Monday, 28 April 2025
NEWS

เชิดชูเกียรติทหารกล้า วางพวงมาลาวันทหารผ่านศึก

วันที่ 3 ก.พ. 66 พลเรือโทเสมา สุวรรณโชติ ประธานชมรมทหารผ่านศึกสัตหีบ เป็นประธานการจัดกิจกรรม บำเพ็ญกุศลทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณของทหารผ่านศึก ณ อาคารศาสนสถานหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีและประกอบพิธีวางพวงมาลา เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมและความเสียสละ ณ อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร

โดยมีอดีตนักรบนาวิกโยธิน แห่งกองทัพเรือ ที่ผ่านการรบจากสมรภูมิต่างๆ รวมถึงหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ร่วมจัดกิจกรรมในวันนี้กว่า 200 คน

‘อดีตทหารวัย 85’ ตื้นตัน!! ชูภาพ ‘ในหลวง ร.9’ เสด็จเยี่ยม ครั้งสมัยสงครามเวียดนาม ก่อนทรงส่งตัวไป รพ.พระมงกุฎฯ

(3 ก.พ. 66) ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ วางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2566 โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการ และผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงของชาติ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรม ความกล้าหาญของทหารผ่านศึก ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกปักรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้คงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ 

อีกทั้งยังเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย โดยมีผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย สมาคม, ชมรม, มูลนิธิ ตลอดจนทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามต่าง ๆ ร่วมวางพวงมาลา

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า เวลา 07.45 น. องค์การฯ ได้จัดพิธีจุดตะเกียงโบราณ และเวลา 08.00 น. ได้จัดพิธีจุดตะเกียงตามประทีปและสักการะอัฐิ เวลา 08.20 น. พิธีเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกดีเด่น ประจำปี 2566 โดยมี พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเป็นประธานในพิธี 

พ.อ.สุวรรณ จินดา อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาประจำผู้บังคับบัญชา และอดีตทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีอายุ 95 ปี เปิดเผยว่า ตนเคยได้รับเหรียญจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งท่านเคยไปเตะฟุตบอล ที่หน้าค่ายทหารไทย ซึ่งตอนนั้นตนได้ไปรับเหรียญที่ทำเนียบ ตนได้บอกว่า ถ้าเราคิดจะทำงานเพื่อประเทศชาติต้องทุ่มเทกำลังกายกำ ลังใจ และกำลังความคิด และต้องเยี่ยมเยียนประชาชน จะมานั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ได้ 

ตนได้ไปรบ ปัจจุบันนี้ทหารที่ไปร่วมรบด้วยกัน ก็เสียชีวิตกันหมดแล้ว เหลือแค่ตน ส่วนเคล็ดลับ อายุยืนนั้นคือ 

“ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจสนทนา วาจาไพเราะ สงเคราะห์เอื้อเฟื้อ ขาดเหลือเจือจุน"

รมว.สุชาติ ส่ง เลขาฯ สักขีพยานลงนาม MOU เครือข่ายสถานประกอบการ - สถานศึกษา มุ่งพัฒนากำลังคนรองรับความต้องการของประเทศ

รมว.แรงงาน มอบ เลขาฯ สุเทพ เปิดงาน Techno Chon & Prabhassorn "Think Different" ชื่นชมสถานศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี โรงเรียนประภัสสรวิทยา จัดการศึกษาทศวรรษใหม่ ด้วยนวัตกรรมบริหารแนวใหม่ “Think Different” ได้อย่างมีคุณภาพ ก่อให้เกิดการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพ มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดงาน Techno Chon & Prabhassorn "Think Different" และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือกับสถานประกอบการ 30 แห่ง พร้อมมอบโล่-เกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน และร่วมพัฒนาการจัดการเรียนการสอนกับทางวิทยาลัยฯ 19 แห่ง โดยมี ดร.อุไรวรรณ ตันประภัสร์ ประธานกรรมการบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนภาครัฐและเอกชน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ หอประชุมลีลาวดี วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี
    

นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอชื่นชมที่ผู้บริหารสถานศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี และโรงเรียนประภัสสรวิทยา ที่ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการพัฒนาการจัดการศึกษาทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา บนเส้นทางการจัดการศึกษาอันยาวนานของโรงเรียนประภัสสรวิทยากว่า 54 ปี และ 38 ปี ของวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ซึ่งได้เห็นการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความมุ่งมั่นในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับการเตรียมคนสู่ศตวรรษที่ 21 และ “การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดการศึกษาในจังหวัดชลบุรี นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่มีการลงทุนในด้านอุตสาหกรรม ทั้งหน่วยงานภายในประเทศและจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญ สถานศึกษาทุกระดับจึงเป็นหน่วยงานที่สำคัญต่อการผลิตและพัฒนากำลังคน ในฐานะที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับ กระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พัฒนาและส่งเสริมแรงงานให้มีศักยภาพสูง รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในการผลิตกำลังคนให้สอดคล้องทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ เพื่อรองรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การดำเนินงานของโรงเรียนประภัสสรวิทยา และวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการศึกษาที่จะผลิตนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึง อาชีวศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงการที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ได้มีการประสานความร่วมมือและพัฒนาเครือข่ายกับสถานประกอบการ สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันพัฒนาการจัดการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนสู่ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยการลงนามความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการจัดการศึกษาในระบบทวิภาคี เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย สามารถมีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงศึกษาธิการในการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำของนักเรียนนักศึกษาและแรงงานทุกระดับ นอกจากนี้ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการให้นักเรียนนักศึกษาฝึกงานในสถานประกอบการในระบบทวิภาคี สามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมไปยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ 100 ของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกอบรม 10 รายการ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของสถานประกอบการจากการฝึกอบรมกรณีรับนักเรียนนักศึกษาฝึกเตรียมเข้าทำงานตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ทำงานเสริม หรือทำภารกิจออนไลน์ ฝากผู้ปกครองหมั่นตรวจสอบพฤติกรรมของลูกหลาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ทำงานเสริม หรือทำภารกิจออนไลน์ ดังนี้

ในช่วงที่ผ่านมาปรากฏเป็นเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำงาน หรือทำภารกิจออนไลน์ต่างๆ เพื่อหารายได้เสริมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงจ้างให้กดไลก์ (Like) กดแชร์ (Share) ดูคลิปวิดีโอจากยูทูบ (YouTube) กดรับออร์เดอร์สินค้า หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มิจฉาชีพออกอุบายประกาศ เชิญชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok เป็นต้น หรือผ่านทางการส่งความสั้น (SMS) ให้เหยื่อกดลิงก์เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ เช่น ประกาศรับสมัครด่วนงานดูคลิป YouTube จำนวน 10 คลิป 400 บาท 20 คลิป 800 บาท แต่ต้องมีค่าเงินประกัน 100 บาท หรือให้กดไลก์ กดแชร์เพจ เพิ่มระดับเลเวลเพื่อที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม แต่ต้องโอนเงินเข้าไปในระบบก่อน หรือเชิญชวนให้ทำภารกิจกดรับออเดอร์สินค้า โดยเริ่มจากสินค้าหลักร้อยและเพิ่มสูงขึ้นไปตามระดับภารกิจ แต่จะบอกว่าเราทำผิดขั้นตอน ให้โอนเงินไปเพิ่ม เป็นต้น

การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว จะเห็นได้ว่าต้องมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพ หรือเติมเงินเข้าไปในระบบที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาเสียก่อนเสมอ โดยในช่วงแรกๆ เราจะได้เงินกลับคืนมาจริง แต่หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะออกอุบายต่างๆ เพื่อให้เหยื่อเติม หรือโอนเงินเพิ่ม เช่น อ้างว่ายอดเงินในระบบไม่เพียงพอ อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น เมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป ยกตัวอย่างคดีอุทาหรณ์ เช่น ในกรณีนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหาค่าคอมมิชชั่นจากการทำงานกดรับออเดอร์สินค้า เป็นเหตุให้เครียดและทำอัตวินิบาตกรรม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับรวมกว่า 9 ราย ส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายในเวลาต่อมาตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้ทำภารกิจ หรือทำงานออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ทำให้มิจฉาชีพเหล่านี้ไม่มีจุดยืนในสังคม เพราะถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เสียหายที่ยังเป็นเด็ก เยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจจะส่งผลกระทบโดยไม่คาดคิด 

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) วรรคท้าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยดูจากพฤติการณ์แต่ละกรณีมาประกอบ ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

อบจ.พิษณุโลก ร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน 'วันทหารผ่านศึก' ประจำปี 2566

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน 'วันทหารผ่านศึก' ประจำปี 2566 ณ บริเวณอนุสาวรีย์วีรไทย ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้สำหรับวันทหารผ่านศึก ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี มี 'ดอกป๊อปปี้' สีแดง เป็นสัญลักษณ์แทน 'ทหารผ่านศึก' 

