Wednesday, 18 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

สงขลา - สืบ ตม.6 ร่วม ตม.สงขลา ทลายเครือข่ายลักลอบ ช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเข้าเมืองฯ

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ ดังนี้ สืบ ตม.6 ร่วม ตม.สงขลา ทลายเครือข่ายลักลอบ ช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รายสำคัญ

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจได้ร่วมกันจับกุมนายณรงค์ อายุ 40 ปี โดยกล่าวหาว่า “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือให้การช่วยเหลือประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่” พร้อมรถตู้ที่ใช้กระทำความผิดทะเบียนกรุงเทพมหานคร นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า นายณรงค์ได้รับการว่าจ้างจากนายโยฮัน หรือบังโย นำรถตู้ของกลางช่วยเหลือรับคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม จำนวน 3 คน ไปพักไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จากนั้นนายประมวลได้มารับคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามจำนวน 2 คน จากรีสอร์ตดังกล่าวไปส่งยัง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยมีนายห่อง (HONG) อายุ 30 ปี และนายเหงียน (Mr.NGUYEN) อายุ 33 ปี ชาวเวียดนาม มารอรับที่สนามบินเพื่อช่วยเหลือให้เดินทางจากท่าอากาศยานหาดใหญ่ ไปยัง ท่าอากาศยานอุดรธานี 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันทำการจับกุมนายห่อม (Mr.HONG) อายุ 30 ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามอีกจำนวน 15 คน โดยแจ้งข้อกล่าวหาชาวเวียดนามจำนวน 15 คน ว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนนายห่อม ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.คลองหอยโข่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในชั้นจับกุมนายห่อม รับว่าเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2563 ได้ร่วมกับนายเหงียน (MR.NGUYEN) สัญชาติเวียดนาม เป็นผู้ช่วยเหลือนำพาคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามจำนวน 2 คน เดินทางจาก ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ไปยัง ท่าอากาศยานอุดรธานี 

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6, สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันจับกุม นายนิพล อายุ 54  ปี สัญชาติไทย โดยกล่าวหาว่า “ให้ที่พักพิง ให้การช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ” พร้อมของกลางรถตู้ทะเบียนบุรีรัมย์ โดยมีคนต่างด้าวชาวเวียดนาม 14 คน (หลบหนีเข้าเมือง) ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุมนายนิพนธ์ฯให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายโยฮัน คณะทำงานสืบสวนปราบปรามฯ จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ นายโยฮัน พร้อมพวกรวม 4 คน ในความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”

กก.สส.บก.ตม.6 ได้สืบทราบว่าจะมีการรับจ้างส่งคนต่างด้าวจากพื้นที่ กทม.มายังภาคใต้โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว จึงได้วางแผนในการสกัดกั้นจับกุมโดยประสานการปฏิบัติกับ ตม.จว.สงขลา และ ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ) ได้มีรถยนต์ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมาถึงบริเวณจุดกลับรถก่อนถึงหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจสอบยานพาหนะ ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวได้กลับรถหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จึงมีการไล่ติดตามจนจับกุมได้บริเวณริมถนนเพชรเกษมช่วง กม.1021-1022 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จว.สงขลา จากการตรวจสอบภายในรถพบนายประมวล เป็นผู้ขับขี่, น.ส.แสงจันทร์ นั่งโดยสารอยู่ตอนหลังของรถ (ฉายาในวงการ “พ่อใหญ่-แม่ใหญ่”), MR.XIAO ชาวจีนไม่มีหนังสือเดินทาง นั่งอยู่ที่นั่งตอนหน้าข้างคนขับ (ตรวจสอบจากระบบ BIOMETRICS ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างถูกต้อง) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และ “คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และยังพบว่านายประมวลฯ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 109/2564 ในความผิดฐาน ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2563 ดังกล่าวข้างต้น และรถยนต์ คันก่อเหตุ เป็นรถคันเดียวกันกับที่ใช้รับชาวเวียดนาม 2 คน ไปส่งยังท่าอากาศยานหาดใหญ่ในวันดังกล่าว และในส่วนของ น.ส.แสงจันทร์ หรือแม่ใหญ่ เป็นภรรยาของนายประมวล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีความเชื่อมโยงโดยเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เครือข่าย “โซติแอล” นายหน้านำพาคนต่างด้าวชาวกัมพูชาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6, ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายห่อม อายุ 31 ปี สัญชาติเวียดนาม ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 110/2564 ลง 5 เม.ย.2564 ควบคุมตัวส่ง สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา, กก.สส.บก.ตม.6 ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ปัตตานี ได้ร่วมกันรับมอบตัว นาย โยฮัน สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.108/2564 ลง 5 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายเหงียน (MR.NGUYEN) สัญชาติเวียดนาม อยู่ในระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป 

