Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

‘หนุ่มพิการ’ ใจสู้ ‘ส่งพิซซ่า-ขับวิน-ขับไรเดอร์’ หาเงินเลี้ยงตัวเอง เผย!! ถูกรถชนขาขาด ตอนอายุ 18 ปี ต้องใส่ ‘ขาเทียม’ ตลอดชีวิต

(3 ส.ค.67) สมาชิก TikTok @sudjai2529 โพสต์คลิปความสู้ชีวิตของหนุ่มไรเดอร์คนหนึ่ง ซึ่งเหลือขาแค่ข้างเดียว อีกข้างใส่ขาเทียมเอาไว้ เดินรับออร์เดอร์จากร้านค้าไปส่งลูกค้า

ซึ่งผู้โพสต์เป็นแม่ค้าร้านขนมจีนอยู่แถวห้วยขวาง หลังจากเห็นหนุ่มไรเดอร์คนนี้มารับอาหาร และสังเกตเห็นว่าใส่ขาเทียมข้างนึง ก็ได้เริ่มพูดคุยจนทราบว่า น้องชื่อ จูเลียน เป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย

จูเลียน ไม่ได้พิการตั้งแต่กำเนิด แต่เมื่อตอนอายุ 18 ปี ถูกรถชนจนขาขาด ต้องใส่ขาเทียมไปตลอดชีวิต ปัจจุบันอายุ 36 ปี จูเลียนสู้ชีวิตมาก ทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงตัวเอง ทั้งส่งพิซซ่า ขับไรเดอร์หลายๆ เจ้า รวมทั้งขับวินด้วย

นอกจากนี้ในติ๊กต็อกของ จูเลียน ‘ranghuakhwang’ พบว่าได้โพสต์คลิปไว้หลายคลิป ส่วนใหญ่เป็นคลิปช่วงที่กำลังทำงานส่งอาหารให้ลูกค้า ดูแล้วสู้ชีวิตมาก และไม่ยอมแพ้ พยายามทำงานหาเลี้ยงตัวเอง และมีคลิปนึงที่จูเลียนพูดเอาไว้ว่า “ให้ผมหยุดทำงาน ผมทำไม่ได้ สู้อยู่แล้ว”

ขณะเดียวกัน ผู้โพสต์ก็ได้พยายามไลฟ์ขายเสื้อวินเทจ เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือจูเลียนอีกด้วย เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องได้มีแรงสู้ต่อไปแม้จะไม่สมบูรณ์ก็ตาม ขณะเดียวกันหลังคลิปของจูเลียนเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก

สุดอาลัย!! ‘เพลิน พรหมแดน’ เจ้าของฉายา ‘ราชาเพลงพูด’ จากไปอย่างสงบ ด้วยสิริอายุ 85 ปี

๏ พูดเพลงบรรเลงร้อง ร่ายทำนองคล้องคลอคำ
เสน่ห์มิเลือนจำ ท่วงลำนำชำนัญชื่อ
เล่าเรื่องประสมเสียง ผสานเรียงอันเลื่องลือ
ร้อยเส้นอักษรสือ สมญาคือ ‘เพลิน พรหมแดน’ ๚๛

พรชัย นวการพิศุทธิ์ / ประพันธ์

‘น้องเมย์’ รับ!! พ่ายรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะคู่แข่งมาดีมาก เผย!! ยังไม่ทิ้งฝัน 'โอลิมปิก' แต่ขอดูสภาพร่างกายก่อน

(3 ส.ค.67) ภายหลังการแข่งขันน้องเมย์ เปิดเผยว่า ปฏิกิริยาในการเล่นของฝั่งตรงข้ามวันนี้ดีมาก ทำให้เราไม่สามารถที่จะคว้าชัยชนะได้

‘เกมตลอดปีไม่ได้เจอเกมเบียด และการเจอกับท็อปเพลเยอร์ เขาสามารถจับจุดในเกมช่วงเวลาสำคัญได้ดีเยี่ยมมากสมราคามือแปดของโลก’

‘น้องเมย์’ ระบุว่า เค้าบีบออกลูกไม่ถึง พอคิดเยอะจับอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะลูกบุกเลยแก้ไม่ได้ พอคิดเยอะ ๆ ร่างกายมันช้าลงโดยอัตโนมัติ สุดท้ายแล้วหนูก็เหมือนกับแพ้ความคิดตัวเอง

ต่อข้อซักถามที่ว่า เป็นโอลิมปิกสุดท้ายของเธอแล้วหรือไม่ ‘เมย์’ ตอบว่า ขอดูสภาพร่างกายก่อน เป็นปีต่อปี ใจจริงอยากกลับมาเล่นอีก ส่วน เอเชียนเกมส์ พร้อม ลงเล่นแต่ว่าการแข่งขันซีเกมส์คงพอแล้ว

‘การเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้ 3 สมัย เสียดายทุกครั้งครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้เคียงมากแต่เสียดายที่สุดก็คือที่ลอนดอน เนื่องจากว่าอีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว’

โปรดเกล้าฯ ให้ ‘พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์’ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการพระราชทานเพลิงศพ ‘นางชดช้อย ทวีสิน’ วัดเทพศิรินทราวาส กทม.

