Wednesday, 9 July 2025
PoliticsQUIZ

‘ลุงตู่’ กำชับ!! 10 ข้อปฏิบัติเร่งช่วยปชช. พ้นวิกฤตน้ำท่วม

โฆษกรัฐบาลย้ำนโยบายนายกฯ 10 ข้อถึงผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยให้ถือปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน

เมื่อวันที่ (4 ตุลาคม 2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย เพื่อได้นำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้ ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

1. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการพยากรณ์ และคาดการณ์ลักษณะอากาศวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย แจ้งให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ประสานไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพื่อแจ้งเตือนประชาชนผ่านทุกช่องทาง ไปถึงชุมชน หมู่บ้าน ให้ประชาชนรับทราบ และเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยในเบื้องต้น

2. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ เตรียมความพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล สาธารณภัย ให้พร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย อาทิ การกำจัดวัชพืช ขยะตามเส้นทางน้ำ การพร่องน้ำในแหล่งน้ำ การเร่งระบายน้ำ/การเปิดทางน้ำ/ผลักดันน้ำ ออกจากพื้นที่ชุมชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม

3. กำชับหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการก่อสร้าง บำรุงรักษาถนน ในการตรวจสอบปรับปรุง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาโครงการที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาการระบายน้ำในช่วงฝนตกหนัก พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร ติดตั้งป้าย/สัญญาณจราจรแจ้งเตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวให้ชัดเจน โดยให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากถนนให้ครบถ้วน ทั้งทางลอด การติดตั้งสัญญาณจราจร ป้าย ควรแจ้งเตือนและเฝ้าระวังเส้นทางหลีกเลี่ยง และควรปักแนวถนน สำหรับรถวิ่งผ่าน ในกรณีที่ถนนน้ำท่วม

4. เมื่อสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่คลี่คลาย ให้เร่งสำรวจผลกระทบ ความเสียหายในด้านต่าง ๆ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว

5. เมื่อเกิดน้ำท่วมขังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน ให้มอบหมายฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตลอดจนเชิญชวนประชาชนจิตอาสา ร่วมเฝ้าระวัง และร่วมกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร ตลอดจนภาคเอกชน ในการใช้เครื่องจักรกลสาธารณภัยเปิดทางน้ำ หรือสูบน้ำระบายออกจากพื้นที่ และการช่วยเหลือประชาชน

'บิ๊กตู่' ชี้!! มาอุบลฯ หนนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ได้รับฟังเสียงประชาชน ลั่น!! เดี๋ยวน้ำ มันก็ไป รัฐกำลังพยายามอย่างเต็มที่

วันนี้ (4 ตุลาคม 2565) พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน​ ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนวารินธราราม โดยระบุ การลงพื้นที่ในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเดินทางเยี่ยมประชาชน มีโอกาสรับฟังความคิดเห็น การดำเนินการแผนงานโครงการต่าง ๆ ทั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของศูนย์บูรณาการบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย ที่ประชุมเมื่อวันนี้ซึ่งก็เป็นไปตามแผน แต่ปัญหาสำคัญคือปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ฝนยังไม่หยุดตก ก็ต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ แต่หากหยุดตกไปก็จะสามารถพร่องน้ำได้มากขึ้น ซึ่งเราก็ต้องคาดหวังให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นนั่นแหละ แล้วเราทำเต็มที่หรือยัง หากทำเต็มที่แล้วก็คือเต็มที่แล้ว ซึ่งก็ต้องสร้างความเข้าใจประชาชนว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป​  

โดยนายกรัฐมนตรียังระบุว่า รัฐบาลไม่อาจประกาศได้ว่าน้ำจะไม่ท่วม​ เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาเขาชี้แจงมาอย่างนั้น คือสภาพลมฟ้าอากาศของโลก ของประเทศของภูมิภาค ถ้าไม่ฟังตรงนี้จะไปฟังใคร ถูกหรือไม่เราต้องหามาตรการรองรับตรงนี้ ทั้งจากสถานการณ์ปัจจุบันและการคาดการณ์ล่วงหน้า หากไม่มีน้ำก็จะระบายลงไปสู่ที่ต่ำ และตนรู้สึกยินดีที่ประชาชนทั้งสองจังหวัดนั้นเข้าใจ​ เพราะเขาเจอกันมานานแล้วแต่เราก็ต้องสร้างความเข้มแข็งต่อไป

‘เดชรัต’ หวั่น 6-10 ต.ค. 'กทม.-นนทบุรี' เสี่ยงท่วมหนัก ชี้!! รัฐต้องแจ้งแผนโดยเร็ว ปชช.จะได้เตรียมตัวถูก

