Wednesday, 14 May 2025
NEWS

‘กรมควบคุมโรค’ ห่วงสถานการณ์ ‘ฝีดาษวานร’ ในประเทศ พร้อมเผย เดือน ส.ค. เยาวชนติดเชื้อไปแล้ว 16 ราย

(3 ก.ย. 66) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดของโรคฝีดาษวานร (Monkey pox) หรือ Mpox ในประเทศไทย ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 ราย (เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง) เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมากถึง 271 ราย ร้อยละ 85.8 และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 143 ราย ร้อยละ 45.3 มีสัญชาติไทย 277 ราย ชาวต่างชาติ 36 ราย ไม่ระบุ 3 ราย

“ในจำนวนผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 198 ราย จ.ชลบุรี 22 ราย จ.นนทบุรี 17 ราย และ จ.สมุทรปราการ 12 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี จำนวน 152 ราย รองลงมา อายุ 20-29 ปี จำนวน 85 ราย กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี จำนวน 28 ราย ซึ่งกลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” นพ.ธเรศ กล่าวและว่า จากการติดตามสถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลัง พบการระบาดอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 ราย เดือนมิถุนายน 48 ราย เดือนกรกฎาคม 80 ราย และเดือนสิงหาคมได้รับรายงานเพิ่มอีก 145 ราย เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย และรับเชื้อภายในประเทศ ในจำนวนนี้มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการรุนแรงและติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อน

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat (ชื่อการค้า TPOXX) จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยะแรกของการแพร่เชื้อฝีดาษวานรในประเทศไทยกลุ่มเสี่ยงเป็นชายวัยทำงาน แต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษวานรเพิ่มมากถึง 16 ราย

“โดยมีรายงานจากทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (สคร.) จ.ชลบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชลบุรี และหน่วยงานในพื้นที่ สอบสวนผู้ป่วยยืนยันฝีดาษวานรรายหนึ่งเป็นนักเรียนชาย อายุ 16 ปี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย ร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษวานร  ประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน ดำเนินการติดตามอาการของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านจนครบ 21 วันนับตั้งแต่วันที่นับจากวันสัมผัสผู้ป่วยวันสุดท้าย ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน” นพ.โสภณ กล่าว

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ดังนั้น ขอย้ำเตือนเยาวชนเเละกลุ่มชายรักชายให้งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่สัมผัสใกล้ชิดเนื้อเเนบเนื้อ หรือกอดจูบกับผู้ที่ไม่รู้จัก

“เวลานี้สถานการณ์ผู้ป่วยในไทยเริ่มแพร่ระบาดจากกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น ไปสู่กลุ่มที่อายุน้อยลงได้แก่เยาวชนวัยเรียนเเล้ว ขอให้ตระหนักว่า เยาวชนต้องป้องกันตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรค โดยสังเกตรอยโรค อาการเเสดง เเละสังเกตดูผิวหนังตามร่างกายของคู่นอน ว่ามีผื่นแบนหรือนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนองเเละตกสะเก็ด มักพบตามอวัยวะเพศรอบทวารหนัก แขน ขา หรือฝ่ามือฝ่าเท้า ลำตัว ศีรษะ ก่อนหน้าจะเกิดอาการมักมีไข้ร่วมกับอาการอื่น เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง” นพ.โสภณ กล่าว

หากสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา พร้อมกับแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัว ที่พัก หรือสถานที่ทำงาน ไม่รับประทานดื่มน้ำด้วยภาชนะร่วมกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ช่วงป่วย การรักษาความสะอาดทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนอนเครื่องใช้แยก ใช้สุขาแยก หรือ ทำความสะอาดด้วยการเช็ดน้ำยาทำลายเชื้อกลุ่มสารซักฟอก เช่น ไฮโปคลอไรต์ น้ำสบู่ เป็นต้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

‘คุณหญิงแมงมุม’ ฮึดสู้!! ลุกจากเตียง เริ่มทำกายภาพบำบัด โซเชียลแห่ส่งกำลังใจ พร้อมบอก “ดีใจที่ได้เห็นภาพนี้”

(3 ก.ย. 66) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หลายคนส่งกำลังใจให้อยู่ตลอด สำหรับ ‘คุณหญิงแมงมุม’ หรือ ‘ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล’ หลังป่วยหนักมานานหลายปี ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ และต้องอยู่บนเตียงรถเข็นตลอด โดยมีคุณสามี ‘นายพลดอลล่าร์’ คอยดูแลอยู่เคียงข้างอย่างใกล้ชิดไม่ขาดตกบกพร่อง

โดยล่าสุด ‘นายพลดอลล่าร์’ ก็ได้เผยภาพล่าสุดของ ‘คุณหญิงแมงมุม’ ขณะทำกายภาพบำบัด โดยได้ลุกขึ้นจากเตียงแล้ว และยังได้ออกกำลังกายด้วยจักรยานปั่นมือ พร้อมกับระบุแคปชันว่า "No pain, no gain"

