Tuesday, 6 May 2025
NewsFeed

'อ.ต่อตระกูล' ชี้!! ความล้ำหน้าใหม่ทางอวกาศ เนรมิตโรงแรมนอกโลกได้ภายใน 6 เดือน

(10 ก.ค. 66) รองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ วิธีการสร้างสถานีอวกาศ ขนาดยักษ์ ด้วยระบบ SARGON โดยมีใจความว่า ...

วิธีสร้างสถานีอวกาศ ขนาดยักษ์ ด้วยระบบ SARGON ( The Space Automation & Robotics General cONtroller ) จะสร้างเสร็จได้ใน 6 เดือน 

หลักการใหญ่ของระบบ คล้ายคลึงกับ ระบบสลิปฟอร์ม ที่ใช้แบบเทคอนกรีตช่องลิฟท์อาคารสูง แบบที่แบบฟอร์มจะเลื่อนขึ้นสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ แต่ต่างกันทั้งวัสดุและรายละเอียด โดยระบบ Sargon ตัวแบบจะลอยอยู่แล้วผลิตชิ้นส่วนโลหะของสถานีอวกาศต่อออกไปเป็นทรงท่อกลวงโค้งจนครบเป็นสถานีอวกาศรูปวงแหวน (Torus-type station) ที่จะจุผู้มาท่องอวกาศได้ถึง 1,000 คน รวมนักบินและลูกเรืออีก 200 คนได้

บริษัท GATEWAY SPACEPORT ผู้เสนอโครงการก่อสร้างนี้ เสนอว่าระบบนี้จะสร้างได้รวดเร็ว และค่าก่อสร้างไม่สูง จึงคุ้มค่าทางธุรกิจที่จะลงทุนสร้างใช้เป็นโรงแรมลอยตัวชมวิวอวกาศนอกโลก ในราคาคนละ 500,000 $ US ที่จะมีลูกค้ามาต่อคิวจองห้องพักมากมาย

‘อดีตผู้สื่อข่าวสายวัง’ เล่ามุมมองความรัก ‘เจ้าชายวิลเลียม-เจ้าหญิงเคท’ ชี้ ฝ่ายหญิงเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่เจ้าชาย 'ไม่เคยมี' ในชีวิตราชวงศ์

(10 ก.ค. 66) คู่สามีภรรยาที่มีชาติกำเนิดแตกต่างกันมาก บางครั้งความต่างที่หลายคนมองว่าอาจเป็น ‘อุปสรรค’ กลับกลายเป็นการ ‘เติมเต็ม‘ ให้กัน เหมือนที่ ‘เจนนี บอนด์’ อดีตผู้สื่อข่าวสายราชวงศ์ของสำนักข่าวบีบีซี มองคู่ของเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ หรือ เคท มิดเดิลตัน พระชายา ว่า ฝ่ายหญิงซึ่งมาจากสามัญชนได้เข้ามาเติมเต็ม ให้ทุกสิ่งที่เจ้าชายวิลเลียม ไม่เคยมีในชีวิตราชวงศ์ของพระองค์

บอนด์ ในวัย 72 ปี ให้ความเห็นว่า ทั้งเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชา พระโอรสทั้ง 2 ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร กับ เจ้าหญิงไดอานา อดีตพระชายา ซึ่งสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2540 ต่างเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่มีความแข็งแรงทางอารมณ์ อย่างที่รู้กันว่าชีวิตคู่ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กับ เจ้าหญิงไดอานา ไม่ได้ราบรื่นและลงเอยด้วยการหย่า ก่อนเจ้าหญิงไดอานาจะประสบอุบัติเหตุ กระทั่งสิ้นพระชนม์

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เคทได้ให้ทุกสิ่งที่เจ้าชายวิลเลียมไม่เคยได้ในชีวิตครอบครัวของพระองค์เอง ทั้งความรัก การเป็นคู่ชีวิตที่ผูกพันลึกซึ้ง มิตรภาพที่มีรากฐานแข็งแรง ความหลงใหล การเคารพซึ่งกันและกัน และยังขยายไปถึงความสัมพันธ์ที่ลงตัว มีความสุขกับพ่อตาแม่ยาย” บอนด์ให้สัมภาษณ์นิตยสารโอเค

