Wednesday, 14 May 2025
NEWS

‘ครูบาน้อย’ ละสังขาร สิริอายุ 34 ปี เขียนพินัยกรรมให้ถวายเพลิงค่ำวันนี้

(31 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก คณะศิษย์ครูบาน้อย ญาณวิไชย จังหวัดน่าน แจ้งว่า น้อมกราบถวายความอาลัย ‘ครูบาน้อย’ (พระญาณวิไชย ภิกขุ) วัดถ้ำเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ได้ละสังขารอย่างสงบ ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ในวันพฤหัสบดีที่ 31 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 00.49 น. ณ วัดถ้ำเชตวัน

ประกอบพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารตามเจตนารมณ์ ในพินัยกรรมของครูบา วันพฤหัสบดีที่ 31 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2566 เวลา 20.09 น. ณ วัดถ้ำเชตวัน จังหวัดน่าน

สำหรับประวัติครูบาน้อย หรือ ‘พระญาณวิไชย ภิกขุ’ บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดนาแดง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2545 ในขณะอายุ 12 ปี โดยมี ‘พระครูวิสุทธิ์นันทวิทย์’ (ครูบาศรีมา กตปุญโญ) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุ 20 ปีได้บวชเป็นพระภิกขุ

‘ครูบาน้อย’ เป็นลูกศิษย์ของครูบาบุญชุ่ม ญาณสวโร ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในล้านนา ครูบาน้อยปลีกวิเวก ตัดขาดจากโลกภายนอก เข้าไปปฏิบัติธรรมในพุทธสถานถ้ำเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย ประกาศตัดทางโลก 3 ปี เข้าบำเพ็ญกรรมฐานในถ้ำ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2557 และวันที่ 15 ต.ค.2560 ได้ออกจากถ้ำหลังจากครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่นเดียวกับครูบาบุญชุมที่ได้ปฏิบัติมาก่อนหน้านั้น

'อดีตนร.ไทยในญี่ปุ่น' ชี้!! ผลักดันสุราเสรี ไม่ใช่นโยบายที่ดี ยก ‘สหรัฐฯ’ เป็นแม่แบบ ให้ปชช.ดื่มได้สัปดาห์ละ 2 ดริ๊งก์

เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.66) ข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Naruphun Chotechuang’ โดย ‘คุณนฤพันธ์ โชติช่วง’ อดีตนักเรียนวิทยาลัยยามชายฝั่งญี่ปุ่น ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ขอพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกสักโพสต์ ในขณะที่ประเทศไทยมีพรรคการเมืองที่อ้างความเป็นประชาธิปไตย ผลักดันนโยบายสุราเสรีแบบสุดโต่ง แต่ประเทศต้นแบบประชาธิปไตยอย่างอเมริกากำลังกำหนดให้ประชาชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สัปดาห์ละ 2 ดริ๊งก์

อ้างอิงจากข่าว "2 drinks a week? US considering changing alcohol guidelines"
https://fox8.com/video/usda-considering-changing-alcohol-guidelines/8947623/ 

สรุปคร่าว ๆ คือ

Dr. George Koob ผู้ควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ของประธานาธิบดี Joe Biden กล่าวกับเดลี่เมล์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า สหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลงแนวทางการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่ประเทศแคนาดาพึ่งออกเมื่อเร็ว ๆ นี้ (*1) ซึ่งแนะนำให้ประชาชนจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ที่สัปดาห์ละ 2 ดริ๊งก์ (ลดลงจาก 15 ดริ๊งก์ต่อสัปดาห์สำหรับผู้ชาย และ 10 ดริ๊งก์ต่อสัปดาห์สำหรับผู้หญิง) เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์

Dr. George Koob ซึ่งก็เป็นผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดและโรคพิษสุราเรื้อรัง (National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism: NIAAA) ให้ความเห็นชัดเจนว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และพบว่ากลุ่มคนอายุ 35 ถึง 50 ปี มีการดื่มหนักเพิ่มขึ้นทั่วประเทศจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยคำแนะนำการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของชาวอเมริกัน (*2) อาจจะมีการปรับเปลี่ยนในปี 2025

สำหรับผมแล้ว การผลักดันนโยบายสุราเสรีแบบสุดโต่งของพรรคนั้น น่าจะไม่ใช่การสร้างความเท่าเทียมแต่อย่างไร แต่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพราะ สส. และผู้สมัคร สส. ของพรรคนั้น ก็ทำธุรกิจผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่แหละ ต้องการเข้ามามีอำนาจเพื่อตัวเองล้วน ๆ

ปล. แต่ที่ยิ่งกว่าเลวคือ ไม่เสียภาษีด้วยนะ ยื่นแบบเสียภาษียังไม่ทำเลย

*1 Canada’s Guidance on Alcohol and Health
https://www.ccsa.ca/canadas-guidance-alcohol-and-health
*2 Dietary Guidelines for Alcohol
https://www.cdc.gov/alc.../fact-sheets/moderate-drinking.htm 

กองทัพเรือจัดการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 12 ณ หอประชุมกองทัพเรือ ชูความสำคัญของ Blue Economy