ทั้งนี้ หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ได้มีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้ทั้งคู่ มีคนที่บอกว่า "เห็นลุกได้ พี่ดีใจ" และมีคนเข้ามาชื่นชมคุณหญิงแมงมุมว่าเก่งมากๆ ขอให้สู้ๆ และแข็งแรงขึ้นไวๆ อีกด้วย

‘โครงการจ้างวานข้า’ โอกาสสร้างงาน-รายได้ของ ‘คนไร้บ้าน’ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างชีวิตใหม่ด้วยอาชีพที่สุจริต

(3 ก.ย. 66) ถ้าใครติดตามมูลนิธิกระจกเงาจะเห็นโครงการ ‘จ้างวานข้า’ ที่พยายามสร้างแนวร่วมเติมเต็มการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน คนจนเมือง ที่นอกเหนือจากการนำอาหารมาแจกหรือมอบความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่เน้นสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนเหล่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสำหรับตัวเองและครอบครัว สร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่สามารถรับผิดชอบดูแลตัวเองด้วยการมีอาชีพ

โครงการจ้างวานข้าเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไร้บ้านดีขึ้น ไปไกลถึงปรับเปลี่ยนจากคนไร้บ้านเป็นคนมีบ้านมีที่อยู่ที่มั่นคงขึ้น เริ่มต้นหลังจากโควิด ที่ส่งผลให้จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น  มีปัญหาคนที่ออกมาเป็นคนไร้บ้านหน้าใหม่ ด้วยแนวความคิดว่า การสร้างงานเป็นเครื่องมือที่ดี

เบญจมาศ พางาม เจ้าหน้าโครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงที่มาและทิศทางในการผลักดันแก้ปัญหาคนไร้บ้านให้เกิดความยั่งยืนว่า มูลนิธิอยากแก้ปัญหานี้จึงเปิดพื้นที่ให้คนไร้บ้านและคนจนเมือง รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวอยู่ห้องเช่าราคาถูก ซึ่งพร้อมหลุดออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะแบบคนไร้บ้าน เพราะอยู่ด้วยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ไม่มีรายได้พอ โดยโครงการ ‘จ้างวานข้า’ จะทำให้พวกเขามีรายได้ เริ่มแรกปี 63 หาสมาชิกเข้าโครงการจากจุดแจกอาหารฟรีสภาสังคมสงเคราะห์ ใครกำลังหางานให้มาสมัครลงทะเบียนกับมูลนิธิฯ จากแรกเริ่มมี 20 คน เราทำงานต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกอยู่ที่ 150 คน สัดส่วนร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ ที่เหลือเป็นคนไร้บ้านอายุ 40-50 ปี

งานที่มูลนิธิฯ ให้ทำมีหลายรูปแบบ เป็นกลุ่มคนไร้บ้านที่ทำงานร่วมกับสำนักงานเขต 16 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปรับงานทำความสะอาดเมือง เช็ดล้างสะพานลอย ตัดแต่งกิ่งไม้ ไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่สาธารณะ งานคัดแยกขยะ ร่วมกับพนักงานรักษาความสะอาด พนักงานกวาดถนน กทม.ส่งมอบความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุง บางคนมีศักยภาพ เคยเป็นช่างไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างคอมพิวเตอร์ หรือเคยทำงานเป็นแม่บ้านสามารถพัฒนาฝีมือต่อได้  เรานำเข้ามาทำงานในมูลนิธิฯ เพื่อให้ได้ใช้ทักษะนั้น

ส่วนอีกรูปแบบจะเป็นการทำความสะอาดในบ้าน กลุ่มจ้างวานข้ารับเคลียร์ของในบ้าน ในตึกแถวที่เจ้าของบ้านไม่ต้องการแล้ว ของที่ไม่ใช้มูลนิธินำไปส่งต่อหรือเป็นขยะเชื้อเพลิง ไม่ได้ทิ้งกองขยะข้างทาง ทั้งยังเกิดการต่อยอดเป็นโครงการ ‘ชรารีไซเคิล’ กลุ่มคนไร้บ้านสูงวัยจะทำการคัดแยกขยะพลาสติก อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด เพื่อนำมาสู่กระบวนการรีไซเคิล งานคัดแยกขยะเหมาะกับผู้สูงอายุ ไม่ต้องใช้แรงเยอะเท่ากับงานจ้างวานข้า ไม่ต้องทำงานในพื้นที่สาธารณะ แต่ก็สามารถหารายได้ มีเงินสะสม เลี้ยงดูตัวเอง

“คนไร้บ้าน ผู้สูงอายุจะได้รับรายได้ ค่าจ้างเป็นวัน ถ้าทำงานในพื้นที่สาธารณะ ตั้งแต่เวลา  8.00-12.00 น. คนละ 400 บาท ถ้าทำงานกับทางมูลนิธิฯ ตั้งแต่เวลา  9.00-16.00 น. คนละ 500 บาท ส่วนแม่บ้านทำความสะอาดมีเงื่อนไขต้องจ้างงาน 3 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงละ 250 บาทต่อคน เราส่งเสริมให้พวกเขามีงานทำอย่างต่อเนื่อง อยากให้มีรายได้ดูแลตัวเอง และหลายคนต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวด้วย” เบญจมาศ กล่าว

