Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

'ดร.เสรี' เตือน!! สถานการณ์น้ำท่วมสุ่มเสี่ยง ต้องบอกความจริงกับปชช. ย้ำ!! การบอกต้องไม่ใช่เพียงคำว่า "เอาอยู่" หรือ “ไม่ท่วมเหมือนปี 2554"

(26 ส.ค. 67) ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC ผู้เชี่ยวชาญ IPCC โพสตฺเฟซบุ๊กเรื่อง ‘60วันอันตราย การจัดการภาวะวิกฤติและสื่อสารความเสี่ยงควรทำอย่างไร?’ ระบุว่า…

ความเสียหาย ความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่สำหรับประเทศไทยในอดีตมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10,000-1,000,000 ล้านบาท (น้ำท่วมใหญ่ 2554) โดยเฉพาะการเสียชีวิตของประชาชนซึ่งประเมินมูลค่าไม่ได้ การบริหารวิกฤติจึงมีความสำคัญสูงสุด ประกอบกับการสื่อสารความเสี่ยงในภาวะวิกฤติต้องมีความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดให้ประชาชนที่กำลังวิตก กังวล และห่วงใยต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้น หลายหน่วยงานที่ออกมาให้ข้อมูลต้องชัดเจน ไม่ยืดเยื้อ ไม่เทคนิคมาก ทำให้เข้าใจยากจนขาดความน่าสนใจ ดังนั้น 60 วันจากนี้ต่อไป จึงเป็นสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่ไม่เพียงการบอกความจริงกับประชาชน แต่ต้องไม่ใช่เพียงคำว่า “เอาอยู่” หรือไม่ท่วมเหมือนปี 2554

สถานการณ์น้ำที่กำลังท่วมพื้นที่ภาคเหนือ และที่อื่น ๆ เริ่มสับสน วุ่นวาย เช่น กรณีคันกั้นน้ำแตกหลายจุด มีผู้เสียชีวิต น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ คล้าย ๆ กับเหตุการณ์ที่ยังจำติดตาน้ำท่วมใหญ่ 2554  ประชาชนจึงต้องขนขวาย แสวงหาความจริงในโลก Social ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยง ความโกลาหล ความตระหนก ข้อมูลปราศจากข้อเท็จจริง รัฐบาลจึงต้องบริหารวิกฤตินี้ให้ได้ และที่สำคัญต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

ทีมผู้เชี่ยวชาญน้ำจากหลายองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนจึงได้รวมตัวกันเพื่อกอบกู้วิกฤต และจะพยายามให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ดังรูปที่แนบมาเป็นการประเมินเบื้องต้นสถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับภาคกลาง และสถานการณ์เลวร้ายที่สุดจากพายุจร ประชาชนที่อยู่ในเขตสีส้มให้ติดตามข้อมูลด้วยนะครับใน 60 วันอันตรายนี้

'จิราพร' ชี้!! 'โครงการคลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข' คืบหน้า ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่

(26 ส.ค. 67) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของโครงการ ‘10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข’ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการติดตามสำรวจคลองรอบกรุง ครอบคลุมคลองโอ่งอ่าง คลองบางลำพู ตลอดจนบริเวณสวนสาธารณะป้อมมหากาฬ พร้อมกับตรวจเยี่ยมพื้นที่สะพานหันและพบปะกับประชาชนผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ณ ริมคลองโอ่งอ่าง พบว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี และส่งผลต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น

นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการ ‘10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข’ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อสนองพระบรมราโชบายในการพัฒนาและฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา และขยายผลสู่การพัฒนาแหล่งน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผลจากการพัฒนาโครงการฯ ส่งผลให้ 10 คูคลองในหลายจังหวัดพื้นที่นำร่อง อาทิ ลำน้ำแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ และคลองรอบกรุง ตั้งแต่คลองโอ่งอ่างถึงคลองบางลำพู กรุงเทพฯ ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมอย่างเครื่องบีบอัดตะกอนเลนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปรับคุณภาพน้ำให้ใสสะอาด

นอกจากการปรับภูมิทัศน์แล้ว รัฐบาลยังมีกลไกการกำจัดขยะ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ การบริหารระบบระบายน้ำ การพัฒนาสาธารณูปโภค การปรับปรุงทางเดินเท้า และการเพิ่มไฟส่องสว่างที่ทำควบคู่ไปทั้งระบบ เพื่อยกระดับทัศนียภาพให้แต่ละพื้นที่มีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี สร้างรายได้สู่ชุมชน ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนสองฝั่งคลองดีขึ้นตามลำดับ