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม BALAC

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม BALAC (The BA Program in Language and Culture) คณะอักษรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2564 (รอบ admission)

????????????ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องยืนยันสิทธิ์โดยกรอกแบบฟอร์ม Google (ซึ่งจะส่งทางอีเมล) ภายในวันที่ 26 เมษายน 2564 ก่อน 12.00 น.

????????????หากผู้สมัครไม่ดำเนินการตามเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
????????????????????
https://www.arts.chula.ac.th/~balac/v2020/index.php/2021/04/23/list-of-successful-applicants-for-entry-into-the-bachelor-of-arts-in-language-and-culture-international-program-faculty-of-arts-for-the-2021-academic-year-admission-round/


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3813660668682426&id=230198280362034&sfnsn=mo
 

ระนอง - จับกุมขบวนการนำพาคนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความ เสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผกก.ตม.จว.ระนอง ร่วมกันแถลงข่าว ดังนี้

คดีจับกุมขบวนการนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ระนอง ได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่าบริเวณท่าเรือบ้านทับหลี ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จว.ระนอง มีการลักลอบนำคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง โดยมีเรือรถยนต์จากประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) นำคนต่างด้าวเข้ามาส่งตามช่องทางธรรมชาติในบริเวณดังกล่าว แล้วจะมีรถยนต์เข้ามารับคนต่างด้าวไปส่งยังจุดหมายปลายทางต่อไป

ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ระนอง สนธิกำลังกับชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ระนอง, สภ.ปากจั่น, ชปข.ร้อย ตชด.ที่ 415 และ จนท.ทหาร ชุด ร้อย ร.2521 (จุดตรวจศิลาสลัก จปร.) วางแผนออกสืบสวนหาข่าว ลาดตระเวน และเฝ้าซุ่มตรวจบริเวณช่องทางธรรมชาติตามที่แหล่งข่าวแจ้งว่ามีคนต่างด้าวใช้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จนท.ชุดเฝ้าตรวจพบเห็นเรือยนต์หางยาวขับขี่มาจากฝั่งประเทศเมียนมา เข้ามาจอดเทียบท่าภายในซอยประปา ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จว.ระนอง ต่อมามีรถยนต์กระบะ ทะเบียนระนอง ขับขี่เข้ามาจอดที่ลานจอดรถบริเวณท่าเทียบเรือ แล้วพบเห็นนายอู (Oo) สัญชาติเมียนมา เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 และได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเรื่อยมา ครั้งหลังสุดได้รับอนุญาตให้อยู่ถึง 30 กันยายน 2564 (ทราบชื่อในภายหลัง) ซึ่งนั่งข้างผู้ขับขี่รถยนต์ได้ลงมาจากรถแล้วเรียกให้คนต่างด้าวที่อยู่ในเรือยนต์หางยาวมาขึ้นนั่งกระบะหลัง 4 คน และนั่งในห้องโดยสารด้านหลังคนขับ 3 คน (รวมทั้งสิ้น 7 คน) แล้วขับขี่รถยนต์มุ่งหน้ามาทางถนนเพชรเกษม จนท.ชุดเฝ้าตรวจจึงแจ้งให้ จนท.ชุดลาดตระเวนเก้าสกัดจับกุม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณถนนเพชรเกษม ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จว.ระนอง และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวชื่อนายเดชา เตาะ อายุ 45 ปี ที่อยู่ ต.หงาว อ.เมือง จว.ระนอง และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน อยู่ภายในรถตามที่ชุดเฝ้าตรวจแจ้งทราบชื่อดังนี้

  1. นางเมนู (Mrs.Moe) อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.มอละแมง เมียนมา ปลายทางไปทำงานก่อสร้างกับแม่ จว.ภูเก็ต จ่ายค่านายหน้า 15,000 บาท

  2. นางเค (Mrs.Khiin) อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ทวาย เมียนมา ปลายทางไปทำงานโรงงานขนมจีนกับลุง ที่ จว.ภูเก็ต จ่ายเงินค่านายหน้าเมื่อไปถึง

