Monday, 28 April 2025
NEWS

‘บอม ธนิน’ แฉ เหตุวงการเทนนิสไทยย่ำอยู่กับที่ เพราะสมาคมฯ ดันแต่ ‘เด็กเส้น’ ไม่หนุนเด็กเก่ง

ทำเอาแฮชแท็ก #เด็ก16ชนคนตาย และ #เด็ก16ผ่าไฟแดงชนคนตาย กลับมาติดเทรนด์ในทวิตอีกครั้ง หลังเด็ก 16 ที่ขับรถหรูฝ่าไฟแดง ไปชนหนุ่มบัณฑิตวิศวะเกียรตินิยมจบใหม่ วัย 24 ปี เสียชีวิตขณะที่ขี่มอเตอร์ไซค์ เมื่อกลางดึกวันที่ 30 กันยายน 2565 โพสต์ไอจีโชว์ประกาศนียบัตร ผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี 2566 ก่อนจะโดนทัวร์ลงจนถอนตัวไปในที่สุด

โดยสังคมต่างตั้งคำถาม และเรียกร้องไปยังสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยว่า เหตุใดถึงไม่มีบทลงโทษ แถมยังให้ผ่านการคัดเลือกติดทีมชาติ ทั้ง ๆ ที่เด็กคนดังกล่าวขับรถชนคนตาย 

ล่าสุด (28 ม.ค. 66) นักแสดงหนุ่ม ‘บอม ธนิน มนูญศิลป์’ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยได้โพสต์ทวิตเตอร์ เล่าถึงวงการเทนนิส ในฐานะที่เล่นและแข่งมาตั้งแต่ 10 ขวบ ว่า ยังมีเรื่องที่แซ่บกว่าที่คิดอีก เทนนิสไทยย่ำอยู่กับที่ เพราะดันแต่เด็กเส้น

ผบ.ตร.สั่งด่วน ให้ น.1 สั่งผกก.สน.ห้วยขวาง ช่วยราชการทันที หลังพบมีมูลตำรวจที่ตั้งด่านอาจเกี่ยวข้องเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวไต้หวัน ย้ำตำรวจทุกพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากเกิดเหตุอีกเอาโทษ ผกก.-ผบก.ด้วย

วันที่ 30 ม.ค. 2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจเรียกรับเงิน ว่า “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการด่วน ให้ ผบช.น.สั่งผกก.สน.ห้วยขวาง ช่วยราชการ หลังจากมีข้อมูลว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกเรียกรับเงิน พร้อมกำชับ น.1 ดำเนินการตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิดในเหตุดังกล่าวทุกราย อย่างเด็ดขาด มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง”

สังคมร่วมใจ ผุด โครงการริสแบนด์และป้ายคิวอาร์โค้ด ช่วยคนป่วยหายออกจากบ้าน คืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย

ไม่นานมานี้ ‘คุณโบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ได้โพสต์รายละเอียดอีกโครงการดีๆ ความว่า...

ใครมีผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจะหายออกจากบ้าน ไปลงทะเบียนรับอุปกรณ์กันได้ฟรีนะคะ

👉 thaimissing.backtohome.org 

โครงการริสแบนด์ และป้ายคิวอาร์โค้ด ‘หาย(ไม่)ห่วง’ เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิกระจกเงา, บริษัท Enegetic Electrical Engineering จำกัด, บริษัทเอสเคที.เอ็มบรอยเดอรี่ จำกัด และบริษัททรูคอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างนวัตกรรมการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่มีอาการหลงลืม และมีความเสี่ยงในการพลัดหลงสูญหายออกจากบ้าน

ในแต่ละปี สถิติผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม โรคหลงลืม และกลุ่มโรคจิตเวช มีแนวโน้มในการพลัดหลงสูญหายออกจากบ้านเป็นจำนวนมาก ปลายทางของผู้ป่วยที่พลัดหลงหายออกจากบ้าน มักอยู่ในที่สาธารณะ ดังนั้น คนในสังคมจะมีส่วนสำคัญในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่พลัดหลงหายออกจากบ้านได้