“ส่วนหนึ่งของคลองรอบกรุง ที่ขุดขึ้นเมื่อปี 2326 ในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นย่านการค้าชุมชนมาตั้งแต่โบราณ โดยในปัจจุบันมีปัญหาจากขยะมูลฝอย การระบายน้ำ และถ่ายเทน้ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย จึงกำหนดเป้าหมายพัฒนาเป็นเมืองเดินได้ เมืองเดินดี โดยดึงอัตลักษณ์และฟื้นฟูวิถีคลอง ผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ” นางสาวจิราพรกล่าว

นางสาวจิราพร กล่าวว่า นอกจากการปรับปรุงทางเดินริมคลองและภูมิทัศน์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีโครงการห้ามจับสัตว์น้ำ โดยร่วมมือกับกรมประมงในการเก็บตัวอย่างน้ำ ตรวจคุณภาพน้ำเพื่อเตรียมประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำอีกด้วย

‘ผบ.ทร.’ สั่งทุกหน่วยช่วยเหลือพื้นที่สถานการณ์อุทกภัย พร้อมจัดเรือผลักดันน้ำ บรรเทาผลกระทบประชาชน

(26 ส.ค. 67) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งตรวจสอบความพร้อมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เพื่อเตรียมแผนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ ซึ่งจากอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้มีกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจนมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยกองทัพเรือในทุกพื้นที่ ดำเนินการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือ รวมถึงเพื่อแจ้งเตือนประชาชน ตลอดจน จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเตรียมบรรจุกระสอบทราย การจัดถุงยังชีพ การจัดโรงครัวพระราชทาน และครัวสนามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนั้น ชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ ได้มีการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ ในการระบายน้ำในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันได้มีการติดตั้งที่จังหวัดนครนายกและเตรียมพร้อมให้การสนับสนุนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยพร้อมให้การสนับสนุนในทันทีที่ได้รับการร้องขอ ทั้งนี้ เรือผลักดันน้ำ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึง และเป็นคอขวด ซึ่งเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบาก และไหลออกได้ช้า

สำหรับในห้วงวันที่ 24 - 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในส่วนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย ได้จัดกำลังพลให้การสนับสนุน เทศบาลเมืองหนองคาย ในการบรรจุถุงทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่บริเวณ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

ในขณะที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้จัดกำลังพล ร่วมกับชาวจันทบุรี ในการบรรจุถุงยังชีพ เพื่อส่งมอบแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือทิศรับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น และในช่วงบ่ายวันนี้ ฐานทัพเรือกรุงเทพได้จัดให้มีการบรรจุกระสอบทราย เพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

ทั้งนี้กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง

อังกฤษเปิดแคมเปญหนุนบุหรี่ไฟฟ้าให้กับสิงห์นักสูบ

รัฐบาลอังกฤษเปิดแคมเปญสำหรับผู้สูบบุหรี่ในเมืองบาธและซัมเมอร์เซตทางตะวันออกเฉียงเหนือให้นำบุหรี่มาแลกกับบุหรี่ไฟฟ้าชุดตั้งต้น เพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่

ภายหลังองค์กรรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (Action on Smoking and Health หรือ ASH) ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จนั้น คือคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่

นางเบกกี้ เรย์โนลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขสภาเมืองบาธและซัมเมอร์เซตทางตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า “มีหลักฐานที่สำคัญที่ชี้ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ได้ และบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับควันบุหรี่”

พร้อมเสริมว่า “เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับประเทศ “Swap to Stop” เพราะทำให้ผู้สูบบุหรี่ในเมืองของเรามีโอกาสได้ลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”

“เราทราบดีว่าการเลิกบุหรี่เป็นเรื่องที่ยาก และมีผู้สูบบุหรี่หลายคนที่พยายามเลิกบุหรี่หลายต่อหลายครั้ง ขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีผลสำเร็จสูงสุดในการช่วยเลิกบุหรี่ สภาฯ จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อเชิญชวนและกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่ในเมืองของเราเข้าร่วมแคมเปญนี้”

โครงการ Swap to Stop ประเมินว่าจะมีส่วนช่วยให้รัฐบาลอังกฤษบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศปลอดบุหรี่ภายในปี 2030

ผู้สูบบุหรี่ที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญต้องมีอายุ 18 ขึ้นไปและต้องให้ความยินยอมปิดเผยข้อมูลติดต่อเพื่อให้โครงการฯ สามารถติดตามและประเมินผลได้

(ข่าวแปลจาก BBC Free vape scheme to encourage Somerset adults to stop smoking (bbc.com)

