Thursday, 10 July 2025
PoliticsQUIZ

'สร้างอนาคตไทย' เรียกร้อง กกต.รีบแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อความเท่าเทียมและพร้อมจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

วันพุธที่ 28 กันยายน 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะประธานภาคกรุงเทพฯ และนายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค เปิดศูนย์ประสานงานพรรค เขตยานนาวา บางคอแหลม ซึ่งมีนายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ เป็นผู้ประสานงานพรรคในพื้นที่

นายสุรนันทน์ ได้กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานพรรค ไม่ใช่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ศูนย์ฯ จะต้องทำงานต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการเลือกตั้ง เพราะเราตั้งใจเปิดศูนย์ฯ ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ พรรคสร้างอนาคตไทยได้มีชุดความคิดใหม่ ๆ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความไม่ยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำทางการเมืองและสังคม และระหว่างพบปะประชาชน ก็ได้รับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ที่นับวันจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงปัญหาชุมชนที่อยู่อาศัยที่ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พรรคฯ จะนำปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เข้าที่ประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณาหาทางแก้ไขต่อไป โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เรายืนยันว่า จะต่อต้านยาเสพติดทุกประเภท  และจะร่วมกันขจัดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 

นายสุรนันทน์ ยังได้เรียกร้องไปยัง กกต. อีกด้วยว่า ถึงแม้จะออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ มามากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือควรรีบแบ่งเขตพื้นที่การเลือกตั้งทั้ง 400 เขตให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ผู้ที่ลงสมัครหน้าใหม่ก็จะเสียเปรียบเจ้าของพื้นที่เดิม เนื่องจากไม่สามารถรู้ได้ว่าพื้นที่ของตัวเองมีขอบเขตแค่ไหน เพราะฉะนั้น กกต. จะต้องเร่งในเรื่องนี้ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีโอกาสในการแนะนำตัวให้ประชาชนรู้จักอย่างเท่าเทียมกัน

รัฐบาล เร่งจ่ายค่าเสี่ยงภัยอสม. 2 พันบาท ต.ค.นี้ ย้ำ ที่ผ่านมา เพิ่มสิทธิ-หลักประกันความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง

‘ทิพานัน’ ย้ำรัฐบาลห่วงใย อสม. เร่งจ่ายค่าเสี่ยงภัย 2,000 บาท ภายในตุลาคมนี้ ชี้ที่ผ่านมารัฐบาล 'พล.อ.ประยุทธ์' เพิ่มสิทธิห้องพิเศษฟรี- จัดตั้งฌาปนกิจสงเคราะห์ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงและเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ อสม.ทั่วประเทศ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ครม. มีมติอนุมัติโครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สําหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ในชุมชน จำนวนคนละ 2,000 บาท ระยะเวลาปฏิบัติงานเดือนมิ.ย. – ก.ย. 2565 ว่า ในการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเสี่ยงภัยทางระบบ e-social welfare นี้ กรมบัญชีกลางได้กำหนดปฏิทินการเบิกจ่ายรอบเดือน ก.ย. 2565 สำหรับผลการปฏิบัติงานของอสม.เดือน มิ.ย.-ส.ค. 2565 และเบิกจ่ายรอบเดือน ต.ค. 2565 สำหรับผลการปฏิบัติงานของอสม.เดือน ก.ย. 2565

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลขอขอบคุณการทำงานหนักที่ผ่านมาของ อสม.และ อสส. ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เบื้องต้นในระดับชุมชน โดยเฉพาะการดูแลทั้งมาตรการป้องกัน มาตรการคัดกรอง และมาตรการดูแลกลุ่มเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ อสม. และ อสม. เป็นด่านหน้าเคาะประตูดูแลถึงบ้านสำหรับกลุ่ม 608 ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงวัย และประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจึงไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ ที่สำคัญคือ อสม. และ อสส. เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้สามารถควบคุมโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังได้ โดยระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ย. 2565 ระยะเวลา 4 เดือนที่ เจ้าหน้าที่ อสม.  อละ อสส. ต้องมีภาระงานที่เสี่ยงภัยเพิ่มมากขึ้นสำหรับการควบคุมโควิด-19