วันที่ 30 ส.ค.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการประชุมวิชาการของกองทัพเรือ ครั้งที่ 12 ในหัวข้อเรื่อง Blue Economy : บทบาทสากลใหม่ของกองทัพเรือไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ

การประชุมวิชาการของกองทัพเรือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับแนวคิด Blue Economy สร้างการตระหนักรู้ในการปกป้องสภาวะแวดล้อมทางทะเล และเผยแพร่บทบาทของกองทัพเรือ ในการสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว โดยมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ในการนี้ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้กล่าวถึงความสำคัญของการประชุมว่า “…ปัจจุบันแนวคิดเศรษฐกิจสีนำเงินได้กลายเป็นแนวคิดที่มีความสำคัญ และกำลังกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์ทางทะเล เพื่อไปสู่ความยั่งยืนร่วมกัน จากการที่กองทัพเรือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเล และมีบทบาทหลักในการดูแลรักษาความมั่นคงเรียบร้อยทางทะเล เพื่อให้เศรษฐกิจทางทะเลสามารถดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องศึกษา และทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) และห่วงโซ่กิจกรรมทางทะเล รวมทั้งบทบาทของกองทัพเรือที่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าว…”

เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบาท และการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ ในสภาวะแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนไป โดยเปิดรับฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ และกองทัพเรือต่อไป

‘ใบหยกสกาย’ ปรับเมนูใหม่ ‘คาราวานบุฟเฟต์’ ครบจัดเต็ม มีเมนูพรีเมียมกว่า 100 รายการ แถมนั่งชิลล์ไม่จำกัดเวลา

เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าแห่งบุฟเฟต์ ‘ใบหยกบุฟเฟต์’ เปิดตัวโปรใหม่ล่าสุด “BAIYOKE Private & Caravan Buffet” ที่ Stella Palace ชั้น 79 โรงแรมใบหยกสกาย ปรับเมนูใหม่ เพิ่มเมนูแต่ไม่เพิ่มราคา มาพร้อมคาราวานบุฟเฟต์ที่แรกและที่เดียวในไทย ที่นำไลน์บุฟเฟต์เข็นไปบริการถึงที่โต๊ะ ให้นั่งชิลล์แบบไม่จำกัดเวลา ตั้งแต่ 18.00-21.30 น. รวบรวมสุดยอดเมนูพรีเมียมกว่า 100 รายการ

เริ่มต้นด้วย อาหารจีนพรีเมียมครบจัดเต็ม ทั้งหมูหัน เป็ดปักกิ่ง เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ เคาหยก ไก่จักรพรรดิ ติ่มซำเต็มรูปแบบทั้งแบบนึ่งและแบบทอด ต่อด้วย เมนูซีฟู้ด สด-ลวก-ย่าง อาทิ กุ้งแม่น้ำย่างมันเยิ้ม กุ้งแม่น้ำ ปูม้า หมึก หอยนางรมสด และหอยนานาชนิด

เมนูซีฟู้ดพิเศษเฉพาะที่ Stella Palace ‘ซีฟู้ดฮองเฮา’ น้ำซุปหูฉลาม เลือกวัตถุดิบกุ้ง หอย ปู ปลา ผักสด ไป D.I.Y. เองที่โต๊ะได้ตามใจชอบ อีกทั้งเมนูเป๋าฮื้อ ทั้งพายเป๋าฮื้อ (เป๋าฮื้อ Vol au Vent) เป๋าฮื้อน้ำแดง โจ๊กเป๋าฮื้อ

ใครอยากกินข้าว ที่นี่ก็มีเสิร์ฟข้าวพรีเมียมหน้าล้น พิเศษเฉพาะที่ใบหยกสกาย อาทิ ข้าวคลุกน้ำปลาทะเล ข้าวแซลมอนไข่ดอง ข้าวผัดกากหมูปลาแกะ ข้าวกะเพราหมูตุ๋น ข้าวไข่ข้นกุ้ง-ปู ข้าวยำซีฟู้ดไข่ออนเซ็น

ไม่ใช่มีแต่อาหารจีน ใบหยกยังจัดอาหารญี่ปุ่น ไข่ตุ๋นฟัวกราส์ ซูชิวากิวเบิร์น ซาชิมิแซลมอน ทูน่า ทาโกะ ซาบะดอง มาเสิร์ฟไม่อั้น และเพื่อเพิ่มความวาไรตี้ ที่นี่ยังเสิร์ฟ สเต๊กเนื้อนำเข้าครบทั้ง สเต๊กเซอร์ลอยด์ออสเตรเลีย สเต๊กซี่โครงแกะ สเต๊กหมูคุโรบุตะ สเต๊กแซลมอนนอร์เวย์ สะโพกนางฟ้า สตูว์ลิ้นวัว และซี่โครงหมูซอสไวน์ขาว

ซิกเนเจอร์ที่ขาดไม่ได้ของที่นี่ ชาบูน้ำตกเนื้อวากิว และชาบูน้ำตกหมูคุโรบุตะ อร่อยแบบไม่ปรุงรสอะไรเพิ่ม