จากแพลตฟอร์ม ‘จ้างวานข้า’ มีภาคเอกชนที่เห็นประโยชน์ของโครงการสร้างงาน สร้างโอกาส เกิดความร่วมมือระหว่าง Q-CHANG (คิวช่าง) กับมูลนิธิกระจกเงา ด้วยการว่าจ้างกลุ่มช่างที่เป็นคนไร้บ้านที่พอมีทักษะอาชีพช่าง หรือว่า ‘ช้าการช่าง’ ในโครงการจ้างวานข้าของมูลนิธิฯ มาทาสีศูนย์ฝึกอบรม Q-CHANG ACADEMY รวมถึงเปิดโอกาสให้ช่างของทางมูลนิธิเข้ามาอบรมในศูนย์ฯ ฟรี เพื่อ Reskill ให้แก่กลุ่มช่างสูงอายุ คนไร้บ้าน คนยากจน และนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดอาชีพช่างเพื่อชีวิตทุกวันช่างง่าย” ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของช่างให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังได้นำกลุ่มช่างสูงอายุ คนไร้บ้าน กลับคืนสู่ตลาดแรงงานเพื่อสร้างรายได้ เป็นตัวอย่างการคอลแลบที่ดี จนคว้ารางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Excellence Awards หรือ CE Awards) ประจำปี 2566 จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สาขา Creative Business Awards ประเภท Cross-Sector Collaboration Awards

เบญจมาศ บอกถึงโมเดล ‘ช้าการช่าง’ เป็นกลุ่มช่างสูงอายุคนไร้บ้านรับงานทาสีอย่างเดียวในเบื้องต้น เป็นพื้นที่รวบรวมแหล่งจ้างงานสำหรับคนสูงวัยให้สามารถมีรายได้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อนาคตต่อไปอาจขยับขยายในงานช่างประเภทอื่นๆ เช่น งานปูน งานซ่อมแซม งานตกแต่ง ก่อกระเบื้อง ปูกระเบื้อง ไปจนถึงช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างล้างแอร์ แต่ไม่ได้รับงานใหญ่ เป็นงานตามบ้าน เพราะกลุ่มผู้เปราะบางผู้สูงอายุมีเงื่อนไขกว่าที่มากกว่าคนทั่วไป ช้า การช่าง มาจากแนวคิด ประกอบด้วย ช้า สื่อถึง ผู้สูงอายุ ถ้างานร้อน งานเร่ง อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าซ่อมแซมทาสีปกติ จ้างแรงงานช้าการช่างได้เลย คนไร้บ้านต้องการการสนับสนุนจากสังคม

“เรายังมีโปรแกรมจากคนไร้บ้านสู่มีบ้าน มูลนิธิฯ จะหาห้องเช่า ช่วยสนับสนุนค่าเช่าเดือนแรก ค่ามัดจำให้ จากนั้นคนไร้บ้านต้องรับผิดชอบดูแลค่าเช่าเอง ปัจจุบันมีคนเปลี่ยนผ่านแล้ว 60 คน   พวกเขาได้มีห้องอยู่ ไม่ต้องนอนข้างถนนเหมือนแต่ก่อน มีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น” เบญจมาศ กล่าว

อนาคตเธอระบุว่า อยากเห็นการเติบโตของทุกโครงการทั้งจ้างวานข้า, ชรารีไซเคิล, ช้าการช่าง ที่ขยายขึ้น สามารถรองรับผู้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น อยากให้คนไทยสนับสนุนเกื้อกูลการจ้างงานคนไร้บ้าน เพื่อให้กลุ่มจ้างวานข้าได้งานทำ ได้พัฒนาตัวเอง และมีรายได้ เพื่อใช้ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น เราจะสร้างความตระหนักให้สังคมเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ไร้บ้าน นำกลุ่มผู้ไร้บ้านให้กลับเข้ามาอยู่ในการคุ้มครองของมูลนิธิฯ

อดีตชายไร้บ้านเปิดใจผ่านเพจจ้างวานข้า ข้อความว่า “คุณรู้ไหม ผมโชคดีมากนะที่ได้ห้องเช่า ช่วงนี้พายุเข้าพอดี ไม่งั้นต้องไปหลบหาที่นอนแบบชื้นๆ นอนเบียดกับคนอื่น โคตรลำบากเลย” เป็นหนึ่งในคนไร้บ้านที่ได้ห้องเช่า ได้ชีวิตใหม่

สนใจให้การสนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแจ้งพื้นที่ให้กลุ่มจ้างวานข้า ไปทำความสะอาด ได้ที่ Facebook มูลนิธิกระจกเงา หรือ จ้างวานข้า

เปิดมุมน่าคิด ธุรกิจที่สำเร็จส่วนใหญ่ มักจะมีโชคช่วย แต่หากไม่ทำงานหนัก โชคเหล่านั้นก็จะไม่มาหา

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @ckfastwork หรือ ‘CK Cheong’ CEO แห่งบริษัท Fastwork.co ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับธุรกิจจะสามารถสําเร็จได้ ต้องพึ่งโชคอย่างเดียวหรือเปล่า โดยระบุว่า…