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดงาน 'วันทหารผ่านศึก' เชิดชูเกียรติเหล่าทหารกล้า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3/ทหารผ่านศึกอาวุโส และ พล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2566 พร้อมกล่าวคำสดุดีวีรกรรมทหารผ่านศึก ณ อนุสาวรีย์วีรไทย ในการนี้ พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ มอบเกียรติบัตรแก่ทหารผ่านศึกดีเด่นและเกษตรกรทหารผ่านศึกดีเด่น หลังจากเสร็จพิธีวางพวงมาลาแล้ว ยังมีพิธีบำเพ็ญกุศล ณ สโมสรบันเทิงทัพค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีส่วนราชการ หน่วยทหาร ชมรม สมาคมต่างๆ ทหารผ่านศึกและครอบครัวฯ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

'วันทหารผ่านศึก' ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เนื่องจาก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลัง สงครามมหาเอเชียบูรพา สิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดประจำการ จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ทหารเหล่านั้น ดังนั้น ในปีพุทธศักราช 2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบ ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้ง 'องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก' ขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2491 จึงได้ยึดเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึกมาถึงทุกวันนี้ โดยมี 'ดอกป๊อปปี้' สีแดง เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อปปี้ คือ เลือดของทหารที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด

'บิ๊กป้อม' ร่วมรำลึก-เชิดชูเกียรติแก่ทหารผู้เสียสละ เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์

(3 ก.พ. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี​ ด้านความมั่นคง กล่าวถึงวันทหารผ่านศึก​ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ว่า​ เป็นวันที่มีความสำคัญยิ่ง ที่คนไทยทุกคนจะได้มีโอกาส แสดงความระลึกถึงคุณงามความดี และความกล้าหาญของเหล่าบรรดาวีรชนไทย ที่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องเอกราช และอธิปไตยของแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานคนไทย จวบจนกระทั่งปัจจุบัน

พร้อมกล่าวว่า “ตนเองก็เป็น 'ทหารผ่านศึก' คนหนึ่งเช่นกัน ที่เคยผ่านสนามรบ และร่วมรบกับเพื่อนทหารหาญ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย เมื่อครั้งรับราชการทหาร จึงมีความเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความยากลำบาก ในการปฎิบัติภารกิจที่ต้องเสียสละ ใช้ชีวิตห่างไกลจากครอบครัว ไปอยู่ในสนามรบ และตามแนวชายแดนที่มีสภาพทุรกันดาร ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสู้รบได้ตลอดเวลา บางคนต้องเสียชีวิต บางคนได้รับบาดเจ็บ หรือพิการตลอดชีวิต ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ก็ยังมี”

‘นายกฯ’ สั่งลุยแก้ PM 2.5 เชิงรุก 'ระยะสั้น-ยาว' คลุมทุกมิติปัญหาที่ก่อให้เกิดมลพิษในทุกพื้นที่

'บิ๊กตู่’ สั่งการประเมินสถานการณ์รับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) วางแผน แก้ไขปัญหาในทุกมิติ ทั้งระยะสั้นระยะยาว ‘ย้ำ’ไม่ได้นิ่งนอนใจ

