จำได้ไหม? ‘หม่อง ทองดี’ อดีตแชมป์เครื่องบินกระดาษ สู่ ‘บัณฑิตเกียรตินิยม’ ม.ดัง ผลสัมฤทธิ์ของความเพียร

หากยังจำกันได้ กับ ‘เครื่องบินกระดาษ’ ของเด็กชายคนหนึ่ง ที่มีความใฝ่ฝันที่จะได้ไปแข่งขันร่อนเครื่องบินกระดาษพับที่ประเทศญี่ปุ่น ทว่าประสบกับปัญหาด้านเงื่อนไขสัญชาติ แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนได้ไปแข่งขันและได้รับชัยชนะกลับมา กระทั่งสุดท้าย ‘หม่อง ทองดี’ และครอบครัวได้รับสัญชาติไทยในที่สุด หลังต่อสู้นานเกือบทศวรรษ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ‘มหาวิทยาลัยรังสิต’ ได้โพสต์ภาพหม่อง ทองดี กับเครื่องบินกระดาษ โดยเผยว่า…

‘หม่อง ทองดี’ ผู้มาไกลและไปได้ไกล… บนความตั้งใจเเละความพากเพียร

จากเด็กน้อยที่เฝ้ามองท้องฟ้า สู่การได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เปิดขอบฟ้าให้กว้างกว่าเดิม โดยได้รับทุนการศึกษาตลอดหลักสูตรในระดับปริญญาตรี จาก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีกิตติคุณ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต และจากความตั้งใจที่ใฝ่ฝันอยากจะมีภาพยนตร์ที่บอกเล่าเส้นทางสู่ฝันของตัวเอง ทำให้เขาตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต

ด้วยหัวใจของความมานะพากเพียร วันนี้ ‘หม่อง ทองดี’ เรียนสำเร็จ โดยจบการศึกษาปริญญานิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล เกียรตินิยมอันดับ 2 ซึ่งจะเข้าพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2566 ในวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 ณ อาคารนันทนาการ (อาคาร 14) มหาวิทยาลัยรังสิต

ทั้งนี้ ปัจจุบัน หม่องทำงานเป็นพนักงานประจำที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในตำแหน่งตากล้องประจำกองถ่ายละครสั้น

“ในส่วนของความฝันที่เคยตั้งใจไว้ว่า อยากนำความความรู้ความสามารถด้านการทำหนัง มาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของตัวเองและเด็กไร้สัญชาติ อยากนำเสนอในมุมมองของเด็กที่มีปัญหาเหมือนกับตนเอง ให้สังคมได้รู้ว่าปัญหาของเด็กเหล่านี้มีอะไรบ้าง เพื่อนำไปสู่แนวทางการช่วยเหลือต่อไป ก็สามารถสานฝันนั้นให้เป็นจริงได้แล้ว โดยเรื่องราวชีวิตของผมได้ถูกหยิบยกขึ้นมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง ‘A Time To Fly…บินล่าฝัน’ ซึ่งมีโอกาสได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงหลายเดือนก่อนหน้าที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ” น้องหม่อง กล่าว

หม่องยังกล่าวด้วยว่า สำหรับชีวิตปัจจุบันตนได้รับสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ และได้บัตรประชาชนมาเรียบร้อยแล้ว และจะทำทุกหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เป็นคนดีของสังคม ผมเชื่อเสมอว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น การที่เราพยายามจะทำอะไร เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุด โดยไม่ต้องกลัวว่าผลที่ออกมาจะเป็นเช่นไร เพราะการที่คิดแล้วทำก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายในสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว