Friday, 13 June 2025
Hard News Team

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรับมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 พร้อมมอบรางวัลให้กับทีมสืบสวนดีเด่น และทีมคิดหุ่นตำรวจอัจฉริยะ 'AI Police Cyborg 1.0'

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , จเรตำรวจแห่งชาติ , ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีข้อสั่งการในการประชุม ดังนี้
1. กำชับให้ทุกหน่วยขับเคลื่อนและดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ หนี้นอกระบบ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย อาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา พืชกระท่อมที่ผิดกฎหมาย อย่างเด็ดขาดและจริงจัง ทุกหน่วยจะต้องร่วมกันดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตรวจสอบและประเมินผลได้ โดยให้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติ และให้ทุกหน่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลในการบริหารงานบุคคลทุกระดับต่อไป

2. กำชับให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ ห้ามมิให้ไปช่วยราชการในหน้าที่อื่นโดยเด็ดขาด เพราะอาจขัดต่อกฎหมายตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ หากกำลังพลไม่เพียงพอให้บริหารจัดการกำลังพลในระดับกองบังคับการ หากมีความจำเป็นหรือไม่เพียงพอให้กองบัญชาการพิจารณาดำเนินการ

3. กรณีพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พบการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา ศปก.ตร.สน.จะต้องปรับแผนการปฏิบัติ แผนเผชิญเหตุ เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การสืบสวนก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ ทำรายงานการสืบสวนโดยละเอียด ขยายผลไปยังตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ถือความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ จะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่เจ้าหน้าที่ในการทำงานและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด

4. กำชับให้ทุกหน่วยเสริมสร้างความสามัคคีภายในหน่วย ให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลควบคุมการทำงานภายในหน่วย เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำหน้าที่และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดโครงการ/กิจกรรมเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน ความร่วมมือภายในหน่อย ที่สอดคล้องกับภารกิจของหน่วย

ทั้งนี้ ก่อนการประชุมบริหาร ตร. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เป็นประธานพิธีมอบเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 , พิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื่น และสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และพิธีมอบรางวัลให้กับโครงการยกระดับมาตรฐานงานสืบสวน ป้องกันปราบปรามและความปลอดภัยสาธารณะ ด้วยเทคโนโลยีระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0”

สำหรับพิธีมอบเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2568 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานรับมอบเงินสนับสนุนจากหน่วยงานหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณอาภิพร ชูวงศ์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณชนาพร ไกรทอง , คุณลภัทธิตา จินตกานนท์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ , คุณมนสิการ สำราญสำรวจกิจ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธี โดยรับมอบจากผู้สนับสนุนจำนวน 4 หน่วยงาน ได้แก่ 

- เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย คุณภัคพล งามลักษณ์ ประธานคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการเครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจ จำนวน 10,000,000 บาท และเงินสนับสนุนโครงการสาธารณประโยชน์ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวน 2,000,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 12,000,000 บาท 

- มูลนิธิมาดามแป้ง โดย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองมูลนิธิมาดามแป้ง ลำดับที่ 1 มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ

- บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) โดย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล , คุณชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณเพ็ญจันทร์ ยงวงศ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” ด้านตำรวจทุพพลภาพ

- บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด โดย คุณวิทยา พานิชตระกูล กรรมการบริหาร และ คุณชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” ด้านเด็กพิเศษ

โดยสมาคมแม่บ้านตำรวจจะนำเงินสนับสนุนดังกล่าวไปดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของผู้สนับสนุน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการให้ความช่วยเหลือ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมขวัญกำลังใจ แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัวต่อไป

พิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื่น และสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน  
- กลุ่มการปฏิบัติที่ 1 : ดีเด่นอันดับ 1 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 3 , ดีเด่นอันดับที่ 2 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 5 , ดีเด่นอันดับที่ 3 ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 4 และหน่วยที่มีผลการปฏิบัติดี จำนวน 8 หน่วย ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 7 , กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 8 , ตำรวจภูธรภาค 1 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจภูธรภาค 2 , ตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรภาค 9
- กลุ่มปฏิบัติการที่ 2 : ดีเด่นอันดับที่ 1 ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยที่มีผลการปฏิบัติดี จำนวน 4 หน่วย ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

