Thursday, 10 July 2025
PoliticsQUIZ

'ชัยวุฒิ' วอนหยุดม็อบการเมือง ปล่อยรัฐช่วยน้ำท่วมเต็มที่ ยังมีผู้ประสบภัยจาก 'พายุโนรู' ที่รอการช่วยเหลืออีกมาก

(30 ก.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคกลาง ที่ จ.สิงห์บุรี พร้อมประชุมติดตามสถานการณ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจราชการ พื้นที่ภาคกลาง ในวันจันทร์นี้

โดย รมว.ดีอีเอส กล่าวนำความห่วงใย จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้กำลังใจ เเละติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมซึ่งพลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ ภาคกลางในวันจันทร์นี้

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันมีผลกระทบในหลายพื้นที่ วันนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ 'พายุโนรู' รวมถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่องเร่งจัดการ ตั้งแต่การให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง หน่วยแพทย์ พยาบาล เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วมขัง โดยหากที่พักอาศัยของครอบครัวใดประสบเหตุจากน้ำท่วมหนัก ก็จะมีหน่วยงานเข้าดูแลและเร่งพาไปศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ ได้กำชับให้เตรียมน้ำ อาหาร ยารักษาโรค ห้องน้ำเคลื่อนที่ 

ขณะเดียวกัน ก็เร่งให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน หากพื้นที่ใดประสบเหตุน้ำท่วมหนัก ก็จะเร่งการเปิดทางระบายน้ำท่วมขังโดยทันที ทั้งนี้หากสถานการณ์คลี่คลายเเล้ว ทางรัฐบาลได้มีการเตรียม มาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ให้เร็วที่สุดด้วย พร้อมกับฝากประชาชนว่า รัฐบาลทำงานต่อขอให้มั่นใจใน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าท่านตั้งใจช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอร้องกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่า ขอให้เห็นใจ ประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ขอให้รัฐบาลได้ทำงานเต็มที่ ในการรับมือน้ำท่วมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจะดีกว่าการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะที่กฎหมายเลือกตั้งยังไม่เสร็จ 

พท.ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยคำวินิจฉัยศาลรธน. ชี้ ตัดสินให้ ‘บิ๊กตู่’ อยู่ต่อ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

พท.ออกแถลงการณ์ลั่นไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยศาล รธน. โวยมีปัญหาความชอบด้วย รธน. ห่วงการตีความที่ไร้หน่วยตรวจสอบได้ ปลุกทุกฝ่ายหาทางออก

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท.อ่านแถลงการณ์พรรค พท.กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลงว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยตามคำร้องที่ประธานสภาฯ ได้ขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ สิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งมาครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค. 65 โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่สิ้นสุดลง โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลใช้บังคับนั้น จะเห็นได้ว่าภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยดังกล่าว เชื่อได้ว่าจะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักวิชาการและประชาชนในวงกว้าง ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย ซึ่งพรรคพท.เคารพในการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและผลผูกพันแห่งคำวินิจฉัย แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในเหตุผลแห่งคำวินิจฉัย 

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเป็นรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร การตีความต้องยึดตามบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษร และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญประกอบกัน เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 264 บัญญัติห้ามการดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี และให้ถือว่าคณะรัฐมนตรีที่มีอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ด้วย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์แม้จะดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ แต่เมื่อถือเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ด้วย ข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ลงวันที่ 24 ส.ค. 57 ก็ยังคงมีผลใช้อยู่ต่อเนื่องมาภายหลังวันที่ 6 เม.ย. 60 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ การตัดตอนเอาวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ เป็นวันเริ่มดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ไม่อาจหาตรรกะใดมาอธิบายได้ อีกทั้งข้อเท็จจริงปรากฏชัดในบันทึกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ว่าให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ก่อนวันรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับรวมด้วย อันถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็รับรู้เป็นการทั่วไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งมาแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 57 ซึ่งครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค. 65

'บิ๊กตู่' ขอบคุณบุคลากร ศบค. ทุกคน ที่อุทิศตนต่อสู้กับโควิด-19 ให้ผ่านพ้นไปได้

(3 ต.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha' ว่า...

