Saturday, 21 June 2025
NEWS FEED

จเรตำรวจแห่งชาติลุยตัดวงจรบัญชีม้า ภัยความมั่นคงของชาติรูปแบบใหม่ หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เดินหน้าปิดบัญชีม้าทั่วประเทศ

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า วานนี้ (13 มกราคม 2568) ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พ.ต.อ.วรธัช วิชชุวาณิชย์ อาจารย์ (สบ 5) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ น.ส.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน , น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน , นายบัญชา มนูญกุลชัย ที่ปรึกษารองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน หารือแผนปราบการกระทำผิดทางการเงินครั้งใหญ่ เพื่อปิดช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ในการโกงและขโมยทรัพยากรจากคนไทยจำนวนมหาศาล  

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2565 มิจฉาชีพใช้บัญชีม้าในการปล้นทรัพยากรคนไทยไปมากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยใช้ infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ของประเทศไทย และไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการโยกย้ายเงินไปสู่ คริปโตเคอเรนซี นำเงินออกนอกประเทศไปให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งข้อมูลจากการประชุมเปิดเผยว่ามีคนเปิดบัญชีม้ากว่า 2 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในวัยทำงาน โดยมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ขาดแคลนแรงงานถึง 2 แสนคน ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มที่อาจจะถูกออกหมายจับ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ภาคธนาคารต้องจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ระบบเศรษฐกิจของชาติได้รับผลกระทบหนักกว่านี้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเปิดยุทธการ 'ระเบิดสะพานโจร' ที่จะปิดกั้นทุกช่องทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยตัดช่องทางการใช้บัญชีม้าในการกระทำความผิด โดยในการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นตามนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ยอมให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป การปิดบัญชีม้าเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายชัดเจน และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน      

ด้าน น.ส.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนร่วมกับ ศปอส.ตร. ในการกำหนดนโยบายและการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้คนร้ายใช้ช่องทางบัญชีธนาคารหลอกลวงคนไทยให้ตกเป็นเหยื่อจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติอีกต่อไป

‘MASTER’ ส่ง บจ.ทวิงเกิ้ล สตาร์ ร่วมทุน บจ.รีโว่เมด กรุ๊ป เปิดตัว Dr.master ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมครบวงจร

‘MASTER’ ส่ง บริษัทในเครือ บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด จัดตั้งบริษัทใหม่ ในนาม ‘บริษัท เดอะ มาสเตอร์เวิร์ส จำกัด’ พร้อมเปิดตัวแบรนด์ 'Dr.master' ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงเส้นผม Medical Grade ของคนไทย ตอบโจทย์ทุกปัญหาเส้นผม ชู 4 ผลิตภัณฑ์ NewHair Shampoo, NewHair Conditioner, Nutri H Dietary Supplement และ HairVital Serum สร้างตำนาน ต้านร่วง ต้านหงอก ผมงอกใหม่ รากผมแข็งแรง ด้วยสารสกัดสมุนไพรเข้มข้น 15 ชนิด ที่พัฒนาคิดค้นร่วมกับทีมแพทย์ชำนาญการด้านเส้นผม จาก 3M Hair Transplant By Masterpiece Hospital และสถาบันวิจัยชั้นนำระดับมหาวิทยาลัย เข้าสู่ตลาด Consumer Product พร้อมเปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์คนดัง ‘หนิง - ปณิตา’ และ ‘มดดำ - คชาภา’ ที่มาเป็น Master ตัวจริง! สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ตั้งเป้าประเดิมยอดขายปีแรก 1,000 ล้านบาท

คุณลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ผู้นำอันดับต้นของอุตสาหกรรมด้านความงามในไทยและเอเชีย ในฐานะ Regional Company เปิดเผยว่า แนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ Group MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic เพื่อต่อยอดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ พร้อมสร้างการเติบโตในตลาดศัลยกรรมความงาม 

ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย โดยพบว่าคนไทยประสบปัญหาภาวะผมร่วงบางหรือศีรษะล้านมากกว่า 30 ล้านคน โดยปัจจุบัน MASTER ครองส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ในตลาดปลูกผมเกินกว่า 50% นี่คือ 3M Hair Transplant by Masterpiece แต่หากมองในแง่การเข้ารักษาแล้ว จะเริ่มเห็นอายุที่น้อยลงมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญต่อปัญหาเส้นผม และดูแลตัวเองมากขึ้น 

ทั้งนี้ บริษัทเห็นโอกาสและช่องว่างทางธุรกิจในตลาด Consumer Product เกี่ยวกับเส้นผม จนเป็นที่มาถึงการเข้าร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม The Master of HAIR SOLUTIONS By Dr.master เพื่อกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมโดยตรง 

โดย MASTER ตกลงร่วมกับ บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการด้านผลิตสื่อโฆษณา ที่ MASTER ถือหุ้นสัดส่วน 40% ในบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด เพื่อดำเนินการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีความชำนาญในอุตสาหกรรมรับผลิตครีมและเครื่องสำอางครบวงจรที่ได้รับรองมาตรฐานสากล ในการจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ 'บริษัท เดอะ มาสเตอร์เวิร์ส จำกัด' เพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แบรนด์ 'Dr.master'  

คุณยศภัทร กุลดิลก กรรมการบริหาร บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (บริษัทในเครือ MASTER) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างบริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด, รพ.มาสเตอร์พีช และบริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด ในครั้งนี้ ซึ่งนับต่อจากนี้ จะใช้ความรู้ความสามารถในการผลักดันแบรนด์ Dr.master ผ่านสื่อออนไลน์ และช่องทางสื่อสารการตลาดต่างๆ ซึ่ง Core Business เป็นความเชี่ยวชาญของทวิงเกิ้ล สตาร์ ในการนำพาธุรกิจก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนร่วมกัน

ล่าสุดพร้อมเปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ดูแลเส้นผม 'Dr.master' อย่างเป็นทางการ The master of HAIR SOLUTIONS By Dr.master ที่สุดของการร่วมสร้างตำนาน ต้านร่วง ต้านหงอก ผมงอกใหม่ รากผมแข็งแรง ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะของคนไทยอย่างตรงจุด คือ
1. Dr.master NewHair แชมพูกู้ร่วง ต้านผมร่วง ผมหงอก ให้ผมงอกใหม่แข็งแรง
2. Dr.master NewHair ครีมนวดผมหนา ให้มากกว่า Conditioner และ Treatment เพื่อความชุ่มชื้นขั้นสุด นุ่มลึกถึงโคนผม
3. Dr.master HairVital เซรั่มปลูกผม กระตุ้นเซลล์รากผม Detox โคน ลดการอักเสบ
4. Dr.master Nutri H Dietary วิตามินหงอก พร้อมบำรุงจากภายในสู่ภายนอก ต้านผมหงอกและผมร่วง เพื่อสุขภาพผมและหนังศีรษะที่แข็งแรง

ดร.วาสนา อินทะแสง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับผลิตครีมและเครื่องสำอางครบวงจรที่ได้รับรองมาตรฐานสากล กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทในเครือ MASTER อย่าง บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด ที่เห็นโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน มองเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน โดยใช้เงินลงทุนโปรเจกต์นี้ประมาณ 60 ล้านบาท 

สำหรับผลิตภัณฑ์ Dr.master ถือเป็นการผสมผสานภูมิปัญญาไทยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ส่วนประกอบหลักด้วยสมุนไพรไทยสกัดเข้มข้นถึง 15  ชนิด ที่ปลอดภัยและเป็นสูตรเฉพาะของ Dr.master เท่านั้น อาทิ กะเม็ง, สารสกัดใบชาเมี่ยง, สารสกัดใบหมี่, สารสกัดมะหาด, สารสกัดว่านหางจระเข้, สารสกัดใบฝรั่ง, สารสกัดส้มป่อย, สารสกัดเหงือกปลาหมอ, ขิง, สารสกัดดอกอัญชัน, บอระเพ็ด, สารสกัดประคำดีควาย, สารสกัดทองพันชั่ง, สารสกัดใบย่านาง และสารสกัดใบบัวบก Dr.master ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ชำนาญการด้านผิวหนัง (Dermatologist) อย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ปัญหาด้านเส้นผมและหนังศีรษะของคนไทย เช่น ผมร่วง ผมหงอก หนังผมแห้ง และรังแค โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Medical Grade จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมีตกค้างหรืออันตรายต่อผู้ใช้ โดยร่วมวิจัยคิดค้นโดยทีมแพทย์ชำนาญการด้านเส้นผมจากศูนย์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ 3M Hair Transplant by Masterpiece Hospital และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผสานจุดแข็งของ บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับผลิตครีมและเครื่องสำอางครบวงจรที่ได้รับรองมาตรฐานสากล 