(3 ส.ค.67) จากกรณี นางชดช้อย ทวีสิน มารดาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 สิริอายุ 96 ปี โดยตั้งศพบำเพ็ญกุศล ที่ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส กทม.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพ นางชดช้อย ทวีสิน

โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ พรรคการเมือง หน่วยงานราชการ ภาคธุรกิจ ประชาชน และญาติสนิท ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมอย่างคับคั่ง

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพ นางชดช้อย ทวีสิน ในวันอังคารที่ 6 ส.ค. ที่วัดเทพศิรินทราวาส กทม.

โดยหมายกำหนดการ พิธีพระราชทานเพลิงศพ นางชดช้อย ทวีสิน มารดานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีดังนี้

วันอังคารที่ 6 ส.ค. 2567

เวลา 10.00 น. ทำบุญและถวายภัตตาหารเพล

เวลา 13.30 น. พิธีสวดมาติกาบังสุกุล

เวลา 14.30 น. พิธีเคลื่อนศพ

เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ

‘ฮอนด้า’ เปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์ เพื่อเป็นเจ้าของ ‘ซีวิค ใหม่’ จัดเต็มออฟชั่นล้ำสมัย Google built-in ลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง

(3 ส.ค.67) ฮอนด้าเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ซีวิค ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 22 สิงหาคม 2567 ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* เมื่อจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 31 ตุลาคม 2567 โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมกันทั้งที่งาน Big Motor Sale 2024 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ อัปดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทันสมัย ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยไฟท้าย LED รมดำ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ลงตัวกับทุกการใช้งาน 2 ขุมพลังขับเคลื่อน มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO 1.5 ลิตร และมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

ยกระดับความคุ้มค่าไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย** อาทิ Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด

ฮอนด้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ยืนยันดำเนินธุรกิจและลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องในไทย เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV อย่างมั่นคง

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้า ยืนยันการดำเนินธุรกิจและลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV อย่างมั่นคง ล่าสุด ประกาศให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ภายใต้เจเนอเรชันที่ 11 ที่มีการปรับโฉมและเพิ่มเติมคุณค่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ด้วยข้อเสนอพิเศษ ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* เมื่อทำการจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 31 ตุลาคม 2567 และเตรียมพบกับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงแคมเปญ 'Honda Happy Trade-in*' และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่สนใจ โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทฮอนด้าในงาน Big Motor Sale 2024 ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 1 กันยายน 2567 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

ฮอนด้า ซีวิค เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมและครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เจเนอเรชันแรกจนถึงเจเนอเรชันที่ 11 โดยสามารถครองอันดับ 1 ด้านยอดขายกลุ่มคอมแพคท์คาร์ในไทย 8 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559 -ปัจจุบัน

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV RS  ราคาประมาณการ 1,23X,XXX บาท***
รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการ 1,09X,XXX บาท***
รุ่น EL+ ราคาประมาณการ 1,03X,XXX บาท***
(ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะประกาศในวันที่ 23 สิงหาคม 2567)

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ อัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น
ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
ใหม่! ไฟท้าย LED รมดำ เสริมความมีเอกลักษณ์ในตัว
ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต
ใหม่! ในรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
ใหม่! สำหรับรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ กับสีใหม่!! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก)

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต และทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ

ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต ในรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ
ใหม่! ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย
ใหม่! เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย

เสริมความมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย
ใหม่! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)
ใหม่! โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจสไตล์คุณ

ยกระดับความสบายและสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง พร้อมเชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย

ใหม่!! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย
ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย 
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ในทุกรุ่นย่อย
ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ในทุกรุ่นย่อย

มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลังผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกำลังกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง และขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับสนุก แรงเร้าใจ สไตล์สปอร์ต ด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ตอบสนองได้อย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ในทุกรุ่นย่อย

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)  สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวแพลทินัม (มุก) พร้อมภายในสีดำและสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)

โดยมั่นใจตลอดการใช้งานยิ่งขึ้น ด้วยบริการหลังการขายและทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ

เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอคเคานต์ ‘Honda Thailand’ ในช่องทาง Facebook, YouTube Channel, TikTok และ Instagram ตั้งแต่เวลา 11:30 น. เป็นต้นไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.honda.co.th/civic

‘ลุงป้อม’ ชวนคนไทย ส่งกำลังใจเชียร์ ‘วิว’ หลังโค่นมือ 1 ของโลก เผย!! ชนะอีกแค่ 2 ครั้ง เพลงชาติไทยดัง กระหึ่มปารีส ฉลอง ‘เหรียญทอง’

