Wednesday, 4 June 2025
WORLD

‘ทรัมป์’ เปิดคลิปฟาดใส่ผู้นำแอฟริกาใต้ กล่าวหา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนขาว” กลางวงหารือ

(22 พ.ค. 68) เกิดเหตุเผชิญหน้าสุดตึงเครียดในห้องรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดวิดีโอที่อ้างว่าแสดงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวในแอฟริกาใต้ต่อหน้าประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความงุนงงและอึดอัดให้กับผู้นำแอฟริกันอย่างเห็นได้ชัด

วิดีโอที่ฉายแสดงภาพไม้กางเขนสีขาว และคำพูดปลุกระดมจากนักการเมืองฝ่ายค้านในแอฟริกาใต้ ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าคือหลักฐานของความรุนแรงที่รัฐเพิกเฉย พร้อมระบุว่าคนกลุ่มนี้ควรถูกจับกุม โดยการกระทำครั้งนี้ซ้ำรอยการหักหน้าผู้นำยูเครนเมื่อต้นปี สะท้อนถึงพฤติกรรมที่สร้างความลำบากใจให้ผู้นำต่างชาติที่มาเยือน

รามาโฟซาตอบโต้ด้วยความสุภาพ แต่ชัดเจน โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และย้ำว่าไม่เคยเห็นคลิปนี้มาก่อน พร้อมชี้ว่า หากมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริง นักกอล์ฟและนักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ผิวขาวที่ร่วมเดินทางมากับเขาคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ท่าทีดังกล่าวกลับยิ่งกระตุ้นให้ทรัมป์โต้กลับอย่างเผ็ดร้อน พร้อมโชว์เอกสารบทความสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน

นอกจากนี้ รามาโฟซายังระบุว่า ปัญหาอาชญากรรมในแอฟริกาใต้มีอยู่จริง แต่เหยื่อส่วนใหญ่กลับเป็นประชาชนผิวดำ ไม่ใช่เฉพาะชาวไร่ผิวขาวดังที่ทรัมป์กล่าว ขณะที่บรรยากาศการประชุมกลับตึงเครียดยิ่งขึ้น เมื่อทรัมป์แทรกขึ้นว่า “ชาวนาไม่ใช่คนผิวดำ” ก่อนที่ผู้นำแอฟริกาจะตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “เรายินดีจะพูดคุยกับคุณในเรื่องนี้”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้นำชาติอื่น ๆ ที่กำลังพิจารณารับคำเชิญเยือนสหรัฐฯ ในสมัยทรัมป์ เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูก “ทำให้อับอาย” ต่อหน้าสาธารณะและสื่อมวลชน ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับแอฟริกาใต้ก็ดูจะห่างเหินยิ่งขึ้น

‘เนทันยาฮู’ ยืนยันอิสราเอลอาจสังหาร ‘โมฮัมหมัด ซินวาร์’ ผู้นำฮามาสในกาซาไปแล้ว พร้อมเดินหน้าปฏิบัติการควบคุมฉนวนกาซาทั้งหมด

(22 พ.ค. 68) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู แถลงว่า อิสราเอล “น่าจะสังหาร” โมฮัมหมัด ซินวาร์ ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้สำเร็จ ระหว่างการโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลในเมืองคานยูนิสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 คน

ซินวาร์เป็นน้องชายของยาห์ยา ซินวาร์ อดีตผู้นำฮามาสในกาซาที่ถูกอิสราเอลสังหารไปก่อนหน้านี้ หากได้รับการยืนยัน การเสียชีวิตของเขาจะเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียสำคัญของฝ่ายฮามาส แม้กลุ่มยังคงรักษาอำนาจในพื้นที่ไว้ได้บางส่วน

นอกจากนี้ เนทันยาฮูประกาศว่า อิสราเอลจะไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในกาซา จนกว่าจะสามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมดได้ พร้อมระบุว่าอาจยอมรับการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อแลกกับการปล่อยตัวตัวประกัน แต่จะไม่ยุติสงครามจนกว่าฮามาสจะถูกโค่นล้ม และกาซาจะถูกปลดอาวุธ

เนทันยาฮูยังกล่าวถึง “แผนอพยพโดยสมัครใจ” ตามแนวทางของสหรัฐฯ เพื่อเปิดทางให้ชาวกาซาที่ต้องการออกจากพื้นที่สามารถทำได้ พร้อมย้ำว่าอิสราเอลมีสิทธิในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามของอิหร่าน ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้การจับตามองเรื่องโครงการนิวเคลียร์

วุฒิสภาแฉ ‘สหรัฐฯ’ รู้ความเสี่ยงวัคซีนโควิด mRNA แต่เลือกเงียบ..ชะลอเตือนเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