ริสแบนด์ และ ป้ายคิวอาร์โค้ด ‘หาย(ไม่)ห่วง’ จึงเป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อให้คนในสังคมทราบว่า บุคคลที่สวมใส่ริสแบนด์ หรือมีป้ายคิวอาร์โค้ด รีดติดที่เสื้อหรือกางเกง ดังกล่าวเป็นผู้ป่วยที่กำลังพลัดหลงหายออกจากบ้าน และต้องการความช่วยเหลือ  โดยคิวอาร์โค้ด ที่ริสแบนด์ และป้ายรีดติดเสื้อ ยังสามารถระบุตัวตนของผู้สวมใส่ ภายใต้การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรัดกุมที่สุด

ริสแบนด์ 1 เส้น และป้ายคิวอาร์โค้ด จำนวน 12 แผ่น จะส่งมอบให้กับครอบครัวของผู้ป่วยที่ลงทะเบียนกับโครงการเท่านั้น ข้อมูลที่ลงทะเบียนจะถูกเก็บเป็นความลับสูงสุด

รองโฆษก อสส. ชี้!! หนี้เงินไม่ใช่หนี้ชีวิต ไม่ต้องเอาไปใช้ให้ใคร แนะ!! สายด่วน 1157 อัยการมีวิธีหาทางออกให้

(30 ม.ค. 66) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เป็นหนี้…อย่าคิดสั้น  หนี้เงินไม่ใช่หนี้ชีวิต ไม่ต้องเอาชีวิตไปใช้หนี้ใคร..?” ระบุว่า อัยการมีวิธี…แก้ปัญหาชีวิต มาคิดยาว..กับอัยการชีวิตยังไปต่อได้เสมอ ปัญหาหนี้สินเครียด ไม่มีทางออก อย่าคิดสั้น อัยการมีวิธีหาทางออกให้ถูกกฎหมาย ต่อให้ล้มละลาย..ชีวิตก็ยังไปต่อได้

โปรดไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย มีทุกจังหวัด 117 สาขาวันเสาร์ก็ไปได้ สายด่วน 1157 อัยการจะบอกวิธีแก้ปัญหาชีวิตจากหนี้สิน อัยการช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนมาแล้วมากมาย มาหาอัยการจะมองเห็นทางออกชีวิตไม่มีทางตัน ชีวิตไปต่อได้เสมอ มาสู้ชีวิต ๆต้องสู้…อัยการจะอยู่เคียงข้างประชาชน ก่อนตัดสินใจคิดสั้นโปรดมาพบอัยการก่อนครับ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2566 เพื่อตั้งจิตอธิษฐานระลึกถึงเทพยดาฟ้าดิน และหลวงปู่ไต้ฮง ให้ตนเอง และครอบครัว รวมถึงประเทศชาติ อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัย เฮงๆ ตลอดปีกระต่ายทอง

วานนี้ (วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 23.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ  คณะผู้ช่วยกรรมการ คณะผู้บริหาร อาสาสมัคร รวมทั้งศิษยานุศิษย์ และสาธุชนจำนวนมาก ร่วมในพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์ เพื่อตั้งจิตอธิษฐานเทพยดาฟ้าดิน (เจ้าแห่งสวรรค์) และหลวงปู่ไต้ฮง ช่วยดลบันดาลให้ประสบโชคดีตลอดปีใหม่ พร้อมกับสรรเสริญและขอพรจากเทพเจ้า ให้ตนเอง และครอบครัว รวมถึงประเทศชาติ อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัย เฮงๆ ตลอดปีกระต่ายทอง ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย

'พิธีเวียนธูป' เนื่องในเทศกาลตรุษจีนนั้น เป็นพิธีที่สำคัญพิธีหนึ่ง จัดขึ้นในวันประสูติของเทพยดาฟ้าดิน (ทีกงแซ) เจ้าแห่งสวรรค์อันเป็นที่เคารพกันทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับชาวจีนแล้ว ท่านเป็นเทพเจ้าที่ต้องให้ความเคารพอย่างสูงเหมือนกันหมด และเพื่อเป็นสัญญาณว่าได้สิ้นสุดงานเทศกาลตรุษจีนแล้ว โดยทำพิธีเวียนธูปรอบศาลเจ้า 3 รอบ ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกพระคุณเทพยดาฟ้าดิน ขออำนาจฟ้าดินเป็นที่พึ่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ เช่น หลวงปู่ไต้ฮง ช่วยดลบันดาลให้ประสบโชคดีตลอดปีใหม่ พร้อมกับสรรเสริญและขอพรจากเทพเจ้า เพื่อทำให้จิตใจเบิกบาน ผ่องแผ้ว และเริ่มต้นวันปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนอย่างมีความสุข และเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรระบาดหนัก ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อหลังจากที่เคยออกมาเตือนแล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย กรณียังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ดังนี้