พร้อมทั้งเปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์คนสำคัญแห่งวงการบันเทิงไทย คุณหนิง - ปณิตา พัฒนาหิรัญ และคุณมดดำ - คชาภา ตันเจริญ ที่มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดประสบการณ์ในการดูแลเส้นผม ร่วมด้วย ดร.วาสนา อินทะแสง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด,  คุณภูริวัจน์ เสรีฐานุพัชร์ CEO Of Project Dr.master และคุณยศภัทร กุลดิลก กรรมการบริหารบริษัทในเครือ MASTER พร้อมประกาศจุดยืนในการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ให้ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง  

สำหรับแผนการโปรโมทผลิตภัณฑ์ Dr.master ได้ส่งต่อผลิตภัณฑ์ผ่าน Influencer TikToker และ User ร่วมแชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยเน้นเจาะตลาด E-Commerce และ Social Commerce เติมเต็มเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท 

ขณะที่ในอนาคต บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนงาน เพื่อนำ Dr.master เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน แบ่งเป็น 1) กระจายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ เช่น Big C, Lotus  2) วางแผนเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์บรรจุแบบซองในร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ 3) ขยายตลาดสู่ประเทศในแถบ UAE, CLMV และจีน  

ด้าน คุณหนิง - ปณิตา พัฒนาหิรัญ Master of Dr.master กล่าวว่า หนิงรู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ แบรนด์ Dr.master เพราะหนิงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงามโดยเฉพาะเส้นผม ซึ่ง Dr.master ตอบโจทย์ทุกอย่าง รวมถึงให้ความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยและได้ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง ตอบโจทย์ทุกคนที่ต้องการดูแลเส้นผมของตัวเองให้สุขภาพดีแบบยั่งยืน หนิงอยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสด้วยตัวเอง

คุณมดดำ - คชาภา ตันเจริญ กล่าวเสริมว่า แม้ว่ามดดำกับหนิงจะมีเรื่องที่คิดต่างกันหลายเรื่อง แต่มีเรื่องเดียวที่คิดเหมือนกัน คือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อเส้นผม ที่ผ่านมาประสบปัญหารากผมไม่แข็งแรง ผมร่วง มาโดยตลอด พอได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ Dr.master บอกเลยว่าผลลัพธ์ชัดเจนมาก ทุกคนที่เจอปัญหาแบบมดดำ ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะนี่แหละคือคำตอบ 

สำหรับผู้ที่สนใจ Dr.master มาร่วมสร้างตำนานบทใหม่กับนักต้าน! ต้านผมร่วง ต้านผมหงอก ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายและติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่  
Facebook: https://www.facebook.com/drmaster.official    
Instagram: https://www.instagram.com/drmaster.official  
TikTok: https://www.tiktok.com/@drmaster.official    
Line: @Dr.master หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@Dr.master

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ กำชับทุกหน่วยงาน พร้อมบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด แนะนำเทคโนโลยีเข้าช่วย 

(14 ม.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  เปิดเผยถึงผลการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารสุข เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงาน 24 หน่วยงาน และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การป้องกันและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษาสถานการณ์สภาพปัญหาการป้องกันและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จากฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 รวมระยะเวลา 97 วัน สามารถดำเนินการได้ ร้อยละ 26.58 ของเป้าหมายที่วางไว้ 

