Thursday, 15 May 2025
NEWS

‘บิ๊กเด่น’ เผยแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ กลาง ก.ย.นี้ คาด!! ทำได้ตามกรอบเวลา ไม่ต้องตั้ง รักษาการผบ.ตร.

(5 ก.ย.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) คาดว่าน่าจะรอให้คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแถลงนโยบายก่อน ซึ่งน่าจะอยู่ประมาณกลางเดือนอาจจะมีการนัดหมายการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการประชุมกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจจะต้องรอให้มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ก่อน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางนายกรัฐมนตรี ขอรอให้ใกล้ ๆ เวลาอีกสักนิด

ส่วนกรณีที่ได้ให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ทั้ง 4 คน จัดทำผลการปฏิบัติงานที่เห็นว่ามีความสำคัญ และเกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วเป็นการส่งผลงาน เพราะตามกฎหมายพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ บอกว่าให้ทางนายกรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจในการคัดเลือกพิจารณาจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือจเรตำรวจแห่งชาติซึ่งเทียบเท่ารองผบ.ตร. โดยจะต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบการโดยเฉพาะประสบการณ์ด้านการสืบสวนและป้องกันปราบปรามซึ่งจะต้องพิจารณาในหลากหลายมิติ

ส่วนกรอบระยะเวลาจะทันตามกำหนดหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถามต่อว่าจะถึงขั้นต้องแต่งตั้งรักษาการผบ.ตร. ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ต้อง เพราะคาดว่าคงทำทันแน่นอน หลังมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและแถลงนโยบายแล้ว ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจประจำปี 2566 จะต้องรอการพิจารณาร่วมกันกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่

สืบ ตม. ร่วมกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติด บุกคริสตจักรย่านสะพานสูง พบหนุ่มผิวสีหลบหนีเข้าเมือง 

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับการประสานงานจากสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความอนุเคราะห์สนับสนุนชุดร่วมปฏิบัติการตรวจสอบพฤติการณ์ชาวแอฟริกาตะวันตก ภายในคริสตจักรแห่งหนึ่ง เขตสะพานสูง กทม. ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวพบปะกันของชายสัญชาติไนจีเรีย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.จงชนะ ประสพสุข สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว จากการสืบสวนเชื่อว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ประกอบกิจกรรมศาสนพิธีทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่เจรจา ตกลง ซื้อขาย ส่งมอบยาเสพติด เมื่อไปถึงพบนายโอเคซี่ (นามสมมติ) สัญชาติไนจีเรีย แสดงตนเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว และสมัครใจพาเข้าไปตรวจสอบภายในสถานที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงชายลักษณะคล้ายคนต่างด้าว 4 ราย คือ นายเอ็มมานูเอล (นามสมมติ) อายุ 34 ปี สัญชาติไนจีเรีย, นายพอล (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรีย, นายเดวิด (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สัญชาติไนจีเรีย และนายเอเคเน (นามสมมติ) อายุ 38 ปี กำลังทำกิจกรรมทางศาสนาอยู่ จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง นายเอ็มมานูเอลและนายพอลมีภาพถ่ายหนังสือเดินทางในโทรศัพท์มือถือ ส่วนนายพอล, นายเดวิด และนายเอเคเน ไม่มีหนังสือเดินทางและภาพถ่ายหนังสือเดินทางแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. ผลปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชายชาวไนจีเรียทั้ง 4 รายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

‘THEOS-2’ ดาวเทียมดวงแรกของไทย เตรียมขึ้นสู่อวกาศ ต.ค.นี้ ตอกย้ำความก้าวหน้าในเทคโนโลยี รองรับอุตสาหกรรมอวกาศ

(5 ก.ย. 66) ‘ดาวเทียม THEOS-2’ สร้างและทดสอบระบบเสร็จเรียบร้อย ขณะนี้ ถูกขนส่งจากบริษัท Airbus Defence and Space เมืองตูลูส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงท่าอวกาศยานยุโรป เฟรนช์เกียนาในทวีปอเมริกาใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบทุกขั้นตอนและประกอบดาวเทียมเข้ากับส่วนหัวของจรวด Rocket Fairing พร้อมขึ้นสู่อวกาศช่วงเดือนตุลาคม 2566

‘THEOS-2’ เป็นดาวเทียมสำรวจโลกที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสานต่อภารกิจของไทยโชต หรือ ‘ดาวเทียม THEOS-1’ (ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551) ที่กำลังจะหมดอายุการใช้งาน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศ

THEOS-2 มีน้ำหนัก 425 กิโลกรัม สามารถบันทึกภาพรายละเอียดสูง 50 เซนติเมตร เป็นดาวเทียมปฏิบัติการ เพื่อใช้งานติดตามสถานการณ์เชิงพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศใน 4 ส่วนหลัก ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีอวกาศ, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, การพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศ และการพัฒนาบริการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ

รวมทั้ง ยกระดับการให้บริการด้านภูมิสารสนเทศ 6 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ด้านการจัดทำแผนที่, ด้านการจัดการเกษตรและอาหาร, ด้านการจัดการน้ำแบบองค์รวม, ด้านการจัดการภัยพิบัติ, ด้านการจัดการเมืองและเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ รวมถึงด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ

#พร้อมขึ้นสู่อวกาศ #GISTDA #จิสด้า #THEOS2 #ดาวเทียมสำรวจโลก #AirbusDefenceandSpace #เทคโนโลยีอวกาศ #เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ #การพัฒนาดาวเทียม #อวกาศ #อุตสาหกรรมอวกาศ #RocketFairing

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวยืนยัน ป.ป.ง. ยึดทรัพย์บัญชีม้าแน่!!!  

