Sunday, 15 June 2025
NEWS FEED

‘ธงชมพู ประชาวัด’ ข้าวแกง 10 บาท ผู้พิการ-ผู้สูงอายุ-พระ ทานฟรี พร้อมกระจายรายได้ช่วยเหลือคนตกงาน-คนรายได้น้อย-เกษตรกร 

เปิดแล้ว! ข้าวแกง 10 บาท ‘ธงชมพู ประชาวัด’ อร่อย ถูก สะอาด ผู้พิการ ผู้สูงอายุ 90 ปี ขึ้นไป พระภิกษุ สามเณร แม่ชี รับประทานฟรี

(2 พ.ค. 66) ที่วัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยพระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย ร่วมกับคณะกรรมการวัดชาวบ้านเปิดร้าน "ธงชมพู ประชาวัด ข้าวแกง 10 บาท ในวัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้พิการ ผู้สูงอายุ 90 ปี ขึ้นไป พระภิกษุ สามเณร แม่ชี รับประทานฟรี ส่วนประชาชนทั่วไป ขายเพียงจานละ 10 บาท 2 อย่าง 15 บาท โดยมีเมนู 20 อย่าง คือ 1.แกงหมูเทโพ 2.แกงเผ็ดเป็ดย่าง 3.แกงขี้เหล็ก 4.แกงเขียวหวานลูกชิ้น 5.ต้มข่าไก่ 6.แกงส้ม 7.แกงจืดผักกาดดอง 8.ไข่พะโล้ 9.ผัดเผ็ดปลาดุกกรอบ 10.ผัดมะเขือยาว 11.ผัดมะระไข่ 12.ผัดเผ็ดหน่อไม่ไก่ 13.ผัดฉ่าลูกชิ้น 14.ผัดขิงไก่ 15.ทอดมันปลา 16.ลาบหมู 17.ไข่ลูกเขย 18.หมูทอด 19.ผัดกะเพาหมู 20.ยำกุนเชียงทอด

ปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 40 ส่ง เยาวชนกลับภูมิลำเนา นำทักษะประสบการณ์ความรู้ กลับไปพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.66  เวลา 10.30 น.พลเอกสุรยุทธ์  จุลานนท์  ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ “ สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 40 ณ ห้องแสงเดือน อาคารพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ เทคโนธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายอดิเทพ  กมลเวชช์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมพิธี พลเอกสุรยุทธ์  จุลานนท์  กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนว่า การที่เยาวชนได้มาร่วมกิจกรรมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะมีโอกาสได้เรียนรู้ ทักษะประสบการณ์ในกิจกรรมต่างๆ

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจที่พักปลอมระบาดหนักในฤดูกาลท่องเที่ยว ก่อนโอนเงินตรวจสอบให้ดี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอม โดยลอกเลียนแบบเพจที่พักจริงในพื้นที่สำคัญต่างๆ แอบอ้างเป็นเจ้าของที่พัก หรือแอดมินเพจหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินค่ามัดจำ ดังนี้

ได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ พบมีผู้เสียหายหลายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินค่ามัดจำที่พักก่อนเดินทางเข้าพักจริงในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นต้น ซึ่งมิจฉาชีพจะใช้แผนประทุษกรรมหลักอยู่ 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง สร้างเพจเฟซบุ๊กที่พักปลอมขึ้นมา หรือใช้เพจเฟซบุ๊กเดิมที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อเพจให้เหมือนกับเพจจริง คัดลอกภาพโปรไฟล์ ภาพหน้าปก เนื้อหา และโปรโมชันต่างๆ จากเพจจริงมาใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และใช้เทคนิคในการซื้อ หรือยิงโฆษณาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น วิธีที่สอง ใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตารแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำโรงแรม หรือที่พักต่างๆ โพสต์ข้อความในลักษณะว่ามีที่พักหลุดจองราคาดี กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว ก็จะไม่สามารถติดต่อเพจนั้น หรือบัญชีอวตารนั้นได้ หรือกรณีที่แย่ที่สุดเมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึงที่พักจริงแล้ว กลับได้รับแจ้งว่าไม่ได้มีการจองที่พักมาแต่อย่างใด ทำให้นอกจากจะสูญเสียทรัพย์สิน เสียเวลาแล้ว ยังจะไม่มีที่เข้าพักอีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 238 ราย ความเสียหายรวมหลายล้านบาท หรือคิดเป็นเฉลี่ยรายละประมาณ 4,600 บาท