ตบท้ายด้วย ขนมหวานสไตล์จีนพิเศษ เช่น สาคูแคนตาลูป แตงโมเกล็ดหิมะแปะก๊วย บอลลาวา สี่สีร้อน โอวหนี่แปะก๊วย บัวลอยน้ำขิง เต้าฮวยน้ำขิง เต้าฮวยฟรุตสลัด พุดดิ้งมะม่วง

เรียกว่า อิ่มอร่อยทั้งอาหารและวิวที่เห็นกรุงเทพฯ ทั้งเมือง ซึ่งใบหยกเปิดให้ชมวิวบนจุดชมวิว ชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84 ด้วย อีกทั้งยังฟรี! ห้องไพรเวตส่วนตัว (เมื่อมา 8 ท่านขึ้นไป) ฟรี! เครื่องดื่ม soft drink และน้ำดื่ม

เปิดให้บริการทุกวัน ไม่จำกัดเวลา ตั้งแต่ 18.00 – 21.30 น. ราคาโปรโมชั่นช่วงแนะนำ 1,250 บาทเน็ท (จากปกติ 1,390 บาท)

หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนากับงาน TICA Connect ครั้งที่ ​8

กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency: TICA) จัดงาน TICA Connect ครั้งที่ 8 ในหัวข้อ Enhancing International Cooperation for Sustainable Future” (การขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยได้ย้ำว่า ในการขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศนั้น การมีส่วนร่วมจากนานาประเทศ และทุกภาคส่วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (2030 Agenda for Sustainable Development) ทั้งนี้ ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวร่วมกัน โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy) และ BCG Model ในการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน TICA Connect ครั้งนี้นั้น นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์หลักในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่การดำเนินงานด้านการพัฒนาของไทยในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน รวมทั้งเน้นบทบาทของหน่วยงานด้านการพัฒนาทั้งไทยและต่างประเทศที่เป็นคู่ร่วมมือกับ TICA ตลอดจนเป็นเวทีสร้างเครือข่ายระหว่างกันเพื่อประโยชน์ในการร่วมกันดำเนินงานในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดนิทรรศการของกรมความร่วมมือฯ ซึ่งนำโครงการในสปป. ลาว กัมพูชา และภูฏานมาจัดแสดง และคู่ร่วมมือต่าง ๆ เช่น โครงการหลวง กรมพัฒนาชุมชนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฟาร์มทะเลตัวอย่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนำผลิตภัณฑ์จากผู้พิการมาจัดแสดงและจำหน่าย ตลอดจนหน่วยงานด้านการพัฒนาต่างประเทศเช่น USAID และ Peace Corps ของสหรัฐฯ JICA ของญี่ปุ่น KOICA ของเกาหลีใต้ GIZ จากเยอรมนี AFD ของฝรั่งเศส และ Mekong Institute (MI) และหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นการเผยแพร่การให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทั้งของไทยและที่กรมฯ ดำเนินการกับหุ้นส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยกิจกรรมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน จากคณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทยนักเรียน นิสิต นักศึกษาทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงผู้รับทุนกรมความร่วมมือฯ และสื่อต่าง ๆ

ภายในงาน ยังมีการบรรยายโดย ดร. สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณนครนิวยอร์ก เข้าร่วมงานในครั้งนี้และได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Linking Forward to Leave No One Behind” โดยได้เน้นย้ำประชาคมโลกควรร่วมมือกันแก้ไขประเด็นท้าทาย อาทิ ผลกระทบของโรคโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ (1) การแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่น ความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพเพื่อเสริมสร้างรากฐานในการยุติความยากจน (2) การแก้ปัญหาระบบการเงินโลก รวมถึงการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และ (3) การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเสริมสร้างศักยภาพให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ​

กรมความร่วมมือฯ ได้จัดให้มีการเสวนา ๒ รายการ รายการแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ “Enhancing International Development Cooperation for Sustainable Future: Working Together to Promote SDG 13 and SDG 17” โดยผู้แทนจาก TICA และคู่ร่วมมือต่าง ๆ ได้แก่ AFD, GIZ, JICA, KOICA, USAID และสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และการเสวนารายการที่สองในหัวข้อ “เปิดประสบการณ์นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่ไปประยุกต์ใช้ในต่างประเทศผ่านโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยวิทยากรที่เป็นผู้ดำเนินโครงการในต่างประเทศ เช่น ภูฏาน กัมพูชา และ สปป.ลาว มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความสำเร็จและความท้าทายในการดำเนินงาน ซึ่งในโอกาสเดียวกันนี้ กรมความร่วมมือฯ ได้เปิดตัวคู่มือการประยุกต์ใช้ SEP ในต่างประเทศ ในเว็ปไซต์ของกรมความร่วมมือฯ ด้วย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

​นอกจากนี้ กรมความร่วมมือฯ ได้มอบเข็มเกียรติคุณและประกาศนียบัตรแก่บริษัทบางจาก รีเทล จำกัด  สำหรับความร่วมมือในการต่อยอดโครงการพัฒนาเมล็ดกาแฟที่ปลูกโดยสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง TICA และ JICA จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟดริปเทพเสด็จ” ที่มีจำหน่ายที่ร้านกาแฟอินทนินซึ่งทำให้ชาวเกษตรกรกาแฟดอยสะเก็ดมีรายได้มากขึ้น “กรมความร่วมมือฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้ และหวังว่าจะสามารถนำรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อประชาชน(Public Private Partnership for People : PPPP) ไปประยุกต์กับโครงการอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต” อธิบดีกรมความร่วมมือฯ กล่าว