พิธีมอบรางวัลให้กับโครงการยกระดับมาตรฐานงานสืบสวน ป้องกันปราบปรามและความปลอดภัยสาธารณะ ด้วยเทคโนโลยีระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0” หรือ พ.ต.อ.นครปฐม ปลอดภัย หุ่นกล้อง AI อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับสภาพการจราจร ตรวจสอบใบหน้าบุคคลเชื่อมข้อมูลกับฐานข้อมูลหมายจับ รวมถึงการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพของตำรวจ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พัฒนางานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยการแสวงหาความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน โดยตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้ร่วมกับหลายภาคส่วน พัฒนาระบบหุ่นตำรวจอัจฉริยะ “AI Police Cyborg 1.0” ซึ่งเป็นระบบ Face Recognition เพื่อพิสูจน์ทราบบุคคลตามหมายจับจากฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งจนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 20 หมาย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ มีข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รับมอบรางวัลจำนวน 13 นาย นำโดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

‘ทรัมป์’ เปิดคลิปฟาดใส่ผู้นำแอฟริกาใต้ กล่าวหา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนขาว” กลางวงหารือ

(22 พ.ค. 68) เกิดเหตุเผชิญหน้าสุดตึงเครียดในห้องรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดวิดีโอที่อ้างว่าแสดงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวในแอฟริกาใต้ต่อหน้าประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความงุนงงและอึดอัดให้กับผู้นำแอฟริกันอย่างเห็นได้ชัด

วิดีโอที่ฉายแสดงภาพไม้กางเขนสีขาว และคำพูดปลุกระดมจากนักการเมืองฝ่ายค้านในแอฟริกาใต้ ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าคือหลักฐานของความรุนแรงที่รัฐเพิกเฉย พร้อมระบุว่าคนกลุ่มนี้ควรถูกจับกุม โดยการกระทำครั้งนี้ซ้ำรอยการหักหน้าผู้นำยูเครนเมื่อต้นปี สะท้อนถึงพฤติกรรมที่สร้างความลำบากใจให้ผู้นำต่างชาติที่มาเยือน

รามาโฟซาตอบโต้ด้วยความสุภาพ แต่ชัดเจน โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และย้ำว่าไม่เคยเห็นคลิปนี้มาก่อน พร้อมชี้ว่า หากมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริง นักกอล์ฟและนักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ผิวขาวที่ร่วมเดินทางมากับเขาคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ท่าทีดังกล่าวกลับยิ่งกระตุ้นให้ทรัมป์โต้กลับอย่างเผ็ดร้อน พร้อมโชว์เอกสารบทความสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน

นอกจากนี้ รามาโฟซายังระบุว่า ปัญหาอาชญากรรมในแอฟริกาใต้มีอยู่จริง แต่เหยื่อส่วนใหญ่กลับเป็นประชาชนผิวดำ ไม่ใช่เฉพาะชาวไร่ผิวขาวดังที่ทรัมป์กล่าว ขณะที่บรรยากาศการประชุมกลับตึงเครียดยิ่งขึ้น เมื่อทรัมป์แทรกขึ้นว่า “ชาวนาไม่ใช่คนผิวดำ” ก่อนที่ผู้นำแอฟริกาจะตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “เรายินดีจะพูดคุยกับคุณในเรื่องนี้”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้นำชาติอื่น ๆ ที่กำลังพิจารณารับคำเชิญเยือนสหรัฐฯ ในสมัยทรัมป์ เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูก “ทำให้อับอาย” ต่อหน้าสาธารณะและสื่อมวลชน ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับแอฟริกาใต้ก็ดูจะห่างเหินยิ่งขึ้น

สตม.รวบผู้ต้องหาเอี่ยวพนันออนไลน์ ก่อนเผ่นออกนอกประเทศ

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ บก.ตม.2 เข้มงวดกวดขันและตรวจสอบความปลอดภัยให้คนที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.68) เวลาประมาณ 15.50 น. กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้รับการประสานจาก กก.2 บก.สอท.3 ว่า นางสาวรัชนีวรรณ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในความผิดฐาน "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" ทาง กก.2 บก.สอท.3 ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากว่า 10 ล้านบาท โดยได้รับแจ้งว่าบุคคลดังกล่าวจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน CATHAY PACIFIC เที่ยวบินที่ CX706 เส้นทาง BKK - HKG ในวันเดียวกัน และขอให้ดำเนินการติดตามจับกุม รวมถึงบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม.

ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.ปป.บก.ตม.2 จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์และตรวจสอบตามช่องทางบริเวณพื้นที่ฝ่าย ตม.ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมือง  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ได้พบนางสาวรัชนีวรรณ  ณ บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะกำลังจะผ่านการตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนและแสดงหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบเบื้องต้น จากนั้นจึงได้ควบคุมตัว การจับกุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง และได้นำตัวผู้ถูกจับส่ง กก.2 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

'บิ๊กอู๊ด' โพสต์ถึง 'เสก โลโซ' ยกย่องลูกผู้ชาย กล้าทำ-กล้ายอมรับ แม้สนิทแต่ทำผิดก็ต้องจับ

‘บิ๊กอู๊ด’ อดีตตำรวจคนดังมือจับผู้พันตึ๋งโพสต์ถึง ‘เสก โลโซ’ ถือเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำ กล้ายอมรับ และสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป แต่หน้าที่พี่ต้องทำ น้องทำผิดพี่ก็ต้องจับ

เมื่อวันที่ (21 พ.ค. 68) พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง อดีต ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะ รองนายกสมาคมตำรวจ โพสต์ถึง ‘เสก โลโซ’ ว่า ในฐานะที่เรารู้จักกันมายาวนาน 10 กว่าปี ความผูกพันมันต้องมี แต่หน้าที่พี่ต้องทำ น้องทำผิดพี่ก็ต้องจับ ก็ขอเป็นกำลังให้เสกเพราะถือเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง กล้าทำ กล้ายอมรับ และสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป

อย่างไรก็ตาม ขณะเล่นคอนเสิร์ตเขาก็ตักเตือนเยาวชนแล้วว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตัวอย่างมีให้เห็นมาแล้ว

‘เนทันยาฮู’ ยืนยันอิสราเอลอาจสังหาร ‘โมฮัมหมัด ซินวาร์’ ผู้นำฮามาสในกาซาไปแล้ว พร้อมเดินหน้าปฏิบัติการควบคุมฉนวนกาซาทั้งหมด

(22 พ.ค. 68) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู แถลงว่า อิสราเอล “น่าจะสังหาร” โมฮัมหมัด ซินวาร์ ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้สำเร็จ ระหว่างการโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลในเมืองคานยูนิสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 คน

ซินวาร์เป็นน้องชายของยาห์ยา ซินวาร์ อดีตผู้นำฮามาสในกาซาที่ถูกอิสราเอลสังหารไปก่อนหน้านี้ หากได้รับการยืนยัน การเสียชีวิตของเขาจะเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียสำคัญของฝ่ายฮามาส แม้กลุ่มยังคงรักษาอำนาจในพื้นที่ไว้ได้บางส่วน

นอกจากนี้ เนทันยาฮูประกาศว่า อิสราเอลจะไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในกาซา จนกว่าจะสามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมดได้ พร้อมระบุว่าอาจยอมรับการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อแลกกับการปล่อยตัวตัวประกัน แต่จะไม่ยุติสงครามจนกว่าฮามาสจะถูกโค่นล้ม และกาซาจะถูกปลดอาวุธ

เนทันยาฮูยังกล่าวถึง “แผนอพยพโดยสมัครใจ” ตามแนวทางของสหรัฐฯ เพื่อเปิดทางให้ชาวกาซาที่ต้องการออกจากพื้นที่สามารถทำได้ พร้อมย้ำว่าอิสราเอลมีสิทธิในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามของอิหร่าน ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้การจับตามองเรื่องโครงการนิวเคลียร์