(3 ส.ค.67) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่เดินทางมาปารีส และเข้าไปให้กำลังใจ ‘วิว’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 8 ของโลก ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว แบดมินตัน โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่สนามอาดิดาส อารีน่า กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 กุลวุฒิ ทำผลงานยอดเยี่ยม ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

‘ลุงป้อม’ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมชื่นชม กุลวุฒิ หลังจบแมตช์การแข่งขันกับผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ‘บิ๊กป้อม’ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ‘ตนต้องแสดงความดีใจกับ วิว ด้วย ที่สามารถเอาชนะนักกีฬามือ 1 ของโลก ได้ และอยากขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้วิวอีก 2 แมตช์ เพื่อได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ต่อไป ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจกับน้องวิวครับ’

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทัพนักกีฬาไทยจะได้กี่เหรียญในโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ พลเอก ประวิตร ตอบกลับสั้น ๆ ว่า ‘ผมยังไม่รู้หรอก แล้วผมจะรู้ได้ยังไง’ ก่อนที่จะเดินหันหลังออกจากวงสัมภาษณ์ไปในทันที

ขอนแก่น- 'ธปท.สภอ.' แจง! เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังซื้อของภาคอีสานยังไม่มาก

เศรษฐกิจอีสานมีแรงส่งระยะสั้น จากราคายางพาราและอ้อย และการท่องเที่ยวดีขึ้น แต่แรงส่งยังไม่เพียงพอเนื่องจากเกษตรกรที่ได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่มซึ่งมีสัดส่วนน้อย และรายจ่ายนักท่องเที่ยวยังต่ำ ประกอบกับสถานการณ์การเงินของครัวเรือนที่เปราะบาง ทำให้กำลังซื้อของภาคอีสานยังไม่มาก

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า ที่ ห้องปัญญาวิจิตร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) จัดแถลงข่าวเศรษฐกิจ และงานขอบคุณสื่อมวลชน โดยมี ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) เป็นประธานในการจัดแถลงข่าว รายการนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างชุมชน 

ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) กล่าวสรุปว่า เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 2 ปี 2567 เศรษฐกิจอีสานมีแรงส่งระยะสั้น จากราคายางพาราและอ้อย และการท่องเที่ยวดีขึ้น แต่แรงส่งยังไม่เพียงพอเนื่องจากเกษตรกรที่ได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่มซึ่งมีสัดส่วนน้อย และรายจ่ายนักท่องเที่ยวยังต่ำ ประกอบกับสถานการณ์การเงินของครัวเรือนที่เปราะบาง ทำให้กำลังซื้อของภาคอีสานยังไม่มากพอที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ 

นอกจากนั้นยังเห็นสัญญาณเปราะบางลามไปสู่ระดับกลางมากขึ้น จากยอดขายบ้านระดับกลางหดตัว โดยผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้ประจำถูกปฏิเสธสินเชื่อมากขึ้น จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจภาคอีสานปี 2567 จากที่คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยเป็นไม่ขยายตัว และในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ ร้อยละ 1 จากสภาพภูมิอากาศที่เข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผลผลิตเกษตรขยายตัวในทุกพืชสำคัญ ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมหมวดอาหารขยายตัว ภาคการค้าขยายตัวจากรายได้ภาคเกษตรที่ดีขึ้น และการใช้จ่ายภาครัฐคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ตามปกติ

สมุทรปราการ-จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ แถลงข่าว 'สุดยอดผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุทรปราการ'

(3 ก.ย. 67) เวลา 16.00 น. นายสุจินต์ วาจากิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติเป็นประธาน แถลงข่าว 'สุดยอดผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุทรปราการ' ภายในห้องประชุม MOOVE Event Centre ต.แพรกษา อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ

โดยมี นายอำนวย สุวรรณรักษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางณิชาภา ไชยเรือน นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

จากโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้นวัตกรรมและปรับปรุงประสิทธิภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจชุมชนเพื่อการปรับตัวสู่วิถีชีวิตใหม่ สู่การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์วิถีชุมชน ระหว่างวันที่ 12-16 กันยายน 2567 ณ บริเวณ Grand Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ

ภายในงานพบกับ สินค้าดี สินค้าเด่น ผลิตภัณฑ์วิถีชุมชน สินค้า OTOP รวม 43 บูธ และกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย สนุกทุกวันกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน-นักร้อง เอิ้นขวัญ วรัญญา ,โบว์ เจน นุ่น Super วาเลนไทน์ ,ไรอัล กาจบัณฑิต ,ดอกแค ท็อปไลน์ และออร์ดี้ ภูบดินทร์

โดยบรรยากาศภายในงานแถลงข่าว”สุดยอดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสมุทรปราการ” ครั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ คณะผู้ประกอบการ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในงานแถลงข่าวครั้งนี้