  3. นางเน (Mrs.Hnin) อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ทะวาย เมียนมา ปลายทางไปทำงานคาแคร์กับแฟน ที่ จว.ภูเก็ต จ่ายเงินค่านายหน้าเมื่อไปถึง

  4. นางสุ (Mrs.Su) อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ย่างกุ้ง เมียนมา ปลายทางไปทำงานกรีดยางพารากับพ่อ ที่ จว.สุราษฎร์ธานี จ่ายเงินค่านายหน้าเมื่อไปถึง

  5. นางซิน (Mrs.Zin) อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ทะวาย เมียนมา ปลายทางทำงานร้านหมูกะทะกับแฟน จว.ภูเก็ต จ่ายค่านายหน้า 13,000 บาท

  6. นายซู (Mr.Soe) อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ย่างกุ้ง เมียนมา ปลายทางไปทำงานกับภรรยา ที่ จว.สมุทรสาคร จ่ายค่านายหน้า 14,000 บาท 

7. นายอ่าว (Mr.Moe) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา เดินทางมาจาก จว.ทะวาย เมียนมา ปลายทางไปทำงานก่อสร้างกับพี่สาว ที่ จว.สุราษฎร์ธานี จ่ายเงินค่านายหน้า เมื่อไปถึง

 จากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวทั้ง 7 ราย ต้องการเดินทางเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย จึงติดต่อประสานกับญาติซึ่งทำงานอยู่ในประเทศไทย และได้ชักชวนเดินทางมาทำงานด้วยกัน  โดยติดต่อกับนายตะแง  (Tharnge) นายหน้าชาวเมียนมา ที่อยู่ หมู่บ้านเอซันตา จว.เกาะสอง ประเทศเมียนมา (ตรงข้าม ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จว.ระนอง) ให้ช่วยเหลือนำพาหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย และนายตะแง จึงได้นำพาคนต่างด้าวทั้ง 7 ราย หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณซอยประปา ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี พร้อมว่าจ้างให้นาย (Ou) และนายเดชา มารับตัวและนำพาไปส่งยังจุดหมายปลายทาง และระหว่างเดินทางก็ถูก จนท.ชุดจับกุม เข้าสกัดจับกุมตัวไว้ได้บริเวณ ถนนเพชรเกษม (ขาขึ้น) ม.4 ต.มะมุ อ.กระบุรี จว.ระนอง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานายจอนายอู (Ou) และนายเดชา “ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” และแจ้งข้อกล่าวหา นางเมนูพิว (Mrs.Moe Hnin) อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา กับพวกรวม 7 คน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง พงส.สภ.ปากจั่น อ.กระบุรี จว.ระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ถูกจับไม่สามารถพูดอ่านภาษาไทยได้ จึงอ่านบันทึกให้ฟังผ่านล่ามแปลชื่อนายอู (Ou) อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th

กระบี่ - รองผู้ว่ากระบี่ ลงเยี่ยมเตรียมพร้อม โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รองรับผู้ป่วย 40 เตียง

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 เวลา 14.30 นาฬิกา นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ณ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อำเภอคลองท่อม  

พร้อมด้วยพันเอก สมบัติ สืบท้วม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ ร้อยตำรวจเอกหญิง ศิริพร เนตรพุกกะนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ด้านสาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ เข้าดูพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการวางแผน

มอบหมายหน้าที่ ในการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่  นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเดินทางไปสำรวจแหล่งสมาคมกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดกระบี่ ขนาด 40 เตียง และกองบังคับการกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 ซึ่งใช้เป็นสถานที่เตรียมรับทหารใหม่ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น จะใช้เป็นโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วย 140 เตียง อยู่ระหว่างการขออนุมัติการใช้อาคารจากกองทัพบก

โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 เตรียมความพร้อมของอาคารแหล่งสมาคมดังกล่าวให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 ห้อง กั้นรั้วรวดหนาวห่างจากตัวอาคาร 50 เมตร จัดกำลังพลดูแลความปลอดภัยรอบตัวอาคาร และยานพาหนะในการสนับสนุน ให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัด ก่อสร้างห้องน้ำและห้องสุขาเพิ่มเติมอีก 4 ห้อง พร้อมติดตั้งระบบประปา สถานที่พักตากเสื้อผ้าของผู้ป่วย และระบบน้ำเสีย ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาคลองท่อม เช็คระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายในและภายนอกตัวอาคาร และเสริมแสงสว่างตลอดแนวรั้วรวดหนาม