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกันแถลงความคืบหนี้คดีฆ่ายกครัว 3 ศพ และร่วมพิธีจับรางวัลผู้โชคดีจากการทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ ชิงรางวัล iPhone 14 ประจำเดือน สิงหาคม 2566 จำนวน 20 รางวัล ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า จากคดี  นายสาณิช ดอกไม้ คลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดปาดคอฆ่าภรรยา และบุตร 2 คน อายุ 13 ปี และ 11 ปี รวม 3 ศพ แล้ว นายสาณิชฯ  ปาดคอตัวเองหวังตายตาม เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 สาเหตุเกิดจากความเครียดในเรื่องหนี้สินค้ำประกันการซื้อรถให้เพื่อนบ้านเป็นเงิน 8 แสนบาท กรมบังคับคดีจะยึดบ้าน และเครียดที่ภรรยากู้เงินผ่านแอปพลิเคชันจนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท  เรื่องนี้เป็นเหตุสลดใจและสะเทือนความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก คดีนี้ได้ออกหมายจับนายสาณิชฯ ผู้ก่อเหตุคดีฆ่ายกครัวแล้ว และได้สั่งการให้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร.  เร่งคลี่คลายคดี  จนสามารถออกหมายจับไปแล้วทั้งสิ้น 22 หมายจับ และได้มีการจับกุม อายัดตัว และมารายงานตัว จำนวน 10 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
1. จับกุมได้แล้วทั้งสิ้น 8 ราย ดังนี้

1.1 น.ส.สุชาดา ชาบุตรศรี ตามหมายจับที่ 620/2566 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ จุดผ่านแดนบ้าน
คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.2 นายวัชรพงษ์ ครูศรี ตามหมายจับที่ 621/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ หมู่ 3 ต.เมืองไผ่
อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.3 นายชัยยา ก้านศรี ตามหมายจับที่ 622/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ หมู่ 1 ต.ห้วยโจด
อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว
1.4 น.ส.ณัฐณิชา ดีโสภา ตามหมายจับที่ 632/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
1.5 นายอนิรุต ปงก๋า ตามหมายจับที่ 634/2566 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.66 จับกุมได้ที่ คอนโดคอมพลีท แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา
1.6 นายจำลอง นอใหม่ ตามหมายจับที่ 619/2566 เมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 จับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 61 ม.2
ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
1.7 นายดานิล อัลดูเนนคอฟ หรือ MR.DANIIL ALDUNENKOV ตามหมายจับที่ 647/2566 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.66 จับกุมได้ที่ โรงแรมพาโนรามา ม.6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
1.8 นายโรมัน บริค หรือ MR.ROMAN BRIK ตามหมายจับที่ 644/2566 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.66  จับกุมได้ที่ หน้าโรงแรมพรีเมียร์โฮสเทล   ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

2. อายัดตัว มีดังนี้
- LONG SOTHY หรือ ลอง โซธีร์ ตามหมายจับที่ 643/2566 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 อายัดตัวที่ สภ.คลองลึก

3. มารายงานตัว ดังนี้
- นายพีรดนย์ วิริยาธรณ์ภักดี ตามหมายจับที่ 640/2566 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.66 มารายงานตัว ที่ สภ.บางแก้ว เนื่องจากถูกอายัดบัญชี

ขณะนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ  ได้รายงานว่าได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ และได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือนายตำรวจระดับสูงและ ผบ.ตร. ของประเทศกัมพูชา ในการปราบปราม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทย ความคืบหน้าจะได้เรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป  จึงขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าคนร้ายที่กระทำผิดคิดหลอกลวงเอาเงินจากพี่น้องประชาชน  จะต้องถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษทุกราย  โดยเฉพาะพวกบัญชีม้าที่พนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่น ใช้รับโอนเงินจากผู้กระทำผิดหลายราย หรือหลายๆ ครั้ง    ถือว่า สนับสนุนการฉ้อโกงประชาชน  หรือ ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ   อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒   เจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามยึดทรัพย์สินจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้ ทั้งนี้หากพบว่าเจ้าของบัญชีม้าได้ดำเนินการ  โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้นหรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น    หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา   จะถือว่า เป็นผู้กระทำผิดฐานฟอกเงิน ต้องรับโทษทางอาญาเช่นเดียวกับผู้กระทำผิดมูลฐาน   เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการทางแพ่ง โดยการยึด อายัด เงิน หรือ ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายฟอกเงินดังกล่าวข้างต้น

นอกจากการปราบปรามแล้ว  สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนได้ทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.2566 จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2566 หากทำแบบทดสอบครบ 40 ข้อแล้ว  จะได้รับ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการ Whoscall Premium Feature ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี หากทำแบบทดสอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 ข้อ  ขึ้นไป จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14 เดือนละ 20 รางวัล เป็นเวลา 3 เดือน รวม 60 รางวัล โดยประชาชนสามารถทำแบบทดสอบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง  แต่จะได้รับสิทธิ Whoscall Premium และสิทธิลุ้น iPhone 14 เพียง 1 สิทธิ และได้จับรางวัลผู้โชคดีประจำเดือน กรกฎาคม 2566 จำนวน 20 รางวัล ไปแล้วนั้น  

ในห้วงวันที่ 1– 31 ส.ค.2566  มีประชาชนเข้ามาทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อ  และได้รับสิทธิ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการฟีเจอร์เสริมต่างๆ จาก Whoscall Premium ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี จำนวน 280,406 คน  ในจำนวนนี้มีประชาชน ทำแบบทดสอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 ข้อ  ขึ้นไป และได้รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14 จำนวน 238,974 คน สำหรับวันนี้เป็นการจับรางวัลหาผู้โชคดี ครั้งที่ 2 จำนวน 20 รางวัล ซึ่งจะได้รับรางวัล iPhone 14 จำนวน  20 รางวัลๆ ละ 1 เครื่อง โดยได้รับเกียรติจาก คุณเพ็ชรทาย  วงษ์คำเหลา หรือหม่ำจ๊กมก  ดาราตลกชื่อดังมาร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยานในการจับรางวัลครั้งนี้ด้วย  

