Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

'เชาว์ มีขวด' ขยับเกม นัดระดมพลคนรัก ปชป. จี้!! งดใช้ข้อบังคับพรรค ใช้สัดส่วน ส.ส.ชี้ชะตา

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงรอบสาม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Chao Meekhuad’ เรื่อง จากใจ ถึงใจ คนรัก ปชป. วันที่ 8 ก.ค.เจอกันที่ลานพระแม่ธรณีฯ พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเนื้อหาระบุว่า

หลังจากที่ได้เสนอแนวคิดในการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์โดยเรียกร้องให้สมาชิกพรรคมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมของพรรคผ่านเฟซบุ๊กไปแล้วสามครั้ง ปรากฏว่า ได้รับเสียงตอบรับจำนวนมาก จึงขอขอบคุณสมาชิกพรรคทั้งอดีตและปัจจุบันรวมทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกแต่มีความห่วงใยต่อพรรคประชาธิปัตย์ แม้ช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาบางท่านอาจจะไม่เลือกคนของพรรค แต่ก็ยังมีความห่วงใยต่อช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงถือเป็นเรื่องดีที่ทุกคนจะได้กลับมาร่วมกันพัฒนาพรรคให้เติบโตเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

มีหลายคนประสานมายังผมต้องการให้ช่วยนัดวันพบปะกันระหว่างสมาชิก เพื่อแสดงจุดยืนก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม โดยได้ข้อสรุปว่า จะนัดเจอกันในวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. ณ ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ โดยเริ่มต้นด้วยการสักการะขอพรพระแม่ธรณีบีบมวยผม ต่อจากนั้นก็จะเปิดเวทีเสวนาเล็ก ๆ เพื่อให้สมาชิกได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตลอดทั้งวัน จึงประกาศเชิญชวนทุกท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ตามวันเวลาข้างต้นครับ

“ขอยืนยันว่าการพบปะกันในหมู่คนรักพรรค ปรารถนาที่จะเห็นการฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นสถาบันทางการเมืองในครั้งนี้ มิได้มีวาระซ่อนเร้นเพื่อผลักดันใครเป็นหัวหน้าพรรค แต่ต้องการเห็นพรรคกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องในทางการเมือง เปิดโอกาสให้ทุกเสียงในที่ประชุมใหญ่ ได้ร่วมชี้ชะตากำหนดอนาคตพรรค ด้วยการงดเว้นการใช้ข้อบังคับที่กำหนดให้ สัดส่วนของ ส.ส.คิดเป็น 70 % ขององค์ประชุมทั้งหมด เป็นทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน ผมเชื่อว่าถ้าลดเพดานความอยากลง หลายคนจะเห็นความจริงตรงหน้ามากขึ้นว่า หัวหน้าพรรคคนต่อไปมีความสำคัญต่อพรรค มากกว่าการเป็นหุ่นเชิดให้ใครใช้เพื่อก้าวสู่อำนาจเท่านั้น

‘ทนายเชาว์’ ขย่มครั้งที่สองเสนอให้พรรคงดใช้ข้อบังคับพรรคในที่ประชุมใหญ่ ข้อที่กำหนดให้น้ำหนักกับ ส.ส.ถึง 70% ในการลงคะแนน ทนายเชาว์จึงเสนอให้งดใช้ขัอบังคับพรรคข้อนี้ และให้ทุกคนมีเสียงเท่ากับ 1 คน 1 เสียง และเปิดฉากที่สามด้วยการนัดแฟนพันธุ์แท้ของประชาธิปัตย์เจอกันวันเสาร์นี้ ก่อนการประชุมใหญ่ 1 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคทั่วไป ที่ยังรักพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงพลัง แสดงความคิดเห็นกันทั้งวันบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม

‘น้าหงา’ แนะ ‘พิธา’ ลบทวีตชวน ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ทัวร์ไทย ชี้!! เป็นตรรกะที่งี่เง่า ศิลปินจะเดินสายที่ไหนเป็นเรื่องของธุรกิจ

(7 ก.ค. 66) ภายหลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์พร้อมกล่าวถึง ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ศิลปินและซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง มาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เพราะตอนนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มตัวแล้วนั้น

ล่าสุด นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ ‘หงา คาราวาน’ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘สุรชัย จันทิมาธร’ ระบุว่า…