'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' ชวนผู้ใจบุญแบ่งปันอาหารแก่คนไร้บ้าน ย่านราชดำเนิน พร้อมเล็งปรับพื้นที่ กทม.โซนสะพานวันชาติเป็นบ้านอิ่มใจ-จุดรวมสวัสดิการ

(30 ส.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านบริเวณถนนราชดำเนิน ณ วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาคนไร้บ้านเป็นปัญหาใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีคนไร้บ้านมาอาศัยอยู่บริเวณถนนราชดำเนินค่อนข้างมาก ซึ่งช่วงโควิดระบาดมีคนไร้บ้านประมาณ 1,800 คน เมื่อมิถุนายน 2565 ลดลงเหลือประมาณ 1,200 คน ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณถนนราชดำเนินเป็นหลัก และตรอกสาเก ด้านหลังถนนราชดำเนิน และมีบ้างที่คลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งที่ราชดำเนินค่อนข้างเยอะเพราะมีผู้ใจบุญนำอาหารมาแจก และบางคนก็มีการแจกเงินด้วย 

ขอบคุณผู้ที่นำอาหารมาแจกทุกคน แต่อยากขอความร่วมมืออย่านำมาแจกที่ถนนราชดำเนิน ให้นำไปแจกในจุดกรุงเทพมหานครได้กำหนดไว้ให้ 2 จุดหลัก คือ เวลากลางวันที่บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า เลยโรงละครแห่งชาติ ตรงจุดกลับรถ ซึ่งตรงนั้นจะเป็นจุดสวัสดิการด้วย มีการจัดหางาน ตรวจคัดกรองโรค ซักผ้า เป็นต้น ซึ่งคนไร้บ้านมีสิทธิเหมือนทุกคนในการรับสวัสดิการขั้นพื้นฐาน มีการช่วยเหลือในการพิสูจน์ตัวตนเพื่อให้สามารถรับสวัสดิการต่าง ๆ ได้ด้วย ส่วนตอนเย็นแจกได้ที่จุดหลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณตรอกสาเก 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาคนไร้บ้านไม่ใช่การนำอาหารมาแจก การแก้ปัญหาคือการให้คนไร้บ้านได้สิทธิ ได้งานที่มีความมั่นคง หลายคนมีความรู้ ต้องหางานให้เพื่อที่จะได้มีรายได้ หากมีหน่วยงานที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ ส่วนกรณีมีคนไร้บ้านที่สร้างความกังวลในประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนสตรีวิทยาต้องดูแลให้เรียบร้อยโดยทุกส่วนต้องช่วยกัน ซึ่งการแก้ปัญหาไม่อยากให้เป็นระยะสั้น อยากให้ดูระยะยาว ส่วนกรณีขอทานหลายคนไม่ใช่คนไทย บางคนเช่าบ้านอยู่แต่พาลูกมาขอทานเพราะมีคนให้เงินเยอะ ซึ่งจะมีการเข้าไปดูต่อไป

รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวเสริมว่า ในอนาคตกรุงเทพมหานครจะมีการปรับพื้นที่ของกรุงเทพมหานครบริเวณสะพานวันชาติเป็นบ้านอิ่มใจ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำสวัสดิการต่าง ๆ ไปรวมอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะมีการร่วมมือกันระหว่างกรุงเทพมหานครและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คาดว่าถ้าทำเป็นระบบขึ้นน่าจะดีขึ้น

นอกจากนี้ มูลนิธิกระจกเงาได้ร่วมกับกรุงเทพมหานครในการช่วยเหลือคนไร้บ้านทั้งที่จุดสะพานปิ่นเกล้า และเรื่องอื่น ๆ เช่น โครงการจ้างวานข้า ที่เป็นการจ้างงานคนไร้บ้านเพื่อให้มีรายได้ ซึ่งจากเดือนกันยายน 2565 ถึงกรกฎาคม 2566 มีคนเข้าร่วมโครงการจำนวน 60 คน มี 30 คน ที่สามารถเปลี่ยนผ่านไปเป็นคนที่มีบ้าน มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงได้

ทั้งนี้โครงการจ้างวานข้า เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิกระจกเงาร่วมกันสำนักงานเขตพระนคร ในการจ้างงานคนไร้บ้านให้มีรายได้ เช่น การทำความสะอาด คัดแยกขยะ งานช่างทั่วไป หรือการช่วยงานในมูลนิธิกระจกเงา เป็นต้น ซึ่งในวันนี้มีคนไร้บ้านบางส่วนได้สมัครร่วมโครงการทำงานกวาดกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครด้วย

สำหรับวันนี้ มีนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้อำนวยการเขตพระนคร สำนักพัฒนาสังคม ผู้แทนมูลนิธิกระจกเงา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

