Monday, 28 April 2025
NEWS

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. เผย พร้อมหนุนทุกศาสนิกปฏิบัติตามความเชื่ออย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมชายแดนใต้

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสมาคมคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมุ่งเน้นสังคมที่หลากหลายทางวัฒนธรรมพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้า มีผู้เข้าร่วมในแต่ละพื้นที่ รวม 5,000 คน โดยวันนี้ (27 มกราคม 2566) จัดกิจกรรมขึ้น ณ หอประชุมมูลนิธิยะลาบำรุง ผดุงประชา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ และมีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญสำหรับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ ซึ่งเป็นประชากรที่สำคัญในการสร้างสันคมพหุวัฒนธรรมให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในวันนี้ ไม่มีสังคมใดในโลกที่จะเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนโดยคนเชื้อชาติเดียว วัฒนธรรมเดียว หรือความเชื้อเดียว โดยส่วนใหญ่เป็นสังคมที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ หากนำจุดแข็งของแต่ละเชื้อชาติมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม เชื่อว่า จะสามารถทำให้สังคมนั้นเจริญก้าวหน้าโดยเร็ว ทั้งนี้ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่กำกับดูแล จชต. ด้านการพัฒนา ได้ตระหนักถึงการดูแลประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เน้นจำนวนปริมาณว่าจะเป็นพี่น้องมุสลิม พุทธ หรือพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน และพร้อมสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกศาสนิกได้ปฏิบัติกิจตามความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนา ผ่านการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมอย่างเท่าเทียม ให้เกิดการยอมรับในอัตลักษณ์ ความแตกต่าง สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม 

 

สำหรับกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ร่วมกับ สมาคมคนไทยเชื้อสายจีน 3 จังหวัด จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น บำรุงขวัญ กำลังใจพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและศาสนิกอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อให้ผู้นำองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมพูดคุย สังสรรค์ สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ พร้อมหาแนวทางข้อเสนอแนะจากชาวไทยเชื้อสายจีนมาใช้ในการแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และไม่ให้ประชาชนละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด 

ฮูยา!! เปิดตัวเลือดใหม่นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล 'บิ๊กปาน' ประธานมอบปีกเชิดชูเกียรติรุ่นที่ 1

(28 ม.ค.66) พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม (บิ๊กปาน) อดีตโฆษกกองทัพเรือ เป็นประธานพิธีประดับเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล" และมอบใบประกาศนียบัตร ให้กับผู้สำเร็จหลักสูตรนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (RESCUE SWIMMER) ของชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (SEA RESCUE) 

โดยมี นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผอ.โรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ, เรือเอก ดร.ฐาพล สมสกุล ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล ผอ.หลักสูตรและอำนวยการฝึก คณะครูฝึก และนักเรียนผู้สำเร็จการฝึก พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธี ณ หอประชุม โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ กรุงเทพฯ

เรือเอก ดร.ฐาพล เปิดเผยถึงเจตนารมณ์ว่า เริ่มแรกต้องการช่วยบรรเทาภัยพิบัติทางน้ำทางทะเลที่มีความรุนแรงและมีความถี่ที่เพิ่มขึ้นภายใต้เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งจากคลื่นความร้อนสุดขั้ว การพังทะลายของระบบนิเวศปะการัง ระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 15% กระทั่งยกระดับกลายเป็นวิกฤติสภาพภูมิอากาศของโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือพายุ ได้สร้างความสูญเสียชีวิต เกิดความเสียหายมหาศาลที่ไม่อาจประเมินค่าหรือทดแทนได้ด้วยการชดเชยผลประโยชน์อื่นๆ จึงมีปณิธานก่อตั้งชมรมฯ และสร้างหลักสูตรเกี่ยวกับการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลขึ้น 

วัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้มีทักษะความเชี่ยวชาญ สามารถตอบโต้ต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลได้อย่างทันท่วงทีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) เพื่อให้ขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาทักษะการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้กับอาสาสมัครผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ที่มีทั้งข้าราชการพลเรือน ทหารเรือ ทหารบก ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิการกุศลหลายแห่ง ได้อุทิศตนเข้าร่วมการฝึกที่หนักหน่วงระหว่างวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ในพื้นที่การฝึกทั้งภาคบก และภาคทะเล ณ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนบรรลุเป้าหมายสำเร็จการฝึกเป็นรุ่นที่ 1 

"ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดการฝึกในรุ่นที่ 2 สร้างศักยภาพที่ต่อเนื่อง เบื้องต้นอาจเป็นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยนำร่องโมเดลจังหวัดชายทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นกำลังภาคจิตอาสาสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่น เสริมสร้างพื้นที่เศรษฐกิจชายทะเลที่เข้มแข็งเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวทะเลไทย" เรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวย้ำเป้าหมายต่อไป

ด้านเรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้กระทำคุณประโยชน์ที่ได้สนับสนุนหลักสูตรฯ โดยคณะกรรมการชมรมฯ ได้พิจารณามอบเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลกิตติมศักดิ์" และใบประกาศนียบัตร ให้ทุกท่านที่ผ่านการเลือกสรรจากการให้ความช่วยเหลือชมรมฯ ในด้านต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์และซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งในความเสียสละของท่าน และต้องขอขอบคุณข้าราชการจิตอาสา และอาสาสมัครทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกสังกัดที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมฝึกทักษะการกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำทางทะเลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่สำคัญเราทุกคนต้องช่วยกันกอบกู้วิกฤติสภาพภูมิอากาศในวันนี้เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัยและยั่งยืนของทุกคนในอนาคต

ผบ.ตร.สั่ง น 1 ส่งทีมสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวัน

ผบ.ตร.สั่ง น 1 ส่งทีมสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวัน เร่งทำความจริงให้ปรากฎ ยืนยันไม่เข้าข้างใคร ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย  

วันที่ 28 ม.ค.2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงประเด็น นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจเรียกรับเงิน ว่า "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ติดตามให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มาโดยตลอด สั่งกำชับให้ตำรวจดำเนินการตรงไปตรงมา โดยวันนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการเพิ่มเติมไปยังผู้บัญชาการกอตำรวจนครบาล ให้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนนครบาล (บก.สส.) ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวันเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ทุกประเด็น"

ผบ.ตร.ติวเข้มทุกหน่วย ติดตามบริษัทจำหน่ายสลากออนไลน์ พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มผิดกฎหมาย เตรียมแจ้งข้อหาทันที

ผบ.ตร.ติวเข้มทุกหน่วย ติดตามบริษัทจำหน่ายสลากออนไลน์ พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มผิดกฎหมาย เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงิน การพนัน และจำหน่ายสลากให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี ชงศาลเสนอสั่งปิดแพลตฟอร์ม สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการปกครอง กรมสรรพากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยหน่วยงานตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

สำหรับการประชุมฯ เป็นการประชุมเพื่อติดตามและเร่งรัดการดำเนินการของหน่วยต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ตามนโยบายของรัฐบาล

ที่ประชุมได้รายงานผลการปฏิบัติ การดำเนินการกรณี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้าร้องทุกข์กับชุดปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดีกับบริษัทล็อตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) จนต่อมาทุกหน่วยได้บูรณาการเข้าตรวจค้นกองสลากพลัส เมื่อวันที่ 16 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ตรวจพบสลากขายเกินราคา 70 ฉบับ อายัดฉลากงวด 17 ม.ค. 66 เพื่อตรวจสอบ และมีการดำเนินคดีความผิดฐานจำหน่ายสลากเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนดและความผิดฐานประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดตรงโดยไม่จดทะเบียน ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งได้ช่วงกลางเดือน ก.พ.66

จากผลการตรวจสอบรายชื่อผู้ซื้อสลากจากกองสลากพลัส เพียง 2 งวด คือ งวด 16 มี.ค.65 และ งวด 1 เม.ย.65 มีการโอนซื้อกว่า 1.6 แสนราย พบว่า มีการขายสลากเกินราคา 4,214 ราย มีการจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 20 ราย โดยมีเด็กอายุ 8 ปี รวมอยู่ด้วย 