‘อ.เฉลิมชัย’ ชวนนักวาดทั่วไทยขายภาพผ่าน ‘สมาคมขัวศิลปะ’ ระดมเงินทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.เชียงราย

วันนี้ (26 ส.ค. 67) อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้เผยแพร่คลิปเชิญชวนให้ผู้ชื่นชอบในผลงานทางศิลปะได้หาซื้อผลงานทางเพจสมาคมขัวศิลปะชื่อ ‘ขัวศิลปะ’ เพื่อนำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามโครงการ ‘จำหน่ายภาพเพื่อช่วยพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม’

โดยศิลปินทั่วประเทศจะร่วมกันสร้างผลงานและส่งไปจำหน่ายที่สมาคม เมื่อได้เงินทุนจากการจำหน่ายจะส่งไปมอบให้กับ จ.เชียงราย เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัยที่ อ.เทิง อ.ขุนตาล และ อ.เวียงแก่น อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย และนำไปใช้ภายหลังสถานการณ์กลับสู่ปกติต่อไป เช่น เยียวยา ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน ฯลฯ ผ่านหน่วยงานทางราชการที่รับผิดชอบภายในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ผู้สนใจสอบถามและส่งผลงานทาง inbox ของเพจ,ไลน์ https://line.me/ti/p/OkrXpvf14A ,หรือโทร : 088-418-5431

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่าเกิดน้ำท่วมเชียงรายมากมายซึ่งตนได้ไปดูและช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว ขณะนี้บรรดาศิลปินยังได้นำผลงานออกมาจำหน่ายในราคาถูก 5,000 บาท ตนจึงขอเชิญชวนศิลปินที่อยากจะร่วมบุญนำผลงานส่งไปทางสมาคมขัวศิลปะได้ ส่วนตัวเองก็นำเงินสดไปบริจาคโดยตรงเลย

โดยจะนำรายได้ทั้งหมดส่งให้กับ จ.เชียงราย เพราะน่าเห็นใจพี่น้องประชาชนอย่างมาก เพราะทุกข์ยากลำบากจากน้ำท่วม ผู้สนใจขอเชิญเข้าไปดูในเพจ "ขัวศิลปะ" ได้และเมื่อเลือกซื้อแล้วนอกจากจะได้ทำบุญยังได้ภาพวาดที่งดงามไปอีกด้วย

ด้านอาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่าจะมีการตัดยอดเงินซื้อผลงานทางศิลปะเพื่อนำไปช่วยเหลือน้ำท่วมภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ในเวลา 18.00 น.จากนั้นจึงจะนำไปส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 29 ส.ค.นี้ต่อไป

'วัยรุ่นพม่า' ซุ่มตั้ง 3 ก๊วนใหญ่ในไทย 'ชาวเน็ต' จี้!! ฝ่ายมั่นคงทลายแก๊ง

(26 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปของกลุ่ม RUK Gang ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นชาวพม่า ที่ได้นัดรวมตัวกันที่ สวนหลวง ร.9 จนทำให้ชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่าง ๆ นานา ที่สำคัญหลายคนสงสัยว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่มีการชี้แจง หรือจัดการอะไรกับกลุ่มคนพวกนี้ กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำเอาคนไทยส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก 

ต่อมา วัยรุ่นชาย หนึ่งใน แก๊ง RUK GANG ได้ออกมาอัดคลิปขอโทษคนไทย ที่ไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่สวนหลวง ร.9 พร้อมอธิบายสาเหตุที่รวมตัวกันในวันดังกล่าว

ล่าสุด เพจ Look Myanmar ได้แชร์ข้อมูลจากเพจมุมมองเพื่อนบ้าน พร้อมระบุว่า...

ตามที่เพจมุมมองเพื่อนบ้านนำเสนอ ตอนนี้เหมือนจะมีแก๊งพม่าในไทยใหญ่ ๆ อยู่ 3 แก๊ง ประกอบด้วย แก๊ง RUK แก๊ง BAD BOY และแก๊ง 037 คงต้องจับตาดูกัน เพราะดูเหมือนมีกิจกรรมรวมตัวกันอยู่

ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก เช่น…

- เชื่อไหมว่า อย่างน้อยครึ่งหนึ่งเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ไม่ก็ลักลอบทำอาชีพสงวน

- ขึงขัง หน้าตึง กันทุกแก๊งเลย น่าจะกลับไปช่วยชาติบ้าง ชาติกำลังต้องการทหาร หนีมาไทยทำไมไม่รู้

