Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

‘เบสท์ คำสิงห์’ แย้ม มีดาราชายเข้ามาจีบ ก้อย-นัตตี้-ดรีม รู้จักดี เชียร์ให้ลองเปิดใจ

เป็นอีกหนึ่งสาวที่โสดมาได้สักพักแถมสวยขึ้นมาก สำหรับ ‘เบสท์ รักษวนีย์ คำสิงห์’ ลูกสาว สมรักษ์ คำสิงห์ ที่ล่าสุดเธอกลับมาเยือนรายการในยูทูบของ ‘ก้อย นัตตี้ ดรีม’ อีกครั้งในรอบ 3 ปี ก็ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ‘ยังไงไหนเล่า’ ถึงบทเรียนความรักที่ผ่านมาว่า…

“ไม่มี หนูพูดมาตลอดว่าไม่ได้เรียกว่าเรียนรู้ เพราะเราแค่เรียนรู้จากผู้ชายคนหนึ่ง แค่คนนั้นที่เป็นแฟนเก่าแต่เราไม่ได้เรียนรู้ทั้งชีวิตเราเพราะว่าคนใหม่ก็คือคนใหม่”

เมื่อถามถึงสเปคอยากได้คนแบบไหน เบสท์บอกว่าชอบคนดูดี ที่ไม่ได้แปลว่าหล่อ แต่บางคนไม่ได้หล่อมากหรือน่ารักมากแต่ดูแล้วมันดูดี ทำเอาก้อยออกอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 

เบสท์เผยต่อว่า “เอาง่าย ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งทักหนูมาแล้วเขาเคยออกช่องพี่ก้อย หนูเลยบอกพี่ๆ ว่า เฮ้ย มีคนเคยออกช่องพี่ทักหนูมานะ ตอนแรกไม่ตอบเพราะไม่รู้จัก พอดูรายการก็เลยรู้จัก ได้คุย”

ด้านก้อยบอกว่าถ้าอยากรู้ก็ต้องไปเดากันเอง ไปย้อนดูคลิปกันเอง งานนี้ทั้ง 3 สาวขอทายบ้าง แต่ทายเท่าไหร่ก็ไม่ถูก จนเบสท์เฉลยให้ ทำเอา ก้อย นัตตี้ ดรีม อ๋อ อึ้ง พร้อมเชียร์ว่า คนนี้น่ารัก และเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะได้ทำความรู้จัก

เมื่อเบสท์ถูกถามว่าไปกินข้าวกันมาหรือยัง เบสท์บอกว่า ยัง เพราะไม่ว่าง ถ้าว่างปุ๊บไปเลย 

ด้านนัตตี้ก็บอกว่า ให้มันค่อยๆ ไป ใจเย็นๆ

เบสท์บอกหลังจากจบรักครั้งล่าสุดไป ด้านครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไรกับคนถัดไป ส่วนปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นเธอเผยว่า พ่อแม่เป็นคนรู้ก่อน เพราะพ่อรู้จักคนเยอะ พ่อจะรู้แต่ไม่บอกเรา

“พ่อแม่ไม่ยุ่งไม่บอกเรา จนเลิกกันแล้วค่อยมาบอก ช่วงอกหักไม่เสียใจเลย แต่เสียใจช่วงที่ให้โอกาสมากกว่า ช่วงลังเลมันจะเจ็บกว่าตอนที่เด็ดขาด”

เมื่อถามว่าอกหักเสียใจไหม เบสท์บอก ไม่เสียใจเลย ไม่ร้องไห้แม้แต่นิดเดียว พร้อมบอกว่า

“เหมือนเราให้โอกาสแล้วจะเสียใจกว่าตอนเลิก ช่วงที่ลังเลจะเจ็บกว่าตอนที่เดือดขาด”

รู้จัก ‘ชิ้น โบ แดง’ หมูกระทะในห้างหรู ชูเอกลักษณ์ไทย ฝ่าดงหมูเกาหลีบูม

นั่งกินหมูกระทะในห้างหรู...