ผบ.ตร.จึงสั่งให้ตรวจสอบโดยละเอียดตั้งแต่ 1 มี.ค.2565 ถึงปัจจุบัน และเร่งให้ตรวจสอบดำเนินการทุกพื้นที่ พร้อมให้รวบรวมข้อมูลการขายสลากเกินราคา ซึ่งมีผู้ซื้อจำนวนมาก ถือเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก ประกอบกับข้อมูลผู้ซื้อสลากมีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นการมอมเมาเยาวชน ส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัสต่อไป

ทั้งนี้ จากการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน แล้วรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ พบว่าการทำธุรกิจในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดกฎหมายหลายข้อหา ที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ในข้อหาขายสลากเกินราคา ตาม พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลฯ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงฯ คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน 

ในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ปปง. รายงานพบพยานหลักฐานไปเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน ทั้งการพนันออนไลน์ และยาเสพติด จำนวนหลายล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมทั้งกรมการปกครองพิจารณาว่าเป็นความผิดตาม พรบ.การพนัน ในเรื่องภาษี กรมสรรพากร อยู่ระหว่างตรวจสอบ หากดำเนินการไม่ถูกต้อง จะดำเนินการเรื่องการเสียภาษีไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ส่วน กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลขอคุ้มครองชั่วคราวโดยการระงับการเผยแพร่แล้ว

Elie Saab แบรนด์ห้องเสื้อดัง เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ 'รุ่งอรุณสีทอง' แรงบันดาลใจที่มาจากความเป็นไทย

ทำเอาวงการแฟชั่นทั่วโลกฮือฮาไม่น้อย เมื่องาน Paris Fashion Week 2023 ในครั้งนี้ เกิดเสียงชื่นชมอย่างมาก หลังจาก Elie Saab แบรนด์ห้องเสื้อชื่อดังจากฝรั่งเศส ได้ออกคอลเลกชันใหม่โอกูตูร์ ประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิ 2023 ที่ทำออกมาได้สวยสง่า สะดุดตาทุกผู้พบเห็น เพราะได้รับบันดาลใจมาจากเมืองไทย พร้อมตั้งชื่ออันเป็นมงคลด้วยว่า 'รุ่งอรุณสีทอง' (The Golden Dawn)

สำหรับที่มาของแรงบันดาลใจในคอลเลกชันใหม่นี้ ทางคุณโจ มณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรการเงิน ได้โพสต์อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยว่า...

พี่โจไปพบบทความ WOMEN WEAR DAILY ที่เพิ่มข้อมูลอันน่าตื่นตาตื่นใจ ของแรงบันดาลใจที่ทำให้ยอดดีไซเนอร์โลกออกแบบแฟชั่นชุดสปริงซัมเมอร์ The Golden Dawn ว่ามาจากชุดไทยในปี 1964 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ของเราเองค่ะ

และหลายชุดในคอลเลกชันได้แรงบันดาลใจจากพญานาค ที่เป็น The legendary Naga Dragon สัตว์ในตำนานของ #ประเทศไทย

UPDATE พี่โจลืมบอก คุณ ES บอกว่าแรงบันดาลใจจากประเทศไทยเพราะเขาชื่นชอบความ ROYAL REGAL MAJESTIC จึงอยากสื่อออกมาในชุด

(3 คำ คือ ราชวงศ์ เจ้า และหรูหราสง่างามเยี่ยงเชื้อพระวงศ์ ก็แปลว่า ผู้ออกแบบเชื่อมโยงไทยกับความงามวิไล ยิ่งใหญ่แบบเจ้าราชวงศ์นั่นเองค่ะ)

อ่านลิงก์เต็มได้ที่นี่ >> https://wwd.com/runway/spring-couture-2023/paris/elie-saab/review/?fbclid=IwAR0uc5Dim3E2OlLn5bgUS2BNAPnP_rOtPIw4etf3_X9e0KHVKKSfdC_Mk4M&mibextid=Zxz2cZ