“ถูกส่วนหนึ่งครับ…ธุรกิจที่สําเร็จมักจะมีโชค แต่ถ้าคุณไม่ทำงานหนักก็จะไม่มีโชค เนื่องจากโชคมันเกิดขึ้นสําหรับคนที่พร้อมทุกวัน หากนอนดู Netflix ทั้งวันก็คงไม่มีโชคมาหรอกครับ…คนที่โชคดีคือคนที่ออกไปตามหามันทุกวัน ทํางานเหนื่อยมากๆ ทุกวัน 4-8 ปี ทุกวันทําเหมือนเดิม สักวันหนึ่งใน 5-6 ปีนั้นก็จะมีโชคดีเข้ามา”

“แต่ถ้าคุณไม่ตื่นมาตามหามันทุกวัน หรืออาจตามหาบ้าง ไม่ตามหาบ้าง ชิลบ้าง พักผ่อนบ้าง โชคก็ไม่มาหรอกครับ…โชคไม่ลอยมาจากท้องฟ้า เรายังต้องไปตามหามัน โชคมันมีกับทุกคน และเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่เรายังคงต้องออกไปตามหามันอยู่”

“โชคก็เหมือนกับ ‘โปเกมอน’ เรายังต้องตามหา เพราะมันไม่เดินเข้ามาหาเรา ดังนั้น 'โชค' คือสําหรับคนที่พร้อมในการตามหาทุกวัน แต่ก็ถูกครับ…ธุรกิจที่สําเร็จได้ก็ต้องมีโชค”

'อ.เทพมนตรี' ดึงสติ!! คนรักเจ้ามิใช่แค่เปล่งเสียงคำว่า "ทรงพระเจริญ" แต่จง 'รัก-สรรเสริญ' อย่างเข้าใจใน 'ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา-กาลเวลา'

(3 ก.ย. 66) อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 'Thepmontri Limpaphayorm' ว่า...

อยากบอกคนรักเจ้า ราชาธิปไตยที่มีพระราชภาระ

คนรักเจ้ามิใช่แค่เปล่งเสียงคำว่าทรงพระเจริญ แต่ต้องรักเจ้าบนพื้นฐานความเข้าใจทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของราชวงศ์ ทั้งขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณี ทั้งรัฐธรรมนูญ เลือดขัตติยะ และพระราชสถานะ กาลเวลาปัจจุบันสมัย

ใครที่รักเจ้าแค่เปล่งเสียงทรงพระเจริญแล้วมาอ้างสิทธิ์จะไม่เอาอย่างนั้น จะเอาอย่างนี้ พอเจ้าทำอะไรไม่พอใจก็ใช้สิทธิ์ อภิสิทธิ์ที่ได้เปล่งเสียงทรงพระเจริญมาด่าทอ ทำตัวสิ้นศรัทธา เขาไม่ได้เรียกว่า รักเจ้า

นอกจากนี้คนประเภทที่ว่าจัดอยู่พวกที่มิได้ศึกษาหาความรู้จริง แม้แต่รัฐธรรมนูญและพระราชอำนาจในรัฐธรรมนูญที่เจ้ามีอยู่อย่างจำกัด ก็ยังไม่พยายามทำความเข้าใจ หรือได้อ่านหรือเปล่าไม่ทราบ

นี่แหละคนรักเจ้าที่อ้างสิทธิ์ อภิสิทธิ์กัน แท้ที่จริงเขาไม่ได้รักเจ้าแต่รักตัวเอง โดยอ้างว่าเจ้าต้องมีความเป็นธรรม ต้องยุติธรรม ต้องเป็นแบบอย่าง

ถ้าเขาได้ศึกษาอย่างถ่องแท้แแล้ว เขาจะเข้าใจ ดูตัวอย่างในหลวงรัชกาลที่ 7 กับคณะราษฎร

เมื่อคณะราษฎรก่นด่าพระองค์ท่านชนิดป่าวประกาศไปทั่วขยายผลลงด่าในหนังสือพิมพ์ พระองค์ท่านก็มีวิริยะอุตสาหะที่จะอุเบกขา คนในคณะราษฎรก็ไม่เข้าใจว่าพระองค์ท่านทำไมทรงวางพระราชหฤทัยเช่นนั้น นั่นก็เป็นเพราะทรงมีพระราชภาระอันยิ่งใหญ่กว่าใครๆ การได้รับพระราชมรดกให้ดำรงสถานะเป็นพระมหากษัตริย์เหนือผู้คนทั้งผอง มันหนักหน่วงเสียยิ่งกว่า

คนทั่วไปจึงไปคิดแต่เพียงว่าพระองค์ท่านทรงร่ำรวยแต่เปล่าเลยนั่นน่ะเป็นพระราชภาระ ลดลงไม่ได้ สูงกว่าไม่ได้

เมื่อมีสายพระโลหิตเป็นเลือดขัตติยะ จำต้องคำนึงถึงบ้านเมืองประเทศชาติ และความรักที่มีต่อพสกนิกรเสียยิ่งกว่าใครๆ

