Monday, 7 July 2025
NEWS FEED

‘อ.นิด้า’ ชี้!! มีคนชอบไปซื้อหา ‘ปริญญาปลอม’ อุปโลกน์ตัวเอง ทั้งที่ไม่ได้มีคุณภาพเป็น ‘ดอกเตอร์’

(13 ก.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ปริญญาปลอม’ โดยได้ระบุว่า …

ปริญญาปลอม คำนำหน้าปลอม ค่านิยมปลอมๆ ของสังคมไทย

ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาปัญญาและการวิเคราะห์ธุรกิจ
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล 
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

ปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษาปลอม คำนำหน้าปลอมในสังคมไทยนี้ เป็นมานาน ชอบไปหาซื้อปริญญาปลอม อุปโลกน์คำนำหน้าปลอมให้ตัวเอง 

เลยทำให้มหาวิทยาลัยห้องแถวในอเมริกา หลอกขายปริญญาคนมีเงินกันได้ ก็เพราะคนไทยหูตาแหกชื่นชมคำว่าดอกเตอร์กันจนไม่ลืมหูลืมตา 

จริงๆ คุณภาพดอกเตอร์นั้นมันก็แตกต่างกันมากเหลือเกิน ที่จบปริญญาเอกจริงๆ ไม่ได้คุณภาพก็มีมาก ไม่อยากจะบรรยายให้ฟังครับ ค่านิยมปลอมๆ บ้าปริญญาทำให้ขายใบปริญญาปลอมได้

อย่าง California University อะไรนี่เป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวโนเนมในสหรัฐอเมริกา แต่คนไทยก็ไม่รู้เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเองก็ไม่รับรอง แต่ก็ยังมีคนไทยไปซื้อปริญญาเอกเสกได้ด้วยเงินจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้

มหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกานั้นมีมาก แต่กลุ่ม University of California นั้นเป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยใหญ่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีนับ 10 วิทยาเขตหรือ Campus แล้วก็มีชื่อเสียงกันไปคนละทาง

University of California, Berkeley นี่ดังทางวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์
University of California, San Francisco นี่ดังทางการแพทย์และสาธารณสุข
University of California, Davis นี่ดังด้านการเกษตรและชีววิทยา 
University of California, Los Angeles นี่ดังทางสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์หลายด้าน เช่นด้าน ภาพยนตร์ การละคร animation คอมพิวเตอร์กราฟิค บริหารธุรกิจก็ดัง เรียกย่อๆ ว่า UCLA 

กลุ่มมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย คือ California State University ก็เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เช่นกัน ก็มีหลายสิบแคมปัส กระจายไปทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย 

ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังมี Stanford University ที่โด่งดังมากเช่นกันครับ ส่วน California University นั้นแม้แต่คนอเมริกันก็ยังไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อครับ

จบเรื่องปริญญาปลอม มาเรื่อง คำนำหน้าปลอมกันบ้าง

ศาสตราจารย์ปลอม  หม่อมราชวงศ์ปลอม  ปลอมเป็นเจ้านายก็มีครับ แอบอ้างเบื้องสูงก็มีครับ พวกนี้ต้องเจอคุกเสียบ้างครับ มาตรา 112 นี่แหละครับ บางคดีอ้างแอบอ้างเฉยว่าเจ้านายจะทรงค้าทองคำ! 

นายพลปลอม ตำรวจ ทหาร ปลอม อ้างเพื่อรีดไถ ก็มีครับ มีเยอะครับ มีทั้งที่อุปโลกน์เองเพื่อความโก้เก๋ และมีที่อุปโลกน์เพื่อหลอกลวงตบทรัพย์ เป็นมิจฉาชีพก็มีครับ 

ทั้งหมดนี้เกิดจากค่านิยมปลอมๆ เปลือก ในสังคมไทยนี่แหละครับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปผลการจับกุมการลักลอบเล่นพนันทั้งออนไลน์และออนไซต์ ช่วงแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ตั้งแต่เริ่มแข่งขัน จับ 224 เว็บไซต์ ผู้ต้องหาทั้งออนไลน์และออนไซต์เกือบ 4,000 คน 

วันนี้ (13 กรกฎาคม 2567) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันในทุกมิติ ตลอดห้วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 17 หรือฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งมีขึ้นระหว่างในวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กรกฎาคม 2567 

ผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ทั่วประเทศ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2567 จับกุมผู้ต้องหารวม 666 คน แบ่งเป็น
1. การจับกุมการพนันออนไซต์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 462 คน แบ่งเป็น เจ้ามือ 5 คน , ผู้เล่น 456 คน , คนเดินโพย 1 คน เงินหมุนเวียน 48,013 บาท 
2. การจับกุมการพนันออนไลน์ สามารถจับกุมได้ 59 เว็บไซต์ ผู้ต้องหารวม 204 คน แบ่งเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน 54 คน , ผู้เล่น 150 คน เงินหมุนเวียนในระบบ 540,439,319 บาท

ภาพรวมสถิติการจับกุมการพนันออนไลน์และออนไซต์ ตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม 2567 มีผลการจับกุมผู้ต้องหา รวม 3,863 คน แบ่งเป็น
1. การจับกุมการพนันออนไซต์ 3,017 คน แบ่งเป็น เจ้ามือ 50 คน , ผู้เล่น 2,944 คน , คนเดินโพย 23 คน เงินหมุนเวียน 443,655 บาท 
2. การจับกุมพนันออนไลน์ 224 เว็บไซต์ ผู้ต้องหารวม 846 คน แบ่งเป็น ผู้จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ 145 คน , ผู้เล่น 701 คน เงินหมุนเวียนในระบบ 2,465,209,989 บาท โดยล่าสุดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฎิบัติการ ทลาย 3 เครือข่ายเว็บพนันฟุตบอลยูโรรายใหญ่ พบเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 130 ล้านบาท

พล.ต.ท.อัคราเดชฯ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งจะมีการชิงชนะเลิศในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 เดินหน้าปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทั้งออนไลน์และออนไซต์อย่างต่อเนื่อง ย้ำการพนันฟุตบอลมีความผิดตามกฎหมายในหลายมาตรา ทั้งผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน ผู้เล่นพนัน และผู้โฆษณาชักชวน มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ

"พัชรวาท" สั่งสร้างเครือข่ายชาวต่างชาติช่วยงานอุทยานฯ ดึงตำรวจท่องเที่ยวร่วมอบรมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ รุ่นที่ 1 และพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นางอภินันท์ ขอพร ผู้อำนวยการส่วนกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ร่วมด้วย และได้รับเกียรติจาก พ.ต.อ.อรรถพล สุดสาย ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการท่องเที่ยว 3 ร่วมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ การอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นายตรรก ศิริวรรณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเครือข่ายชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา
อิงแลนด์ เบลเยี่ยม กรีซ อินเดีย รัสเซีย ปากีสถาน แคนาดา เดนมาร์ก โคลัมเบีย และเมียนมาร์ ที่มีความพร้อมและมีความสนใจในการสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 11 - 12 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ภูพาโน รีสอร์ท กระบี่ จังหวัดกระบี่

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายและสั่งการให้กรมอุทยานฯ สร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติให้เข้มแข็ง เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติกว่า 3.7 ล้านคน เมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เกิดอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในการตัดสินใจในการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ

อุปสรรคสำคัญที่พบมาก คือ การสื่อสาร กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องดังกล่าว จึงต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยกรมอุทยานฯ ได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวเพื่อยกระดับความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วน จึงได้จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย ภาคบรรยายและภาคปฏิบัติ เกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวและนันทนาการในอุทยานแห่งชาติ การเกิดปะการังฟอกขาวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล การปฐมพยาบาลฉุกเฉินบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง การกู้ชีพ กู้ภัย ในอุทยานแห่งชาติ การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR & AED) และการสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ การแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์งานด้านการสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถจากสำนักอุทยานแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) โรงพยาบาลกรุงเทพปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

‘แท็กซี่ร้อยเอ็ด’ เก็บเงินครึ่งล้านได้ ประสานส่งคืนเจ้าของชาวซาอุฯ เผย ไม่เคยคิดจะเอาไว้ เพราะต้องการซื่อสัตย์ต่ออาชีพตนเอง