ชมภาพทุกชุด ขั้นตอนตัดเย็บ พร้อมวิดิโอโชว์เต็มๆได้ที่นี่ >> https://us.eliesaab.com/collections/haute-couture-spring-summer-2023

สวนนงนุชพัทยาจัดโปรโมชันต้อนรับเดือนแห่งความรักมา 4 จ่าย 2 พิเศษสุดท่านที่ 5 ขึ้นไป ลด 50%

สวนนงนุชพัทยา นำโดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยาประกาศโปรโมชันพิเศษ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรัก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มา 4 ท่านจ่ายแค่เพียง 2 ท่าน เฉพาะซื้อบัตรผ่านประตูเท่านั้น พิเศษสุดสำหรับคนที่ 5 ขึ้นไปซื้อบัตรผ่านประตูลด 50% โปรโมชันนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2566

ส่วนท่านที่สนใจเข้าชมการแสดงนงนุชโชว์ และการแสดงช้างแสนรู้ สามารถซื้อบัตรเพิ่มในราคา 100 บาทต่อท่านโดยเปิดให้ชมวันละ 3 รอบ รอบเช้า 10.30 น. รอบบ่าย 13.30 และ 15.00 น. สำหรับเด็กๆ ที่มากับครอบครัวสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าชมสวนฟรีทุกวัน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์ 

Tham Luang Rescue : Power of Unity สุดยอด!! คว้าอีกรางวัลใหญ่จากเทศกาลหนังที่แคลิฟอร์เนีย

ไม่นานมานี้ คุณศศิวิมล อยู่คงแก้ว ภริยาของ พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (หรือหน่วยซีล) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้มีบทบาทหน้าที่สำคัญในภารกิจพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Sasivimon Youkongkaew' ข้อความว่า...

ได้อีก 1 รางวัลค่ะ

เมื่อเช้าตรู่วันนี้ (27 ม.ค.66) มีการประกาศผลรางวัลของงานเทศกาลหนัง The Impact DOCS Awards เป็นงานเทศกาลหนังที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สารคดี Tham Luang Rescue : Power of Unity ได้รับรางวัลประเภท Award of Recognition : Documentary Feature 

We believe in the power of film to IMPACT the world and documentary filmmakers are often on the leading edge of global change by shifting perceptions, behavior and habits of the viewers. It takes great talent to entertain viewers with subject that are real. : #theimpactdocsawards

สำหรับ 'รวมพลังกู้ภัยถ้ำหลวง Tham Luang Rescue : Power of Unity (2022)' เป็นสารคดีที่ได้รวบรวมฟุตเทจจาก มูลนิธินักทำลายใต้น้ำจู่โจม ซึ่งยังไม่เคยถูกเปิดเผย โดยอยู่ภายใต้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หนึ่งในทีมปฎิบัติหน้างานในเหตุการณ์ถ้ำหลวง ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของ สารคดี ร่วมผลิตโดยช่อง thaipbs ประกอบด้วยทั้งหมด 4 ตอน ได้แก่...

1. กลับบ้านเถอะลูก

2. ​ภารกิจไม่สำเร็จ เราไม่พบ เราไม่เลิก

3. สร้างขวัญ ปลุกกำลังใจ

4. We are a team

ผู้สนใจสามารถรับชมได้ทาง >> https://program.thaipbs.or.th/ThamLuang/episodes

ผลสำรวจ 10 อันดับองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566

WorkVenture ที่ปรึกษาและผู้นำด้านการสร้างแบรนด์นายจ้างและโซลูชันแบบครบวงจรจของเมืองไทย ได้จัดงาน Top 50 Companies in Thailand 2023 Awards เผยผลสำรวจองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด โดย 10 อันดับแรก มีดังนี้...

1. กูเกิล ประเทศไทย

2. ไลน์

3. ปูนซิเมนต์ไทย

4. ปตท.