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า เเม้ว่าการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวจะมีความเสียหายที่ไม่มากเท่ากับความเสียหายของการหลอกลวงในรูปแบบอื่นๆ แต่จะเห็นว่ามีจำนวนผู้เสียหายสูงกว่าในรูปแบบอื่น ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงแต่ไม่ประสงค์จะแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นจำนวนเงินเล็กน้อย เพราะฉะนั้นการสำรองที่พัก หรือบริการต่างๆ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะอาจจะเป็นช่องทางที่ถูกมิจฉาชีพสร้างปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน ขอให้ระมัดระวัง รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ ไม่หลงเชื่อเพียงเพราะมีชื่อเพจเฟซบุ๊กที่พักเหมือนที่พักจริง หรือเพียงเพราะพบเจอผ่านการค้นหาผ่านเว็บไซต์ค้นหาทั่วไป พบเจอในกลุ่มท่องเที่ยวต่างๆ หรือถูกส่งต่อกันมาตามสื่อสังคมออนไลน์

เข้ม จับ ปรับจริง ไม่มีข้อยกเว้น ดีเดย์ 1 สิงหาคม

จ.ขอนแก่น ขับเคลื่อนวาระจังหวัดป้องกันอุบัติเหตุ ขับขี่ปลอดภัยทั้ง 365 วัน เข้ม! จับ ปรับจริง ไม่มีข้อยกเว้น ดีเดย์ 1 สิงหาคม นี้ ขับเคลื่อนวาระจังหวัดขอนแก่นขับขี่ปลอดภัย 365 วัน เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้กับบุคลากรเจ้าหน้าที่ พนักงานและลูกจ้างภายในองค์กรของตนเอง ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจและสถาบันศึกษาต่างๆ 

วันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ บริเวณหน้าห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, น.พ.วิทยา ชาติบัญชาชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศปถ.จังหวัดขอนแก่น  ร่วมแถลงข่าว การขับเคลื่อนวาระสำคัญของจังหวัดขอนแก่น "จังหวัดขอนแก่น ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน" และมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนนของทุกภาคส่วน ซึ่งในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 นี้ จะเริ่มบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด จับจริง ปรับจริง โดยมี นายศุภชัย ลีเขาสูง ปลัดจังหวัดขอนแก่น,นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น, นายประสิทธิ์ ทำดี ขนส่งจังหวัดขอนแก่น,หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายร่วมงานแถลงข่าว

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ประกาศ เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลโดยบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วน อย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงภาวะปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อเป็นการรณรงค์การขับเคลื่อนวาระจังหวัดขอนแก่นขับขี่ปลอดภัย 365 วัน ปี พ.ศ. 2566 การสวมหมวกนิรภัย 100% และมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนนของทุกภาคส่วน

‘ไอซ์ ปรีชญา’ ฟาด!! ชาวเน็ตบูลลี่ ชอบหน้าเก่ามากกว่า ลั่น!! ไม่พอใจหน้านี้ อยากให้ทำใหม่ โอนเงินมาด้วย

ไอซ์ ปรีชญา ฟาดเดือด โดนบูลลี่ไม่เลิกหน้าเก่าสวยกว่า ทำเยอะไปจำหน้าใหม่ไม่ได้ ลั่นถ้าไม่พอใจหน้านี้ อยากให้ทำใหม่ โอนเงินมาด้วย อย่าส่งแค่แบบ

ทำเอานางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร สุดจะทนที่ต้องเจอกับคอมเมนต์บูลลี่เรื่องหน้าตาเธอไม่เลิก ล่าสุด สาวไอซ์ ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวระบายความในใจ ที่โดนจับผิดเรื่องหน้าตามาตลอด อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ควรโฟกัสที่ฝีมือการแสดงมากกว่า แต่ถ้าใครไม่พอใจ อยากให้ทำหน้าใหม่ โอนเงินมาด้วย อย่าส่งแค่แบบมาให้

โดย ไอซ์ ปรีชญา โพสต์ภาพลุคใหม่สายฝอ พร้อมเขียนข้อความร่ายยาวระบุว่า If u don’t like my Looks ???! It’s your Problem NOT MINE !! I rather be HAPPY with MYSELF ! Than SAD trying to Please EVERYONE ELSE ‘!!!!!!!!!!!!!