- ระเบิดเวลา ภัยความมั่นคง

สสส. - มสส. จับมือสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดตราด และสื่อมวลชนภาคตะวันออก เปิดเวทีถกปัญหา บุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า แอลกอฮอล์

ผวจ.ตราด ย้ำบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ใช้หลักศีลธรรมแก้ปัญหา ตำรวจเสนอเพิ่มบทลงโทษแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ด้านสื่อมวลชนเรียกร้องให้คณะกรรมการระดับจังหวัดทำงานอย่างจริงจัง

วันที่ 26  สิงหาคม 2567 ณ ห้องไพลิน โรงแรมเอวาด้า จ.ตราด สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) และสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดตราด จัดการประชุมโฟกัส กรุ๊ปในหัวข้อ “ปลุกพลังสื่อภาคตะวันออก แก้ปัญหา บุหรี่-แอลกอฮอล์” โดยมี นายศักดา แซ่เอียว หรือ เซีย การ์ตูนนิสต์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สสส.ได้สนับสนุนให้มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะทำงานกับสื่อมวลชนในส่วนกลางและภูมิภาคทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ช่วยกันสร้างการรับรู้ สร้างความตระหนักและรณรงค์กับกลุ่มเป้าหมายทั้ง เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปต่อปัญหาและผลกระทบจากการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แอลกอฮอล์ สิ่งเสพติด การพนันและการพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงการป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาต่อสุขภาพ เป็นที่รู้กันว่าบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แอลกอฮอล์หนีภาษีมักจะลักลอบนำเข้าผ่านจังหวัดต่างๆที่มีพรมแดน ติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก โดยเฉพาะภาคตะวันออกที่ผ่านมามีการแถลงข่าวการจับกุมการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายหลายครั้งทั้งที่ จ. สระแก้ว จันทบุรีและตราดโดยเฉพาะอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด วันนี้จึงเป็นเรื่องน่าดีใจที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้ให้ความสำคัญทั้งการรณรงค์และการปราบปรามบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง เวทีการประชุมระดมความคิดเห็นของสื่อมวลชนจังหวัดตราดและจันทบุรีเพื่อปกป้องเด็ก เยาวชนและประชาชนครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

นายณัฐพงษ์  สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดประธานกล่าวเปิดการประชุม พร้อมบรรยายในหัวข้อ “จังหวัดตราด : นโยบายแก้ปัญหาปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ” ว่า จังหวัดตราดให้ความสำคัญกับการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพโดยเฉพาะนักสูบ - นักดื่มแอลกอฮอล์หน้าใหม่ในสถานศึกษา รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน มีเครือข่ายอาสาสมัครงดเหล้าทุกตำบล เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ พร้อมกับการบำบัดรักษา ส่วนผลกระทบที่เกิดจากแอลกอฮอล์ทำให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีคนเสียชีวิต 6 คน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 คน แม้ตัวเลขจะไม่สูงแต่คนที่เสียชีวิตกลับเป็นคนจังหวัดตราดทั้งหมด ไม่ใช่นักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย และบุหรี่ไฟฟ้า จังหวัดมีการจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง มีการรณรงค์ให้งานบุญประเพณี งานปีใหม่ งานกาชาด ปลอดเหล้าปลอดบุหรี่ มีการจัดทำฐานข้อมูลร้านค้าชุมชนที่ขายเหล้า ขายบุหรี่ เพื่อเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แนวทางแก้ปัญหาคือ ผู้นำจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ถ้าผู้นำไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชนก็จะดูเป็นแบบอย่าง เช่นตัวเองเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือใช้ศีลธรรมนำหน้าสินทรัพย์ ทั้งศีล 5 และมรรค 8 จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้และทำให้บ้านเมืองรุ่งเรืองได้

นพ.ธนะวัฒน์ วงศ์ผัน นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดตราด กล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศที่จังหวัดปทุมธานี มีมูลค่ากว่า 46 ล้านบาท สะท้อนปัญหาของความรุนแรง ดังนั้นทำอย่างไรที่จะสร้างความตระหนักให้ผู้ที่นำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้ากลัวที่จะขาย มีข้อสังเกตว่าทำไมบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นที่นิยมในประเทศที่เจริญแล้ว แต่กลับได้รับความนิยมในประเทศแถบเอเชีย ควรจะมีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ ส่วนบทบาทสื่อมวลชน ควรมีการรายงานข่าวเจาะลึกว่าทำไม เด็ก ป.3 ถึงสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้สังคมได้รับรู้ และเป็นบทเรียนในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกันปัจจุบันนี้การขายบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ขายหน้าร้านอย่างเดียว แต่ขายแบบออนไลน์กันมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องมีการจับกุมให้มากขึ้น แล้วทำให้เข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ยาก