5. แอปเปิ้ล

6. อโกด้า

7. กลุ่มมิตรผล

8. โตโยต้า มอเตอร์

9. ไทยเบฟ

10. กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี

ค่าจอดรถภายใน 'สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์' แพงไหม? ชั่วโมงละ 20 บาท วันละ 250 บาท เดือนละ 2,000 บาท

(27 ม.ค.66) เพจ 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ค่าจอดรถ ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ชั่วโมงละ 20 บาท วันละ 250 บาท เดือนละ 2,000 บาท แพงจริงมั้ย??? มาลองเทียบกัน

หลังจากที่มีข่าวการเปิดราคา ค่าจอดรถภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งล่าสุดผมเองก็เห็นป้ายที่ติดประกาศอยู่ในสถานี โดยแบ่งเป็น 3 เรทราคา คือ...

- รายชั่วโมง ชั่วโมงละ 20 บาท

- รายวัน วันละ 250 บาท

- รายเดือน เดือนละ 2,000 บาท (ต้องลงทะเบียน)

ทำให้มีกระแสดราม่าจากในหลายๆ สื่อ และหลายกลุ่ม มาแสดงความคิดเห็นว่าค่าจอดรถใน สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แพงเกินไป…บางคนลามไปถึงจอดรถรายวันเกือบเท่าค่าแรงขั้นต่ำ

ผมเองก็สงสัยว่ามันแพงจริงมั้ย ผมเลยลองไปเปรียบเทียบกับค่าจอดรถ ของระบบ ขนส่งมวลชนอื่นๆ ว่าราคาเท่าไหร่กัน ตั้งแต่ สนามบิน, อาคารจอดแล้วจร ของ MRT และลานจอดรถของสถานีรถไฟหัวลําโพง

—————————

มาลองเทียบค่าจอดรถกันดู…

เริ่มต้นกันที่สนามบิน...

- สนามบินดอนเมือง 

1. อาคารจอดรถทั่วไป เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

2. บริการ valet Parking เริ่มต้น 4 ชั่วโมงแรก 150 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

- สนามบินสุวรรณภูมิ

1. อาคารจอดรถทั่วไป เริ่มต้นชั่วโมงละ 25 บาท รายวัน วันละ 250 บาท

2. ลานจอดรถระยะไกล (ห่างจากอาคารผู้โดยสาร 2 กิโลเมตร) เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท รายวัน วันละ 140 บาท

อาคารจอดแล้วจร และลานจอดรถ MRT

- อาคารและลานจอดในโซนเมือง (ศูนย์วัฒนธรรม,ลาดพร้าว และลานจอดรถสถานีอื่นๆ) เริ่มต้นชั่วโมงละ 15 บาท (สำหรับผู้โดยสาร MRT และ 50 บาท (สำหรับบุคคลทั่วไป) รายเดือน เดือนละ 2,000 บาท

- อาคารนอกโซนเมือง (หลักสอง) เริ่มต้นชั่วโมงละ 10 บาท (สำหรับผู้โดยสาร MRT) และ 20 บาท (สำหรับบุคคลทั่วไป) รายเดือน เดือนละ 1,000 บาท

สำคัญที่สุด สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

- เริ่มต้นชั่วโมงละ 20 บาท 

- 10 ชั่วโมงขึ้นไป เหมาจ่ายรายวัน วันละ 300 บาท

—————————

ซึ่งถ้าเทียบแบบนี้ ผมว่าค่าจอดรถของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ราคาเหมาะสม 

ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับคนเดินทางและเชื่อมต่อ และไม่ถูกเกินที่จะให้คนเอารถมาจอดทิ้งไว้จนทำให้เป็นภาระของสถานี (เหมือนกับมักกะสันในอดีต) 

แล้วอย่าลืมว่าปกติผู้โดยสารรถไฟไม่ได้เช้าไป-เย็นกลับ แบบการเดินทาง ทางเครื่องบิน (ผมก็เอารถไปจอดสนามบินบ่อย) ยกเว้นคนจะมาจอดเพื่อเดินทางต่อไปสนามบินดอนเมือง ซึ่งก็มีที่จอดสะดวกกว่าตัวสนามบิน (ลานจอดรถเต็มตั้งแต่ 7 โมงเช้า)

