Saturday, 21 June 2025
NEWS FEED

รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ร่วมกับคณะกรรมาธิการการทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เดินทางไปหารือข้อราชการกับ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และคณะผู้บริหารกองทัพอากาศ

เมื่อวันที่ (16 ม.ค.68) พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ร่วมกับคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา 

นำโดย พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางไปหารือข้อราชการกับพลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และคณะผู้บริหารกองทัพอากาศ ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจที่สำคัญ ของกองทัพอากาศในการปกป้อง อธิปไตย และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ความพร้อมกิจการด้านอวกาศ รวมถึงแนวคิดการวิจัย พัฒนา และจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ 

โดยคณะกรรมาธิการจะนำข้อมูลที่ได้รับไปประกอบการพิจารณา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

'สว.ไชยยงค์' ผู้แทนคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา เดินสายเยี่ยมเยียนสวัสดีปีใหม่สื่อใหญ่ 5 แห่ง เดลินิวส์ ข่าวสด แนวหน้า ไทยพีบีเอส บ้านเมือง 

เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้แทนคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา พบปะเยี่ยมเยียนพร้อมมอบกระเช้าผลไม้แสดงความปรารถนาดี ในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2568 แก่สื่อมวลชนที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยเริ่มจากสำนักงาน บริษัทข่าวสด จำกัด (หนังสือพิมพ์ข่าวสด) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยมี นายวุฒิเทพ เดชะภัทร บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวสดและคณะ ร่วมรับมอบ

จากนั้นคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา เดินทางสวัสดีปีใหม่ บริษัท หนังสือพิมพ์แนวหน้า จำกัด เขตหลักสี่ (นสพ.แนวหน้า)โดยมี นายอดิศร วงศ์ศรศักดิ์ หัวหน้าข่าว เป็นผู้รับมอบ

ต่อมาคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา สวัสดีปีใหม่ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) เขตหลักสี่ โดยมีนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวและคณะ ร่วมรับมอบ

ต่อมาคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา เดินทางไปสวัสดีปีใหม่ ที่สำนักงานใหญ่ นสพ.เดลินิวส์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยมี นายอภิชัย รุ่งเรืองกุล บรรณาธิการผู้พิมพ์และโฆษณา และคณะ ร่วมรับมอบ

ก่อนจะปิดท้ายของวัน เดินทางไปที่บริษัท นวกิจบ้านเมือง จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ 

สวัสดีปีใหม่เวบไซต์บ้านเมือง

โดยมี นายชิงชัย รุ่งละโภ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์บ้านเมือง เป็นผู้รับมอบ

คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เข้าพบหารือข้อราชการกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.68) เวลา 08.30 – 12.00 นาฬิกา พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วยกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ ที่ปรึกษาฯ เดินทางไปหารือข้อราชการกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เกี่ยวกับนโยบายด้านกิจการทหารและความมั่นคงของกองบัญชาการกองทัพไทยที่มีความเด่นชัดมากขึ้นทั้งเรื่องบทบาทต่าง ๆ ของหน่วย การบรรเทาสาธารณภัย ปฏิบัติการไซเบอร์ และปฏิบัติการร่วมอื่น ๆ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ของประเทศ

ในการนี้ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บริหารระดับสูงของกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ให้การต้อนรับและหารือในประเด็น ดังนี้
1. การขับเคลื่อนภารกิจ การจัด และบทบาท บก.ทท.
2. การบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพไทยในภาพรวม และการพัฒนาขีดความสามารถในการบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนของกองทัพไทย (รวมทั้งการสาธิตการจัดชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยผ่านระบบ VTC)
3. การพัฒนาการดำเนินงานด้านไซเบอร์ของกองบัญชาการกองทัพไทย
4. เรื่องอื่น ๆ /ประเด็นสำคัญที่ต้องการให้กรรมาธิการในฐานะสมาชิกวุฒิสภาผลักดันให้ประสบผลสำเร็จ 

โดยที่ประชุมหารือได้มีการพูดคุยและข้อเสนอแนะที่สำคัญทั้งเรื่องการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพกับการพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน และการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติที่ต้องร่วมคิดร่วมขับเคลื่อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะได้นำข้อมูลและข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่ได้หารือร่วมกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บริหารระดับสูงของกองบัญชาการกองทัพไทยไปพิจารณาศึกษาและดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้เป็นรูปธรรมต่อไป 