‘บิ๊กป้อม’ นั่งหัวโต๊ะประชุมกองทุนกีฬา มุ่งเน้นสู่ระดับนานาชาติ ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาช่วย

พล.อ.ประวิตร นั่งหัวโต๊ะประชุมกองทุนกีฬา สนับสนุนงบให้ สมาคมและกีฬาจังหวัด ทั่วประเทศ มุ่งพัฒนานักกีฬาต่อเนื่อง เน้นยกระดับมาตรฐานมวยไทยสู่สากล ควบคู่สวัสดิการ/ความปลอดภัย ย้ำ ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา ให้เต็มที่

เมื่อ (28 ก.ย. 65) 10.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกโฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 5/ 2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ก่อนเริ่มการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดี กับ ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี  ที่ได้รับความเห็นชอบ จาก ครม.ให้ ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ต่ออีก 1 สมัย(วาระ 4ปี) พร้อมขอให้ขับเคลื่อนการพัฒนาการกีฬา ให้มีความก้าวหน้า ต่อเนื่องต่อไป  จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการให้การสนับสนุนของกองทุน ประจำปี 2565 วงเงิน 4,204 ล้านบาทเศษ และรับทราบรายงานการสนับสนุนงบประมาณ โครงการอุปกรณ์กีฬา กิจกรรมกีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬา แก่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด อาทิ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา จำนวน 50 จังหวัด โครงการจัดกิจกรรมกีฬา จำนวน 31 จังหวัด และโครงการนักวิทยาศาสตร์การกีฬาของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 77จังหวัด เป็นต้น รวมถึงรับทราบรายงานโครงการพัฒนากีฬามวยไทยให้มีความนิยมและมีมาตรฐานเดียว โดยร่วมกับสหพันธ์กีฬามวยไทยที่ IOC รับรอง

ศึกเลือกตั้ง ‘เมืองคอน’ ส่อแววระอุ ‘วิทยา’ ดันลูกชายลงชิงเก้าอี้ เขต 1 แข่ง พปชร.

การเมืองนครศรีฯสนุกแล้วครับ

ปรากฏโฉมขึ้นมาอีกรายเพื่อท้าชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช คือ ‘พูน แก้วภารดัย’ ลูกชายของพี่น้อย ‘วิทยา แก้วภารดัย’ที่สไลด์ตัวเองออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

พี่น้อยโพสต์ด้วยตัวเองว่า พูน-ลูกชายจะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค มีแนวทางชัดเจนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่เอกนัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคยืนยันว่า พรรคจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็น ‘แคนดิเดต’ นายกรัฐมนตรี

กล่าวถึงพูน เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคลุงกำนัน รวมพลังประชาธิปไตย ที่เวลานี้เปลี่ยนมาเป็นพรรครวมพลัง

ปัจจุบันพูนอยู่ในทีมที่ปรึกษาของ ดร.โจ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช แต่น่าแปลกใจว่า ทำไมพี่น้อยให้ลูกชายลงเขต 1 ทำไมไม่ไปลงเขตปากพนัง หัวไทร ซึ่งพี่น้อยมีฐานคะแนนอยู่ เป็น ส.ส.อยู่หลายสมัย จนอาจจะพูดได้ว่า ‘ผูกขาด’ เพิ่งมาพลาดให้กับ ดร.สัญหพจน์ สุขศรีเมือง จากพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานี้เอง และพี่น้อยมีดีกรีเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

เข้าใจว่า พี่น้อย และพูนเองหวังการสนับสนุน ช่วยเหลือจาก ดร.โจ ที่ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีด้วยคะแนนล้นหลาม เอาชนะอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ ไปได้อย่างเกินความคาดหมาย

แต่การเปิดตัวช้าของพูนมันจะช้าไปหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ ดร.โจ เดินพาน้องติ๊ก-จรัญ ขุนอินทร์ นายธนาคารจาก ธกส. ศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ และปัจจุบันเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าเบญจมะอยู่ด้วย ออกแนะนำตัวมานานพอสมควรแล้ว ‘ฝากด้วย น้องผม’ ซึ่งน้องติ๊กจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ดร.โจจะช่วยเหลือใคร การเมืองเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยนได้ ดร.โจจะช่วยที่ปรึกษา หรือจะช่วยเหลือทีมร่วมสถาบัน

แต่เท่าที่รู้ สมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราชหลายสมัย และเป็นพ่อของ ดร.โจ ช่วยเหลือ ‘ราชิต สุดพุ่ม’ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงสมัครเขต 1 เหมือนกัน เพราะลุงนึกกับราชิตเป็นญาติกัน เป็นคนถิ่นหัวไทรด้วยกันและน่าสังเกตว่า รูปพูนที่พี่น้อยนำมาลง เป็นรูปที่พูนใส่เสื้อสีเหลือง และปักที่หน้าอกว่า ‘ทีม ดร.โจ’

‘บิ๊กป้อม’ เห็นใจผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบ เปิดทางหาทางออกร่วมกัน ยัน รบ.ไม่ทอดทิ้ง

พล.อ.ประวิตร เห็นใจผู้ชุมนุม ยินดีรับฟังข้อเรียกร้อง เปิดทำเนียบให้ตัวแทนเข้าพบหาทางออกร่วมกัน เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ที่ทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมขอบคุณชุมนุมด้วยความสงบ ยัน!! รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง

(28 ก.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เปิดโอกาสให้ นายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (อสส.) และสภาประชาชน 4 ภาค พร้อมตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมรวม 15 คน เข้าพบ ณ ห้องรับรอง 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ในขณะนี้ บริเวณพื้นที่ ถ.ราชดำเนิน และถ.พิษณุโลก จำนวน ประมาณ 20,000 คน โดยนายประพาสฯ ได้ยื่นหนังสือเพื่อขออนุญาตเข้าพบ พล.อ.ประวิตรฯ และชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ชุมนุม ทุกกลุ่ม ทั้งเรื่องหนี้สิน ที่ดินทำกิน และปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และคนพิการ เป็นต้น เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กฎหมาย อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

‘หมอวรงค์’ เชื่อ เลือกตั้งครั้งหน้า ‘เพื่อไทย (ไม่) แลนด์สไลด์’

จากเพจเฟซบุ๊ก ‘การเมือง Kanmuang’ ได้นำเสนอสัมภาษณ์พิเศษ: ‘หมอวรงค์’ เชื่อมั่นเลือกตั้งครั้งหน้า ‘เพื่อไทย(ไม่)แลนด์สไลด์’ 

โดยนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้กล่าวถึงประเด็น ‘เพื่อไทยแลนด์สไลด์’ หลังจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ. ร้อยเอ็ด โดยชนะขาดแบบแลนด์สไลด์ ได้คะแนนไป 287,182 คะแนน ว่า... 

พรรคไทยภักดีไม่คิดจะสู้กับพรรคอื่น แต่ต้องสู้กับตัวเอง แต่หากกล่าวถึง ‘แลนด์สไลด์’ ถ้าตอบด้วยหลักที่ถูกต้อง เรื่องกติกายังไม่ชัดในตอนนี้ ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน แต่ถ้าตอบอีกมิติหนึ่ง แลนด์สไลด์เมื่อปี 48 พรรคไทยรักไทยได้ 377 เสียง ตอนของคุณยิ่งลักษณ์ได้ 265 เสียง ต้องบอกว่าขณะนั้นมีการแข่งขันแค่ 2 พรรคไม่เลือกฝั่งซ้ายก็ขวา มันจะวนอยู่แค่นี้ แต่รอบนี้คู่แข่งเยอะ สุดท้ายแล้วอาจจะมีข้อจำกัดเพราะตัวเลือกมีมากขึ้น

'อนุสรณ์' ชี้ กฎเหล็กกกต. ห้ามสร้างความเหลื่อมล้ำ ต้องบังคับใช้อย่าง 'เท่าเทียม - เที่ยงธรรม'