ขอโทษนะคะ ตั้งแต่แรกเลยไอซ์ไม่ได้มีชื่อเสียง จากหน้าที่สวย เคยโดนบูลลี่ว่าหน้าตาแบบนี้เอามาเป็นนางเอกได้ยังไง สรุปยังไงดีล่ะคะ มีชื่อเสียงจากฝีมือการแสดงและผลงานค่ะ ใครคิดว่าเล่นบทไหนไม่ได้ กรุณาติดต่อผู้จัดให้หน่อยค่ะ

ไหนคอมเมนต์สิ ชอบกันมั้ยคะ ???! เวลาที่มีคนชอบมาจับผิดบูลลี่หน้าตาคนอื่น รูปร่างคนอื่น ฐานะคนอื่น แต่งตัวยังไง ผมจริงผมต่อ ทำหน้าตรงไหนใหม่ ตรงไหนเก่า แต่งหน้าลุคนี้ไม่สวย ทำผมแบบนี้ไม่รอด แบบอื่นดูดีกว่า เรียบร้อยน่ารักกว่า แต่งตัวโป๊ไปดูไม่แพง แต่เรียบร้อยไปนางเอกไปก็ดูป้านะ ติดดินไปนะ หยิ่งจัง คนนี้พูดตรงดี แต่ว่าพูดตรงแต่แรงไป สร้างภาพ หาแสง

ใช้ของ Brand name รึเปล่า ของจริงหรือของปลอม คนที่เราจะคบหรือจะแต่งงานด้วย เป็นใคร หล่อ รวย จน ไฮโซมั้ย รักกันอยู่ หรือเลิกกันแล้ว ตัวเราจะรวยจะจนแค่ไหน แล้วยังไงคะ

‘ร้านบุฟเฟต์’ ท้อ!! ลูกค้าสั่งอาหาร กินเหลือเต็มโต๊ะ อ้าง!! ไม่ขอจ่ายเงินค่าปรับ เพราะคุณภาพอาหารแย่

เมื่อไม่นานมานี้  ร้านบุฟเฟต์ Blue Ocean Sushi - Bangkok ได้โพสต์ภาพอาหาร พร้อมระบุว่า "รูปภาพนี้มันคือ "อาหารเหลือของลูกค้า" ที่ทานไม่หมดค่ะ ได้รูปนี้จากหน้าร้านตอนหัวค่ำค่ะ ทำใจเย็นสักพักค่อยมาโพสต์ ..... รูปอาจจะดูเหมือน โชว์รูปบุฟเฟต์เยอะแยะไปหมดชวนมาทาน มองผ่านๆ เหมือนพึ่งเริ่มปาร์ตี้.....

การให้บริการของเรา คือลูกค้าจะทานเท่าไหร่ก็ได้ที่ลูกค้าจะทานหมด สั่งได้ไม่จำกัดรอบ เพื่อให้ลูกค้าทานอาหารอย่างมีความสุข ได้รับประสบการณ์ดีๆ ในมื้อที่มาทานกับเรา ในกติกาที่หากทานไม่หมดจะมีค่าปรับ ใช่ค่ะ เราเปิดร้านไม่ได้หวังรายได้จากค่าปรับของลูกค้าค่ะ แต่อาหารทุกอย่างมีต้นทุนของมัน ทั้งวัตถุดิบ ทั้งค่าแรง ค่าเวลา

แต่สิ่งที่เราเจอมาวันนี้ และระยะนี้ คือ ทานไม่หมด ปลาไม่สด ปลาไม่ดี ถ้าอาหารมีปัญหา ลูกค้าแจ้งทันที ทางร้านยินดีตรวจสอบ และนำจานนั้นกลับไปตรวจสอบ .... แต่การทานไม่หมด เต็มโต๊ะ แล้วมาแจ้งว่าไม่ได้ทานเหลือ แต่เป็นเพราะปลาเราแย่ ไม่สด เลยไม่กิน .... มันเสียใจมากเลยค่ะ ค่าปรับวันนี้ 2250 บาท ถ้าคำนวณตามกฎ ลูกค้าจะจ่ายที่ 500 บาทเท่านั้น จนพนักงานต้องโทรหาเราหลายรอบมาก ลูกค้าไม่ยอมให้ปรับทำยังไง มาจบตรงที่ปรับไปราคา 1000 บาทค่ะ บางคนอาจจะคิดว่าก็ได้ปรับแล้วก็น่าจะจบ .... ถ้าคุณทำร้านอาหาร คุณเคยคิดไหม ว่าค่าปรับที่เราได้มา มันไม่คุ้มกับความรู้สึก กับมูลค่า และราคาของวัตถุดิบที่เราตั้งใจมอบให้ลูกค้าเลย