(22 พ.ค. 68) รายงานจากวุฒิสมาชิก รอน จอห์นสัน เผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงในรัฐบาลสมัยโจ ไบเดน ซึ่งทราบถึงรายงานปัญหาทางหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) หลังรับวัคซีน mRNA ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 แต่กลับรอถึงปลายเดือนมิถุนายนกว่าจะปรับคำเตือนในฉลากวัคซีน

ในช่วงที่ภาครัฐยังไม่แจ้งเตือน กลับมีการจำกัดเสรีภาพของแพทย์ที่ออกมาเตือนเรื่องผลข้างเคียง โดยบางรายถูกลบโพสต์หรือระงับบัญชี โฆษกรายงานชี้ว่า จนถึงกลางปี 2021 มีรายงานอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบกว่า 158 เคสในระบบ VAERS

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลติดต่อ CDC และ FDA ตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ 2021 ถึงเคสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มวัยรุ่นจากวัคซีนไฟเซอร์ แต่เจ้าหน้าที่ FDA กลับชี้ว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอ และไม่ต้องการ “สร้างความตื่นตระหนก”

แม้ในเดือนพฤษภาคม 2021 มีการหารือกันภายใน CDC ว่าควรส่ง “ประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพแห่งชาติ (HAN)” เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากวัคซีน แต่ผู้นำหน่วยงานหลายคน รวมถึงอดีตกรรมาธิการ FDA ไม่เห็นด้วย โดยเลือกเพียงเผยแพร่ประกาศทั่วไปในเว็บไซต์

จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2021 FDA จึงปรับฉลากวัคซีน Pfizer และ Moderna ให้มีคำเตือนเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ รายงานชี้ว่าช่วงเวลาดังกล่าว มีรายงานเคสในระบบพุ่งถึง 752 เคส ขณะที่ทำเนียบขาวยังคงเผยแพร่ข้อความว่า “อาการเหล่านี้พบได้ยาก”

‘ไต้หวัน’ ประกาศพร้อมคุย ‘จีน’ บนฐานเท่าเทียม แต่ยังเดินหน้าสร้างแสนยานุภาพทางทหาร

(22 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีในตำแหน่งว่า รัฐบาลไทเปพร้อมเปิดการเจรจากับจีน บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและศักดิ์ศรี เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดด้านอธิปไตย แต่ย้ำว่าการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านกลาโหมยังคงเป็นสิ่งจำเป็นต่อไป

ไล่ ชิงเต๋อระบุว่า สันติภาพเป็นสิ่งประเมินค่าไม่ได้ ไต้หวันไม่สามารถนิ่งนอนใจในสถานการณ์ปัจจุบันได้ พร้อมยืนยันจะร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อยับยั้งภัยคุกคาม พร้อมผลักดันการตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเพื่อเสริมความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ 

ขณะเดียวกัน ไต้หวันยังเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ ด้านการค้า รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองภายใน โดยฝ่ายค้านพรรคก๊กมินตั๋งกล่าวหาไล่ว่าทำให้ประเทศเสี่ยงต่อสงครามกับจีน ส่วนพรรคของไล่ตอบโต้ว่า ฝ่ายค้านกำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

ความตึงเครียดในรัฐสภาทวีความรุนแรงถึงขั้นปะทะกันทางกายภาพ ขณะที่คะแนนนิยมของประธานาธิบดีไล่ลดลงต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ชี้ว่าจุดยืนล่าสุดของเขาแสดงถึงความพยายามลดโทนการเผชิญหน้าและมุ่งรักษาสมดุลท่ามกลางแรงกดดันทั้งในและต่างประเทศ

เกาหลีใต้ดันหนังสือเรียน AI ใช้จริงแล้ว 30% ของโรงเรียน หวังยกระดับการศึกษา ปรับการสอนตามนักเรียนแต่ละคน

(21 พ.ค. 68) หลังจากกระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าผลักดันการศึกษาแบบดิจิทัลในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โรงเรียนระดับประถม มัธยมต้น และมัธยมปลายในเกาหลีใต้กว่า 30% ได้เริ่มนำหนังสือเรียนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนการสอน

ซอฟต์แวร์จากภาคเอกชนและรัฐช่วยให้ AI แจกโจทย์การบ้านเฉพาะบุคคล รวมถึงเขียนรายงานประเมินผลตามระดับความเข้าใจของนักเรียนแต่ละคน เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้เทคโนโลยีจะเปิดทางสู่การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล แต่ครูบางส่วนกังวลว่าอาจกลายเป็นภาระเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ปกครองตั้งคำถามว่า AI จะช่วยพัฒนาการเรียนรู้ได้จริงหรือแค่ทำให้เด็กติดหน้าจอมากขึ้น