แม่ค้าย่านตลาดดินแดงยิ้มแก้มปริ หลัง ‘ปฏิทินพีระพันธุ์’ ให้โชคเต็ม ๆ 2 งวดซ้อน

(17 ม.ค. 68) มีรายงานข่าวว่า หลังผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 17 มกราคม 2568 พ่อค้าแม่ค้าย่านตลาดดินแดง ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว กันหลายราย ทั้งนี้ จากการสอบถามถึงที่มาของเลขเด็ด พบว่า เป็นการซื้อเลขตามปฏิทิน ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำแจกช่วงปีใหม่ 2568 ที่ผ่านมา

โดยแม่ค้ารายหนึ่ง บอกด้วยความตื่นเต้นว่า ได้ติดตามเลขที่อยู่ในปฏิทินที่ได้รับแจกมานั้น ผลปรากฏว่า เลขที่ตีออกมานั้นตรงกับรางวัลเลขท้าย 2 ตัวทั้ง 2 งวด โดยงวดวันที่ 2 มกราคม 2568 ออก 51 และ งวด 17 มกราคม 2568 ออก 23

ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย

เมื่อวันที่ (15 ม.ค.68) เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรอง ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล (H.E. Tan Sri Dato’ (Dr.) Johari bin Abdul) ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภาไทย โดยมี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ร้อยตำรวจเอก ฉลอง ทองนะ สมาชิกวุฒิสภา และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง

ประธานวุฒิสภากล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียที่ใกล้ชิดและผูกพันกันมาอย่างยาวนาน และปีนี้ครบรอบ 68 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในด้านนิติบัญญัติรัฐสภาไทยและรัฐสภามาเลเซียได้แลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดประธานรัฐสภาไทยได้นำคณะเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ผ่านกลไกกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภา อีกทั้งขอแสดงความยินดีที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA)

ในปีนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กล่าวขอบคุณที่ประธานวุฒิสภาให้การต้อนรับในครั้งนี้ โดยปีนี้ประเทศมาเลเซียเป็นประธานอาเซียน มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ สันติภาพ รวมไปถึงความสัมพันธ์ด้าน
นิติบัญญัติให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้น ประธานวุฒิสภาได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียและคณะ ณ ห้องรับรองพิเศษ 203 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) โดยมีสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดทางภาคใต้ของไทย ได้แก่ พันตำรวจโท สุริยา บาราสัน นายสามารถ รังสรรค์ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล พันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ นายยะโก๊ป หีมละ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ร้อยตำรวจเอก ฉลอง ทองนะ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย

จเรตำรวจแห่งชาติประชุมแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เพื่อวางมาตรการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างได้ผล

(17 ม.ค.68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เป็นประธานการประชุมป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมี นายชูขีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก , พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมด้วย นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายอำเภอ ผู้กำกับการ สภ.ต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหาร และผู้แทนหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 5 ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก อ.แม่สอด

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อวางแนวทางมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และหารือแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และการสกัดกั้นคนต่างชาติลักลอบเข้าเมือง ว่าจะควบคุมกํากับดูแลอย่างไรตั้งแต่การเข้ามาในพื้นที่บริเวณขอบ อ.แม่สอด จนกระทั่งเข้าสู่แนวชายแดนรวมทั้งบริเวณพื้นที่ภายในทั้งหมด โดยมาตรการจะเริ่มต้นตั้งแต่การด่านต่าง ๆ ที่ประชาชนจะเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จะต้องมีการตรวจสอบซักถามนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามา ว่าเดินทางเข้ามามีแผนการท่องเที่ยวอย่างไร มีใครเป็นคนพามา และพักที่ไหน เป็นต้น จากนั้นจะมีการบันทึกไว้ในระบบเพื่อนําไปสู่การตรวจสอบในภายหลัง หากพบว่ามีความไม่ชัดเจนเกี่ยวเรื่องแผนการท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะมีการติดต่อสถานทูตและจะมีการดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

การควบคุมการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวมีความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง คาดว่ามาตรการดังกล่าวน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้ และจากนี้จะมีการประเมินผลการปฏิบัติทุกเดือน ซึ่งนอกจากจะป้องกันปราบปรามอาชญากรรม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้ว ยังเป็นการรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่ามาเที่ยวเมืองไทยปลอดภัยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า กรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ 