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

Kick-off โครงการการพัฒนาระบบกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเพื่อพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค

ที่ปรึกษา รมว.อว. ชี้อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีความพร้อม เพราะเป็นกลไกเชิงระบบของชาติหรือที่เรียกว่า National Platform อยู่แล้ว แถมมีทั้งมหาวิทยาลัย นักวิจัย นักนวัตกร ห้องปฏิบัติการ เทคโนโลยี เครื่องมือ งานวิจัยขั้นแนวหน้า ขณะที่อุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ภาคเหนือชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดิจิทัล การท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและอาหาร

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2567 รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานคณะที่ปรึกษา รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นประธานเปิดงานปฐมนิเทศ (Kick-off) โครงการการพัฒนาระบบกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเพื่อการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค (NEC, NeEc, CWEC และ SEC) มีนายเอกพงค์ มุสิกะเจริญ ผอ.กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผอ.สำนักคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผอ.หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รอง ผอ.ฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร บพท. และ ผอ.เครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั้ง 44 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วม ที่โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ

รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ มี จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี จ.นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ภาคกลาง-ตะวันตก มี จ.พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และภาคใต้ มี จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่โฟกัสใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่อีสเทิร์นซีบอร์ดหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดเท่านั้น เพื่อมุ่งยกระดับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม และยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมเป้าหมายด้วยเทคโนโลยีเชิงลึก ผ่านการเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพื้นที่ทั้ง 4 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุดมศึกษา และภาคประชาสังคม 

ดังนั้น บทบาทของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจะต้องเข้าไปมีบทบาทเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภูมิภาคให้ได้ เพราะอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ห้องปฏิบัติการ ห้องวิจัย มีผู้เชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้น ภาคเอกชนที่จะมาลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาคก็จะมีกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเป็นเครื่องมือในการผลิตสินค้าและบริการได้ ที่สำคัญที่สุด อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีกำลังคน มีนวัตกรจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตและจะมีส่วนช่วยผลักดัน GDP ให้กับประเทศได้

จากนั้น รศ.ดร.วีระพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเป็นกลไกเชิงระบบของชาติหรือที่เรียกว่า National Platform ทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีในการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันของมหาวิทยาลัยในหลายภูมิภาค ดังนั้นเมื่อมีนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค และมีโฟกัสว่าพื้นที่แต่ละพื้นที่จะทำอะไร อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคก็จะเป็นกลไกสำคัญและเป็นตัวกลางในการเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคเข้าสู่การใช้ประโยชน์กับภาคเอกชน ภาคการผลิต ภาคบริการ ซึ่งอยู่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ และเมื่อมีการโฟกัสจุดเด่นของแต่ละภูมิภาคก็จะทำให้เกิดการทำงานที่ไม่ทับซ้อนกัน จะทำให้เกิดการจ้างงาน ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามว่า ศักยภาพของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจะสามารถรองรับการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ได้หรือไม่ รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีความพร้อมอยู่แล้ว มีทั้งมหาวิทยาลัย นักวิจัย ห้องปฏิบัติการ เครื่องไม้เครื่องมือ งานวิจัยขั้นแนวหน้า การพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค จะทำให้การทำงานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

ด้าน รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ มีความพร้อมและได้เตรียมแผนไว้รองรับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ 4 จังหวัดไว้แล้ว นอกจากนี้ มีการเตรียมนำเทคโนโลยีในกลุ่ม BCG มาทำให้เกิด New s-curve เพื่อเป็นตัวเร่งหรือเครื่องยนต์ตัวใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยในภาคเหนือมีความโดดเด่นในเรื่องของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดิจิทัล การท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  การเกษตรและอาหาร ซึ่งอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ มีคลัสเตอร์ในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ ก็จะมีอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นในแต่ละเรื่องที่แตกต่างกันออกไป

ขณะที่ รศ.ดร.ปัทมาวดี กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค เกิดขึ้นเพื่อให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษที่ 21 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยได้เป็นแกนนำหลักในภาคีสำคัญของโลกด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออนาคต และเพื่อการขับเคลื่อนเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าสู่อุตสาหกรรมอนาคตที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเข้มข้น มีความสามารถในการเติบโตในอนาคตสูง

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จัดกิจกรรมสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรมในโอกาส สัปดาห์วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานหน้าตึกมหิดล สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ โดยมี ร้อยตำรวจโท ดร. มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ กล่าวอาศิรวาท พร้อมทั้งเปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และกล่าวเปิดงาน  

กิจกรรมในวันงานประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมถวายพานพุ่มถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และการจัดเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่เด็ก เยาวชน คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 300 คน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top