ตามที่ บช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ส่งข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์ไปหลอกลวงประชาชน หลอกให้กดลิงก์แอดไลน์ของกรมสรรพากรปลอม แล้วส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันกรมสรรพากรปลอมซึ่งแฝงมากับมัลแวร์ (Malware) หรือโปรแกรมประสงค์ร้ายที่ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อทำอันตรายกับข้อมูลในระบบ เช่น ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ทำงานผิดปกติ ขโมยหรือทำลายข้อมูล หรืออาจจะเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาควบคุมโทรศัพท์ของเราได้ รวมไปถึงหลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน โดยมิจฉาชีพมักจะอ้างว่าจะขอทำการตรวจสอบรายได้ของท่าน หรือเป็นการแจ้งเตือนให้ชำระภาษี หรือให้ทำการยกเลิกเสียภาษีจากโครงการของรัฐบาล หรืออ้างว่าสามารถช่วยเหลือไม่ให้เสียภาษีย้อนหลังได้ ผ่านแอปพลิเคชันกรมสรรพากรปลอมดังกล่าว

แต่ในปัจจุบันยังคงพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันของกรมสรรพากรปลอม แล้วถูกมิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชีเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีเจ้าของร้านขายของชำถูกมิจฉาชีพ หลอกติดตั้งแอปพลิเคชันสรรพากร ให้ยกเลิกถุงเงิน และให้เสียภาษีย้อนหลัง สูญเงินกว่า 1.6 ล้านบาท หรือกรณีสามีภรรยาถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน อ้างว่าให้ยกเลิกภาษีในโครงการคนละครึ่ง สูญเสียเงินเก็บก้อนสุดท้ายกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

จากสวนป่าธรรมดา สู่ ‘สวนสาธารณะเพื่อปวงประชา’ ที่คนคิดต้องผสาน 'ประโยชน์-ประหยัด-เรียบง่าย' ไว้ด้วยกัน

เมื่อไม่นานมานี้ ‘สวนป่าเบญจกิติ’ สวนสาธารณะกลางกรุงเทพฯ ได้ตกเป็นประเด็นดรามาของคนในสังคมออนไลน์ เนื่องจากมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์รูปภาพและระบุว่า สวนป่าแห่งนี้ทรุดโทรม ไม่ได้รับการดูแล ต้นไม้ใบหญ้าแห้งเหี่ยวเฉาตาย แถมส่วนที่เป็นแหล่งน้ำก็ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งจนคนที่มาเยี่ยมชมเบือนหน้าหนี 

หลังจากนั้นก็มีหลายๆ ฝ่ายได้ออกมาแสดงความคิดเห็น มีทั้งแนะนำ อธิบาย วิเคราะห์ รวมไปถึงติติง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่ออยากให้สวนป่ากลางกรุงเทพแห่งนี้ เป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม และสร้างคุณประโยชน์ให้กับคนกรุงอย่างแท้จริงไม่ใช่สวนที่สร้างขึ้นมา แต่ไม่ได้รับการดูแลรักษา และรอวันถูกลืมไปจากความทรงจำของคนในเมืองหลวง

จากประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น ทาง THE STATES TIMES ก็ได้ไปเสาะหาความเป็นมาและแนวคิดการสร้างสวนป่าเบญจกิติ โดยบทความนี้ขออ้างอิงวิดีโอของช่อง ‘Gapthanavate’ โดยเจ้าของช่องคือ ‘ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล’ หรือ ‘แก๊ป’ ที่ได้พูดคุยกับ ‘ชัชนิล ซัง’ หรือ ‘ทิป’ สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ หนึ่งในทีมงานออกแบบสวนป่าเบญจกิติในระยะที่ 2-3 ที่เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2565

ซึ่งเนื้อหาภายในวิดีโอนี้สามารถอธิบายความเป็นมา แนวคิดและวัตถุประสงค์ของสวนนี้ได้ครบถ้วน