รัฐจึงตัดสินใจคงการใช้หนังสือกระดาษไว้ในบางวิชา เช่น ภาษาเกาหลีและหน้าที่พลเมือง พร้อมเลื่อนการใช้ AI ในวิชาอื่นออกไปก่อน และเตรียมอบรมครู 160,000 คน รวมถึงส่งติวเตอร์ดิจิทัลกว่า 1,200 คนลงพื้นที่ช่วยโรงเรียนทั่วประเทศ

จีนเปิดตัว ‘Jiu Tan’ เครื่องบินไร้คนขับรุ่นใหม่ ปล่อยโดรนกามิกาเซ่พร้อมกันได้สูงสุด 100 ลำ

(21 พ.ค. 68) จีนเตรียมเปิดตัวเครื่องบินไร้คนขับชื่อ “Jiu Tan” ซึ่งมีความสามารถในการปล่อยโดรนกามิกาเซ่ได้พร้อมกันนับ 100 ลำ ถือเป็นหมัดเด็ดใหม่ของจีนในการเพิ่มศักยภาพทางทหารและรับมือระบบป้องกันทางอากาศแบบเดิม

ตามรายงานจากสื่อรัฐของจีน เครื่องบินลำนี้พัฒนาโดยบริษัท Shaanxi Unmanned Equipment Technology โดยต้นแบบรุ่นที่ 4 อยู่ระหว่างการทดสอบ และเตรียมบินครั้งแรกในเดือนหน้า หลังเปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงการบินจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567

สำหรับ Jiu Tan มีระยะปีกกว้าง 25 เมตร บินได้นานถึง 12 ชั่วโมง และระยะทางไกลกว่า 7,000 กิโลเมตร รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 6 ตัน ทั้งอุปกรณ์สอดแนม อาวุธ และขีปนาวุธ จุดเด่นคือการโจมตีแบบฝูง “barrage attack” ซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดจากระบบป้องกันของศัตรู

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การพัฒนา Jiu Tan สะท้อนเป้าหมายของจีนที่ต้องการท้าทายอำนาจทางอากาศของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ RQ-4 Global Hawk และ MQ-9 Reaper ของอเมริกา ซึ่งยังไม่มีความสามารถในการโจมตีฝูงขนาดใหญ่แบบเดียวกัน

ปากีสถานใช้เทคโนโลยีจีน พลิกเกมรบทางอากาศ Rafale 250 ล้าน ร่วงกลางฟ้า พ่าย J-10CE เละเทะ

(21 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘ลึกชัดกับผิงผิง’ โพสต์ข้อความระบุว่า …

หนังสือพิมพ์ International News ของปากีสถานรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.2025ว่า กองทัพอากาศปากีสถานใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศรุ่น PL-15E ในการรบทางอากาศเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีระยะยิงสูงสุดถึง 98 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 181 กิโลเมตร และในระยะยิงนี้ ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ได้ยิงเครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาล (Dassault Rafale) เครื่องบินรบชั้นสุดยอดของฝรั่งเศสตก

ซึ่งหมายความว่า เครื่องบินรบ J-10CE(歼J-10CE) และขีปนาวุธอากาศสู่อากาศรุ่น PL-15E ที่ผลิตโดยจีน ได้ผนึกกำลังสร้างสถิติการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีระยะยิงไกลที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์จนถึงปัจจุบัน

การสู้รบทางอากาศระหว่างปากีสถานกับอินเดียในวันที่ 7 พฤษภาคม นับเป็นเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยของจีนที่สามารถพิชิตเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยของตะวันตก

ปากีสถานใช้เครื่องบินรบ J-10CE ของจีนเป็นหลัก อินเดียใช้เครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรป อาทิ เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลของฝรั่งเศส

สิ่งที่น่าทึ่งคือ นี่เป็นการประลองระหว่างเครื่องบินรบอันดับที่ 6 ของจีนกับเครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรป ผลคือ 0 ต่อ 6 เครื่องบินรบของจีนไม่มีความสูญเสีย ส่วนเครื่องบินรบของยุโรปถูกยิงตก 6 ลำ ในแวดวงทหารอากาศจีนเรียกขาน J-10c ว่า 'เสี่ยวลิ่ว' (小六) แปลว่าน้องชายคนที่ 6 ความหมายคือจัดอยู่อันดับ 6 ของครอบครัวเครื่องบินรบทันสมัยของจีน

J-10c ติดตั้ง 'Active phased array radar' เรดาร์ทันสมัยที่สุดของโลก และติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ฉบับส่งออก ระยะยิงไกลสุด 200 กิโลเมตร ไกลกว่าระยะยิงไกลของขีปนาวุธอากาศสู่อากาศของเครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลหลายสิบกิโลเมตร

J-10CE (ฉบับส่งออก) ขายราคาลำละ 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ

เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลที่อินเดียซื้อจากฝรั่งเศสนั้น ราคาลำละประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางการปากีสถานแถลงข่าวว่า ปากีสถานใช้เครื่องบินรบ J-10CE ยิงเครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรปที่อินเดียนำเข้าตก 6 ลำด้วยกัน คือ เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาล (Rafale)ของฝรั่งเศส 3 ลำ เครื่องบินขับไล่ Su-30MKI ของรัสเซีย 1 ลำ เครื่องบินรบ MiG-29 ของรัสเซีย 1 ลำ และโดรน Heron ของอิสราเอล 1 ลำ

ปัจจัยสำคัญที่เครื่องบินรบ J-10CE สามารถเผด็จศึกได้ก็คือ จีนสร้างระบบการสู้รบทางอากาศที่ล้ำสมัย และกำลังพิชิตรูปแบบการต่อสู้ทางอากาศของตะวันตก

เมื่อเรดาร์ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของปากีสถานตรวจพบเครื่องบินรบของอินเดียก็ล็อกเป้าหมายไว้ แต่ไม่ได้ยิงขีปนาวุธ เพียงแชร์ข้อมูลให้กับเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศรุ่น ZDK-03 เมื่อ J-10CE ได้รับการแจ้งเตือนจาก ZDK-03 (ว่าได้พบเครื่องบินรบของอินเดียลำที่มีปฏิกิริยาจะยิงขีปนาวุธใส่ปากีสถาน) ก็จะยิงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ 2 เครื่อง โดยจะเปิดเครื่องยนต์หนึ่งเครื่องก่อน เพื่อบินขึ้นจุดสูงของท้องฟ้า แล้วปิดเรดาร์บินอย่างเงียบๆ โดยมีดาวเทียมนำร่องเป่ยโต่วช่วยนำทาง เรดาร์ของฝ่ายอินเดียจะไม่สามารถตรวจจับได้ เมื่อ PL-15E บินใกล้ถึงเป้าหมายประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะเปิดเครื่องยนต์เครื่องที่สอง เพิ่มความเร็ววิ่งสู่เป้าหมายด้วยความเร็วที่เป็น 4 เท่าของความเร็วเสียง

นักขับเครื่องบินรบของอินเดียยังไม่ทันได้เห็นอะไรเลย และรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นปกติ ก็ถูกยิงตก เพราะเมื่อเรดาร์พบขีปนาวุธ PL-15E ก็มีเวลาเหลือน้อยมากทีเดียว และมีทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวคือ กระโดดร่มทันทีเพื่อเอาชีวิตรอด

นี่เป็นการสู้รบทางอากาศที่สายตาของเราไม่อาจจับจ้องได้หรือระยะไกล ที่ต่างจากหนังฮอลลีวู้ด ที่เครื่องบินรบต้องสู้รบกันอย่างดุเดือดในระยะประชิด น่าดู แต่ล้าสมัยแล้ว

อาวุธยุโรปกรณ์ทันสมัยของปากีสถานดังเหล่าล้วนผลิตโดยจีน ปากีสถานนำเข้าจากจีน และเรียนรู้ประสบการณ์จากการซ้อมรบร่วมกับจีน

แล้วการสู้รบทางอากาศดังกล่าวถือเป็นชัยชนะของอาวุธเอเชียต่ออาวุธของยุโรปและตะวันตกครั้งแรกหลังสงครามฝิ่นเป็นต้นมา

หลังการสู้รบทางอากาศครั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิต J-10CE ที่เมืองเฉิงตูพุ่งสูงขึ้นกว่า 60% ภายใน 1 สัปดาห์

‘อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย’ ฟาด IMF–ธนาคารโลก ละเมิดพันธกิจ! หนุนเงินสงครามยูเครนแทนฟื้นฟูเศรษฐกิจ

(21 พ.ค. 68) ดมีทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวอย่างเผ็ดร้อนบนเวที St. Petersburg International Legal Forum โดยย้ำว่าขณะนี้ 'สันติภาพ' ต่างหากคือสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่ 'การหยุดยิงชั่วคราว' กับยูเครน พร้อมตอกย้ำว่ารัสเซียพร้อมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของ 'ความเป็นจริงในสนามรบ' และข้อเสนอที่ฝ่ายรัสเซียได้กำหนดไว้

นอกจากกล่าวถึงยูเครน เมดเวเดฟยังออกโรงจวกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกว่า 'กำลังละเมิดพันธกิจหลัก' ด้วยการอัดฉีดงบประมาณสนับสนุนรัฐบาลยูเครนที่นำไปใช้ในการทำสงคราม มากกว่าฟื้นฟูเศรษฐกิจตามภารกิจดั้งเดิมขององค์กรเหล่านี้ “สิ่งที่พวกเขากำลังทำ ไม่ใช่การช่วยเหลือประเทศที่กำลังฟื้นฟู แต่คือการหล่อเลี้ยงสงคราม” เขากล่าว

