Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

'มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์' จับมือ จัดหางาน จ.จันทบุรี มอบ 'รถเข็นวีลแชร์' เติมกำลังใจให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้

(27 ส.ค.67) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ ให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ยากไร้ ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลิ้ว เทศบาลตำบลพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี โดยมีนางสาวอนงค์นุช  มีศิริ จัดหางานจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นางสาวรัศมินท์ พฤกษาทร นายอำเภอแหลมสิงห์ และนายรังสรรค์ เจริญวัย นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพลิ้ว ร่วมเป็นเกียรติพิธีมอบในครั้งนี้ 

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ได้รับการประสานงาน ขอรับบริจาครถเข็นวีลแชร์ จากนางสาวอนงค์นุช มีศิริ จัดหางานจังหวัดจันทบุรี เพื่อมอบให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ ในพื้นที่  จำนวน 5 ราย ได้แก่ 1)นางสมฤดี นิระพงษ์ ผู้สูงอายุ อายุ 81 ปี  พักอยู่หมู่ที่ 11 ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี 2) นายยงยุทธ นีระพงษ์ ผู้สูงอายุ 66 ปี พักอยู่หมู่ที่ 2 ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี  3)นางวิรัตนา วิเศษฤทธิ์  ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปี พักอยู่หมู่ที่ 6 ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี  4)นางลัดดา กาบทิพย์ ผู้สูงอายุ อายุ 82 ปี พักอยู่ หมู่ 2 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี  5)นางบังอร  บุญเกิด พิการทางการเคลื่อนไหว พักอยู่ ม.2 ต.วันยาวล่าง อ.ขลุง จ.จันทบุรี  

ทั้งนี้มูลนิธิได้รับการบริจาครถเข็นวีลแชร์จาก กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป ผู้ให้บริการรถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

จากการที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี และถือเป็นกิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ที่มีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต และจะให้บุคคลเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข

ลูกสาวเหยื่อยาดอง โพสต์เศร้าไม่มีเงินทำศพพ่อ เจอค่ารักษากว่าแสนบาท ลั่น!! พ่อต้องไม่ตายฟรี

จากกรณี เหยื่อยาดองมรณะเสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ศพ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสายตาพร่ามัวที่ยังไม่รู้ว่าจะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมหรือไม่?

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก ‘เจ๊ปู’ ผู้รับเมทิลแอลกอฮอล์มาผสมผลิตยาดองขายให้ร้าน 18 แห่ง ร่ำไห้ขอโทษสังคมไม่รู้ว่าเป็นสารพิษ ถูกแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา รวมทั้ง ข้อหาฉกรรจ์กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากยาดองมรณะ ได้ออกมาโพสต์ภาพพ่อของตนเองขณะนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพร้อมระบุข้อความว่า…

“#ผู้เสียชีวิตจากยาดองมรณะ ใครพอจะมีช่องทางการติดต่อนักข่าว แนะนำหนูมาได้นะคะ หนูยินดีไปทุกสำนัก หนูจะไม่ให้พ่อหนูตายฟรี📌
#ทักเข้ามาได้เลยนะคะ หรือโทร 0634893821
#ฝากแชร์ด้วยค่ะ“

นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ใบเสร็จการชำระเงินค่ารักษา โดยระบุข้อความว่า “ที่หนูออกมาโพสต์ทุก ๆ อย่างเพราะหนูอยากจะเห็นว่าจะมีใครรับผิดชอบการเสียชีวิตของพ่อหนูบ้าง ตั้งแต่พ่อหนูอยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีใครออกมารับผิดชอบทางพ่อหนูเป็นการส่วนตัวหรือเข้ามาคุยหรือขอโทษ

ซึ่งที่ผ่านมาพวกหนูต้องเดินเรื่องเองมาตลอด และมีเพื่อน ๆ ของพ่อที่คอยช่วยเหลือพวกหนูอยู่ ดูจากใบเสร็จของการชำระเงินเอานะคะ ถ้าสมมุติว่าพ่อหนูไม่มีเงินจากประกันสังคม พวกหนูไปหาเงินมาจากไหน เพราะทางพวกหนูแทบไม่มีญาติผู้ใหญ่จากไหนเลย