จุดเริ่มต้นของสวนป่าเบญจกิติ เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘มีประโยชน์ ประหยัด และเรียบง่าย’ และคงเดิมอาคารไว้ 2 จุดคือ ‘อาคารผลิต’ ของโรงงานยาสูบ เพื่อปรับเป็นพิพิธภัณฑ์ และอาคารกีฬา แน่นอว่าเมื่อเป็นสวนป่า ก็ต้องมีน้ำเป็นองค์ประกอบ เพราะน้ำคือชีวิต ซึ่งได้แนวคิดมาจากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่ทรงกล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”

ภายในสวนป่าแห่งนี้ มีต้นกล้าของพืชพันธุ์และไม้หายากมากถึง 350 ชนิด จึงเลือกใช้ไม้กล้าที่เป็นพืชพันธุ์หายาก ที่ต้องมีการเพาะเมล็ดจากต้นแม่ที่อยู่ในป่า มาทำการเพาะเลี้ยงเอง เพราะจุดประสงค์หลักคือต้องการเพิ่มพื้นที่ ไม่ใช่ย้ายพื้นที่ และสวนป่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นป่าชุ่มน้ำ หรือป่าชายน้ำ เพราะกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีน้ำใต้ดินสูง

ด้านงานออกแบบ สวนเบญฯ แบ่งออกเป็น 6 โซน
1.) Constructed wetland : ระบบบำบัดน้ำเสีย
2.) อาคารโกดังกีฬา เป็นพื้นที่สำหรับกีฬาในร่ม สำหรับใช้สอยในด้านกีฬาในอนาคต ถัดมาจะเป็นบ่อน้ำที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับโกดัง จะเป็นบ่อที่มีพืชพันธุ์จากป่าชายเลน มีหน้าที่ช่วยในการบำบัดน้ำ 
3.) บ่อน้ำที่ 2 จะเป็นบ่อที่มีพืชพันธุ์จากบึงป่าน้ำจืด มีพืชชนิดไคร้ย้อย จิกน้ำ พุทธรักษา เป็นต้น
4.) บ่อน้ำที่ 3 จะเป็นบ่อที่มีพืชพันธุ์จากป่าดิบแล้ง หรือป่าดิบลุ่มต่ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะมีสกายวอล์ค และอัฒจันทร์กลางแจ้งให้ทุกคนได้มาใช้ประโยชน์
5.) บ่อน้ำที่ 4 จะเป็นบ่อที่มีพืชพันธุ์เกี่ยวกับวรรณะเกษตร สวนบ้าน มีพืชพันธุ์ชนิดมะกอกน้ำ สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตของคน ซึ่งจะมีพืชที่สามารถนำมารับประทานได้ 
6.) อาคารพิพิธภัณฑ์ จะมีกิจกรรม และจัดให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ ซึ่งจะมีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบต่อในอนาคต

ตัวสวนจะมีลักษณะเป็นบ่อ ๆ ไป และในแต่ละบ่อจะมีกองเนิน ซึ่งประโยชน์สำคัญหลัก ๆ ของพื้นที่ตรงนี้ คือ การเป็นที่กักเก็บน้ำ ที่ใช้สำหรับรดน้ำต้นไม้ และยังสามารถทำการหน่วงน้ำได้ เมื่อมีฝนตกหนัก หรือเกิดน้ำท่วม พื้นที่ตรงนี้สามารถรองรับน้ำไว้ให้ได้ เพื่อชะลอน้ำที่อาจเข้าท่วมเสียหาย และลดระยะการท่วมขังพื้นที่บ้านเรือนในชุมชนละแวกใกล้เคียง

เมื่อมองภาพทั้งสวนจะเห็นได้ว่า แต่ละโซนจะเป็นบ่อน้ำเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของตัวต้นไม้และพืชพันธุ์ จากที่ได้บอกไปว่า บ่อที่ 1 จะมีพืชพันธุ์จากป่าชายเลน ทนน้ำกร่อยได้มาก เช่น ต้นแสม ต้นปรงไข่ ซึ่งจะทนต่อความเค็ม เนื่องจากน้ำจากคลองไผ่สิงห์โต ในบางช่วงจะเป็นน้ำกร่อย ดังนั้น