'ยูเนสโก' ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ยูเนสโก ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก ด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโกด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม (UNESCO Goodwill Ambassador for the Empowerment of Minority Children and the Preservation of their Intangible Cultural Heritage) แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2548 

ทั้งนี้ ยูเนสโกได้เล็งเห็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวง ที่ได้ทรงงานเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาศักยภาพเด็กด้อยโอกาสที่อยู่ห่างไกลทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่มากว่า 40 ปีก่อนที่องค์การยูเนสโกจะทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งดังกล่าว และยังคงทรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยวาระการดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีองค์การยูเนสโกของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมัยปัจจุบันได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 องค์การยูเนสโกจึงกราบบังคมทูลต่ออายุวาระในการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 2 ปี

แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา จ.ชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา จ.ชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข เน้นย้ำ ใกล้ถึงถึงเดือนศีลอด ขอทุกฝ่ายจับมือ “รอมฎอนสันติ” ไม่เกิดเหตุรุนแรง เดือนอันประเสริฐ

ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จัดกิจกรรม “พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อชี้แจงนโยบาย รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอ ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน โดยมี พลโท อุทิศ อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล) และ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนระดับอำเภอ 37 อำเภอ (3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา) เข้าร่วมฯ

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ ได้ให้การต้อนรับ คณะจากมูลนิธิประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย นายอับดุลรอนิง ดิงสาแม (เจะฆูรอนิง) รองประธานมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะพูดคุยหารือสร้างการมีส่วนร่วมในแนวทางการป้องกันและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนประสานความร่วมมือขยายโอกาสทางการศึกษาทั้ง 5 จังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดการหนุนเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า "จากการปฎิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ผ่านมานั้น ได้ปฏิบัติงานตามกรอบนโยบายของรัฐ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้าใจถึงแนวนโยบายแห่งรัฐและลดปัญหาความไม่เข้าใจในการดำเนินงานของภาครัฐในพื้นที่ รวมถึงการสานสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่ควบคู่กันไป ทั้งนี้ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่นั้น หากจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอกจากจะให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้ว จะให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้วยเช่นกัน เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเยาวชนทุกคน อยากเห็นสถานศึกษาได้เปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถในการพูด และสอดแทรกวิชาการพูด การใช้ภาษาให้ถูกต้อง"

สำหรับกิจกรรม "พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้" นั้น กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝัง อบรม สั่งสอนเยาวชนของชาติ เพื่อให้น้องๆ เยาวชนเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้รับทราบนโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อวางกรอบนโยบายด้านการศึกษาให้สามารถดำเนินการคู่ขนานกับงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็น ปัญหา และข้อเสนอแนะ ที่ต้องการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สนับสนุนแก้ไขปัญหาจากผู้บริหารสถานศึกษา ทุกระดับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน อันเป็นการขับเคลื่อนงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคีของชุมชนและสังคม อันเป็นการร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด หรือเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม และมุสลิมทั่วโลก ที่ชาวมุลิมต้องถือศิลอด อีกประมาณ 1 เดือนเศษ อยากให้ทุกฝ่าย จับมือกันและคิด สร้างสภาวะแวดล้อม สร้างความสงบสุข 

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว ผบ.ตร.รับรางวัลสาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

(27 ม.ค. 66) ณ โรงเรียนเตรียมทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566 จำนวน 11 ราย โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

นอกจากนี้ยังมีข้าราชการตำรวจได้รับรางวัลอีก 2 ราย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. นตท. รุ่นที่ 25 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาพัฒนาสังคม และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. นตท.รุ่นที่ 32 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

‘นันทิวัฒน์’ โพสต์เดือด!! จี้ ‘ผู้บริหารจุฬาฯ’ ลาออก หลังปล่อยนิสิตย่ำยี ‘พระเกี้ยว’ เหมือนของข้างถนน