“เกิดอะไรขึ้น? ผมก็ดูโคลด์เพลย์ จอห์น เมเย่อร์ กันแอนด์โรส หรืออะไรมากมายหลายวงในยุคเผด็จการที่คุณว่านะครับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เธอรังเกียจเผด็จการดังที่คุณกล่าวว่าจริงๆ หรือ? จึงไม่อยากมาเมืองไทย หรือว่าเป็นเรื่องธุรกิจการจัดการของสายทัวร์ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ศิลปินขึ้นอยู่กับผู้จัดการ (ยกเว้นกรณีวงเล็กๆ อย่างผม) ลบเถอะครับทวีตนี้ คุณพิธา มันดูเป็นตรรกะที่ทำให้ดูงี่เง่านะครับ”

'อ.อ๊อด' ชี้!! ทางเลื่อนสนามบินสุวรรณภูมิปลอดภัยมาก ส่วนที่ดอนเมืองน็อตยึดหลุดเกือบหมดตอนเกิดเหตุ

เมื่อวานนี้ (6 ก.ค. 66) รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด จาก จากภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ประชุมวันนี้ที่ดอนเมือง มีความคืบหน้า 80% สรุปสั้น ๆ คืออุบัติเหตุ

โดยแผ่นเพลทหลุดออกจากรางสี่เหลี่ยมโดย น๊อตตำแหน่งที่ A B C ไม่สามารถยึดแผ่นเพลท ในขณะม้วนลงที่ตำแหน่งสิ้นสุดทางเลื่อนไว้ได้ เหลือเพียง ตำแหน่ง D ที่ยึดไว้แล้วห้อยแผ่นเพลทโตงเตงอยู่ด้านล่างเลื่อนไป 10 วินาทีจนเซพตี้สวิตทำงาน ทางเลื่อนจึงหยุด

ในขณะ 10 วินาทีที่ทางเลื่อนพยายามดันไปข้างหน้าขาของผู้โดยสารที่หย่อนลงไปที่ตำแหน่ง E ก็ถูกดันไปเรื่อย ๆ ไปกระแทกกับขอบโลหะที่มีความหนาเกือบ 1 เซนติเมตร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาด

หวีสีเหลืองยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ถึงแม้ไม่มีหวี ก็ไม่มีโอกาสที่ขาจะหลุดลงไปขนาดนั้น อาจารย์อ๊อดเสนอให้มีการจำลองเหตุการณ์อีกครั้งและจะมีการประชุมอีกไม่เกินสองครั้งทาง ทอท. ก็จะแถลงข่าว

ในเบื้องต้นผู้บริหารระดับสูงทุกฝ่ายยอมรับว่า เป็นอุบัติเหตุ และขอรับผิดชอบทุกประการและจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทางเลื่อนนี้ติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2530 และมีเซพตี้สวิตทั้งหมดห้าจุด ปัญหาหลัก ๆ คือมันเก่า และได้ตั้งงบประมาณเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแล้ว

ทางเลื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นตัวท็อปที่ปลอดภัยมากเพียงแค่สายรองเท้าเกี่ยวเครื่องก็หยุดทันที ขอให้ปลอดภัยและขอให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี”

บริษัทรถไฟญี่ปุ่นจ่อใช้ ‘กระจกแปลภาษา’ ในห้องขายตั๋ว ช่วยพนักงานตอบโต้ นทท.ต่างชาติ ได้สะดวก-ราบรื่นขึ้น

เมื่อไม่นานมานี้ สื่อญี่ปุ่น​รายงาน​ว่า บริษัท เซบุเรลเวย์ (Seibu Railway Co.)​ ได้เปิดตัวระบบแปลคำพูดโดยอัตโนมัติแสดงคำที่แปลแล้วบนหน้าจอโปร่งใส

ระบบดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ดำเนินการรถไฟตอบสนองได้อย่างราบรื่นต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากการตกต่ำในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ระบบนี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทการพิมพ์รายใหญ่อย่าง Toppan Inc. หน้าจอโปร่งใส ผู้โดยสารสามารถมองเห็นพนักงานประจำสถานีได้ ในขณะที่การสนทนาระหว่างกัน จะถูกแปลและแสดงผลขึ้นเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ สามารถรองรับภาษาต่างประเทศได้ถึง 12 ภาษา รวมถึง ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนด้วย