พระมหากษัตริย์ที่รับพระราชมรดกต้องรักษาพระราชวงศ์ ต้องรักษาซึ่งปฐมบรมราชโองการที่ตกทอดกันมาตั้งแต่รัชกาลต้น

การทำให้ราชวงศ์และพระนครล่มสลายเป็นตราบาปที่ไม่มีสิ่งใดมาลบล้างออกไปได้ เช่นเดียวกันกับกรณีกรมขุนอนุรักษ์มนตรี หรือพระเจ้าเอกทัศ ที่คนไทยยังจดจำว่าเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์อยุธยา ที่ทำให้ราชวงศ์ล่ม อยุธยาแตกพ่าย

จนพวกเราจำกันจนถึงทุกวันนี้และตราบนานเท่านาน…

ดังนั้นการรักเจ้า มิใช่เพียงแค่เปล่งเสียงทรงพระเจริญเท่านั้น เพราะพวกล้มเจ้าหรือคิดร้ายต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ก็เปล่งเสียงทรงพระเจริญเช่นกัน บางคนอาจเปล่งเสียงทรงพระเจริญอยู่บ่อยด้วยซ้ำ

คนรักเจ้าที่แท้จริงต้องทำความเข้าใจ ต้องรู้จักวางใจตนเอง เมื่อรักเจ้าจริงๆ ก็ต้องรักด้วยหัวใจ ต้องเข้าใจพระราชหฤทัยของเจ้าที่มีพระราชภาระอันหนักหน่วงดังที่ว่ามา

กองทัพเรือไทย - จีน ฝึกผสม Blue Strike 2023 เน้นการฝึกเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติทางทะเล

วันนี้ 3 ก.ย. 66 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดการฝึกผสมระหว่างกองทัพเรือไทย กับกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งสำคัญ ภายใต้รหัสการฝึกผสม BLUE STRIKE 2023 กระหว่างวันที่ 3-10 กันยายน 2566 ณ ท่าเรือจุุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุุรี เป็นการฝึกเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ในด้านการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และการปฏิบัติการทางเรือ การสร้างความคุ้นเคยกับเรือดำน้้ำ รวมทั้งการฝึกปฏิบัติการทางยุทธวิธีของ นาวิิกโยธินแบบหน่วยทหารขนาดเล็ก ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน 

ทั้งนี้ กองทัพเรือไทย ได้มีการฝึกกับมิตร ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศมหาอำนาจทางทะเล มาอย่างต่อเนื่องในทุุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะการฝึกเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติทางทะเลเป็นหลักสากล ของสหประชาชาติ ในปัจจุุบัน
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

'เหลือง-แดง' กระชับมิตร ร่วมปาร์ตี้ที่ 'ร้านแซ่บไบรท์' จับมือสัญญา ขอทำเพื่อ 'ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์'

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 ที่ร้านแซ่บไบรท์ ร้านอาหารของไบรท์ ชินวัตร อดีตแกนนำม็อบราษฎรเมืองนนท์ กลุ่มประชาชนที่นิยามตัวเองว่า ฝั่งแดงและฝั่งเหลือง ได้รวมตัวจัดกิจกรรม 'ปาร์ตี้นัดกระชับมิตร เหลือง & แดง บังเกิดแล้ว' ⁣

โดยมีฝั่งแดง นำโดย เค สามถุยส์-นิยม นพรัตน์ แฟนคลับเพื่อไทย และ สมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง ส่วนฝั่งเหลือง นำโดย ป้าอยุธยา-กัลยาณี จูปรางค์ และอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นอกจากนี้ยังมี จินนี่-จิรัชยา สกุลทอง นักกิจกรรมทางการเมือง และอดีตผู้ต้องหามาตรา 112

ภายหลัง มีช่วงหนึ่งที่ทุกคนทั้งฝ่ายเหลืองและแดงร่วมจับมือไขว้กันเป็นวงกลมและตะโกนพร้อมกันว่า "เราสัญญาว่าจะทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" พร้อมบรรเลงเพลง 'เราและนาย' ของโลโซ⁣

‘เปิ้ล นาคร’ พ้อ!! เหนื่อยเพื่อชาติแค่ไหน ก็คงต้องตัวใครตัวมัน หลัง ‘กีฬาเจ็ตสกี’ โดนตัดงบสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทย

(2 ก.ย. 66) ‘เปิ้ล นาคร’ ขำไม่ออก หลังได้รับข่าวจากผู้ใหญ่ในวงการเจ็ตสกีประเทศไทยเกี่ยวกับเงินสนับสนุนและเงินอัดฉีด เพื่อใช้พัฒนานักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทยในปี 2022 ว่าทางผู้ใหญ่สรุปมาแล้วว่า “ยกเลิกเงินสนับสนุนและเงินอัดฉีดทั้งหมดของปี 2022 และปีต่อ ๆ ไป ด้วยเหตุผลที่มีเหตุผลของท่าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกชายของเปิ้ลอย่าง ‘น้องออก้า นครา’ ตัวทีมนักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทยที่อายุน้อยที่สุด และตัวแทนนักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทย พากันไปสร้างชื่อเสียงจนเป็นอันดับ 1 ของโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาแล้ว