(12 ก.ค. 67) ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM91 ดร.ไจตนย์ ศรีวังพล ผู้ร่วมดำเนินงานสถานีวิทยุ สวพ.FM91 นายสกล ถาวรกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายสื่อสารองค์กร น.ส.พิชญา อังคทะวานิช ผอ.ฝ่ายรายการ พร้อมด้วย น.ส.จิตต์ผ่องใส ศรีวังพล ผอ.ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเเละจิตอาสาสัมพันธ์ ร่วมเป็นสักขีพยานส่งมอบเงินสกุลต่างชาติ มูลค่ารวม 566,127 บาท คืนเจ้าของชาวซาอุดีอาระเบีย หลังลืมไว้บนรถแท็กซี่

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ นายเสน่ห์ ไชยคาม อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง มฎ-970 กทม. โทรมาแจ้งผ่านโทร 1644 สวพ.FM91 ว่า มีผู้โดยสารลืมกระเป๋าถือสีดำไว้บนรถ ภายในกระเป๋า มีเงินสกุลต่างชาติจำนวนมาก แต่ไม่กล้าเปิดดู

จากนั้นจึงเดินทางเข้ามาที่ สวพ.FM91 เพื่อให้ช่วยตรวจนับทรัพย์สิน ประกาศตามหาเจ้าของ และให้ช่วยประสานส่งคืนทรัพย์สินที่เก็บได้ เป็นกระเป๋าถือสีดำ เป็นลักษณะช่องซิป 2 ช่อง มีปากกา สมุดโน๊ต นามบัตรระบุชื่อ Mr.Ibrahem M.Al Dossary หลังจากตรวจนับ

พบว่า มีเงิน 1,885 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเงินดอลลาร์ 15,094 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 566,127 บาท คาดว่าจะเป็นของผู้โดยสารที่รับมาจากถนนรัชดาภิเษก ระหว่างซอยรัชดาภิเษก 24-26 จะไปมาบุญครอง แต่รถติด จึงขอลงที่สยามสเเควร์ เวลาประมาณ 15.30 น

แท็กซี่พลเมืองดี เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้โดยสารลงไปแล้ว ก็ขับรถออกไปต่อ พอจังหวะรถติดไฟแดง ได้หันกลับไปดูหลังรถ เห็นมีกระเป๋าสีดำ ตกอยู่ที่พื้น บริเวณหลังเบาะคนขับ ตอนแรกไม่กล้าเปิด แต่พอเปิดมาดู รู้สึกตกใจมาก ไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน ไม่กล้าตรวจสอบข้างใน

นึกถึง สวพ.FM91 จึงรีบโทรมาแจ้ง ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ และนำเข้ามาฝากไว้ “ไม่เคยคิดจะเก็บเงินไว้เอง อยากส่งคืนเจ้าของ เงินนี้ไม่ใช่ของเรา เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพของเรา”

หลังจากได้รับแจ้งจากแท็กซี่คนดี ทางทีมงานสถานีวิทยุสวพ.FM91 ได้ประกาศตามหาเจ้าของ ขณะเดียวกันได้ประสานงาน ไปทางสน.ปทุมวัน เจ้าของพื้นที่ด้วย จึงทราบว่ามี ชาวซาอุดีอาระเบีย เข้าไปแจ้งความลืมเงินไว้พอดี จึงได้มีการประสานงานนัดหมายส่งคืน

ด้าน นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เจ้าของเงินเปิดเผยว่า รู้สึกปลื้มใจมาก ๆ ที่รู้ว่าจะได้เงินคืน เนื่องจากตนเองมีแล็ปทางการแพทย์ และได้เตรียมเงินมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในงานนิทรรศการเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ในประเทศไทย หลังจากลืมกระเป๋าไว้บนรถแท็กซี่

ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน จากนั้นจึงเข้าพักที่โรงแรมย่านสุขุมวิท ต่อมาได้รับการติตต่อกลับว่า มีแท็กซี่เก็บกระเป๋าเงินได้ และนำมาฝากไว้ที่สวพ.FM91 เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ “ดีใจมาก ที่รู้ว่ามีแท็กซี่คนดี เก็บของได้และพร้อมจะส่งคืน จึงขอชมเชยและขอบคุณ ตำรวจ แท็กซี่ และสวพ.FM91 ที่ประสานส่งคืนให้ ประทับใจมาก”

ทั้งนี้ เจ้าของเงินดังกล่าว ได้มอบสินน้ำใจ ให้กับแท็กซี่ จำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณและชื่นชมในความซื่อสัตย์ของแท็กซี่คนดี