'เชิดชูหมูกระทะไทยให้ก้องกังวาลไปทั่วหล้า’ แนวคิดเจ๋งๆ ของ 'ชิ้น โบ แดง' (Chin Bo Dang) ร้านหมูกระทะมาสเตอร์พีซ น้องใหม่ลำดับที่ 12 ในเครือ Iberry Group ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 6 ใน The EmQuartier (BTS พร้อมพงษ์) มีจุดเด่นตรงกระทะที่ดีไซน์พิเศษทำจากทองแดง 100% มีช่องกระจายความร้อนเท่ากันทุกรู ทำให้เนื้อสุกได้อย่างง่ายดาย และก็ยังมีช่องใส่น้ำซุปขนาดใหญ่พอดีช้อน นอกจากนี้ที่ร้านก็ยังใช้ถ่านกากมะพร้าวหอมๆ ทำให้อาหารน่ากินขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย

ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ายังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันติดเสื้อผ้า เพราะทางร้านมีเตาดูดควันอย่างดีที่ทำมาเป็นพิเศษ พร้อมให้คุณอร่อยกับวัตถุดิบคุณภาพ และน้ำจิ้มซิกเนเจอร์ของทางร้าน อย่าง แซ่บโบราณ ที่โดดเด่นด้วยรสเผ็ดพอเหมาะของพริกเหลือง ลาวนวล มีรสเค็มนัวของปลาร้า และหอมเต้าหู้ยี้ ที่คุ้นเคย เสิร์ฟมาในบรรยากาศหรูหราที่ตกแต่งด้วยสีแดงเลือดหมูและสีน้ำตาลเข้ม

อีกจุดเด่นหนึ่งของ 'ชิ้น โบ แดง' ที่แตกต่างจากร้าน 'หมูกระทะ' อื่น ก็คือเมนูข้างเคียง (Side Dish) ที่จัดเต็ม เพื่อให้เข้ากับหมูกระทะ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้า บางคนที่แค่พักเที่ยง อาจจะมีเวลาไม่มาก ไม่อยากเปิดเตา แต่ก็มารับประทานเมนูอื่น ๆ ก็ได้ ไม่ใช่แค่หมูกระทะ

โดยแนวคิดน่าสนใจ เพราะ Iberry ต้องการสร้างวัฒนธรรมการรับประทานอาหารหรือปิ้งย่างแบบไทยแท้ 100% บอกว่า แม้ตลาดปิ้งย่างของไทยจะเติบโตสูง และมีผู้เล่นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าแทบทั้งหมดมักมีเครื่องเคียงเป็นกิมจิ หรืออาหารญี่ปุ่น-เกาหลีหลายๆ ชนิดมาเป็นเมนูในร้าน 

ฉะนั้น หากทำเหมือนกัน ก็จะยิ่งไม่ตอบโจทย์เอกลักษณ์ความเป็นไทย หรือมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของหมูกระทะ ซึ่งคอนเซปต์ของร้านต้องการยกระดับความเป็นหมูกระทะในสไตล์ไทยๆ อยู่แล้ว จึงได้เกิดแนวคิดที่อยากทำให้ทุกอย่างเข้ากัน ด้วยการพัฒนา Side Dish ที่เป็นเมนูไทยขึ้นหลายรายการเพื่อให้สามารถรับประทานร่วมกับหมูกระทะได้

สำหรับอาหารหลัก Main Course เอาใจทั้งสายเนื้อและหมูด้วย หมูหมักนุ่ม คุโรบุตะสไลด์ หมูสามชั้น สุดนุ่ม ตับหมู ไม่มีกลิ่นสาบ คอหมู เนื้อเด้ง เนื้อโคขุนหมักนุ่มลิ้น เสือร้องไห้ออสเตรเลีย และลิ้นวัวโคขุน ฉ่ำลิ้น

ชุดทะเลรวมมิตร เต็มไปด้วยปลาอินทรี เนื้อสด ปลาเก๋าหยก กินอร่อย เอ็นหอยจอบ เคี้ยวหนึบสู้ฟัน หมึกกล้วย ตัวใหญ่ และหมึกสาย แถมด้วย สามชั้นขย้ำน้ำปลา ชิ้นหนากำลังดี ได้รสเค็มกลมกล่อม กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย

ปิดท้ายก่อนกลับด้วย ของหวานล้างปาก บิงซูแตงโม รสหวาน ภายในสอดไส้ฟรุ๊ตตี้สลัดชื่นใจ และ ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน โฮมเมดรสหวานฉ่ำ

ส่วนสนนราคาชุดเซ็ตเมนูแบบอิ่มจุก เริ่มต้นที่ 590-790 บาท ขณะที่จานเดี่ยวแยกเพิ่ม และ Side Dish ราคาเริ่มตั้งแต่ 120-390 บาท และผักเริ่มต้นที่ราคา 35 บาท  