ให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติจำกัดสำนักงานกระบี่  ติดตั้งเดินสายสื่อสารพร้อมกล้องวงจรปิดภายในอาคารทั้ง 7 ห้อง และภายนอกอาคาร ให้สาธารณสุขอำเภอคลองท่อม จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการเก็บของเสียที่ผู้ป่วยใช้ไปกำจัดเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือในการแพทย์ และให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ ติดตามเรื่องการขออนุญาตใช้กองบังคับการกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนเตียงสนามผู้ป่วยซึ่งเป็นเตียงกระดาษได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอสซีจีจำกัดมหาชน จำนวน 100 เตียง

ขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้นำผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม ณ ตึกโกเมน บ้านคลองแห้ง หมู่ที่ 3 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 14 คน

โดยโรงพยาบาลกระบี่ทั้งนี้จังหวัดกระบี่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล คือต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดและของประเทศ ให้สอดคล้องกับแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคควบคู่ความปลอดภัยสูงสุด


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี พูดคุยในคลับเฮ้าส์ (Clubhouse) โชว์วิสัยทัศน์ด้านการจัดหาวัคซีน เพื่อผ่านพ้นวิกฤตการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดคุยในคลับเฮ้าส์ (Clubhouse) โดยใช้ชื่อว่า Tony Woodsome ประเด็น ‘ฝ่าวิกฤตโควิด’ โดยพี่โทนี่ ได้โชว์วิสัยทัศน์หลายด้านที่ประเทศไทยควรจะทำ โดยเฉพาะในด้านการจัดหาวัคซีน เพื่อผ่านพ้นวิกฤตการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ไปได้โดยเร็ว

พร้อมกับได้กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในตอนหนึ่งว่า เราต้องเข้าใจ Nature ของท่านนายกฯ ท่านเป็นทหารมาทั้งชีวิต เน้นใช้งบประมาณ ไม่รู้วิธีหาเงินมาอุดหนุนงบประมาณ แล้วมาทำเศรษฐกิจ ยังไงก็ทำไม่ได้ ยังไงก็เป็นไปไม่ได้แน่นอน


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ขอนแก่น - แห่ซื้อทุเรียนคึกคัก ผู้ค้าจัดเต็มทุกสายพันธุ์ ส่งตรงจากระยอง-จันทบุรี ในราคาสุดคุ้ม เน่า-หนอน-อ่อน-ตึง เปลี่ยนลูกใหม่ให้ทันที เล็งจัดมหกรรมทุเรียนไทยและผลไม้ภาคตะวันออก ช่วยเหลือเกษตรกรไทย วิถีใหม่แบบนิวนอมอล

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตลาดรถไฟ จ.ขอนแก่น ชาวสวนทุเรียนต่างนำทุเรียนสายพันธุ์ต่าง ๆ จากสวนที่ จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี ขนใส่รถกระบะบรรทุกนำส่งให้กับพ่อค้า-แม่ค้า ที่ตลาดรถไฟขอนแก่น ตามการสั่งซื้อเนื่องจากในขณะนี้ผลผลิตทุเรียนตามฤดูกาลได้ออกผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการค้าผลไม้ตามฤดูกาล ต่างพากันจับจองทุเรียนกับแบบข้ามปี และส่งทีมงานไปจัดซื้อถึงสวนเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในเขต จ.ขอนแก่น และ จังหวัดใกล้เคียงได้เลือกซื้อเพื่อรับประทาน ทำให้ตลอดทั้งวันรถขนส่งทุเรียนจากพื้นที่ จ.ระยองและ จ.จันทบุรี ต่างนำทุเรียนมาส่งให้กับร้านค้าต่าง ๆ กันอย่างคึกคัก ขณะที่ผู้บริโภคและผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนต่างพากันมารอเลือกซื้อทุเรียนในสายพันธุ์ที่ตนเองชื่นชอบตลอดทั้งวันเช่นกัน