บ่อที่ 1 จึงเปรียบเสมือนด่านหน้า
บ่อที่ 2 ซึ่งมีพืชพันธุ์จากบึงป่าน้ำจืด เช่น ไคร้ย้อย จิกน้ำ ซึ่งจะมีลำต้นที่มีความเป็นธรรมชาติ 
บ่อที่ 3 จะมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีต้นจามจุรี รวมถึงอัฒจันทร์กลางแจ้ง จะมีพันธุ์ไม้จากป่าดิบลุ่มต่ำ เช่น ต้นยางนา ส่วนพืชพันธุ์ ต้นไม้ในบ่อน้ำ ได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร่ และต้นกร่าง ซึ่งในส่วนของพื้นที่ตรงนี้ ยังเป็นที่ให้อาหารของนกอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่ผู้คนแวะเวียนมาถ่ายรูปมากที่สุดของสวน

ในส่วนของงานดีไซน์ ทางสวนมีทั้งส่วนที่มีพื้นที่ให้คนได้ใช้ทำกิจกรรมในหลายระดับ โดยจะแบ่งเป็นระดับล่างคือ ‘ทางวิ่งจักรยาน’ ซึ่งในอนาคตหากดำเนินการจนแล้วเสร็จจะมีระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร ระดับต่อมาคือ ‘ทางวิ่ง’ หรือ Jogging track ซึ่งจะเป็นทางที่เชื่อมกับทุกบ่อในสวน ขณะวิ่งจะสามารถชมธรรมชาติของทุกบ่อได้ ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งออกกำลังกาย เนื่องจากมีต้นไม้ให้ร่มเงาบังแดด ทำให้ไม่ร้อน 

ถัดมาคือ ‘เส้นบอร์ดวอล์ค’ ซึ่งจะมีความแคบกว่าทางเดินในส่วนอื่น ๆ มีความกว้างเพียง 1.5 เมตร และมีเส้นทางที่คดเคี้ยวมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นการตั้งใจของทีมออกแบบ ที่ต้องการให้มนุษย์และธรรมชาติเกิดการเชื่อมต่อกัน เพราะเนื่องจากจุดนี้ เป็นจุดที่มีสัตว์มาอาศัย มีธรรมชาติ และมนุษย์ จึงออกแบบเส้นทางให้มีความคดเคี้ยว เพื่อลดความเร็วในการเดิน เพื่อให้ทุกคนได้ค่อย ๆ สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ อีกเส้นทางหนึ่ง คือ ‘สกายวอล์ค’ เกิดจากความตั้งใจที่การจะเชื่อมระหว่างเมืองกับสวน ทำหน้าที่คอยพาคนจากอีกด้านหนึ่งมาสู่อีกด้านหนึ่ง โดยผ่านบรรยากาศในสวนทั้งหมด

ลุงวัย 72 ปี เดินเก็บกวาดขยะตามริมแนวชายหาดกว่า 2 ปี บอก!! แค่อยากเห็นทะเลสะอาด นักท่องเที่ยวสบายใจ

ชื่นชมคุณลุงหัวใจรักทะเล วัย 72 ปี ถือไม้กวาดด้ามยาวคู่ใจเดินเก็บกวดขยะตามริมแนวชายหาดวังหนาวบีท ใน ต.นาทับ เป็นประจำทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำทำมา 2 ปี และทำด้วยใจไม่หวังค่าตอบแทนแค่อยากเห็นทะเลสะอาดนักท่องเที่ยวสบายใจ

(29 ม.ค.66) ที่ชายหาดวังหนาวบีท ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของอ.จะนะ จ.สงขลาและเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

มีคุณลุงคนหนึ่งชื่อว่า นายเถี้ยน แซ่ล้อ หรือลุงเถี้ยน วัย 72 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ต.นาทับ ได้ถือไม้กวาดด้ามยาวคู่ใจเดินเก็บกวาดขยะตามแนวชายหาดวังหนาวบีทเป็นประจำทุกวัน ซึ่งเป็นขยะทะเลที่ถูกลมคลื่นซัดมาขึ้นมาบนฝั่งเป็นจำนวนมาก

เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว เศษไม้และอุปกรณ์ทำการประมง จนทำให้ทั้งชาวบ้านนักท่องเที่ยวที่พบเห็นต่างชื่นชมคุณลุง บางคนก็เอาน้ำ เอาเงินยื่นให้คุณลุงอีกด้วยเพื่อเป็นน้ำใจในการทำความดี

