Saturday, 7 June 2025
Hard News Team

‘ออยศรีและผองเผือก’ โพสต์ข้อความ!! ‘บอสณวัฒน์’ ชี้!! ทุกเวทีควรให้โอกาสกับทุกคน เดินตามความฝัน

(1 มิ.ย. 68) ‘ออยศรีและผองเผือก’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ตลกอะ จริงๆมันก็ลิขสิทธิ์เขาแต่เขา

แต่เราในฐานะประชาชนผู้ติดตามนางงามและมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ ฉันคิดว่าผู้เข้าประกวด ทุกคนเข้าประกวดตามความฝันของตัวเอง การที่เคยเข้าประกวดในเวทีไหนช่วงเวลาไหน แล้วนำมาเป็นข้อแม้ไม่ว่าข้อแม้นั้นมาจากเหตุผลไหนในทางส่วนตัวก็ตาม หรืออาจจะทำธุรกิจซึ่งก็ไม่รู้สิ

ทุกเวทีควรให้โอกาสกับทุกคนโดยไม่ยึดเอาเรื่องที่ผู้เข้าประกวดไม่มีส่วนมาตัดสิทธิ์ 

เห็นมีนางงามโดนปลดเพราะเคยประกวดเวทีที่ไม่ถูกใจตามนี้มาก่อนก็น่าเห็นใจนะ 

แต่ก็เอาเถอะถ้าฉันลงประกวดฉันก็จะไปคว้ามง 3 มาให้ ประเทศไทย รอหน่อยเดี๋ยวฉันก็สูงแล้ว 55555

‘เอกนัฏ’ มอบ!! ‘ทีมสุดซอย’ ขยายผลตัดตอน ‘ขบวนการฝุ่นแดง’ ล่าจนเจอ!! ‘ตัวการใหญ่’ มีคดีคา ‘ดีเอสไอ’ ทำผิดกฎหมายเพียบ

(1 มิ.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบโรงงานเหล็ก ที่ใช้กระบวนการเตาหลอม IF (Induction Furnace) ทั้ง 11 โรงงาน ซึ่งขยายผลจากกรณีฝุ่นแดงของ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ที่มีการส่งให้กับ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด จังหวัดระยอง ที่ประกอบกิจการรับกำจัดกากของเสียจากกระบวนการผลิต ซึ่งถูกสั่งปิดโรงงานและปิดระบบการรับกากอุตสาหกรรมเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา พร้อมถูกดำเนินคดีใช้เอกสารกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest) ปลอม และกรอกข้อมูลเท็จในระบบแจ้งรับกากอุตสาหกรรม รวมทั้งไม่มีศักยภาพในการจัดการฝุ่นแดง ซึ่งเป็นฝุ่นที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็กในเตาหลอมแบบเหนี่ยวนำไฟฟ้า (IF Induction Furnace ) ที่ถือเป็นของเสียที่มีองค์ประกอบหรือสารปนเปื้อน เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย และจากการสืบสวนพบว่าโรงงานเหล็ก IF เกือบทุกโรงงานในประเทศส่งฝุ่นแดง ให้กับ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด ดังกล่าว 

“จากการเข้าตรวจสอบ 11 โรงงานเหล็ก IF ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากจะติดตามปราบปรามขบวนการผลิต และขายเหล็กไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังรวมถึงขบวนการฟอกฝุ่นแดงพบว่า เมื่อโรงงานเหล็กส่งฝุ่นแดงไปที่ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ ฯ แล้วก็ไม่ได้นำไปกำจัด หรือบำบัดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่กลับนำฝุ่นแดงไปคลุกสารเคมีและส่งต่อไปให้บริษัทในเครือเพื่อแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกต่างประเทศ“ นายเอกนัฏ ระบุ 

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมอมตะซิตี้ ระยอง ตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ประกอบกิจการโรงงาน ผลิต จำหน่าย นำเข้าและส่งออก สังกะสีออกไซด์ ขณะเข้าตรวจสอบมีการประกอบกิจการตามปกติ พบ นายพาน หงโจว รับเป็นเจ้าของกิจการ ให้การเบื้องต้นว่า มีการรับฝุ่นแดงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผลิตโดยหลอมสังกะสี และเศษชิ้นส่วนโลหะภายในโรงงาน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่า โรงงานติดตั้งเครื่องจักรผลิตสังกะสีออกไซด์เพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย 

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติม นายพาน ให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของกิจการบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด  บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด รวมถึงบริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี โดยจะใช้บริษัท เอฟเอ็มอาร์ จำกัด เป็นผู้รับฝุ่นแดง ส่งต่อให้ บริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด เพื่อนำไปผ่านกระบวนการทำเป็นผลิตภัณฑ์สังกะสีแท่ง หรือซิงค์อินกอต (Zinc ingot) โดยจะจำหน่ายบางส่วน ที่เหลือส่งต่อให้ บริษัท เซียว เซียง เคมีคอลฯ เพื่อมาทำเป็นผงสังกะสีส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินธุรกิจมีลักษณะฟอกฝุ่นตั้งแต่ขั้นตอนนำฝุ่นแดงจากของเสียที่เป็นกากอุตสาหกรรมมาแปลงสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ส่งขายต่างประเทศ หรือขายให้กับเครือข่าย 