'ชิ้น โบ แดง’ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม สามารถเดินทางไปอร่อยได้ตามสะดวก ว่าแล้วก็โทรไปจองโต๊ะก่อนเลย กดไปที่เบอร์ 02-003-6340 รับรองได้ว่าจะได้ลิ้มรสหมูกระทะที่อร่อยและไม่เหมือนใคร

'ส.ส.พปชร.กำแพงเพชร' เร่งซ่อมถนนทรุด บรรเทาทุกข์ชาวบ้าน ลั่น!! ทุกปัญหาของ ปชช.เข้าถึงสภาฯ ทันทีที่เปิดประชุม

(6 ก.ค.66) นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.เขต 3 จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนจากกรณีที่ริมตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะ ทำให้ถนนเกิดการทรุดตัวลง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา ซึ่งตนได้ประสานไปยังส่วนราชการจังหวัดกำแพงเพชร รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขลุง เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไข ความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าเกิดจากการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำปิง ทำให้ถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านทรุดตัวลง โดยขณะนี้กำลังดำเนินการซ่อมแซมถนนเส้นดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน 

นายอนันต์ กล่าวต่อถึง การแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ด้วยว่า ได้ดำเนินการขุดลอกคลองสาธารณะ ม.14 บ้านทรัพย์สีทอง ต.ไตรตรึงษ์ เชื่อมต่อม.3 บ้านหนองผักหนาม ต.คลองสมบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำขุดลอกคลอง และกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ เพราะที่ผ่านมาประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชรประสบกับปัญหาภัยแล้งซ้ำซากเป็นระยะเวลานาน กระทบต่อชีวิต และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทั้งแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เราจึงต้องแก้ไขปัญหาให้ทันการณ์ 

"ขณะนี้ก็ใกล้เวลาที่สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว หน้าที่ของผู้แทนฯ คือกระบอกเสียง จะต้องนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าหารือในสภา เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการแก้ไข ส่วนตัวผมก็จะทำหน้าที่เพื่อชาวกำแพงเพชรให้ดีที่สุด"

‘Twitter’ ขู่ฟ้อง ‘Meta’ อ้าง Threads ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ด้าน Elon บอก “การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ แต่การโกงไม่ใช่”

(7 ก.ค. 66) หลังสร้างความฮือฮาด้วยยอดผู้ลงทะเบียนเข้าใช้งานวันแรกหลังเปิดตัวกว่า 30 ล้านคน Threads ของ Meta ก็ต้องเผชิญกับการตอบโต้จาก Twitter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคู่แข่งในโซเชียลมีเดีย หลังทนายยืนขู่ฟ้องฐานละเมิดความลับทางการค้า

‘Alex Spiro’ ทนายความของ Twitter เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือไปยัง ‘Mark Zuckerberg’ ซีอีโอของ Meta Platforms ว่าจะฟ้องร้องเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Threads หากไมยุติการละเมิดความลับทางการค้า

Meta ซึ่งเปิดตัว Threads ในวันพุธและมีผู้ลงชื่อสมัครใช้มากกว่า 30 ล้านคน ดูเหมือนจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับ Twitter ของ Elon Musk โดยใช้ประโยชน์จากผู้ใช้หลายพันล้านคนของ Instagram

ในจดหมายของเขา Spiro กล่าวหาว่า Meta ว่าจ้างอดีตพนักงาน Twitter ที่ “มีและยังคงเข้าถึงความลับทางการค้าของ Twitter และข้อมูลลับสูงอื่นๆ” เว็บไซต์ข่าว Semafor รายงานเป็นครั้งแรก

“Twitter ตั้งใจที่จะบังคับใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเคร่งครัด และเรียกร้องให้ Meta ดำเนินการทันทีเพื่อหยุดใช้ความลับทางการค้าของ Twitter หรือข้อมูลที่เป็นความลับสูงอื่นๆ” Spiro เขียนในจดหมาย

เริ่มแล้ว Twitter ขู่ฟ้อง Meta ฐาน Threads ใช้ความลับทางการค้า

‘Andy Stone’ โฆษกของ Meta กล่าวว่า “ไม่มีใครในทีมวิศวกรของ Threads ที่เป็นอดีตพนักงานของ Twitter และนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

ด้านอดีตพนักงานอาวุโสของ Twitter บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าพวกเขาไม่ทราบว่ามีอดีตพนักงานที่ทำงานใน Threads หรือบุคลากรอาวุโสคนใดที่เข้าทำงานที่ Meta เลย

