Thursday, 15 May 2025
NEWS

‘กทม.’ ผนึก ‘มูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย-ทิพยประกันภัย’ จัด ‘TIP SPIRIT’ หนุนเยาวชนเสริมทักษะกีฬา-พัฒนาตนเอง ปูทางสู่นักกีฬาอาชีพ

(9 ก.ย. 66) ‘กรุงเทพมหานคร–มูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย-ทิพยประกันภัย’ ร่วมจัดโครงการ ‘TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง’ ให้เยาวชนไทยทั่วกรุงเทพฯ ได้เรียนรู้ทักษะกับโค้ชระดับตํานานฟุตบอล-วอลเลย์บอล ตั้งแต่ กันยายน-พฤศจิกายน 2566

ดร.ชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ถิรชัย วุฒิธรรม ประธานมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ร่วมแถลงข่าวโครงการ ‘TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง’ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ

สำหรับ ‘TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง’ เป็นโครงการที่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นบนแนวคิดที่ต้องการเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มุ่งเน้นหลักธรรมาภิบาล ต้องการให้ประชาชนทุกคนได้รับการดูแล และร่วมสร้างสรรค์สังคมปลอดภัย เยาวชนไทยห่างไกลยาเสพติด ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางตามกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG โดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ด้านสังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ภายใต้การบริหารงานอย่างมืออาชีพ

อีกทั้งในปี พ.ศ. 2566 นี้ ยังถือเป็นโอกาสพิเศษที่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก้าวเข้าสู่ปีที่ 72 อยู่เคียงข้างคนไทยและสังคมไทย จึงได้มีการริเริ่มโครงการ ‘TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง’ ขึ้นมา โดยร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ผ่านโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์ฝึกกีฬาของกรุงเทพมหานครและ มูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 8-17 ปี ได้เรียนรู้ประสบการณ์การเล่นกีฬา และทักษะขั้นพื้นฐานในการเล่นกีฬาประเภทฟุตบอล และวอลเลย์บอลได้อย่างถูกต้อง เพื่อมุ่งหวังให้เยาวชนไทยใช้การเล่นกีฬาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพตนเอง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ ตลอดจนเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในอนาคต

โครงการ ‘TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง’ ยังได้รับการตอบรับจากโค้ชและอดีตตำนานนักกีฬาไทยที่ให้เกียรติเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยฝึกฝนทักษะ และแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเยาวชนไทย อาทิ น.อ. ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, สะสม พบประเสริฐ, วรวุธ ศรีมะฆะ, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย, ก้องภพ สรงกระสินธ์ คุณพ่อของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย, พ.ต. ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน โค้ชฟุตบอลโปรไลน์เซนส์, วีระยุทธ สวัสดี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย และโค้ชมากฝีมืออดีตทีมชาติไทยอีกมากมาย รวมไปถึงตำนานวอลเลย์บอลหญิงไทย ทั้งปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และปิยะนุช แป้นน้อย และโค้ชวอลเลย์บอลจากสโมสร สุพรีม ทิพย ชลบุรี- อี.เทค

นอกจากนี้ ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คุณถิรชัย วุฒิธรรม ประธานมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ยังได้มอบกรมธรรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ ทุนประกันภัยรวม 150,000 บาท ให้กับอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อเป็นการตอบแทนที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และสร้างความสุขให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยมี สมรักษ์ คำสิงห์, มนัส บุญจำนงค์, ปวีณา ทองสุก, วรพจน์ เพชรขุ้ม และ เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ผู้สร้างตำนานคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ รวมถึง สืบศักดิ์ ผันสืบ เป็นตัวแทนรับมอบให้กับอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาประเภทต่างๆ จำนวนกว่า 300 คน

โครงการ TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง จะจัดทั้งหมด 6 สนาม ดังนี้
- สนามที่ 1 วันที่ 16-17 กันยายน 2566 ​​ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ฟุตบอล)
- สนามที่ 2 วันที่ 30 กันยายน - 1 ตุลาคม 2566 ​ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ มีนบุรี (ฟุตบอล)
- สนามที่ 3 วันที่ 14-15 ตุลาคม 2566 ​​ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ บางมด (วอลเลย์บอล)
- สนามที่ 4 วันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 ​​ณ ศูนย์กีฬาบางบอน (ฟุตบอล)
- สนามที่ 5 วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ​ณ โรงเรียนนนทรีวิทยา เขตยานนาวา (ฟุตบอล)
- สนามที่ 6 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ​​ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ฟุตบอล) Final Match

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมสมัคร
1.) เยาวชนไทยที่มีอายุระหว่าง 8-17 ปีบริบูรณ์
2.) ต้องมีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคประจำตัว ร่างกายพร้อมรับการอบรม
3.) สามารถเดินทางเข้าร่วมโครงการตามสถานที่ต่างๆ ที่ลงทะเบียนได้