นายเอกลักษณ์  ชาวัตร เจ้าของร้านจันทร์ฉายผลไม้สด ตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า ในปีนี้ร้านได้สั่งตรงทุเรียนจากพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง มาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ขอนแก่น ส่งตรงจากสวนของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนแบบวันต่อวัน ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งจากการนำมาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มาเท่าไหร่ลูกค้ามายืนรอต่อคิวและเลือกซื้อนำกลับไปรับประทานกันตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการจำหน่ายแบบค้าส่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าร้านอาหาร ร้านขนมไทย หรือแม้กระทั่งหน่วยงานราชการที่ต่างพากันมาซื้อทุเรียนจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในฤดูกาลผลิตปีนี้ โดยในปีนี้ทางร้านได้นำทุเรียนมาจำหน่วยทั้งหมด 6 สายพันธุ์ มีจำหน่ายให้กับลูกค้าตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง  ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ก้านยาว ที่ร้านจำหน่ายแบบยกเข่ง 50 กก.ขึ้นไป อยู่ที่ กก.ละ 250 บาท ขายปลีก กก.ละ 400 บาท,นกหยิบ ขายส่ง กก.ละ 100  บาท ขายปลีก กก.ละ 180 บาท,ชะนี ขายส่ง กก.ละ 80 บาท ขายปลีก กก.ละ 120 บาท,พวงมณี ขายส่ง กก.ละ 85 บาท ขายปลีก กก.ละ 120 บาท

“ กระดุม ขายส่ง กก.ละ 85 บาท ขายปลีก กก.ละ 120 บาท,และหมอนทอง แบบออกเป็นขนาดเล็กขายส่ง กก.ละ 105 บาท ขนาดกลาง ขายส่ง กก.ละ 120 บาท และ ขนาดใหญ่ ขายส่ง กก.ละ 130 บาท ซึ่งในการขายส่งนั้น ทุกพันธุ์ จะขายส่งที่ 50 กก.ขึ้นไป ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาเลือกซื้อแบบยกเข่ง ยกลัง อย่างมาก ขณะเดียวกันทางร้านยังคงจำหน่ายแบบออนไลน์เพื่อส่งตรงถึงบ้านผ่านระบบการส่งแบบเดลิเวอรี่ให้กับลูกค้าอีกด้วยเพราะบางส่วนกลัวสถานการณ์โควิดไม่กล้ามาซื้อก็มาติดต่อขอซื้อผ่านเพจของร้าน ซึ่งทางร้านได้จัดให้มีบริการแบบครบวงจรเช่นกัน และที่สำคัญทุเรียนจากทางร้านที่นำมาจำหน่ายนั้นหากลูกค้าซื้อไปแล้วพบว่า เน่า-หนอน-อ่อน-ตึง สามารถส่งคืนและเปลี่ยนลูกใหม่กับทางร้านได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย”

ขณะที่นายสัมฤทธิ์  อุปเทศ เจ้าของร้านไสวผลไม้สดตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า ร้านเปิดจำหน่ายทุเรียนมานานกว่า 30 ปี โดยมีทุเรียนจำหน่ายตั้งแต่เดือน เม.ย.ซึ่งเป็นทุเรียนจากภาคตะวันออกของไทย จากนั้นก็จะตามด้วยทุเรียนภาคใต้และทุเรียนศรีษะเกษ ทำให้ร้านมีทุเรียนจำหน่ายตั้งแต่เดือน เม.ย.ไปจนถึงเดือน พ.ย.ของทุกปี ซึ่งมีลูกค้าประจำหมุนเวียนมาเลือกซื้อทุเรียนกันทุกวัน  โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง ที่ร้านการันตีผลผลิตว่าทุกลูกนั้นส่งตรงจากสวยส่งถึงมือผู้บริโภคที่อึ้ม อั้น พูเหลืองอร่ามสวยงามน่ารับประทาน เรียกได้ว่าเป็นเกรดพรีเมี่ยม คุณภาพดี ไม่ผิดหวัง โดยแต่ละวันจะเกษตรกรจะส่งจากต้นทางมาถึงปลายทาง ในทุกช่วงเวลา เมื่อมาถึงก็จะคัดไซค์เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าตามขนาดต่าง ๆ เช่นกัน