ถึง เพื่อนข้าราชการทั่วประเทศ ผู้ปฏิบัติงานใน ศบค.ทุกระดับ ตลอดจนบุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน

เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของ ศบค. ซึ่งได้ทำงานด้วยกันมา นับตั้งแต่ประเทศไทยเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม 2563 จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง หรือ 900 กว่าวัน ผมขอขอบคุณทุกท่าน และทุกหน่วยงาน ที่ได้ทำงานด้วยความเสียสละ ทุ่มเท เคียงบ่าเคียงไหล่กับผม รัฐบาล และทุกภาคส่วนของประเทศ โดยไม่ย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ใช้ความพยายามอย่างสูงสุด และทุกวิถีทาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเรา คือ "ประเทศชาติต้องปลอดเชื้อ ประชาชนต้องปลอดภัย" 

‘บิ๊กป้อม’ ลุยพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เล็งใช้ 10 ทุ่ง รับน้ำบรรเทาผลกระทบ

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ชัยนาท-อ่างทอง-อยุธยา เขิน แฟนคลับเชียร์ เป็นผู้นำประเทศ -ชูป้ายให้กำลังใจ ลั่น ห่วงปปช.น้ำท่วม เตรียมใช้ 10 ทุ่ง รับน้ำบรรเทาผลกระทบ 

เมื่อวันที่ (3 ต.ค. 65) ที่จ.ชัยนาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำจ.ชัยนาท และพระนครศรีอยุธยา โดยจุดแรกเดินทางที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท มี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ร่วมคณะ มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจัวหวัดชัยนาท ลงพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศลงพื้นที่เป็นไปอย่างคักคึก มีประชาชน มารอต้อนรับท่ามกลางสายฝน โดยตะโกนให้ กำลังใจ“ลุงป้อมสู้” และชูป้าย “คนชัยนาทรักลุงป้อมจากใจ” , FC ลุงป้อม” ,เป็นกำลังใจให้ลุงป้อมครับ” ขณะที่แฟนคลับบางส่วนเข้าไปหอมแก้ม และผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับ พร้อมระบุ  “อยากให้ลุงป้อมเป็นผู้นำประเทศ” ทำให้พล.อ.ประวิตร ยิ้มแย้ม และกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ 

'ธีรรัตน์' โวย 'ประยุทธ์' เลิกบริหารประเทศตามมีตามเกิด โว!! พร้อมปัดฝุ่นโครงการจัดการน้ำ สมัย 'ยิ่งลักษณ์'

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ (3 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยห่วงใยพี่น้องประชาชนใน 23 จังหวัดทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมขณะนี้เป็นอย่างมาก นับตั้งแต่พายุโนรูเข้าประเทศไทยเมื่อปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ทำให้ฝนตกหนัก พื้นที่ทางการเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนประชาชนจมน้ำ 

ขณะที่การให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นไปด้วยความล่าช้า หน่วยงานปฏิบัติกับการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้เตรียมตัวกับปริมาณน้ำที่จะเข้าพื้นที่นั้นสวนทางกัน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง พฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หรือแม้แต่รัฐบาลอยู่มา 8 ปี ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง แต่ยังแก้ไขปัญหาแบบเดิม ตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนล่าช้า หยุดทำงานในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทั้งที่ความเดือดร้อนไม่มีวันหยุด  

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคพท.เสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้อย่างเต็มที่ เนื่องด้วยกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่จำกัดการมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ ทำได้เพียงการเยี่ยมเยือนไถ่ถาม และประสานงานเท่านั้น โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนลุ่มน้ำมูลและหลายจังหวัดในภาคอีสาน ต่างได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องผ่อนคลายกฎเหล็กนี้

‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่ขอนแก่น -อุบลฯ กำชับ ‘ไม่ต้องทำป้าย – ขนคนมาต้อนรับ’

‘บิ๊กตู่’ สั่งผู้ว่าฯ ขอนแกน-อุบลฯ ไม่ต้องเอาคนมาถือป้ายต้อนรับ บอกไม่อยากเป็นภาระกับใคร ตนยังแข็งแรง ขอให้ไปดูแลประชาชนก่อน บอกทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกัน ไม่มีขัดแย้ง 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ติดตามการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชน

โดยระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ รายงานสถานการณ์ เมื่อถึงคิวผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “พรุ่งนี้ผมไปเยี่ยมนะ ไปให้กำลังใจนะ ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีป้ายต้อนรับผมทั้งสิ้นเข้าใจหรือเปล่า ไม่เอาป้าย เอาคนมาถือป้ายไม่เอา ไปทำงาน ไม่สร้างภาระให้กับใครทั้งสิ้น”

ขณะที่ผู้ว่าราชการการจังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์ว่าจังหวัดอุบลราชธานีมีน้ำท่วม 8 อำเภอ แบ่งเป็นชุมชน 109 แห่ง ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 69 จุด 

ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “พรุ่งนี้ผมไปนะ ขอนแก่นกับอุบลฯ  ไม่ต้องเรื่องมากกับผม ผมไปของผม ผมแข็งแรง  ไม่ต้องดูแลผม ดูแลประชาชนไปก่อน ผมไม่ต้องการเป็นภาระกับใครทั้งสิ้น”

