Monday, 29 April 2024
ท่องเที่ยว

ชุมพร - ชู 'Sand Dune' เนินทรายงาม แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ หนึ่งเดียวของเมืองไทย!!

จังหวัดชุมพรชู  'Sand Dune' หรือเนินทรายงามแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่หนึ่งเดียวของเมืองไทยพลิกภาพจากเมืองผ่านสู่เมืองต้องแวะที่อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและของดีครบวงจร ในอดีตจังหวัดชุมพรที่เป็นประตูสู่ภาคใต้มักจะเป็นเมืองที่มาไม่ถึง หรือไม่เป็นเมืองผ่านเพื่อไปสู่จังหวัด ยอดนิยมทำให้พลาดโอกาสสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของเนินทรายชุมพร ยุคสมัยก่อนต่างมองว่าขุมพรเป็น เมืองป่าเมืองดงห่างไกลความเจริญเป็นแค่ทางผ่าน แม้แต่บทเพลงชื่อดังยุคนั้นอย่าง "ไอ้หนุ่มชุมพร'ยังบันทึกไว้ ว่าหนุ่มจากชุมพรอุตส่าห์ดั้นด้นไปจีบสาวถึงสุราษฎรธานี ที่ยังโดนสาวบ้านดอนสาวเกาะสมุยหักอกจนชอกช้ำไม่มี ชิ้นดีต้องชมซานกลับบ้านเก่า แต่ปัจจุบันนี้ชุมพรเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ กำลังเจียระไนไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 นี้ในการท่องเที่ยววิถีใหม่

วันนี้ (12 ต.ค. 64) นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune) อำเภอ ปะทิว จังหวัดชุมพร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น ณ โรงแรมเอ เต้ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร และเชื่อมต่อกับผู้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์  ณ ร้าน  Helio Beach Club อำเภอ ปะทิว ร่วมแสดงความคิดเห็น

โดยกรมการท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้บริษัท เทสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาดำเนินการโครงการ จัดทำ แผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศต้นแบบเพื่อรองรับการ ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ตามเส้นทาง Scenic Route บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเชื่อมโยง กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งในจังหวัดชุมพร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune) อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเนิน ทรายแห่งเดียวในประเทศไทย เกิดจากปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ประกอบเข้าด้วยกันหลาย ๆ ปัจจัย คือ การยกตัวของ ชายฝั่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน การขึ้นลงของระดับน้ำทะเล การตั้งอยู่ในพื้นที่กระแสลมแรง เม็ด ทรายชายทะเลที่มีขนาดเล็กมากและน้ำหนักเบาสามารถล่องลอยตามกระแสลมพัดพาไปสะสมในระยะไกล ๆ ได้ ทำ ให้มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ ทั้งพันธุ์ไม้ประจำถิ่น และพันธุ์ไม้จากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เนินทรายงามดังกล่าว มีความเป็นเอกลักษณ์ มีพันธุ์พืชที่ขึ้นอยู่ในระบบนิเวศป่าเนินทราย ซึ่งหาดูได้ยากในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย

ประกอบกับแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงามตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอื่น ๆ ทั้งในเขตจังหวัด ชุมพร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาทิ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร ธนาคารปู แหล่งดำน้ำเกาะร้าน เป็ดร้านไก่ หาดบางเบิด หาดทุ่งวัวแล่น ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ ได้รับความนิยมบนเส้นทาง Scenic Route เลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย

 

แนะรัฐ! ดันท่องเที่ยว หวังศก.ไทยปีหน้ากลับมาโต 5% 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเร่งการส่งเสริมการลงทุน เมื่อได้เปิดประเทศ ต้องหาทางดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านคน เพื่อเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 65 ขยายตัวได้ถึง 5% ส่วนจีดีพีของกลุ่มค้าปลีก คาดว่าขยายตัว 2% เติบโตใกล้เคียงกับ จีดีพีของประเทศ โดยโมเดิร์นเทรด มีสัดส่วน 65% ของค้าปลีกทั้งระบบ 

ทั้งนี้ยังได้เปิดเผยผลสำรวจผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรด ไตรมาส 3ปี 2564 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ ปรับสูงขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ไตรมาส โดยดัชนีรวมอยู่ที่ 47.9 ดัชนีฯในปัจจุบันอยู่ที่ 47.1 และดัชนีฯในอนาคตอยู่ที่ 48.7 เนื่องจากปลายไตรมาส 3 รัฐทยอยคลายล็อกมาตรการต่างๆ และผู้ประกอบการมองว่าค้าปลีกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนียังต่ำกว่า 50% ทั้งจากองค์ประกอบการในการคำนวณดัชนี จากรายรับ กำไร ราคาขาย จ้างงาน ต้นทุน ยังอยู่ในระดับทรงตัวหรือดีเล็กน้อย ยกเว้นจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อก แต่มีมุมมองต่อไตรมาส4 ดีขึ้น เพราะมองผลดีรัฐบาลจะคลายล็อกที่เหลือ เปิดประเทศ และแรงกระตุ้นใช้จ่ายของภาครัฐส่งท้ายปี

นาวิกโยธิน!! หอกลอง สะดือทะเล และแหล่งท่องเที่ยวเมืองสัตหีบ | MEET THE STATES TIMES EP.48

📌 เล่าเรื่องนาวิกโยธิน!! หอกลอง สะดือทะเล และแหล่งท่องเที่ยวเมืองสัตหีบ
📌 ท่องเมืองไทย จะไปที่ไหนก็สวยงาม!! 

