‘บิ๊กป้อม’ ลุยพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เล็งใช้ 10 ทุ่ง รับน้ำบรรเทาผลกระทบ

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ชัยนาท-อ่างทอง-อยุธยา เขิน แฟนคลับเชียร์ เป็นผู้นำประเทศ -ชูป้ายให้กำลังใจ ลั่น ห่วงปปช.น้ำท่วม เตรียมใช้ 10 ทุ่ง รับน้ำบรรเทาผลกระทบ 

เมื่อวันที่ (3 ต.ค. 65) ที่จ.ชัยนาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำจ.ชัยนาท และพระนครศรีอยุธยา โดยจุดแรกเดินทางที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท มี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ร่วมคณะ มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจัวหวัดชัยนาท ลงพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศลงพื้นที่เป็นไปอย่างคักคึก มีประชาชน มารอต้อนรับท่ามกลางสายฝน โดยตะโกนให้ กำลังใจ“ลุงป้อมสู้” และชูป้าย “คนชัยนาทรักลุงป้อมจากใจ” , FC ลุงป้อม” ,เป็นกำลังใจให้ลุงป้อมครับ” ขณะที่แฟนคลับบางส่วนเข้าไปหอมแก้ม และผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับ พร้อมระบุ  “อยากให้ลุงป้อมเป็นผู้นำประเทศ” ทำให้พล.อ.ประวิตร ยิ้มแย้ม และกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบุ ว่า จากอิทธิพลพายุโนรู ทำให้ฝนตกหนักมากและเกิดน้ำหลากน้ำท่วมขัง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศ รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนป้องกันและรับมือล่วงหน้าโดยการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จำนวน 2 ศูนย์ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี และภาคกลาง จ.ชัยนาท โดยในวันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของศูนย์ฯ ที่ จ.ชัยนาท เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคในการทำงานของศูนย์ฯ ทั้งนี้รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยย้ำให้ สทนช.ประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาแผนการปลูกพืชในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ใช้เป็นพื้นที่รับน้ำหลาก เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และเตรียมแผนการส่งน้ำเข้า 10 ทุ่งรับน้ำ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมโดยผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าล่าสุดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในปีนี้ยังน้อยกว่าปี 54 และปี 64 โดยการระบายน้ำ ณ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 2,643 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 54 ที่ระบายในอัตรา 3,628 ลบ.ม.ต่อวินาที และยังน้อยกว่าปี 64 อัตรา 2,776 ลบ.ม.ต่อวินาที แม้ว่าปริมาณฝนปีนี้จะใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2554) 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณอ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ สถานการณ์น้ำแม่น้ำน้อย บริเวณที่ว่าการอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมลงพื้นที่วัดโบสถ์(ล่าง) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และพบปะให้กำลังใจประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่