Monday, 9 June 2025
Hard News Team

27 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 วันเกิด ‘พุทธทาสภิกขุ’ ปราชญ์แห่งไชยา ผู้ได้รับยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก

พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) หรือ พุทธทาสภิกขุ เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2449 ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมชื่อ “เงื่อม พานิช” ท่านเป็นพระผู้ผลิตสื่อธรรมะในยุคที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนา

ท่านได้ร่วมกับ “ธรรมทาส พานิช” ผู้เป็นน้องชาย ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมที่วัดร้างตระพังจิก ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมโดย “พุทธทาสภิกขุ” ท่านให้ชื่อว่า สวนโมกขพลาราม เพราะบริเวณที่ตั้งมีต้นโมกและต้นพลาขึ้นอยู่มาก มีความหมายว่า “สวนป่าอันเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์” ต่อมาในปี 2486 “สวนโมกขพลาราม” ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดธารน้ำไหล บริเวณเขาพุทธทอง ริมทางหลวงหมายเลข 41 อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ท่านมีความปรารถนาให้ “สวนโมกขพลาราม” หรือ สวนโมกข์ เป็นสถานที่แสวงหาความสงบและศึกษาธรรม โดยภายในมี “โรงมหรสพทางวิญญาณ” ซึ่งเป็นอาคารที่รวบรวมภาพศิลปะ คำสอนในศาสนานิกายต่าง ๆ ภาพพุทธประวัติ รอบบริเวณวัดเป็นสวนป่าร่มรื่นเต็มไปด้วยปริศนาธรรม ปราศจากโบสถ์และศาลาอย่างวัดทั่วไป เหมาะสำหรับเป็นที่ฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนา ทั้งยังมีการฝึกสอนสมาธิสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติด้วย

“พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ)” หรือ “พุทธทาสภิกขุ” มรณภาพเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2536 ที่วัดสวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมาในวันที่ 20 ตุลาคม 2548 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ประกาศยกย่องให้ “พุทธทาสภิกขุ” เป็นบุคคลสำคัญของโลก

ทรัมป์จวกปูติน ‘บ้า’ ปมถล่มยูเครนครั้งใหญ่ เตือนรุกรานยูเครนมาก จะพารัสเซียล่มสลาย

(26 พ.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอย่างรุนแรงผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social โดยระบุว่าปูติน “บ้าไปแล้ว” และเตือนว่าหากยังคงพยายามยึดครองยูเครนทั้งหมด จะนำไปสู่ “จุดจบของรัสเซีย”

ทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครน พร้อมระบุว่าเป็นการสังหารผู้บริสุทธิ์โดยไม่จำเป็น และกำลังพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

นอกจากปูติน ทรัมป์ยังวิจารณ์ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน โดยกล่าวว่าท่าทีแข็งกร้าวของเซเลนสกี “สร้างปัญหา” และ “ควรหยุดพูดแบบนั้นได้แล้ว” พร้อมชี้ว่าความขัดแย้งนี้เป็นผลจาก “ความไร้ความสามารถ”

ทรัมป์ย้ำว่าสงครามยูเครนจะไม่เกิดขึ้นหากเขายังเป็นประธานาธิบดี โดยโยนความรับผิดชอบไปที่ปูติน เซเลนสกี และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน พร้อมยืนยันว่าเขาเพียงต้องการ “ช่วยดับไฟสงครามที่ใหญ่และน่าเกลียดนี้”

แรงดึงดูดของบ้าน...มากกว่ากรีนการ์ดอเมริกัน คนไทยในสหรัฐฯ เลือกกลับ ถ้าเทียบกับชาติอื่นในเอเชีย

(26 พ.ค. 68) ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ลงคลิปวิดีโอทางช่อง YouTube ของตนเอง โดยแชร์สาระน่ารู้ในเรื่อง..อะไรทําให้คนไทยแตกต่างจากคนเอเชียชาติอื่น เวลาที่พวกเราไปเรียนที่อเมริกา? 

