Monday, 28 April 2025
NEWS FEED

‘ร้านลูกไก่ทอง’ จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ‘ปังชา’ ห้ามใช้ตั้งชื่อร้าน-สินค้า ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ ดัดแปลง

(28 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant’ ของร้านอาหารลูกไก่ทอง ซึ่งมี 6 สาขาในกรุงเทพฯ และร้านปังชาคาเฟ่ 5 สาขา โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า…

"จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเครื่องหมายการค้า สู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยร่วมกันอย่างยั่งยืน แบรนด์ปังชา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ‘ปังชา’ ภาษาไทย และ ‘Pang Cha’ ภาษาอังกฤษ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 จดทะเบียนลิขสิทธิ์ จดทะเบียนสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข สงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ปังชา Pang Cha ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย"

โพสต์ดังกล่าวชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์และสงสัยว่า นอกจากจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าแล้ว เป็นการจดสิทธิบัตรเมนู ‘ปังชา’ หรือ ‘ปังชาไทย’ ที่เป็นน้ำแข็งไสรสชาไทยใส่ขนมปัง โรยด้วยนมข้นหวาน ซึ่งได้รับรางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อนหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นร้านอาหารอื่น ๆ ที่มีเมนูในลักษณะคล้ายกันจะกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

จากการสืบค้นข้อมูล ‘ปังชา’ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ พบว่า น.ส.กาญจนา ทัตติยกุล เจ้าของแบรนด์ปังชาได้ยื่นคำขอลิขสิทธิ์ ขนไก่ปังชา ประเภทงานศิลปกรรม ลักษณะงานจิตรกรรม เลขที่คำขอ 371901 โดยได้เลขทะเบียน 47654 และคำขอเครื่องหมายการค้า เลขที่คำขอ 220133778 โดยได้ทะเบียนเลขที่ 231117892 โดยระบุข้อจำกัดว่า "ข้าพเจ้าไม่ขอถือเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้ อักษรโรมันและอักษรไทยทั้งหมดที่ปรากฏอยู่บนเครื่องหมาย ยกเว้น คำว่า KAM"

นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.กาญจนา ทัตติยกุล ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patents) 7 ฉบับ ได้แก่ แก้ว ตุ๊กตา ลวดลายของแก้ว ลวดลายบนฉลากสินค้า ถ้วยไอศกรีม จดลิขสิทธิ์งานจิตรกรรม 6 ฉบับ ได้แก่ ไก่เจ้าครับ แก้มกาญจนา ไก่เจ้าค่ะ ขนไก่ปังชา แก้มกัลยา ไก่เหล็กถัก และเครื่องหมายการค้าหรือบริการอีก 45 ฉบับ

ทัวร์ลง 'สมาคมแท็กซี่ไทย' หลังออกคำแนะนำผู้โดยสาร  'ไม่เร่งแอร์-ไม่ลืมทิป-ไม่ยืนเรียกผิดฝั่ง' และอีกสารพัดเงื่อนไข

(28 ส.ค. 66) กลับมาเป็น ‘ดรามา’ ข้อถกเถียงในสังคมไทยอีกครั้งกับ ‘การใช้บริการรถแท็กซี่’ เมื่อเพจฟซบุ๊ก ‘สมาคมแท็กซี่ไทย’ เผยแพร่บทความ ‘ข้อแนะนำในการใช้รถแท็กซี่แบบสร้างความพึงพอใจร่วมกัน’ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.66 มี 6 ข้อ คือ