ในส่วนของกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงและติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง มีปัญหาเรื่องน้ำที่สะสมอยู่ในการระบายน้ำโซนกรุงเทพตะวันออก ขอให้กำลังใจ หากมีปัญหาขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกันให้ดี ในส่วนของกระสอบทรายกระทรวงกลาโหม ปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมช่วยเหลือ คอยหารือกัน ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราขัดแย้งกันไม่ได้ในวันนี้ ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด จะดีก็ดีด้วยกัน ไม่ดีก็ไม่ดีด้วยกัน ทุกหน่วยงาน ทุกจังหวัด 

วันนี้มาให้กำลังใจ มอบความห่วงใยไปยังข้าราชการทุกคนที่เสียสละหน้างาน สิ่งที่พูดวันนี้คือแผนงานล่วงหน้า ปัญหาวันนี้คือจะทำอย่างไร การคาดการณ์ ล่วงหน้า ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ให้ตื่นตระหนก ถ้าไม่จำเป็นเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้ว เราเคยมีบทเรียนในลุ่มเจ้าพระยาสิ่งสำคัญคือการระบายน้ำไปฝั่งตะวันตกและตะวันออกให้เกิดความสมดุล บอนนี่ก็ดนตรีกับปกครองซึ่งตนเคยบอกว่าในอนาคตอาจต้องมีเพิ่มเติม หากน้ำมาในปริมาณเกินก็กันไม่ได้ต้องลดความเดือดร้อนให้มากที่สุด

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ชี้ ถ้าปี 66 'บิ๊กตู่' ชนะเลือกตั้ง จะเป็นฝ่ายค้านต่อ เจอชาวเน็ตคอมเมนต์ถาม "มั่นใจจะได้เป็นส.ส.อีกเหรอ"

(3 ต.ค. 65) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ถ้าปี 66 ตู่ ชนะ เป็นนายกต่อ ผม เป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม ถ้า ตู่ รัฐประหาร ฉีก รธน. เปิดเงื่อนไข เป็น นายก ต่อได้ ผมลงถนนจนกว่าจะขับไล่ไปจนสำเร็จ หยุดก็ต่อเมื่อถูกจับขังคุก เท่านั้น

อย่างไรก็ดี หลังนายมงคลกิตติ์ได้โพสต์ข้อความดังกล่าว ได้มีผู้เข้ามาคอมเมนต์รายหนึ่งสอบถามว่า “มั่นใจว่าจะได้เป็น ส.ส.อีกเหรอ” ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ว่า “แล้วแต่ประชาชน”


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/234696/

‘ก้าวไกล’ จี้อนุพงษ์ - ปลัด มท. ชี้แจง หลังสตง. รายงาน ‘โคก หนอง นา โมเดล’ ล้มเหลว

‘จ่าตา’ อดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เปิดรายงาน สตง. ยืนยันชัด “โคก หนอง นา โมเดล” ล้มเหลว เสียเงินกู้ฟรี 4,700 ล้าน จี้อนุพงษ์-ปลัด มท. ชี้แจง

อดิศักดิ์ สมบัติคำ หรือ ‘จ่าตา’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล จ.มหาสารคาม ได้ออกมาเปิดรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รายงานผลการตรวจสอบโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคกหนอง นา โมเดล” ของกรมพัฒนาชุมชน ซึ่งจากรายงานพบว่าโครงการแทบไม่เดิน ทำจริงไม่ได้ ยังไม่เกิดผลทางปฏิบัติ 

‘จ่าตา’ อดิศักดิ์ กล่าวว่าตอนเริ่มโครงการภาครัฐโฆษณาด้านดีด้านเดียว โดยอ้างแต่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พอทำจริงข้างนอกสดใส ข้างในตะติ๊งโหน่ง ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้แล้วว่าโครงการทำจริงในทางปฏิบัติแทบไม่ได้ แต่รัฐบาลก็ยังดันทุรังทำ ผลคือโครงการล้มเหลวตามที่พรรคก้าวไกลอภิปรายไว้ทุกประการ

สตง. เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าโครงการมีปัญหา 3 เรื่อง ที่ทำให้โคก หนอง นาเป็นโครงการส่อล้มเหลว 

หนึ่ง โครงการล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ กรมพัฒนาชุมชนทำเสร็จเพียง 1 จาก 6 กิจกรรม ทำให้ต้องขอขยายเวลากว่า 2 รอบ ถึงจะปิดโครงการได้ 