แม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่กองกำลังผาเมือง

พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่  3 เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วย ในพื้นที่กำลังผาเมือง ด้านจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา ในห้วงวันที่ 21 – 22 พฤษภาคม 2568 ณ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ค่ายพิชิตปรีชากร ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จัวหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลตรี กิดากร จันทรา ผู้ บัญชาการกองกำลังผาเมือง ให้การต้อนรับ

จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ฐานปฏิบัติการแก่งทรายมูล กองร้อยทหารพรานที่ 3209 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 แม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยป้องกันชายแดน ในพื้นที่รับผิดชอบ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31โดยรับฟังบรรยายสรุปประกอบภูมิประเทศ และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจการณ์ เนิน 103 บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแกน จังหวัดเชียงราย

วุฒิสภาแฉ ‘สหรัฐฯ’ รู้ความเสี่ยงวัคซีนโควิด mRNA แต่เลือกเงียบ..ชะลอเตือนเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

(22 พ.ค. 68) รายงานจากวุฒิสมาชิก รอน จอห์นสัน เผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงในรัฐบาลสมัยโจ ไบเดน ซึ่งทราบถึงรายงานปัญหาทางหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) หลังรับวัคซีน mRNA ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 แต่กลับรอถึงปลายเดือนมิถุนายนกว่าจะปรับคำเตือนในฉลากวัคซีน

ในช่วงที่ภาครัฐยังไม่แจ้งเตือน กลับมีการจำกัดเสรีภาพของแพทย์ที่ออกมาเตือนเรื่องผลข้างเคียง โดยบางรายถูกลบโพสต์หรือระงับบัญชี โฆษกรายงานชี้ว่า จนถึงกลางปี 2021 มีรายงานอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบกว่า 158 เคสในระบบ VAERS

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลติดต่อ CDC และ FDA ตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ 2021 ถึงเคสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มวัยรุ่นจากวัคซีนไฟเซอร์ แต่เจ้าหน้าที่ FDA กลับชี้ว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอ และไม่ต้องการ “สร้างความตื่นตระหนก”

แม้ในเดือนพฤษภาคม 2021 มีการหารือกันภายใน CDC ว่าควรส่ง “ประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพแห่งชาติ (HAN)” เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากวัคซีน แต่ผู้นำหน่วยงานหลายคน รวมถึงอดีตกรรมาธิการ FDA ไม่เห็นด้วย โดยเลือกเพียงเผยแพร่ประกาศทั่วไปในเว็บไซต์

จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2021 FDA จึงปรับฉลากวัคซีน Pfizer และ Moderna ให้มีคำเตือนเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ รายงานชี้ว่าช่วงเวลาดังกล่าว มีรายงานเคสในระบบพุ่งถึง 752 เคส ขณะที่ทำเนียบขาวยังคงเผยแพร่ข้อความว่า “อาการเหล่านี้พบได้ยาก”

มูลนิธิพระราหูเปิดสารคดี ‘นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’ ‘ดร.หิมาลัย’ หวังช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทย

มูลนิธิพระราหูเปิดตัวสารคดีชุด ‘นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’ สร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนและเยาวชน ผ่าน 4 นักเรียนต้นแบบ เผยแพร่ผ่าน YouTube และ Facebook มูลนิธิพระราหู ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ 

(22 พ.ค.68) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู เปิดเผยว่า ตามที่มูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู และพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ได้ดำเนินการโครงการนักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างของนักเรียนและเยาวชนที่มีความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงมีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนและเยาวชนคนอื่น ๆ 

เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศทางมูลนิธิพระราหูจึงได้จัดทำสารคดีชุด’นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ’จำนวน 4 ตอน ที่จะนำเสนอแนวคิดและการดำเนินชีวิตของ 4 นักเรียนที่พร้อมต่อสู้กับทุก ๆ อุปสรรค เพื่อเดินหน้าสู่ความหวังและความฝันโดยยังยึดมั่นในคุณงามความดี รวมทั้งบทบาทและหน้าที่ในฐานะ ‘นักเรียน’

สำหรับทั้งสารคดีทั้ง 4 ตอน ได้แก่ .