1.ยืนให้ถูกฝั่ง เพื่อเป็นการทำให้ผู้โดยสารได้รถไวขึ้นและลดการปฏิเสธของคนขับรวมถึงการตีเปล่า 
2.ถามก่อนขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันการทำให้หงุดหงิดทั้งสองฝ่ายและเป็นการสร้างมารยาทในการใช้รถที่ถูกต้อง
3.อย่าลืมทิป กรณีมีสิ่งของเยอะ หรือให้คนขับพาลัดและอื่นๆ เพื่อเป็นการแสดงความมีน้ำใจต่อคนขับ
4.ไม่เรียกร้อง เข่น การขอเพลง ขอเร่งแอร์ ขอเปิดกระจก ขอแวะรับเพื่อน ขอจอดซื้อของ ขอให้บรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอให้คนขับเร่งแซงคันอื่น
5.ไม่รบกวนหรือแซงคิว เช่น การขอชาร์จไฟในรถ การใช้โทรศัพท์โดยเปิดลำโพง การแวะกดเงินหรือการขอให้คนขับออกเงินไปก่อน และควรเรียกแท็กซี่ตามคิวที่ออก
6.เรียกแกร็บแท็กซี่ กรณีชั่วโมงเร่งด่วนหรือสถานที่ที่คาดว่าอาจจะเรียกรถแท็กซี่ยาก เพื่อเป็นการลดอคติกับคนขับแท็กซี่โดยรวม

ในเวลาต่อมา วันที่ 26 ส.ค.66 เผยแพร่บทความ ‘สิ่งที่ผู้โดยสารควรรู้เวลาขึ้น TAXI’ ซึ่งมี 5 ข้อ ดังนี้

1.การเรียกรถ ไม่เรียกรถในลักษณะกระชั้นชิดหรือยืนในจุดล่อแหลม เช่น ทางร่วม ทางแยก ป้ายรถเมล์
2.การให้รถหยุด ไม่ควรให้คนขับหยุดจอดส่งบริเวณจุดห้ามจอด เส้นขาวแดง ซอยแคบ
3.การนั่งในรถ ไม่ปรับเอนเบาะเกินสมควร ไม่ยกเท้าขึ้นเบาะ ไม่พูดคุยส่งเสียงดังและไม่เปิดลำโพงรวมถึงทานสิ่งของทุกชนิด
4.การใช้รถ ระบุจุดหมายที่จะลงให้ชัดเจน ต้องการไปทางไหนแจ้งคนขับก่อนล่วงหน้า หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งคนขับเช่นเมารถหรือติดโควิด
5.การลงจากรถ เตรียมเงินให้พอดีและตรวจดูสิ่งของก่อนลงจากรถทุกครั้ง รวมถึงจดจำรถที่่นั่งด้วยทุกครั้ง

ล่าสุดวันนี้ ทางเพจได้โพสต์ภาพเป็นข้อความระบุว่า ประกาศ สมาคมแท็กซี่ไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงการออกข้อแนะนำในการใช้รถแท็กซี่

1.เพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นในบ้านเมือง
2.เพื่อให้เกิดการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เพื่อลดการทุจริตและข้อร้องเรียน
4.เพื่อสร้างบรรทัดฐานและมารยาทในการใช้รถแท็กซี่ที่ถูกต้อง

แน่นอนว่าเพจดังกล่าวเจอ ‘ทัวร์ลง’ ชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด และแนะนำกันว่าให้ไปใช้บริการรถรับ-ส่งผ่านแอปพลิเคชันกันดีกว่า หากการเรียกแท็กซี่มันจะต้องยุ่งยากคิดเยอะขนาดนี้ ขณะที่ทางเพจก็ชี้แจงอยากให้เห็นใจกันบ้าง โดยเฉพาะต้นทุนค่าพลังงานที่แพงขึ้น แต่ก็ถูกสวนกลับว่าถ้าไม่ไหวขาดทุนก็เลิกไป หรือไม่ก็ต้องไปเรียกร้องกับรัฐไม่ใช่กับผู้บริโภค

‘อายุรแพทย์ฯ’ แชร์เคสเด็ก 16 สูบบุหรี่ไฟฟ้าหนัก พบ ‘เจ็บหน้าอก-ปอดแฟบและรั่ว’ เตือน!! เลิกได้เลิกเถอะ

(28 ส.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘นายแพทย์เทวินทร์ ชาคริยานุโยค’ อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โพสต์เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ระบุข้อความว่า