สอง พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบทำไม่ได้จริง ส่วนใหญ่ยังทำไม่ได้ตามแบบ บางที่ยังสร้างไม่เสร็จ บางที่ยังไม่ได้เริ่มสร้าง ส่วนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่มีการจัดเตรียมความพร้อมด้านสื่อการเรียนรู้ วัสดุ อุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับการสาธิตและ ฝึกปฏิบัติประจำฐานเพื่อการเรียนรู้ 

สาม ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่าง ๆ ในวันที่ สตง. ลงไปตรวจสอบ ยังถูกใช้ไม่ครบ ซึ่งมีทั้งบางที่ยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์เลยแม้แต่รายการเดียว บางที่ใช้ไปแค่บางส่วน หรือก็คืองบอุปกรณ์ที่จัดซื้อลงไปถูกเอาไปวางทิ้งไว้เฉย ๆ

“ตามศูนย์อบรมที่โคก หนอง นา ให้เกษตรกร ยังแทบจะไม่มีการอบรมให้เกษตรกรเอาไปใช้จริงเลย”

'เพื่อไทย' ผุดกลุ่ม 'มหาสมุทรมหานคร' มุ่งแก้เศรษฐกิจ 'อ่าวไทย-อันดามัน'

(3 ต.ค. 65) วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย กฤษ ศรีฟ้า อดีต ส.ส.ภาคใต้ พรรคไทยรักไทย เสรีย์ นวลเพ็ง อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และไพศาล หลีเส็น สมาชิกพรรคเพื่อไทย พบปะกลุ่มนักธุรกิจแถบจังหวัดอันดามัน และกลุ่มอ่าวไทยที่จังหวัดกระบี่

การพูดคุยวันนี้ ประกอบด้วยนักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว กลุ่มเกษตรกร กลุ่มประมง แลกเปลี่ยนกันถึงศักยภาพของฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก ไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐเพียงพอ โดยกลุ่มที่มาประชุมทั้งหมดนี้จะตั้งเป็น 'กลุ่มมหาสมุทรมหานคร' ยกระดับจังหวัดที่อยู่ริมทะเลทั้งหมด ดึงศักยภาพด้านประมง ส่งออก ท่องเที่ยว กีฬา สถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรม ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแลและหาแนวทางผลักดันเป็นนโยบายเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะสามารถสร้างนโยบายขับเคลื่อนภาคใต้และทำให้เกิดขึ้นได้จริง โดยมอบหมายให้ กฤษ ศรีฟ้า ซึ่งเคยเป็นอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยในพื้นที่ภาคใต้ และอดีตประธานหอการค้า เป็นผู้นำกลางของกลุ่มผนึกกำลังตัวแทนภาคเศรษฐกิจและการเมืองจากทุกจังหวัดเข้ามาเป็นคณะทำงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนในภาคใต้ได้อย่างจริงจัง

ความจำเป็นในช่วงภัยพิบัติ ไม่ต้องจัดหนักเทคโนโลยี

กลายเป็นประเด็นอีกแล้ว หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวช่วงหนึ่งในการประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์เมื่อ 3 ต.ค. ที่ผ่านมาถึงการกำหนดพื้นที่เป้าหมายเศรษฐกิจ พื้นที่สุขภาพที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลด้านสาธารณสุข ก็ต้องดูแลให้สามารถเข้าบริการได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการให้บริการไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ก็ต้องให้ใช้ได้นานที่สุด ถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด การสื่อสารแจ้งข้อมูลจะทำได้ลำบาก อาจจะต้องไปใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชนได้อีกทาง ซึ่งเคยใช้กันเมื่อปี 2554 เพราะตอนนั้นไฟฟ้าดับหมด ดังนั้นเราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้ด้วยในกรณีที่อาจจะเกิดปัญหา

พลันที่มีคำว่า 'วิทยุทรานซิสเตอร์' หลุดออกมา ก็มีคนไทยกลุ่มหนึ่งจับตาและกล่าวว่านี่คือ 'ความล้าหลัง' และขำขันกันอย่างสนุก 

แต่กลับกันภายใต้ความขบขันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในปัญหาแบบผู้มีองค์ความรู้รอบด้านของผู้นำกับสถานการณ์ที่เป็นจริงได้อย่างสอดคล้องมากกว่า

แน่นอนว่าในบ้านเราตอนนี้ คนอาจจะติดภาพทรานซิสเตอร์ว่าโบราณ บ้านนอก แต่จริงๆ แล้ว วิทยุพกพาที่รับสัญญาณจากอากาศที่ไม่ได้ใช้สัญญาณดาวเทียมหรืออินเตอร์เน็ต ซึ่งมีขายในท้องตลาด ก็ล้วนแล้วแต่ใช้เทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ทั้งหมดในการรับสัญญาณ AM/FM


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top