เมดเวเดฟยังกล่าวเตือนถึงภัยคุกคามที่อาจขยายวง หากยังมีทหารจากชาติพันธมิตรหรือ 'Coalition of the willing' เข้ามาป้วนเปี้ยนในยูเครน โดยระบุว่าสถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งกลายเป็น 'ภัยคุกคามที่ไม่มีวันจบสิ้น' พร้อมกันนี้ เขายังวิจารณ์ผู้นำยุโรปหลายคนอย่างตรงไปตรงมา อาทิ โบริส จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล มาครง และเซอร์คีร์ สตาร์เมอร์ ว่าใช้วิกฤตยูเครนเป็นเครื่องมือทางการเมืองภายในประเทศตัวเอง มากกว่าจะจริงใจในการสร้างสันติภาพ

“นี่คือโอกาสสุดท้ายของยูเครน ที่จะรักษาอนาคตของตัวเองไว้ได้” เมดเวเดฟกล่าวปิดท้าย พร้อมทิ้งข้อเตือนใจถึงฝ่ายที่ยังเลือกใช้กำลังและแรงกดดัน แทนการหาทางออกด้วยสติและการเจรจา

มอสโกเหน็บแรง!! คว่ำบาตร 16 รอบที่ผ่านมา ‘ยุโรปเจ็บเอง’ แฉเศรษฐกิจ EU เติบโตต่ำ…แค่ 0.9% หลังตัดพลังงานรัสเซีย

(21 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Ethan Hunts’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นางมาเรีย ซัคคาโรว่า แถลงสื่อ รัสเซียไม่คาดหวังความสมเหตุผลจากยูเครนอยู่แล้ว เพียงหวังว่า พวกเขา(แก๊งเซเลนสกี้) จะเห็นแก่ความอยู่รอดของคนในประเทศยูเครน

เมื่อถูกถามถึงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร ครั้งที่ 17 ของอียู ที่กำลังถูกพิจารณา เธอแถลงตอบว่าการคว่ำบาตรรัสเซียของอียูนั้น กระทบภาคประชาสังคม และเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของคนในยุโรปมากกว่าที่จะกระทบรัสเซีย (โดยดูจาก 16 ครั้งที่ผ่านมา)

“จากการคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซีย ทำให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของยุโรป มีเพียง 0.9%” เธอแถลงว่ารัสเซีย พร้อมร่วมโต๊ะเจรจา เพื่อหาสันติภาพแก่ ยูเครน-รัสเซีย แต่ต้องขจัดต้นเหตุของความขัดแย้งเสียก่อน และรัสเซียจะไม่ยอมเจรจาภายใต้คำขู่ใด ๆ

อนึ่งมีข่าวจากวอชิงตันโพสต์ในช่วงเดียวกัน ทรัมป์มีแผนขับไล่ผู้อพยพยูเครนที่เข้ามาสหรัฐ จำนวนราว 2 แสนรายออกนอกประเทศ โดยจะใช้เงินจาก กองทุนเงินกู้ที่ให้ยูเครนราว 250 ล้านเหรียญโดยรวมกับเงินล่อใจ จำนวน 1,000 เหรียญให้แก่คนยูเครนที่สมัครใจออกนอกสหรัฐด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ทรัมป์เสนอทางเลือกหากไม่อยากกลับไปรับใช้ชาติ ด้วยการเสนอส่งผู้อพยพไปประเทศที่สาม อาทิ เฮติ, อัฟกานิสถาน, ลิเบีย, ซีเรีย, ซูดานและเยเมน (ทุกประเทศที่กล่าวมาล้วนเสี่ยงลูกหลงสงครามกลางเมืองเกือบทั้งสิ้น)

‘ชายชาวสิงคโปร์’ ปักหลักเช่าคอนโดอยู่เชียงใหม่ บินไปทำงานสิงคโปร์อาทิตย์ละวันหลังสู้ค่าครองชีพไม่ไหว

ชายสิงคโปร์อยู่เชียงใหม่ บินไปทำงานสิงคโปร์อาทิตย์ละวัน เพราะค่าเครื่องบิน ค่ากินอยู่ รวมแล้วถูกกว่าค่าเช่าคอนโดที่สิงคโปร์

เวลาพูดถึงเมืองไทย หลายคนอาจจำว่า เป็นสวรรค์ของ Digital Nomad แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านี้เริ่มย้ายไปที่อื่นที่ 'ค่าครองชีพถูกกว่าไทย' อย่างบาหลีแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ชอบเมืองไทย เพราะอย่างน้อยเมืองที่ค่าครองชีพต่ำและเต็มไปด้วยสินค้าและบริการสำหรับชาวต่างชาติอย่างเชียงใหม่ ก็ยังดึงดูดต่างชาติอยู่ แต่อาจเป็นแบบที่ต่างออกไป