โดยแบ่งการดำเนินการ ดังนี้  1. การปราบปราม ดำเนินการจับกุมคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน  36,916 คดี ขยายผลจากการจับกุมในคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดไปสู่คดีการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ จำนวน 404 คดี และการยึด อายัดทรัพย์สิน คดียาเสพติด จากการดำเนินการจับกุม ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ จำนวน 2,167 ล้านบาท  และ 2. การแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติด บำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จำนวน 25,984 ราย บำบัดรักษา ผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิต จำนวน 3,951 ราย และผู้ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพจนถึงการติดตาม (Retention Rate) จำนวน 11,168 ราย 

“ทั้งนี้ผมในฐานะประธานการประชุม ได้มีข้อสั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

สืบ ตม. รวบชายชาวไนจีเรียนลักลอบขายคีตามีนในย่านนานา

(14 ม.ค. 68) กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายเคนเนดี้ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรียน พร้อมของกลาง ยาเสพติด ให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 30 ก้อน น้ำหนักชั่งรวมสิ่งห่อหุ้ม 50 กรัม โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวขยายผล บก.ปส.4 บช.ปส ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ภายในร้านสินค้าในซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านนานา แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงทำการสืบสวนติดตาม ดูพฤติการณ์มากว่า 3 เดือน จนชัดเจน จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อยาเสพติด จำนวน 30 กรัม ในราคา 60,000 บาท (กรัมละ 2,000 บาท) โดยนัดหมายส่งมอบภายในร้านสินค้า ในซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โดยวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าไปแฝงกายปะปนกับผู้มาซื้อสิ้นค้าภายในร้าน  เพื่อเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของสายลับและนายเคนเนดี้ จนกระทั่ง นายเคเนดี้ ได้มาพบกับสายลับตามนัดหมาย จากนั้นได้ส่งมอบยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายกันให้กับสายลับ สายลับจึงได้ส่งสัญญานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับ เข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดของกลางซึ่งบรรจุอยู่ในพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยเทปกาวพลาสติกสีดำ จำนวน 30 ก้อน น้ำหนักชั่งรวมสิ่งห่อหุ้ม 50 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกล่องยาสีฟัน และทำการตรวจค้นตัวนายเคนเนดี้ พบเงินสดที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในมือซ้าย ต่อมาได้ตรวจค้นห้องพักของนายเคนเนดี้ พบซองพลาสติก และเทปพันสายไฟสีดำเช่นเดี๋ยวกับที่ใช้พันยาเสพติดของกลาง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบของกลางด้วยชุดทดสอบสาร เสพติดเบื้องต้น (ONCB 053 Modified Cobalt Thiocyanate Reagent) ซึ่งใช้สำหรับทดสอบคีตามีน สีของน้ำยาหลังทดสอบเป็นสีม่วงและตกตะกอนสีขาว สอบถามนายเคนเนดี้ ยอมรับว่ายาเสพติด (คีตามีน) ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งได้นำมาจำหน่ายให้กับสายลับในราคา 60,000 บาท ตามที่ตกลงซื้อขายกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

สมาคมกีฬาปัญจกีฬาฯ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเรียนรู้  ป้องกันภัยล่วงละเมิดทางเพศในการกีฬา

เมื่อวันที่ (13 ม.ค. 68) พล.ร.อ.อภิชาติ ปัญญากิตติวัฒน์ และพล.ร.ต.หญิง เสาวนีย์ อุทัยสาง กรรมการสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุม โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา การล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ณ โรงแรม เดอะพาลาสโซ กรุงเทพฯ    

โดยมี ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมการสภาโอลิมปิกแห่งเอเซีย ด้านความเท่าเทียมทางเพศ เป็นผู้ดำเนินรายการ มีนักกีฬาชื่อดังของไทย ร่วมเสวนา 4 ท่าน ได้แก่คุณเยาวภา บุรพพลชัย  นักกีฬาเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2004 นายกสมาคมนักกีฬาโอลิมปิกไทย,  “โปรแหวน “ คุณพรอนงค์ เพชรล้ำ นักกอล์ฟหญิงประเทศไทย, คุณกัญญา ณัฐชาณรงค์ นักกีฬาเคอร์ลิงประเทศไทย, ” ซาร่า “ คุณนุศรา ต้อมคำ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย  ตระหนักถึงความสำคัญในมาตรฐานความปลอดภัย  และป้องกันภัยจากการล่วงละเมิดทางเพศ กับบุคคลากรทางกีฬา โค้ช เจ้าหน้าที่ และนักกีฬา สู่ "Safe Spot"  ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