"วันนี้มีเรื่องมาเล่าอีกแล้ว เด็กอายุ 16 ปี เจ็บหน้าอก เสียงคุณพยาบาลเสียงใส เดินมาแจ้ง OMG เป็นไปได้ไง ซักประวัติ น้องรูปร่างผอม สูบบุหรี่ไฟฟ้าจัด บอกว่าเจ็บหน้าอกเวลาหายใจ ไม่ได้ยกของหนัก เอกซเรย์ดังรูป วินิจฉัยเป็นอะไรดี

สรุปเป็นลมรั่วในช่องปอดขวา ทำให้ปอดขวาแฟบ ปลายลูกศรคือ ขอบปอดที่แฟบไปรวมกันเป็นก้อนตรงกลาง โดยปอดขวามี 3 พู เลยยู่ไม่เท่ากัน เห็นเป็นก้อนขรุขระ คนไข้จะมาด้วยเหนื่อยหรือเจ็บหน้าอกหายใจไม่สุด ซึ่งเคสนี้มาจากการใช้ Vape หรือพอด หรือ E cigarett บุหรี่ไฟฟ้า

โดยองค์ประกอบ บุหรี่ไฟฟ้าจะมี นิโคตินปริมาณสูง (มากกว่าบุหรี่ปกติ) โพรพิลีนไกลคอล และสารแต่งกลิ่น ที่เป็นเอสเทอร์ไฮโดรคาร์บอน (ทำให้เกิดการอักเสบในระยะสั้น และส่งเสริมการเกิดมะเร็งในระยะยาว) ที่ส่งเสริมการอักเสบในปอดในระดับเซลล์ อีกทั้งการสูบแบบอัดก็มีผลด้วยครับ บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่าบุหรี่ธรรมดานะครับ เลิกได้เลิกเถอะ

เพิ่มเติม: ในไทยและต่างประเทศมีรายงานเรื่อย ๆ ครับ เนื่องจากว่าเป็นของใหม่ งานวิจัยระยะยาวแบบ prospective น่าจะมีแต่ค่อนข้างทำยาก เพราะองค์ประกอบของสาร ไม่เหมือนกัน แต่องค์ประกอบหลัก ๆ มีดังกล่าวขั้นต้น เปรียบเทียบ เหมือน การขับรถเร็วครับ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าเกิดก็โทษเพราะขับรถเร็วไงครับ การสัมผัสสารต่าง ๆ พวกนี้ ไม่ได้มีงานวิจัยมารองรับว่าปลอดภัยเหมือนยา แต่มันคุ้มมั้ยที่จะเอาปอดเรา ร่างกายเราไปแลก ร่างกายเรามีค่าประเมินค่าไม่ได้นะครับ เลิกได้เลิก เลิกไม่ได้ไปต่อ หมอพร้อมดูแลรักทุกคน”

สมุทรปราการ-ฮือฮา!! คอหวยไม่พลาด “พระครูแจ้” เจ้าอาวาสวัดดังบางพลี รับเป็นเจ้าภาพฌาปนกิจพระลูกวัด แต่ดันโป๊ะเลขฝาโลงตรงกัน!! 

ภายในวัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประชาชนจำนวนหลายร้อยคนเดินทางมาร่วมไว้อาลัยและร่วมพิธีงานฌาปนกิจศพ พระสมาน หรือหลวงตาโก๊ะ พระลูกวัดของวัดบางพลีใหญ่กลาง และอีกองค์คือ พระสำราญ ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง หรือวัดหลวงพ่อโต จ.สมุทรปราการ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานฝ่ายสงฆ์และประธานจัดงานโดยท่านได้รับเป็นเจ้าภาพจัดพิธีฌาปนกิจศพให้กับทางพระลูกวัดทั้ง 2 องค์ ที่ได้มรณภาพลงอย่างสงบ โดยพิธีจัดขึ้นภายในวัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมประกอบพิธีฌาปนกิจศพ หลวงตาโก๊ะ หรือพระสมาน อภโย (ชมมาลี) และ หลวงตาเปีย พระสำราญ ชัยพร โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ตลอดจนพี่น้องประชาชนจำนวนหลายร้อยคนร่วมในพิธี อาทิ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ นางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ พร้อมด้วยคณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ อดีต รองผบก.ชลบุรี ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ ผู้บริหาร บริษัท อริยะ ข้าราชการตำรวจตลอดจนพี่น้องประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี

โดยที่ผ่านมาครั้งมีชีวิตอยู่ พระสมาน อภโย (ชมมาลี) หรือที่ญาติโยมทั่วไปรู้จักในนาม หลวงตาโก๊ะ วัดบางพลีใหญ่กลาง ท่านได้เริ่มบรรพชาเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2543 จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ท่านเป็นพระภิกษุที่มีความเมตตาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด และเป็นที่เคารพรักของญาติโยมโดยทั่ว จนได้รับความไว้วางใจจากพระชั้นผู้ใหญ่มอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญ พร้อมทั้งดูแลจัดการเรื่องสถานที่ศาลาบำเพ็ญกุศล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในสถานการณ์เกิดโรคระบาด โควิด-19 หลวงตาโก๊ะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของวัดบางพลีใหญ่กล่ง ในการจัดการเรื่องเผาศพผู้ป่วยโควิด-19 โดยหลวงตาโก๊ะนั้น จะเป็นผู้ดูแลและประสานงานกับทางท่านเจ้าอาวาสมาโดยตลอด หลวงตาโก๊ะ ท่านได้มรณภาพด้วยโรคประจำตัวภายในกุฏิ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 สิริอายุได้ 74 ปี 23 พรรษา

และทางด้านประวัติของ พระสำราญ ชัยพร หรือ หลวงตาเปีย ท่านเป็นคนตำบลบางพลีใหญ่และเป็นพระลูกวัดของทางวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง หรือวัดหลวงพ่อโต ครั้งยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นพระที่มีอุปนิสัยเป็นกันเองชอบในเรื่องของการทำไฟประดับ งานเทศกาลต่างๆ เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยท่านได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 สิริอายุได้ 67 ปี 23 พรรษา ประกอบกับเป็นที่ฮือฮาของพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัย คือเลขฝาโลงของพระลูกวัดทั้ง 2 องค์ ตรงกัน คือเลข 356 พรรษา 23 ทั้ง 2 องค์ อีกทั้งยังเป็นพระเพื่อนที่สนิทสนมกันมากอีกด้วย

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

บลูเทค ซิตี้ เปิดโมเดล "วันหัวใจบริสุทธิ์" ชวนเยาวชนร่วมกิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ ปีที่ 1

วันนี้ (28 ส.ค. 66) บลูเทค ซิตี้ ผุดไอเดีย "วันหัวใจบริสุทธิ์" ภายใต้คอนเซ็ปต์กิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ โดยมีคุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ และผู้บริหารบริษัท อมิตา เทคโนโลยี(ประเทศไทย) จำกัด นำทีมพนักงานร่วมกันปลูกต้นมุจลินท์ (ต้นจิกน้ำ) เพื่อสืบสานไม้พุทธประวัติ และมอบอุปกรณ์เย็บตับจาก (คล้า) ให้กับกลุ่มอาชีพเย็บตับจาก ที่ผ่านการคัดเลือกโครงการ"ส่งเสริมอาชีพคนตัดเย็บจาก" จำนวน 10,000 เส้น ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและต่อยอดอาชีพชุมชนดั่งเดิม ซึ่งถือเป็นปฐมฤกษ์ในการเปิดโมเดล "วันหัวใจบริสุทธิ์" ปีที่1

นอกจากนี้ บลูเทค ซิตี้ ยังชวนเยาวชน นักเรียนโรงเรียนวัดเขาดิน เข้าร่วมกิจกรรม Good heart Pure Heart ปลูกด้วยมือ โตที่ใจ โดยปลูกฝังให้เยาวชนได้รู้จักการ อนุรักษ์ อนุบาล พันธุ์ไม้ป่าชายเลน จำนวน 1,000 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนได้ 1,000 ตัน และเรียนรู้การเพาะพันธุ์ปูทะเล สร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างระบบนิเวศน์ที่หลากหลายในพื้นที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกด้วย