อึ้ง!! ‘ไฟแนนซ์’ ยึด ‘รถบรรทุก’ สูงเป็นประวัติการณ์ แค่ที่เดียว จากหลักร้อย ทะยานสู่ 3,000 คัน

จากกรณีโลกโซเชียลกระหน่ำแชร์ภาพลานจอดรถที่มีรถถูกไฟแนนซ์ยึดเต็มลาน สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจครัวเรือนในห้วงปัจจุบันอย่างชัดเจน 

ล่าสุด (12 ก.ค. 67) นายสิทธิศักดิ์ มหาสิทธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการตลาด บจก.สยามอินเตอร์การประมูล เปิดเผยในรายการ ‘เรื่องเด่นเย็นนี้’ ว่า จากการที่ปรึกษาพี่ ๆ น้อง ๆ วงการไฟแนนซ์รถมือสองทั้งหมด เราก็มองว่าปีที่แล้วว่าหนักแล้ว ปีนี้หนักกว่า ปีหน้าอาจจะทรง ๆ ตนว่าจากนี้ไปอีกประมาณ 3-4 ปี ถึงจะเริ่มกลับมาดีขึ้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานภาครัฐด้วยว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เพราะว่าหนี้เสียเยอะมากเลย การที่ปีนี้มีรถทะลักเข้ามาเยอะ หนี้เสียเยอะตามที่เราเห็น คนเดือดร้อนเยอะ กิจการปิดตัวเยอะ เพราะว่าโครงการช่วยเหลือคนตอนโควิด (พักหนี้) ได้หมดโครงการไปเมื่อปีที่แล้ว มันก็เลยมาบวม ณ ปีนี้

นอกจากนี้ยังพบว่า ปีที่แล้วมีรถถูกยึดราว 350,000 คัน และปีนี้ก็คาดจะอยู่ที่ 300,000 คัน จากสถานการณ์ปกติ จะอยู่ที่ 200,000-250,000 คันต่อปี เรียกว่าเพิ่มขึ้น 30-40% เลยทีเดียว และ 80 ถึง 90% เป็นรถที่ถูกยึดมาจากสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถบ้าน 

และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการยึดรถจำนวนมากเป็นประวัติการณ์จนแทบล้นลานประมูล เปิดบริษัทมา 20 ปีเพิ่งจะเคยเห็น โดยส่วนมากเป็นรถที่ถูกสถาบันทางการเงินยึด และรถที่ถูกยึดในสต๊อกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากที่กลุ่มรถบรรทุกเคยถูกยึดหลักร้อยคัน วันนี้เฉพาะที่สยามอินเตอร์การประมูลมีรถบรรทุกถูกยึดมากถึง 3,000 คัน นับว่าสูงที่สุดในประเทศไทย และคาดว่าจะมีรถถูกยึดเพิ่มอีกเรื่อย ๆ เพราะว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว 

'ดร.ธรณ์' หวั่น!! ผลกระทบ 'ปลาหมอคางดำ' กระจายสู่แหล่งน้ำอื่น ยิ่งแพร่ยิ่งเกินควบคุม

(12 ก.ค.67) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า…

ในกรณีที่ปลาหมอคางดำลงทะเล ระบบนิเวศที่จะได้รับผลกระทบคือหาดทราย หาดเลน ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเล ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่อยู่ในน้ำกร่อยได้ สัตว์น้ำในพื้นที่ชายฝั่งจึงถูกคุกคาม

หาดทราย/หาดเลนบางแห่งอยู่ในเขตน้ำกร่อย โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ปากแม่น้ำลำคลอง ความเค็มต่ำ ปลาหมออยู่ได้

บริเวณนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์ขนาดเล็กที่อาจตกเป็นอาหารปลา ทำให้สัตว์น้ำลดลง ชาวบ้านทำมาหากินริมทะเล เช่น เก็บสัตว์น้ำ ทอดแห วางอวนทับตลิ่ง ฯลฯ ได้รับผลกระทบ

ตัวอย่างง่าย ๆ คือปลากระบอกเริ่มหายไป ทอดแหวางอวนดันได้ปลาหมอมาแทน ป่าชายเลนและแหล่งหญ้าทะเลบางแห่งอยู่ตามชายฝั่ง ในเขตน้ำกร่อย เจอผลกระทบเช่นกัน