โดย ‘เปิ้ล’ ได้โพสต์ภาพและข้อความตัดพ้อดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจ Ple nakorn โดยระบุว่า…

‘ยกเลิก’ เงินสนับสนุนและเงินอัดฉีดปี2022..ที่นักกีฬาเจ็ตสกีไทยได้ไปสร้างชื่อเสียงจนเป็นอันดับ 1 ของโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาได้นั้น…ทางผู้ใหญ่สรุปมาแล้วครับว่า… “ยกเลิกเงินสนับสนุนและเงินอัดฉีดทั้งหมด!!!”… ไม่มีใครได้แล้วนะครับ… รวมถึงปีต่อ ๆ ไปด้วย…” ด้วยเหตุผลที่มีเหตุผลของท่าน” นักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทยทุกคนต่อจากนี้ไป (และอีกหลายประเภทกีฬา) จะเหนื่อยแค่ไหน จะตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติกันสักแค่ไหน ก็ตัวใครตัวมันแล้วนะครับ

ขอบคุณสำหรับทุนงบประมาณที่คาดว่าจะนำมาใช้พัฒนานักกีฬา “มีหลักเกณฑ์ที่รอบคอบ จนสามารถยกเลิกกำลังใจที่นักกีฬาทุกคนตั้งใจทุ่มเทเพื่อประเทศชาติได้”… ขอบคุณสำหรับการจัดงบประมาณที่ทำให้การพัฒนากีฬาของไทยที่จะไปได้ไกล กลับริบหรี่ลงทุกวัน… มันเริศจริง ๆ…!!! #สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย #นักกีฬาทีมชาติไทย #การกีฬาแห่งประเทศไทย”

หลังจากนั้นได้มีแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

อึ้งเมนต์ชาวเน็ต “เอื้อเฟื้อที่นั่ง-ไม่ได้บังคับ-ขึ้นอยู่ที่จิตใจคน” กรณีพระสงฆ์ยืนบนรถไฟฟ้า แล้วไม่มีใครลุกให้นั่ง

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Bannasan Chansomsak’ โพสต์ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่ง ยืนอยู่บนรถไฟฟ้า MRT ซึ่ง ‘ที่นั่งสำรองบุคคลพิเศษ’ (Priority seat) มีผู้โดยสารนั่งอยู่ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ข้างป้าย ที่นั่งสำรองบุคคลพิเศษ MRT พระภิกษุยืน บุคคลพิเศษกว่า นั่งกันตรึม”

สำหรับ ‘ที่นั่งพิเศษ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘Priority Seat’ เป็นที่นั่งไว้คอยบริการแก่บุคคลพิเศษ เด็ก, สตรีมีครรภ์, คนชรา, พระสงฆ์, ผู้พิการ ซึ่งผู้โดยสารทุกท่านสามารถนั่งได้ แต่ก็ต้องพร้อมเสมอที่จะลุกเสียสละ เมื่อมีบุคคลพิเศษจำเป็นต้องใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น

“ยุคนี้ ประเด็นเรื่องลุกให้นั่งยังมีอีกหรอ คนเหมือนกัน”
“อยู่ที่สามัญสำนึกของบุคคลที่ถูกสั่งสอนมาไม่เหมือนกันแต่ละครอบครัว คำว่าเอื้อเฟื้อที่นั่ง ไม่ได้บังคับ แต่ขึ้นอยู่จิตใจคน”
“ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเรื่องของ policy มากกว่าในเมื่อจะเลือกไปใช้รถไฟที่เขามีกฎแบบนี้ ก็ต้องทำตาม เออแต่ถ้าไม่มีกำหนดก็ไม่ต้องก็ไม่มีใครว่า ปล.พระอาจยืนให้เพราะเหมือนที่นั่งอาจจะอายุเยอะแล้ว” เป็นต้น

‘หมอวรงค์’ ยินดี ‘ทักษิณ’ ยอมรับผิด โชคดีที่เรามีในหลวงเป็นที่พึ่ง

(2 ก.ย.66) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘Warong Dechgitvigrom’ ระบุว่า...

“ทักษิณสำนึกผิด ยอมรับผิดในการกระทำ จึงได้รับพระมหากรุณา โชคดีที่เรามีในหลวงเป็นที่พึ่ง ยินดีด้วยครับ”

‘สนธิ’ ชื่นชม ‘สำนักข่าวอิศรา’ ยกสื่อดีที่ควรปกป้อง มุ่งเน้นข้อมูลเท็จจริง และไม่เลือกเข้าข้างใคร

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด ‘SONDHI TALK’ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ ช่องยูทูบ ‘Sondhitalk’ หรือ ‘Sondhitalk’ (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีการกล่าวชื่นชมการทำงานของ ‘สำนักข่าวอิศรา’ และ ‘นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์’ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา ในประเด็นเกี่ยวกับข่าว ‘ปาล์มอินโด EARTH-STAR เปิดโปง ขบวนการ สวาปาม (ภาคต่อ)’ โดยระบุว่า…