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP1 : เรื่องของไอซ์ 
เรื่องราวของเด็กผู้ชายที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ในการที่จะเดินหน้าสู่อาชีพ ‘นักการเมืองท้องถิ่น’ ภายใต้แนวคิดซื่อตรง-ไม่โกง พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชน 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP2 : เรื่องของแตงโม 
เรื่องราวของเด็กนักเรียนที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้มีพร้อมเหมือนคนอื่น แต่พร้อมที่จะเดินหน้าสู้กับปัญหาความไม่พร้อม ผ่านการแบ่งเบาภาระของครอบครัวอย่างเต็มที่ภายใต้เรี่ยวแรงของตนเอง 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP3 : เรื่องของเอม 
นักร้อง นักเรียน และนักสู้ชีวิต ที่พร้อมเดินหน้าเผชิญหน้ากับทุก ๆ อุปสรรคและขวากหนามที่เข้ามาและตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ภายใต้เสียงเพลง ภายใต้ชีวิตและความฝันที่อยากจะดูแล ‘คุณยาย’ 

- นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ EP4 : เรื่องของแก้ว
เรื่องของเด็กดื้อที่จะทำตามความใฝ่ฝันในการเป็น ‘นักร้อง’ ของตัวเอง ที่สำคัญเรื่องของ ‘แก้ว’ ยังเป็นคนที่พร้อมสู้กับทุกเรื่องเพื่อให้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความฝัน เรื่องของการเรียน และพร้อมที่จะใช้บ่าเล็ก ๆ รับความกดดันเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายของตัวเอง 

โดยทางมูลนิธิพระราหูจะดำเนินการเผยแพร่สารคดีในทุก ๆ วันพฤหัสบดี เวลา 09.00 น. ผ่านทาง Facebook และ Youtube ของ ‘มูลนิธิพระราหู’ และ Facebook และ Youtube ของ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ

‘พีระพันธุ์’ เดินหน้ารื้อสัญญาชั่วนิรันดร์ Adder - FiT พร้อมเร่งลดผลกระทบจากค่าไฟฟ้าให้ประชาชน

เมื่อวันที่ (19 พ.ค.68) นายกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE 100) และคณะตัวแทนสมาคมฯ ได้เข้าพบ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอหารือและรับทราบแนวทางเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ปัญหาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบมีค่า Adder และ Feed-in Tariff (FiT) ที่ต้องจ่ายให้กับกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและเล็กมาก (Non-Firm SPP) แบบไม่มีวันหมดอายุสัญญา หรือที่เรียกกันว่า 'สัญญาชั่วนิรันดร์' ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน

ทั้งนี้ ระบบ Adder และ Feed-in Tariff เป็นนโยบายที่ภาครัฐให้เงินสนับสนุน หรือให้เงินส่วนเพิ่มจากอัตราค่าไฟปกติแก่ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อจูงใจภาคเอกชนให้มาลงทุนในพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น โดยโรงไฟฟ้าเหล่านี้สามารถต่อสัญญาขายไฟฟ้าได้เรื่อย ๆ ครั้งละ 5 ปี และต่อเนื่องโดยอัตโนมัติแบบไม่มีวันหมดอายุสัญญา ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อปี 2550 ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระและทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น

ในการหารือครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในส่วนของสมาคมฯ ได้อธิบายถึงปัญหาข้อขัดข้องในอดีตซึ่งเป็นที่มาของสัญญาดังกล่าว อีกทั้งยังได้รับทราบและเห็นด้วยกับแนวทางที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการในการปรับเปลี่ยนสัญญาให้ถูกต้องและเป็นธรรม โดยนายพีระพันธุ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการกำหนดอายุสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Non-Firm เพื่อลดผลกระทบค่าไฟฟ้า และได้กำชับให้คณะอนุกรรมการดังกล่าวเร่งดำเนินการพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการพยายามแก้ปัญหาระบบ Adder และ Feed-in Tariff ที่สะสมมานาน โดยทางสมาคมฯ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลในการแก้ปัญหานี้ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะลดผลกระทบที่มีต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top