ความแตกต่างที่น่าสนใจระหว่างนักศึกษาไทยและนักศึกษาเอเชียชาติอื่นในสหรัฐอเมริกาคือเป้าหมายหลังสำเร็จการศึกษา โดยนักศึกษาไทยส่วนใหญ่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางกลับมาทำงานและใช้ชีวิตในประเทศไทย สวนทางกับนักศึกษาจากชาติเอเชียอื่นจำนวนมากที่มองหาโอกาสในการตั้งถิ่นฐานถาวรในสหรัฐฯ อ้างอิงข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรงที่ศึกษาในสหรัฐฯ ช่วงปี 1990 ถึง 2004 ยืนยันเรื่องดังกล่าว และยังคงเป็นแนวโน้มที่ชัดเจนจนถึงปัจจุบัน

สถิติล่าสุดในปี 2022 ชี้ว่า จากจำนวนนักศึกษาไทยประมาณ 5,000 คนในสหรัฐฯ มีเพียงราว 15% เท่านั้นที่เลือกทำงานต่อหลังเรียนจบ ซึ่งแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับชาติอื่น ในช่วงทศวรรษ 1990 นักศึกษาจีนเกือบ 90% เลือกที่จะไม่กลับประเทศ ขณะที่นักศึกษาอินเดีย โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีอัตราการอยู่ต่อสูงถึง 87% และผู้ที่จบปริญญาเอก STEM ระหว่างปี 2000-2015 (ข้อมูลปี 2017) เช่นเดียวกับนักศึกษาจากเกาหลีใต้และไต้หวันจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหวังจะอยู่อาศัยในอเมริกาอย่างถาวร

ปัจจัยหลักที่ดึงดูดให้นักศึกษาไทยกลับบ้านเกิดคือความผูกพันกับครอบครัว ความคุ้นเคยกับสังคมและวัฒนธรรมไทย รวมถึงความรักในประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีโครงการพิเศษเพื่อดึงดูดคนกลับเหมือนที่รัฐบาลจีนริเริ่มโครงการ “เต่าทะเล” (Sea Turtles) ตั้งแต่ปี 2010 เพื่อเชิญชวนคนเก่งกลับไปพัฒนาประเทศ เสน่ห์ของประเทศไทย ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และความสัมพันธ์ในครอบครัว ถือเป็นแรงจูงใจสำคัญ

แม้จำนวนนักศึกษาไทยในสหรัฐฯ จะลดลงจากประมาณ 11,600 คนในปี 2000 เหลือราว 5,000 คนในปี 2022 แต่แนวโน้มการกลับประเทศยังคงสูงอยู่เสมอ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยจำนวนมากมองว่าการไปศึกษาต่อต่างประเทศคือการเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์เพื่อนำกลับมาพัฒนาบ้านเกิด มากกว่าจะเป็นบันไดสู่การย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่คนไทยเลือก “กลับบ้าน” ในขณะที่คนชาติอื่นอาจเลือก “จากบ้าน” ไปหาโอกาสที่ดีกว่าในต่างแดน

นายกฯ เผยดีล F1 คืบหน้ามาก ลุ้นผลไทยได้จัดแข่ง?.. ภายใน 2-3 เดือน

(26 พ.ค. 68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเจรจากับผู้บริหาร Formula One Group (F1) เกี่ยวกับการจัดแข่งรถ F1 รูปแบบ City Circuit ในประเทศไทย มีความคืบหน้าในทิศทางที่ดี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า

การหารือเกิดขึ้นระหว่างการเยือนราชรัฐโมนาโก เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯ ได้พบประธาน F1 และเข้าเฝ้าเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 พร้อมทั้งย้ำว่าการเดินทางครั้งนี้เน้นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่การท่องเที่ยว โดยก่อนหน้านี้ยังได้หารือเรื่องการค้าและ FTA ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นายกฯ ระบุว่า การดึง F1 มาไทยถือเป็นโอกาสที่ดี โดยไทยมีศักยภาพจัดแข่งในรูปแบบถนนในเมือง (City Circuit) ซึ่งได้รับความสนใจจากทางผู้บริหาร F1 และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศในเวทีโลก

‘วิชัย ทองแตง’ หารือ ม.เกษตรฯ ยกระดับการศึกษา ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานยุค 4.0

