถ่าย MV ที่จีน แม้เจ็บหนักแต่ยังยิ้มได้!! ล่าสุดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

(8 ก.ค. 66) ด่วน!! นักร้องสาว วันเดอร์เฟรม เกิดอุบัติเหตุข้อเท้าแตก ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ขณะถ่ายทำ MV เพลงใหม่ ซึ่งเป็นผลงานโกอินเตอร์ที่ได้ KnowKnow ศิลปินแร็ปเปอร์ชื่อดังของจีนมาร่วมฟีทเจอริ่ง

โดยในช่วงซีนสุดท้ายของการถ่ายทำ ‘วันเดอร์เฟรม’ ที่กำลังแดนซ์แบบเต็มเหนี่ยว เกิดพลาดท่าลื่นล้มจนเป็นเหตุให้กระดูกบริเวณข้อเท้าแตก แม้ว่าจะเจ็บหนักแต่ ‘วันเดอร์เฟรม’ ยังคงยิ้มและชูสองนิ้วให้แฟนๆ หายห่วง 

‘โบว์ ณัฏฐา’ เผย นักวิชาการที่พยายามช่วย ‘พิธา’ ลั่น!! ระวังพูดไปพูดมาจะกลายเป็นผิดจริง

"นักวิชาการบางคนที่พยายามช่วยคุณพิธา พอพยายามบิดหลักการมากเกินไป พูดไปพูดมากลายเป็นการยืนยันว่าตามกฎหมายแล้วเขาผิดจริง แต่ 'ไม่ควรเอาผิด' เพราะประชาชนเลือกมา พร้อมเรียกร้องให้สื่อหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว"

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.66

‘SEED Thailand’ ผนึกกำลัง ‘สำนักงานสลากฯ - สถาบันพระปกเกล้าฯ’ จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ Seed Project รุ่นที่ 3

(8 ก.ค.66) กลับมาอีกครั้งกับโครงการที่ทุกคนรอคอย Seed Project ปี 3 รอบภาคกลาง 

ด้วยเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand วุฒิสภาร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ Seed Project รุ่นที่ 3 เรื่อง My Future Hometown สร้างผู้นำเยาวชน พาท้องถิ่นสู่สากล โดยโครงการจัดขึ้นในวันที่ 6 - 9 กรกฏาคม 2566 ณ ห้องประชุม โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ 

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.66 พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ร่วมกับคุณดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ เลขาธิการและกรรมการมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม เป็นผู้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 80 คน 

อีกทั้งมีปาฐกถาเรื่องพลังเยาวชนต่อทิศทางการพัฒนาประเทศไทย โดย คุณนพพล ชูกลิ่น ประธานบริหารโดยในวันนี้ยังมีวิทยากรมากประสบการณ์มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย ประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์และความเป็นไทย สู่การสร้างพลัง Soft Power จากท้องถิ่น โดย นายพิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การสร้างนักข่าวท้องถิ่น Local Reporter โดยนางสาวขวัญธรรมภรณ์ ทิพยโกศัย ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ PPTV อีกทั้งมีการสร้างเสริมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากพี่ๆ ทีม SEED Thailand


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top