‘วิว กุลวุฒิ’ ตัวอย่างนักกีฬาที่ดี รักษาวินัย-ไม่มุ่งอบายมุข

‘วิว’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกแบดมินตัน 2023 บรรลุความฝันคือการได้เป็น ‘แชมป์โลก’ และเป้าหมายใหญ่สุดคือคว้าเหรียญทองโอลิมปิก

แน่นอนว่า…กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องผ่านการฝึกฝนที่หนักและอุปสรรคมากมาย ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ การมีวินัย และจิตใจที่แน่วแน่ อีกทั้งยังต้องสูญเสียช่วงเวลาการใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปด้วย

กระจ่าง!! 'แก้เกณฑ์เบี้ยคนชรา' ลดภาระ 'คลัง-รบ.ใหม่' หลังผู้แตะวัย 60 เพิ่มพุ่ง ส่วนผู้รับเบี้ยซ้ำซ้อนก็มีอยู่มาก

เมื่อไม่นานมานี้ TikTok บัญชี @thestandardwealth ได้โพสต์คลิปบทสนทนาของ ‘คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ’ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ที่ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหา ‘เบี้ยคนชรา’ ในอีกมุมมองหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ซึ่งจะส่งผลถึงสถานะการคลัง จนต้องมีการแก้เกณฑ์เบี้ยคนชรา โดย คุณประกิต ได้เล่าให้ฟังว่า…

ถ้าบอกว่าเบี้ยคนชราตอนนี้ กระทบการคลังในปัจจุบันหรือยัง? ผมคิดว่ายัง…เพราะว่าผู้ที่เคยได้รับอยู่แล้ว ก็ยังคงได้รับต่อไป โดยเกณฑ์ใหม่นี้จะเป็นเกณฑ์ของคนที่อายุต่ำกว่า 60 ที่กําลังจะเข้าสู่อายุ 60 ที่ต้องไปรอลุ้นว่ามันมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการผู้สูงอายุเป็นคนกําหนดเกณฑ์

ทีนี้หากถามว่า แล้วทําไมต้องมีการปรับเปลี่ยนด้วย นั่นก็เพราะภาครัฐเขารู้แล้วว่า หากแนวโน้มผู้สูงอายุยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ (เพิ่มขึ้น) อนาคตตายแน่…เพราะถ้าลองคํานวณดูอัตราการเสียชีวิตของประชากรเทียบกับคนที่จะมีอายุ 60 เข้ามาเติมในระบบ มันมีช่องว่างที่น่าสนใจ โดยในแต่ละปี เราจะมีคนที่อายุ 60 เข้ามาสู่ระบบราวๆ 8-9 แสนคน ขณะเดียวกันประชากรที่เสียชีวิตในแต่ละปีมีอยู่ประมาณ 5-6 แสนคน แปลว่าจะมีช่องว่างจากผู้ที่ไม่ได้รับเบี้ย 900,000 – 600,000 อยู่ที่ประมาณ 3 แสนกว่าคน”

แล้วในอนาคตตัวเลขก็จะไปในทิศทางนี้ คือ การเติมผู้ได้รับสิทธิเข้ามาเฉลี่ยปีละ 6 แสนบ้าง 7 แสนบ้าง 8 แสนคนบ้าง ซึ่งนั่นแปลว่าภาระของรัฐบาลจะมีเพิ่มมากขึ้น การคลังของเราจะเจอปัญหาหนักมาก นั่นก็เพราะในอดีตเรากู้มาเยอะตอนดอกเบี้ยต่ำ แต่ในอนาคตดอกเบี้ยมันอาจจะสูงขึ้น หากมีการเดินหน้าโครงการต่อไปในขณะที่ดอกเบี้ยต่ำ ก็ยังไม่มีปัญหา แต่ในอนาคตเมื่อภาระดอกเบี้ยตรงนี้มันสูงขึ้นเมื่อไร รัฐบาลก็ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นตาม

ฉะนั้นการปรับแก้เกณฑ์ของรัฐบาล (ประยุทธ์) จึงเหมือนกับยอมที่จะโดนด่าแต่เนิ่นๆ เพราะเขามองออกว่าถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาดูแลต่อลําบากแน่ๆ จึงต้องรีบจัดการตั้งแต่ตอนนี้”

นอกจากนี้ การแก้เกณฑ์ดังกล่าว มันเป็นการเข้าไปเขย่าปัญหาหมักหมมของตัวเบี้ยผู้สูงอายุในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเดิมมีผู้รับเบี้ยซ้ำซ้อนเยอะ หลายคนได้รับสวัสดิการด้านอื่นๆ อยู่แล้ว ได้รับบําเหน็จบํานาญด้านอื่นๆ และก็ยังขอตัวเบี้ยผู้สูงอายุ ซ้ำๆ เติมๆ เข้าไป เพราะเกณฑ์ก่อนที่จะมีการแก้ไข มันมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับอย่างไม่ละเอียดมากพอ