‘นครชัยแอร์’ ประกาศ พร้อมบริการยกกระเป๋าให้ผู้โดยสาร ด้านชาวเน็ตตั้งคำถาม โพสต์แบบนี้ต้องการแซะใครหรือไม่

เมื่อวานนี้ (27 ส.ค. 66) จากกรณีเรื่องราวความวุ่นวายที่เป็นกระแสดังตอนนี้ โซเชียลมีเดียได้มีการแคปฯ ภาพข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เซ็นเซอร์ไว้ ระบุถึงความไม่พอใจในการบริการของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เหตุไม่ยอมช่วยยกกระเป๋า โว “กูบินมาแล้วทุกสายการบิน” ก่อนสุดท้ายโดนเชิญลงจากเครื่องยกแก๊ง

ต่อมาสาวเจ้าของเรื่องได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษเป็นที่เรียบร้อย พร้อมตัดพ้อ แค่รู้สึกแย่ที่แอร์ฯ ไม่มีน้ำใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ (27 ส.ค.) มีรายงานว่าเพจ ‘นครชัยแอร์’ บริษัทเดินรถชื่อดัง ออกมาโพสต์ข้อความ

“เรียน ผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ

หากท่านมีกระเป๋าสัมภาระ ต้องการเก็บบนเก๊ะเหนือศีรษะ สามารถแจ้งพนักงานต้อนรับบนรถได้เลยนะคะ

เราพร้อมบริการผู้โดยสารทุกท่านด้วยความเต็มใจ ทุกเที่ยว ทุกเส้นทาง ขอบคุณและสวัสดีค่ะ”

อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ตั้งคำถามถึงบริษัทเดินรถแห่งนี้ว่าต้องการแขวะใครหรือไม่

มีชาวเน็ตตั้งคำถามว่า "อยากรู้ว่าถ้าต้องยกกระเป๋า 7 กิโลฯ ขึ้นชั้นวางของเหนือศีรษะ หลักร้อยสองร้อยคนต่อเที่ยวนี่ จะยังยิ้มแบบนี้ไหมคะ" ซึ่งทางบริษัทเดินรถได้ตอบกลับว่า “หนัก 7 กิโลฯ ขึ้นไปแนะนำวางด้านข้างหรือไว้ใต้ท้องรถครับ ช่องวางใส่บนรถกว้างใหญ่ไม่พอครับ”

สมุทรปราการ-ดวลเพลง ชิง 100,000 บาท!! “สมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย” จัดประกวดร้องเพลงจีนสากลไต้หวัน เงินรางวัลกว่า 200,000 บาท

ภายในหอประชุม สมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย เทศบาลบางปู 65 ถนนสุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้การแนะแนวจากกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐจีนไต้หวัน โดยคณะกรรมการกิจการชาวจีนโพ้นทะเลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ

ได้จัดการประกวดร้องเพลงจีนสากลไต้หวัน ปี 2023 ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมเพลงยอดนิยมของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง โดยมี ดร.บรินดา จางขจรศักดิ์ รองประธานสมาคมไทย-ไต้หวัน และประธานสมาคมสตรีนักธุรกิจไทย-ไต้หวัน ประธานฝ่ายจัดงาน กล่าวให้การต้อนรับ โดยมีนางเพ็ญณี ไพรสานฑ์กุล นายกสมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน สำหรับการประกวดร้องเพลงจีนสากลไต้หวัน รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้

มีนักร้องจากประเทศไทยและชาวไต้หวัน รวม 17 คน โดยมีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศสูงถึง 100,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินสายการบิน China Airlines ไป - กลับ กรุงเทพ - ไทเป 1 ที่นั่ง รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งเป็นเงินรางวัล 50,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 30,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรางวัลอื่นๆ อีกกว่า 10 รางวัล  โดยปีนี้ทางสมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินความประสงค์เดิมที่จะส่งเสริมภาษาจีนและเพลงจีน โดยเน้นให้ผู้คนรู้จักวัฒนธรรมดนตรีอันงดงามของไต้หวันมากขึ้น จึงได้จัดการแข่งขันร้องเพลงจีนสากลไต้หวันขึ้นมาในปีนี้

