Sunday, 8 June 2025
NEWS FEED

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรับมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 พร้อมมอบรางวัลให้กับทีมสืบสวนดีเด่น และทีมคิดหุ่นตำรวจอัจฉริยะ 'AI Police Cyborg 1.0'

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , จเรตำรวจแห่งชาติ , ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีข้อสั่งการในการประชุม ดังนี้
1. กำชับให้ทุกหน่วยขับเคลื่อนและดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ หนี้นอกระบบ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย อาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา พืชกระท่อมที่ผิดกฎหมาย อย่างเด็ดขาดและจริงจัง ทุกหน่วยจะต้องร่วมกันดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตรวจสอบและประเมินผลได้ โดยให้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติ และให้ทุกหน่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลในการบริหารงานบุคคลทุกระดับต่อไป

2. กำชับให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ ห้ามมิให้ไปช่วยราชการในหน้าที่อื่นโดยเด็ดขาด เพราะอาจขัดต่อกฎหมายตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ หากกำลังพลไม่เพียงพอให้บริหารจัดการกำลังพลในระดับกองบังคับการ หากมีความจำเป็นหรือไม่เพียงพอให้กองบัญชาการพิจารณาดำเนินการ

3. กรณีพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พบการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา ศปก.ตร.สน.จะต้องปรับแผนการปฏิบัติ แผนเผชิญเหตุ เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การสืบสวนก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ ทำรายงานการสืบสวนโดยละเอียด ขยายผลไปยังตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ถือความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ จะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่เจ้าหน้าที่ในการทำงานและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด

4. กำชับให้ทุกหน่วยเสริมสร้างความสามัคคีภายในหน่วย ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลควบคุมการทำงานภายในหน่วย เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำหน้าที่และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดโครงการ/กิจกรรมเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน ความร่วมมือภายในหน่อย ที่สอดคล้องกับภารกิจของหน่วย

ทั้งนี้ ก่อนการประชุมบริหาร ตร. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เป็นประธานพิธีมอบเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 , พิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื่น และสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และพิธีมอบรางวัลให้กับโครงการยกระดับมาตรฐานงานสืบสวน ป้องกันปราบปรามและความปลอดภัยสาธารณะ ด้วยเทคโนโลยีระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0”

สำหรับพิธีมอบเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานรับมอบเงินสนับสนุนจากหน่วยงานหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณอาภิพร ชูวงศ์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณชนาพร ไกรทอง , คุณลภัทธิตา จินตกานนท์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณมนสิการ สำราญสำรวจกิจ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธี โดยรับมอบจากผู้สนับสนุนจำนวน 4 หน่วยงาน ได้แก่ 

- เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย คุณภัคพล งามลักษณ์ ประธานคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการเครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจ จำนวน 10,000,000 บาท และเงินสนับสนุนโครงการสาธารณประโยชน์ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวน 2,000,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 12,000,000 บาท 

- มูลนิธิมาดามแป้ง โดย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองมูลนิธิมาดามแป้ง ลำดับที่ 1 มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ

- บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) โดย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล , คุณชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณเพ็ญจันทร์ ยงวงศ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” ด้านตำรวจทุพพลภาพ

- บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด โดย คุณวิทยา พานิชตระกูล กรรมการบริหาร และ คุณชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” ด้านเด็กพิเศษ

โดยสมาคมแม่บ้านตำรวจจะนำเงินสนับสนุนดังกล่าวไปดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของผู้สนับสนุน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการให้ความช่วยเหลือ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมขวัญกำลังใจ แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัวต่อไป

พิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื่น และสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน  
- กลุ่มการปฏิบัติที่ 1 : ดีเด่นอันดับ 1 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 3 , ดีเด่นอันดับที่ 2 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 5 , ดีเด่นอันดับที่ 3 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 4 และหน่วยที่มีผลการปฏิบัติดี จำนวน 8 หน่วย ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 7 , กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 8 , ตำรวจภูธรภาค 1 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจภูธรภาค 2 , ตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรภาค 9
- กลุ่มปฏิบัติการที่ 2 : ดีเด่นอันดับที่ 1 ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยที่มีผลการปฏิบัติดี จำนวน 4 หน่วย ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