การล้างไพ่ใหม่ แล้วตรวจสอบสิทธิใหม่ จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาคิดว่าต้องๆ ทำและต้องแก้ไข ดังนั้น อย่าเพิ่งไปมองว่าเราจะไม่ได้หรือคนที่สูงอายุ 60 ปี จะไม่ได้สิทธิ เขาแค่อยากจะล้างเกณฑ์เดิม เพราะว่ามันมีช่องโหว่อยู่ เพื่อไม่ทำให้เกิดการรับเบี้ยซ้ำซ้อน จนกระทบภาวะการคลัง ซึ่งจะทำให้ในอนาคตระยะยาวผู้ที่ควรได้รับสิทธิที่เหมาะสมจริงๆ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้า “สร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน ในโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการภาคอีสานร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี

วานนี้ (วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ  เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ  นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม และนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ   ร่วมในพิธีมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี (จังหวัดที่ 6 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 27 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 672,755 บาท (หกแสนเจ็ดหมื่นสองพันเจ็ดร้อยห้าสิบห้าบาทถ้วน)  เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ ”บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และนายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  และคณะมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีร่วมในพิธี ณ บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

พร้อมกันนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น  และบริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก

โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน  ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  

ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม ซึ่งปัจจุบันทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ลงพื้นที่มอบไปแล้วรวมทั้งสิ้น 6 จังหวัด 147 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,070,105 บาท (สามล้านเจ็ดหมื่นหนึ่งร้อยห้าบาทถ้วน)

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung  

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชันและสายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘เสก โลโซ’ ยกลิขสิทธิ์เพลง ‘ก้าวให้ไกลกว่าเดิม’ เป็นของคนไทยทุกคน  ลั่น!! ‘นำไปร้องใหม่-เล่นในผับ-คัฟเวอร์’ ทำได้ตามสบาย ฟรีไม่เสียตังค์

เมื่อวานนี้ (29 ส.ค. 66) 'เสก โลโซ' นักร้องชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แจ้งแฟนคลับว่า “ผมขอมอบลิขสิทธิ์เพลงก้าวให้ไกลกว่าเดิมให้เป็นของประชาชนคนไทยทุกๆ คน ท่านสามารถนำไปร้องใหม่ บันทึกเสียงใหม่ เล่นในผับ คัฟเวอร์ ฯลฯ ได้เลยตามสบายครับ”

จากนั้นได้โพสต์ลิงก์มิวสิควิดีโอ พร้อมข้อความว่า “เพลงนี้เป็นเพลงของประชาชนคนไทยทุกคน ท่านสามารถนำไปขับร้องใหม่ บันทึกเสียงใหม่ นำไปคัฟเวอร์ ไปเปิด ไปเล่นในผับ ฯลฯ ฟรีเลยจ้าาา…”

โดยเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ‘เสก โลโซ’ ได้แต่งเพลงดังกล่าวขึ้น เพื่อให้กำลังใจพรรคก้าวไกล หลังพรรคเพื่อไทยแถลงฉีก MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่ง ‘เสก โลโซ’ ได้ร้องสดให้กับแฟนคลับได้ฟังผ่านทางเฟซบุ๊ก กระทั่งล่าสุดมีการทำเป็นมิวสิควิดีโอ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้กำกับดูแลและเร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาท โดยใช้การบังคับใช้กฎหมายนำการเจรจา ใช้การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมการปกครอง กรมธนารักษ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำเอาพื้นที่ถนนที่ประชาชนใช้ในการสัญจรคืนกลับมาให้กับชุมชนได้ นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อแก้ไขการพิพาทเรื่องที่ดินให้ถูกต้อง รวมทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของชาวเลในพื้นที่เช่น การทำประมงพื้นบ้านในพื้นที่อุทยาน การตรวจสอบรังวัดที่ดินที่ถูกรุกล้ำเพื่อคืนพื้นที่ให้กับชาวบ้าน เป็นต้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 ส.ค.66) เวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล พร้อมด้วย นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ต.ท.ประวุฒิ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกรรมการสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ โดยในที่ประชุมวันนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเรือประมงพาณิชย์ซึ่งลักลอบทำประมงในเขตอุทยานจำนวน 15 คดี ได้มีการออกหมายเรียกเจ้าของเรือ ไต๋เรือ และลูกเรือทั้งหมดแล้ว และได้ตรวจยึดเรือประมงของกลางรวม 26 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ อีก 2 ลำกำลังเตรียมการส่งมอบให้เรียบร้อย ในส่วนของการดำเนินคดีกับบุกรุกพื้นที่อุทยานนั้น หลังจากที่ได้ดำเนินการรังวัดพื้นที่โดยชัดเจนเรียบร้อยแล้วนั้น จะพิจารณาหากพบมีส่วนพื้นที่ใดที่ล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยาน ทางกรมอุทยานจะร้องทุกข์ดำเนินคดีทุกจุดต่อไป ในส่วนของโรงแรมที่พักต่างๆ จะมีการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรงแรมทั้งหมด และจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจนแล้วเสร็จ นอกจากนี้จะยังมีการพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากพบการกระทำผิดดังกล่าวจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทั้งหมด หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจลำรางสาธารณะ และพบปะชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะนั้น ในวันนี้ได้มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ซึ่งหลายส่วนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว อาทิ คดีการลักลอบทำประมงในเขตอุทยาน ได้มีการตรวจยึดมาแล้วใกล้จะครบ 28 ลำ และจะติดตามผุ้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ครบถ้วน ส่วนของการบุกรุกพื้นที่อุทยาน ขณะนี้การรังวัดดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จะเห็นภาพชัดเจนว่าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ซึ่งกรมอุทยานจะร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนนี้ทั้งหมด รวมถึงในส่วนของโรงแรมบนพื้นที่ที่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงแรม ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดเช่นกัน หลังจากนี้จะเริ่มพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีไม่มียกเว้นให้ถึงที่สุด จากนั้นจะดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูพื้นที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่และประเทศชาติต่อไป

ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่ข้าราชตำรวจนักกฎหมาย สำนักงานกฎหมายและคดี ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (29 ส.ค.66) เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ข้าราชการตำรวจ สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) จำนวน 3 นาย ได้แก่ พ.ต.ท.หญิง กัณฑิมา วงศ์ประธาน , ร.ต.อ.นัทธนธรณ์ ปิ่นนาค และร.ต.อ.หญิง ชมบงกช ธนาภรณ์พิบูล

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล”  นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือข้าราชการตำรวจสังกัด สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) จำนวน 3 นาย "ทำความเห็นขอให้ฟ้องผู้ต้องหา จนอัยการสูงสุดมีความเห็นสอดคล้องสั่งฟ้องผู้ต้องหา"ด้วย คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีความผิดนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, เสนอขายฉลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา, โฆษณาอันเป็นเท็จหรือเกินจริงเป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และประกอบธุรกิจตลาดแบบขายตรงโดยไม่ได้จดทะเบียนฯ โดยได้ดำเนินคดีสั่งฟ้องบริษัทจำหน่ายสลากกินแบ่งผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 3 คดีโดย ในชั้นพนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและได้ส่งสำนวนกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามกฎหมาย ข้าราชการตำรวจ สำนักงานกฎหมายและคดี ทั้ง 3 ราย จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม สรุปข้อเท็จจริง ประกอบกับข้อกฎหมาย และทำความเห็นขอให้ฟ้องผู้ต้องหา นำเรียนอัยการสูงสุด จนอัยการสูงสุดเห็นด้วยและมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 คดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 นาย ได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะทุ่มเทความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความละเอียดรอบคอบ เอาใจใส่ต่อหน้าที่เป็นอย่างดี สมควรแก่ การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ "ทำดีมีรางวัล" เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 15,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

ผบ.โรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทนักเรียนนายเรือ ก่อนเดินทางเข้าร่วมการฝึกปฏิบัติ ในทะเลกับกองทัพเรือจีน

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 เวลา 09.00 น. พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทแก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 จำนวน 2 นาย ได้แก่ นักเรียนนายเรือ จีรยุทธ วงศ์ไตรรัตน์ และนักเรียนนายเรือ อดิพงษ์ สงฆ์เจริญ ซึ่งเคยเข้ารับการศึกษาที่สถาบันการทหารเรือ ต้าเหลียน เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ของกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นระยะเวลา 3 ปี ณ ห้องรับรอง 2 กองบัญชาการโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับในการฝึกปฏิบัติในทะเล บนเรือของกองทัพเรือจีนในครั้งนี้ จะทำการฝึกตามเส้นทาง ฐานทัพเรือเมืองชิงต่าว  มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึง เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกีนี ถึง กรุงซูวา สาธารณรัฐฟิจิ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 - 8 ตุลาคม 2566 ระยะเวลา 38 วัน

การส่งนักเรียนนายเรือ เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติบนเรือของกองทัพเรือจีน ทำให้นักเรียนนายเรือ ได้รับประสบการณ์การเดินเรือในทะเลต่างประเทศ และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน

‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ ร้านเด็ดเมืองนราฯ ตรงปก ไม่จกตา!! คัดเนื้อพิเศษ เกรดพรีเมียม การันตีคุณภาพ เปิดขายมากว่า 40 ปี

(29 ส.ค. 66) ใครที่ไปเที่ยวจังหวัดนราธิวาส แล้วยังมองหาร้านทุเรียนในจังหวัดนราธิวาสยังไม่เจอ มาทางนี้ เราจะพาไปกินทุเรียนอร่อยๆ แบบเน้นๆ แบบเนื้อๆ ที่เลือกทานได้และไม่ต้องไปหาไกลหรือสั่งทางไลน์จากต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อเวลาสั่งเรายังไม่รู้เลยว่าจะตรงปกหรือเปล่า

ขอแนะนำร้านนี้เลย ‘ร้าน Ana Nuria คนรักทุเรียน’ เป็นร้านที่เปิดขายที่สืบทอดมาจากพ่อแม่กว่า 35 ปี น้องเรียนจบปริญญาก็รับช่วงต่อ เพราะเป็นความผูกพันช่วยพ่อแม่ขายตั้งแต่เด็กๆ และช่วยเหลือครอบครัวเพราะน้องเขามีพี่น้องร่วม 10 คน และอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพหลักของครอบครัว หลังจากที่พ่อเสียไปจึงฝากให้คนในครอบครัวได้สืบทอดการขายต่อ จึงการันตีได้ว่า ร้านนี้เป็นร้านคนที่รู้จักความอร่อยเรื่องทุเรียนได้จริงๆ