‘โครงการกีฬาฟุตบอล’ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นำโดยทีมโค้ชมืออาชีพ จะมีการคัดเลือกนักกีฬาสนามละ 8 คน 4 สนาม รวม 32 คน (ยกเว้นสนามที่ 3 ซึ่งจะสอนวอลเลย์บอล) เป็นตัวแทนไปร่วมคัดเลือกเป็นสุดยอดนักกีฬา TIP SPIRIT ในโครงการสนามสุดท้าย วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 โดยจะมีการเรียนรู้ทักษะขั้นสูง และร่วมแสดงความสามารถ จากนั้นจะคัดเลือกนักกีฬาเยาวชนที่มีความสามารถโดดเด่นจำนวน 11 คน เพื่อรับรางวัลพิเศษจากโครงการ และขึ้นทะเบียนเป็นนักกีฬาของทิพยประกันภัย โดยจะได้รับกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ทุนประกันภัยคุ้มครอง 1 ล้านบาท พร้อมรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการของทิพยประกันภัยในซีซั่นต่อไป ส่วนอีก 21 คน จะได้รับกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ทุนประกันภัยคุ้มครอง 5 แสนบาท

‘โครงการกีฬาวอลเลย์บอล’ จัดขึ้นเพื่อให้น้องๆ ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ ทั้งการฝึกซ้อมฐานต่างๆ และได้ลงทีมเพื่อแสดงความสามารถอย่างรอบด้าน ผ่านการดูแลและคำแนะนำจากโค้ชและนักกีฬาทีมชาติของสโมสร สุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค โดยจะมีการคัดเลือกนักกีฬาเยาวชน จำนวน 6 คน เพื่อรับรางวัลสุดยอดนักกีฬา TIP SPIRIT และได้รับกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ทุนประกันภัยคุ้มครอง 1 ล้านบาท พร้อมรับรางวัลพิเศษจากโครงการในโครงการวันสุดท้าย

‘ดาวหางนิชิมูระ’ เตรียมเฉียดโลก 12 ก.ย.นี้ หลังถูกค้นพบเดือนก่อน สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากพลาดชมต้องรออีกไป 400 ปี!!

วันที่ 8 กันยายน เพจเฟซบุ๊ก ‘NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ’ โพสต์ข้อความชวนชม ‘ดาวหางนิชิมูระ’ ที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กำลังจะโคจรเข้าใกล้โลกในเดือนกันยายนนี้ โดยระบุว่า…

ลุ้นชม ‘ดาวหางนิชิมูระ’ เดือนกันยายน นี้

โดยระบุว่าดาวหาง C/2023 P1 (Nishimura) ที่ถูกค้นพบเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ กำลังจะโคจรเฉียดโลกในวันที่ 12 กันยายนนี้ และจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 17 กันยายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีความสว่างมากที่สุด และยังมีมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากเพียงพอ อาจสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าในช่วงหัวค่ำของวันดังกล่าว

‘ดาวหางนิชิมูระ’ ค้นพบครั้งแรกโดย ‘ฮิเดโอะ นิชิมูระ (Hideo Nishimura)’ นักดาราศาสตร์สมัครเล่นชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2023 โดยเขาใช้กล้องโทรทรรศน์ถ่ายภาพท้องฟ้าในช่วงรุ่งเช้า แล้วพบว่ามีวัตถุท้องฟ้าบางอย่างที่ไม่สามารถระบุได้บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ติดมาในภาพ และเมื่อกลับไปตรวจสอบภาพถ่ายในวันก่อนหน้า ก็พบวัตถุเดียวกันนี้ แต่มีการเปลี่ยนตำแหน่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย จึงคาดว่าน่าจะเป็นดาวหางดวงใหม่ที่ไม่เคยมีใครค้นพบ

ฮิเดโอะ นิชิมูระ ได้ส่งข้อมูลไปยัง ‘Minor Planet Center’ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะช่วยตรวจสอบและยืนยันการค้นพบวัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะอย่างเป็นทางการ และได้รับการยืนยันในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.2023 จึงกำหนดชื่อดาวหางดวงนี้อย่างเป็นทางการว่า “C/2023 P1 (Nishimura)” จัดเป็นดาวหางคาบยาวที่มีแหล่งที่มาจากเมฆออร์ต (Oort Cloud) มีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 437 ปี โดยขณะนี้กำลังโคจรเข้าใกล้โลกและดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ และจะโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ.2023

#ต้องดูดาวหางนิชิมูระตอนไหน?
ในช่วงรุ่งเช้าทางทิศตะวันออกก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ของวันที่ 8 กันยายน 2023 ดาวหางจะมีตำแหน่งปรากฏอยู่บริเวณกลุ่มดาวสิงโต (Leo) บริเวณใกล้กับดาวเรกูลัส (Regulus) ซึ่งอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นมุมประมาณ 20 องศา ทำให้มีระยะเวลาสังเกตการณ์ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น และจากข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ขณะนี้ดาวหางมีค่าความสว่างปรากฏ 5.2 สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าในพื้นที่ที่ไร้มลภาวะทางแสง

ในช่วงวันถัดมาหลังจากนี้ แม้ดาวหางจะโคจรเข้ามาใกล้โลกและดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันดาวหางก็จะมีตำแหน่งปรากฏบนท้องฟ้าเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น ทำให้ยิ่งมีเวลาในการสังเกตการณ์น้อยลงเรื่อยๆ และในวันที่ 12 กันยายน 2023 จะเป็นวันที่ดาวหางโคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุด ด้วยระยะห่าง 125 ล้านกิโลเมตร แต่ก็เป็นช่วงที่ดาวหางมีตำแหน่งปรากฏบนท้องฟ้าอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มาก ทำให้ยากต่อการสังเกตการณ์

หลังจากวันที่ 15 กันยายน 2023 ดาวหางจะเปลี่ยนมาปรากฏทางทิศตะวันตกในช่วงหัวค่ำ และมีมุมปรากฏบนท้องฟ้าห่างออกจากดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเคลื่อนตำแหน่งออกจากกลุ่มดาวสิงโต (Leo) จนกระทั่งในวันที่ 17 กันยายน 2023 จะเป็นวันที่ดาวหางโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดด้วยระยะห่าง 34 ล้านกิโลเมตร (ใกล้กว่าวงโคจรของดาวพุธประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์) และจะยิ่งมีความสว่างมากขึ้น โดยเว็บไซต์ Comet Observation database (COBS) คาดการณ์ว่า ดาวหางอาจมีค่าความสว่างปรากฏได้มากถึง 3.0 ซึ่งเป็นค่าความสว่างปรากฏที่สามารถสังเกตเห็นด้วยตาเปล่าได้ไม่ยากนัก

ในวันที่ 17 กันยายนนี้ จะสามารถสังเกตการณ์ดาวหางได้ในกลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) ทางทิศตะวันตกในช่วงหัวค่ำหลังดวงอาทิตย์ตก ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นมุมประมาณ 10 องศา มีเวลาสังเกตการณ์เกือบ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะตกลับขอบฟ้าตามดวงอาทิตย์ไป ซึ่งหลังจากนี้ดาวหางจะค่อยๆ โคจรออกห่างจากดวงอาทิตย์ และมีความสว่างลดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถสังเกตเห็นได้อีก และจะโคจรกลับเข้ามาเฉียดโลกและดวงอาทิตย์อีกครั้งในอีกกว่า 400 ปีข้างหน้า

‘รพ.ช้าง’ อัปเดตอาการ ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ พบข้อเสื่อม-ศอกอักเสบ ทำให้งอขาไม่ได้-กล้ามเนื้อหัวไหล่ฝ่อลีบ ล่าสุดเตรียมวางแผนรักษาแล้ว

(8 ก.ย.66) โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง เปิดเผยความคืบหน้าการรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ ว่า ทีมงานได้มีการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของขาหน้าซ้ายพลายศักดิ์สุรินทร์โดยละเอียด พบว่า การวัดและวิเคราะห์การก้าวย่าง ใช้ระบบวิเคราะห์การเดินของช้างเอเชีย

โดยวิธีการใช้หน่วยวัดแรงเฉื่อย (Inertial Measurement Unit : IMU) ซึ่งจะมีการติดเซนเซอร์ที่ตำแหน่งต่างๆ บนร่างกายช้าง ให้ช้างเดินบนทางราบเป็นระยะทางประมาณ 25 เมตร แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผล

พบว่าขาหน้าซ้ายมีจังหวะการก้าวย่างสั้นกว่าขาข้างอื่น และพบการเหยียดของขาหน้าซ้ายท่อนบนมากกว่าส่วนอื่น นอกจากนี้ยังพบว่า มีการใช้ขาหน้าขวา เพื่อชดเชยการทำงานของขาหน้าซ้าย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโครงสร้างผิดรูปได้ในอนาคต

จากการถ่ายภาพรังสี (x-ray) ขาหน้าซ้าย เพื่อดูความผิดปกติของกระดูก โดยเฉพาะในส่วนของข้อต่อ พบว่า บริเวณข้อศอกผิวกระดูกมีความขรุขระ และมีช่องว่างระหว่างข้อแคบกว่าปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของข้อเสื่อม (Osteoarthritis ; OA)

การตรวจกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonography) พบว่า เอ็นบริเวณข้อศอกด้านซ้ายมีการอักเสบเรื้อรัง เกิดเป็นพังผืด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช้างไม่สามารถงอขาได้ และพบว่ากล้ามเนื้อหัวไหล่ด้านซ้ายมีการฝ่อลีบเนื่องมาจากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน

เมื่อทำการวินิจฉัยจนพบสาเหตุของความเจ็บป่วยแล้ว ทีมงานจึงได้วางแผนการรักษา ดังนี้

1. กำหนดให้ช้างเดินออกกำลังกายในทางราบโดยให้เดินข้ามสิ่งกีดขวางเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขาหน้าซ้าย วันละ 30 นาที

2. ทำการนวดบริเวณข้อศอกซ้ายด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound therapy) เพื่อรักษาพังผืดในบริเวณดังกล่าว

3. กระตุ้น/เสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation ; PMS)

โดยจะมีการติดตามและประเมินผลการรักษาทุกๆ 30 วัน ทั้งนี้ขอขอบคุณคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Ams Cmu คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ร่วมตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาร่วมกันในครั้งนี้ และขอขอบคุณ BTL Medical Thailand (บริษัท บีทีแอล เมดิคอล เทคโนโลจีส์ จำกัด) สำหรับอุปกรณ์เครื่อง PMS