ด้านนายณจาวิชย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า ฤดูกาลทุเรียนปีนี้ ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงทุเรียนเลิฟเวอร์อย่างมาก ซึ่งตลาดรถไฟขอนแก่น มีแผงจำหน่ายทุเรียนมากกว่า18 ร้านค้า ที่ให้บริการในทุกสายพันธุ์ในราคาไม่แพงส่งตรงจากสวน มาถึงขอนแก่น ทุกวัน เรียกได้ว่าบรรยากาศการเลือกซื้อทุเรียนแบบวิถีใหม่นิวนอมอลนั้นคึกคักอย่างมาก ตามมาตรการควบคุมและป้องกันซึ่งตลาดยังคงคุมเข้มในทุกมาตรการจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ขณะที่ราคาจำหน่ายยังคงเป็นไปตามกลไกของตลาดและราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และที่สำคัญทุกร้านให้ความร่วมมือร่วมใจ ลดราคาแบบพิเศษสุดๆให้กับลูกค้าทำให้ตลอดทั้งวันมีลูกค้ามารอเลือกซื้อทุเรียนกันอย่างคึกคัก

“บางร้าน บางแผงเมื่อรถขนทุเรียนเข้ามาจอดก็ถูกจับจองเลือกซื้อจนหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ต้องสั่งทุเรียนจากสวน มาจำหน่ายตามความต้องการให้กับลูกค้ากันอย่างเพียงพอและตามความต้องการ อย่างไรก็ตามตลาดรถไฟขอนแก่น เตรียมจัดเทศกาลทุเรียนไทยและผลไม้ตะวันออก ที่กำหนดจัดกิจกรรมดังกล่าวแบบนิวนอมอล ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ในช่วงต้นเดือน พ.ค. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้จากพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนได้นำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับคนอีสานได้เลือกซื้อในราคาสุดคุ้มที่ขอนแก่นอีกด้วย”

พังงา - ธารน้ำใจชาวพังงาสู้ภัยโควิด-19 ร่วมบริจาคพัดลม 64 ตัวให้โรงพยาบาลสนาม

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา พระเทพปัญญาโมลี รองเจ้าคณะภาค 17 พร้อมด้วยน.ส.สาวดี  รักษ์ศิริ สหกรณ์จังหวัดพังงา น.ส.วรนิษฐ์ อภิรัฐจิรวงษ์ พาณิชย์จังหวัดพังงา น.ส.ปรียาภัทร์ พรหมชูแก้ว ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด นำพัดลมทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กรวม 64 ตัวและน้ำดื่ม 25 โหล มอบให้กับนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม โรงยิมเนเซี่ยมสนามกีฬากลาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อยจากโรงพยาบาลตะกั่วป่าและโรงพยาบาลพังงา มาดูแลรักษาต่อที่โรงพยาบาลสนาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังพบผู้ป่วยเพิ่มทุกวัน จนทำให้ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เตรียมไว้ใกล้จะเต็ม และล่าสุดจังหวัดพังงามีผู้ป่วยโควิด-19ระลอกใหม่รวม29 คน


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี

พังงา - เมื่อไหร่จะได้ใช้...ชาวเกาะพระทอง 2 หมู่บ้าน รอใช้ไฟฟ้านานมากว่า2 ปี หลังการไฟฟ้าลากเคเบิลใต้น้ำขึ้นเกาะแต่ขยายเขตปักเสาไม่ได้

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านบนเกาะพระทอง อ.คุระบุรี ว่าหลังจากการไฟฟ้าภูมิภาคทำโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 เควี มายังเกาะพระทอง เพื่อให้ชาวบ้านและหน่วยงานราชการบนเกาะพระทองได้ใช้ประโยชน์ โดยจุดลงฝั่งแผ่นดินใหญ่อยู่ในบริเวณ ท่าเทียบเรือบ้านทุ่งละออง จุดขึ้นอยู่ที่ท่าเทียบเรือบ้านทุ่งดาบ ม.1 ต.เกาะพระทอง ซึ่งโครงการได้แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2561

แต่ปัจจุบันสามารถจ่ายไฟฟ้าให้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 บ้านทุ่งดาบได้เพียงหมู่บ้านเดียวเท่านั้น ไม่สามารถขยายเขตปักเสาไฟฟ้าไปยัง ม.2 บ้านท่าแป๊ะโย้ยและม.4 บ้านปากจกได้ เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องการไม่ได้รับอนุญาตให้ปักเสาไฟฟ้าในเขตป่าต่าง ๆ ได้ ทำให้ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านต้องรอไฟฟ้าเก้อมานานกว่า 2 ปี ปัจจุบันต้องใช้ไฟปั่นและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟฟ้าเสียที อย่าให้รอนานอย่างนี้ ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆและเสาไฟฟ้าถูกกองทิ้งอยู่ไว้ข้างทาง คาดว่าอุปกรณ์บางอย่างก็คงเสื่อมลงเรื่อย ๆ