(3 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับ และสั่งการให้เดินหน้าแผน '3 พื้นที่ 7 มาตรการ' รับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งในระยะยาวสั้น และระยะยาว รวมทั้ง สั่งการให้ประชาสัมพันธ์สื่อสารให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 พร้อมแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงและผลกระทบทางสุขภาพ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ที่มีความรุนแรงเกิดจาก ภาพรวมของพื้นที่ ทั้งพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เอื้อต่อการกระจายตัวของฝุ่นละออง และเป็นช่วงรอยต่อฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน สภาวะอากาศนิ่ง ลมสงบ ส่งผลต่อการสะสมของฝุ่นละอองในบรรยากาศ ทำให้ระดับฝุ่นละอองมีค่าสูงขึ้น อีกทั้งอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ปีนี้มีความแห้งแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยเสริมทำให้ PM2.5 อาจมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้ง ติดตามสอบถามการแก้ไขปัญหา การทำงานของทุกหน่วยเป็นระยะ เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจังหวัดใดที่มีค่าฝุ่นเกิน 51 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกันเกิน 3 วัน ให้พิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Public Health Emergency Operation Center : PHEOC) เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ ส่วนจังหวัดที่มีค่า PM 2.5 ระหว่าง 37.6-50 มคก./ลบ.ม. ให้เปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ (OC) ระดับจังหวัดรองรับ รวมถึงให้เร่งรัดสื่อสารความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5 แจ้งเตือนถึงความเสี่ยงและผลกระทบทางสุขภาพ ด้านกระทรวงคมนาคม ยกระดับการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น การออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การตรวจสภาพรถบรรทุกและรถโดยสาร การตรวจสอบการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถ การตรวจสอบยานพาหนะของหน่วยงานราชการ และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วันทุกพื้นที่ ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา และ Burn Check) ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่ และพัฒนาระบบพยากรณ์ ความรุนแรงและอันตรายของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS) เป็นต้น รวมทั้งขอความร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อลดปริมาณการเผาในพื้นที่ ทั้งการเคาะประตูบ้านแจ้งข่าวทำ ความเข้าใจ ตลอดจนกำชับให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในแต่ละพื้นที่แบบครบวงจร ทั้งการชิงเก็บ ลดเผา และการใช้แอปพลิเคชัน Burn Check เพื่อลงทะเบียนและจองเวลา ในการเผาล่วงหน้า เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านการประชุมคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และได้นำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ให้ความเห็นชอบและออกเป็นประกาศ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศให้เข้มงวดขึ้น โดยกรมควบคุมมลพิษจะมีการประกาศใช้ กำหนดมาตรฐานฝุ่นละออง PM 2.5 ใหม่ จากเดิมประเทศไทยจะใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง กำหนดค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เป็น ให้ค่าเฉลี่ยในเวลา 24 ชั่วโมง จะต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. และกำหนดมาตรฐานค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ปี จะต้องไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม. โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 โดยจะส่งผลให้มาตรการการควบคุมการปล่อยมลพิษโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่งรถยนต์ จะมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อลดอัตราการปล่อยมลภาวะออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ยังจะมีมาตรการการควบคุมและลดปริมาณการเผาอ้อยหรือการเผาป่า 

‘หนุ่มสิงคโปร์’ ยันจ่ายเงิน 27,000 บาท ให้ ตร.ปมถูกจับบุหรี่ไฟฟ้า-วีซ่า

นายชูวิทย์ เปิดตัวนายสกาย หนุ่มสิงคโปร์เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ยืนยันจ่ายเงิน 27,000 บาท ให้ตำรวจริง เหตุเพราะถูกจับข้อหาพกบุหรี่ไฟฟ้า-วีซ่า

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิง สุขุมวิท นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดตัว นายสกาย นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกับดาราสาวชาวไต้หวัน และเป็นผู้จ่ายเงิน จำนวน 27,000 บาท กรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าให้กับตำรวจ สน.ห้วยขวาง ขณะตั้งด่านตรวจ

ทั้งนี้ ก่อนจะเริ่มมีการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้เดินตีปี๊บเข้ามา พร้อมกล่าวว่า นำปี๊บมามอบให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ไม่ยอมรับว่า ลูกน้องมีการรีดไถนักท่องเที่ยว พร้อมบอกว่า ถือเป็นยุคมืดอย่างแท้จริง

โดย นายสกาย เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ว่า หลังกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน ที่ร้านอาหารย่านสุขุมวิทได้เรียกรถแกร็บ เพื่อจะไปห้วยขวาง กับเพื่อน 4 คน หนึ่งในนั้นคือ อันหยูชิง ดาราสาวไต้หวัน ระหว่างทางก็มาเจอด่าน สน.ห้วยขวาง และเรียกหาวีซ่า เมื่อตนแย้งว่ามาจากสิงคโปร์อยู่ไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า จากนั้นตำรวจจึงบอกว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย บอกจะต้องไปโรงพัก ตนจึงเริ่มกลัว ก่อนถามตำรวจกลับว่าผิดกฎหมายได้อย่างไรเพราะซื้อจากร้านที่ขายในไทย ตนไม่รู้ว่าผิด

เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดสวนสาธารณะหนองบวกหาด 'พฤกษามหัศจรรย์ สรวงสวรรค์แห่งนครเชียงใหม่'

เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดสวนสาธารณะหนองบวกหาด "พฤกษามหัศจรรย์ สรวงสวรรค์แห่งนครเชียงใหม่" (Flora Wonderlust 2023) รับปีกระต่ายทอง เนรมิตสวรรค์บนดิน ใจกลางเมืองเชียงใหม่ บรรยากาศคึกคัก