‘เดชรัตน์-ก้าวไกล’ เตือน ลุ่มน้ำเจ้าพระยาส่อวิกฤต 6-10 ต.ค. น้ำทะเลหนุนสูง กรุงเทพ-นนทบุรีเสี่ยงท่วมหนัก ชี้ รัฐบาลต้องประกาศแผนเผชิญเหตุให้ทราบโดยเร็ว

เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเตือนสถานการณ์ สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีน้ำท่วมในวงกว้างซึ่งกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะได้รับผลกระทบ 

เดชรัตกล่าวว่า ปริมาณน้ำเหนือยังคงเพิ่มมาเรื่อย แม้จะไม่มากเท่าปี 54 แต่เขื่อนต่าง ๆ เริ่มมีความสามารถในการรับน้ำได้อีกไม่มาก และยังต้องระบายออกต่อไป เพราะ ด้วยอิทธิพลของปรากฎการณ์ลานิลญา ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังมีฝนต่อเนื่องจนถึงปลายเดือนตุลาคม ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาประกาศว่า อาจจะปล่อยน้ำสูงถึง 2,800 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนป่าสักอาจปล่อยน้ำสูงถึง 800 ลบ.ม./วินาที 

สำหรับสถานการณ์น้ำในแต่ละจังหวัดในลุ่มน้ำพระยาตอนบน จากข้อมูลที่รวบรวมจากที่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล พบว่าในเขื่อนต่าง ๆ เช่น เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสัก เพิ่มการระบายน้ำเร็วมาก บางพื้นที่คันกั้นน้ำแตกเสียหาย พื้นที่ที่ไม่เคยท่วมมากก่อน ประชาชนต้องอพยพข้าวของอย่างฉุกละหุก นอกจากนี้ ยังพบว่า ประชาชนในศูนย์อพยพหลายแห่ง ยังไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ เช่น เต้นท์ไม่พอ สุขาไม่พอ

“ในพื้นที่ อ.บางบาง จ.อยุธยา ที่เป็นทุ่งรับน้ำเกิดความขัดแย้งขึ้น จากการที่มีบ่อทรายและบ่อขยะอยู่ในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ทำให้ไม่มีการปล่อยน้ำลงทุ่งรับน้ำแบบที่ควรจะเป็น ในขณะที่ประชาชนบางส่วนที่ได้รับควาทเดือดร้อนเรียกร้องให้ปล่องน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำ”

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เมื่อเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักปล่อยน้ำมามากขึ้น ทำให้ปริมาณการไหลของน้ำที่จุดบางไทร ซึ่งเป็นจุดวิกฤตสำหรับพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล ปริมาณการไหลของน้ำอาจสูงเกิน 3,300-3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งแปลว่า จะเต็มอัตราความจุของลำน้ำตามธรรมชาติพอดี และยังเป็นข้อจำกัดในการระบายน้ำด้วย แถมด้วยปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูง ตั้งแต่วันที่ 6-10 ตุลาคม 2565 จะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ในภาวะเสี่ยงอย่างมาก 

“นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จากวันนี้ไป พื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยา และคลองอ้อมนนท์ จะมีความเสี่ยงสูงมาก คันกันน้ำชำรุด น้ำท่วมขังจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนมาพร้อมกันทำให้ระบบระบายน้ำไม่สามารถรองรับฝนหนักมาก ที่มีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตรได้ดีนัก แม้ว่าตอนนี้ อปท. ต่าง ๆ ทำการพร่องน้ำในคลอง ในท่อ ยังเต็มที่ แต่ความสามารถในการสูบน้ำอาจทำได้จำกัดมากขึ้น ส่วนในกรุงเทพมหานครยังต้องระมัดระวัง การระบายน้ำไปในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานครด้วย” 

เดชรัต กล่าวต่อว่า ปัญหาในการรับมืออุทกภัยในปี 2565 โดยภาพรวมแม้ว่า พื้นที่และระดับการท่วมของน้ำจะไม่มากเท่าระดับปี 2554 แต่ก็มีพื้นที่และประชาชนที่ประสบภัยมากกว่าปี 2564 แน่นอน เพราะฉะนั้น รัฐบาลควรยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือ การเผชิญเหตุ และการเยียวยาขั้นสูงสุด 

'นายกฯ' กร้าว!! ดูแลทุกจังหวัด พร้อมขจัดภัยทุกจุด ยัน!! เร่งคืนชีวิตปกติให้กับพี่น้องประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha' ระบุว่า...

พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกคนครับ

ผมได้เฝ้าติดตามข่าวสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในภาคอีสาน ด้วยความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ต.ค. 65) ผมได้สั่งการเน้นย้ำนโยบาย 10 ข้อ ในการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ ได้นำไปปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเมื่อวานนี้ (4 ต.ค. 65) ผมจึงได้เลื่อนการประชุม ครม.ออกไป เพื่อปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ติดตามการทำงานในระดับพื้นที่ ณ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งนำกำลังใจจากคนทั้งประเทศ ไปฝากพี่น้องผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

จากการรายงานผลการดำเนินงานของทั้งสองจังหวัด ทำให้ผมได้รับทราบว่าได้มีการจัดการสถานการณ์อย่างเต็มที่ ตามแผนเผชิญเหตุที่รัฐบาลได้สั่งการไว้ล่วงหน้า โดยได้เตรียมการไว้ และคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ทั้งกรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย (ปภ.) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานอื่น ๆ อีกหลายแห่ง เพื่อระดมสรรพกำลัง ทั้งทรัพยากรบุคคล เครื่องมือ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ รวมถึงการประสานงานในการส่งข่าวสารแจ้งพี่น้องประชาชนในการระมัดระวังและช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งทำให้ผมมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำการค้า ประกอบอาชีพ เรียนหนังสือ สัญจรไปมา ได้โดยเร็ว

ซึ่งผมได้เน้นย้ำกับทั้งสองจังหวัดว่า รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของงบประมาณเพิ่มเติม กำลังคน เครื่องจักรกล และทรัพยากรอื่น ๆ ที่จำเป็นอย่างเต็มที่ โดยสิ่งสำคัญคือเราจำเป็นต้องระบายน้ำให้ได้เร็วและมากที่สุด เพื่อบรรเทาสถานการณ์ และเตรียมพร้อมหากจะมีพายุเข้ามาอีก

'โฆษกรัฐ' แจง 'บิ๊กป้อม' ลาป่วย ไม่เข้าประชุมครม. หมอแนะนำให้พักรักษาตัว หลังมีไข้-ปวดศีรษะ

รองโฆษกรัฐบาลแจง 'บิ๊กป้อม' ลาป่วยประชุมครม. มีอาการเป็นไข้หวัด แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลาป่วย ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม. ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ เนื่องจากมีไข้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้แพทย์ผู้ตรวจอาการ ได้เปิดเผยว่าพลเอกประวิตรมีอาการไข้ต่ำ ปวดศีรษะและมีเสมหะเล็กน้อย และได้ทำการตรวจ ATK ในเบื้องต้น ผลเป็นลบ จึงคาดว่าอาการป่วยนี้เกิดจากการโดนฝนระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ชัยนาท และจ.พระนครศรีอยุธยาในช่วงวันที่ผ่านมา แพทย์เห็นควรให้พักรักษาตัวที่บ้านพัก คาดว่าอาการจะดีขึ้นในเร็ววัน   

"ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ขอส่งกำลังใจ ไปถึงประชาชนทุกคน ที่กำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง" น.ส. ทิพานัน กล่าว

'เพื่อไทย' โอด!! ส.ส. ‘เหมือนถูกปิดปากมัดมือ-เท้า’ หลังระเบียบ กกต.180 วัน ทำช่วยเหลือปชช.ได้จำกัด

“ขณะนี้เกิดภัยพิบัติ ควรต้องให้ผู้แทนฯ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้บ้าง ในฐานะส.ส. ไม่เคยปล่อยให้พี่น้องประชาชนต้องทุกข์ยากลำบาก แต่วันนี้ ส.ส.‘เหมือนถูกปิดปากมัดมือ-เท้า’ ทำได้เพียงมองตาปริบๆ” 

(5 ต.ค. 65) นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู ที่บ้านท่าม่วง ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท พร้อมลงเรือบริเวณท่าเรือบ้านเมืองเพีย ผ่านแก่งละว้า (เขตรอยต่อ อ.ชนบท–อ.บ้านไผ่) เพื่อไปให้กำลังใจพี่น้องชาวบ้านวังเวิน ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พร้อมวอนขอให้ กกต.ผ่อนคลายกฎเหล็ก 180 วันให้ส.ส.ได้ช่วยเหลือประชาชนยามภัยพิบัติได้