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ประชาชนจับตามองกฎเหล็กของ กกต. จะบังคับใช้อย่างเสมอภาค และเป็นธรรมกับพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกพรรคหรือไม่ ว่า หลังกฎเหล็กกกต.มีผลบังคับใช้ ก็ถูกทดสอบทันที โดยเฉพาะการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประเด็นตั้งแต่การทำป้ายต้อนรับพล.อ.ประวิตร โดยป้ายดังกล่าวยังเกินขนาด และมีภาพว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 เขตของพรรคพลังประชารัฐ ประชาชนตั้งคำถามว่าเจตนาให้เป็นการหาเสียงแฝงหรือไม่ การแจกสิ่งของ การโปรยทาน หรือการสัญญาว่าจะให้ ล้วนแต่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เข้าข่ายทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าสิ่งเหล่านี้ฝ่ายรัฐบาลทำได้ทั้งหมด แล้วฝ่ายค้านไม่สามารถทำได้เลย จะเกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมได้อย่างไร

“อย่าลืมว่า แม้วันนี้ฝ่ายรัฐบาลจะสวมหมวกรัฐมนตรีลงพื้นที่ แต่หมวกอีกใบที่ใส่ซ้อนทับลงไปคือการเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. กฎเหล็ก กกต.ต้องไม่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่ม หรือไม่สร้างปัญหา จนทำให้การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ไม่สามารถเกิดขึ้นได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

'สมคิด' ชี้!! ผลเลือกตั้งท้องถิ่นสะท้อนความรู้สึกปชช. มั่นใจ!! 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์' เหตุปชช. เบื่อรัฐบาล

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดที่ผ่านมา พบว่าประชาชนตอบรับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเกินกว่าที่คาดหมายไว้ สะท้อนว่าประชาชนส่งสัญญาณถึงรัฐบาล ว่าต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาทั้ง 3 แห่ง คือ กรุงเทพมหานครหรือ ส.ก. ที่พรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะได้มากกว่า 20 เขตในกรุงเทพ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และล่าสุดเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้ง 3 แห่ง ประชาชนออกมาลงคะแนนเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำว่าประชาชนเบื่อรัฐบาลนี้เต็มทีแล้ว

เปิด 20 ผลงาน 'รัฐบาลลุงตู่' 8 ปีที่พัฒนา 'ภาคกลาง'

ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเข้ามาบริหารประเทศ เกิดการพัฒนาทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิรูปคุณภาพชีวิตในชุมชน แก้ไขปัญหาสะสมเรื่องความไม่สงบในประเทศ ออกมาตรการทางเศรษฐกิจ มีการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  มารดาประชารัฐ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการชิมช็อปใช้ โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนจับต้องได้ทั้งสิ้น และคนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนไทยทุกคน

ในส่วนภาคกลาง มีการประกาศระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ประกอบด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครปฐม จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อผลักดันการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งและโลจิสติกส์ เชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกและตะวันตก และภาคตะวันตกกับภาคใต้ตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน

เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปอาการเกษตร การท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสาหกรรมมูลค่าสูง โดยสามารถพัฒนาศักยภาพในการเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC  มีโครงการที่สามารถจับต้องและเอื้อประโยชน์ต่อชาวภาคกลางดังนี้

1. โครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหาคร เพื่อขยายโครงข่ายทางพิเศษไปทางตะวันตกของ กทม

2. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา

3. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี

4. โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท สาย ฉ และ ค ผังเมือง รวมเมืองชัยนาท จ.ชัยนาท 

5. โครงการถนนสาย ค ผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ (บริเวณถนนมหาเทพ) 

6. โครงการขยายถนนราชพฤกษ์ระยะที่ 2 (ตอนที่ 2) ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 - คลองมหาสวัสดิ์)

7. โครงการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ - ใต้) ตอน NS1

ศาลรธน. ประกาศ ‘พื้นที่ปลอดภัย’ มีผล 1 ทุ่มคืนนี้ หวั่นเกิดเหตุไม่สงบ ปมวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี

ด่วน! ศาล รธน. ออกประกาศ ‘พื้นที่ปลอดภัย’ มีผล 1 ทุ่มคืนนี้-6 โมงเช้าวันจันทร์ หลังฝ่ายความมั่นคงประเมินความเสี่ยงเกิดความไม่สงบ ปมวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี

วันที่ (29 กันยายน 2565) นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณ หรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยระบุว่า

ตามที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีรับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ และออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 15.00 น.

ทางหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุ หรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top