ในขณะเดียวกัน Musk เจ้าของ Twitter กล่าวว่า “การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ แต่การโกงไม่ใช่” เพื่อตอบกลับทวีตที่อ้างถึงข่าวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญารวมถึง Mark Lemley ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของ Stanford กล่าวว่าหากจะมีการฟ้องร้อง Twitter ต้องมีหลักฐานและข้อเท็จจริงมากกว่าที่ระบุมา

“การว่าจ้างอดีตพนักงานของ Twitter (ซึ่ง Twitter ปลดออกหรือถูกไล่ออก) และข้อเท็จจริงที่ว่า Facebook สร้างเว็บไซต์ที่ค่อนข้างคล้ายกันนั้นไม่น่าจะสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ในความลับทางการค้า” เขากล่าว

ด้าน Jeanne Fromer ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า บริษัทที่กล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้าต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการปกป้องความลับของบริษัท กรณีต่างๆ มักจะวนเวียนอยู่กับระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกหลีกเลี่ยงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

'ศิริกัญญา' ไร้กังวลท่าที ส.ว.เปลี่ยนใจไม่โหวต 'พิธา' นั่งนายกฯ แต่ขอให้เคารพเสียงประชาชนที่เลือกก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1

'ศิริกัญญา' มั่นใจ เสียงครบแล้ว ยันไม่มีใช้เงินซื้อ ไม่กังวลท่าทีเปลี่ยนใจ ชี้ ส.ว.หลายคน ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เชื่อโหวตผ่านตั้งแต่รอบแรก เร็วเกินไปที่จะพูดโหวต 19-20 ก.ค. อีกครั้ง 

(7 ก.ค.66) ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจากับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังหลายคนออกมาแสดงท่าทีเปลี่ยนใจไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์มาหลายครั้ง ว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราจำเป็นจะต้องหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ให้ได้มากเกินกว่าที่จำเป็น ในกรณีที่ ส.ว.อาจมีการเปลี่ยนใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เราได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ส่วนกระแสข่าวว่า ส.ว.จะสนับสนุนไม่ถึง 10 คนนั้น ยืนยันว่า ในฐานะข้อมูลของพรรคไม่ได้เป็นไปแบบนั้น และยังคงมั่นใจว่าในวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะได้เสียง ส.ว.ยกมือสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีครบถ้วนในครั้งแรก

เมื่อถามว่า หากการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งแรกไม่ผ่านจะทำอย่สงไร น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร

ส่วนเสียง ส.ว.จะต้องได้มากกว่า 64 เสียงนั้น คิดว่าตอนนี้ครบหรือยัง น.ส.ศิริกัญญา ย้ำว่า ขณะนี้เสียงได้ครบแล้ว แต่ยังคงต้องทำงานต่อเนื่อง เผื่อมีกรณีที่บางท่านอาจเปลี่ยนใจจะได้มีสำรองเอาไว้ เพราะเราไม่มีทางทราบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหน้างาน

เมื่อถามว่า ส.ว.หลายคนขอดูหน้างานก่อนนั้น กังวลเรื่องการเปลี่ยนใจหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า มีบางส่วนที่พูดผ่านสาธารณะ และพูดคุยในวงเจรจา ซึ่งอาจไม่ตรงกัน ซึ่งตนยินดี และยอมรับในสิทธิของ ส.ว.ในการให้ข่าวหรือชี้แจงกับสาธารณะ 

เมื่อถามว่า จากการโหวตประธานสภามีคนมองว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่แข็งแรงพอ มีแนวโน้มจะทอดสะพานมาร่วมรัฐบาลด้วยนั้น พรรคก้าวไกลมีท่าทีอย่างไร นางสาวศิริกัญญาบอกว่า จะต้องประเมินหลังวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งมองว่า หากโหวตรอบแรกไม่มีปัญหาอะไรก็คงไม่มีโอกาสแบบนั้น เพราะ 312 เสียงค่อนข้างมั่นคงในรัฐสภา การที่เอามาเติมมากเกินไปก็จะทำให้กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลมีปัญหา 

ส่วนกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 ออกมาระบุว่า หากโหวตรอบแรกไม่ผ่านจะให้โหวตอีก 2 รอบคือวันที่ 19 ก.ค.และ 20 ก.ค.นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะยังมีกระบวนการปรึกษาหารือของวิปแต่ละฝ่ายกับประธานสภา เพื่อกำหนดวันประชุม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวถึงการที่พรรคก้าวไกลใช้เงิน ซื้อเสียง ส.ว.ให้โหวตสนับสนุนนายพิธา น.ส.ศิริกัญญา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน และ เป็นเรื่องที่เราไม่นิยมทำอยู่แล้ว 