‘รองนายกประเสริฐ’ สั่งการ ‘สคส.’ ตรวจสอบสมาร์ทโฟนยี่ห้อดัง ผัง ‘แอปเงินกู้’ ในมือมือถือ - ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ พร้อมเรียกตัวแทนบริษัทมือถือชี้แจง ‘13 ม.ค.’ นี้ทันที 

(12 ม.ค. 68) นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวสมาร์ทโฟน OPPO และ REALME ได้ติดตั้งแอพพลิเคชันเงินกู้ ‘สินเชื่อความสุข’ และ ‘Fineasy’ มาในระบบ System App โดยไม่สามารถลบออกได้แล้วยังเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อและเบอร์โทรศัพท์ว่า กรณีนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้สั่งการให้ สคส.เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว อีกทั้งตนยังได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประสานงานกับ สกมช.และ กสทช. เพื่อแจ้งผู้แทนบริษัทมือถือและแอปดังกล่าวตรวจสอบและเข้าชี้แจงกรณีดังกล่าวโดยทันที ในวันที่ 13 มกราคม2568 ณ กสทช. เนื่องจากอาจเป็นการเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้โดยมิได้รับความยินยอมและอาจสร้างความเสียหายได้ เพื่อพิจารณาถึงมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัดต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากมีประชาชนเจ้าของข้อมูลได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว สามารถใช้สิทธิร้องเรียนมายัง PDPC ผ่านทางเว็บไซต์ pdpc.or.th หรือหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียน สคส. โทร. 02-1118800 กด 2

‘เจือ ราชสีห์’ ชวนท่องเที่ยว หาดสมิหลา ร่วมสัมผัสน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย

(13 ม.ค. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวสงขลา วันนี้ชายหาดของเรา “หาดสมิหลา” คว้าอันดับ 1 น้ำทะเลที่มีคุณภาพดีที่สุด จาก 210 แห่งทั่วประเทศไทย ของกรมควบคุมมลพิษ

“ผมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ได้มาลองสัมผัสกับน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย ที่หาดสมิหลาจังหวัดสงขลา ครับ”

อย่าพลาด! EA ใช้สิทธิเพิ่มทุน 17-23 ม.ค.นี้ สัดส่วน 1:1 หุ้นละ 2 บาทพร้อมวอร์แรนต์ฟรี!

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจพลังงานอย่างเต็มที่ 
หลังปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน จำนวน 4,951,121,866 หุ้น พร้อมแบ่งจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 3,713,341,400 หุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 2 บาท พร้อมรับใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) EA-W1 ฟรี!!! ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์  โดยกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญที่ 4 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาใช้สิทธิ 3 ปี เพื่อตอบแทนความไว้วางใจและเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะนี้ EA พร้อมสุดๆ สำหรับการสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน 

อย่าพลาดโอกาสดีๆ!!! วันที่ 17 - 23 ม.ค. 2568 เป็นวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน…ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.energyabsolute.co.th

กรมอุตุฯ เผย ไทยเผชิญอากาศหนาวจัดอีกระลอก ย้อนอดีตปี 2498 กทม. เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา

(13 ม.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับ 11 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย อันดามัน “ลมเย็นอีกระลอก” จากจีนแผ่ปกคลุม ทำให้มีอากาศหนาวจัดมีลมแรง สุดทึ่ง!! ในอดีตกรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา เมื่อปี 2498

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 11 (11/2568)
เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและหนาวจัดในบางพื้นที่กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 ม.ค. 68

สำหรับในปีนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานคร นับว่ามีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องยาวนาน โดยอุณหภูมิต่ำสุดจะอยูที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียส แต่ทว่า เมื่อย้อนไปดูบันทึกสภาพอากาศในอดีต พบว่า เมื่อปี 2498 กรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้ว โดยมีอุณภูมิต่ำสุดถึง 9.9 องศาเซลเซียส

ขอนแก่น-นักวิ่งปอดเหล็ก ไทย-เทศ เรือนหมื่น แห่! ร่วมการแข่งขัน “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 20”

(13 ม.ค. 68) มหาวิทยาลัยขอนแก่นเดินหน้าจัดงานวิ่งระดับนานาชาติ “ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 20” (Khon Kaen International Marathon 2025) อย่างยิ่งใหญ่ กับการแข่งขันทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ KIDS RUN 2.8 กิโลเมตร, FUN RUN 5.4 กิโลเมตร และ ELITE FUN RUN ระยะ 5.4 กิโลเมตรอิ่มอร่อยกับ Food Festival ให้สมกับธีม Foodก็FunRunก็ม่วน แล้วไปกันต่อที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ “LEARN TOPIA”  ใน วันเด็กแห่งชาติ2568 ด้วย

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 11 มกราคม 2568 ที่บริเวณคุ้มสีฐาน ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น ภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดขอนแก่นได้กำหนดจัดโครงการขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2025 ซึ่งปีนี้ครบรอบการจัดการแข่งขันเป็นปีที่ 20 โดยกำหนดจัดการแข่งในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 จำนวน 2 ประเภท คือ เดินวิ่งเพื่อสุขภาพระยะทาง 5.4 กิโลเมตร และการแข่งขัน Kids Run ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร และในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 จำนวน 3 ประเภท คือ ประเภทมาราธอนระยะทาง 42.195 กิโลเมตร. ฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 21.10 กิโลเมตร, มินิมาราธอนระยะทาง 11.55 กิโลเมตรกล่าวแสดงความยินดีโดย  นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งกล่าวเปิดงานโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาราชการแทน  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี ทุกภาคส่วน เข้าร่วมพิธีปล่อยตัวนักวิ่งและมอบรางวัล กิจกรรมขอนแก่นมาราธอนนานานาติ 2025 ในกิจกรรมดังกล่าว

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาราชการแทน  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดงานในวันที่ 11-12 มกราคม 2025 นี้ นับเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของสนามวิ่งมาราธอนแห่งแรกในภาคอีสาน ภายใต้แนวคิด “Food ก็ Fun Run ก็ ม่วน” ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2025 ปีนี้มีความพิเศษมาก เพราะเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของสนามวิ่งมาราธอนแห่งแรกในภาคอีสาน โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ซึ่งเป็นวันแข่งขันหลัก เป็นการจัดการแข่งขัน มาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และ มินิมาราธอน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานถ้วยรางวัลเกียรติยศจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สำหรับผู้ชนะเลิศฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กม. และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สำหรับผู้ชนะเลิศมินิมาราธอน 11.55 กม. 

“การแข่งขันปีนี้เรายังคงมาตรฐานระดับโลกด้วยการรับรองจาก AIMS และมีทีม PACER มืออาชีพนำโดย ดร.คมกริช จันทรเสนา ที่จะช่วยให้นักวิ่งทำเวลาได้ตามเป้าหมาย เราใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่จุดบริการน้ำดื่มและเจลกีฬาตลอดเส้นทาง ระบบรักษาความปลอดภัย การแพทย์ฉุกเฉิน และการจราจรที่เป็นระบบ ที่สำคัญ ปีนี้เราให้ความสำคัญกับนักวิ่งทุกช่วงวัยมากขึ้น โดยเพิ่มรุ่นการแข่งขันสำหรับผู้สูงวัย ทั้งรุ่น 60-64 ปี 65-69 ปี และรุ่น 70 ปีขึ้นไปพร้อมมอบส่วนลดพิเศษ 50% สำหรับนักวิ่งอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ เรายังมี VIP Gift Set สุดพิเศษที่ผลิตโดยมูลนิธิเพื่อเด็กพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยพวงกุญแจ ถุงผ้า ที่ตั้งโทรศัพท์ และกรอบวางเหรียญ ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top