จากการสอบถามชาวบ้านและลุงเอี้ยน เล่าว่า ทุก ๆ วันลุงเอี้ยนจะออกมาเดินเก็บกวาดขยะตามแนวชายหาดเป็นประจำทุกวัน เป็นภาพที่ชินตาของชาวบ้านแถวนั้น

ผบ.ตร.สั่งตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญา 4 ตำรวจเอี่ยวนำนักท่องเที่ยวจีน พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาสภาพปัญหา วางมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก วางกฎเหล็ก ให้ผู้บังคับบัญชาร่วมรับผิดด้วย

(29 ม.ค.66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฎคลิปภาพเคลื่อนไหวตามสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนที่มีข้าราชการตำรวจ อำนวยความสะดวก และใช้รถติดสัญญาณไฟวับวาบ นำนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  

โฆษก ตร. กล่าวว่า “หลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว1 จำนวน 2 นาย กองบังคับการตำรวจจราจร จำนวน 2 นาย  โดยได้ใช้รถส่วนตัวติดสัญญาณไฟวับวาบและเครื่องหมายโล่เขน 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดอาญาและมีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจต่างสังกัดกันร่วมกันกระทำความผิด 

ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ครบรอบปีที่ 65 และงานเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566

พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ครบรอบปีที่ 65 และงานเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566 

โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ ทั้งนี้ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ได้ร่วมในพิธีแสดงมุทิตาจิตแด่อดีตผู้บังคับบัญชา และครูอาจารย์ ณ โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถือเป็นสถาบันที่สร้างและหล่อหลอมนักเรียนเตรียมทหาร ให้มีความพร้อมทั้งจิตวิญญาณ ทัศนคติที่ดีของความเป็นทหาร ตำรวจ พร้อมเป็นกำลังที่สำคัญของกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการรักษาความมั่นคง และพัฒนาประเทศ ให้มีความมั่นคง พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566  ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

สำหรับ ‘รางวัลเกียรติยศจักรดาว’ ถือเป็นการเชิดชูและยกย่องศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหาร ที่มีความรู้ ความสามารถ และได้อุทิศกำลังกาย กำลังความคิด ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมให้เป็นที่ประจักษ์ แก่สาธารณชน และสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้แก่สถาบัน

'บิ๊กต่อ' ลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล ผนึกกำลังผู้ว่าศรีสะเกษ เดินหน้าสร้างชุมชนยั่งยืน

พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านหมู่บ้านภูมิซรอล ตรวจเยี่ยมและรับฟังการดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด 

(28 ม.ค.66) พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นาย สำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจตรี ลาภ ศรีสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยัง ศาลาประชาคมหมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังการดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ 

การลงพื้นที่ดังกล่าวสืบเนื่องจาก การดำเนินการโครงการชุมชนยั่งยืน ของตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษณ์ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และสามารถเป็นแบบอย่างให้กับพื้นที่อื่นในการดำเนินการได้ โดยมีจุดเด่นของการดำเนินการอยู่ที่ มีการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข โรงเรียน และชุมชน ในการลงพื้นที่เพื่อสแกนหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในตำบล รวมกว่า 13 หมู่บ้าน 3,000 กว่าครัวเรือน เพื่อนำตัวผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและส่งต่อความยั่งยืน

พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ฯ กล่าวว่า การดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนของ ตำบลเสาธงชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หมู่บ้านภูมิซรอล ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถที่จะค้นหาและนำตัวผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาจนหมด ทำให้ปัจจุบันไม่มีการรับแจ้งเหตุผู้ป่วยคลุ้มคลั่งที่มีอาการผิดปกติทางจิตอันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติด ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุร้ายหรือความหวาดกลัวภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อการป้องกันอาชญากรรมภายในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นนโยบายของ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกสถานีตำรวจ ดำเนินการ โดยจะเป็นการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment : CBTx) บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในชุมชน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และตัวชุมชนเอง เพื่อสร้างกลไกการบำบัดฟื้นฟูใกล้บ้านหรือภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนจากการบำบัดที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวและโลกภายนอก เป็นการเข้าบำบัดที่ศูนย์ในชุมชนแทน รวมถึงมีการจัดหาการเรียนการสอนทักษะอาชีพ เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้ เป็นการส่งต่อความยั่งยืนให้กับชุมชน 

“การดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืน เป็นการแก้ไขปัญยาเสพติดจากฐานรากของชุมชน ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ตลอดจนแกนนำหมู่บ้าน ชุมชน หากพบว่าในพื้นที่ชุมชนของท่าน มีผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอให้ท่านแจ้งข้อมูลมายังสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถลงไปร่วมกับชุมชน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืนต่อไป และเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับชุมชนอีกส่วนหนึ่งด้วย” พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ฯ กล่าว

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดกิจกรรม Langu Run 2023 เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (28 ม.ค. 66) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬาในกิจกรรมวิ่ง Langu Run 2023 โดยมีนายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ ส.ส.สตูล เขต 1 นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล เขต 2 นายจำรัส ฮ่องสาย นายก อบต.ละงู พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน คณะครู นักเรียน และประชาชนทั่วไป รวมจำนวนกว่า 500 คนเข้าร่วมกิจกรรม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

'กองทัพอากาศ' จัดการฝึกบินควบคุมไฟป่า ประจำปี 2566

กองทัพอากาศ จัดการฝึกบินควบคุมไฟป่า ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 23 - 27 มกราคม 2566 ณ พื้นที่กองบิน 46 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสนามฝึกทางยุทธวิธี ทภ.3 (บ้านด่าน) จังหวัดสุโขทัย โดยมี พลอากาศตรี วชิระพล เมืองน้อย ผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้ควบคุมการฝึกฯ สำหรับอากาศยานที่เข้าร่วมการฝึกบินควบคุมไฟป่าในครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) จากฝูงบิน 601 กองบิน 6, เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ก (BT-67) จากฝูงบิน 461 กองบิน 46 , เฮลิคอปเตอร์ค้นหาและช่วยชีวิตแบบที่ 11 (EC-725) จากฝูงบิน 203 กองบิน 2, เครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ (DA-42MPP) จากฝูงบิน 402 กองบิน 4 และอากาศยานไร้คนขับ (UAV) จากฝูงบิน 302 กองบิน 3 โดยการฝึกประกอบด้วย การฝึกแก้ปัญหาสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ (จำลอง) (TTX) และ การฝึกภาคอากาศ (FTX) การฝึกในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อดำรงขีดความสามารถ และทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติของหน่วยเกี่ยวข้อง ตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ โดยยึดหลักการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations : NCO) ในการฝึก รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถร่วมกับหน่วยงานภายนอกกองทัพอากาศ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของประเทศไทยในอนาคต ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้กองทัพอากาศได้เชิญผู้แทนจาก กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมการฝึกด้วย ภาวะไฟป่าและหมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี กองทัพอากาศจึงมีการเตรียมความพร้อมและร่วมการแก้ปัญหาร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และพร้อมระดมขีดความสามารถทุกด้าน ทั้งกำลังพล อากาศยาน ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี สนับสนุนทุกภารกิจเพื่อประชาชน 

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. เผย พร้อมหนุนทุกศาสนิกปฏิบัติตามความเชื่ออย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมชายแดนใต้

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสมาคมคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมุ่งเน้นสังคมที่หลากหลายทางวัฒนธรรมพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้า มีผู้เข้าร่วมในแต่ละพื้นที่ รวม 5,000 คน โดยวันนี้ (27 มกราคม 2566) จัดกิจกรรมขึ้น ณ หอประชุมมูลนิธิยะลาบำรุง ผดุงประชา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ และมีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญสำหรับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ ซึ่งเป็นประชากรที่สำคัญในการสร้างสันคมพหุวัฒนธรรมให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในวันนี้ ไม่มีสังคมใดในโลกที่จะเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนโดยคนเชื้อชาติเดียว วัฒนธรรมเดียว หรือความเชื้อเดียว โดยส่วนใหญ่เป็นสังคมที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ หากนำจุดแข็งของแต่ละเชื้อชาติมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม เชื่อว่า จะสามารถทำให้สังคมนั้นเจริญก้าวหน้าโดยเร็ว ทั้งนี้ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่กำกับดูแล จชต. ด้านการพัฒนา ได้ตระหนักถึงการดูแลประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เน้นจำนวนปริมาณว่าจะเป็นพี่น้องมุสลิม พุทธ หรือพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน และพร้อมสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกศาสนิกได้ปฏิบัติกิจตามความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนา ผ่านการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมอย่างเท่าเทียม ให้เกิดการยอมรับในอัตลักษณ์ ความแตกต่าง สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม 