โดยมี น้องอิงค์ ชิสา วิเศษกุล หลางกาลาหมู่ ทูตวัฒนธรรมไทยจีน เป็นศิลปินนักร้องฉายา เติ้งลี่จวิน เมืองไทยได้รับเกียรติจากสมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย เป็นศิลปินรับเชิญ ร่วมขับร้องเพลงในงานนี้ด้วย และสำหรับการประกวดร้องเพลงจีนสากลไต้หวัน ประจำปี 2566 รอบชิงชนะเลิศ ในครั้งนี้ อันดับที่ 1 ได้แก่ James Chakchalat อันดับที่ 2 ได้แก่ นางสาว เอมมาลี มูลสาร และอันดับที่ 3 ได้แก่ นางสาว อัญญาภา ทรัพย์จูงสกุล บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยเสียงเพลงอันไพเราะตลอดทั้งงาน

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา คำสัญญา พ.ต.อ.ทวี - แก้เหลื่อมล้ำ ยากจน หวังเพิ่ม สส.2 ฝั่งทะเล 

เปิดคำมั่นสัญญา “ทวี สอดส่อง” ต่อสมาชิกพรรคและประชาชน หลังก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ และเตรียมรับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ในรัฐบาลชุดใหม่ โดยเจ้าตัวประกาศจะมุ่งแก้ปัญหาเรื้อรังในสังคมไทย โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำ ยากจน อยุติธรรม ที่ส่งมอบมรดกกันรุ่นต่อรุ่น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติคนใหม่ กล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นผู้นำพรรค จากการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ.2566 ครั้งที่ 2 ของพรรค ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ส.ค.66 ที่ผ่านมา 

“ผมจะทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรคให้ดีที่สุด ใช้ความรู้ความสามารถและสติปัญญา จะมาแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทย ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตย ปัญหานั้นจะเป็นปัญหาสร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างความยากจนที่ส่งมอบมรดกจากรุ่นสู่รุ่น    

การเป็นพรรคการเมือง ผมได้ยืนยันว่าพรรคประชาชาติจะเป็นสถาบันของสมาชิก จะดูแลทุกข์สุข หวังว่าครั้งที่แล้วมีตำแหน่งเป็นฝ่ายค้าน ครั้งนี้เราเชื่อว่าเราได้ร่วมเป็นรัฐบาล การได้ร่วมเป็นรัฐบาล ก็อยากจะเรียนว่าประชาชนไม่ได้อยู่รับใช้รัฐบาล แต่รัฐบาลต้องอยู่รับใช้ประชาชน ครั้งนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่เรามุ่งมั่นที่จะมาแก้ปัญหาของประเทศ ตามนโยบายที่เราได้หาเสียงไป 

ผมอยากจะเรียนให้ท่านสมาชิกที่อยู่ในห้องนี้หรือที่ไม่ได้มา ผมอาจจะต้องทำโครงการ ‘ประชาชาติพบสมาชิก’ ในพื้นที่ต่างๆ และรับฟังปัญหาและทำให้ประชาชนทั้งที่เลือกพรรคประชาชาติหรือไม่ได้เลือกประชาชาติเท่ากัน การช่วยเหลือเขาจะได้รับการแก้ปัญหา แล้วเขาจะได้รับสิ่งที่ดีจากพรรคประชาชาติ 

ผมก็อยากจะฝากท่านสมาชิก วันนี้ได้มาประชุมใน จ.ยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการประกาศว่าประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพฯ การเมืองต่างๆ จะประชุมในกรุงเทพฯ หลายท่านอาจยังมีการสื่อสาร เข้าถึงน้อยหน่อย แต่เราจะสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดี เราจะแก้ปัญหาให้กับประชาชน 