อุทาหรณ์!! ก้างปลาเก๋า 1.7 ซม.ทิ่มคอ ปล่อยทิ้ง 5 วัน โชคดี!! ยังไม่โดนกล่องเสียง หมอแนะอย่ากินไปคุยไป

(8 ก.ย.66) พญ.ลลิตา พระธานี แพทย์หูคอจมูก โรงพยาบาลธนบุรี 1 เปิดเผยว่า เพิ่งได้ผ่าตัดเคสคนไข้มารับบริการตรวจรักษา หลังพบความผิดปกติบริเวณคอ สอบถามเบื้องต้น ระบุว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากกินหัวปลาเก๋าหม้อไฟต้มเผือก เมื่อ 5 วันก่อน

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะกลืนอาหาร และพูดคุยได้ปกติ แต่รู้สึกว่ามีอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต จนไปหาหมอและมีการเอกซเรย์บริเวณคอ และส่องกล้องระบบทางเดินอาหารก็ยังไม่พบสาเหตุ

พญ.ลลิตา กล่าวว่า เท่าที่สอบสวนคนไข้มีอาการระคายเคืองคอด้านขวา คล้ายกับมีของทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา ตนจึงคลำเพื่อตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนพบรอยนูนเล็ก เมื่อส่งอัลตราซาวด์ พบชัดเจนว่ามีก้างปลายาว 1.70 ซม.ปักอยู่ เฉียดกล่องเสียงไปนิดเดียว

หลังพบสาเหตุที่เกิดจากก้างปลาตำคอ จึงผ่าตัดออกมาใช้เวลาเพียง 5 นาที และเปิดบาดแผลเพียง 3 ซม. โชคดีว่าก้างปลาที่มีแง่งอยู่ ไม่ได้มีส่วนใดไปในกล่องเสียง จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าหากพบสิ่งผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์ เพราะมีโอกาสติดเชื้อสูง

พญ.ลลิตา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้แนะนำว่าขณะรับประทานอาหาร ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน รวมทั้งไม่พูดคุยหัวเราะ รวมถึงลุ้นแข่งขันกีฬา ขณะมีอาหารอยู่ในกระพุ้งแก้ม แม้ว่าจะเป็นอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม ลูกชิ้น เต้าหู้ เพื่อป้องกันการสำลัก ติดคอ จนเกิดเหตุไม่คาดคิดได้

'เซ็นทรัล วิลเลจ' จัดหนัก!! 10 กันยา ช้อปสินค้า ครบ 3,000 ลุ้นเกาะขอบกรี๊ด PROXIE แบบ Exclusive 1 ที่นั่ง อย่าช้า!!

𝐂𝐞𝐧𝐭𝐫𝐚𝐥 𝐕𝐢𝐥𝐥𝐚𝐠𝐞 𝟒𝐭𝐡 𝐀𝐧𝐧𝐢𝐯𝐞𝐫𝐬𝐚𝐫𝐲 𝐌𝐚𝐠𝐢𝐜𝐚𝐥 𝐂𝐚𝐧𝐝𝐲 𝐂𝐞𝐥𝐞𝐛𝐫𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧.

(8 ก.ย.66) ฉลองครบรอบ 4 ปี กับ 'เซ็นทรัล วิลเลจ' พร้อมเอ็นจอยความสนุกแบบจัดเต็มกับ MINI CONCERT สุด Exclusive จากศิลปินวง PROXIE ชาว User พร้อมยัง มาเจอกันได้ที่ Central Village Bangkok Luxury Outlet

สำหรับงานนี้ มีเงื่อนไขสุดพิเศษ!! มาให้แฟนคลับ PROXIE ได้ร่วมสนุกกันด้วย โดยในวันที่ 10 ก.ย. 66 แค่คุณช้อปสินค้าภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ครบ 3,000 บาท ก็จะได้รับสิทธิ์ ที่นั่ง Exclusive 1 ที่นั่ง

**กติกา**

>> จำนวน 30 ท่านแรก

>> ลงทะเบียนที่จุด Redemption ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

>> เป็นใบเสร็จที่ช้อปภายในวัน สามารถรวมใบเสร็จได้

>> แต่ไม่สามารถรวมใบเสร็จจากการทำธุรกรรมทางการเงิน Tops, FamilyMart และ Food Village ไม่ร่วมกิจกรรม

อย่าพลาดกันน้า!!

ไทยติดอันดับ 29 ประเทศที่ดีที่สุดในโลก ส่วนอันดับ 1 สวิตเซอร์แลนด์คว้าไปครอง

สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ โพสต์เฟซบุ๊กวันนี้ (8 ก.ย. 66) ว่า ประเทศไทยติดอันดับ 29 ในรายชื่อประเทศที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2566 หรือ Best Countries 2023 จากยูเอส นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต (U.S. News and World Report)

ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า การจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกครั้งนี้เป็นการวัดประสิทธิภาพระดับโลกในหลากหลายด้าน โดยไทยติดอันดับที่ 29 จากทั้งหมด 87 ประเทศ โดยประเทศสวิตเซอร์แลนด์คว้าอันดับ 1 ไปครอง ขณะที่ประเทศแคนาดา ประเทศสวีเดน ประเทศออสเตรเลีย และประเทศสหรัฐฯ รั้งอันดับ 2-5 ตามลำดับ ส่วนประเทศอิหร่าน ได้อันดับ 87 เป็นอันดับสุดท้ายในการจัดอันดับดังกล่าว

'ดร.สุวินัย' ชี้!! สาเหตุก๊วนทัวร์รุม 'เพจดัง' เตือนคนรุ่นใหม่ให้รู้จักออม เพราะไปทิ่มแทงอีโก้คนรุ่นใหม่ 'หนี้ท่วมหัว-คำเตือนผู้ใหญ่ดันเป็นจริง'

(8 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ว่า...

คนรุ่นใหม่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

ว่ากันว่าปฏิกิริยาแรกของคนส่วนใหญ่ที่ได้รับฟังจากปากของหมอว่าตัวเองเป็น "มะเร็งระยะสุดท้าย" ... คือการปฏิเสธยอมรับความจริง!!

ครั้นพอผ่านไปไม่นาน เมื่อเจ้าตัวทำใจได้แล้วในที่สุดก็จำใจยอมรับความจริงได้...การรักษาที่แท้จริงเริ่มต้นจากจุดนี้ คือเริ่มตั้งแต่เจ้าตัวยอมรับความจริง

รายการ ‘ถามอีก กับอิก’ ของคุณอิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข เป็นรายการเกี่ยวกับเศรษฐกิจ-การเงินที่น่าติดตามในยุคนี้

วันนี้ผมได้ทราบข่าวว่า ทวิตเตอร์ส่วนตัวของคุณอิกโดนทัวร์ลงอย่างหนัก จนถึงขั้นคุณอิกต้องปิดทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาอย่างถาวร เพราะคุณอิกดันไปแนะนำให้คนรุ่นใหม่เริ่มเก็บออมเงิน อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และเริ่มลงทุนตั้งแต่เริ่มทำงาน

‘ความจริง’ ที่อยู่เบื้องหลังการโดนทัวร์ลงอย่างหนักของคุณอิกคืออะไร?

‘ความจริง’ นั้นก็คือ คนรุ่นใหม่มีหนี้ท่วมหัว และครัวเรือนไทยมีหนี้ท่วมหัว

ในช่วงที่ผ่านมาเราพบว่า...

- ปี 2563 คนไทยเป็นหนี้ 33%

- ปี 2564 คนไทยเป็นหนี้ 36%

- ปี 2565 คนไทยเป็นหนี้ 37%

จะเห็นได้ว่า สัดส่วนคนที่มีหนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี

ทำให้ตอนนี้สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ของไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นจาก 58% เป็น 90% ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา

เมื่อเข้าไปดูเนื้อในหรือประเภทของหนี้ ว่าหนี้ประเภทไหนที่มีสัดส่วนมากที่สุด เราพบว่า หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อรายได้ (ไม่รวมหนี้ซื้อบ้านซื้อรถ) มีมากสุดถึง 27%

มิหนำซ้ำ ‘หนี้เสีย’ ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

โดยล่าสุดหนี้ครัวเรือนไทย 15,960,000 ล้านบาท เป็นหนี้เสียถึง 950,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีหนี้ที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นหนี้เสียอีก 600,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกลางปี 2565 ที่อยู่ที่ 380,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 57% ภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึงปี

โดยหนี้เสียส่วนใหญ่ คือ หนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล และหนี้รถยนต์ รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์

โดยเฉพาะหนี้เสียรถยนต์ ที่มีโปรโมชันต่าง ๆ มากมาย ทำให้ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากต้นปี 2565 ที่ 1.47% จนล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2.05%

'มท.1' ขึงขัง!! สั่ง 'พ่อเมือง' ทำแบล็กลิสต์ 'ผู้มีอิทธิพล' หลังเกิดเหตุ 'กำนันดังนครปฐม' ลั่น!! จะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้

(8 ก.ย.66) ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กทม. มีการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนางทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดาไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เป็นประธาน เข้าร่วมพบปะผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่มาเข้าร่วมการประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุมขับเคลื่อนฯว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ที่บ้านกำนันดัง นั้น ทุกคนก็เห็นและทราบดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้มีระบบเช่นนี้มาทำร้ายชีวิต ทำลายความเป็นอยู่ของประชาชน ลูกน้องผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งถือปืนเข้ามาสังหารประชาชนชาวบ้านหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐ สิ่งเหล่านี้ภายใต้ความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพ่อเมืองจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้เราต้องไปดูว่า คนเหล่านี้เข้ามาเป็นกำนัน มาเป็นหัวหน้าผู้นำมวลชนได้อย่างไร และจะปล่อยให้มวลชนเดินตามสไตล์คนเหล่านี้แล้วชุมชนและประเทศจะเป็นอย่างไร