(27 ม.ค. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในฐานะนิสิตเก่าจุฬา รุ่นปี 2512 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Nantiwat Samart’ แสดงความคิดเห็นกรณีมีนักศึกษารายหนึ่งย่ำยีพระเกี้ยวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย โดยนำมาจัดใส่พานนำไปวางที่บันได และโรยอาหารสุนัขรอบ ๆ

นายนันทิวัฒน์ ระบุว่า "ลาออกดีกว่าไหม? นิสิตจุฬาที่เอาสัญลักษณ์ของสถาบันฯ พระเกี้ยวซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ทีได้รับพระราชทาน มาเล่นเป็นของต่ำข้างถนน โดยอ้างว่าทำงานศิลปะ มันเป็นศิลปะตรงไหน แต่มันคือการเปลือยตัวเองล่อนจ้อน มันคือความพยายามในการดึงของสูงมาเล่น มันคือการแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯ คนที่ไม่มีความรัก ไม่เคารพสถาบันที่ตัวเองศึกษา ไม่รับนับถือในประเพณี ต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่คนส่วนมากให้การยอมรับ โดยอ้างเสรีภาพ กฎระเบียบของสังคมไม่ได้มีให้ต่อต้าน บางอย่างเปลี่ยนแปลงได้ แต่บางอย่างห้ามเปลี่ยนแปลงโดยเด็ดขาด

พระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์ที่ชาวจุฬาให้ความเทิดทูนเป็นของสูง และมีความภูมิใจในพระเกี้ยวที่ติดหน้าอกเสื้อหากผู้ใดที่คิดว่า ไม่ใช่ เธอมาอยู่ผิดที่ผิดทางแล้ว ที่นี่อาจไม่ใช่ที่เหมาะกับเธอ ไปอยู่ในที่ที่ชอบไปไคว่คว้าหาเสรีภาพในที่อื่นที่คิดว่าใช่ดีกว่า จะทำอะไรที่พิศดารกว่านี้ก็ไม่มีใครต่อต้าน

อดีตอธิบดี ดีเอสไอ เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน กรณีลูกน้องเข้าค้น บ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู แล้วเกิดปัญหา ยักยอกของกลาง และ เรียกรับประโยชน์แลกการปล่อยตัว

คนจีนมีหมายจับสากล ขณะเดียวกันวันนี้ ตำรวจ เตรียมออกหมายจับเพิ่ม 3 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่เข้าค้นคอนโดย่านห้วยขวาง

(26 ม.ค. 66) เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อดีตอธิบดี ดีเอสไอ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การปฎิบัติการเข้าค้น บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรและเป็นผู้อนุมัติตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงรายละเอียด ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ ว่ามีการส่งข้อมูลชี้แจงอย่างไร

ขณะที่ในช่วงบ่าย ที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เร่งสรุปข้อมูลการสอบสวนเพื่อเตรียมออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพิ่มอีก 3 คน เป็นบุุคคลที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ว่าเป็นผู้เข้าค้นคอนโดมิเนียมของทุนจีนสีเทา ย่านห้วยขวาง ภายหลังเข้าค้น บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ไม่กี่ชั่วโมง

อาชีวฯลำปาง ร่วมเจรจาการฝึกอาชีพกับโรงแรมชั้นนำระดับโลก

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ดร.ยุภาภรณ์ เทพจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง และคณะ ร่วมหารือแนวทางการส่งนักศึกษาฝึกอาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอิทธิพล วิทจิตสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล, นายพัฒน์พงษ์ พิชัยชาญเลิศ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล และ นายสมพูน ถนอมมงคล เจ้าหน้าที่ประสานงานทวิภาคี เป็นผู้แทนร่วมการเจรจา โดยยินดีรับนักศึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ จำนวน 6 คน ได้แก่ นักศึกษาปกติ 3 คน นักศึกษาพิการทางการได้ยิน 3 คน เข้าฝึกอาชีพตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top