ส่วนมองอย่างไรกับการถูกกล่าวหาเช่นนี้นั้น ก็มองว่า อาจเป็นการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา ว่าพรรคจะหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.อย่างไรได้บ้าง เขาก็คิดว่า นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางก็ได้ ซึ่งไม่ใช่ทางที่เราเลือกเลย เพราะเราใช้วิธีการพูดคุยอย่างเดียว และก็มี ส.ว.บางท่านที่ไม่สะดวกเปิดเผยต่อสาธารณะ ก็ขอให้เห็นผลกันในวันนั้นว่าจะโหวตแบบไหน จึงเกิดความกังวลจากหลายฝ่าย ว่า คะแนนเสียง ส.ว.ไม่น่าได้มาโดยง่าย

เมื่อถามว่า แปลว่ามั่นใจหรือไม่ ว่าพรรคก้าวไกลไม่ต้องซื้อเสียง ส.ว.ก็เพียงพอ นางสางศิริกัญญา ตอบว่า “ใช่ค่ะ”

ทั้งนี้มองอย่างไรกับการที่ ส.ว.ออกมาตั้งเงื่อนไข ในการโหวตสนับสนุนนายพิธา นางสาวศิริกัญญา ย้ำว่า ขอให้ ส.ว.ทุกคน ยึดหลักการประชาธิปไตยเสียงข้างมากตามปกติ  

“ไม่จำเป็นที่จะต้องรักเรา ไม่จำเป็นต้องเชียร์เรา เชียร์ก้าวไกล หรือ เชียร์นายพิธา ขอแค่เคารพเสียงของประชาชนที่ได้เลือกเรามา ให้เป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 และรวมตัวจัดตั้งรัฐบาล ได้คะแนนเสียงข้างมากในสภา ยึดหลักการง่าย ๆ แค่นี้เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินหน้าต่อ ให้โอกาสประเทศไทยได้ไปต่อ”

ควันหลง 'ทีมราชนาวี' หลังพลาดแชมป์วอลเลย์ถ้วย ข. พร้อมขอบคุณแฟนๆ และผู้ใหญ่ใจดี THE STATES TIMES

แพ่พ่ายไม่สำคัญ 'กำลังใจด้านกีฬา' ยิ่งใหญ่กว่า!! THE STATES TIMES ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทีมวอลเลย์บอลชายกองทัพเรือ ในนาม 'ราชนาวี' เข้าแข่งขันวอลเลย์บอล ซีเล็ค ประชาชน ข. ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566

แม้จะแข่งเสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับรายการแข่งขันวอลเลย์บอล ซีเล็ค ประชาชน ข. ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ต้องบอกว่า การแข่งขันในครั้งนี้นักกีฬาทุกทีมเล่นกันอย่างเต็มที่ จนแฟนคลับประทับใจ และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการลูกยางไทยได้อย่างมากกันเลยทีเดียว 

สำหรับปีนี้ ทีมตัวเต็งอย่าง ทีมวอลเลย์บอลชายราชนาวี ที่สร้างชื่อเสียงในวงการวอลเลย์บอลมายาวนาน พกพาสถานะแชมป์การแข่งขันวอลเลย์บอล ซีเล็ค ประชาชน ข. ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2565 ได้กลับมาลงป้องกันแชมป์ในปี 2566 อีกครั้ง

ทว่าปีนี้ ทีมราชนาวี ก็พลาดท่า หลุดกรอบตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้จะทำผลงานได้ดี แต่ด้วยรูปทีม ซึ่งไร้ตัวผู้เล่นชุดแชมป์จากปีที่ผ่านมา ที่ต้องกลับไปรับใช้สโมสรต้นสังกัด ทำให้จังหวะจะโค่นในการโกยแต้มไม่เป็นดั่งหวัง

ก็นะ!! ถือเป็นเรื่องธรรมดาของเกมกีฬา มีแพ้ มีชนะ สลับกันไป ปีนี้พลาดแชมป์ ปีหน้าเอาใหม่!! แต่ยังไงปีนี้ก็ขอขอบคุณแฟนๆ รวมถึง THE STATES TIMES สำนักข่าวออนไลน์เพื่อคนรุ่นใหม่ที่ช่วยเป็นสปอนเซอร์แก่ทีมราชนาวี มา ณ โอกาสนี้ด้วย