สำหรับกรณีนายแบบจีนนั้นจากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจเยี่ยม สภ.สามพราน จ.นครปฐม และเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนไปบรรยายพิเศษ รร.นรต. ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง

(17 ม.ค.68) เวลา 11.45 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมี พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.สามพราน และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ และรายงานเหตุคดีที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ ผกก.สภ.สามพราน เดินทางไปยังโรงพยาบาลสามพราน เพื่อเยี่ยม ส.ต.ต.ชายแดน เอี่ยมละออ และ ส.ต.ต.นิติพล พลเสน ผบ.หมู่ กองร้อยควบคุมฝูงชน ช่วยราชการ สภ. สามพราน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจติดตามรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ที่ขับขี่หลบหนีจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม บริเวณถนนพุทธมณฑล สาย 7 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุได้ประสานขอสนับสนุนกำลังสายตรวจรถจักรยานยนต์เพิ่มเติม จนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ โดย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบเงินช่วยเหลือ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย

จากนั้น เวลา 13.00 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางไปที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อบรรยายพิเศษ ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานจากรุ่นพี่ นรต. 41สู่รุ่นน้อง โดยมีนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 78 เข้ารับฟังการบรรยาย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำการทำงานภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 , , เน้นการทำงานสอบสวน วางแผนการทำงานทางคดี กำหนดกรอบเวลา และบริหารคดีให้ทันต่อเวลา ซึ่งถือเป็นหัวใจที่สำคัญของการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเน้นย้ำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจและข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้ตั้งใจประพฤติดี เข้าถึงประชาชน ให้สมกับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยการปรับแนวคิด mind set เพื่อการทำงานในหน้าที่ตำรวจไปสู่การสร้างความเชื่อถือและศรัทธาของพี่น้องประชาชน

'เฉลิมชัย' ดันเข้าครม.21 มค.นี้ เห็นชอบเอกสารเสนอ 'วัดพระมหาธาตุ นครศรีฯ' ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ก่อนยื่นศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส ภายใน 1 กพ. เพื่อเข้าพิจารณาทันวงรอบปี 2568 

นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ที่ปรึกษา รมว.ทว.) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เตรียมจะนำเรื่องการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในวันที่ 21 มกราคมนี้ ตามที่คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกได้มีมติเห็นชอบแล้ว กับร่างเอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เมื่อวันทึ่ 15 มกราคม  ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เอกสารนำเสนอแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมหรือทางธรรมชาติ เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จะต้องจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อเข้าวงรอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลก ดังนั้นเพื่อให้เอกสารนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สามารถดำเนินการได้ทันภายในปี 2568 จึงจำเป็นต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาภายในวันที่ 21 มกราคม นี้

ส่วนเหตุผลที่นำเสนอเห็นสมควรให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่แสดงถึงการ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาท ในทางตอนใต้ของภูมิภาคเอเชียภาคพื้นสมุทรที่โดดเด่นที่สุด เป็นศาสนสถานที่ยังคงใช้งานมาอย่างต่อเนื่องราว 1,500 ปี เป็นศูนย์กลางของประเพณีที่ยังคงดำรงอยู่ด้วยระบบความเชื่อที่หลากหลาย และผสมผสานเป็นเอกลักษณ์สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กับชุมชนโดยรอบอย่างแน่นแฟ้น และเด่นชัด 

สำหรับพื้นที่นำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งได้รับการประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถานทั้งพื้นที่ ประกอบด้วยเขตพุทธาวาส และเขตสังฆาวาส โดยมีพระบรมธาตุเจดีย์เป็นประธานของกลุ่มโบราณสถานภายในวัดอันเป็น คุณลักษณะของแหล่งมรดกวัฒนธรรมและสถานที่ประกอบพิธีกรรมและประเพณีทางพุทธศาสนาที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน 

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 17 ถึง 27 มิถุนายน 2556  ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา มีมติรับรองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative Liist) แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ของศูนย์มรดกโลกไว้แล้ว

นายอภิชาต ระบุว่า ตลอดเวลากว่า 10 ปี ชาวนครศรีธรรมราชหลายภาคส่วน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จนมาถึงวันนี้ นับเป็นข่าวดีที่มาถึงขั้นตอนที่ครม.จะให้ความเห็นชอบกับเอกสารการนำเสนอ ก่อนไปสู่กระบวนการพิจารณาขั้นสุดท้ายที่คณะกรรมการมรดกโลก จะตัดสินชี้ขาด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปในทางบวก 