อดีตนักข่าวของบีบีซี เล่าว่าทั้ง ไมเคิล และ แคโรล มิดเดิลตัน พ่อแม่ของเคท มิดเดิลตัน หรือ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ต่างรักเจ้าชายวิลเลียม และปฎิบัติต่อพระองค์เหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว “เจ้าชายวิลเลียมสามารถผ่อนคลายเมื่ออยู่กับไมเคิลและแคโรล สามารถไว้ใจบุคคลทั้งสอง และสามารถเป็นตัวของพระองค์เองในแบบที่ทรงสามารถทำได้กับคนอื่นเพียงไม่กี่คน”

เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงแคทเธอรีน พระชายา ทรงรู้จัก และพบรักกันตั้งแต่เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ในสกอตแลนด์ เคยเลิกคบเป็นแฟนกันไประยะหนึ่ง ก่อนจะหวนกลับมาคบกันใหม่ และประกาศหมั้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนปี 2553 จากนั้นทรงเข้าพิธีเสกสมรสเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2544 

เป็นเวลา 12 ปีแล้ว ที่ทั้งสองพระองค์ทรงครองชีวิตคู่ ช่วยกันเลี้ยงดูพระโอรส พระธิดาทั้ง 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์โต พระชันษา 9 ปี เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระชันษา 8 ปี และเจ้าชายหลุยส์ พระชันษา 5 ปี เติบโตอย่างมีความสุข เป็นที่รักที่เอ็นดูของแฟนคลับราชวงศ์อังกฤษทั่วโลก

ระหว่างให้สัมภาษณ์นิตยสารดัง ‘เจนนี บอนด์’ มองว่า “ทุกวันนี้เจ้าชายวิลเลียมทรงใกล้ชิดกับพระบิดามากขึ้น แต่ฉันคิดว่าสุภาพสตรีอีกคนที่ช่วยให้เจ้าชายวิลเลียมทรงเป็นผู้ชายเหมือนที่ทรงเป็นอยู่ ก็คือควีนเอลิซาเบธที่ 2 สมเด็จย่าของพระองค์ที่สิ้นพระชนม์จากไปแล้ว ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมเคยบอกอยู่เสมอว่า เป็นผู้ที่อยู่ในชีวิตของพระองค์ทั้งช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด และเศร้าที่สุดในชีวิต”

‘มาย ภาคภูมิ’ ติด TOP10 คนดังสร้างมูลค่าสื่อสูงสุดระดับโลก มูลค่ากว่า 88 ลบ. จากงาน Menswear Spring Summer 2024

ปังสมกับตำแหน่ง House Ambassador ของ DIOR ประเทศไทย สำหรับ มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ที่ล่าสุดกับการปรากฏตัวในงาน Menswear Spring Summer 2024 ด้วยชุดคอลเลกชันใหม่ล่าสุด ฝีมือการสร้างสรรค์ของ Kim Jones ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมา 