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 19.00 น.เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดพิธีเปิดสวนสาธารณะหนองบวกหาด ภายใต้ชื่องาน 'พฤกษามหัศจรรย์ สรวงสวรรค์แห่งนครเชียงใหม่' (Flora Wonderlust 2023)  ณ สวนสาธารณะหนองบวกหาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานและนางนุสรา ยันตรโกวิท ปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานครั้งนี้

โดยการจัดงานในครั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ จึงได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์รวมถึงตกแต่งสวนสาธารณะหนองบวกหาดให้เกิดความสวยงาม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 46 ประจำปี 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูและคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้สู่ประเทศและจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีแนวคิดของการจัดงาน คือ "Bunny Wonderland" หรือ "กระต่ายหรรษากับสวนพฤกษามหัศจรรย์" ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาร่วมสัมผัสกับความสวยงามของสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์พร้อมการประดับไฟตกแต่งสวยงาม ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2566 บริวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

บิ๊กป้อมลงพื้นที่มุกดาหาร แก้ปัญหาตลาดอินโดจีนสร้างไม่แล้วเสร็จถูกปล่อยทิ้งร้าง

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ตลาดอินโดจีน เทศบาลเมืองมุกดาหาร พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ตรวจโครงการก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างและปรับปรุงตลาดอินโดจีน โดยมีนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร บรรยายสรุปสภาพปัญหาการปรับปรุงตลาดอินโดจีน ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

สำหรับโครงการก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างและปรับปรุงตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหารได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2560 แต่ดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ กระทั่งงบประมาณถูกพับไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 จำนวน 94.23 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับงบประมาณมาชดเชยทำให้โครงการถูกทิ้งร้างอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยยังคงเหลืองานที่ไม่แล้วเสร็จ คือ งานสถาปัตยกรรมปรับปรุงพื้นที่ตลาด ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง งานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบดับเพลิง และงานสุขาภิบาล

โดยในเวลาต่อมา นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบกลางประจำปีงบประมาณพ.ศ 2566 จำนวน 94,228,850 บาทเพื่อมาชดเชยเงินที่ถูกพับไปจากกระทรวงมหาดไทยโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย 

ศรชล. จังหวัดสตูล จัดสัมมนาสร้างความตระหนักรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

เมื่อวันที่ (2 ก.พ. 66) ที่ผ่านมาที่สตารินทร์ รีสอร์ท อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล ร่วมกับ ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 จัดการสัมมนาสร้างความตระหนักรู้ ในหัวข้อ 'การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง' ในพื้นที่จังหวัดสตูล ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีนาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผอ.ศรชล. จังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดการสัมมนาฯ พร้อมด้วยบุคลากรหน่วยงานของรัฐ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูล เข้าร่วมกว่า 60 คน

'บัวขาว' ยัน!! ไร้ปัญหากับ 'กุน ขแมร์-กัมพูชา' แต่ช่วยจ่ายค่าตัว 2.2 ล้านที่เคยค้างไว้ด้วย

(3 ก.พ. 66) 'บัญชาเมฆ ยิม' โพสต์ยันไม่มีปัญหากับกุน ขเเมร์ แต่ขอทวงเงินผู้ใหญ่ในกัมพูชา วอนจ่ายค่าตัวที่ค้างไว้จำนวน 2.2 ล้านบาทจากรายการที่ไปชกในประเทศกัมพูชาเสียก่อน

จากประเด็นที่ประเทศกัมพูชาพยายามระบุว่า 'กุน ขแมร์' เป็นต้นกำเนิด 'มวยไทย' และใช้ชื่อ 'กุน ขแมร์' สำหรับแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ตนเองเป็นเจ้าภาพ จนสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ IFMA ประกาศว่าพร้อมแบนชาติที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีประเด็นต่างๆ เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ที่มีการระบุว่า ชาวเขมรพยายามอ้างว่าศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในประเทศไทยล้วนมาจากเขมร

ไม่พ้นแม้แต่ 'บัวขาว บัญชาเมฆ' นักชกชื่อดังของไทย โดยก่อนหน้านี้มีคนเคลมว่าบัวขาวเป็นคนกัมพูชา แต่กําปั้นเเดนสยามยืนยันว่าตนเป็นคนไทยเเท้เเน่นอน

แบงก์ชาติ สรุปข่าวเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาส 4 ปี 65