“ประเมินว่า การได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก จะเกิดความคุ้มค่าในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 500-750 ล้านบาท จังหวัด ชุมชนท้องถิ่น ชุมชนรอบแหล่งมรดกโลก ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการจะได้รับอานิสงส์มากมาย ทั้งในจังหวัดและภายนอก นอกจากนี้ในคุณค่าด้านวัฒนธรรม จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศกว้างไกลมากขึ้น และสำหรับชาวนครศรีธรรมราช เจ้าของบ้าน จะเกิดความรัก ความภาคภูมิใจ ความสามัคคี และความตระหนักร่วมกันในการอนุรักษ์หวงแหนมรดกโลกของเรา” ที่ปรึกษา รมว.ทส. กล่าว

เชียงใหม่- ททท.จัดกิจกรรมการเตรียมความพร้อมส่งเสริมการขาย ภูมิภาคภาคเหนือ ผ่านสื่อออนไลน์

 

เมื่อวันที่ (15 ม.ค.68) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายภูมิภาคภาคเหนือผ่านสื่อออนไลน์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวผ่านการตลาดออนไลน์ โดยมีนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเปิดการประชุม ณ ห้องประชุมพุดตาน โรงแรมพะเยาเกทเวย์ จังหวัดพะเยา

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. จัดกิจกรรม การเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายภูมิภาคภาคเหนือ (ผ่านสี่ออนไลน์) ระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมส่งเสริมการขายภูมิภาคภาคเหนือ (ผ่านสื่อออนไลน์) เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในภาคเหนือในการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและกระตุ้นยอดการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป

หัวข้อการประชุม ได้แก่ กิจกรรมเติมและเสริมเขี้ยวเล็บ IT ทีม Admin ภาคเหนือ และพันธมิตรเครือข่าย เทคนิค/เคล็ด (ไม่) ลับเขียนข่าว ให้คลิ๊ก,เขียน Content ให้ถูกใจสร้างยอดขาย ,ทำ Ads. ประกอบการเขียนข่าว ,ถ่ายภาพ ถ่ายคลิปด้วยมือถือ, ตัดต่อคลิปด้วยมือถือ TikTok (ปั้นดาว TikTok) ,การใช้ Chat GPT สร้าง Content ,ถ่ายทำและตัดต่อคลิปจากโทรศัพท์ (Workshop) และ Stream Yard การส่งเสริมการขายผ่าน Zoom และ Line OA การสร้างเมนูย่อยใน Line OA และการจัดการระบบห้าง ททท.

โดยวิทยากร ได้แก่ ดร.นิรมล พรมนิล อาจารย์ประจำสาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรมมหาวิทยาลัยพะเยา พร้อมด้วย อาจารย์กมลพงศ์ รัตนสงวนวงศ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการตลาดดิจิทัลคณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ และคุณณรงค์ วงค์ไชย นักประชาสัมพันธ์ กองกลาง จากมหาวิทยาลัยพะเยา และคุณกิตติ จันทรประเสริฐ CRETIVE DIRECTOR บริษัท ฟลอด เอฟโวลูชั่น จำกัด มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นบุคลากร จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 17จังหวัด ภาคเหนือ ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน

วันสถาปนา กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ

เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2464 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยก กองอุทกศาสตร์ทหารเรือขึ้นเป็นกรมอิสระจาก กรมเสนาธิการทหารเรือ เรียกว่า กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ ขึ้นตรงต่อกระทรวงทหารเรือ 

จึงได้ถือเอาวันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมอุทกศาสตร์ โดยมีนายพลเรือจัตวา ฟริตซ์ ทอมเซ็น เป็นเจ้ากรมอุทกศาสตร์ท่านแรก มีภารกิจอำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ ดำเนินการ ให้การสนับสนุน และให้บริการด้านอุทกศาสตร์สมุทรศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา วิศวกรรมชายฝั่ง เครื่องหมายทางเรือ การเดินเรือ เวลามาตรฐานประเทศไทย และงานเขตแดนระหว่างประเทศ

ปัจจุบันมี พลเรือโทคมสัน กลิ่นสุคนธ์ ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top