ล่าสุด ‘มาย ภาคภูมิ’ ได้ปรากฏการณ์สะเทือนวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง เมื่อแพลตฟอร์มออนไลน์การตลาด และอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังของวงการลักชัวรีอย่าง ‘Lefty’ ได้เปิดผลจากการจัดอันดับ ‘ค่า EMV Rankings’ ของนักแสดง ศิลปิน อินฟลูเอ็นเซอร์ที่เข้าร่วมปรากฏตัวแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ ผลปรากฏว่า มาย ภาคภูมิ นักแสดงไทยเพียงหนึ่งเดียว ที่ติดอันดับท็อปสิบผู้ที่ครองมูลค่าสื่อสูงที่สุดระดับโลก โดยมีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้าน USD หรือราว 88 ล้านบาท โดยมีศิลปินระดับโลกอย่าง NCT, จีมิน BTS, แจ็คสัน หวัง และ ชาอึนอู รวมอยู่ในอันดับครั้งนี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามกระแสตอบรับของ มาย ภาคภูมิในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จระดับโลกของศิลปิน นักแสดงไทย ที่สามารถสร้างอิทธิพลและฐานแฟนคลับไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นการยกระดับวงการบันเทิงไทยแบบก้าวกระโดด และเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมั่นใจในผลงานภาพยนตร์ไทยระดับ Masterpiece ที่นำเสนอมิติใหม่ของความเป็นไทยอย่าง ‘แมนสรวง’ นำแสดงโดย มาย ภาคภูมิ - อาโป ณัฐวิญญ์ จากบริษัท บี ออน คลาวด์ ที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก และมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และมีแผนการเข้าฉายในประเทศต่าง ๆ ว่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ และสร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศไทย ไปสู่ทุกพื้นที่ทั่วโลกได้ไม่ยาก

‘สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ’ แจ้งข่าวดีชาวสุไหงโก-ลก  ดันสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสำเร็จ

(10 ก.ค. 66) นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าพี่น้องประชาชนใน อ.สุไหงโก-ลก นราธิวาส และพี่น้องชาวรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย ได้รับข่าวที่ทางรัฐบาลไทยสามารถผลักดันสร้างโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 สุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งสินค้า และบุคคลข้ามพรมแดน ซึ่งถือว่าเป็นการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยมีแผนการดำเนินงานโครงการดังกล่าวนี้ตามแผนระยะเวลา 5 ปี คือ พ.ศ. 2565 - 2569 ทั้งนี้ ตนพร้อมจะสนับสนุน ผลักดันทุกๆ โครงการ และต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวนราธิวาส 

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกหนี่งโครงการที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ก็คือ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มหัตถกรรม หรือเย็บปักถักร้อย ล้วนแล้วแต่สร้างรายได้ ซึ่งผมให้ความสำคัญกับสตรี และเยาวชน เพราะสตรีคือลมใต้ปีกของทุกๆ องค์กรที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรนั้นๆไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยตนพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนและทุกครัวเรือน

“ทุกข์เสียงจากพี่น้อง ผมเองก็เป็นทุกข์เช่นกัน การพัฒนามนุษย์ที่ยั่งยืน คือการให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผมเองพยายามผลักดันทุกๆ โครงการในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคลายความทุกข์ร้อนของพี่น้องอยู่เสมอๆ และหลังจากนี้ ผมพร้อมที่จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องทุกๆ ท่าน เพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวนราธิวาสต่อไป”

‘แอนนา เสือ’ สะกดทุกสายตา!! ในลุค ‘ชุดแต่งงาน’ ไทยสากล ของห้องเสื้อชื่อดัง ‘วนัช กูตูร์’ ที่ได้รังสรรค์ผลงานนี้ออกมา

(10 ก.ค. 66) กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดคอลเลกชันชุดแต่งงานจากห้องเสื้อชื่อดังสุดหรู ‘วนัช กูตูร์’ ที่ครั้งนี้ได้รังสรรค์ผลงานออกมาได้สวยยืนหนึ่งสะกดทุกสายตาภายใต้คอนเซ็ปต์ “La beauté à l'échelle cosmique.” ที่ได้นางแบบความสวยระดับจักรวาล อย่าง ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ (Miss Universe Thailand 2565) มาสู่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดแต่งงานทั้งไทยและสากลที่เหมาะกับเจ้าสาวแต่ละคน อีกทั้งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของเจ้าสาวผู้สง่างามและอ่อนหวาน เป็นอีกหนึ่งคอลเลกชันที่สามารถถ่ายทอดความงดงามและความโรแมนติกไว้ได้ในหนึ่งเดียว รวมไปถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ที่โดดเด่นในเรื่องของความพลิ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติของชุดเดรสที่ตัดเย็บจากผ้าชีฟอง ผ้าไหม ผ้าซาติน และลวดลายที่ประดับด้วยคริสตัลจาก สวารอฟสกี้ ช่วยเสริมให้เจ้าสาวสวมใส่ชุดแต่งงานนี้ได้อย่างมั่นใจและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เฉิดฉายและดูหรูหราน่าถูกจับตามองมากที่สุดในวงการเวดดิ้งตอนนี้