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของ นายพาน และบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด ได้ถูก กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ถูกเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ดำเนินคดีฐานขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานนำเข้าของเสียที่เป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมมีคำสั่งให้ระงับการใช้เครื่องจักร และการประกอบกิจการในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต 

"ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่า เราได้พบตัวการสำคัญแห่งวงการฟอกฝุ่นแดง ที่จงใจดำเนินกิจการอย่างไม่โปร่งใส เปิดบริษัทเป็นเครือข่ายขบวนการรองรับกันอย่างตั้งใจ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการปิดเกมขบวนการฝุ่นแดง ตัดต้นตอการจัดหา และสร้างตลาดส่งออก หวังว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการทุกๆ กิจการ คำนึงถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด" นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

จีนต้องไม่ให้เกาหลีเหนือ เข้ามาแทรกแซง สงครามในยูเครน มิฉะนั้น NATO จะขยายเข้าสู่เอเชีย

(1 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

ปธน. มาครง แห่งฝรั่งเศส ขู่ลั่นว่า “จีนต้องไม่ให้เกาหลีเหนือ เข้ามาแทรกแซงสงครามในยูเครน มิฉะนั้น NATO จะขยายเข้าสู่เอเชีย”

Macron: China must prevent North Korea from interfering in the war in Ukraine, otherwise NATO will expand to Asia

เชียงใหม่-เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมทำความดี ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 

(1 มิ.ย. 68) เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมทำความดี ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นำเด็กด้อยโอกาสเข้าทำกิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี (Chiang Mai Night Safari Learning Center)”

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  จัดพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดยมี นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร พร้อมด้วย นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง, คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
          
นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้จัดกิจกรรมทำความดี ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยพาเด็กด้อยโอกาสจากโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ และโรงเรียนบ้านตองกาย จำนวนกว่า 50 คน เข้าทำกิจกรรม “ศูนย์การเรียนรู้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี (Chiang Mai Night Safari Learning Center)” ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าผ่านกิจกรรมและสื่อต่าง ๆ เช่น เกมอนุรักษ์ธรรมชาติ สัตว์ 3D animation หนังสือ AR book เป็นต้น และชมกิจกรรมต่างๆ ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

‘ทนายเชาว์’ แฉ!! ‘แม่ สส.เมืองคอน’ วิ่งบิ๊ก ตร.ช่วยเคลียร์ คดีรุมกระทืบนักธุรกิจ ลั่น!! ยอมไม่ได้ จี้!! โอนไปกองปราบ

(1 มิ.ย. 68) นายเชาว์ มีขวด ทนายความชื่อดัง อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Chao Meekhuad” เรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาดูแลกรณีเหตุทำร้ายร่างกายกลางงานบวชที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และผู้ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ คือ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมระบุว่ามีการยกพวกเข้ารุมทำร้ายนักธุรกิจท้องถิ่นกลางงานบวชลูกชายนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน

“ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์กลางงานบุญที่เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน มีพยานเห็นเหตุการณ์ชัดเจน มีใบรับรองแพทย์ และมีคำให้การจากผู้เสียหายว่า ถูกนายชัยชนะเข้ามาพูดจากดดันไม่ให้ลงสมัครนายก อบต. และเมื่อการพูดคุยไม่เป็นผล จึงถูกตบหน้า ก่อนจะถูกน้องชายและพวกพ้องของ ส.ส.รายนี้รุมทำร้ายจนหัวแตก และยังมีการชักปืนขู่ด้วย” นายเชาว์ ระบุ

นายเชาว์ยังเปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความแล้ว แต่ภายหลังกลับถูกกดดันให้ถอนคำร้อง โดยมี “แม่ของ ส.ส.” เข้ามาเจรจาและมี “นายตำรวจใหญ่ในจังหวัด” คอยประสานเพื่อให้ยุติคดี

“นี่คือคดีอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ และไม่ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำคดีต่อไป เพราะไม่มีใครกล้าขยับท่ามกลางอิทธิพลของผู้ต้องหา ซึ่งมีตำแหน่งสูงเป็นถึงประธานกรรมาธิการตำรวจ”

นายเชาว์จึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตนเอง และสั่งโอนคดีไปยังกองปราบทันที เพื่อคุ้มครองพยาน–ผู้เสียหาย และให้กระบวนการสอบสวนเป็นธรรม

“คดีนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างคนสองฝ่าย แต่เป็นบททดสอบว่า กระบวนการยุติธรรมไทย จะยอมจำนนต่ออิทธิพลทางการเมืองหรือไม่” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย

จิ้นห่วย Chin Huay CH ส่งออกสินค้าไทย!! ขายไปทั่วโลก 100 ปี เจริญอุตสาหกรรม ทำยอดขายกว่า 2 พันล้านบาท