(2 ก.พ.66) ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) แถลงข่าวเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือปี 2565 ทรงตัวจากปีก่อน โดยมีทิศทางแผ่วลงในไตรมาส 4/2565 โดยการบริโภคภาคเอกชนทรงตัวใกล้เคียงเดิม เนื่องจากค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง และรายได้เกษตรกรหลังหักชำระหนี้อยู่ในระดับต่ำ การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่อง จากการก่อสร้างที่เร่งไปในปีก่อน และการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ชะลอตัวตามการผลิตเพื่อส่งออก สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวต่อเนื่อง หลังเผชิญปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากมาตรการ Zero-Covid ในจีนและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัว ขณะที่สินค้าเกษตรแปรรูปและเครื่องดื่มขยายตัวดี จากผลผลิตเกษตรและการเปิดเมือง แรงส่งจากภาคการคลังลดลง ตามการจัดสรรงบประมาณที่ลดลง หลังจากสถานการณ์วิกฤติโควิดคลี่คลาย และมูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรหดตัว ทั้งการส่งออกและนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ที่เร่งสูงในปีก่อนเพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน 

ทั้งนี้ มีปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจอีสาน ได้แก่ รายได้เกษตรกรขยายตัวต่อเนื่อง ตามราคาพืชสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ปศุสัตว์ และมันสำปะหลัง เป็นต้น และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการผ่อนคลายล็อกดาวน์ที่ช่วยให้ภาคบริการและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องฟื้นตัว ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงในช่วงปลายปี จากปัญหาอุปทานที่คลี่คลาย แต่ยังอยู่ในระดับสูงจากราคาพลังงานและอาหารสด และตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น จากจำนวนผู้มีงานทำมาตรา 33 ที่เพิ่มขึ้น 

แนวโน้มเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือปี 2566 คาดว่าขยายตัวเล็กน้อย โดยการผลิตขยายตัวจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มตามการเปิดเมืองที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้เต็มรูปแบบ ขณะที่ผลผลิตเกษตรทรงตัวใกล้เคียงเดิม สอดคล้องกับด้านการใช้จ่าย โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อย ตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับดีขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ และตลาดแรงงานที่อยู่ในทิศทางการฟื้นตัวต่อเนื่อง สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวตามงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวใกล้เคียงเดิมเตือนภัยทางการเงินภัยทางการเงินที่พบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงไตรมาส 4/2565 ส่วนใหญ่เป็นการ “หลอกให้กู้เงิน” ผ่านแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์ SMS Social media และเว็บไซต์ โดยมีการแอบอ้างชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต หรือใช้โลโก้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดูน่าเชื่อถือ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ไม่หลงเชื่อกลโกงของมิจฉาชีพ จึงแนะนำให้ตรวจสอบว่าผู้ให้กู้เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.หรือไม่ ดังนี้...

1) เข้าเว็บไซต์ ธปท. www.bot.or.th เลือก “เช็กแอปเงินกู้”

2) โทรติดต่อผู้ให้บริการที่ถูกแอบอ้างโดยตรงจากเบอร์โทรที่ปรากฏ

3) หากไม่แน่ใจให้โทรศัพท์สอบถามไปยังสายด่วนแบงก์ชาติ เบอร์ 1213

ทั้งนี้ ให้สังเกตว่า ถ้าผู้ให้กู้แจ้งให้ “โอนเงินไปก่อน” โดยอ้างว่าเป็นค่าประกันชีวิต ค่าปลดล็อคบัญชี ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ แจ้งว่าหลังจากโอนเงินแล้วจะคืนให้พร้อมเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ ขอให้พึงตระหนักว่ามีโอกาสจะถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพสูง

นอกจากนี้ ในระยะหลัง พบว่ามิจฉาชีพมีการหลอกลวงด้วยการส่งลิงก์ให้กด เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมมือถือ ธปท. ขอแจ้งวิธีการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่ใช้แอปควบคุมมือถือด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้...

1) ไม่คลิกลิงก์จากข้อความ (SMS) ไลน์ หรืออีเมลที่ไม่รู้จัก

2) ไม่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่อยู่นอก Play Store และ App Store

3) อัปเดต Mobile Banking อยู่เสมอ

หากตกเป็นผู้เสียหาย ให้รีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าของบัญชี และแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และหากพบธุรกรรมที่น่าสงสัย ให้รีบติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารเจ้าของบัญชีทันที

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ ในเขตทัพเรือภาคที่1

วันที่ 2 ก.พ.66 พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ประธานคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ ในเขตทัพเรือภาคที่ 1 (ระดับผู้บริหาร) ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ โรงแรมคามิโอ แกรนด์ ระยอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top