สามารถติดตามผลงานชุดวิวาห์ของทางห้องเสื้อ ‘วนัช กูตูร์’ ได้ผ่านช่องทาง facebook.com/vanuscouture  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-0024895, 02-0024896, 086-491-5445 และ  Line: @ vanuscouture

กาแฟไทยสูตรโบราณ ร้านตำนาน จากเชียงใหม่  สูตรเข้มข้นครึ่งศตวรรษ ฟินได้แล้วที่ไอคอนสยาม

(10 ก.ค. 66) ‘ลุงเงินกาแฟหม้อดิน’ ร้านกาแฟโบราณในตำนานจากเมืองเชียงใหม่ ที่เสิร์ฟความฟินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ กรรมวิธีดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น อาทิ การคั่วเมล็ดกาแฟในหม้อดิน ตำด้วยครก และการชงเครื่องดื่มต่างๆ ด้วยน้ำใบเตย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ สายหวานคนไหนอยากลองจิบ ก็สามารถไปชิมกันได้ที่ไอคอนสยาม โซนสุขสยาม บริเวณชั้น G 

โดยเมนูที่อยากให้ลองแบบไม่ควรพลาดเลยก็คือ กาแฟหม้อดิน หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ‘กาแฟโบราณ’ กาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ผสมผสานกับน้ำต้มใบเตยหอมๆ และนมสดสูตรลับความอร่อยมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ สู่รุ่นคุณลูก

แล้วก็มาต่อกันด้วย ชานมหม้อดิน เครื่องดื่มที่กำลังเป็นที่นิยม ชาไทยรสเข้มกำลังดี ผสมกับน้ำต้มใบเตย และนมสดสูตรเฉพาะ รวมแล้วเป็นรสหวานมันกลมกล่อมกำลังดี

ตามด้วย นมอัญชัน เครื่องดื่มอีกเมนูที่มีสีสันสวยงามน่าลิ้มลอง ที่เกิดจากการรวมตัวของน้ำอัญชันสีน้ำเงิน และนมสด รสชาติดีมาก ลงตัวด้วยความหวานมัน และความหอมแบบสุดๆ

ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม แต่แนะนำให้รีบไปตั้งแต่ตอนเช้าเลย เพราะถ้าสายลูกค้าจะเยอะมาก อาจจะต้องรอต่อคิวกันนาน

มข. ลงนามบันทึกข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันพร้อมเปิดสถาบัน The KKU-SWJTU Tianyou Railway Institute ร่วมกับ SWJTU สาธารณรัฐประชาชนจีนเดินหน้าหลักสูตร High Speed Train Engineering

ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกับ Southwest Jiaotong University (มหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์เจียวทง) สาธารณรัฐประชาชนจีนจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดตั้งสถาบัน The KKU-SWJTU Tianyou Railway Institute พร้อมจัดพิธีเปิดสถาบันณคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ภายในงานได้รับเกียติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นMs.Yang Ning รักษาการกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยณจังหวัดขอนแก่นรศ.นพ.ชาญชัยพานทองวิริยะกุลอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น Prof. Yao Faming รองอธิการบดี Southwest Jiaotong University (SWJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีนผู้บริหารTianyou Railway Institute และ China Railways International Thailand อุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MoA) ในการจัดตั้งสถาบันThe KKU-SWJTU Tianyou Railway Institute

รศ.นพ.ชาญชัยพานทองวิริยะกุลอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวว่ากระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความร่วมมือทางวิชาการและวิจัยระดับประเทศด้านรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train) เพื่อรองรับยุทธศาสตร์การคมนาคมในภูมิภาคร่วมกับ Southwest Jiaotong University (SWJTU) 

ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอินโดจีนสามารถเชื่อมโยงไปสู่ประเทศต่างๆในอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกทั้งHigh Speed Train ยังเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลไทยอีกด้วย

“มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของพันธกิจและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สำคัญของชาติด้านรถไฟความเร็วสูงจึงกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อผลิตบัณฑิตด้านวิศวกรรมศาสตร์รถไฟความเร็วสูงร่วมกับมหาวิทยาลัยSouthwest Jiaotong (เจียว-ทง) ภายใต้ชื่อหลักสูตร “วิศวกรรมรถไฟความเร็วสูง”หรือ “High Speed Train Engineering” เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมและก่อตั้งสถาบันKKU-SWJTU Tianyou (เจียว-ทง) Railway Institute ณคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อจัดฝึกอบรมให้ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านรถไฟความเร็วสูง”

Prof. Yao Faming รองอธิการบดี Southwest Jiaotong University (SWJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีนกล่าวว่า ระบบรางรถไฟไทย-จีนเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” one belt one road)เป็นการเชื่อมโยงระหว่างประเทศในแถบคาบสมุทรอินโดจีน โดยเฉพาะระหว่างไทยและจีนถือเป็นถนนสายหลักและกุญแจสำคัญ ด้วยความก้าวหน้าของนโยบาย one belt one road ส่งผลให้ไทยและจีนมีโอกาสมากขึ้นในการผลักดันและพัฒนาการขนส่งระบบราง

มหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์เจียวทงในฐานะสถาบันอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมแห่งแรกของประเทศจีน และเป็นสถานศึกษาด้านของการรถไฟแห่งแรก ๆ ของประเทศจีน ได้ขับเคลื่อนงานด้านวิศวกรรมมาตลอด 127 ปี ผลิตผู้มีความรู้ความสามารถกว่า 300,000 คน และได้ผลิตนักวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศกว่า 60 คน และผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจและออกแบบทางวิศวกรรมระดับประเทศอีก 31 คน เพื่อก้าวจากอันดับหนึ่งของจีนสู่อันดับหนึ่งของโลก โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงของประเทศจีน ถือเป็นการสร้างต้นแบบนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมการขนส่งของจีน


“การก่อตั้งสถาบันระบบรางเทียนโย่ว โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์เจียวทงจะก่อเกิดคุณประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย นำเอาจุดเด่นของแต่ละมหาวิทยาลัย หลอมรวมเป็นการแลกเปลี่ยนทางการศึกษารูปแบบใหม่ระหว่างจีน-ไทย”

ขณะที่ รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความร่วมมือทางวิชาการและวิจัยด้านหลักสูตรรถไฟความเร็วสูงอย่างแน่นแฟ้นและมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Southwest Jiaotong University มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เพื่อร่วมพัฒนาหลักสูตร “วิศวกรรมรถไฟความเร็วสูง” (High Speed Train Engineering)มาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ขับเคลื่อนการผลิตบัณฑิตด้านวิศวกรรมรถไฟความเร็วสูง ในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน Ms. Yang Ning รักษาการกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสักขีพยานในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ  สถาบันTianyou Railway Instutiueในต่างประเทศแห่งแรกของโลก ในปีนี้เป็นปีครบรอบ 10 ปีของการริเริ่มแบบแผนโครงการเส้นทางสายไหมใหม่แห่งศตวรรษที่ 21“一带一路” (หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง)  

การจัดตั้ง "สถาบัน Tianyou Railway Instutiue"  จึงนับเป็นโอกาสอันดี ในการสร้างนวัตกรรมร่วมกัน ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้แก่ผู้เรียนในภูมิภาคประเทศไทยและเอเชียได้พัฒนาทักษะศักยภาพ เสริมสร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถด้านรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้  " จีน-ไทย กลายเป็น ครอบครัวเดียวกัน"  และเพื่อให้ทั้งสองประเทศ  กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น 