แล้วเดินเรื่องกันเองทั้งหมด พวกหนูเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะไม่กี่ปี ครั้งแรกในชีวิตที่มาทำอะไรแบบนี้ หนูดิ้นกันสุดทาง หนูอยากให้พ่อหนูได้รับความยุติธรรม และตอนนี้หนูสามคนพี่น้องต้องไปหายืมคนอื่นเพื่อมาจัดงานศพ”

ล่าสุด ทางผู้โพสต์ได้อัปเดตว่าทาง ‘กัน จอมพลัง’ ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว

'ผลโพลฯ' ชี้!! กลุ่มผู้ถูกสำรวจ 'เห็นด้วย' แนวทางฟื้นฟูศก.ของ 'ทักษิณ' พบ!! 'ดิจิทัลวอลเล็ต-รถไฟฟ้า 20 บาท' น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ

(27 ส.ค. 67) ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นอร์ทกรุงเทพโพล’ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 24 - 25 สิงหาคม 2567 มีผู้สำรวจ 1,320 ราย จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยสอบถามเรื่อง ข้อเสนอในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่า คนไทยเห็นด้วยกับแผนและแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 66.5% และ ไม่เห็นด้วย 19.4% ขณะที่ไม่แสดงความคิดเห็นมี 14.1% 

ทั้งนี้แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของนายทักษิณ ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ Vision for Thailand 2024 ประกอบไปด้วย 14 ประเด็นที่เป็นข้อเสนอแนะ โดยหากเรียงตามความชื่นชอบและให้ความสนใจมากสุด ของประชาชนชาวไทยที่ได้ทำการสำรวจทั้งหมดพบว่า 

1. นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 15.3% 
2. จัดระเบียบโครงสร้างภาษี 11% 
3. ปราบยาเสพติดผ่านการลดจำนวนผู้เสพ 10.2%  
4. รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 8.7%  

5. ผลักดันแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น 8.1%  
6. ยกเศรษฐกิจนอกระบบขึ้นมาบนดิน 7.6% 
7. การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน 6.9% 
8. ขยาย ‘กองทุนวายุภักษ์’ 6.1%  

9. แก้ปมเขตทับซ้อน 5.4% 
10. สร้างศูนย์กลางผลิตรถไฟฟ้า 5.4% 
11. ถมทะเลบางขุนเทียน สร้างแผ่นดินใหม่ 4.8% 
12. ผลักดันไทยเป็นหลุมหลบภัยนักลงทุน 4.5%  

13. ทำลีก ‘มวยไทย’ ดันซอฟต์พาวเวอร์จริงจัง 3.7%
14. ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน 2.3%

ลูกตำรวจเฮ !! บิ๊กอิทธิ จัดทุน ป.ตรี เรียนจีนฟรี

เมื่อวันที่ (23 ส.ค. 67) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.ได้จัดกิจกรรมปฐมนิเทศ ลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.พร้อมผู้ปกครอง เพื่อชี้แจงความเข้าใจและการเตรียมตัว เพื่อไปศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ประเทศจีน รวม 11 คน ที่อาคาร สตม.เมืองทองธานี

พล.ต.ท.อิทธิพลฯ เปิดเผยว่า ทุนดังกล่าว ตนได้ประสานงานกับ สมาคมครูจีน เพื่อขอโควต้า นศ.ไทย จาก มหาวิทยาลัยจี่หนาน กรุงปักกิ่ง และ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เซียะเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเปิดโอกาสให้ ลูกตำรวจ ในสังกัด สตม.ได้มีโอกาสได้โควตา ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่จีน 