สำหรับวิธีการจับรางวัลผู้โชคดี จำนวน 20 ท่าน ใช้วิธีกดสุ่มเลือกผู้โชคดีทีละรางวัลจากรายชื่อทั้งหมด โดยข้าราชการตำรวจหรือข้าราชการอื่นที่เข้าไปทำแบบทดสอบ สำหรับประชาชน จำนวน 40 ข้อนี้  ทุกคนมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทั้งหมดเช่นเดิม  และวันนี้ผู้ที่โชคดีได้รับรางวัล iPhone 14  จำนวน 20 รางวัลๆ ละ 1 เครื่อง ได้แก่
1. P004426 นาย อัศวิน วงศ์พรม จว.แม่ฮ่องสอน
2. P023909 นาง ดาวรรณ์ พวกไธสง จว.สระแก้ว
3. P101234 นาง นุชรา โคตรวิชัย จว.สกลนคร
4. P091626 น.ส. สิริมาสย์ ปั้นริ้ว จว.กรุงเทพมหานคร
5. P095299 น.ส. สุภาภรณ์ คำสวัสดิ์ จว.สกลนคร
6. P066610 น.ส. เพชรัตน์ คำสียา จว.อุดรธานี
7. P027079 น.ส. ปภาณัช ขันอาสา จว.ฉะเชิงเทรา
8. P169706 นาง นัยนา ปาวรีย์ จว.ชัยนาท
9. P048933 นาง พังงา ศรีภา จว.หนองบัวลำภู
10. P070254 ว่าที่ ร.ต.อดิศร เชื้อบุญมี จว.เพชรบูรณ์
11. P021593 นาย วินัย ศรีละคร จว.ฉะเชิงเทรา
12. P111908 นาย ณัฐพล เพชรทองคำ จว.ลพบุรี
13. P132057 ด.ญ.ชลิดา คุณวงศ์ จว.มุกดาหาร
14. P045227 น.ส.วรรณพร ไขประภาย จว.สกลนคร
15. P048499 ด.ต.อำนาจ อุไร จว.เลย
16. P199467 น.ส.ธนรรชน เส็นสด จว.จันทบุรี
17. P229451 นาง สมวลี เขียวมณี จว.สมุทรสาคร
18. P023574 น.ส.ยุภาพร ผ่องใส จว.ปทุมธานี
19. P097995 นาวาโทหญิง ขนิษฐา โมฬี จว.พังงา
20. P062354 น.ส.ทรรศน์วรรณ รุ่งกลิ่น จว.กำแพงเพชร

​วันนี้ได้จับรางวัลหาผู้โชคดีรับ iPhone 14 ครั้งที่ 2 จำนวน 20 ท่าน  ครบถ้วนแล้ว  และสำหรับเดือนสิงหาคม 2566  มีผู้ที่ได้รับรางวัลในการแนะนำให้ประชาชนทำแบบทดสอบมากที่สุด จำนวน 2 รางวัล ได้แก่
1. พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.ภ.6 แนะนำ จำนวน 3,612 ราย
2. นาย เชาว์ชัยพัฒน์ ฉวีนิรมล แนะนำ จำนวน 599 ราย
สำหรับผู้ที่ทำแบบทดสอบไปแล้ว  แต่ไม่ได้รับรางวัลประจำเดือน สิงหาคม 2566  ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลประจำเดือน กันยายน 2566 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้าย โดยไม่ต้องทำแบบทดสอบใหม่ ส่วนผู้แนะนำที่จะได้รับรางวัล ต้องเริ่มนับใหม่ในเดือนถัดไป และต้องไม่ซ้ำคนเดิม ส่วนแบบทดสอบยังใช้แบบทดสอบเดิมบนระบบเดิม จึงขอฝากให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โชคดีได้รับทราบทั่วกัน สำหรับผู้โชคดีสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ช่องทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com  ในการรับรางวัล  จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยังผู้ที่โชคดี  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมายจะนำส่งรางวัลถึงบ้านหรือที่อยู่ของผู้โชคดีกับมือท่านเอง  

การจับรางวัลหาผู้โชคดีได้รับรางวัล iPhone 14 ประจำเดือน กันยายน 2566  ซึ่งเป็นเดือนสุดท้าย จำนวน 20 รางวัล จะมีขึ้นในวันที่เท่าใด  ขอให้ติดตามรายละเอียดได้ในช่องทาง  www.เตือนภัยออนไลน์.com  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้เข้าทำแบบทดสอบเพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์และได้ลุ้นรางวัล iPhone 14 ได้ใน 3 ช่องทาง ดังนี้ 1) สแกนคิวอาร์โค้ด 2) เข้าเว็ปไซต์ไซเบอร์วัคซีน และ ๓) ทำแบบทดสอบเมื่อครูไซเบอร์ไปให้ความรู้ในพื้นที่ โดยเป็นการเข้าทำแบบทดสอบผ่าน Google Form สำหรับทำแบบทดสอบ  ( หากไม่ชิงรางวัล สามารถทำแบบทดสอบได้เลย ) และจะสามารถดูเฉลยได้เมื่อทำข้อสอบเสร็จ กด "ดูคะแนน"

กรณีต้องการรับสิทธิเพื่อชิงรางวัลต้องดำเนินการ ดังนี้
1. กดลิงก์ "เข้าเว็บไซต์ไซเบอร์วัคซีน" จาก Google form  หรือ เข้าผ่านเว็บไซต์  www.เตือนภัยออนไลน์.com  
และสมัครใช้งานและเข้าสู่ระบบไซเบอร์วัคซีนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว (เข้าสู่ระบบผ่านไลน์)
2. ทำการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน  หรือแอปพลิเคชัน THaID
3. หน้าแรกของระบบไซเบอร์วัคซีน จะมีปุ่ม "ทดสอบ 40 คำถามสำหรับประชาชน"  ให้กดเพื่อทำแบบทดสอบ
4. เลือกยืนยันความสมัครใจรับการทดสอบ และ กรอกอีเมล  กรณีต้องการทราบผลคะแนนทางอีเมล
นายเพ็ชรทายหรือหม่ำ จ๊กมก  กล่าวแสดงความยินดีกับผู้โชคดีได้รับ iPhone 14 และเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่ได้รับรางวัลในการแนะนำให้ประชาชนทำแบบทดสอบในครั้งนี้ด้วย   และได้เห็นถึงความตั้งใจของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร.  ที่ต้องการให้ประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์  โดยการประชาสัมพันธ์ให้มีการทำแบบทดสอบจำนวน 40 ข้อ  เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ รู้สึกดีใจและมีความอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ส่วนตัวได้ทำแบบทดสอบทั้ง 40 ข้อแล้ว ยอมรับว่ามีความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์เพิ่มมากขึ้น  รับรองไม่มีทางตกเป็นเหยื่อของแก็งคนร้ายอย่างแน่นอน  สำหรับการทำแบบทดสอบครั้งนี้ได้คะแนนมากกว่า 35 ข้อเช่นกัน  และจะรอลุ้นการจับสลากรางวัล iPhone 14  อีก 20 รางวัลในเดือนสุดท้าย  จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้รีบเข้ามาทำแบบทดสอบกัน  จะได้มีความรู้และมีโชครับ iPhone 14  ไปใช้งานฟรีๆ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอยู่  ดังนั้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ และขอให้แชร์แบบทดสอบไปให้กับญาติหรือผู้เป็นที่รักเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ทำแบบทดสอบมีความรู้เท่าทันกลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์   และไม่ตกเป็นเหยื่อ      
ทั้งนี้  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com    Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์  หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com ( QR CODE ข้อสอบ 40 ข้อ สำหรับประชาชน)

‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน  ผู้สนับสนุนฯ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 58-60

(5 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมเพิ่มพูน โรงแรมเบญจพร แกรนด์วิว สงขลาในพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2560-2564 จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี โดยเป็นผู้เชิญเข็มพระราชทานวางบนพานหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ผู้เข้ารับแต่ละรายเข้ารับพระราชทานฯ

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในช่วงปี 2558 - 2560

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2560-2564 อีก 8 คน 

กองทัพเรือ ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) จัดกำลังพล - ยุทโธปกรณ์   เร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหล จากเรือบรรทุกน้ำมันลงสู่ทะเล ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี 

วันที่ 5 กันยายน 2566 พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ พร้อมด้วย พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 1 นายนริศ  นิรามัยวงศ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า และนายณัฐพล มีฤทธิ์ ผู้แทนบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าว กรณีน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่อำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี จากเหตุน้ำมันดิบจากเรือบรรทุกน้ำมัน รั่วไหลขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 เวลา 21.00 น.           

โดยภายหลังเกิดเหตุ ทางบริษัทฯ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์โดยได้ทำการปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหาและวางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจายตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติมแล้ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว  แต่อย่างไรก็ตามได้มีน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ทะเล จำนวนหนึ่งซึ่งอาจก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเล  

ในการนี้ กรมเจ้าท่า ได้ประสานมายังกองทัพเรือ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ " หรือเรียกโดยย่อว่า ศอปน.ทร. โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 1 กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษกรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับจังหวัดชลบุรี และ บริษัทไทยออยล์ จำกัด มหาชน จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จากเหตุน้ำมันดิบจากเรือบรรทุกน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่อำเภอศรีราชา ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 เวลา 21.00 น.  โดยภายหลังเกิดเหตุ ทางบริษัทฯ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์โดยได้ทำการปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหาและวางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจายตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติมแล้ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 

ในการนี้ กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 และ ศรชล.ภาค 1 ได้ส่งอากาศยานขึ้นบินสำรวจและถ่ายภาพคราบมันน้ำ เพื่อนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของน้ำมันบางส่วน และคาดการณ์ว่าคราบน้ำมันจะมีการเคลื่อนตัวจากทางทิศใต้ของเกาะท้ายค้างคาว จ.ชลบุรี และมีแนวทางการเคลื่อนตัวขึ้นลงตามกระแสน้ำไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเริ่มมีคราบน้ำมันเข้าสู่ทางตอนใต้ของเกาะท้ายค้างคาว จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 23.00 น. /ส่วนในค่ำวันนี้ คาดว่าอาจจะมีคราบน้ำมันบางส่วน เคลื่อนที่ผ่านเกาะค้างคาวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และจะมีคราบน้ำมันบางส่วน ถูกพัดเข้าสู่ขายฝั่งของเกาะค้างคาว ซึ่งทัพเรือภาคที่ 1 และ ศรชล.ภาค 1 ได้จัดส่งกำลังพลจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ไปประจำที่เกาะท้ายค้างคาวแล้ว เพื่อเตรียมการจัดเก็บคราบน้ำมันหากมีการขึ้นฝั่ง โดยจะดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการเดียวกับกรณีที่มีน้ำมันรั่วใน จ.ระยอง 

สำหรับการปฏิบัติที่สำคัญ ในห้วงที่ผ่านมา วานนี้ (4 กันยายน 2566)  เวลา 15.00 น. เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ (ฮ.ปด.1) พร้อม Helibucket บรรจุน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน 900 ลิตร ได้ยกตัวในเที่ยวแรก จากฝูงบินทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อนำไปโปรยจุดที่พบคราบน้ำมันรั่วไหลในทะเล จ.ชลบุรี พร้อมกันนี้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ได้มีการยกระดับเหตุที่เกิดขึ้นเป็น Tier 2  แล้ว ซึ่งกองทัพเรือ  โดยทัพเรือภาค ที่ 1 ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว จัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติ การขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อทำหน้าที่ในการอำนวยการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขจัดคราบน้ำมัน ควบคู่ในการทำงานร่วมกับเอกชน ซึ่งกองทัพเรือ จะส่งเรือหลวงตาชัย และเรือหลวงแสมสาร ไปช่วยขจัดคราบน้ำมัน นอกจากนั้นจะส่งเรือ ต.235 เพื่อตรวจการณ์ ร่วมกับเรือของกรมเจ้าท่า / กรมประมง / กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง / ตำรวจน้ำ / รวมถึงอากาศยาน ของกองทัพเรือ และกำลังพล จากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อีกจำนวน 100 นาย เพื่อร่วมกัน ขจัดคราบน้ำมัน 