Shau Chun Chen อยู่สิงคโปร์มาตลอดชีวิต และทำงานที่ Google มาเกือบ 10 ปี เขาโดนเลย์ออฟในช่วงการเลย์ออฟครั้งใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากช่วงต้นปี 2024 แม้ว่าเค้าจะทำงานและเก็บเงินลงทุนไว้ได้ราว 50 ล้านบาท แต่ด้วยค่าครองชีพสิงคโปร์และอายุ เงินเท่านี้ไม่พอกินไปตลอดชีวิตแน่นอน เค้าจึงต้องหาวิธีใหม่ในการจัดการชีวิต

เกิดไอเดียว่าจะทำงานพาร์ตไทม์ที่สิงคโปร์ และอาศัยอยู่ในที่ๆ ค่าครองชีพถูกกว่าในระดับที่เงินของการทำงานพาร์ตไทม์เพียงพอ และหาเงินออนไลน์ด้วยการเป็น YouTuber และเป็นโค้ชธุรกิจตามที่มีการว่าจ้าง แต่งานหลักคืออาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ที่รายได้ตกเดือนละ 50,000-100,000 บาท

เค้าเลยเลือกจะย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เพราะรวมค่าเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์กับค่าเช่าคอนโด ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าคอนโดที่สิงคโปร์ เพราะค่าเช่าคอนโดที่นั่นตกประมาณ 60,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่ เช่าคอนโดใหม่เอี่ยมอยู่กับครอบครัวตก 12,000 บาทต่อเดือน ค่าเครื่องบินสายการบินโลว์คอสต์ไปสอนหนังสืออาทิตย์ละ 6,500 บาท เดือนละ 4 ครั้งก็ตก 26,000 บาท รวมค่าที่พักกับเครื่องบิน 38,000 บาท ค่าเดินทางของเค้ากับภรรยาในเชียงใหม่ 5,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าอาหารคิดกลมๆ ก็เริ่มที่ 7,000 บาท

ความน่าสนใจคือ Chen บอกว่าพวกชาวต่างชาติในเชียงใหม่ไม่ได้อยู่ในราคาถูกเท่าเค้า เพราะพวกนั้นเลือกซื้อสินค้าและบริการแบบ 'นำเข้า' ซึ่งรวม ๆ คือเชียงใหม่ไม่ได้ถูกกว่าที่อื่น แต่ถ้าจะใช้ชีวิตให้ย่อมเยาจริงๆ ต้องกินอยู่แบบคนท้องถิ่น ซึ่งเรียกว่าต้อง 'เรียนรู้วัฒนธรรม' ก็ไม่ผิด

ในระยะยาว เค้าก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดที่สิงคโปร์ เพียงแต่เค้าอาจต้องรอเงินลงทุนให้โตขึ้นอีกเยอะ ๆ เพราะนี่คือประเทศที่ค่าครองชีพสูงระดับคนที่มีเงินทุน 50 ล้านบาทยังรู้สึกว่าตัวเองยังห่างไกลจากการมีอิสรภาพทางการเงิน

‘รูบิโอ’ เผยเสียงสะท้อนจากวาติกันถึงทำเนียบขาว ชี้ ‘ยุโรป’ บางประเทศพูดถึงแต่ ‘สงคราม’ มากกว่าสันติภาพ

(20 พ.ค. 68) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ระหว่างเดินทางเยือนกรุงโรม เขาได้รับฟังมุมมองสะเทือนใจจากนักบวชชั้นสูงรายหนึ่ง ซึ่งมองว่าโลกในขณะนี้กลับตาลปัตร โดยมีผู้นำสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการสันติภาพ ขณะที่บางประเทศในยุโรปกลับพูดถึงการทำสงครามอยู่เสมอ คำพูดดังกล่าวถูกถ่ายทอดในงานเลี้ยงของคณะกรรมการศูนย์เคนเนดีที่ทำเนียบขาว ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของหลายฝ่ายในยุโรปอย่างชัดเจน

รูบิโอระบุเพิ่มเติมว่า หนึ่งในคาร์ดินัลที่เขาพบก่อนพิธีมิสซาของสมเด็จพระสันตะปาปากล่าวว่า “เป็นเรื่องแปลกที่เรามีประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการสันติภาพ แต่กลับมีชาวยุโรปบางคนที่พูดถึงเรื่องสงครามตลอดเวลา” ซึ่งเป็นความเห็นที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของสหรัฐฯ ในสายตาของผู้นำทางศาสนาในยุโรป