โดยตนเห็นว่า ปัจจุบัน และในอนาคต ประเทศจีน มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ สังคม ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกภูมิภาค อีกทั้งภาษาจีน เป็นภาษาที่มีคนใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้น หากเด็กไทย โดยเฉพาะลูกตำรวจในสังกัด สตม.ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อ ระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นระดับที่จะเข้าสู่วัยทำงาน ตนมองว่า จะสามารถให้อนาคตที่ดีแก่บรรดาลูกๆที่เข้าโครงการ ในการเข้าสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจของจีนได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และอาจเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ที่พร้อมต่อการรองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจจีนที่เข้ามาในไทยอย่างมีคุณภาพด้วย

นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ ตม.ในสังกัด ในการดูแลบุตรธิดาให้มีอนาคตที่ดีต่อไป

โดยทุนดังกล่าว เป็นทุนเรียนฟรี แบ่งเป็น 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่

1. มหาวิทยาลัยจี่หนาน ปักกิ่ง  3 คน
โดยจะออกเดินทาง วันที่ 29 ส.ค.2567
2. มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เซียะเหมิน 8 คน 
โดยจะออกเดินทาง วันที่ 2 ก.ย.2567
ในการปฐมนิเทศครั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพลฯ ได้
ให้คำแนะนำ กับลูกตำรวจ และหลังปฐมนิเทศเสร็จได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่โครงการธารน้ำใจ สตม.

สตม. รวบแก๊งรัสเซีย นำเงินยูโรปลอมแลกตามบูธ ความเสียหายกว่าล้านบาท และ OVER STAY

(27 ส.ค. 67) ตม.จว.ชลบุรี จับกุมนาย A (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมเงินสกุลยูโรปลอม ฉบับ 500 ยูโร จำนวน 6 ฉบับ ฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ฉบับ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด และทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกให้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นผู้นั้นกระทำผิดฐานปลอมเงินตรา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และ มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราต่างประเทศสกุล (ยูโร) อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราเป็นของปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244 ประกอบกับกฎหมายอาญามาตรา 247 นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมโรงแรมในย่านพระตำหนักซอย 6 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานตู้รับแลกเงินว่า มีคนนำธนบัตรยูโรปลอมฉบับละ 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาแลกเปลี่ยนที่ร้านรับแลกเงินของตน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าได้มีชายไทยนำเงินสกุลยูโร ฉบับละ 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาทำการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาท เมื่อพนักงานผู้รับแลกเงินได้ตรวจสอบธนบัตร โดยใช้ปากกาเคมีสำหรับตรวจสอบธนบัตร พบว่าเป็นธนบัตรสกุลยูโรปลอม ตม.จว.ชลบุรี จึงสืบสวนติดตามตัวจนพบชายไทยที่นำธนบัตรยูโรปลอมมาแลกจากการสอบถามได้ให้การว่าเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง ได้มีนาย A (นามสมมุติ) สัญชาติรัสเซีย ซึ่งได้เข้าพักที่โรงแรมมาเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์โดยยังไม่ได้ชำระเงินค่าที่พัก ได้นำธนบัตรยูโรฉบับละ 500 ยูโรฉบับดังกล่าว มาจ่ายค่าที่พักตนจึงได้นำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทกับทางตู้แลกเงินดังกล่าว โดยไม่ทราบว่าเงินสกุลยูโรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม พร้อมทั้งยังได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบ ไปยังห้องพักที่นาย A พักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนของโรงแรม จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางนาย A ปรากฏว่าการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบกระเป๋าสีดำที่อยู่ในห้องพักของนาย A พบว่ามีเงินสกุลยูโรฉบับละ 500 ยูโร 5 ฉบับ และธนบัตรฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ซึ่งนาย A ให้การยอมรับว่าเงินสกุลยูโรจำนวนดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตนและเป็นธนบัตรยูโรปลอม โดยตนได้นำติดตัวมาจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีเพื่อนที่ตุรกีให้นำติดตัวมาใช้จ่ายที่ประเทศไทย และตนเองได้นำเงินสกุลดังกล่าวมาจ่ายชำระค่าที่พักกับทางโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนาย A ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