‘ทอ.’ เผย!! ปฏิบัติการ ‘นภารักไทย’ สำเร็จด้วยดี 5 คนไทยในซูดาน ชุดสุดท้าย ถึงไทยอย่างปลอดภัย

เสร็จสิ้นปฏิบัติการ ‘นภารักไทย’ ทอ.พาคนไทยกลับบ้าน เครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ พร้อมคนไทย 5 คนสุดท้าย กลับถึงไทยเรียบร้อยแล้ว

(1 พ.ค.66) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ต้อนรับคนไทย 5 คน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสาธารณรัฐซูดาน ซึ่งเดินทางกลับมาด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 ของกองทัพอากาศเป็นชุดสุดท้าย

สำหรับภารกิจการอพยพคนไทย ณ สาธารณรัฐซูดาน (ปฏิบัติการนภารักไทย) ได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยกองทัพอากาศได้ใช้อากาศยานแบบ Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และ C-130 จำนวน 2 เครื่อง ทำการบินรวม 8 เที่ยวบิน (รวมทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ) รับคนไทยที่มีความประสงค์เดินทางกลับประเทศทั้งสิ้น 218 คน แบ่งเป็น ชุดแรก 78 คน ชุดที่สอง 135 คน และชุดสุดท้าย 5 คน พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลและส่งทุกคนกลับบ้านด้วยความปลอดภัย

หนุ่มโพสต์ พ้อ!! คดีไม่คืบหน้า หลังโดนทำร้ายเกือบพิการนานนับ 10 ปี ถาม!! ทำไมผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า ยังลอยนวล พร้อมลงสมัครส.ส. พรรคดัง

(1 พ.ค.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Net Teerapan’ ได้โพสต์ตัดพ้อถึงเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายร่างกายเกือบพิการ แต่ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าลอยนวลนับ 10 ปี แถมยังใช้ชีวิตปกติ ลงสมัคร ส.ส. พรรคดัง โดยระบุว่า

ผมขอเล่าเรื่องชีวิตบัดซบๆของผมทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องครับ ผมโดนทำร้ายร่างกายจนเกือบพิการ ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าไม่ได้รับโทษ 10 กว่าปีไม่คืบหน้า ไม่มีการเยียวยาใดๆ

ชีวิตครอบครัวผมต้องพังลง แต่ผู้ต้องหาพยายามฆ่าใช้ชีวิตสุขสบาย เขามาทำร้ายผมทำไม ผมยังไม่รู้สาเหตุเลยด้วยซ้ำ

เหตุเกิดวันที่ 2 มิถุนายน ปี 2549 ที่ รร.ชื่อดังในหมู่บ้านย่านรังสิต 

ผมโดนตีหัว 3 ครั้งด้วยไม้หน้าสาม จนล้มลงไปที่พื้น เขาก็ยังจะเข้ามาซ้ำอีก ผมรู้สึกตัวและมีสติอยู่ตลอด แต่ ร่างกายอ่อนแรงขยับไม่ได้ โชคดีที่พี่ชายกับเพื่อนได้ลงจากอาคารเรียนและเห็นเหตุการณ์พอดี จึงได้พาไปห้องพยาบาล 

จากนั้นผมถูกส่งตัวไปรพ.เอกปทุมทันที เข้า ICU อยู่ 3 วัน และเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช กะโหลกผมไม่แตก แต่กะโหลกยุบตัวลงไป ผมต้องนอนติดเตียง ต้องใช้เวลาในการรักษาตัวและกายภาพพักฟื้นอยู่ร่วม 2 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้

ผมเหมือนตกนรกทั้งเป็น ต้องยอมรับเลยว่าในช่วงนั้นผมเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายก็บ่อยมาก มันเหนื่อย มันท้อ รู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ประโยชน์ ทำไมผมต้องมาเผชิญกับสิ่งนี้ จากที่ผมเคยเป็นนักกีฬา เคยเป็นเด็กกิจกรรมของ ร.ร. ผลการเรียนค่อนข้างดี แต่สุดท้ายไปต่อไม่ได้ เหมือนทุกอย่างมันหายวับไปกับตา

ตัวผู้ต้องหาและครอบครัวของเขา ไม่เคยที่จะติดต่อผม พ่อแม่ผม เพื่อพูดคุย หรือแม้แต่จะมาขอโทษ พ่อผมไปแจ้งความ จนขึ้นศาล เรื่องก็เงียบหาย ไม่ได้รับคำตอบ นัดไกล่เกลี่ยก็ไม่ได้ข้อสรุป จนที่บ้านท้อ ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ต้องใช้เงิน เป็นเรื่องที่ลำบากกับครอบครัวผมมากๆ การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม

ทำให้สถานการณ์ที่บ้านมีความตึงเครียด พี่ชาย และผมต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัว 

ผมและครอบครัวต้องผ่านความยากลำบาก และอดทน รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมตลอดเวลา แต่กลับทำอะไรไม่ได้

วันนี้ ผมต้องใช้ชีวิตไปพร้อมกับกะโหลกที่ยุบตัว แต่ผู้ต้องหาที่ต้องคดีพยายามฆ่า กลับได้ใช้ชีวิตอย่างปกติทำงานเป็นนักการเมือง และกำลังลงสมัคร ส.ส. พรรคดัง ในจังหวัดปทุมธานี 

ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังทำงานในราชการได้ในเมื่อมีคดีพยายามฆ่าผมอยู่แบบนี้

คนรอบข้างให้กำลังใจ ให้ผมพยายาม บอกให้ผมสู้ ให้ผมเรียกร้องเพื่อความยุติธรรมเพื่อชีวิตของผม ที่ผ่านมาผมเงียบ ปล่อยผ่านไปเพราะผมทำอะไรไม่ได้จริงๆ

ผมอยากจะให้เขารับผิดชอบการกระทำของเขาบ้าง ไม่ใช่เงียบหายและใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ในสังคม ขอบคุณครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/100004273158909/posts/pfbid021nnuRZ6mFXtidm9WGf5RVG9D7pk6WHXiMTQuXkSjWsBAvZzBm7A3sWYAnv95sVsql/?mibextid=cr9u03

(สุรินทร์) มทบ.25 จัดพิธีมอบใบ ประกาศนียบัตร ให้กับเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมโครงการ MD25th Music Summer Camp

วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เวลา 11.00 น. พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมด้วย นางอุไรวรรณ เจริญพิบูลย์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธาน ในพิธีมอบใบประกาศนียบัตร ให้กับบุตรหลานกำลังพล และเยาวชนรอบค่าย ที่ผ่านการอบรมดนตรี MD25th Music Summer Camp โดยจัดการอบรมในทุกวันจันทร์ และพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น.  ณ หมวดหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 25 ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 27 เมษายน 2566 รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง

เปิดอบรม 2 วิชาคือ วิชาทฤษฎีดนตรีเบื้องต้น และวิชาปฏิบัติเครื่องมือดนตรี จำนวน 10 ชนิดเครื่องมือดนตรี มียอดเยาวชนที่เข้ารับการอบรมจำนวน 25 คน แบ่งเป็นบุตรหลานกำลังพลจำนวน 6 คน และเยาวชนรอบค่ายจำนวน 19 คน ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียนให้เป็นประโยชน์ ณ โดมอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 25

 
ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

นครนายก - กรมกิจการพลเรือนทหารบกจัดโครงการสานฝันปันสุขมอบจักรยานจำนวน 30 คัน

กรมกิจการพลเรือนทหารบกจัดโครงการสานฝันปันสุขมอบจักรยานจำนวน 30 คันให้กับนักเรียนโรงเรียนวังยายฉิม จังหวัดนครนายก

เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ที่โรงเรียนวัดวังยายฉิม ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก พลตรีจินตมัย ชีกว้าง ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจกการพลเรือนทหารบก เป็นประธานจัดกิจกรรมมอบจักรยานโครงการ “จักรยาน สานฝัน ปันสุข” ให้นักเรียนวัดวังยายฉิม ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก จำนวน 30 คัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูล สิริวิบูลยราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน 2566 โดยมีนางประณีต หงษ์ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวังยายฉิม ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้จะนำจักรยานที่ได้รับการพระราชทานส่งมอบให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดวังยายฉิมที่มีนักเรียนฐานะยากจน และยากไร้โดยจะส่งมอบจักรยานนี้เพื่อให้เด็กได้ปั่นมาศึกษา ที่โรงเรียนซึ่งบางครอบครัวพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างจักรยานที่มีเดิม ก็ชำรุดก็จะนำจักรยานคันใหม่ที่รับการพระราชทานมาทดแทนให้เด็กๆในโรงเรียนได้ใช้สอยในการเดินทางมาเรียนและใช้เป็นพาหนะไปทำประโยชน์อื่นๆได้อีกด้วย

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top