โดยล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จากการเดินเท้าสำรวจตามแนวชายฝั่ง บริเวณเกาะสีชังและพื้นที่ใกล้เคียง ของกำลังพล สอ.รฝ. ยังไม่พบคราบน้ำมัน โดยจะมีการนำข้อมูลไปประเมินสถานการณ์ในการปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ คาดว่า สถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายในอีก 2-3 วัน 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

นราธิวาส- ผบ.ฉก.นราธิวาส เข้าเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ นางแยนะ สะแลแม ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.ตากใบ 

บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ เข้าเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ พร้อมทั้งติดตามอาการ สอบความเป็นอยู่ ตลอดจนสอบถามความต้องการที่จะให้ หน่วยงานรัฐเข้าให้การช่วยเหลือ นางแยนะ ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งแกนนำผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ตากใบ โดยปัจจุบัน นางแยนะอายุ 64 ปี ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก มีอาการอัมพาตซีกขวา  ก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาส ต่อมาอาการดีขึ้น สามารถขยับมือข้างขวาได้เล็กน้อย และมีกำลังใจดีเยี่ยม บรรยากาศเป็นด้วยความอบอุ่น เป็นสัมพันธภาพที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับพี่น้องประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ ตลอดจนได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนแผ่นรองซับสำหรับผู้ป่วยติดเตียง  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต

พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ย้ำทหารพร้อมเป็นที่พึ่งให้ประชาชนในทุกโอกาส เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน นางแยนะ สะแลแม  ถือว่าเป็นผู้หญิงแกร่งแห่งอำเภอตากใบ คนหนึ่ง ที่คอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลกลุ่มสตรี และเด็ก ตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ตากใบ ตลอดจน 19 ปี เต็มที่ผ่านมา ขอให้ นางแยนะ สะแลแม หายจากอาการป่วยในเร็ววัน มีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งๆ ขึ้นไป มีรอยยิ้ม และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ประสบกับปัญหา ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง ให้กลับมามีสติและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีความหวังด้วยความมั่นคงต่อไป
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

สมุทรปราการ-ส่งความสุข!! “ดร.ยงยุทธ” อดีต สส.สมุทรปราการ ร่วมลงพื้นที่มอบบ้านโครงการให้ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่

วันอังคารที่ 5 กันยายน 2566 ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วยนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา คณะกรรมการชุมชน และผู้แทน พมจ.สป.

ร่วมลงพื้นที่เพื่อส่งมอบบ้านให้แก่ผู้สูงอายุที่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมตามโครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย ประจำปีงบประมาณ 2566 

ภายใต้งบประมาณจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ จำนวนทั้งสิ้น 160,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย ดังนี้
1. นางสมจิตร แสงดารา บ้านเลขที่ 210 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
2. นางสุคนธ์ เสือกลับ บ้านเลขที่ 159 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
3. นายวันรัตน์ รอดบุญ บ้านเลขที่474 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
4. นางสำราญ แสงทิม บ้านเลขที่ 390 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 6-8)

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘พาณิชย์’ เร่งแก้วิกฤต ‘มังคุด’ คุณภาพลด-ราคาตก กก.ละ 8 บาท พร้อมรับฟังปัญหาเกษตรกร-หารือผู้ประกอบการ ร่วมกันหาทางออก

(5 ก.ย. 66) ‘พาณิชย์’ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ติดตามสถานการณ์มังคุด และรับฟังข้อเรียกร้องจากเกษตรกร พร้อมประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ผู้รวบรวม เข้ารับซื้อผลผลิตในช่วงนี้เพิ่มขึ้น และเร่งกระจายออกไปยังตลาดปลายทาง ทั้งห้างท้องถิ่น โมบายพาณิชย์ ช่วยระบายผลผลิตอีกทาง เผยช่วงนี้เป็นปลายฤดู ผลผลิตคุณภาพลด ดอกดำ หรือแข็ง มีมากขึ้น ด้านประธานแปลงใหญ่นครศรีธรรมราชยัน มังคุด กก.ละ 8 บาท เป็นเกรดคัดทิ้ง

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ กลุ่มมังคุดชะอวดพูนผล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหากรณีเกษตรกรชาวสวนมังคุดได้รับความเดือดร้อน จากราคามังคุดตกต่ำ ว่า กรมยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด จึงได้ลงพื้นที่มาเพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังข้อเรียกร้องของพี่น้องเกษตรกร และยังได้ประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ผู้รวบรวม เข้ารับซื้อผลผลิตในช่วงนี้เพิ่มขึ้น รวมถึงเร่งเปิดจุดปลายทางเพิ่มขึ้นทั้งห้างท้องถิ่น และโมบายพาณิชย์ เพื่อช่วยระบายผลผลิต และให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่าราคามังคุดจะมีเสถียรภาพจนจบฤดูกาล

ส่วนการตรวจสอบมังคุดที่เกษตรกรส่วนหนึ่งนำมาเททิ้งนั้น ได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า เป็นมังคุดช่วงปลายฤดูกาลผลิต ที่ผลผลิตมีคุณภาพลดลง มังคุดตกเกรด ดอกดำ หรือแข็ง และเป็นเกรดที่ส่วนใหญ่ต้องคัดทิ้ง ซึ่งมีปริมาณมากขึ้น และส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลง แต่กรมยืนยันว่าจะเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ต่อไป

ทั้งนี้ จากการเข้ามาดูแลพี่น้องเกษตรกร ส่งผลให้ราคารับซื้อมังคุดยังคงมีเสถียรภาพ โดยราคารับซื้อปัจจุบันราคานอกกลุ่มประมูล เกรดมันรวม 30-35 บาท/กิโลกรัม (กก.) เกรดคละ 20-25 บาท/กก. ขณะที่ราคากลุ่มประมูล เกรดมันใหญ่ 35-40 บาท/กก. เกรดมันเล็ก 20-28 บาท/กก. เกรดลายใหญ่ 25-30 บาท/กก. เกรดตกไซส์ บวกดอก 17-20 บาท/กก. และเกรดดำ 15-15.10 บาท/กก.