'สตม.' จับ 'หนุ่มแดนกิมจิ' รองหัวหน้าแก๊งยาเสพติด หลบหนีหมายจับจากเกาหลี มากบดานพัทยา OVER STAY เกือบปี

ตม.จว.ชลบุรี ได้รับการประสานข้อมูลจาก ป.ป.ส. ว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวคือนายจิน (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว (OVERSTAY) ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับว่านายจินจะเดินทางมายังร้านอาหารเกาหลีในพื้นที่ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้สะกดรอยติดตามจนนายจินปรากฏตัว จึงได้แสดงตัวจับกุมในข้อหา OVERSTAY จากการสอบถามนายจินเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นายจินให้การยอมรับว่าตนเป็นรองหัวหน้าแก๊งยาเสพติด ทำหน้าที่จัดหายาเสพติดในประเทศไทยเพื่อส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้วิธีการให้ผู้หญิงซุกซ่อนยาเสพติดไว้ตามร่างกาย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง ดังนี้ 

ครั้งที่ 1 วันที่ 31 พ.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาคีตามีน 500 กรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา 
ครั้งที่ 2 วันที่ 10 มิ.ย.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาคีตามีน 500 กรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา
ครั้งที่ 3 วันที่ 17 ก.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาไอซ์ 1.1 กิโลกรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา 
ครั้งที่ 4 วันที่ 19 ก.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาไอซ์ 1.25 กิโลกรัม โดย

ให้การว่ารับ ยาเสพติดที่พื้นที่พัทยา และสมุทรปราการ ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่านายจินเป็นผู้บงการในการลักลอบขนยาเสพติด ซึ่ง ตม.จว.ชลบุรี จะได้ร่วมกับ ป.ป.ส. ในการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป สำหรับมูลค่าของยาเสพติดหากนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ได้จะมีมูลค่าสูงขึ้นมาก โดยยาไอซ์จะมีราคาจำหน่ายกิโลกรัมละประมาณ 13 ล้านบาท ส่วนคีตามีน กิโลกรัมละ 5,200,000 บาท

เหยื่อเหล้าปลอมตายเพิ่มอีก 1 วิกฤติน่าห่วงอีก 1 ตายสะสม 4 ราย ด้านกรมการแพทย์ ย้ำ!! ผู้ที่ดื่มอย่ากลัว รีบมาโรงพยาบาลทันที

(27 ส.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข การเฝ้าระวังผลกระทบจากสุราปลอม ที่มีการลักลอบผสมสารเมทานอล ซึ่งเป็นสารที่ห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร เนื่องจาก เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสีทินเนอร์ห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด ว่า ได้รับรายงานจาก ศูนย์ปฏิบัติการที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สรุปข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.) มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 33 ราย ซึ่งพบจากการสืบค้นในกลุ่มที่ร่วมวงดื่มยาดองที่ผสมสารเมทานอล บางคน เพิ่งจะดื่มหลังจากที่ซื้อยาดองดังกล่าวกลับบ้านไปแล้ว ในจำนวนนี้เสียชีวิต เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย 

สำหรับผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา ต้องใส่ท่อช่วยหายใจจำนวน 15 ราย ต้องฟอกไต 22 ราย ส่วนผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว อยู่ที่ 21 ราย ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ตาบอดถาวรเพิ่มเติมจากที่เคยรายงานไปแล้ว แต่มีอาการหนักที่น่าเป็นห่วงหรืออีก 1 ราย ทั้งนี้มีผู้ที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้วจำนวน 8 ราย