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย โดยทั้งสองเห็นพ้องถึงการสานต่อการติดต่อโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครนในทุกระดับ รวมถึงการเจรจาในระดับผู้นำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนความพยายามลดความตึงเครียดในเวทีโลกของทรัมป์ผ่านแนวทางทางการทูตมากกว่าทางทหาร

คนจีนรุ่นใหม่แห่เรียน ‘ภาคค่ำ’ อัปสกิลแค่หลักพัน คอร์สหลากหลาย ตั้งแต่ใช้ AI ขับโดรน จนถึงชงกาแฟ-แต่งหน้า

(20 พ.ค. 68) หลังฤดูกาลหางานช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนผ่านไป คนหนุ่มสาวชาวจีนเริ่มหันมามองหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่สมัครงานหรือโปรโมตตัวเองในที่สาธารณะ แต่ยังเลือกเข้าเรียนใน “โรงเรียนภาคค่ำ” ซึ่งกำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมในการอัปสกิลด้วยงบหลักพันบาท

กระแสโรงเรียนภาคค่ำกลับมาเป็นที่สนใจหลังโครงการ “โรงเรียนกลางคืนสำหรับประชาชน” ในเซี่ยงไฮ้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ด้วยค่าเรียนเพียงราว 500 หยวน (ราว 2,300 บาท) หลักสูตรหลากหลายตั้งแต่การใช้ AI ไลฟ์ขายของ ไปจนถึงขับโดรนหรือทำเครื่องดื่ม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งสายอาชีพและงานอดิเรก บางคอร์สยังมีโอกาสได้งานพาร์ตไทม์ต่อยอดหลังเรียนจบ

โรงเรียนเหล่านี้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักคือ โรงเรียนที่ดำเนินการโดยภาครัฐ/ชุมชน และโรงเรียนของภาคเอกชนหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ จุดเด่นคือราคาเข้าถึงง่ายและไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาเฉพาะทาง ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน ทั้งเพิ่มทักษะ รับมือกับเทคโนโลยีใหม่ หรือเตรียมตัวเปลี่ยนอาชีพในอนาคต

นอกจากผู้เรียนแล้ว ยังมีคนทำงานบางส่วนผันตัวมาเป็นผู้สอนในโรงเรียนภาคค่ำ โดยใช้ประสบการณ์ตรงเป็นใบเบิกทาง เช่น เสี่ยวเชียนในกว่างโจวที่สอนแต่งหน้า พร้อมช่วยแนะงานให้นักเรียนแบบไม่เป็นทางการ กลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนทั้งความรู้และเครือข่ายงาน

โรงเรียนภาคค่ำจึงไม่ใช่แค่คลาสเรียนหลังเลิกงาน แต่เป็นเวทีสร้างโอกาส ลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนอาชีพ และเปิดทางเลือกใหม่ให้คนจีนรุ่นใหม่ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่จับต้องได้และเรียนรู้ได้จริงจากประสบการณ์ตรง

ชายเกาหลีวัย 42 ปี แฉชีวิตคู่พังยับ!! เมียเวียดนามหลอกแต่งงาน-แอบค้าบริการ แพร่โรคติดต่อหลังนอนกับผู้ชาย 600 คน

(20 พ.ค. 68) โลกโซเชียลเกาหลีแชร์เรื่องราวของ ‘นายเอ’ (นามสมมุติ) ชายชาวเกาหลีใต้จากเมืองนัมยางจู กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เมื่อเขาเปิดเผยว่า หลังจากเลิกรากับแฟนที่คบกันมา 12 ปี เขาตัดสินใจแต่งงานกับหญิงสาวชาวเวียดนามผ่านเอเจนซี่ โดยทั้งคู่หมั้นและแต่งงานกันในปี 2022 ก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เกาหลีในปี 2023

หลังใช้ชีวิตคู่ไม่นาน กลับพบพฤติกรรมต้องสงสัย? ภรรยามีอาการป่วยจนพบว่าเธอและสามีติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มมีพฤติกรรมลึกลับ ขอค้างคืนกับ “เพื่อนสนิท” แต่หายไป 3 วันโดยไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อกลับมาก็ไม่ยอมให้สามีตรวจดูโทรศัพท์ แถมยังทำร้ายตัวเอง สุดท้ายสารภาพว่าคบซ้อนกับชายอื่นซึ่งเป็นลูกค้าของเธอในสถานบันเทิง

นายเอพบความจริงสุดสะเทือนใจ! เขาค้นพบว่าภรรยาเคยขายบริการ และยังคงแอบค้าประเวณีอย่างต่อเนื่องกับชายกว่า 600 คน โดยโกหกว่าวัน ๆ ออกไปเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์ ทำให้เขายื่นฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งฝ่ายหญิงยอมรับผิดในตอนแรก แต่ภายหลังกลับหลบหนีและตัดการติดต่อทั้งหมด