และวันพุธ (5 ก.ค.) ที่ผ่านมา ที่สถานี เซบุชินจูกุ​ (Seibu Shinjuku)​ ในโตเกียว พนักงานสถานี​ ได้ทดสอบระบบถามพนักงานสถานีด้วยภาษาต่างชาติ​ โดยด้านหลังหน้าจอโปร่งใสแสดงเป็นภาษาอังกฤษที่พูดว่าจะซื้อตั๋วได้ที่ไหน ที่แปลเป็นภาษาญี่ปุ่นแสดงอยู่ด้านฝั่งหน้าจอของพนักงานสถานี

ทั้งนี้บริษัท เซบุเรลเวย์ ตั้งเป้าจะติดตั้งระบบดังกล่าวตามสถานีรถไฟต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงปลายปีนี้

‘อั้ม พัชราภา’ สุดเศร้า หลังสูญเสียคุณยายผู้เป็นที่รัก เผย วันเสาร์นี้กำลังจะไปหาแล้ว แต่ไม่ทันได้เจอ

(7 ก.ค. 66) กราบลาสุดอาลัย ‘อั้ม พัชราภา’ สุดเศร้าสูญเสียคุณยาย เผย วันเสาร์นี้กำลังจะไปหาเลย ไม่ทันได้เจอ ไฮโซพก ก็มาร่วมแสดงความเสียใจด้วย

‘อั้ม พัชราภา’ นางเอกซุปตาร์โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม หลังสูญเสียคุณยายที่รัก โดย ได้โพสต์ภาพคู่กับคุณยายพร้อมเขียนข้อความสุดเศร้า กราบลาคุณยายที่จากไปในวัย 98 ปี ทั้งๆ ที่ตนกำลังจะไปหาอยู่แล้วด้วยว่า…

“กราบลานะคะคุณยาย วันเสาร์นี้กำลังจะไปหาเลย ไม่ทันได้เจอ รักนะคะ เจอคุณตาแล้วใช่ไหม #คุณยายอายุ 98 ปี 6 เดือน 4 วัน เป็นคุณยายที่ใจดีที่สุด”

โดยมีเพื่อนพี่น้องคนบันเทิงต่างเข้ามาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก ทั้ง หน่อย บุษกร, นก จริยา, เข้ม หัสวีร์, แหวนแหวน เป็นต้น รวมทั้ง ประธานวงศ์ พรประภา หรือ ‘ไฮโซพก’ อดีตคนรักก็เข้ามาคอมเมนต์เป็นอิโมจิร่วมแสดงความเสียใจด้วยเช่นกัน

‘ส.ว.สมชาย’ ยัน 250 ส.ว. ยึดถือพระราชดำรัสในหลวง มุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย

(7 ก.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย

วุฒิสภาชุดที่ 12 มาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนี้ 
1) ตามตำแหน่ง 6 คน 
2) สรรหาตรงจากคณะกรรมการสรรหา 194 คน 
3) สรรหาจากการเลือกกันเองทั่วประเทศ 50 คน

สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา 269 ตามรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากสมาชิกวุฒิสภาในอดีต ทั้งรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ที่มาจากการเลือกตั้งโดย และสรรหา ผสมเลือกตั้ง เมื่อได้ครบตามจำนวนแล้ว มีแค่การประกาศรับรองโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น มิได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเช่นสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้

ดังนั้นสมควรอย่างที่สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน จักได้น้อมนำพระราชดำรัสในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2566

‘สตาร์บัคส์’ ลั่น!! เปิดร้านในไทยให้ได้ 800 สาขาในปี 2030 พร้อมตั้งเป้าขยายร้านกาแฟชุมชนให้ครบ 8 แห่งภายในปีเดียวกัน

ไม่นานมานี้ ‘เนตรนภา ศรีสมัย’ กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การเดินทางกว่า 25 ปีของสตาร์บัคส์ ประเทศไทย ทำให้แบรนด์มีร้านสาขาทั่วประเทศถึง 465 สาขา เป็นสาขาหลัก 396 สาขา, ไดรฟ์ทรู 56 สาขา และสตาร์บัคส์รีเสิร์ฟ 13 สาขา 

“สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ซึ่งมีพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) กว่า 4,300 คนที่ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์สตาร์บัคส์ในทุกวัน ให้บริการลูกค้ามากกว่า 800,000 คนในทุกสัปดาห์ ยังคงเดินหน้าในการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับลูกค้าและชุมชน พร้อมมองหาโอกาสในการสร้างสัมพันธภาพที่มากขึ้นผ่านแก้วกาแฟ”