นายแพทย์ณัฐพงษ์ บุญรอด  นายแพทย์ชำนาญการสาขา อายุรแพทย์โรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤติการหายใจ โรงพยาบาลตราด กล่าวถึงปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าว่า มีพิษภัยไม่ต่างจากบุหรี่มวน เพราะมีสารนิโคตินในประมาณเท่า ๆ กัน ผลกระทบของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะมีทั้งเรื่องของอารมณ์ การเรียน เป็นอันตรายต่อสมอง มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด มีสารก่อมะเร็ง จากข้อมูลที่พบมีเด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าอายุต่ำสุด อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการตรวจคนไข้ พบว่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาทางสังคมมาก่อน จึงไปพึ่งพาบุหรี่ และแอลกอฮอล์ โรงพยาบาลตราดมีคลีนิกเลิกบุหรี่ และแอลกอฮอล์ มีคนมาขอรับบริการจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าเป็นปัญหาที่ต้องช่วยกันแก้ไข

พ.ต.อ.มานพ ประสาท ผู้กำกับสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตราด กล่าวถึงนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าว่า มีการให้กองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค จัดแบ่งโซนนิ่งตามความรุนแรงของสถานการณ์ของพื้นที่ที่มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งรับผิดชอบจังหวัดภาคตะวันออก 8 จังหวัดนั้น จังหวัดตราด ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีเหลืองร่วมกับอีก 4 จังหวัดคือ นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ส่วนพื้นที่สีแดงถือว่าสถานการณ์รุนแรงกว่ามี 3 จังหวัดคือชลบุรีโดยเฉพาะเมืองพัทยา ระยองและจันทบุรี ซึ่งผลการ จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 สิงหาคม 2567 มีการจับกุมร้านค้าที่กระทำความผิด 4 ครั้งในพื้นที่ สภ.เกาะช้าง 2 ครั้ง สภ.เมืองตราด 2 ครั้ง โดยแยกของกลางที่จับกุมเป็น 4 ประเภทคือ เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 11 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 360 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 799 ชิ้น และน้ำยาบุหรี่ ไฟฟ้าแบบเติม 130 ขวด

ส่วนการจับกุมการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายโดยหลีกเลี่ยงภาษีนั้นตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบันมีการดำเนินการจับกุมจำนวน 6 ครั้ง ทั้งหมดเป็นผลการปฏิบัติหน้าที่ของสภ.บ้านท่าเลื่อน อ.เมือง จ.ตราด ที่รับผิดชอบถนนหมายเลข 3 จาก อ.คลองใหญ่ซึ่งอยู่ติดชายแดนประเทศกัมพูชามาถึง อ.เมืองตราด จำนวนบุหรี่ที่จับกุมได้ 79,760 ซอง หากนับจาก 1 ซองมี 20 มวนก็จะเป็นจำนวนทั้งสิ้นถึง 1,595,200 มวน สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศจากการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายโดยไม่ติดอากรแสตมป์ทำให้รัฐขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษี ส่วนแนวทางแก้ไข คือจะต้องมีการเพิ่มบทลงโทษทางกฎหมายให้รุนแรงขึ้น เพราะถ้าโทษเบา ผู้นำเข้าและผู้ค้าก็จะไม่เกรงกลัว และลักลอบนำเข้าและจำหน่ายมากขึ้น

นายจักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ นายกสมาคมสื่อมวลชน จังหวัดตราดในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดตราด กล่าวว่าจุดอ่อนของคณะกรรมการฯ คือมีอำนาจทั้งการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ การคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และการบำบัดรักษา แต่ในทางปฏิบัติยังไม่บังคับใช้อย่างจริงจัง เห็นได้จากสถิติการจับกุมบุหรี่ต่างประเทศและบุหรี่ไฟฟ้าของจังหวัดตราด และจังหวัดจันทบุรี เหตุที่บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอีกเพราะราคาถูกกว่า มีการพัฒนารูปลักษณ์ใหม่ๆ ทั้งของเล่นเด็กหรือวัสดุ ใช้สอยของเด็ก นักเรียน ยางลบ ดินสอ ปากกา หรือตุ๊กตาซึ่งตรวจสอบได้ยากว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหรือเครื่องเขียน นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับสังคมและลูกหลานของเรา จึงขอเสนอให้คณะกรรมการมีการประชุมมากขึ้น หรืออาจจะตั้งเป็นคณะทำงานมาทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมาย และขอให้สื่อมวลชนที่เข้าร่วมประชุมช่วยกันนำเสนอข้อมูล นโยบายการแก้ไขปัญหาปัจจัยเสี่ยงต่างๆของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตราดรวมทั้งความเห็นของวิทยากร กรรมการกองทุนสสส.และประธานมสส.ที่ร่วมมือกันจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ไปสู่สังคมโดยผ่านสื่อหรือช่องทางของทุกคนด้วย สุดท้ายนายอภิวัชร์ เกตุทัต ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมกล่าวย้ำถึงบทบาทของสื่อและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในสังคมระดับท้องถิ่นจำเป็นต้องผนึกกำลังร่วมกันมีบทบาทเกื้อหนุนเสริมกันเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนให้อยู่รอดปลอดภัยจากพิษภัยของบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่มีผลต่อสุขภาพในวัยที่กำลังศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นทรัพยากรมนุษย์และกำลังสำคัญในการนำพาพัฒนาสังคมประเทศชาติต่อไปในอนาคต

เจ้าหน้าที่ประสานงาน    

นางสาวอรฉัตร วัณณรถ เบอร์โทรศัพท์ 085-594-4551 / 094-970-3099

'เสียงคนพื้นที่' ผู้รับกรรมจากการตัดงบเขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำโดย 'ก้าวไกล' ความคึกคะนองในสภาฯ วันนั้น สร้างความเสียหายแก่ 'หลายจังหวัด' ในวันนี้

(26 ส.ค. 67) จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'นฤเทพ กาละดี' ได้โพสต์ข้อความในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่ จ.น่าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ระบุว่า...

เล่าให้เพื่อนฟัง...

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567
ผมยังคงเข้าสวน ที่บ้านวังผา อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ไม่ได้
ทั้งที่เดิม ตั้งใจจะเข้าไปเพื่อล้างทำความสะอาด 
ฟื้นฟูสวนและกระท่อม เพราะยังคงมีฝนตกหนัก 
ระดับน้ำของแม่น้ำน่านที่ผ่านสะพานทุ่งช้างพัฒนา 
ยังมีขึ้น มีลง สลับกับไม่มีความแน่นอน...

"เพราะ #ไม่มีเขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำ หรือ #ฝายแม้ว"

ฝายที่คอยปรับสมดุล การไหลหลากของน้ำฝนที่ตกสะสม
ถ้าเป็นไปได้ ผมและชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง
เราอยากได้งบประมาณก้อนนี้ เพื่อสร้างเขื่อน
เขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำ...

#ที่พรรคก้าวไกล อภิปราย #ตัดงบประมาณส่วนนี้ทิ้ง 

พวกเราอยากได้มันคืนกลับมา...

หลายวันแล้วที่ผมกลับไปดูคลิป 
ที่คุณ #วิโรจน์_ลักขณาอดิสร อภิปรายเสร็จ 
แล้วทำท่าโบกไม้โบกมือสะใจ #ยักไหล่เต้นออกสภาฯ  

ดูคลิปแล้ว #มันเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน 
เจ็บจนผมต้องหลั่งน้ำตา ด้วยความคับแค้นใจ

คุณวิโรจน์ จะรู้ไหมนะ...
ว่า สิ่งที่เขาทำอย่างคึกคะนองในสภาฯ วันนั้น
จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
ให้กับ คนน่าน แพร่ เชียงราย พะเยา 
และสุโขทัย ในวันนี้ 

แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ขอได้แค่บันทึกไว้ 
เพื่อให้พรรคการเมือง ในระบบรัฐสภาไทย ทุกพรรค
ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้มองเห็นถึงโทษและประโยชน์ 
ของสิ่งที่จะเกิดกับประชาชนเป็นที่ตั้ง 

ไม่ใช่แค่เอาชนะคะคานกัน ด้วยความเชื่อส่วนตัว 

ตอนนี้ผมใคร่ขอความกรุณาต่อรัฐบาลและผู้มีอำนาจ
ช่วยหาหนทาง หาช่องทาง เจียดงบประมาณที่เหลือจ่าย
มาดำเนินการโครงการนี้ ให้จงได้ครับ 

จะว่าไป วงเงินก็ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ 
ไม่ถึง 100 ล้านบาท เท่าที่ผมจำได้แค่ 66 ล้านบาท 

แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันนี้...
มูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท ไปแล้ว