ทั้งนี้ สำหรับพิธีลงนามการจัดตั้งและเปิดศูนย์The KKU-SWJTU Tianyou Railway Institute  และหลักสูตร  (High Speed Train)  ในครั้งนี้มีข้อตกลงสำคัญ เพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการวิจัยร่วมกัน แลกเปลี่ยนเยี่ยมชม และฝึกอบรมด้านการขนส่งทางรางแลกเปลี่ยนบุคลากรและนักศึกษาทั้งสองสถาบันก่อให้เกิดองค์ความรู้การถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูงรวมไปถึงการผลิตบัณฑิตที่จะตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมรถไฟความเร็วสูงของประเทศเพื่อสร้างบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถมีคุณภาพและศักยภาพด้านวิศวกรรมรถไฟความเร็วสูงเพื่อรองรับในตลาดแรงงานโดยมีระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2571)

'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ตอบข้อซักถามที่ว่า... "ถ้านายกฯ ไม่ใช่พิธา แล้วพรรคเพื่อไทยขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล พิธาจะสนับสนุนหรือไม่?"

"ถ้านายกฯ ไม่ใช่พิธา แล้วพรรคเพื่อไทยขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล พิธาจะสนับสนุนหรือไม่?"
 

'ดร.เอ้' ย้อนข้อความปี 65 กรณีสะพานข้ามแยกลาดกระบังถล่ม  'พบข้อบกพร่อง-เคยเตือนแล้ว' เสียใจที่สุด ที่ต้องมีผู้สูญเสีย

(11 ก.ค. 66) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย รีโพสต์เนื้อหาที่ได้เคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 และ 9 ส.ค. 65 หลังจากเกิดเหตุสะพานข้ามแยกทรุดตัว บริเวณหน้าโลตัสลาดกระบัง ถ.หลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง เมื่อเวลา 18.08 น. และในเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย โดยระบุว่า...

“เสียใจที่สุด เพราะผมเคยเตือนไปแล้ว ไม่น่าเลย สุดท้ายต้องมีคนสูญเสียชีวิต จนได้”

ส่วนเนื้อหาที่ ดร.สุชัชวีร์ เคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 ระบุถึงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ที่อยู่ในโครงการก่อสร้างทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังเอาไว้ ว่า...

"กลับบ้านวันศุกร์ ไม่สุข ไม่ปลอดภัย" 

ผมขอแสดงความเป็นห่วงจากใจ โครงการก่อสร้างสะพานข้าม ถนนอ่อนนุช-หัวตะเข้ เขตลาดกระบัง เห็นปัญหาชัดเจน

1. เครื่องจักรใหญ่ทำงาน ไม่มีแนวป้องกัน เสี่ยงอุบัติเหตุของหล่น ประชาชนเดือดร้อนทเสี่ยงชีวิต
2. ถนนยุบจากการก่อสร้าง เสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ของเด็กนักศึกษา ห่วงจริงๆ
3. รถติดสาหัส เพราะก่อสร้างกินพื้นที่ บางช่วงก่อสร้างเสร็จแล้ว ต้อง คืนพื้นที่ให้ประชาชนผู้สัญจรได้

เพราะอุบัติเหตุจากการก่อสร้างสะพาน เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลายครั้งมีผู้เสียชีวิต มีทรัพย์สินเสียหาย

ขออย่าให้เกิดที่ใด กับใคร อีกเลยครับ เป็นห่วงจริงๆ ครับ

นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาที่เคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 อีกด้วย ระบุว่า... 

ด้วยความห่วงใย การก่อสร้างสะพาน ต้องมีมาตรฐาน

นั่งรถผ่านโครงการก่อสร้างสะพานถนนลาดกระบัง-อ่อนนุช ทุกวัน เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ไดั ยิ่งวันนี้เห็นตั้งนั่งร้านทำงาน มีงานเทปูน หล่อเสาตอม้อ ชิดริมถนน แล้วกังวลแทน กลัวพังลงมา 

จากประสบการณ์หลายปี ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการวิบัติ การก่อสร้างโครงสร้างสะพาน มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งขณะทำงาน กรณีดังนี้...