‘วันนอร์’ ยัน โหวตนายกฯ ยึดตามรัฐธรรมนูญ 13 ก.ค.นี้ เชื่อ ‘ส.ว.’ ใช้ดุลยพินิจ-คุณวุฒิเพื่อประโยชน์ของชาติ

(7 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาฯ พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 แถลงภายหลังเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานผู้แทนราษฎร และรองประธานผู้แทนราษฎร

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า วันนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้พวกเราทั้ง 3 คน ดำรงตำแหน่งประธานผู้แทนราษฎรและรองประธานผู้แทนราษฎร ซึ่งพวกเราจะขอน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้กับสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ในพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ 26 ที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวถึงวันโหวตเลือกนายกฯ ว่า “เรื่องนี้เราต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 และข้อบังคับของการประชุมรัฐสภาปี 2563 ส่วนกรอบเวลาของการประชุม ตลอดจนเรื่องจะโหวตอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนคิดว่าถ้าเราพูดก่อนล่วงหน้าอาจจะไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 13 ก.ค. และหวังว่าจะดำเนินการด้วยความเรียบร้อย”

“แต่หากไม่เสร็จสิ้นในวันที่ 13 ก.ค.เราก็ได้หารือกับประธานวุฒิสภาแล้วว่า เราก็อาจจะต้องมาประชุมกันในวันที่ 19 ก.ค. เพราะดูแล้วว่าน่าจะเป็นวันที่เหมาะสมที่สุด เพราะเว้นไป 1 สัปดาห์ เพื่อให้เลขาธิการสภาฯ ได้ทำหนังสือเชิญมาประชุมอีกครั้งในเวลาเช่นเดิม ส่วนการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.นั้น จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ทั้งนี้ หน้าที่ของรัฐสภามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อไปบริหารประเทศต่อไป โดยเราต้องทำหน้าที่นี้เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีนายกรัฐมนตรี เพราะปัญหาที่ประชาชน และปัญหาของประเทศชาติกำลังรอคอยรัฐบาลใหม่อยู่มากข้างหน้า ดังนั้น หน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติคือ ต้องสนับสนุนให้การบริหารประเทศต่อไปได้ในเวลาที่เหมาะสม” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นอกจากนี้ นายมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวต่อว่า “ส่วนข้อกังวลของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในเรื่องการโหวตนายกฯ นั้น ตนเห็นว่า ส.ว.ซึ่งเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญนั้น ในการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นอิสระของแต่ละคนที่จะใช้ดุลพินิจวินิจฉัย ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราคงไม่สามารถคาดได้ว่าสมาชิกจะโหวตอย่างไร เป็นเรื่องที่ท่านจะต้องใช้ดุลพินิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เพราะทุกคนก็มีคุณวุฒิวัยวุฒิมีประสบการณ์ และทุกคนก็ต้องมีหัวใจตรงกัน คือ บ้านเมือง ประเทศชาติ และประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด และตนขอฝากกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ว่ารัฐสภาของเราจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดตามที่ท่านได้คาดหวัง”

นายวันมูหะมัดนอร์ เสริมอีกว่า “ในฐานะที่ผมเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นประธานรัฐสภา ต้องขอความสนับสนุนความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เพราะต้องการความสมัครสมานสามัคคีจากทุกฝ่าย เพราะเรามาทำงานตรงนี้เพื่อประเทศชาติกันทุกคนรวมทั้งประชาชนด้วย ขอให้ท่านสนับสนุนให้มีนายกฯ คือ ผู้นำของประเทศอย่างเรียบร้อย ในเวลาที่ท่านรอคอยและจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งผมคิดว่าต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งสภาพรรคการเมืองและประชาชน เพื่องานที่เราจะมีในวันที่ 13 ก.ค.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย”

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า สำหรับความห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นบริเวณรัฐสภานั้น ในเรื่องนี้ไม่มีความกังวลใดๆ ในวันที่ 10 ก.ค. ประธานสภาฯ จะมีการแบ่งงานให้กับรองประธานทั้ง 2 คน ในส่วนของการชุมนุมการรักษาความปลอดภัยกับการให้บริการประชาชนในพื้นที่สภาฯ ซึ่งประชาชนมีสิทธิชุมนุมแน่นอนตามรัฐธรรมนูญ ถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่และ พ.ร.บ.การชุมนุม