'นฤเทพ กาละดี'
คนพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ

'หมอเหรียญทอง' แจง 10 ขั้นตอน รับมือได้ทันที หากเกิดภัยน้ำท่วม มั่นใจ!! ดูแลผู้ป่วย 'รพ.มงกุฎวัฒนะ' ทุกคนได้อย่างปลอดภัย

(26 ส.ค. 67) หมอเหรียญทอง แน่นหนา ได้ออกมาโพสต์ ประกาศความพร้อมปฏิบัติการสาธารณภัย ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ หากเกิดสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง และ กรุงเทพฯ เหนือ เพื่อทราบดังต่อไปนี้

1. ระบบไฟฟ้ากำลัง (ภาพที่ 1) ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ย้ายจากชั้นใต้ดิน อาคารเก่า (อาคาร 1) ย้ายไปยังชั้นที่ 2 อาคารใหม่ (อาคาร 3) ที่มีความสูงจากระดับ ถ.แจ้งวัฒนะมากถึง 5 เมตร หรือสูงจากระดับน้ำทะเล 6 เมตร เปิดใช้งานระบบไฟฟ้ากำลังในชั้นที่ 2 อาคารใหม่ (อาคาร 3) มาตั้งแต่ 9 ม.ค.67 แล้ว

2. ระบบไฟฟ้าสำรอง (ภาพที่ 2-3) ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นระบบเครื่องปั่นไฟสำรองคู่ [Dual Synchronizing Generator] ขนาด 820 KVA จำนวน 2 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องปั่นไฟจ่ายไฟฟ้าสำรองให้แก่แผนกที่มีผู้ป่วยอาการหนัก เช่น ไอ ซี ยู, ห้องผ่าตัด, ห้องสวนหัวใจ, ห้องฉุกเฉิน ฯลฯ ระบบเครื่องปั่นไฟสำรองคู่สามารถเดินเครื่องพร้อมกัน หรือเดินเครื่องสลับสับเปลี่ยนกันเพื่อให้เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองได้พักผ่อนเครื่องได้ทำให้มีขีดความสามารถจ่ายไฟฟ้าสำรองในการรักษาผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา รพ.มงกุฎวัฒนะสามารถพึ่งตนเองได้ หากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้ระบบไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงขัดข้องอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์

3. ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทางอากาศ [Aeromedevac] (ภาพที่ 4) คือ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ตามมาตรฐาน ICAO หรือองค์การการบินระหว่างประเทศ ขนาด 21.0 เมตร x 21.0 เมตร หรือ 441 ตารางเมตร พร้อมลานจอดพักเครื่อง (PARK) อีก 47.0 เมตร x 8.0 เมตร หรือ 376 ตารางเมตร รองรับน้ำหนักเฮลิคอปเตอร์ขณะทำการบินขึ้นสูงสุด หรือ MTOW [Maximum Take Off Weight] สูงสุด 2 เท่าของเฮลิคอปเตอร์ที่มีน้ำหนักรวมสัมภาระบรรทุก 3,750 กรัม ซึ่งหมายความว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ รุ่น EC145 แล AW 149 สามารถบินขนส่งลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะได้

4. ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทางน้ำ คือ ‘ทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะด้าน ซอยแจ้งวัฒนะ 14’ , ‘ทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะด้าน ซอยแจ้งวัฒนะ 12’ ที่มีระดับความสูงเหนือถนนแจ้งวัฒนะ 1.20 เมตร ตลอดจน ‘เกาะกลางถนนแจ้งวัฒนะ’ ซึ่งเคยใช้ปฏิบัติการเป็น ‘ท่าเรือ รพ.มงกุฎวัฒนะ’ มาแล้วเมื่อมหาอุทกภัย พ.ศ.2554

5. ระบบก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ (ภาพที่ 5) ที่มีขนาดบรรจุออกซิเจนเหลว (Liquid Oxygen) ขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วยจำนวนสูงสุดมากถึง 600 เตียง พร้อมระบบการผลิตก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์สำรอง ในกรณีที่โรงงานผู้ผลิตออกซิเจนเหลวไม่สามารถขนส่งลำเลียงออกซิเจนเหลวมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะได้ เราก็ยังสามารถประคับประคองด้วยการผลิตอ๊ออกซิเจนสำรองบรรจุถังเพื่อพึ่งตนเองในการรักษาผู้ป่วยได้ยามจำเป็นหน้าสิ่วหน้าขวาน