ระบบนิเวศทั้งสองแบบเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งปลาหมอคางดำจะกินสัตว์เหล่านั้น ผลกระทบจึงไม่เกิดเฉพาะพื้นที่ แต่จะส่งผลถึงทะเลข้างนอก ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง ในกรณีของแนวปะการัง อยู่ห่างชายฝั่ง น้ำเค็มมากหน่อย คิดว่าปลาหมอคงไปไม่ถึง แต่ยังมีหย่อมปะการังริมฝั่งที่อาจได้รับผลบ้าง ต้องติดตามดู

เมื่อดูจากแผนที่ ผลกระทบตอนนี้อยู่ในอ่าวไทยตอนใน กำลังขยายตัวไปทางภาคตะวันออก ชายหาด ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเลริมฝั่งในจังหวัดระยอง เช่น ปากน้ำ บ้านเพ เรื่อยไปจนถึงจันทบุรีและตราด เป็นพื้นที่เสี่ยงลำดับต่อไป ยังรวมถึงหย่อมการแพร่กระจายอื่นๆ เช่น ภาคใต้

ปัญหาสำคัญคือการจับปลาหมอในทะเลลำบากกว่าในบ่อหรือในคลอง หากแพร่ระบาดออกไปจะยากต่อการควบคุม คิดว่าปลาหมอจะขยายพื้นที่ไปตามปากแม่น้ำลำคลอง ชายฝั่งรอบๆ แต่จะไม่ออกไปตามเกาะเล็กเกาะน้อย (ยกเว้นเกาะขนาดใหญ่ที่มีลำคลอง) ไม่คิดว่าปลาหมอจะว่ายตัดทะเลไปเกาะใหญ่ๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าติดไปแล้วลงสู่แหล่งน้ำบนเกาะ จะแพร่พันธุ์รอบเกาะได้

การควบคุมให้ปลาหมอไปไม่ถึงเกาะต่างๆ จึงสำคัญอย่างมาก ต้องช่วยกันระวังอย่าให้คนพาไป (ไม่ตั้งใจก็ต้องระวัง)

สถานการณ์ตอนนี้คงต้องเริ่มจากติดตามว่าปลาหมอกลุ่มที่อยู่ตามชายฝั่งมีที่ไหนบ้าง มีมากมีน้อย แนวโน้มเป็นอย่างไร หาทางป้องกัน/กำจัดอย่างไร

เรายังต้องการข้อมูลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับปลาหมอคางดำในทะเล
เพราะเป็นปลาเอเลี่ยน เราจึงไม่รู้การปรับตัว พฤติกรรมในทะเล อาหาร ผลกระทบ ฯลฯ

ในทะเลไทยไม่เคยมีเอเลี่ยนจริงจังมาก่อน เมื่อมีความเสี่ยงในเรื่องนี้ เราต้องรีบหาทางรับมือ หากเจอต้องช่วยกันรายงาน ปลาน้อยจับง่าย ปลาเยอะจับไม่หวาดไม่ไหว โดยเฉพาะตามเกาะใหญ่ ๆ ที่มีแหล่งน้ำจืดไหลลงทะเล เช่น เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด เกาะสมุย พะงัน ฯลฯ เราต้องจัดการปัญหาตั้งแต่ต้น

หากเจอรีบแจ้งเลยครับ

สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทยจัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิต และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รุ่นที่ 1 ภาคเหนือ

นางสาวอมรศรี รัศมิทัต ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิต และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ระหว่างวันที่ 11 – 13 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายกสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย / กรรมการภาคเหนือ ผู้แทนจากตำรวจภูธรภาค 5 และภาค 6 ผู้แทนจากหน่วยงานสาธารณสุขทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต แขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน

นางสาวอมรศรี รัศมิทัต ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตและการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องการให้ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านได้รับความรู้ มีความเข้าใจในเรื่องสิทธิด้านต่างๆสำหรับคนพิการ โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรงและการฆ่าตัวตาย รวมทั้งเน้นให้เห็นความสำคัญของครอบครัวเพื่อลดความรุนแรง รวมทั้งเพื่อให้ได้แนวทาง และขั้นตอนในการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตอย่างถูกวิธี ตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต และ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