‘นูรียา เจะสนิ’ เจ้าของร้าน ‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ ถ่ายทอดไอเดียว่า…

“เริ่มแรกจากการขายทุเรียนจากพ่อกับแม่ก่อนและก็มาสู่รุ่นลูก คือตั้งแต่พ่อกับแม่แต่งงานมาประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว พ่อกับแม่เป็นพ่อค้า แม่ค้า ขายผลไม้โดยทั่วไปและทุเรียนด้วย เฉพาะในฤดูกาล และก็ตอนนี้จะเป็นรุ่นหนูจะเปิดประมาณ 7-8 ปี ตั้งแต่ปี 2559 จนตอนนี้เป็น ปี 2566 ของเราจะขายตลอดทั้งปี ตั้งแต่ทุเรียน จันทบุรี ชุมพร ยะลาและก็มานราธิวาสด้วย ขายทุเรียนทุกสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี ก้านยาว และมูซังคิง จากอำเภอเบตง จะมีแบบขายเป็นลูก และแบบแกะเนื้อและก็จะมีแบบเสริม ข้าวเหนียวทุเรียนแต่ก่อนจะเป็นข้าวเหนียวทุเรียนแบบธรรมดา แต่ตอนนี้ จะเป็นทุเรียนแบบยัดไส้ และแกะเนื้อ ถ้าใครที่ผ่านมา อยากกินทุเรียนอร่อยๆ คัดเกรด เราคัดเนื้อพิเศษๆ อร่อยสวยทุกลูก”

พิกัดร้านสาขา 2 เยื้องโรงพยาบาลราษฎ์บำรุงนราธิวาส ทางไปตันหยงมัส และสาขา 1 อยู่เต๊นซ้ายมือฝั่งเดียวกันกับแขวงการทางหลวงนราธิวาส โทร. 085-8726172 เฟซบุ๊ก ‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ เปิดร้านเวลา 10.00-22.00 น. ขายทุกวัน สำหรับคนในพื้นที่เทศบาลเมืองนราธิวาส เรามีบริการสั่งทางเพจ บริการส่งถึงที่

‘คาเฟ่ดังเขาใหญ่’ ประกาศยกเลิกให้ ‘ถ่ายพรีเวดดิ้ง’ ฟรี หลังเจอลูกค้าไร้มารยาท ผิดกฎ เสียงดังรบกวนลูกค้าท่านอื่น

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. เพจ ‘Bucolic Khaoyai’ ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ชื่อดังเขาใหญ่ ได้ออกมาโพสต์ประกาศยกเลิกการให้ ‘ถ่ายพรีเวดดิ้ง’ ฟรี หลังให้ถ่ายฟรีมานานกว่า 4 ปี เนื่องจากลูกค้าที่มาใช้บริการไม่ปฏิบัติตามกฎ โดยทางเพจระบุข้อความว่า…

"ประกาศ ทางร้านขอยกเลิกการให้ถ่ายพรีเวดดิ้งฟรี นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ เราให้ถ่ายฟรีมา 4 ปีแล้ว โดยมีเงื่อนไขให้ปฏิบัติตาม แต่หลาย ๆ ท่านชอบต่อรองเยอะ แล้วก็ไม่ทำตามกฎระเบียบกัน เช่น

- หลอกว่าทีมเล็ก ไม่เกิน 5 คน พอมาถึงจริง ขนมา 10 กว่าคน พร็อพเต็มรถ (เคสแบบนี้เจอเยอะสุด)

- บอกว่ายอมรับเงื่อนไข แต่พามาถึงจริง แหกทุกกฎ ทั้งเปลี่ยนชุด ทั้งไม่ยอมสั่งครบคน แล้วมาบ่นกรูว่ากฎเยอะ (ลืมไปหรือเปล่าว่าถ่ายฟรี)

- กรี๊ดกร๊าดเสียงดัง เหมือนหมูจะถูกเชือด บิลต์อารมณ์ถ่ายรูปกันตรึมเจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊ง

- วางสิ่งของอุปกรณ์ ร่มถ่ายภาพ ไฟ ขาตั้ง เกะกะ ตามพื้น ตามสนามหญ้า โยกย้ายโต๊ะเก้าอี้ไปทั่ว แล้วไม่เก็บตอนใช้เสร็จ

- ถ่ายอยู่ครึ่งวัน น้ำคนละแก้ว มันมีจริง ๆ นะ เอาของกินข้างนอกเข้ามากินอีก

- ไม่แบ่งมุมถ่ายรูปให้ลูกค้าอื่น เห็นลูกค้าอื่นยืนตากแดดรอคิวแล้วสงสารมาก

เพราะงั้นต่อจากนี้เป็นต้นไป หากเดินเด๋อด๋าใส่ชุดเจ้าสาวเต็มยศเข้ามา ชม.ละ 3,000 นะคะ นะคะ นะคะ จำไว้! ไม่ใจดีแล้วค่ะ ส่วนนักศึกษาถ่ายชุดครุยฟรีเหมือนเดิม เพราะพี่รักเด็ก"

ภายหลังจากโพสต์ไปแล้ว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top