พิธีมอบรางวัลให้กับโครงการยกระดับมาตรฐานงานสืบสวน ป้องกันปราบปรามและความปลอดภัยสาธารณะ ด้วยเทคโนโลยีระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0” หรือ พ.ต.อ.นครปฐม ปลอดภัย หุ่นกล้อง AI อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับสภาพการจราจร ตรวจสอบใบหน้าบุคคลเชื่อมข้อมูลกับฐานข้อมูลหมายจับ รวมถึงการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพของตำรวจ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พัฒนางานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยการแสวงหาความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน โดยตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้ร่วมกับหลายภาคส่วน พัฒนาระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0” ซึ่งเป็นระบบ Face Recognition เพื่อพิสูจน์ทราบบุคคลตามหมายจับจากฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งจนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 20 หมาย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ มีข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รับมอบรางวัลจำนวน 13 นาย นำโดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

สตม.รวบผู้ต้องหาเอี่ยวพนันออนไลน์ ก่อนเผ่นออกนอกประเทศ

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ บก.ตม.2 เข้มงวดกวดขันและตรวจสอบความปลอดภัยให้คนที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.68) เวลาประมาณ 15.50 น. กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้รับการประสานจาก กก.2 บก.สอท.3 ว่า นางสาวรัชนีวรรณ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในความผิดฐาน "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" ทาง กก.2 บก.สอท.3 ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากว่า 10 ล้านบาท โดยได้รับแจ้งว่าบุคคลดังกล่าวจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน CATHAY PACIFIC เที่ยวบินที่ CX706 เส้นทาง BKK - HKG ในวันเดียวกัน และขอให้ดำเนินการติดตามจับกุม รวมถึงบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม.

ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.ปป.บก.ตม.2 จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์และตรวจสอบตามช่องทางบริเวณพื้นที่ฝ่าย ตม.ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมือง  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ได้พบนางสาวรัชนีวรรณ  ณ บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะกำลังจะผ่านการตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนและแสดงหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบเบื้องต้น จากนั้นจึงได้ควบคุมตัว การจับกุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง และได้นำตัวผู้ถูกจับส่ง กก.2 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

'บิ๊กอู๊ด' โพสต์ถึง 'เสก โลโซ' ยกย่องลูกผู้ชาย กล้าทำ-กล้ายอมรับ แม้สนิทแต่ทำผิดก็ต้องจับ

‘บิ๊กอู๊ด’ อดีตตำรวจคนดังมือจับผู้พันตึ๋งโพสต์ถึง ‘เสก โลโซ’ ถือเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำ กล้ายอมรับ และสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป แต่หน้าที่พี่ต้องทำ น้องทำผิดพี่ก็ต้องจับ

เมื่อวันที่ (21 พ.ค. 68) พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง อดีต ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะ รองนายกสมาคมตำรวจ โพสต์ถึง ‘เสก โลโซ’ ว่า ในฐานะที่เรารู้จักกันมายาวนาน 10 กว่าปี ความผูกพันมันต้องมี แต่หน้าที่พี่ต้องทำ น้องทำผิดพี่ก็ต้องจับ ก็ขอเป็นกำลังให้เสกเพราะถือเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง กล้าทำ กล้ายอมรับ และสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป

อย่างไรก็ตาม ขณะเล่นคอนเสิร์ตเขาก็ตักเตือนเยาวชนแล้วว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตัวอย่างมีให้เห็นมาแล้ว

แม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่กองกำลังผาเมือง

พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่  3 เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วย ในพื้นที่กำลังผาเมือง ด้านจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา ในห้วงวันที่ 21 – 22 พฤษภาคม 2568 ณ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ค่ายพิชิตปรีชากร ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จัวหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลตรี กิดากร จันทรา ผู้ บัญชาการกองกำลังผาเมือง ให้การต้อนรับ

จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ฐานปฏิบัติการแก่งทรายมูล กองร้อยทหารพรานที่ 3209 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 แม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยป้องกันชายแดน ในพื้นที่รับผิดชอบ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31โดยรับฟังบรรยายสรุปประกอบภูมิประเทศ และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจการณ์ เนิน 103 บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแกน จังหวัดเชียงราย

มูลนิธิพระราหูเปิดสารคดี ‘นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’ ‘ดร.หิมาลัย’ หวังช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทย

มูลนิธิพระราหูเปิดตัวสารคดีชุด ‘นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’ สร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนและเยาวชน ผ่าน 4 นักเรียนต้นแบบ เผยแพร่ผ่าน YouTube และ Facebook มูลนิธิพระราหู ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ 

(22 พ.ค.68) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู เปิดเผยว่า ตามที่มูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู และพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ได้ดำเนินการโครงการนักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างของนักเรียนและเยาวชนที่มีความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงมีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนและเยาวชนคนอื่น ๆ 

เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศทางมูลนิธิพระราหูจึงได้จัดทำสารคดีชุด’นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’จำนวน 4 ตอน ที่จะนำเสนอแนวคิดและการดำเนินชีวิตของ 4 นักเรียนที่พร้อมต่อสู้กับทุก ๆ อุปสรรค เพื่อเดินหน้าสู่ความหวังและความฝันโดยยังยึดมั่นในคุณงามความดี รวมทั้งบทบาทและหน้าที่ในฐานะ ‘นักเรียน’

สำหรับทั้งสารคดีทั้ง 4 ตอน ได้แก่ .

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP1 : เรื่องของไอซ์ 
เรื่องราวของเด็กผู้ชายที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ในการที่จะเดินหน้าสู่อาชีพ ‘นักการเมืองท้องถิ่น’ ภายใต้แนวคิดซื่อตรง-ไม่โกง พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชน 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP2 : เรื่องของแตงโม 
เรื่องราวของเด็กนักเรียนที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้มีพร้อมเหมือนคนอื่น แต่พร้อมที่จะเดินหน้าสู้กับปัญหาความไม่พร้อม ผ่านการแบ่งเบาภาระของครอบครัวอย่างเต็มที่ภายใต้เรี่ยวแรงของตนเอง 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP3 : เรื่องของเอม 
นักร้อง นักเรียน และนักสู้ชีวิต ที่พร้อมเดินหน้าเผชิญหน้ากับทุก ๆ อุปสรรคและขวากหนามที่เข้ามาและตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ภายใต้เสียงเพลง ภายใต้ชีวิตและความฝันที่อยากจะดูแล ‘คุณยาย’ 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP4 : เรื่องของแก้ว
เรื่องของเด็กดื้อที่จะทำตามความใฝ่ฝันในการเป็น ‘นักร้อง’ ของตัวเอง ที่สำคัญเรื่องของ ‘แก้ว’ ยังเป็นคนที่พร้อมสู้กับทุกเรื่องเพื่อให้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความฝัน เรื่องของการเรียน และพร้อมที่จะใช้บ่าเล็ก ๆ รับความกดดันเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายของตัวเอง 

โดยทางมูลนิธิพระราหูจะดำเนินการเผยแพร่สารคดีในทุก ๆ วันพฤหัสบดี เวลา 09.00 น. ผ่านทาง Facebook และ Youtube ของ ‘มูลนิธิพระราหู’ และ Facebook และ Youtube ของ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ

ผู้สร้างแอนิเมชัน 2475 ยันยังพร้อมไม่ทำภาคต่อ แม้มีผู้เสนอให้ทุนสนับสนุน หวั่นหากทำไปแล้วไม่จบ จะเป็นการทรยศต่อความหวังดี