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านสาขาจนครบ 800 แห่ง พร้อมกับร้านกาแฟเพื่อชุมชนครบ 8 แห่งภายในปี 2030 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเร่งการเติบโตในไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีพลวัตมากที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการกระชับความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สำหรับร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน (Starbucks Community Store) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นร้านสาขาที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พาร์ทเนอร์ สามารถเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมกับชุมชนในรูปแบบเฉพาะ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละร้านสาขา

และล่าสุดสตาร์บัคส์ได้เปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนสาขาที่ 2 ที่ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยรายได้ 10 บาทจากการจำหน่ายกาแฟทุกแก้ว จะได้รับการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกันให้แก่ 2 องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

ซึ่งได้แก่ มูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation – ITDF) และ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance – SOS)

นอกจากนี้ ร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งใหม่นี้ ยังสอดคล้องกับพันธกิจของสตาร์บัคส์ที่จะเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนให้ได้ทั้งหมด 1,000 แห่งทั่วโลกภายในปี 2030 ด้วย

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย บอกว่า เหตุผลที่เลือกไอคอนสยามเป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งที่ 2 ต่อจากสาขาแรกที่หลังสวน เนื่องจากสาขาไอคอนสยามเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนั่นหมายถึงเกิดโอกาสที่จะมีรายได้ไปแบ่งปันให้กับชุมชนมากขึ้นด้วย

“ร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งใหม่ที่ไอคอนสยามนี้ สะท้อนคำมั่นสัญญาของแบรนด์สตาร์บัคส์ในการสร้างความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัดเพื่อการเชื่อมโยงสัมพันธภาพระหว่างผู้คน และการก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย” เนตรนภา กล่าวเสริม

AOT จ่อใช้ระบบสแกนใบหน้าขึ้นเครื่อง ยกระดับการบิน ไม่ต้องโชว์ ‘ตั๋ว - บัตรปชช.’

AOT เตรียมใช้การสแกนใบหน้า แทนโชว์ ‘ตั๋ว - บัตรประชาชน’ ยกระดับด้านบริการ นำร่องเปิดใช้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ - ดอนเมือง ภายในปี 2567

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า AOT อยู่ในระหว่างผลักดันและพัฒนาระบบ Biomatic เข้ามาใช้ในท่าอากาศยาน โดยจะมีระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (automated biometric identification system) เทคโนโลยี facial recognition (สแกนใบหน้า) เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร หลังผู้โดยสารเช็กอินผ่านเคาน์เตอร์, ผ่านระบบมือถือ หรือเครื่องเช็คอินอัตโนมัติ 

หลังจากนั้นระบบ biometric จะนำข้อมูลใบหน้าผู้โดยสารมาสร้างเป็นข้อมูล One ID เก็บไว้ ส่งผลให้ผู้โดยสารสามารถเข้าใช้บริการจุดต่าง ๆ ภายในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็น จุดตรวจค้นสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ณ ประตูทางออกขึ้นเครื่องได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้การยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนคู่กับ boarding passอีกต่อไป

ผู้โดยสารที่มาเช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอินปกติ หรือที่เครื่อง CUSS หากผู้โดยสารให้การยินยอมใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ระบบ biometric จะนำข้อมูลใบหน้าผู้โดยสารผสานรวมกับข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร สร้างเป็นข้อมูลสำหรับใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตน เรียกว่าข้อมูล One ID

เมื่อดำเนินการสำเร็จ ผู้โดยสารจะใช้เพียงใบหน้าสแกนเพื่อโหลดกระเป๋าสัมภาระที่เครื่อง CUBD รวมถึงใช้ยืนยันตัวตนแทนการใช้ boarding pass ณ จุดตรวจค้น และในขั้นตอนการตรวจบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ณ ประตูทางออกขึ้นเครื่องด้วย โดยทุกขั้นตอนไม่ต้องแสดงหลักฐานตั๋วโดยสารและบัตรประชาชน