1 มิ.ย. 68) รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า …

100 ปี เจริญอุตสาหกรรม จิ้นห่วย Chin Huay CH

ขยัน & ประหยัด คือ DNA ของโรงงานเครื่องกระป๋องแห่งแรกๆ ของสยาม คุณทวด ฮวงน้ำ ศรีแสงนาม และคุณปู่ ประชา ศรีแสงนาม ริเริ่มมรดกไว้ให้พวกเราเมื่อปี 1925 ด้วยโรงหมักน้ำปลา&ซีอิ๊ว ที่อำเภอ ท่าฉลอม สมุทรสาคร 

ต่อมาขยายเป็นโรงงานปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง อาหารทะเลอบแห้ง ผลไม้และผักแช่แข็ง และกิจการห้องเย็น 

วันนี้กิจการของเรายังคงผลิตปลากระป๋อง และเสริมทัพด้วยผลไม้อบแห้ง และ ขนมขบเคี้ยว

วันนี้กิจการของเราจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมียอดขายราว 2,000 ล้านบาท

วันนี้กิจการของเราส่งออกสินค้าไทยออกไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกตั้งแต่ร้านชำใน China Town ไปจนชั้นวางใน Harrod's

วันนี้กิจการของเราออกไปลงทุนในกัมพูชา และสิงคโปร์

ทั้งหมดวางอยู่บน DNA ของเรา นั่นคือ "ขยัน" "ประหยัด" และ "กตัญญูกตเวที"

ผู้เขียน ‘Why Nations Fail’ มอง!! ผู้นำทหารในการเมือง ยกกรณี ‘เกาหลีใต้’ สร้างชาติได้เข้มแข็ง วางรากฐานมั่นคง

(1 มิ.ย. 68) หลังจากที่ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ Why Nation fail. ของ คุณ James A Robinson. ขอสรุปไว้ดังนี้ครับ

ข้าพเจ้ามองว่า " ผู้เขียน Why Nations Fail อาจเลือกเปรียบเทียบไทยกับเกาหลีใต้ เพราะต่างเคยเผชิญการล่าอาณานิคมในช่วงใกล้เคียงกัน ในหัวข้อของการนำทหารออกจากการเมืองนั้น การเปรียบเทียบต้องพิจารณาบริบทภายในที่แตกต่างกัน ไทยถูกทหารบางฝ่ายแทรกแซงตั้งแต่ ปี2475 แม้ในนามประชาธิปไตย แต่กลับกลายเป็นจุดด่างดำของประวัติศาสตร์ ขณะที่ทหารไทยเองในยุคสมัยต่อมาก็ทำให้บ้านเมืองเจริญงอกงามได้อย่างไม่มีที่ติ ดูสิแม้แต่ เกาหลีใต้ เริ่มจากผู้นำทหารหลังยุคสงครามแต่ก็สามารถวางรากฐานรัฐเข้มแข็งได้จริง ที่เราควรสนใจจริงๆคือเราจะสร้างระบบยุติธรรมที่จัดการคนโกงได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ ชาติล่มสลาย หรือเปล่า?

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรายชื่อถนน 94 จุดทั่วประเทศ เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายจราจร ตาม “โครงการถนนปลอดภัย” คิกออฟวันนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

(1 มิ.ย. 68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” ให้ดำเนินการเสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การบริหารงานจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยให้บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ กองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งของสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในทุกมิติ รวมจำนวนถนนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 94 จุด ทั่วประเทศ แบ่งเป็น พื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 11 จุด , ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 10 จุด , ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 13 จุด , ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 8 จุด , ตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 8 จุด และตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 8 จุด 

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า วันนี้ได้เริ่มดำเนิน “โครงการถนนปลอดภัย” พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มุ่งเป้าลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร สร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน พร้อมขอเชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจรในถนนเส้นดังกล่าวในทุกมิติ เพราะหากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะกวดขันดำเนินคดีอย่างเข้มงวดทุกกรณี

หากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพบเหตุต้องสงสัย หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม  แจ้งอุบัติเหตุจราจร และขอความช่วยเหลือด้านการจราจร สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สมุทรปราการ-สุดยิ่งใหญ่!! มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น เทศบาลตำบลแพรกษา เจ้าภาพใหญ่ จัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 30 

(1 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลแพรกษา โดยนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ดำเนินการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2568 ซึ่งทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด EDUCATION COME FIRST ท้องถิ่นสร้างคน เยาวชนเก่งดี เวทีพหุปัญญา 

ตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมและประสงค์รับเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาคในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เข้าร่วมประชุมพิจารณาคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และประสงค์รับเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาคในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพจัดการศึกษาท้องถิ่น เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ผ่านระบบ Cisco Meeting Server นั้น

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พศ 2568 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาค ในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2568 ทราบและจัดทำคำของบประมาณรายการเงินอุดหนุนสำหรับส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่นพร้อมประมาณการรายละเอียด ค่าใช้จ่าย สถานที่ และห้วงระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรมที่ชัดเจน โดยบันทึกคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดทำงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (BBL) ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายการดังกล่าวต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top