ท้ายที่สุดในฐานะกรรมการบริหารทั้ง 25 คน ต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิก สมัยหน้าอาจเพิ่มกรรมการบริหาร เราฝันว่าเราจะมี สส.ในนครศรีธรรมราช เราฝันว่าจะมี สส.ที่สุราษฎร์ธานี เราฝันว่าจะมี สส.ในอันดามัน อ่าวไทย อันนี้อาจเป็นยุทธศาสตร์ สิ่งหนึ่งข้างหน้าผมคิดว่าในบทบาทของการเป็นรัฐบาลก็ดี ในบทบาทที่เราจะเข้ามาทำงาน เราจะทำให้สมาชิกในที่นี้ และสมาชิกที่อยู่ที่บ้านมีความเชื่อมั่นและมีความภูมิใจว่า พรรคประชาชาติ ทีมบริหารชุดนี้ เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

‘วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์’ พิชิตศึกขนไก่ ชนะญี่ปุ่น 2-1 คว้าแชมป์โลกแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยสำเร็จ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 66 ศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก ‘BWF World Championships 2023’ นัดชิงชนะเลิศชายเดี่ยว คู่ที่แฟนแบดมินตันไทยรอคอย นายกุลวุฒิ วิทิตศานต์ หรือ ‘วิว’ นักกีฬาแบดมินตันชาวไทยมือ 3 ของโลก ลงสนามชิงดำกับ ‘โคได นาราโอกะ’ มือ 4 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น

เปิดฉากเกมแรก ทั้งคู่ดวลกันแบบสนุกสนาน ต่างคนต่างผลัดทำแต้มเบียดกัน ทว่าเมื่อถึง 2 เกมสุดท้าย เป็นโคไดที่เล่นได้เหนียวแน่นและแน่นอนกว่า ปิดเกมแรก ขึ้นนำวิวไปก่อน 19-21 แต่เซต 2 วิวฮึดสู้ ไล่เก็บแต้มจนตีเสมอสำเร็จ 21-18

และท้ายที่สุด ในเกมตัดสิน ‘วิว กุลวุฒิ’ ที่พลังกายและพลังใจกลับมาดี ทำให้สามารถเล่นได้ดีขึ้นกว่าช่วงแรกอย่างเห็นได้ชัด จนสามารถปิดเกมเอาชนะไป ด้วยคะแนน 19-21, 21-18, 21-7 คว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครอง และจารึกชื่อเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทย ที่คว้าแชมป์แบดมินตันโลกได้สำเร็จ

‘ศุภชัย-รัตนากร’ 2 แข้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วยเหลือสาวติดอยู่ในรถ  หลังประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนทางด่วน โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก

เมื่อวานนี้ (27 ส.ค. 66) กลายเป็นที่ชื่นชมอย่างมากสำหรับ 2 นักเตะสโมสร ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง ‘อาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด’ และ ‘เกม รัตนากร ใหม่คามิ’ ซึ่งเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ บนทางด่วน เมื่อคืนวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

ศุภชัย ใจเด็ด และ รัตนากร ใหม่คามิ เพิ่งเสร็จสิ้นจากการลงเล่นให้กับต้นสังกัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 ในฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก 2023/24 นัดที่ 3 ของฤดูกาล โดยที่ ศุภชัย ใจเด็ด เป็นผู้ยิงประตูชัยในเกมดังกล่าวอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา ศุภชัย ใจเด็ด และรัตนากร ใหม่คามิ ได้ลงไปช่วยสาวผู้ประสบเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบนทางด่วน หลังจบเกมกับสุโขทัย เอฟซีเมื่อคืน โดยมีรายงานว่า โชคดีที่สาวผู้ประสบเหตุไม่เป็นอะไรมาก และได้รับความช่วยเหลือปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

ต้องเรียกได้ว่า 2 แข้งปราสาทสายฟ้าทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด และ รัตนากร ใหม่คามิ เป็นฮีโร่ทั้งในและนอกสนามอย่างแท้จริง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top