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด ประชุมหารือขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

(26 พ.ค. 68) นายวิชัย ทองแตง พร้อมทีมงาน ประชุมหารือขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วาระสืบเนื่องจากการลงนามความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต ระหว่างกันไปเมื่อ 11 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา โดยการลงนามร่วมกัน ระหว่าง ดร. ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับนายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด

โดยวาระการหารือสำคัญได้แก่ ความร่วมมือการดำเนินการโครงการ One TVet การพัฒนาทักษะแรงงานไทยแบบบูรณาการ เพื่อตอบสนองแรงงานไทยในยุค 4.0 และแผนการดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะแรงงานไทยแบบบูรณาการ มุ่งเน้นการ Upskill/Reskill เพื่อตอบสนองตลาดแรงงานอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 การพบปะหารือ กับรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อทำความรู้จักและสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต ณ ห้องประชุม 8 ชั้น 2 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 

สำหรับผู้เข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ ได้แก่ รศ.ดร.สุชาย  ธนวเสถียร ผู้อำนวยการ One TVET Project บริษัท เอ็ดดู ทรานฟอร์เมอร์ กรุ๊ป จำกัด คุณทัศณี คนการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท GHC MED จำกัด ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือผู้แทน ได้แก่ ผศ. ดร.กฤษณ์ วันอินทร์ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและพันธกิจเพื่อสังคม รศ. ดร.สมหวัง ขันตยานุวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาวิทยาศาสตร์สุขภาพและเขตพื้นที่สุพรรณบุรี รศ. ดร. อนันต์ ผลเพิ่ม รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ รศ. พลเอก นายแพทย์ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รศ. พลตรีหญิง ดร.สายสมร เฉลยกิตติ รักษาการคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ผศ. ดร.อภิรักษ์ จันทร์สร้าง ผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์ ผศ. ดร. นรุณ วรามิตร คณบดีวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ รศ. ดร. จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งการประชุมหารือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การร่วมกันทำงานในมิติต่างๆ อย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยสืบไป                              

คนฟิลิปินส์บ่น หลังผู้นำประเทศทำเป็นแต่แจกเงิน สุดท้ายประเทศไร้การพัฒนา

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Withawatt Cozy Tansuhaj ได้โพสต์ข้อความว่า …

(26 พ.ค. 68) เมื่อวานคุยกับฟิลิปปินส์คนหนึ่งเป็นลูกค้าที่กิจการ ถามเขาว่าที่โน่นเป็นไง เขาส่ายหัวตอบว่า แย่หน่อยคนนี้เป็นแต่แจกเงิน อย่างอื่นไม่พัฒนาอะไร แล้วเขาก็ถามผมกลับว่า แล้วของคุณเป็นไงบ้าง ผมก็ได้ยิ้มแล้วยักไหล่

หมอนั่นก็บ่นต่อให้ฟังว่า คุณรู้ไหมว่าพ่อมัน (ฟอร์ดินาล มาร์กอส) โกงชาติไปไม่รู้กี่หมื่นล้าน แต่คนฟิลิปปินส์ก็ยังเลือกลูกมันเข้ามาอีก นี่แหละ สาเหตุที่ประเทศผมไม่ไปถึงไหนซะที ( that's why we ain't go nowhere)

ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนเขาจะถามว่าแล้วประเทศคุณเป็นไงบ้างอีกรอบ

‘ม.โตเกียว’ พร้อมช่วย ‘นศ.ต่างชาติ ฮาร์วาร์ด’ หลังทรัมป์แบน เล็งใช้แนวทางรับเรียนชั่วคราว แต่โอนหน่วยกิตได้เมื่อคลี่คลาย

(26 พ.ค. 68) มหาวิทยาลัยโตเกียว ประกาศเตรียมเปิดรับนักศึกษาญี่ปุ่นและนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิกถอนสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในการรับนักศึกษาต่างชาติ โดยนักศึกษาจะสามารถเข้าเรียนเพื่อสะสมหน่วยกิต ซึ่งสามารถโอนกลับไปยังฮาร์วาร์ดได้หากสถานการณ์คลี่คลาย