6. ระบบ ไอ ซี ยู ที่มีขีดความสามารถรับผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากถึง 90 เตียง และสามารถเพิ่มกำลังสูงสุดอีก 36 เตียงรวมขีดความสามารถสูงสุดในสถานการณ์จำเป็นมากถึง 126 เตียง ไอ ซี ยู …ไม่ได้โม้นะครับ ปฏิบัติการสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์มาแล้วในสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างเดือน เม.ย.- ก.ย.64

7. ระบบหอผู้ป่วยใน ทั้งห้องพิเศษเดี่ยว และหอผู้ป่วยสามัญที่พร้อมปฏิบัติการรับการส่งต่อผู้ป่วยจำนวนมากจากพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยสามารถรับผู้ป่วยสูงสุด 600 เตียง หากสถานการณ์เลวร้ายก็พร้อม ‘ปฏิบัติการ รพ.สนามขั้นสมบูรณ์อีก 400 เตียง’ รวมสูงสุด 1,000 เตียง ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน…โม้ฉิบหายแต่ทำมาแล้วโว้ย!

8. ระบบอาหารของ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น ระบบ ‘Cook & Chill’ ดังนั้นเราจึงพร้อมผลิตอาหารจำนวนมาก ๆ แล้วกักตุนไว้ให้เย็น [Cold room] ให้สามารถเผชิญปัญหาการขาดวัตถุดิบในการทำอาหารได้นาน 30 วัน

9. ระบบระดมพล รพ.มงกุฎวัฒนะรวมบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาเข้าพักอาศัยใน รพ.มงกุฎวัฒนะทันทีที่มวลน้ำเข้าถึงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี-นนทบุรี ทั้งนี้เพื่อให้ รพ.มงกุฎวัฒนะมีความพร้อมด้านกำลังพลเต็มอัตรา ตลอดจนการรระดมพลจิตอาสา ดังเช่นปฏิบัติการ รพ.สนามพลังแผ่นดินในสถานการณ์โควิด-19 ที่เราประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดมาแล้ว

10. อื่น ๆ ขอเว้น เพราะโม้มากไปแล้วครับ

รพ.มงกุฎวัฒนะจะเป็น ‘ศูนย์รับการส่งต่อผู้ป่วยจากสถานการณ์มหาอุทกภัยในทันทีที่มวลน้ำคุกคามประชาชน’ ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะขอประกาศว่า “พสกนิกรภายใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าจะได้รับการรักษาชีวิตอย่างสุดกำลังจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ โปรดอย่าตื่นตระหนกในทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ เราคืออดีตทหารของพระราชาจอมทัพภูมิพลมหาราชที่ยังคงเป็นทหารพระราชาแห่งองค์จอมทัพมหาวชิราลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ทหารเก่าแก่ที่ไม่มีวันตายไปจากพระเจ้าแผ่นดิน

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
26 ส.ค.67 เวลา 9.35 น.

‘ช่อง Cullen Hateberry’ แจ้งเลื่อนลงคลิปเที่ยว จ.น่าน พร้อมส่งความห่วงใย-กำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

(26 ส.ค. 67) สถานการณ์น้ำท่วม จ.น่าน ที่ได้รับผลกระทบถึง 11 อำเภอ 65 ตำบล 435 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อน 50,000 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ในหลายพื้นที่น้ำได้ลดลงเริ่มเข้าสู่ภาวะเกือบปกติแล้ว แต่ยังมีบางส่วนในพื้นที่ อ.เมืองน่าน และ อ.เวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำขังอยู่ โดยทุกภาคส่วนได้เร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือคนในพื้นที่ หากไม่มีฝนตกซ้ำคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้

ต่อมา ยูทูบเบอร์ชื่อดัง 'คัลแลน' จากช่อง '컬렌 Cullen HateBerry' ประกาศจากทีมงานเลื่อนการอัปโหลดวิดีโออีพีที่ถ่ายใน จ.น่าน ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น โดยระบุข้อความว่า.. 

"ทางทีมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงการอัปโหลด Ep.น่าน ที่มีกําหนดการอัปโหลดในวันนี้ โดยจะทำการอัปโหลดหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นครับ เนื่องจากตอนนี้หลาย ๆ พื้นที่ในหลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัย กำลังเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ความรัก และความใส่ใจอย่างมากครับ ทางทีม Cullen Hateberry หวังว่าทุก ๆ คนจะปลอดภัย เราขอส่งความรักความห่วงใยพร้อมกับกําลังใจมาให้อีกครั้งนะครับ"

"ทีมช่องยูทูป Cullen Hateberry ขอส่งความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ประสบและได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วภูมิภาค ขอให้ทุก ๆ คนผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยเร็วครับ"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top