“เรื่องเหล่านี้ภายใต้การบริหารงานของพ่อเมืองจะยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศของเราหรือ เราต้องไปดู ไปขึ้นบัญชี ไปดูประวัติและดูพฤติกรรม ใครที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ จะมาเป็นผู้นำมวลชนไม่ได้ มีที่เดียวที่คนเหล่านี้จะอยู่ได้ซึ่งสมัยก่อนอยู่ในสังกัดของกระทรวงมหาดไทยแต่ตอนนี้อยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว เราต้องส่งไปอยู่ตรงนั้น ซึ่งปลายทางเขายินดีที่จะรับคนเหล่านี้ ไม่ให้ออกมารบกวนวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยที่เรารักสงบและมีแต่ความร่มเย็น” รมว.มหาดไทย กล่าว

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานรัฐสภา พร้อม ‘พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง’ รมว.ยุติธรรม ต้อนรับสภาเทศบาลนครยะลา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ นายอนุชิต กาญจนานุชิต รองนายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เลขานุการ ที่ปรึกษา และสมาชิกสภาเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา จำนวน 30 คน เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 16.35 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ 207 ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา ในโอกาสที่มาศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการ รวมทั้งด้านเทคโนโลยีและระบบสื่อสารของรัฐสภา โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม , นายซูการ์โน มะทา และนายสุไลมาน บือแนปีแน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดยะลา พรรคประชาชาติ และนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต้อนรับและขอบคุณชาวจังหวัดยะลาที่ให้ความกรุณาเลือก สส.พรรคประชาชาติ ทั้ง 3 เขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดยะลา เป็นจังหวัดที่เป็นบ้านเกิดของตน พร้อมกันนี้ได้ให้แง่คิดเกี่ยวกับการทำงานด้านการเมืองตลอดระยะเวลาสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา โดยการพัฒนาของระบบสาธารณูปโภคในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวจังหวัดยะลาดียิ่งขึ้น ในวันนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่คณะผู้บริหารสภาเทศบาลนครยะลามาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานรัฐสภา ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าในฐานะ สส.มีความยินดีที่จะช่วยผลักดันงานด้านต่าง ๆ ของท้องถิ่นให้สำเร็จ ผู้แทนราษฎรและหน่วยงานท้องถิ่นต้องช่วยกันทำงานเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความสุข และได้หารือประเด็นขยายเส้นทางรถไฟทักษิณารัถย์จากสิ้นสุดปลายทางที่ชุมทางหาดใหญ่ ให้ขยายมายังสถานียะลา หรือสถานีสุไหงโกลก เพราะรถไฟถือเป็นการคมนาคมหลักของประชาชนในภาคใต้ รวมทั้งปัญหาอีกหลายประเด็นที่สภาเทศบาลนครยะลาได้สะท้อนมานั้น ต้องขอฝากให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมช่วยผลักดันต่อไป 

“ผมขอให้สมาชิกสภาเทศบาลนครยะลาได้มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เพื่อบ้านเมือง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะการที่เราสร้างสิ่งใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากแล้ว มันจะเป็นผลบุญติดตัวเราตลอดไป” นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวทิ้งท้าย

ฉะเชิงเทรา-แถลงข่าวกำหนดจัดงานเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม : ความรักความสุข ความมั่งคั่ง Chachoengsao Happiness & Wealthy Carnival, Smart City from Learning City

มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ร่วมกับเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และสภาวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา แถลงข่าวกำหนดจัดงานเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม : ความรักความสุข ความมั่งคั่ง Chachoengsao Happiness & Wealthy Carnival, Smart City from Learning City “ฉะเชิงเทราเมืองแห่งการเรียนรู้สู่เมืองอัจฉริยะของคนทุกช่วงวัย”

วันนี้ 7 กันยายน 2566 ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตําบลหน้าเมือง อําเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวกำหนดจัดงานเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม : ความรักความสุข ความมั่งคั่ง Chachoengsao Happiness & Wealthy Carnival, Smart City from Learning City “ฉะเชิงเทราเมืองแห่งการเรียนรู้สู่เมืองอัจฉริยะของคนทุกช่วงวัย”

จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นจังหวัด 1 ใน 3 ของจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (The Eastern Economic Corridor : EEC) และได้รับคัดเลือก จากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออกให้เป็น “พื้นที่เมืองใหม่สำหรับการอยู่อาศัย” ซึ่งเป็นโอกาส ที่เราจะนําต้นทุน เหล่านี้ที่เรามีอยู่ในพื้นที่อันทรงคุณค่ามีรากเหง้าทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างความรัก ความสุข  ความมั่งคั่ง ขับเคลื่อนสู่เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่า ลงทุน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ร่วมกับเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และสภาวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา กำหนดจัดงานเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม : ความรักความสุข ความมั่งคั่ง Chachoengsao Happiness & Wealthy Carnival, Smart City from Learning City 

ในระหว่างวันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2566 ณ บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำบางปะกง ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำบางปะกง (หน้าโรงพยาบาลพุทธโสธร) ซึ่งภายในพบกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย จีน จัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ อาหารจากชุมชนต่างๆมากมายมากกว่า150 ร้านค้า นิทรรศการของมหาวิทยาลัยราชภัฏฯนิทรรศการจากชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา  และชุดการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน จากนักเรียน นักศึกษาและชุมชนตลาดบ้านใหม่ และในการจัดงานครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านนิรุต  มณีพันธ์  ผู้ว่าการรถรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารการ จัดทริปทริปพิเศษ โดยนำคณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และนักท่องเที่ยว วันละ 200 คน เดินทางด้วยขบวนรถไฟ KIHA183 มาเที่ยวงานเทศกาลของเราในครั้งนี้

“ เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า ” กระหึ่มอาเซียน ปลื้ม หม้อแปลงไทย ลดพลังงาน - ลดคาร์บอน  กระทรวงพลังงานอาเซียน ยอมรับ มอบรางวัลนวัตกรรม หม้อแปลงเทคโนโลยี ล้ำสมัย ASEAN Energy Awards (Energy Efficiency Building)

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด โดย คุณประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์  รองกรรมการผู้จัดการ นำหม้อแปลงไทย ลดพลังงาน - ลดคาร์บอน ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ระดับภูมิภาคอาเซียน ASEAN Energy Awards 2023 ณ Bali Nusa Dua Convention Center เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย  โดย บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด ประเภท Cutting Edge Technology (เทคโนโลยีล้ำสมัย) จากผลงาน "หม้อแปลง Low Carbon" ด้านการอนุรักษ์พลังงานและการประหยัดพลังงาน พร้อมกันนี้ได้รับเกียรติจาก คุณกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย คุณประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ร่วมแสดงความยินดี

ดร. ประเสริฐ กล่าว ความสำเสร็จเหล่านี้เกิดจากทุกหน่วยงาน ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการลดใช้พลังงานและนี่ คือต้นทางแห่งความสำเร็จของหน่วยงานที่จะเป็นตัวอย่างในการขับเคลื่อน ผลักดัน และสานต่อนโยบานด้านพลังงานเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero)
คุณประจักษ์  กิตติรัตนวิวัฒน์  กล่าว ขอขอบพระคุณ ทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)  โดยหม้อแปลงดังกล่าว ตอบโจทย์ การประหยัดพลังงาน ของภาคอุตสาหกรรม  และผู้ประกอบการอาคารสถานที่ ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 11.5% และลดคาร์บอนมากกว่า 100 ล้านตันคาร์บอน คืนทุนภายใน 2-5 ปี เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนสร้างความมั่นคงและความยืดหยุ่นด้านพลังงาน เพื่อผลัดดันการเปลี่ยนผ่านไป สู่พลังงานสะอาด ความยั่งยืนนี้จะส่งเสริมการเติบโตสีเขียวในภูมิภาค  ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลต้องประกาศนโยบายการลดคาร์บอน โดยประกาศเป้าหมายความเป็นกลางของแผนลดก๊าซคาร์บอนในปี 2575 จะเห็นภาพการใช้พลังงานทั้งด้านอุตสาหกรรมและภาคประชาชน ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับการ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ดังนั้น หม้อแปลงที่กล่าวข้างต้นจึงตอบโจทย์ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ และเอกชน ด้านการประหยัดพลังงานและลดคาร์บอน (คืนทุน 2-5 ปี) หม้อแปลง Low Carbon เป็นหม้อแปลงบริหารระบบจัดการพลังงาน ที่บริหารจัดการสิ้นเปลืองให้เกิดประสิทธิภาพและมีความเสถียรภาพกับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและยั่งยืน ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม ,อาคาร สถานประกอบการ ลดค่าไฟฟ้า 5-20% (Energy Saving) ลดคาร์บอน 5-20% (Low Carbon) มากกว่า 100 ล้านตัน ลดมลพิษ (Low Emission) ทำให้อุปกรณ์อายุการใช้งานยาวนานขึ้น (Long Life Equipment) เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้กับ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม สถานประกอบการ เจ้าของอาคาร ตามนโยบายของรัฐบาล ในการลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน”

'เพจดัง' งง!! โพสต์แนะเด็กรุ่นใหม่ 'หัดเก็บเงิน-ลดฟุ่มเฟือย' กลับโดนทัวร์ลงทวิตเตอร์ แถมถูกระงับใช้บัญชียาว

(8 ก.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ถามอีก กับอิก Tam-Eig’ ของ ‘อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“Twitter ส่วนตัวของผมถูก เฮีย Elon Musk แบนถาวรมา 1 เดือนแล้วนะครับ เพราะไปแนะนำให้คนรุ่นใหม่เริ่มเก็บออมเงิน อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และให้เริ่มลงทุนตั้งแต่เริ่มทำงาน 

ปรากฏว่าโดนทัวร์ลงหนัก retweet ไปหลักแสนครั้ง (และโดนซ้ำอีกอันที่พาดพิงหุ้น TESLA ซึ่งทัวร์ลงอีก)

สรุปก็เลยโดนแบน แบบถาวร แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่ามี account ปลอมที่แอบอ้างชื่อผม ไปแจกคริปโตบ้าง ขอยืมตังบ้าง ขอยืนยันว่าปลอมหมดนะครับ

ตอนนี้ผมน่าจะเลิกเล่น twitter ถาวรแล้วสำหรับ account ส่วนตัว อย่าไปเชื่อพวกที่มาหลอกนะครับ
แต่ถ้าเป็นของช่อง TAMEIG ที่เป็น official ยังไปตามกันได้ที่นี่ครับ https://twitter.com/TamEig”