 

สำหรับกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ร่วมกับ สมาคมคนไทยเชื้อสายจีน 3 จังหวัด จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น บำรุงขวัญ กำลังใจพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและศาสนิกอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อให้ผู้นำองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมพูดคุย สังสรรค์ สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ พร้อมหาแนวทางข้อเสนอแนะจากชาวไทยเชื้อสายจีนมาใช้ในการแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และไม่ให้ประชาชนละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด 

ฮูยา!! เปิดตัวเลือดใหม่นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล 'บิ๊กปาน' ประธานมอบปีกเชิดชูเกียรติรุ่นที่ 1

(28 ม.ค.66) พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม (บิ๊กปาน) อดีตโฆษกกองทัพเรือ เป็นประธานพิธีประดับเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล" และมอบใบประกาศนียบัตร ให้กับผู้สำเร็จหลักสูตรนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (RESCUE SWIMMER) ของชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (SEA RESCUE) 

โดยมี นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผอ.โรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ, เรือเอก ดร.ฐาพล สมสกุล ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล ผอ.หลักสูตรและอำนวยการฝึก คณะครูฝึก และนักเรียนผู้สำเร็จการฝึก พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธี ณ หอประชุม โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ กรุงเทพฯ

เรือเอก ดร.ฐาพล เปิดเผยถึงเจตนารมณ์ว่า เริ่มแรกต้องการช่วยบรรเทาภัยพิบัติทางน้ำทางทะเลที่มีความรุนแรงและมีความถี่ที่เพิ่มขึ้นภายใต้เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งจากคลื่นความร้อนสุดขั้ว การพังทะลายของระบบนิเวศปะการัง ระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 15% กระทั่งยกระดับกลายเป็นวิกฤติสภาพภูมิอากาศของโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือพายุ ได้สร้างความสูญเสียชีวิต เกิดความเสียหายมหาศาลที่ไม่อาจประเมินค่าหรือทดแทนได้ด้วยการชดเชยผลประโยชน์อื่นๆ จึงมีปณิธานก่อตั้งชมรมฯ และสร้างหลักสูตรเกี่ยวกับการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลขึ้น 

วัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้มีทักษะความเชี่ยวชาญ สามารถตอบโต้ต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลได้อย่างทันท่วงทีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) เพื่อให้ขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาทักษะการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้กับอาสาสมัครผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ที่มีทั้งข้าราชการพลเรือน ทหารเรือ ทหารบก ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิการกุศลหลายแห่ง ได้อุทิศตนเข้าร่วมการฝึกที่หนักหน่วงระหว่างวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ในพื้นที่การฝึกทั้งภาคบก และภาคทะเล ณ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนบรรลุเป้าหมายสำเร็จการฝึกเป็นรุ่นที่ 1 

"ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดการฝึกในรุ่นที่ 2 สร้างศักยภาพที่ต่อเนื่อง เบื้องต้นอาจเป็นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยนำร่องโมเดลจังหวัดชายทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นกำลังภาคจิตอาสาสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่น เสริมสร้างพื้นที่เศรษฐกิจชายทะเลที่เข้มแข็งเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวทะเลไทย" เรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวย้ำเป้าหมายต่อไป

ด้านเรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้กระทำคุณประโยชน์ที่ได้สนับสนุนหลักสูตรฯ โดยคณะกรรมการชมรมฯ ได้พิจารณามอบเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลกิตติมศักดิ์" และใบประกาศนียบัตร ให้ทุกท่านที่ผ่านการเลือกสรรจากการให้ความช่วยเหลือชมรมฯ ในด้านต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์และซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งในความเสียสละของท่าน และต้องขอขอบคุณข้าราชการจิตอาสา และอาสาสมัครทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกสังกัดที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมฝึกทักษะการกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำทางทะเลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่สำคัญเราทุกคนต้องช่วยกันกอบกู้วิกฤติสภาพภูมิอากาศในวันนี้เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัยและยั่งยืนของทุกคนในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top