จากสถานการณ์ฝนตกหนัก ได้เพิ่มปริมาณน้ำในลำน้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจมน้ำระดับมิดหลังคาบ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปศุสัตว์ การสัญจรภายในพื้นที่ต้องใช้เรือเท่านั้น ส่วนอ่างเก็บน้ำหนองกองแก้วปริมาณน้ำเต็มความจุ จนล้นคันดินถนนรอบหนองจนขาดเพราะรับน้ำไม่ไหว ซึ่งปริมาณน้ำมาก อาจจะหนักกว่าปี 2564  ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ น้ำเต็มความจุเขื่อนเช่นกัน ทั้งนี้ที่หมู่บ้านวังเวิน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ อ.บ้านไผ่ กระแสน้ำจากลำน้ำชีไหลผ่านเข้ามายังหมู่บ้าน ด้วยความเร็วและแรง ถนนท้องถิ่นไม่สามารถใช้การได้ การเข้าไปเยี่ยมเยียนเพื่อสอบถามถึงความต้องการจึงทำได้ยากลำบาก

นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด และอาหารจำนวนมาก ซึ่งจนถึงขณะนี้แม้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปยังพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง การช่วยเหลือเฉพาะหน้าจากรัฐบาลส่วนกลางยังมาไม่ถึงในพื้นที่ แม้แต่น้ำเปล่ายังขาดแคลน ประชาชนเหมือนถูกลอยแพให้อยู่ไปตามยถากรรม ส่วนโรคระบาดเริ่มน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะโรคเท้าเปื่อยจากน้ำท่วมขัง

'สุชาติ' ตอกกลับ!! แคนดิเดตนายกฯ พปชร.เป็นเรื่องในพรรค ชี้!! วันนี้ 'บิ๊กตู่' กลับ!! ทุกคนมีพลัง สนใจจะทำแต่งาน

'รมต.สุชาติ' บอก 'บิ๊กแป๊ะ' แคนดิเดตนายกฯ ต้องมาจากมติพรรค ยันวันนี้มีพลัง หลัง 'บิ๊กตู่' กลับมาทำงาน เย้ยเพื่อไทยจะชู 'หมอชลน่าน' ชิงนายกฯ หรือไม่

(5 ต.ค. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า เรื่องนี้ต้องคุยกันในพรรค ไม่ควรพูดในที่สาธารณะ และการที่ นพ.ชลน่านพูด ก็คล้ายกับพรรคเพื่อไทยจะเสนอ นพ.ชลน่านเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยก็ได้ ต้องถามไปที่พรรคจะเสนอชื่อ นพ.ชลน่านเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่

เมื่อถามว่า พปชร. จะเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 ชื่อเลยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนเองไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจในการตัดสินใจ

'ชลน่าน' เตรียมยื่นซักฟอก ครม. สมัยประชุมหน้า มั่นใจ!! 'บิ๊กตู่' ยุบสภา หลังจบงานเอเปกแน่นอน

เมื่อวันที่ (5 ต.ค. 65) ที่โรงแรม เอสซีปาร์ค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคฝ่ายค้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พรรคมีมติชัด เมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 พ.ย. จะเริ่มยื่นญัตติทันที ญัตตินี้เป็นเรื่องการสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

เมื่อถามว่า หลังการประชุมเอเปกจะมีแนวโน้มยุบสภาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอขยับตัวเลขขึ้นมาร้อยละ 90 โดยเหตุผลการยุบสภาอยู่ 2 ข้อ คือ 

1.) ผู้มีอำนาจเห็นว่าตนเองได้เปรียบทางการเมือง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป 

2.) เป็นเรื่องประเด็นเงื่อนไขทิศทางทางการเมือง นั่นคือ ความเห็นและความต้องการของประชาชน ถ้ากระแสประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย กับการอยู่ในตำแหน่งของนายกฯ และมีการขอคืนอำนาจ ก็จะเป็นตัวเร่งให้ตัดสินใจยุบสภา

'เพื่อไทย' ระดมส.ส. ให้ความรู้กฎเหล็ก กกต. ชี้!! ต้องระมัดระวัง แต่อย่ากลัวจนทำอะไรไม่ได้

พรรคเพื่อไทย จัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและนโยบายพรรค ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 ที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ในส่วนของมาตราที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.บางส่วน ที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตาม ในช่วง 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 โดยมี ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. คณะทำงานด้านกฎหมาย และคณะทำงานด้านบัญชีของผู้สมัคร สมาชิกพรรค เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ เพื่อให้ผู้บริหาร ส.ส. บุคลากรทางการเมืองและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มีความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะวิธีการหาเสียง และข้อห้ามในการหาเสียง เพื่อจะได้ปฏิบัติถูกต้อง ป้องกันการถูกร้องคัดค้านในการเลือกตั้ง โดยจัดให้ความรู้ด้านบทบัญญัติกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.พ.ศ. 2560 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 รวมทั้งระเบียบ กกต.อีกหลายฉบับ  

ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่น่าสงสัย เช่น การวางพวงหรีด ดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง อะไรทำได้ หรือไม่ได้ ซึ่งการจัดโครงการในวันนี้จะมีการเปิดให้สมาชิกพรรคเปิดให้แลกเปลี่ยน สอบถามรายละเอียดอย่างเต็มที่เพื่อให้คลายข้อสงสัย 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ เป็นการให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเข้าใกล้สู่ฤดูกาลเลือกตั้ง หากเกิดกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยครบอายุสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งอย่างช้าที่สุดคือวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 และหากนับระยะเวลาการหาเสียงที่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์ และข้อห้ามในการหาเสียงที่เข้มงวด นับจากวันที่ 24 กันยายน 2565 คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 224 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและส่งผลต่อความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ในการหาเสียงระหว่างพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหรือไม่

'กมธ.พัฒนาการเมือง' เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดี 112 ตรวจดูมาตรการ 'คุ้มครองสิทธิ-การดูแล' ผู้ต้องขัง

คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง เขตจตุจักร เพื่อดูมาตรการคุ้มครองสิทธิและการดูแลผู้ต้องขังคดีอาญา มาตรา 112 ตามหลักการของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน

โดยคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบของการใช้มาตรา 112 สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส. จ.นครปฐม, ณัฐวุฒิ บัวประทุม เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง อาจารย์ด้านกฎหมายมหาชน ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าเยี่ยมชมเรือนจำ เข้าพบนักโทษคดี 112 ที่ยังถูกคุมขังอยู่ เพื่อพูดคุย สอบถามกำลังใจและสภาพความเป็นอยู่ พร้อมตรวจสอบว่าได้รับการปฏิบัติตามสิทธิที่ผู้ต้องขังพึงจะได้ตามมาตรฐานสากลหรือไม่

เบญจา กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองและดูแลสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขัง คดี 112 คดีความมั่นคง คดีทางการเมือง ซึ่งมีการเดินทางทั้งหมด 2 วัน ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ วันที่ 4 ได้เดินทางไปยังเรือนจำธนบุรี เขตบางบอน พบกับ ศุภากร พินิจบุตร์ ผู้ต้องขังเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 

ส่วนวันนี้ได้เดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางเป็นที่สุดท้าย เพื่อพบกับสมบัติ ทองย้อย ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างรอพิจารณาคดี รวมถึง พรชัย (แซม) และเยาวชนกลุ่มทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส 

เบญจา ระบุว่า ได้สอบถาม สมบัติ ทองย้อย ถึงชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำและเรื่องสุขภาพ รวมถึงสถานการณ์ภายในและภายนอกเรือนจำ รวมถึงสิทธิเสรีภาพของ สมบัติ ในเรือนจำ

จากนั้นคณะฯ ได้เข้าเยี่ยม อัญชัญ ปรีเลิศ ซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาดในคดี 112 ดังนั้นเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมจึงจะมีความแตกต่าง ไม่เหมือนกับกรณีอื่นๆ อัญชัญ ได้สะท้อนให้เห็นว่า ขณะนี้ตนได้รับการดูแลในฐานะเป็นนักโทษสูงอายุ ซึ่งมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ขวัญและกำลังใจค่อนข้างดี ได้รับการพิจารณาจัดลำดับชั้นอยู่ในนักโทษชั้นเยี่ยม จากโทษเดิมที่ต้องจำคุกทั้งสิ้น 40 กว่าปี จะลดลงมาเหลืออยู่ 10 ปีเศษ ซึ่งต้องดูเงื่อนไขในทางกฎหมายต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

ด้านณัฐวุฒิ เผยว่า สำหรับผู้มาเข้าเยี่ยมในวันนี้นอกเหนือจากคณะอนุกรรมาธิการ ที่มาในนามสถานแทนราษฎร ยังมีผู้แทนจาก แอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขังว่าเป็นอย่างไร และได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมหรือไม่ มีเงื่อนไขหรือปัจจัยที่แตกต่างจากกรณีอื่น ๆ หรือไม่ จากนั้นจะนำข้อมูลที่ได้ใน 2 วันนี้ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อจัดทำเป็นรายงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการสนทนากับ สมบัติ นั้น น.ส.เบญจา ได้หยิบยกบทกวีที่นายแซม พรชัย ได้เคยกล่าวให้ผู้ต้องหาคดี 112 ทุกครั้ง ในกิจกรรม "ยืนหยุดขัง" มากล่าวให้นายสมบัติ ทองย้อย ฟัง โดยมีใจความดังนี้...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top