สำหรับ ม.โตเกียว เคยใช้แนวทางนี้มาแล้วจากกรณีช่วยเหลือนักศึกษาในสงครามประเทศยูเครน ซึ่งจะอนุญาตให้เข้าร่วมเรียนในรายวิชาต่าง ๆ และใช้บริการห้องสมุด เพื่อให้โอกาสในการศึกษาต่อไม่สะดุด โดยรองอธิการบดี คาโอริ ฮายาชิ ระบุว่า สถาบันต้องการสนับสนุนนักศึกษาที่มีความตั้งใจจริง ให้สามารถเรียนต่อได้อย่างราบรื่น

ขณะเดียวกัน นักศึกษาญี่ปุ่นในฮาร์วาร์ดต่างแสดงความวิตกและไม่พอใจอย่างมากต่อคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยหนึ่งในนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตเกียวที่ไปศึกษาเรื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ฮาร์วาร์ด กล่าวว่า หากต้องยุติการเรียนกลางคัน “ความพยายามที่ผ่านมาจะสูญเปล่า”

ทั้งนี้ มาตรการใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ บังคับให้นักศึกษาต่างชาติที่ยังเรียนอยู่ในฮาร์วาร์ดต้องโอนย้ายไปสถาบันอื่น มิฉะนั้นจะสูญเสียสถานะพำนักในประเทศ ขณะที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงปิดภาคฤดูร้อน อาจทำให้นักศึกษาหลายคนไม่มีเวลาย้ายสถาบันได้ทัน

ข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักเรียนญี่ปุ่นระบุว่า ปัจจุบันมีนักเรียนญี่ปุ่นกว่า 13,500 คนในสหรัฐฯ โดย 260 คนอยู่ที่ฮาร์วาร์ด นักวิชาการในญี่ปุ่นเตือนว่าหากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของนักศึกษาต่างชาติ สหรัฐฯ อาจสูญเสียความนิยมในฐานะจุดหมายด้านการศึกษานานาชาติ โดยแคนาดา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย อาจกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า

คณะรัฐศาสตร์ มธ. ตั้งกรรมการสอบด่วน! ปมแชตลับ ‘อาจารย์-ศิษย์เก่า’ คุกคาม ‘นศ.หญิง’

(26 พ.ค. 68) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังเกิดกรณีกลุ่มแชตลับที่มีอาจารย์ ศิษย์เก่า และนักศึกษาชาย ส่งต่อภาพนักศึกษาหญิง พร้อมข้อความหยาบคายและมีลักษณะคุกคามทางเพศ สร้างความกังวลต่อความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของนักศึกษาในคณะอย่างกว้างขวาง

ทางคณะเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหาย 2 รายเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนทั้งสองจะยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤษภาคม และมีการตั้งกรรมการสอบฯ ขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม โดยประกอบด้วยผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน และผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่เน้นด้านสังคมสงเคราะห์

เบื้องต้น คณะยืนยันจะดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เสียหาย พร้อมเปิดช่องทางติดต่อสำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนอาจเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ คณะฯ ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อความไว้วางใจในการเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว ยืนยันจุดยืนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเคร่งครัด

โปรแรงเฉพาะ วันนี้ - 3 มิถุนายน 2568 เท่านั้น! รีบเลยก่อนของหมด! 

วิธีการสั่งซื้อง่ายๆ
1.เลือกชมสินค้าที่ร่วมรายการ 
2.แคปหน้าจอรุ่นที่ต้องการ แจ้งแอดมินผ่านช่องทางติดต่อ
3.แอดมินจะดำเนินการสั่งซื้อให้
4.ชำระเงินผ่านการแสกน QR Code เท่านั้น!

จัดส่งไวภายใน 1 - 3 วัน สินค้าที่แถมต้องมีราคาน้อยกว่าหรือเท่ากับสินค้าหลัก โปรแรงเฉพาะ วันนี้ - 3 มิถุนายน 2568 เท่านั้น! รีบเลยก่อนของหมด! 
เลือกช้อปได้ที่ https://vans.lotsthailand.com/buy-1-get-1-free.html?p=3


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top