นางสาวอุษาวดี สีขาว เลขานุการสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตภาคเหนือ กล่าวว่าโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิต และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดแกนนำเครือข่ายภาคปฏิบัติ ที่มีความรู้ความเข้าใจขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตเมื่ออยู่ในภาวะต่างๆได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันเหตุการณเพื่อให้ได้แนวทาง และขั้นตอนในการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตอย่างถูกวิธี  ตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต และ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จากการทำแผนงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง

สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคม  2546 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 21 ปี การจัดโครงการฯในวันนี้ ดำเนินการระหว่างวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2567 โดยจะมีการจัดกิจกรรมทั้งหมดจำนวน 5 รุ่น แบ่งเป็น รุ่นที่ 1 ภาคเหนือ จำนวน 140 คน รุ่นที่ 2 ภาคกลาง จำนวน 139 คน รุ่นที่ 3 ภาคอีสาน จำนวน 154 คน รุ่นที่ 4 ภาคใต้ จำนวน 117 คน และรุ่นที่ 5 ภาคตะวันออก จำนวน 76 คน รวมกลุ่มเป้าหมายทั้งโครงการจำนวน 626 คน

กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในรุ่นที่ 1 ภาคเหนือ มาจากคณะกรรมการภาคเหนือหรือผู้แทน กรรมการและกรรมการที่ปรึกษาสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตภาคเหนือ ผู้แทนตำตรวจภูธรภาค 5 และภาค 6 ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ผู้แทนจากหน่วยงานสาธารณสุขทั้ง 17 จังหวัด ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต ผู้สังเกตการณ์ วิทยากรและคณะทำงาน รวมจำนวน 140 คน คาดว่าจะได้รับ แกนนำเครือข่ายผ่านการฝึกอบรม และมีความรู้ความเข้าใจ ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตเมื่ออยู่ในภาวะต่างๆได้อย่างถูกวิธี ได้แผนงานและขั้นตอนในการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตอย่างถูกวิธี

‘ชาวเน็ต’ จวก!! ‘เขตราษฎร์บูรณะ กทม.’ หลังโชว์งานซ่อมฝาท่อ เหน็บ!! งานชุ่ย - ยางมะตอยรับจบ - ควรขอบคุณหรือกลุ้มใจ

(12 ก.ค. 67) เพจ ‘สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ’ ได้โพสต์ภาพฝาท่อระบายน้ำ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 หลังเข้าแก้ไขซ่อมแซมจนเรียบร้อย โดยได้นำภาพก่อนซ่อมและหลังซ่อมมาเปรียบเทียบ พร้อมระบุข้อความว่า…

“ใส่ใจดูแลแก้ไขปัญหา วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เขตราษฎร์บูรณะ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธากลุ่มงานระบายน้ำดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียน Traffy Fondue ฝาท่อระบายน้ำทรุดตัว การซ่อมเปลี่ยนบ่าลองฝาท่อระบายน้ำขนาดขอบบ่อ 75×108 cm. พร้อมแก้ไข ผิวจราจรชำรุดโดยการใช้ยางมะตอยสำเร็จรูปบริเวณใกล้เคียง ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่สัญจรไป-มา”

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ กลับได้รับคำวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการแก้ปัญหาดังกล่าว คล้ายการเพิ่มปัญหามากกว่า เนื่องจากเป็นการซ่อมแซมโดยใช้ยางมะตอยทดแทนบริเวณที่ชำรุด ทำให้ฝาท่อดังกล่าวอาจเปิดยาก หากต้องการระบายการอุดตันภายในท่อ และยางมะตอยดังกล่าวอาจทำให้เป็นเนิน รถสัญจรผ่านอาจเกิดอุบัติเหตุได้ 

ทั้งนี้ ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น “ไม่รู้จะขอบคุณหรือกลุ้มใจดี” / “ยางมะตอยรับจบทุกอย่าง” / “ทำดีที่สุดแล้วไม่เห็นมีใครเข้าใจ 555” / “โอ้โหฝีมือซ่อมนายช่างไทย กทม. ก็ยังกล้าเอามาโชว์ บ้าบอ” / “มาตรฐานงานดีที่สุดแล้วใช้ไหม” / “ปรับปรุงแก้ไข หรือ สร้างปัญหา​เพื่ออนาคต”

อุทยานฯผาแดง จับกุมผู้ต้องหาลักลอบแปรรูปไม้ ขยายผลอายัดไม้ต้องสงสัยคาบ้านผู้ร่วมขบวนการ