(22 พ.ค. 68) นายวิวัธน์ จิโรจน์กุล ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "2475 Dawn of Revolution" โพสต์เฟซบุ๊กว่า หลังจากปล่อยแอนิเมชัน 2475 ไป ผมยังไม่ได้ไปขอโปรเจคท์อะไรใครที่ไหนนะครับ เพราะเป้าหมายแรกของผมคือ ตอนนี้ผมต้องโฟกัสไปที่การทำให้บัญชีบริษัทกลับมาเป็นตัวเขียวก่อน

วันที่ผมไปออกรายการที่แนวหน้า (กับพี่กบและพี่บุญยอด) ก่อนเข้ารายการ มีผู้ใหญ่ท่านนึงได้เข้ามานั่งคุยด้วย บอกว่าอยากเจอตัว และ อยากหาทางสนับสนุนงบให้ทำภาคต่อ ผมยังบอกท่านไปว่า ถ้าผมจะทำภาคต่อ ผมต้องมั่นใจก่อนว่าผมจะสามารถทำให้จบได้จริงๆ ไม่เช่นนั้น ถ้าผมเอาเงินบริจาคมา แล้วเงินไม่พอ หรือ เกิดปัญหาทำให้ผมทำไม่จบ ก็เท่ากับผมโกงเงินบริจาค ทรยศต่อความตั้งใจดีของทุกท่าน

นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่เปิดรับบริจาคในการทำภาคใหม่ เพราะผมรู้ว่าผมยังไม่พร้อมที่จะทำอะไร ถ้าบริษัทยังวิกฤติอยู่ ผมจึงหาทางต่อยอดจากแอนิเมชัน 2475 ผมจึงได้ทำเป็นรูปแบบหนังสือ เพราะมันได้ประโยชน์หลายทาง ซึ่งก็พอจะช่วยเยียวยาได้บางส่วน 

แต่กระนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นนะครับ ผมจะไม่ลงรายละเอียดมาก แต่เราถูกสกัดอยู่พอสมควร หลายคนอาจคิดว่า ทำแอนิเมชันออกมาได้แบบนี้ น่าจะมีโอกาสในการรับงานง่ายขึ้น ก็ไม่ใช่เสมอไปครับ ผมถูกปล่อยข่าวดิสเครดิต ตั้งแต่ต้นปี 67 ด้วยซ้ำ เรียกว่าปล่อยแอนิเมชันปุ๊บ ก็รุมกันยำผมเละ สกัดไม่ให้ใครมาสนับสนุนแอนิเมชัน 2475 แต่ตัวผมสบายใจไปตั้งแต่งานเสร็จแล้ว ใครจะเอาไปดิสเครดิตยังไงก็ช่างเขา 

จนช่วงเดือนตุลา ก็มีผู้ใหญ่อีกท่านมาบอกผมว่า มีคนเอาแอนิเมชัน 2475 ไปขอรับการสนับสนุนจากที่ต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นทีมงานลับที่อยู่เบื้องหลัง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคนกลุ่มนั้นได้เงินไปเท่าไหร่ แต่ผมไม่ได้ส่งใครไปเรียกรับเงินแบบนั้นแน่นอน  ผมจึงต้องมาโพสต์ชี้แจงในหน้าเพจ 2475 Dawn of Revolution  เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ 

ข้อดีของการถูกดิสเครดิตมันก็มีนะครับ คือ มีหลายคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เขาเชื่อว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา เพราะผมไม่เคยทำพฤติกรรมแบบที่ถูกปล่อยข่าวเลย โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องไปอธิบายหรือชี้แจงอะไร และให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง 

ผมจะไม่เบลมใคร แต่ขอฝากไว้ว่า การเอาแต่โกหกใส่ร้ายคนอื่นตลอดเวลา มันจะยิ่งทำให้เสียเครดิตและเสียเพื่อนไปเรื่อย ๆ นะครับ

ในเทปนี้ผมพูดไว้นิดหน่อย เรื่องภาคต่อ

‘ดร.ธรณ์’ ชี้ญี่ปุ่นพิสูจน์แล้ว ทำบ้านเมือง-ที่เที่ยวสะอาด มีวินัยจัดการน้ำใสไร้ขยะ นักท่องเที่ยวก็พร้อมกลับมา