นายอรรถพล มีเพียร นายก อบต.เกาะพระทอง เปิดเผยว่า ปัญหาในการขออนุญาตปักเสาพาดสายที่เกาะพระทองอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสรุป อย่างเช่น การทำศึกษาเกี่ยวกับเรื่องป่าสงวนแห่งชาติ และก็ทำรายงานว่าทำได้ไหม ดำเนินการได้รึเปล่า รวมไปถึงป่าอุทยานแห่งชาติ ว่าสามารถดำเนินการปักเสาได้ไหม แล้วอีกตัวนึงก็คือป่าชายเลน ทาง ทสจ.พังงาทำเสร็จไปแล้ว 2 ตัว คือป่าสงวนแห่งชาติ และป่าอุทยานแห่งชาติ ส่วนป่าชายเลน ได้สรุปเสร็จเมื่อวันที่ 9 เมษาที่ผ่านมา เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาลงนามส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ติดตามสถานการณ์ ดีเดย์วันสุดท้ายมาเลย์ผลักดันชาวต่างชาติออกจากประเทศ เน้นย้ำมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ ดีเดย์วันสุดท้าย ในการเดินทางกลับเข้ามาของคนไทยจากประเทศมาเลเซีย หลังประเทศมาเลเซียผลักดันชาวต่างชาติออกจากประเทศ  เนื่องมาจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ภายในประเทศมาเลเซีย  โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ด่านตรวจคนเข้าเมือง และกองกำลังป้องกันชายแดน และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ กองอำนวยการควบคุมการผ่านแดน ด่านศุลกากรสุไหงโกลก อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า ขณะที่การดูแลแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ฝั่งจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับหน่วยทหารในพื้นที เพิ่มมาตรการคุมเข้ม ลาดตระเวนเฝ้าระวังป้องกัน ตามช่องทางธรรมชาติอย่างเต็มที่ เสริมเข้มด่านตรวจจุดตรวจ เส้นทางหลักเส้นทางรอง บูรณาการการปฎิบัติงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ตลอดจน อาสาสมัครประจำถิ่น และ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่าย อสม. ตรวจสอบ และสกัดผู้ที่แอบลักลอบเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย  พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฎิบัติตนของเจ้าหน้าที่ ให้อยู่ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19  อย่างเคร่งครัด จากนั้นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้เดินตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยภายใน จุดตรวจคัดกรอง พื้นที่ Local Quarantine (LQ) รองรับการข้ามเเดนของคนไทยกลับเข้าประเทศ ด่านศุลกากรสุไหงโกลก พร้อมทั้ง มอบห่วงใย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

ชลบุรี - ศรชล.ร่วม สธ.เมืองพัทยา ตรวจเข้มป้องกันโควิด-19 ในการแข่งขันเจ็ตสกี WORLD CUP 2021

เมื่อ 21 เม.ย.64 น.อ.ณัฐวุฒิ งามวงศ์วาน รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชลบุรี (รอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ.) และว่าที่ น.อ.จิริทีปต์ ศรีเทพ หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดชลบุรี (ศคท.จว.ชบ.)

ร่วมกับ กองสาธารณสุขเมืองพัทยา  นำคณะตรวจการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 การแข่งขัน เจ็ตสกี WORLD CUP 2021 ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขัน ระหว่าง 21-25 เม.ย.64 ณ หาดจอมเทียน พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี ผลการตรวจมาตราการป้องกันฯ เป็นไปตามที่สาธารณสุขกำหนด โดยมีมาตราการดังนี้

1.ไม่ให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันในสนาม

2.มีการกำหนดจุด เข้า-ออก สนามแข่งขันเพียง 3 จุด โดยมีการตรวจคัดกรองทีมนักกีฬา เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน และสื่อมวลชน ที่ผ่านเข้าสนามทุกคน

3.มีการจัดรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ไว้ใกล้กับสนามแข่งขัน กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือตรวจพบผู้มีอาการป่วยหรือมีไข้สูง 4.มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในสนามแข่งขัน และมีการแบ่งโซนนักกีฬาแต่ละประเภท

5.นักกีฬาต่างชาติที่เข้าแข่งขันได้รับวัคซีนแล้ว และผ่านการกักกันโรคจำนวน 14 วันเรียบร้อยแล้ว

6.ทุกคนที่อยู่ในบริเวณการแข่งขัน ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนตลอดเวลา


ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top