ก่อนหน้านี้ ในช่วงฤดูการผลิตมังคุดภาคใต้ กรมได้ดำเนินการประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ผู้รวบรวม เข้ารับซื้อมังคุดใต้ผ่านกลไกต่าง ๆ ได้แก่ ทำสัญญาข้อตกลงปริมาณ 27,450 ตัน เปิดจุดจำหน่ายทั่วประเทศ 220 จุด ที่ห้างท้องถิ่น และ 100 จุดที่โมบายพาณิชย์ มีการรับซื้อปริมาณรวม 1,000 ตัน และในช่วงราคาปรับตัวลดลง ก็ได้ประสานผู้ประกอบการ ผู้รวบรวม และผู้ส่งออกเข้าไปรับซื้อมังคุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับราคาในกลุ่มประมูลและจากเกษตรกรโดยตรง ซึ่งผลดำเนินการ ทำให้ราคามังคุดยังคงมีเสถียรภาพจนถึงปัจจุบัน

ร้อยตรีอรุณ บุญวงศ์ ประธานแปลงใหญ่มังคุดจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปีนี้คุณภาพมังคุดมีปัญหา จากสภาพลมฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวย อากาศแล้งมาก มังคุดที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ลูกเกรด A B มาก กลายเป็นลูกมังคุดตกเกรด คิดเป็น 20% ของผลผลิตทั้งหมด จากเดิมมีเพียงแค่ 5% ซึ่งต้องขอบคุณกรมการค้าภายในที่พาผู้ประกอบการเข้ามาช่วยซื้อตั้งแต่แรกถึงตอนนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่เลยช่วงระยะพีคแล้ว เป็นช่วงปลายฤดูสุดท้ายแล้ว

“ที่มีข่าวเกษตรกรที่ไปเทมังคุดทิ้ง เพราะเหลือ กก.ละ 8 บาท เป็นมังคุดตกเกรด คือ รวมลูกทุกชนิด คุณภาพไม่ได้ ถ้าคัดก็ได้แค่ครึ่งเดียว ซึ่งเคยเสนอไปแล้วให้ระมัดระวัง เพราะถ้ามีการนำมังคุดที่เก็บลูกหล่น หรือที่กินไม่ได้ ใส่ไปขายด้วย คนซื้อที่ซื้อไปส่งล้ง ก็โดนคัดออกเยอะ เมื่อคุณภาพไม่ได้ ราคามันก็ลง และพาราคาลูกที่ดีลงไปด้วย ส่วนราคาในกลุ่มประมูลตอนนี้ เกษตรกรยังรับได้ ส่วนที่ราคาต่ำลงบ้าง ก็เป็นไปตามกลไกตลาด ที่ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดู ผลผลิตอาจคุณภาพไม่ดี โดยที่ประมูลในกลุ่มไม่มีปัญหา ส่วนที่มีปัญหาเป็นพ่อค้ารายย่อยที่ไม่เข้าร่วมกลุ่ม แต่กรมการค้าภายใน ก็พยายามเข้ามาช่วยตลอด ตอนนี้ก็เข้ามาช่วยดูแลแล้ว” ร้อยตรีอรุณ กล่าว

มูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย และน้องชาย เข้าเยี่ยมครอบครัวส.ต.ท.สละชีพเพื่อชาติ มอบธงชาติ-เงินบำรุงขวัญ

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 เวลา 14.00 น. ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. ในนามมูลนิธิพระราหู ร่วมกับ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ ผกก.สภ.หนองจิก จว.ปัตตานี ได้เดินทางเข้าพบ ครอบครัว ส.ต.ท. บุญกีนี ดือเระ ผบ.หมู (ป.) สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี ผู้ปฏิบัติหน้าที่ สละชีพเพื่อชาติ ณ.บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.นาหว้า อ.จะนะ จว.สงขลา

เพื่อร่วมมอบธงชาติ เงินบำรุงขวัญ และพูดคุยให้กำลังใจ แก่ครอบครัว ส.ต.ท.บุญกีนี ดือเระ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และยิงถล่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุเกิดหน้าเทศบาลตำบลยะรัง จว.ปัตตานีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บินตรงกัมพูชา ประสานงานกวาดล้างแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ต้นเหตุฆ่ายกครัวบางแก้ว

วันที่ (4 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. และคณะ ได้เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อประสานงานกับทางการกัมพูชา ในการประสานความร่วมมือเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเหตุสลดฆ่ายกครัวในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ภ.จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 ที่ผ่านมา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายยังประเทศไทย

โดยในเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ นายเชิดเกียรติ อรรถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา และหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงให้เดินทางมาทำงานกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยได้มีการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยคนไทยที่ถูกหลอกลวงกลับไปได้เป็นจำนวนมาก ในการนี้ นายเชิดเกียรติ ได้แสดงความมั่นใจ และพร้อมตอบรับความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง และจะให้การสนับสนุนในการประสานงานช่วยเหลือคนไทยอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของไทย ซึ่งกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในการหลอกลวงคนไทยผ่านแอพเงินกู้ ซึ่ง พล.ต.อ.ซอ เทต พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจไทยในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อย่างที่ได้เคยประสานงานร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สืบสวนของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวจีนในขบวนการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์นี้ให้ครบถ้วนทั้งหมด ซึ่งในคดีดังกล่าวได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 22 ราย ดำเนินการจับกุมและอายัดตัวแล้ว 11 ราย ยังหลบหนีอีก 11 ราย โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 9 รายที่หลบหนีอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะอาศัยความร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการจับกุมตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีฆ่ายกครัวของ สภ.บางแก้ว โดยวันนี้ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งท่านพร้อมให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้เข้าพบหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ซึ่งได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตำรวจไทย ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดทั้งชาวไทยและชาวจีน เพื่อร่วมมือกันปราบปรามปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป

'บิ๊กลภ' ผู้การสมุทรปราการ จับมือ กต.ตร.จัดประชุม กต.ตร.สัญจร ​กระชับสัมพันธไมตรี ส่งเสริมพัฒนาข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 2

พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ (กต.ตร.) จังหวัดสมุทรปราการ จัดประชุม กต.ตร.สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายในร้านตลาดนัดเรือบิน ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธไมตรีระหว่างคณะ กต.ตร.แต่ละ สภ.และเพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ

ภายในงานประกอบด้วย นายสุดใจ จิรยาภากร ประธานที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ นายกิตติ ยงค์สงวนชัย นายเลิศศักดิ์ เลิศอริยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อริยะอีควิปเม้นท์ จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.บางพลี นายทรงพล ทองวิจิตร เจ้าของร้านอาหาร ลา คาแนล คาเฟ่ ตลอดจนคณะกรรมการ (กต.ตร.) ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ทั้ง 15 สถานี คณะแม่บ้านตำรวจ ตลอดจนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และผู้กำกับการแต่ละ สภ. ร่วมในงานครั้งนี้ อีกทั้ง ยังได้รับการต้อนรับและเอื้อเฟื้อสถานที่จัดงาน โดยนายบัลลังก์ แตงอ่อน ประธานกรรมการบริหารตลาดนัดเรือบิน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่จัดงาน

ด้าน พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า การประชุม กต.ตร.สัญจร ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการพบปะสังสรรค์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยเฉพาะทำความเข้าใจแนวทางการทำงานในยุคของการเปลี่ยนแปลง พร้อมยกระดับบริการประชาชน สร้างความปลอดภัยและลดปัญหาอาชญากรรม สนับสนุน และส่งเสริมการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้าราชการตำรวจนั้นมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ อีกทั้ง หน่วยงาน กต.ตร.เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุน ส่งเสริมการทำงานของข้าราชการตำรวจให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดต่อไป

จากนั้น พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับทางคณะกรรมการ (กต.ตร.) สภ.บางพลี เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคณะ กต.ตร. ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น อีกทั้ง ภายในงานทาง กต.ตร.สภ.บางพลี ยังได้ออกมาร่วมร้องเพลงร่วมสร้างสีสันภายในงานได้ดีอีกด้วย โดยมี ร.ต.ต.หญิงพวงผกา สุขศรี ข้าราชการบำนาญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายนรา ฟองเมือง โฆษก กต.ตร.สภ.สำโรงเหนือ มาร่วมเป็นพิธีกรภายในงานครั้งนี้ 

‘เฒ่าสามนิ้ว’ ลั่น!! บัดนี้เลิกใส่ ‘เสื้อสีน้ำเงินเข้ม’ แล้ว โลกนี้มีเสื้อสีอื่นให้เลือกอีกเยอะ จะไปแคร์ทำไม?

(5 ก.ย. 66) นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Suchart Sawadsri’ ระบุว่า…

“กองทัพมีผลงานอะไร? กองทัพมีผลงาน 99 ศพ!!”

“ครั้งหนึ่งมี ‘หญิงเสื้อแดง’ คนหนึ่งถามผมว่า เมื่อตอนเขาฆ่าคนเสื้อแดง ปี 53 ปัญญาชนคนชั้นกลางเช่นผมทำอะไรอยู่ ผมตอบไปด้วยความจริงใจว่า ผมกำลังวาดรูปอยู่ และนี่คือความจริง ผมไม่ใส่ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อส้ม แต่ใส่เสื้อ ‘นํ้าเงินเข้ม’ มาตลอด ในแทบทุกวาระ และบัดนี้ ผมคิดว่าผมจะเลิกใส่ ‘นํ้าเงินเข้ม’ แล้ว ใส่ ‘นํ้าเงินเข้ม’ มานานก็เบื่อ โลกนี้มีสีต่างๆ ให้เลือกมากมาย จะไป Care ทำไม ไม่มีหลานให้เลี้ยง อยากแบกอะไรก็แบก”

ผบ.ตร. เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องแก่บุตรข้าราชการตำรวจ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ และทุนการศึกษาของมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว มากกว่า 1,200 ทุน มุ่งส่งเสริมการศึกษาให้เยาวชน และสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ

วันนี้ (5 ก.ย.66) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว และทุนการศึกษาตามโครงการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2566 ณ ห้องประชุม ศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีคุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , ผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธี

สำหรับทุนการศึกษาตามโครงการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2566 ที่ ผบ.ตร.เป็นประธานมอบในวันนี้ ประกอบด้วย 2 ประเภททุนการศึกษา ได้แก่ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจเรียนดี สายวิชาชีพอนุปริญญา (ต่อเนื่องไม่เกิน 2 ปี) จำนวน 3 ทุนๆ ละ 25,000 บาท เป็นเงิน 150,000 บาท และทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจเรียนดี ระดับอุดมศึกษา (ต่อเนื่องไม่เกิน 4 หรือ 6 ปี) จำนวน 113 ทุนๆ ละ 40,000 บาท เป็นเงิน 19,440,000 บาท 

ในปี 2566 นี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจได้จัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2566 เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนซึ่งเป็นบุตรข้าราชการตำรวจ โดยแบ่งประเภททุนเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 
1. ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต บาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 10 ทุนๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 500,000 บาท
2. ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งทุนประเภทนี้ จำนวน 2,201 ทุนๆ ละ 3,000 บาท เป็นเงิน 6,603,000 บาท
ซึ่งทุนการศึกษาประเภทที่ 1-2 ผบ.ตร.เป็นประธานมอบทุนการศึกษา เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมเป็นเงิน  7,103,000 บาท
3. ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจเรียนดี สายวิชาชีพอนุปริญญา (ต่อเนื่องไม่เกิน 2 ปี) จำนวน 3 ทุนๆ ละ 25,000 บาทต่อปี เป็นเงิน 150,000 บาท
4. ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจเรียนดี ระดับอุดมศึกษา (ต่อเนื่องไม่เกิน 4 หรือ 6 ปี) จำนวน 113 ทุนๆ ละ 40,000 บาทต่อปี เป็นเงิน 19,590,000 บาท 