เรื่องราวถูกแชร์เพื่อเตือนภัยสังคม เกิดเสียงเรียกร้องขับไล่หญิงแฝงตัว! นายเอเปิดเผยเรื่องราวเพื่อเตือนชายเกาหลีไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก โดยชี้ว่า หากอดีตภรรยายังอยู่ในประเทศ อาจมีเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติม กระแสโซเชียลในเกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเจ้าสาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อค้าบริการ และดำเนินการเนรเทศออกนอกประเทศทันที

รองนายกฯ ปากีสถานเยือนจีน ขอบคุณชัยชนะเหนืออินเดีย เตรียมจัดซื้อเครื่องบินรบ-ขอข่าวกรองดาวเทียมเสริมเขี้ยวเล็บ

(20 พ.ค. 68) อิสฮัก ดาร์ (Ishaq Dar) รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เพื่อหารือกับ ‘หวาง อี้’ รมว.ต่างประเทศจีน และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเน้นย้ำความร่วมมือรอบด้าน รวมถึงการพัฒนาในภูมิภาคหลังปากีสถานเอาชนะอินเดียในการปะทะทางอากาศครั้งล่าสุด

การเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ แสดงความขอบคุณต่อจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบการรบทางอากาศ โดยเฉพาะเครื่องบิน J-10C ที่สามารถเอาชนะเครื่องบิน Rafale ของอินเดียได้ 3:0 ช่วยให้ปากีสถานพลิกสถานการณ์สงคราม ขจัดหมอกควันและยกขวัญกำลังใจให้กองทัพอย่างมาก

นอกจากขอบคุณแล้ว ปากีสถานยังมุ่งเจรจาเพื่ออัปเกรดกำลังทางอากาศ โดยมีแผนจัดซื้อ J-10C เพิ่มอีก 40 ลำ หรืออาจก้าวไปถึง J-35 แต่ด้วยงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้รูปแบบผ่อนชำระ ส่วนชาวปากีสถานเองก็แสดงความตั้งใจบริจาคเงินเพื่อช่วยจัดซื้ออาวุธทันสมัยเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพ

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของการเยือนคือ ขอให้จีนสนับสนุนด้านข่าวกรองและดาวเทียมเพิ่มเติม หลังจากที่ปากีสถานสามารถใช้เทคโนโลยีจากจีนตรวจจับความเคลื่อนไหวของกองทัพอินเดียได้อย่างแม่นยำ สร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ภายหลังสงคราม ปากีสถานเดินหน้าร่วมมือกับจีนเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรมใน “ระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน” โดยเตรียมเจรจาขอซื้อโดรนติดอาวุธอย่าง Wing Loong-10 และ Rainbow-5 เพื่อป้องกันโครงการสำคัญจากกลุ่มติดอาวุธ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงพันธมิตรที่แน่นแฟ้น พร้อมทลายความฝันของอินเดียในการครองความเป็นผู้นำในเอเชียใต้

‘ทรัมป์’ ชม ‘กาตาร์’ เจตนาดีให้ฟรี Boeing 747-8 เปรียบเหมือน ‘เทพีเสรีภาพ’ ไม่จำเป็นต้องตอบแทน

(19 พ.ค. 68) สตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า การที่สหรัฐฯ รับมอบเครื่องบิน Boeing 747-8 มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 14,400 ล้านบาท) จากประเทศกาตาร์ เป็นการทำธุรกรรมระหว่างรัฐที่ชอบด้วยกฎหมาย และผ่านการตรวจสอบจากที่ปรึกษาทำเนียบขาว กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานกฎหมายแล้ว

ขณะที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลทรัมป์ กล่าวปกป้องการตัดสินใจดังกล่าว โดยเปรียบเปรยว่า “ฝรั่งเศสเคยมอบเทพีเสรีภาพให้เรา และอังกฤษเคยมอบโต๊ะทำงานให้เรา ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาเรียกร้องอะไรล่วงหน้าหรือไม่” พร้อมชี้ว่ากาตาร์มีคำสั่งซื้อเครื่องบินจาก Boeing มูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท

ด้านทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาคง ‘โง่มาก’ หากปฏิเสธ ‘เครื่องบินฟรี’ ลำนี้ โดยตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ เครื่องบินลำนี้ได้เดินทางมาถึงรัฐเท็กซัสแล้วนานกว่าหนึ่งเดือน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปัจจุบันของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีและใช้งบประมาณมหาศาลในการปรับแต่งเครื่องบินลำดังกล่าวให้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับผู้นำประเทศ โดยเฉพาะหากมีการใช้งานในภารกิจของประธานาธิบดีในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top