“ผมต้องขอชมเชย ‘สำนักข่าวอิศรา’ และผู้บริหารงานของสำนักข่าวอิศรา คุณประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ หรือ ‘คุณเก๊’ พวกเราและทุกๆ คนที่รักในความเป็นธรรม ต้องการความจริงที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น จึงต้องขอขอบคุณสำนักข่าวอิศรา ที่แบ่งปันข้อมูลต่างๆ มาให้แก่ทางผม”

“ผมขอชื่นชมคุณประสงค์ สื่อดีๆ แบบนี้หายาก ยิ่งกว่ายาก ต้องดูแลปกป้องเพื่อให้อยู่รอดตลอดไป เพราะเขาเป็นคนที่ไม่เข้าข้างใครเลย เขายืนอยู่บนความจริงที่มีเพียงหนึ่งเดียว และไม่เกรงกลัวต่ออำนาจมืด หรืออิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น”

แม่หญิงสมายล์เชิญชวนให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสืบตำนานไหมไทย

✨💖แม่หญิงสมายล์เชิญชวนให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสืบตำนานไหมไทย
🧡งาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด “ไหมไทยล้ำค่า สายใยแห่งภูมิปัญญา พัฒนาสู่สากล”

🩵ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 20.00 น. 
📍ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

😍พบกับกิจกรรมมากมายภายในงาน อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การจัดแสดงเครื่องหมายตรานกยูงพระราชทาน ผลงานการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2566 นิทรรศการหม่อนไหมครบวงจรและสินค้าหม่อนไหมมากกว่า 200 ร้านค้า💕
🥰อย่าลืมไปงานกันเยอะๆ น้า🥰

‘บิ๊กจ๊อด’ ปิดฉากเก้าอี้ ผบ.ทร. ไม่ทิ้งภาระไว้เบื้องหลัง เซ็นอนุมัติเครื่องยนต์จีน เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำแล้ว

(1 ก.ย.66) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้กล่าวในงานพบปะสานสัมพันธ์สื่อมวลชน ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยระบุว่า สื่อเป็นกลางในการนำเสนอเรื่องที่ดี และเรื่องที่เคลือบแคลงโดยไม่ได้บิดเบือนให้ประชาชนได้รับทราบ เราเปิดเผยทุกเรื่อง ไม่ปิดบัง ทร.พยายามเผยแพร่ข้อมูลทางโฆษกกองทัพเรือ ซึ่งตนยืนยันว่าได้ว่าจัดทำข้อมูลในเอกสารข่าวตามความจริงทุกประการ และโฆษกฯ ก็ตอบคำถามได้ทุกประเด็น ช่วงปีที่ผ่านมามีหลายเรื่อง ซึ่งตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าในรอบปีที่เข้ามารับตำแหน่งจะทำอะไรบ้างเป็นข้อ ๆ ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้น ตนได้ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ เรื่องของการจัดหาเรือฟริเกต การรับมอบ รล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก การปรับปรุงการประเมินยุทธศาสตร์กองทัพเรือเพื่อมองไปในอนาคต ถือว่าในรอบปีตนได้ทำตามสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่ติดค้างที่จะต้องฝากให้ ผบ.ทร.และทีมบริหารรุ่นใหม่ดำเนินการต่อไป เพียงแต่สานต่อการดำเนินการ หรือจะคิดใหม่ทำใหม่ก็แล้วแต่ผู้บริหารที่จะเข้ามา 

มีรายงานว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ลงนามเห็นชอบเครื่องยนต์ CHD 620 ที่ผลิตจากบริษัทของจีน เพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำ S26T เรียบร้อยแล้วหลังจากคณะทำงานในการเจรจาเรื่องดังกล่าวได้พูดคุยกับ บริษัท CSOC หลายรอบ โดย ทร.ส่งทีมคณะทำงานด้านเทคนิคไปร่วมประเมินประสิทธิภาพ ก่อนสรุปให้กับประธานคณะกรรมการโครงการเรือดำน้ำ ที่มี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน และได้รับข้อเสนอในการเพิ่มการรับประกันจาก 10 ปี เป็น 20 ปี การส่งกำลังบำรุง อะไหล่ และระบบอาวุธในเรือเพิ่มเติม โดยไม่รับข้อเสนอในการซื้อเรือดำน้ำมือสองในราคาถูก เพราะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการซ่อมบำรุง และต้องมีภาระในด้านอื่นที่ต้องปรับสภาพพร้อมใช้งานจริง ในระหว่างนี้เครื่องยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างติดตั้งในเรือดำน้ำของปากีสถานที่ติดตั้งในเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวนำร่องเพื่อเตรียมทดสอบการใช้งานจริงนำร่องไปแล้ว 