ซึ่งทุนประเภทที่ 3 และ 4 มีการมอบในวันนี้ รวมเป็นเงิน  19,590,000 บาท โดยในปี 2566 นี้ ทางสมาคมแม่บ้านตำรวจได้เพิ่มทุนการศึกษา 2 ประเภทนี้ จากปี 2565 จำนวน 81 ทุน ปี 2566 เพิ่มอีกจำนวน 35 ทุน รวมเป็น 116 ทุน เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจได้มากขึ้น โดยมีบุตรข้าราชการตำรวจได้รับทุนการศึกษา จำนวน 18 หน่วย 3 ลำดับแรกที่ได้รับทุนการศึกษา เป็นบุตรข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจภูธรภาค 5 ทั้งนี้ รวมทั้ง 4 ประเภททุนการศึกษาที่สมาคมแม่บ้านตำรวจมอบให้กับบุตรข้าราชการตำรวจในปี 2566 จำนวน 2,327 ทุนรวมมูลค่า 26,693,000 บาท

นอกจากนี้ ในวันนี้ ผบ.ตร.ได้มอบทุนการศึกษามูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจตั้งแต่ชั้นยศร้อยตำรวจเอกลงมา ที่กำลังศึกษาระดับประถมศึกษาถึงปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 1,173 ทุน จำนวน 8,554,000 บาท โดยในวันนี้มีผู้แทนหน่วยงานที่รับทุนการศึกษา จำนวน 11 หน่วย และบุตรของข้าราชการที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนรับทุนครั้งนี้ จำนวน 11 ราย ส่วนที่เหลือจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีของหน่วย จำนวน 37 หน่วยงาน ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามจำนวนที่ได้รับจัดสรร เพื่อนำไปจ่ายให้แก่บุตรของข้าราชการตำรวจในสังกัดต่อไป 

คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจดำเนินการตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยเหลือด้านการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสมาคมแม่บ้านตำรวจขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนเงินจากมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ที่เห็นคุณค่าของการศึกษา และมีเจตนารมณ์ที่จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจ 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า  ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว สมาคมแม่บ้านตำรวจ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ที่ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา และยินดีกับผู้ได้รับทุนการศึกษาและครอบครัวทุกท่าน ตนดีใจที่ได้เห็นความร่วมมือและน้ำใจจากทุกฝ่าย ที่สนับสนุนโอกาสทางการศึกษา เป็นการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ข้าราชการตำรวจ นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากทางราชการ พร้อมขอฝากถึงเด็กๆ ทุกคนว่า เมื่อได้รับโอกาสที่ดีนี้แล้ว ขอให้รักษาโอกาสนี้ไว้ ตั้งใจเรียน รักษามาตรฐานผลการเรียนให้สม่ำเสมอ ให้เป็นผู้ที่เรียนดีด้วย และประพฤติดีด้วย ฝักใฝ่ในสิ่งที่ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทางที่ถูกที่ควร ให้เป็นที่ภาคภูมิใจว่า เราเป็นลูกตำรวจที่น่าชื่นชม เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ เป็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติ

BYD แถลงผลตรวจสอบรถยนต์ไฟฟ้าควันพุ่งขณะชาร์จ พบความเสียหายบริเวณชุดสายไฟเชื่อมแบตฯ-น้ำยาแอร์รั่ว

(5 ก.ย. 66) จากกรณีเหตุรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 มีควันบริเวณฝากระโปรงหน้า ขณะจอดชาร์ตแบตเตอรี่อยู่บริเวณจุดจอดชาร์ตหน้าห้างแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี...ล่าสุด บริษัท เร-เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้อัปเดตการตรวจสอบฉบับที่ 2 โดยข้อสรุปเบื้องต้นจากทีมวิศวกร BYD ระบุว่า…

ขอเรียนแจ้งความคืบหน้ากรณีรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 มีควันเกิดขึ้นบริเวณฝากระโปรงหน้า ขณะกำลังชาร์จไฟ DC อยู่ที่สถานีชาร์จไฟนั้น ในวันนี้ทางทีมวิศวกรบีวายดีและเรเว่ ได้เร่งทำการตรวจสอบทุกระบบ ทุกอุปกรณ์เพื่อหาสาเหตุจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างเต็มที่

ข้อสรุปเบื้องต้นจากทีมวิศวกรมีวายดีและเรเว่ ที่ได้ตรวจเช็คจากสภาพภายนอก บริเวณพื้นที่ใต้ฝากระโปรงรถด้านหน้า พบความเสียหายบริเวณชุดสายไฟที่เชื่อมต่อไปยังแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อน ส่งผลไปยังท่อแอร์ได้รับความเสียหายจนทำให้น้ำยาแอร์รั่วออกมา และเกิดควันจากน้ำยาแอร์ที่ผสานกับความร้อนในบริเวณดังกล่าวแต่ไม่เกิดเปลวไฟแต่อย่างใด

ในส่วนของระบบอื่น ๆ เช่น Control Module ที่ใช้ควบคุมกระแสไฟ ชุดสายไฟและจุดเชื่อมต่อสายไฟที่ควบคุมแบตเตอรี่แรงดันสูง ช่องเสียบชาร์จไฟ และตัวแบตเตอรี่แรงดันสูง ไม่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางทีมวิศวกรของบีวายดีและเรเว่กำลังเร่งตรวจสอบหาข้อพิสูจน์เพิ่มเติมในทุกระบบของรถให้มั่นใจอย่างครบถ้วน

ขั้นตอนต่อจากนี้ ทางบีวายดีและเรเว่เตรียมนำชื้นส่วนอะไหล่ใหม่ เปลี่ยนและทดแทนส่วนที่ได้รับความเสียหาย จนรถสามารถเข้าโหมด ON พร้อมเปิดใช้งานตามปกติ เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือพิเศษตรวจวิเคราะห์การทำงานของรถอย่างละเอียดต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top