‘ต้อม เป็นเอก’ เผย ชีวิตที่ปราศจาก ‘ความฝัน-ตัวตน’ เป็นเรื่องปกติ เปรียบเสมือน ‘เครื่องประดับ’ มีติดตัวไว้ก็เท่ดี แต่ถ้าไม่มี ‘ไม่เป็นไร’

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี BrandThinkme โพสต์คลิปวิดีโอ เป็นเอก รัตนเรือง หรือ ‘ต้อม เป็นเอก’ ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวไทย ที่ได้แชร์ข้อคิดดีๆ สำหรับ ‘ความฝัน’ และ ‘ตัวตน’ โดยระบุว่า…

“ผมไม่รู้สำหรับวาทกรรมที่บอกต้องหาตัวตนให้เจอ มีความฝันต้องตามฝัน…ผมไม่ทราบว่าวาทกรรมพวกนี้มาตอนไหน? มันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความฝัน เพราะคนที่ ‘ไม่มีความฝัน’ ก็มีอยู่เต็มไปหมด”

“ดังนั้น ความฝันไม่มี ตัวตนไม่มี ไม่เป็นไร…หากตัวคุณแค่อยากทํางานแบงก์ไปวันๆ แล้วก็ซื้ออาหารถุง 20 บาท 2-3 ถุงเพื่อกลับมากินกับแฟนที่บ้าน แต่พอคุณไปอ่านเจอประเด็นนี้เข้า… ก็คงรู้สึกและตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ความฝัน’ ของเราคืออะไร? แล้วมันกลายเป็นว่าเรามีปมด้อยหรือเปล่า? เพราะไม่มีความฝัน ไม่มีตัวตน”

“ความฝันมันดี…มันเป็น ‘Luxury’ แต่มันไม่ใช่ ‘Necessity’ ความฝันก็เปรียบเสมือนสิ่งของเครื่องประดับ อย่างกระเป๋า Louis Vuitton ถ้ามีมันก็เท่ดี และต่อให้ไม่พูดเรื่องเท่ กระเป๋า Louis Vuitton มันก็คงทนและดี แต่ยังยืนยันว่ามันไม่ใช่สิ่งจําเป็น….”

BYD เปลี่ยนรถคันใหม่ให้ลูกค้าที่ชาร์จรถ EV แล้วเกิดควัน ด้านเจ้าของรถเผย ยังเชื่อมั่นในรถยนต์ไฟฟ้าและจะใช้งานต่อไป

จากกรณี รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ BYD รุ่น ATTO3 เกิดควันจากฝากระโปรงหน้าขณะทำการชาร์จไฟฟ้า บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง บีวายดี และ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ BYD ได้ส่งทีมเข้าตรวจสอบ พร้อมออกแถลงการณ์ 2 ฉบับดังข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้า

(8 ก.ย.66) รายงานข่าวจากเพจ จส.100 ระบุว่า ทางเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้รับการติดต่อจากบีวายดีและเรเว่ ในการมอบรถยนต์ BYD รุ่น ATTO3 คันใหม่ให้เพื่อทดแทนคันเดิมที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยระบุว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีการนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดโดยวิศวกร และแจ้งเบื้องต้นว่ารถคันดังกล่าวได้เปลี่ยนอะไหล่ที่มีปัญหา ทำการสตาร์ทรถ และชาร์จทั้ง AC และ DC ได้เป็นปกติแล้ว แต่ทาง บริษัทฯ ก็ยังยืนยันจะมอบรถไฟฟ้า BYD Atto3 คันใหม่ให้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตกแต่งติดฟิล์มให้เหมือนคันเดิม ก่อนจะนัดส่งมอบในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.66 นี้

ซึ่งเจ้าของรถคันดังกล่าวได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงแรกหลังเกิดเหตุมีความกังวลอยู่บ้าง แต่หลังจากนี้ มองว่าเป็นอุบัติเหตุและเชื่อมั่นในรถยนต์ไฟฟ้าและจะใช้งานต่อไป

‘ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา’ เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามทั้งตลาด ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย

(8 ก.ย.66) ศูนย์วิทยุสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้ตลาดน้ำ 4 ภาค ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงกว่า 20 คันระดมเข้าระงับเพลิงไหม้ ที่เกิดเหตุพบต้นเพลิงอยู่กลางตลาดน้ำ 4 ภาค โดยไฟลุกโชนอย่างต่อเนื่อง พนักงานบางคนกระโดดน้ำหนีไฟไหม้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วไม่มีท่าทีว่าจะดับได้ ด้านเจ้าหน้าที่ได้กระจายจุดให้รถดับเพลิงเข้า โดยจุดที่ไฟไหม้อยู่ใจกลางของตลาดน้ำ

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนต้นเพลิงนั้นไม่มีท่าทีว่าจะดับ บวกกับพื้นที่มีลมกระโชก มีฝนโปรยปราย นอกจากนี้ยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามในเบื้องต้น พนักงานบอกยังไม่รู้ว่าจุดไหนที่เป็นต้นเพลิง โดยพื้นที่ทั้งหมดส่วนใหญ่แล้วเป็นไม้ หลังคามุงจาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลาม จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top