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่าตามข้อสั่งการของพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้ทำงานในเชิงรุกด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดลักลอบล่าสัตว์ ตัดไม้ทำลายป่า ตลอดจนการขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการ นายทุนรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานภาคสนามรับไปปฏิบัติแล้วนั้น ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 คณะเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแดงที่ 5 (แม่จา) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพบการทำไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแดง บริเวณป่าด้านทิศตะวันตกบ้านทุ่งข้าวพวง หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงได้เข้าตรวจสอบในบริเวณดังกล่าว ตรวจพบร่องรอยการชักลากไม้ จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียง ในระยะทางประมาณ 500 เมตร พบกระท่อมและชายต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายกอ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นราษฎรในพื้นที่ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบกระท่อม พบไม้ประดู่ จำนวน 7 ท่อน ไม้ประดู่แผ่น จำนวน 3 แผ่น เมื่อสอบถามนายกอแล้ว ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานที่มาของไม้ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางการกระทำผิดสำหรับแปรรูปไม้ อาวุธปืนแก๊ป และตรวจสอบพบยาบ้า ในย่าม จำนวน 2 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ต่อมา ผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการ ชื่อนายอ่าง และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบว่ามีการติดต่อกันทางโทรศัพท์ จึงได้มอบหมายให้นายนรินธร สวัสดิ์รักษ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง ขอหมายศาลจากศาลแขวงเชียงดาว เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 122 ม. 1 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ภายในบ้านพบนางบัวผัน (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นแม่ยายของนายอ่างฯอยู่ภายในบ้าน  เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านซึ่งเป็นบ้านปูน 1 ชั้นภายในกั้นเป็น 3 ห้อง บริเวณข้างบ้านพบกองไม้ประดู่และไม้สัก กองอยู่ข้างบ้าน แบ่งเป็นไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 43 แผ่น ไม้สักแปรรูป จำนวน 12 แผ่น โดยนางบัวผันฯแจ้งว่าไม้ดังกล่าวเป็นของนายศราวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) หรือนายอ่าง ซึ่งเป็นลูกเขยของตน พร้อมทั้งนำเอกสารการครอบครองไม้จำนวน 2 ฉบับ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เนื่องจากไม้มีเป็นจำนวนมากและเป็นไม้หวงห้าม เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการอายัดไม้ดังกล่าวไว้ เพื่อนำไปตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้นที่สภ.นาหวาย ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าไม้ที่กองอยู่ภายในบ้าน และเอกสารหลักฐานการได้มาของไม้ไม่ถูกต้องตรงกัน จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ต่อไป

"เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ออกลาดตระเวนเหยียบกับระเบิดอาการสาหัส พัชรวาทย้ำให้การช่วยเหลือเต็มที่"

11 กรกฎาคม 2567 นายพิชัย วัชรวงศ์ไพบูรย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้รายงานสถานการณ์กรณีเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการสาหัส ทราบชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายปรีชา ใสกระจ่าง อายุ 51 ปี พนักงานราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์ภูพะยอม โดยในเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพ บริเวณจุดพิกัด 432168E 1595537N ในพื้นที่ป่าพนมสวาย ท้องที่ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ขณะออกติดตามร่องรอยของกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเข้ามาลักลอบตัดไม้ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก

นายปรีชาฯ เหยียบกับระเบิดไม่ทราบชนิด ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขาซ้ายขาด สะเก็ดระเบิดโดนแขนซ้ายนิ้วโป้งกับนิ้วซ้ายขาด เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอขุนหาญ และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยขณะนี้แพทย์ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อได้รับรายงานจากนายพิชัยฯ จึงได้รายงานให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบแล้ว โดยพล.ต.อ.พัชรวาทฯ ได้เน้นย้ำให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มกำลังความสามารถ  และอธิบดีฯก็ได้แจ้งข้อสั่งการของพล.ต.อ.พัชรวาทฯ ให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทราบ และดำเนินการแล้ว พร้อมทั้งให้กำชับเจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง ในการปฏิบัติหน้าที่ออกลาดตระเวนพื้นที่ป่าซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะประสบเหตุเหยียบกับระเบิดขึ้นอีก โดยขอให้ประสานกับหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดของทหาร ตลอดจนการออกลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ในการปฏิบัติหน้าที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top