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล กลางฟีลธรรมชาติ พิกัดเช็กอินใหม่แห่งระยอง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องลอง

สุดสัปดาห์นี้ หลายคนอาจจะกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะขับรถไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ THE STATES TIMES ขอแนะนำ 

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เป็นอาคารออกแบบผสมผสานชั้นเดียว มีดาดฟ้าภายในโอ่โถง พร้อมกับที่นั่งด้านนอก ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ สุดอลังการ กับ หินลีลาขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดวางท่ามกลาง ต้นไม้หายากขนาดใหญ่ โดยมีต้นมะขาม 5 คนโอบ มีอายุมากกว่า 200 ปี รวมถึง ต้นกันเกรา อายุกว่าร้อยปี และ ต้นไม้หายากอีกหลากหลายกว่าร้อยต้น พร้อมสัมผัสบรรยากาศร่มรื่น กับน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ เสียงน้ำที่ตกกระทบหิน เสมือนกับได้ไปนั่งอยู่ริมน้ำตกธรรมชาติจริง ๆ ด้านหลังน้ำตกยังมีถ้ำม่านหมอกให้เข้าไปสัมผัส นอกจากนี้ ยังมีสะพานไม้ให้เดินชมความงดงามได้ทั่วพื้นที่

ร้าน U Forests Cafe แห่งนี้เกิดจากแรงบันดาลใจภายใต้ความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีความสมบูรณ์ของพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยดึงเอา Elements ของความเป็นพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมไปด้วยทิวเขา ต้นไม้ น้ำตก ป่าชายเลน รวมถึง Movement ที่พลิ้วไหวของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างเป็น ‘วัฏจักร’ ประกอบกับสัญลักษณ์ของความเป็นเมืองท่าอย่างเรือรบหลวง ประแส ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟแห่งนี้ ร้าน U Forests Cafe เปิดให้บริการคอกาแฟ และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ สามารถเดินทางมาจิบกาแฟและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้แล้ว

องคมนตรี เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ รายอกีตอ ตอน 100 ปี หลักรัฐประศาสโนบายล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 น้อมนำ สืบสาน สู่การปฏิบัติ เพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใน จชต. มีจิตสำนึกการเป็นข้าราชการที่ดี

ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดงานจัดแสดงนิทรรศการ รายอกีตอ ตอน 100 ปี หลักรัฐประศาสโนบาย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 น้อมนำ สืบสาน สู่การปฏิบัติ โดยมี พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม มี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม และให้การต้อนรับ

กิจกรรม รายอกีตอ ตอน 100 ปี หลักรัฐประศาสโนบาย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 น้อมนำ สืบสาน สู่การปฏิบัติ จัดขึ้นสืบเนื่องจาก พื้นที่ จชต. ที่ผ่านมา ได้รับพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จากบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา และพัฒนา จชต. และได้รับการสืบสานโดย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ตลอดไป” นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อพื้นที่ จชต. ครั้นเสด็จเยือนพื้นที่ ขณะนั้นด้วยพระองค์ทรงคำนึงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประชาชน จึงพระราชทานหลักรัฐประศาสโนบาย สำหรับผู้ปฏิบัติงานราชการในมณฑลปัตตานี โดยพระราชหัตถเลขาที่ 3/74 และวันนี้ (6 กรกฎาคม 2566) บรรจบครบรอบ 100 ปี ศอ.บต. จึงจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ที่ทรงมีคุณูปการต่อ จชต. เพื่อสร้างการรับรู้คุณูปการอันใหญ่หลวงของบูรพกษัตริย์ไทย ผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ เพื่อสื่อสารให้ข้าราชการตระหนักถึงความสำคัญและน้อมนำหลักรัฐประศาสโนบายสู่การปฏิบัติ พร้อมจัดแสดงนิทรรศการรายอกีตอ ใน 5 จังหวัด และผลิตสื่อประชาสัมพันธ์สนับสนุนการจัดกิจกรรมทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีการประกวดอนาชีดและกล่าวสุนทรพจน์ ภายใต้กิจกรรม 100 ปีหลักรัฐประศาสโนบาย อีกด้วย

สำหรับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ จชต. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ดังประจักษ์แจ้งในรัชสมัยของพระองค์ โดยการเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ทรงพระราชทานเครื่องประกอบ “ลูกเสือมณฑลปัตตานี” ขึ้นเป็นการเฉพาะ เพื่อให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม การแต่งกายของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ และทรงสืบสานกิจการรถไฟต่อจากรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของทางรถไฟสายมณฑลปัตตานี ที่นำพาความเจริญในด้านต่างๆ มาสู่พื้นที่ อีกทั้ง ได้พระราชทาน หลักรัฐประศาสโนบายสำหรับผู้ปฏิบัติราชการในมณฑลปัตตานี โดยพระราชหัตถเลขา ซึ่งเวียนบรรจบครบ 100 ปี ในวันนี้ โดยในข้อ 5 เป็นแนวทางที่สำคัญต่อการบริหารจัดการและพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐ จชต. โดยมุ่งให้คนดีเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง ความว่า “ข้าราชการที่แต่งตั้งออกไปประจำตำแหน่งในมณฑลปัตตานีพึงเลือกเฟ้น แต่คนที่มีนิสัยซื่อสัตย์สุจริต สงบเสงี่ยมเยือกเย็น ไม่ใช่สักแต่ว่าไปบรรจุให้เต็มตำแหน่งหรือส่งไปเป็นทางลงโทษเพราะเลว เมื่อจะส่งไปต้องสั่งสอนชี้แจงให้รู้ลักษณะทางการอันจะพึงปฏิบัติระมัดระวังโดยหลักการที่กล่าวไว้ในข้อ 1 ข้อ 3 และข้อ 4 ข้างบนนั้นแล้ว ผู้ใหญ่ในท้องที่พึงสอดส่องฝึกฝนอบรมกันต่อๆ ไป ในคุณธรรมเหล่านั้นเนืองๆ ไม่ใช่แต่คอยให้พลาดพลั้งลงไปก่อน แล้วจึงว่ากล่าวลงโทษ”

ทั้งนี้ ในส่วนของ ศอ.บต. ได้วางกรอบ การบริหารจัดการและพัฒนาเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายพลเรือน ให้กับทุกส่วนราชการน้อมนำไปปฏิบัติ โดยกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา บรรจุในหลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้ารัฐฝ่ายพลเรือนทุกหลักสูตร อาทิ หลักสูตร การอบรมเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายพลเรือนก่อนเริ่มปฏิบัติงานใน จชต. หลักสูตรผู้นำรุ่นใหม่ใน จชต. เป็นต้น เพื่อน้อมนำหลักรัฐประศาสโนบาย สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมอบรถรับบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย และจัดกิจกรรมจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต สำหรับใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยและผู้ประสบเหตุต่างๆ ให้เพียงพอ ตามหลักคิด "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก"

วันนี้ (7 ก.ค.66) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการหลักสูตรการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหลักสูตรรวมมิตร พร้อมกลุ่มนักศึกษารวมมิตร ได้ร่วมกันมอบรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ซึ่งจัดหาจากรายได้ในการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต และแข่งขันกอล์ฟรวมมิตรสามัคคีที่ผ่านมา  ให้แก่ สภากาชาดไทย จำนวน 1 คัน โดยมีรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับบริจาคโลหิตแบบเคลื่อนที่ ลดปัญหาความขาดแคลนโลหิต สำหรับใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยและผู้ประสบเหตุต่างๆ ให้เพียงพอ ตามหลักคิด "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก"

โดยมี พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. , พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร./โฆษก ตร. ,พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี เลขานุการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 , พล.ต.ต.สุนทร อรุณนารา ผู้บังคับการสำนักงาน ก.ต.ช. และ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยกลุ่มรวมมิตร อาทิ คุณกฤษฎา จีนะวิจารณะ , คุณกนกศักดิ์ ปิ่นแสง , คุณสารัชต์ รัตนาภรณ์ ร่วมพิธี

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดกิจกรรมจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเชิญชวนข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มีที่ตั้งอยู่ใน ตร. ร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ สำหรับในส่วนของหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อโลหิตสนับสนุนภารกิจของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต ถือเป็นการทำกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นผู้ให้ โดย 1 คน จะสามารถบริจาคได้ ครั้งละ 350 – 450 ซีซี สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ถึง 3 คน การบริจาคโลหิตเป็นส่วนหนึ่งของการทำความดี เสียสละเพื่อส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้งยังเป็นการสำรองโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ และทันต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ

หลังจาก ผบ.ตร. และคณะผู้บังคับบัญชา ได้ส่งมอบรถรับบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทยเรียบร้อยแล้ว ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่มาร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ ณ จุดรับบริจาคโลหิต ห้องโถง ชั้น 1 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top