โดยระบบ biometric ใช้เวลาน้อย มีความแม่นยำสูง และช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวในการตรวจสอบแต่ละจุดให้บริการ ซึ่งขณะนี้ AOT ได้ติดตั้ง พัฒนาและอยู่ระหว่างทดสอบระบบร่วมกับสายการบิน คาดว่าจะมีความพร้อมให้บริการในช่วงกลางปี 2567

อีกหนึ่งประโยคปลุกความกล้าและสร้างแรงบันดาลใจจาก แองเจลิน่า โจลี่ แด่ผู้หญิงทั่วโลก

อีกหนึ่งประโยคปลุกความกล้าและสร้างแรงบันดาลใจจาก แองเจลิน่า โจลี่ แด่ผู้หญิงทั่วโลก

หากผู้ชายคาดหวัง ให้ผู้หญิงเป็นนางฟ้าในชีวิตเขา เขาต้องสร้างสวรรค์ให้นางก่อน เพราะนางฟ้าไม่ได้อยู่ในนรก

If a man expects a woman to be an angel in his life. He must first create heaven for her first because angels don’t live in hell.

เด็กน้อยชั้น ป.2 เก็บเงินวันละ 60 บาท เพื่อมากินชาบู เจ้าของร้านใจดีลดราคาให้ ชาวเน็ตแห่ชม-ชวนกันอุดหนุน

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 66 โลกออนไลน์ในจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอน่ารักๆ โดยในคลิปเป็นเด็กนักเรียน 2 คน มานั่งรับประทานชาบูที่ร้านชาบูแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้โพสต์คือ ‘Thippanat Thongrod’ ผ่านโซเชียล TikTok โดยระบุว่า…

“วันนี้ไปกินชาบูกับแฟน ไปโต๊ะแรก สักพักมีน้อง 2 คนเดินเข้ามา น้องบอกว่ามากินชาบู พี่ๆ ในร้านเห็นน้อง 2 คนตัวเล็กมาก เลยถามมีเงินคนละเท่าไร น้องบอกมีคนละ 400 บาท พี่ๆ น่าจะโทรหาเจ้าของร้าน ที่น่ารักคือ เจ้าของร้านคิดน้องแค่คนละ 200 บาท จากคนละ 289 บาท ถ้าฟังไม่ผิด แถมยังรีฟิลน้ำอัดลมอีก ซึ่งปกติราคา 289 บาท ได้แค่น้ำชามะลิ น้ำหวานแถม พี่ๆ ในร้านคือ บริการน้องดีมาก ใส่ใจดูแล คอยถามตลอด พี่ๆ ถามว่า น้องๆ เรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว น้องบอก ป.2 เก็บเงินวันละ 60 บาท ไว้มากินชาบู #ความน่ารักของเด็กๆ #ความน่ารักของพี่ๆ #shabushabubyphuketboi น้องในคลิปและพี่ๆ พนักงานนะคะ”

จากนั้นได้มีการแชร์คลิปดังกล่าวกันไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับแสดงความคิดเห็น เช่น

“ร้านชาบูนี้อยู่ที่ไหน จะไปกิน”
“เจ้าของใจดีมาก”
“ร้านนี้ดีค่ะ แถมพนักงานน่ารักมากกกกก บริการดียิ้มแย้มแจ่มใส”
“ร้านนี้เถ้าแก่ใจดีอยู่แล้วครับ เพราะว่าผมไปกินบ่อย”
“เด็กๆ รู้จักอดออม เจ้าของร้านก็มีน้ำใจ น่าชื่นชมทั้งคู่เลยค่ะ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปยังร้านชาบูดังกล่าว ชื่อร้าน ‘ชาบูชาบู’ ตั้งอยู่ตรงข้ามคริสต์จักร ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ชาบู โดยเจ้าของร้านชื่อ ‘คุณนิ่ม’ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนนั้นกำลังไปซื้อของเข้าร้านเพิ่มเติม จากนั้น น้องๆ ที่ร้านได้โทรมาแจ้งว่า มีน้องๆนักเรียนมาทานชาบู แต่มีเงินคนละ 200 บาท โดยทั้งสองคนเก็บเงินกันวันละ 60 บาท เพื่อมาทาน ตนเองจึงลดราคาให้จาก 289 เหลือคนละ 200 บาท แถมน้ำฟรีตลอด จนกระทั่งมาเห็นคลิปที่มีลูกค้าถ่ายไว้ รู้สึกปลื้มใจที่น้องๆ อุตส่าห์เก็บออมเงินกันมาทานชาบู


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top