1. "นั่งร้านคนงานพัง" เนื่องจากทั้งดินอ่อนรับน้ำหนักนั่งร้านไม่ได้ หรือ ไม่ได้ค้ำยันกับโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง ทำให้คนงานบาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง 

2. "ไม้แบบรองรับการเทคอนกรึตเสาและคานพัง" เพราะรับน้ำหนักขณะเทคอนกรีตไม่ได้ หรือ เทผิดจังหวะทำให้ไม้แบบเอียงพัง หรือ เสาค้ำยันไม้แบบวางบนดินอ่อนเกิน ก็พังพาบลงมา 

3. "คานหล่น" ขณะติดตั้ง เนื่องจากหลุนจากเครนยก หรือ หล่นขณะวางพาดบนเสา หลายครั้งลงมาใส่รถที่สัญจร อยู่ข้างล่าง 

4. "เครนล้ม" บางกรณีใช้เครนไม่ถูกขนาด เล็กเกินไปที่จะยกโครงสร้างน้ำหนักมาก บ่อยครั้งพลิกคว่ำ เป็นอันตรายทั้งคนขับเครน และคนงานในพื้นที่ 

ดังนั้นการทำงานก่อสร้างสะพาน ต้องทำงานตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เคร่งครัด และต้องระมัดระวังตลอดเวลา 

ไม่ใช่เรื่องยากครับ และไม่ได้ต้องเสียงบประมาณเพิ่มเติมอะไรมาก ดีกว่ามาแก้ไขที่หลัง หลายอย่างทดแทนคืนไม่ได้ 

ผมแนะนำด้วยความห่วงใยจริงๆ ครับ

'พีระพันธุ์' กร้าว!! ไม่เสนอแคนดิเดตนายกฯ แข่ง แต่ก็ไม่โหวตให้แคนดิเดตฯ ที่หวังแก้ไข 112 เช่นกัน

เมื่อวานนี้ (10 ก.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงจุดยืนทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า...

ผมในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขอประกาศยืนยันว่าผมได้แจ้งเลขาธิการพรรคให้เสนอที่ประชุมพรรคในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค. 66) ให้พิจารณามีมติ 

1) ไม่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเราฟทั้งสองคนเพราะเราไม่เห็นด้วยกับแนวทางรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่จะทำให้เกิดผลเสียต่อบ้านเมือง 

เราไม่ได้อาสามาเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนพรรค 

2) เราไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายหรือแนวทางการทำงานที่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 การแบ่งแยกการปกครอง การล้มล้างสถาบันครอบครัว ระบบการศึกษา วัฒนธรรมประเพณีที่ดี และสถาบันหลักทั้งสามของชาติ อันมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง 

ชัดเจน ตรงไปตรงมานะครับ ไม่ต้องวิเคราะห์วิจารณ์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรทั้งสิ้น

หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้บ้านเมืองตกอยู่ในอันตราย 

ผมขอเชิญชวนทุกท่านที่รักชาติรักแผ่นดิน ให้ละทิ้งความบาดหมาง และหันกลับมาทำหน้าที่ของแต่ละคน 

ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป 

ลืมความแตกแยกหันกลับมาช่วยกันทำหน้าที่ทึ่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอนของเรา 

หากบ้านเมืองล่มสลายทุกท่านก็ล่มสลายตามไปด้วย ทุกอย่างที่แต่ละท่านสร้างสมมาก็จะล่มสลายตามไป 

สำหรับ รทสช. แม้เป็นพรรคเล็กแต่สู้เสมอกับภัยของชาติ สู้ด้วยใจทะนงเช่นเดิมครับ 

สู้ไปด้วยกันนะครับ

นายพีระพันธุ์ ทิ้งท้ายอกด้วยว่า "สำหรับผมต้องลาประชุมพรรคในวันที่ 11 ก.ค. 2566 เพราะติดภารกิจด้านสุขภาพ เลยแจ้งให้เลขาธิการพรรคทำหน้าที่แทนครับ"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top