(21 พ.ค. 68) ดร.ธรณ์ ธำรงนาาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า…

มองทางน้ำทิ้งไหลลงจากเมืองท่องเที่ยวของญี่ปุ่นด้วยความสุขใจ น้ำใสๆ ไหลลงมาเจอน้ำใสๆ ไม่มีขยะหรือน้ำสีดำกลิ่นฟุ้งกระจาย นี่คือตัวอย่างดีเยี่ยมของการท่องเที่ยวยั่งยืน

ผมชอบขับรถเที่ยวภูเขาญี่ปุ่น เพราะป่าสีเขียวรอบด้านคือความสุขที่ได้รับ

ป่าไม้หลายแห่งมีสัมปทานการตัดไม้ มีระบบอย่างดีดูแลเป็นมาตรฐาน ไม่มีป่าแหว่งถูกถางเป็นไร่เลื่อนลอย ไม่มีควันไฟบนยอดเขา อากาศสดชื่นบริสุทธิ์

แม่น้ำใสไหลผ่านตัวเมืองในหุบเขา ไหลเข้าใสแค่ไหน ไหลออกใสแค่นั้น น้ำจากโรงแรมบ้านเรือนร้านอาหารถูกบำบัดอย่างเยี่ยมยอด ด้วยระบบที่ดีและผู้คนในท้องถิ่นที่ช่วยกัน

ขยะตัวเองดูแลด้วยตัวเองนะจ๊ะ ที่นี่หาถังขยะสาธารณะยากมาก คุณกินคุณใช้คุณสร้างขยะ คุณต้องรับผิดชอบต่อขยะของคุณ

ขณะที่บ้านเราเริ่มประสบปัญหานักท่องเที่ยวน้อยลง ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม คนมาเที่ยวคนจ่ายตังค์ ย่อมอยากเห็นสิ่งที่สดใสเยียวยาจิตใจ ไม่ใช่มานั่งมองกองขยะริมทางหรือทำหน้าเศร้าดูน้ำสีดำ

เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการท่องเที่ยวยุคต่อไป แต่เราคงไปไหนได้ไม่ไกล หากเราไม่คิดจะ 'เปลี่ยน' สภาพแวดล้อมของแหล่งเที่ยวเราให้ดีขึ้น

เราไปต่อไม่ได้ หากคิดเพียงแค่ 'เปิด' ที่เที่ยวใหม่ๆ มาให้คนถลุง

ซึ่งเหลืออีกไม่มาก ถลุงได้อีกหน่อยเดียว อีกไม่นานก็หมด

จึงอยากให้กำลังใจชุมชนท่องเที่ยวทั้งหลาย พยายามปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้วยตัวเอง เป็นไข่มุกเปล่งประกายท่ามกลางก้อนกรวด ไข่มุกจะยิ่งงดงามและดูดีมีราคา ทำได้/ไม่ได้ไม่ทราบ แต่ทราบว่าถ้าทำได้ การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าจะเกิดอย่างแท้จริงครับ

‘แสน นากา’ ยังไม่บอกแม่ ‘เสก โลโซ’ ติดคุก ฝากพี่น้องในเรือนจำช่วยดูแลเสก ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

(21 พ.ค. 68) แสน นากา พี่ชายเสก โลโซ โพสต์คลิปคุณแม่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมเผยว่ายังไม่บอกข่าวน้องชายถูกตัดสินจำคุก เพราะกลัวแม่ช็อก โดยน้องสาวจึงยึดโทรศัพท์คุณแม่ไว้ชั่วคราว ขณะที่เจ้าตัวกำลังถ่าย MV ที่ปราณบุรี

แสน นากา เล่าว่าแม่ติดโทรศัพท์ ชอบดูเฟซบุ๊กเป็นประจำ จึงกลัวจะเห็นข่าวก่อนมีลูกๆ อยู่ด้วย ยืนยันจะรีบกลับไปในวันเสาร์และค่อยๆ พูด เพื่อไม่ให้แม่ตกใจเกินไป พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา

ด้านเรือนจำพิเศษมีนบุรี ระบุว่า วันแรกของเสก โลโซ สุขภาพโดยรวมปกติดี แม้มีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวยังสามารถพูดคุยและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ได้ตามขั้นตอนอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ แสนโพสต์อีกครั้ง ฝากถึงทุกคนในเรือนจำให้ช่วยดูแลเสก พร้อมระบุว่าแม้ใจลึกๆ จะเศร้า แต่ต้องยอมรับความจริงด้วยสติและความเข้มแข็ง เพื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคต!!

 🤖 ร่วมเปิดโลกหุ่นยนต์ และ AI แบบสนุก เข้าใจง่าย ในงาน “หุ่นยนต์ไม่กัด!” 
พบกับเวิร์กช็อปและการบรรยายสุดพิเศษ โดยทีมกูรูจาก FIBO มจธ. 
ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต พร้อมกิจกรรมมากมาย 
เข้าร่วมฟรีตลอดงาน!.

🚩 กิจกรรมไฮไลต์:
14.30 น. บรรยาย/Show “AI Service Robot หุ่นยนต์บริการอัจฉริยะ"
15.30 น. เสวนา “หุ่นยนต์และ AI เราคุมมัน หรือมันคุมเรา?” และ Talk "เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?"
17.00 น. เสวนา “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?”

🚩 กิจกรรมพิเศษ:
13.00 น. โชว์และสาธิตเทคโนโลยี Mixed Reality | HoloLens
15.00 และ 16.30 น. เวิร์กช็อป: ไก่ชน Mobile Robot (รับจำนวนจำกัด!)

⭐️ พบกันวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. 2568 @ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน
▶️ สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า

ความหมาย ’วันทยหัตถ์’ ของปธน.ซูบียันโต ต่อในหลวง สะท้อนมิตรภาพและเกียรติยศของผู้เคยผ่านการเป็นทหาร

เพจเฟซบุ๊ก ‘ทหารหลังกองพัน‘ ได้โพสต์ข้อความถึงภาพการทำวันทยหัตถ์ ระหว่างในหลวง และประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ว่า อีกหนึ่งภาพแห่งความประทับใจ ที่หลาย ๆ คนคงได้เห็น ในโอกาสที่นายปราโบโว  ซูบียันโต (Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

และได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต 

ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีภาพการทำวันทยหัตถ์ ในการพบปะระหว่าง ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กับ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะเดินทางกลับ จึงได้ทำวันทยหัตถ์กับในหลวง ซึ่งในหลวงก็ได้ทรงทำวันทยหัตถ์ตอบรับ 

การทำวันทยหัตถ์ (salute) ระหว่างกัน จะเป็นการแสดง มารยาททางทหารและการทูต โดยขึ้นอยู่กับบริบท ดังนี้

ลักษณะของการทำวันทยหัตถ์ระหว่างผู้นำ
• ไม่ใช่การวันทยหัตถ์แบบทหารทั่วไป (เช่น ทหารทำต่อผู้บังคับบัญชา) แต่เป็นการแสดง 'เกียรติสูงสุด' ตามมารยาทระหว่างประเทศ

• กรณีถ้าประธานาธิบดีอินโดนีเซียเคยเป็นทหาร (เช่น ปราโบโว ซูบียันโต) ก็อาจ แสดงความเคารพในรูปแบบทหาร 

• ส่วนในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงเป็นจอมทัพไทย ทรง รับวันทยหัตถ์ ด้วยการพยักหน้า หรือวันทยหัตถ์ตอบในกรณีสมควร

อย่างไรก็ดี ธรรมเนียมของผู้นำทหารระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของมารยาททางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ ซึ่งมีแบบแผนที่ชัดเจน เพื่อแสดง ความเคารพ เกียรติยศ และมิตรภาพระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อผู้นำทหาร หรือผู้นำประเทศที่มีพื้นฐานจากกองทัพ พบกันอย่างเป็นทางการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top