ทั้งนี้ กรมการแพทย์ แจ้งย้ำเตือน ผู้ที่ดื่มยาดองที่มีความเสี่ยงผสมเมทานอลหรือซื้อมาจากร้านบริเวณที่เกิดปัญหา ขอให้รีบมาโรงพยาบาลเนื่องจากเช้าวันนี้มีผู้ป่วยมาตรวจคัดกรองที่ รพ.นพรัตนฯ 2 ราย ด้วยอาการหอบเหนื่อย ซักประวัติได้ว่าดื่มมา 3 วัน เริ่มมีอาการ 6 โมงเช้า แต่ก่อนหน้านี้กังวล ไม่กล้ามา รพ.กลัวตำรวจจับ เพราะเข้าใจว่าซื้อสุราเถื่อนดื่ม จนช่วงบ่าย หายใจหอบเหนื่อยมากทนไม่ไหว ลูกชายพามา รพ. ดังนั้น ขอให้อย่ากลัวรีบมาทันที

เชียงใหม่-สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จัด MU Month หนุนการท่องเที่ยวช่วงเดือนกันยายน

เมื่อวันที่ (26 ส.ค. 67) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเขียงใหม่ จัดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว MU Month เดือน สิงหาคม กันยายน 2567 โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็น ประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุญยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โดยนายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมศิริโพธิ์ โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตลอดเดือนกันยายน 2567 นักท่องเที่ยวที่ตามรอยความปัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด จังหวัดเชียงใหม่ ตามเส้นทางอาจารย์คฑาพามู ถ่ายรูป เช็คอินและแท็คเพจของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จะได้รับผ้ายันต์ผืนใหญ่ พระพุทธสิหิงค์ มิ่งเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน เวลา 09.00 น. พิธีคเณศจตุรถี บ้านทิพย์มณี บ้านถวายสองฝั่งคลอง อำเภอหางดง วันเสาร์ที่ 7 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา)เวลา 16.00 น. พิธีเปิดงานคเณศจาตุรถี ณ ลานประตูท่าแพ เวลา 18.00 น. คเณจตุรถี พิธีสักการะพระพิฆเนศ ณ วัดป่าแดด (รับผ้ายันต์มหาโชคมีชัย เมตตาโดยพระอาจารย์พยุงศักดิ์ จำนวน 1,000 ผืน)

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน เวลา 09.00 น. ครูบาอริยชาติเมตตารับผ้าป่าเพื่อสร้างวิหารวัดแสงแก้วโพธิญาณ ณ พุทธสถานเชียงใหม่(รับผ้ายันต์ซุปเปอร์โคตรรวย เมตตาโดยครูบาอริยชาติ จำนวน 1,000 ผืน) เวลา 19.00 น. คเณศจตุรถี ณ ศาลพระพิฆเนศอาเขตเชียงใหม่ วันจันทร์ที่ 9 กันยายน เวลา 09.09 น. พิธีสืบชะตาสะเดาห์นพเคราะห์ล้านนาโบราณ ได้รับเมตตาจากพระเถระวัดมงคล 9 วัดจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งพระเกจิอาจารย์ที่เมตตานั่งปรก  ณ วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม อธิฐานจิต ผ้ายันต์ซุปเปอร์โคตรรวย เมตตาโดยครูบาอริยชาติ, ผ้ายันต์มหาโชคมีชัย เมตตาโดยพระอาจารย์พยุงศักดิ์ วัดป่าแดด, ผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์ เมตตาโดยพระอาจารย์พัน ม่อนกุเวร, ผ้ายันต์พระพุทธสิงห์ มิ่งเมือง ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เวลา 11.00 น. ถวายเพลพระเกจิอาจารย์ และพระสงฆ์ ณ วัดป่าดาราภิรมย์

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 09.00 น. มหกรรมการประกวดการอนุลักษณ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญพระคณาจารย์ เครื่องรางยอดนิยม ทั่วประเทศ ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่ แอร์พอร์ต วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน เวลา 09.00 น. พิธีเปิดงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ้นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 17.00 น. บวงสรวงหนุนดวงมหาธาตุทั้ง 4 ขอพรท้าว เวศสุวรรณ เปิดโชครับทรัพย์ เสริมบารมี สักการะปู่ภุชงค์นาคราช ณ ม่อนกุเวร (รับผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์) วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน ม่อนกุเวร นักท่องเที่ยวที่ไปสักการะ ลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียน

รับผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์ ครอบครัวละ 1 ผืน (มีจำนวนจำกัด) วันเสาร์ที่ 28 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 08.30 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยอาจารย์คฑา ชินบัญชร หมายเหตุ นอกจากนี้ยังมีพิธีวางศิลาฤกษ์พระแท่นวัชรอาสน์จำลอง วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง (รอกำหนดวัน)

ด้านนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว MU Month เดือนกันยายน 2567ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนและมาเลเซีย ที่ชอบและศรัทธาสายมูให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่

โดยกิจกรรม MU Month เป็นการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธา มีกิจกรรมในทุกสัปดาห์ ตลอดเดือนกันยายน 2567 ในหลายกิจกรรม หรืองานพิธีที่จะเกิดขึ้น ได้รับเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน ที่เมตตาในพิธี และเมตตาเขียนผ้ายันต์มงคลต่างๆ จาก ครูบาอริยชาติ, พระอาจารย์พยุงศักดิ์ วัดป่าแดด, พระอาจารย์พัน ม่อนกุเวร และผ้ายันต์พุทธสิหิงค์มิ่งเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวสายมู ตลอดเดือนกันยายน หรือ MU Month นั้น จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นจำนวนหลายพันคน และขอให้โครงการการจัดกิจกรรมสาย MU ในเดือนกันยายน ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง

นภาพร/เชียงใหม่

กองทัพเรือ โดย ศบภ.ทรภ.1 พร้อมช่วยเหลือ ปชช. ประสบอุทกภัย

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (ศบภ.ทรภ.1) ตรวจความพร้อมด้านการบรรเทาสาธารณภัย ของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศบภ.ทรภ.1 ให้พร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

วันที่ (26 ส.ค.67) เวลา 16.00 น. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 โดย พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (ศบภ.ทรภ.1) ตรวจความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ด้านการบรรเทาสาธารณภัย ของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ ของกองทัพเรือ มีความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชน ได้อย่างทันท่วงที
โดยมี หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ รับผิดชอบของ ศบภ.ทรภ.1 เข้าร่วมตรวจสอบความพร้อม 6 หน่วย ประกอบด้วย

- ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1
- กองเรือยุทธการ
- หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
- ฐานทัพเรือสัตหีบ
- หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
- กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

#ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่1
#FitForTheFuture
#เทิดทูนสถาบันยึดมั่นระเบียบวินัยประชาชนภูมิใจทะเลไทยมั่นคง 

'อลงกรณ์' ชี้ข่าวขับ 'ชวน' ไม่จริง ยืนยัน 'ปชป.' ไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง

ตามที่นายชวน หลีกภัยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และอาจจะถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์กล่าววันนี้ว่า ข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะขับนายชวน หลีกภัยเพราะไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถือเป็นเฟคนิวส์ไม่มีมูลความจริง พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง 

ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มากว่า30ปียังไม่เคยเห็นพรรคขับสมาชิกกรณีมีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน

“ท่านชวนเป็นถึงอดีตหัวหน้าพรรคและเป็นสมาชิกอาวุโสคนหนึ่งของพรรคเช่นเดียวกับท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านเอนก ทับสุวรรณ ท่านเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ท่านไพฑูรย์ แก้วทอง ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ฯลฯ.ทุกท่านยังทำงานให้พรรคและสมาชิกทุกคนให้ความความเคารพทุกท่านตลอดมา อาจมีความคิดต่างกันบ้างในบางเรื่องบางนโยบายรวมทั้งมติการร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมก็เคยมีมาหลายครั้งถือเป็นเรื่องปกติภายในพรรคประชาธิปัตย์แต่เมื่อพรรคมีมติอย่างใดทุกคนก็เคารพและไม่เคยมีการลงโทษหรือขับไล่สมาชิกที่เห็นต่างจากพรรค“


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top