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

โฆษกรัฐบาลเผย ”บิ๊กตู่” สั่งการเดินหน้า พลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยว ปรับยุทธศาสตร์เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ และความยั่งยืน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินนโยบายตามแผนพลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยปรับยุทธศาสตร์เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ และความยั่งยืน (high-value and sustainable tourism) ภายใต้แผน 3R ประกอบด้วย (1) Reopen (ไตรมาสที่สามปี 2564) ช่วงทดลองเปิดประเทศภายใต้นโยบาย Phuket Sandbox (2) Recover (ไตรมาสที่สี่ปี 2565) การเปิดประเทศเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564 และ (3) Resilient (ปี 2566-2570) การส่งเสริมการท่องเที่ยวไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและความยั่งยืน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเล็งเห็นว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลายประเทศได้ปรับมาตรการด้านการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ไทยจึงได้เตรียมแผนที่จะเปิดจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชา ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นประมาณ 8-15 ล้านคน และมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2565 ซึ่งหากสามารถเปิดชายแดนได้ตามแผนก็คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 15 ล้านคน

ก.แรงงาน เดินหน้าพัฒนาอาชีพภาคการท่องเที่ยว เปิดประตูสู่การสร้างรายได้ที่ยั่งยืน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการ Re-skill และ Up Skill เร่งสร้างทักษะแรงงานในการประกอบอาชีพกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มุ่งเป้าให้แรงงานมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมอบหมายให้นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดฝีกอบรมโครงการ Re-skill และ Up Skill เพื่อสร้างทักษะแรงงานในการประกอบอาชีพ การพัฒนาศักยภาพด้านทักษะฝีมือแรงงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ซาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ก้าวสู่การพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ โดยมี ดร.จำลอง ช่วยรอด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมฯ ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารประเทศของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญให้กำลังแรงงานได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านทักษะฝีมือแรงงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ซาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ก้าวสู่การพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพประกอบกับประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับสถนการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้แรงงานได้รับผลกระทบอย่างหนัก รัฐบาลจึงมีนโยบายเร่งเยียวยาช่วยเหลือโดยให้ความสำคัญกับการปรับระดับฝีมือ (Re-Skill) รองรับการทำงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยกระดับต่อยอดความรู้ ความชำนาญ (Up-Skil) ให้แก่กลุ่มแรงงานฝีมือที่ได้รับผลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานดำเนินโครงการดังกล่าว

ททท. หวังท่องเที่ยวปีนี้กลับมา 50% หลังปีก่อนเจอโควิดทุบหลุดเป้า

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ททท.ยังคงเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในภาพรวมประมาณ 50% ของรายได้ที่เคยทำได้ในปี 2562 ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท หรือ ปี 2565 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 7.5-8 แสนล้านบาท ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะต้องหาทางฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยว

ส่วนตัวเลขตลอดปี 2564 พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3.84 แสนล้านบาท ลดลง 21% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 4.82 แสนล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 4 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท 

“นายกฯ” ขอบคุณ หน่วยงานขานรับใช้เทคโนโลยี หนุน อำนวยความสะดวก-ท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการดำเนินนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ให้ความสำคัญด้านการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมด้านการท่องเที่ยว ทั้งการปรับมาตรการให้สอดรับตามสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ในโลก และเพื่อให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่กับมาตรการทางสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต่างขานรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ดำเนินโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ได้อยู่ระหว่างการผลักดันระบบแพลตฟอร์มกลางเพื่อให้บริการชาวต่างชาติ ถือเป็นกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติ ได้แก่ นักท่องเที่ยว แรงงานต่างชาติ นักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติ นักศึกษาต่างชาติและผู้อยู่อาศัยระยะยาวที่ได้วีซ่าสำหรับพำนักในไทยระยะยาว ทำให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้ามาใช้บริการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัล ทำให้รับบริการได้ง่ายขึ้น เชื่อมโยงให้เกิดบริการสาธารณะแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว หรือวันสต็อปเซอร์วิส ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสามารถรับบริการได้ตลอดเวลา ตอบโจทย์ความต้องการและความคาดหวังของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯขอบคุณการสนับสนุนของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พร้อมดำเนินการตามนโยบายที่ได้วางไว้ เชื่อมั่นว่า พอร์ทัลกลางนี้ เมื่อสำเร็จจะเป็นอีกส่วนในการจูงใจให้ชาวต่างชาติสนใจมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลงานนำเสนอศักยภาพของไทยให้ชาวต่างชาติ ได้เห็น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมของไทย ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก ทั้งมาตรการทางสาธารณสุข ที่พร้อมดำเนินอย่างเข้มแข็งรัดกุม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยจะท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ในปี 2565 ไทยตั้งเป้าว่าจะมีการท่องเที่ยวของคนในชาติ ประมาณ 160 ล้านคน/ครั้ง และตั้งเป้าว่าจะมีชาวต่างชาติมาไทย 5-15 ล้านคน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ในปี 2565 นี้ ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 1.3-1.8 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าด้วยการให้ความจริงจังกับการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน BCG Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) ซึ่งเน้นเรื่องการท่องเที่ยวสีขาว (White Tourism) ภายใต้ความสะอาด ความยั่งยืน ความเป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“บิ๊กตู่” สั่งการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลงทะเบียน Thailand Pass  “ย้ำ” ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก พร้อมหารือแนวทางการจัด Travel Bubble เพิ่มเติม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการปรับนโยบาย เปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้ระบบ Test & Go ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งส่งผลให้ยอดการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพิ่มขึ้นภายในวันแรกรวมแล้วกว่า 35,046 ราย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังคาดการณ์ว่า ยอดรวมการลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงกว่า 6 หมื่นราย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย

สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่สามารถแบ่งแยกตามกลุ่มประเทศได้เป็น กลุ่มประเทศยุโรป 73.9% กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก 10.3% และกลุ่มประเทศอื่น ๆ 15.8% (สถิติข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1-30 มกราคม 2565) สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและเอเชียตะวันออกที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นโดยรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนช่วยให้การดำเนินการตามนโยบายนี้เกิดขึ้น และเห็นผลสำเร็จเพราะมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ขอให้เข้มงวด เคร่งครัด ไม่ประมาทจนอาจส่งผลถึงมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข รวมทั้ง ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขโดยพร้อมเพรียง ทั้งการยึดหลัก D-M-H-T-T D (เว้นระยะห่าง, สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือบ่อยๆ , ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง) ตามมาตรการ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด รวมถึงมีการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2565 “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing Thailand, Amazing New Chapters” ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สอดรับกับแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพลิกโฉมประเทศไทยในทุกมิติภายหลังการเริ่มต้นเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจะตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ผ่านเรื่องราวใหม่ๆ ที่มหัศจรรย์กว่าเดิม และมากกว่าที่เคยสัมผัส

รวมทั้ง จากการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล จะเตรียมการหารือเพื่อจัด Travel Bubble กับประเทศที่มีศักยภาพใช้เป็นกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวควบคู่กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวร่วมกัน โดยล่าสุดจะมีการพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน รวมไปถึงการพิจารณาร่วมกับทางการมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นเดียวกัน

“บิ๊กตู่” สั่งเตรียมเปิดด่านชายแดนใต้รับนักท่องเที่ยว มี.ค.นี้ 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) ร่วมกันเร่งพิจารณาแนวทางดำเนินการเปิดด่านชายแดนทางบกรับนักท่องเที่ยว พื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส และ สตูล คาดว่าน่าจะเปิดดำเนินการได้ประมาณ มี.ค.65 

เบื้องต้นทราบว่าทางประเทศมาเลเซียมีความพร้อมดำเนินการเช่นกัน ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนการประสานงานในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปสู่การเห็นชอบอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย

สำหรับการพิจารณาเปิดด่านชายแดนจังหวัดชายแดนใต้ เดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนม.ค. แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ต้องเลื่อนออกไป แต่ขณะนี้ ทุกอย่างอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการตรียมความพร้อมเพื่อเปิดด่านรับนักท่องเที่ยวซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและจะส่งผลต่อการฟื้นฟูธุรกิจอื่นๆอย่างมาก 

ก.ท่องเที่ยวฯตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยวซาอุปีนี้ 2 แสน  

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากซาอุดิอารเบีย รอบแรกวันที่ 28 ก.พ. ที่ยอดน้อยกว่าที่วางเป้าไว้ว่า เป็นเพราะนักท่องเที่ยวยื่นเอกสารไม่ผ่านและที่จริงแล้วตามกำหนดการเที่ยวบินแรกเขาควรมาในเดือน พ.ค. แต่จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมได้เชื่อมสัมพันธุ์ไมตรีหลังเว้นว่างมากว่า 32 ปี เราได้รับการตอบรับจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียเขาจึงส่งนักท่องเที่ยวเที่ยวประฐมฤกษ์มาเร็วกว่าที่คิดไว้

เราก็ขอขอบคุณรัฐบาลของทางซาอุ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. มาได้เพียง 71 คนซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราก็ต้อนรับอย่างสมเกียรติสมฐานะ เที่ยวบินที่เข้มมามีการยิงม่านน้ำ ตนและปลัดกระทรวงฯได้ให้การต้อนรับ หวังว่าจากนี้จะมีเที่ยวบินจากซาอุดิอารเบียสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จากการหารือและพูดคุยนักท่องเที่ยวชาวซาอุต้องการมาเที่ยวที่ไทยจำนวนมาก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top