สำหรับความคืบหน้าในการกู้เรือหลวงสุโขทัย พล.ร.อ.เชิงชาย ได้อนุมัติให้ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เตรียมทีโออาร์ เชิญชวนบริษัทที่จะเข้าทำการกู้เรือ และคาดว่าจะลงนามได้ภายในสองสัปดาห์นี้ โดยสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางให้ 90 ล้านบาท และกองทัพเรือได้จัดหางบประมาณในส่วนของกองทัพเรือ 110 ล้าน โดยจะใช้ระยะเวลาในการกู้เรือประมาณ 3 เดือน หลังจากที่มีการประเมินความคุ้มค่าจากเครื่องอุปกรณ์ อาวุธต่างๆ และจะเป็นวัตถุพยานประกอบกับคำให้การเหตุอับปางของเรือ ก่อนคณะกรรมการสรุปฯ ผลเพื่อดำเนินการต่อไป 

มีรายงานด้วยว่า หลังจาก พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร.คนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ได้เตรียมแนวทางในการทำงานในช่วง 1 ปี เพื่อเรียกความเชื่อถือ ศรัทธา และความไว้วางใจต่อ ทร.ในสายตาประชาชนให้กลับมา หลังจากที่ ทร.ประสบปัญหาหลายเรื่องจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ ทั้งที่เคยเป็นที่พึ่งของประชาชนในหลายโอกาส ไล่ตั้งแต่ เรือหลวงสุโขทัย เหตุอาวุธกระสุนหายในคลังแสง กำลังพลนอกแถวที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม โครงการจัดหาอาวุธที่เป็นปัญหาในอดีต

“จะเป็นปีที่ ทร.จะเริ่มดีขึ้นในทุกๆ ด้าน หลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เมื่อรื้อมาดูเนื้อในแล้วจะเห็นว่าท ทร.มีระเบียบ หลักการปฏิบัติ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรกำกับไว้ในเอกสารหมดแล้ว แต่เมื่อนำไปปฏิบัติทุกวันก็ไม่เป็นเหมือนที่กำหนดไว้ เหมือนเครื่องยนต์ที่หลวม ก็ต้องมีการขันน็อตให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อให้การทำงานเดินหน้า อย่างเช่นกรณีคลังอาวุธที่กำลังพลนำออกไปขายข้างนอก ทั้งที่มีการวางระบบตรวจสอบไว้แล้ว อีกทั้งต้องหาแนวทางในการสื่อสารให้สังคมเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของทหาร การเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพตามความเหมาะสม ทั้งโครงการเรือดำน้ำ ที่ถูกโจมตีช่วงเวลาที่ผ่านมาว่าปัญหาเกิดจากอะไร และได้แก้ไขอย่างไร เป็นต้น” แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.ร.อ.อะดุง ว่าที่ ผบ.ทร.

‘ทนายวิญญัติ’ ขอ ปชช. งดวิจารณ์ก้าวล่วงพระราชอำนาจ กรณี ‘ในหลวง’ พระราชทานอภัยโทษ ‘ทักษิณ’

(1 ก.ย.66) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษนาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ได้ทราบข่าวจากการประกาศราชกิจจานุเบกษา ในวันนี้ทางทนายความยังไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ แต่ผลที่ประกาศราชกิจจานุเบกษาดังกล่าวถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเมตตาให้กับนายทักษิณ เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนที่กรมราชทัณฑ์จะต้องนำไปดำเนินการต่อไป

หลังจากนี้ต้องขอร้องประชาชนคนไทยที่ไม่สมควรที่จะวิพากษ์วิจารณ์ หรืออาจมาโต้แย้งคัดค้านใด เพราะอาจจะเป็นก้าวล่วงหรือละเมิดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ 

ในส่วนคดีที่ยังค้างพิจารณาอยู่ไม่ว่าจะเป็นชั้นสอบสวนหรือชั้นศาล ทางทนายความเราก็จะดำเนินการในฐานะของจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาตามสิทธิ ของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เรื่องใดในชั้นสอบสวน ก็จะร้องขอความเป็นธรรมเเละขอให้สอบสวนต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากต้องให้โอกาสผู้ต้องหาต่อสู้คดีอาญา อย่างเต็มที่  ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลหากมีคดีที่ สามารถถอนฟ้องหรือยอมความได้ก็ต้องดำเนินการเพื่อหาข้อยุติตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตนจะเดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ อีกต้นสัปดาห์หน้า

‘รัชดา’ ชี้แจงชาวเน็ต หลังคอมเมนต์ดูถูก-หยาบคาย

(1 ก.ย.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงชาวเน็ต ระบุว่า...

ผ่านสังเวียนคอมเมนต์มามากมาย โดยมากก็จะขำ เล่าสู่กันฟัง

โอย อย่าหยาบคายกับพวกเราเลยนะ เรานำเสนอความจริง อยากให้ ปชช.เข้าใจสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เชื่อก็ไม่มีใครว่าอะไร และเราไม่เคยใช้คำพูดไม่สุภาพนะ เพราะมันไม่ใช่รสนิยม…ส่วนเรื่องสามีนั้น ไม่ต้องห่วงเลย มันไม่ใช่ Pain Point ของผู้หญิงหรอกนะ หลายคนยังคิดว่าโชคดีที่ไม่มีด้วยซ้ำจ้า ... Traisuree Taisaranakul / อ้น ทิพานัน ศิริชนะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top